ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic B.A.P] OrcusKiller ผู้ชายอันตราย

    ลำดับตอนที่ #3 : OrcusKiller :CHAPTER 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 81
      0
      18 มี.ค. 58


    พระเจ้า!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!!!! นี่คือสิ่งที่ในสมองของทั้งสี่คนกำลังคิดอยู่ ใช่แล้ว สำหรับพวกเค้าทั้งสี่คนนี่มันดูบ้ามาก บ้าสุดๆ แฝดเจอแฝดเนี่ยนะ แล้วแฝดคู่หนึ่งก็เป็นนักฆ่า ส่วนอีกคู่หนึ่งก็เป็นหลานของคนที่ถูกแฝดนักฆ่าฆ่าตาย นี่มันบ้า บ้าไปแล้ว!! เรื่องราวทั้งหมดตีวนเวียนอยู่ในสมองของแฝดทั้งสองคู่ แต่ก่อนที่ทุกคนจะจมดิ่งกับความสับสนและงุนงงไปมากกว่านี้ ในที่สุดยงกุกก็หลุดออกจากภวังค์เป็นคนแรก

    “ พวกนายเป็นหลานของคิมแทซง” ยงกุกพูดขึ้นก่อนจะมองหน้าของแฝดร่างบางทั้งสองคนสลับกันไปมา

    “ ใช่! ฉันเป็นหลานของ..!!!” คนตัวบางที่ถูกยงนัมจับอยู่พูดขึ้น แต่ก่อนที่จะพูดจบสายตาของคนตัวบางก็ไปสะดุดกับร่างที่นอนแน่นิ่งเป็นศพอยู่ที่พื้น

    “ ละ.. ลุง ลุงครับ ลุง!!!” คนตัวบางตะโกนเรียกร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นลุงเสียงดังลั่น ก่อนจะใช้เรียวแรงทั้งหมดที่มีเหลืออยู่สะบัดมือของยงนัมออกและวิ่งตรงไปยังร่างของคิมแทซง

    “ ลุงครับ ลุง! ฮืออออ ลุงครับ” คนตัวบางประคองร่างไร้วิญญาณนั้นขึ้นมากอดพร้อมกับร้องไห้อย่างเสียสติ

    “ ปล่อยศพนั่นซะ ฮิมชอล” ร่างบางที่เห็นพี่ชายของตัวเองวิ่งเข้าไปนั่งกอดศพเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและสายตาที่ว่างเปล่าไม่ต่างจากตอนแรกที่ยงกุกเจอ

    “ ทำไมนายพูดแบบนั้นล่ะ ฮิมชาน ท่านเป็นลุงของเรานะ ฮือออ ลุงของเรา ลุงของเราตายแล้ว” ฮิมชอลยังคงร้องไห้ด้วยความเสียใจไม่หยุด แตกต่างจากฮิมชานที่ไม่มีแม้กระทั่งแววตาที่จะเศร้าโศก

    “ ลุงงั้นหรอ.. คนแบบนั้นน่ะ ตายไปก็สมควรแล้วไม่ใช่หรอ” น้ำเสียงที่เย็นชาของฮิมชานถูกส่งไปยังพี่ชายที่นั่งตัวสั่นสะอึกสะอื้นให้รู้สึกแปลกใจ

    “ ทำไมนายถึงพูดแบบนั้นฮิมชาน!! ลุงท่านมีพระคุณกับเรานะ!!” ฮิมชอลเงยหน้ามองน้องชายฝาแฝดอย่างไม่พอใจ คนตัวบางไม่เข้าใจว่าทำไมฮิมชานถึงพูดอะไรที่มันแย่ๆแบบนั้น

    “ มีพระคุณงั้นหรอ.. คนที่ฆ่าพ่อแม่เราเนี่ยนะที่นายเห็นว่าเป็นคนมีพระคุณ” ฮิมชอลตกใจกับสิ่งที่ฮิมชานเพิ่งพูดออกมา คนตัวบางค่อยๆผละออกจากศพของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายของพ่อ  และเดินตรงเข้าไปหาฮิมชาน

    “ นายหมายความว่ายังไงฮิมชาน!! นายหมายความว่ายังไง!!!!” ฮิมชอลตะโกนเสียงดังใส่ฮิมชานพร้อมกับเขย่าตัวน้องชายไปมา ยงกุกกับยงนัมได้แต่ยืนมองเงียบๆ

    “ ฉันก็หมายความว่าไอ้ศพที่นายกอดเมื่อกี้มันเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของเราไง!!” ฮิมชานตะคอกใส่หน้าของพี่ชายอย่างหมดความอดทน เค้าเก็บ.. เก็บความรู้สึกพวกนี้มานานเกิดไปแล้ว เค้าไม่อยากจะเก็บมันไว้เป็นฝันร้ายคนเดียวอีกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เค้าจะต้องบอกเรื่องทั้งหมดให้พี่ชายได้รับรู้ ฮิมชานคิดในใจ

    “ ฮึก.. นายไม่ได้โกหกใช่ไหมฮิมชาน ฮือออ แต่ท่านเป็นพี่ชายของพ่อนะ..” ฮิมชอลเมื่อได้ยินที่น้องชายพูดอย่างชัดเจนก็ถึงกับทรุดลงกับพื้นพร้อมกับมองไปที่ร่างไร้วิญญาณนั่นอย่างสับสน

    “ ฉันไม่ได้โกหกนาย มันคือเรื่องจริง วันนั้นฉันเห็น.. เห็นที่คนๆนั้นฆ่าพ่อแม่เรากับตา” ฮิมชานที่เห็นพี่ชายเจ็บปวดกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้นั่งลงข้างๆพี่ชายและโอบกอดพี่ชายไว้แน่นเพื่อเป็นการปลอบ

    “ แล้วทำไมนายถึงไม่บอกฉันฮิมชาน.. ทำไมนายถึงไม่บอก นี่ใช่ไหมคือเหตุผลที่นายนอนฝันร้ายมาตลอดห้าปี” ฮิมชอลยังคงสะอื้นไม่หยุดแต่คนตัวบางก็รับรู้ได้ว่าน้องชายของเค้าต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนที่ต้องเก็บเรื่องพวกนี้ไว้คนเดียว จะบอกกับใครก็ไม่ได้เพราะด้วยความที่ในตอนนั้นทุกคนมองว่าเค้าและฮิมชานยังเด็ก ถึงฮิมชานพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ..

    “ ฉันไม่พร้อมที่จะให้พี่ต้องมาทนเจ็บปวดมากมายเหมือนกับฉันฮิมชอล.. แต่ตอนนี้คนๆนั้นตายแล้ว ไอ้คนสารเลวนั่นมันตายแล้ว เราสองคนก็ไม่ต้องเจ็บปวดเพราะอดีตพวกนั้นอีกแล้ว” ฮิมชานค่อยๆผละออกมาแล้วยิ้มให้กับพี่ชาย

    “ ขอโทษนะฮิมชาน ขอโทษที่ปล่อยให้นายต้องเจ็บปวดอยู่คนเดียว.. พรุ่งนี้แล้วสินะ วันครบรอบวันตายของพ่อกับแม่” ฮิมชอลพูดพร้อมกับยิ้มตอบกลับน้องชาย แต่คนตัวบางหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดทำให้แฝดอีกคู่หนึ่งถึงกับชะงัก

    “ เมื่อกี้พวกนายสองคนพูดว่าอะไรนะ?!” ยงกุกถามขึ้นเสียงดัง

    “ พะ.. พูดอะไร” ฮิมชอลถามกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเพราะความกลัว

    “ ก็ที่พวกนายบอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันครบรอบวันตายของพ่อแม่ แล้วก็เรื่องที่หมอนั้นฝันร้ายมาตลอดห้าปีไง” ยงกุกพูดพร้อมกับมองไปที่ฮิมชาน

    “ พ่อแม่ของพวกฉันครบรอบวันตายห้าปีพรุ่งนี้ไง นายจะถามทำไม” ฮิมชานพูดและมองสบตากับยงกุก

    “ ยงนัม..” ยงกุกหันไปมองพี่ชายฝาแฝดของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

    “ อื้อ.. วันเดียวกันเลย” ยงนัมมองหน้ายงกุก ร่างโปร่งรู้ดีว่าน้องชายของตัวเองกำลังสื่ออะไร เพราะเค้าเองก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยินไปเหมือนกัน

     

    Rrrrrrr……

    เมื่อความเงียบและความสับสนเริ่มครอบงำภายในห้องสี่เหลี่ยมนี้ จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของยงนัมก็ดังขึ้น ร่างโปร่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมาก่อนจะกดรับสาย

    “ ครับ?” ยงนัมกรอกเสียงใส่ปลายเสียงอย่างเรียบนิ่ง

    “ อะไรนะครับ?” และดูเหมือนว่าปลายสายจะพูดอะไรบ้างอย่างเกี่ยวกับฝาแฝดที่อยู่ตรงหน้า เพราะยงนัมมองจ้องไปที่ทั้งสองคนอย่างไม่ละสายตา

    “ ได้ครับ.. สวัสดีครับ” เมื่อปลายสายบอกธุระที่ต้องการคุยจบก็กดวางสายไปทันที ยงนัมเองก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม

    “ มีอะไร?” ยงกุกหันไปถามยงนัมด้วยความสงสัย

    “ ทางฝ่ายจัดการโทรมาบอกว่าให้พาสองคนนี้ไปที่องค์กร” ยงนัมพูดกับยงกุก แต่สายตาของร่างโปร่งก็ยังไม่ละจากแฝดทั้งสองคน

    “ อื้อ งั้นก็รีบไปกันเถอะ” ยงกุกพูดพร้อมกับมองไปที่ประตูห้องทำงาน เพื่อเป็นการบอกว่าเค้ากำลังจะเดินออกไป

    “ พวกนายจะพาฉันไปไหน องค์กรอะไร?!” ฮิมชานถามขึ้นเสียงดัง ในใจของแฝดร่างบางทั้งสองยังคงรู้สึกกลัว ถึงพวกเค้าจะรู้สึกดีที่คนที่ฆ่าพ่อแม่โดนฆ่าตายไปแล้ว แต่คนตรงหน้าสองคนเป็นถึงนักฆ่า ก็ไม่แปลกจริงไหมที่ทั้งสองคนจะกลัว..

    “ ไปถึงก็รู้เอง.. หรือพวกนายอยากจะอยู่กับศพที่นี่ก็ได้นะ” ยงกุกพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับยิ้มมุมปากส่งไปให้คนถาม

    “ ใครมันจะอยากอยู่กับศพ” ฮิมชานพูดสวนกับไปอย่างไม่ต้องคิด

    “ หึ.. ไปกันเถอะยงนัม กูอยากกลับไปนอนแล้ว” ยงกุกหันไปพูดกับยงนัมก่อนจะเดินนำออกไปจากห้อง

    “ อื้อ” ยงนัมตอบรับแล้วส่งสายตาไปที่ร่างบางทั้งสองคนเป็นเชิงให้เดินตามมา

    “ พะ.. พวกนายจะไม่ฆ่าพวกฉันใช่ไหม” ฮิมชอลที่เงียบอยู่นานค่อยๆลุกขึ้นยืนและเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

    “ ถ้าพวกฉันจะฆ่าพวกนาย ไม่มีทางที่พวกนายจะมายืนพูดอยู่แบบนี้หรอก” ยงนัมพูดอย่างเรียบนิ่งก่อนจะเดินตามยงกุกออกไปไม่สนใจอีกสองคนที่ยังอยู่ในห้อง

    “ ไอ้สองคนนี้มันขี้เก๊กชะมัด” ฮิมชานพูดถึงทั้งสองคนที่เพิ่งเดินออกไปพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ

    “ ฮิมชาน เค้าไม่ฆ่าเราก็ดีแค่ไหนแล้ว” ฮิมชอลหันมาดุน้องชายก่อนจะดึงมือฮิมชานให้เดินตามออกมาจากห้องนั้น

    “ ชิ..” ฮิมชานส่งเสียงไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไรพี่ชายฝาแฝด ทั้งสี่คนเดินออกมาจากบ้านของคิมแทซงเงียบๆโดยไม่พูดอะไรกันสักคำ ใช้เวลาไม่นานพวกเค้าก็เดินมาถึงรถที่ยงนัมจอดซ่อนไว้ในป่า

    “ เข้าไปสิ” ยงกุกเปิดประตูให้ร่างบางทั้งสองเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง

    “ คนอะไรเย็นชาชะมัด..” ฮิมชานบ่นพึมพำเบาๆ แต่ก็ยังดังพอให้คนหูดีอย่างยงกุกได้ยินอยู่ดี แต่ร่างสูงก็ทำเป็นไม่สนใจ

    “ เข้าไปสิฮิมชาน ยืนรออะไร” ฮิมชอลที่เห็นน้องชายยืนนิ่งอยู่นานไม่เข้าไปนั่งในรถสักทีเอ่ยถามขึ้น

    “ อื้อๆ เข้าแล้ว” พูดจบฮิมชานก็เข้าไปนั่งในรถตามด้วยฮิมชอล และเมื่อแฝดร่างบางทั้งสองคนเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วยงกุกก็ดันเบาะที่นั่งของตัวเองกลับเข้าที่เดิมและเข้าไปนั่งประจำที่ก่อนจะปิดประตูรถ

    “ ถ้าง่วงพวกนายก็หลับไปก่อน ใช้เวลาอีกนานกว่าจะถึงโซล” ยงนัมพูดพร้อมกับมองกระจกส่องหลัง

    “ อะ.. อื้อ” ฮิมชอลเป็นคนตอบ คนตัวบางมองสบตากับยงนัมที่กระจกส่องหลังพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วยงนัมก็สตาร์ทรถและขับออกไปจากป่าตรงนั้นเพื่อตรงไปยังองค์กรของพวกเค้าในโซล..

    -----------------------------------------------------------------------

    อัพเพิ่มแล้วนะคะ ช่วงนี้สมองอันน้อยนิดของไรท์กำลังทำงานต้องตักตวงมันไว้ ไม่งั้นถ้าถึงเวลาที่สมองตื่อขึ้นมาคงได้ดองฟิคนานแน่ๆ และในที่สุดตอนนี้ก็มาถึงการเฉลยคู่ชิปของเรื่องนี้นั้นเอง ฟิคเรื่องนี้เป็นกุกชานนะคะ (จะใช้ว่าบังชานก็คงไม่ได้เพราะมีสองบังเดี๋ยวจะกลายเป็นสามพีไป ฮ่าๆๆๆๆ) ถ้าใครที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้แล้วไม่ได้ชิปกุกชานต้องขอโทษจริงๆนะคะ แต่ไรท์ก็อยากจะให้รีดเดอร์ทุกคนที่เข้ามาตามอ่านเรื่องนี้ ติดตามเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะคะ ไรท์อาจจะไม่ใช่ไรท์เตอร์ที่มีพรสวรรค์ในด้านนี้มากมาย แต่ก็อยากจะแต่งเรื่องราวให้ทุกคนได้อ่าน ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ไรท์กันเยอะๆด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×