ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic B.A.P] OrcusKiller ผู้ชายอันตราย

    ลำดับตอนที่ #5 : OrcusKiller :CHAPTER 4

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 70
      0
      22 มี.ค. 58


    เวลา 23:30น.

    “ ตื่นได้แล้วฮิมชอล.. ฮิมชอล” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยปลุกให้คนตัวบางที่กำลังนอนหลับอย่างมีความสุขให้ตื่นจากความฝัน คนตัวบางที่ได้ยินเสียงเรียกก็ค่อยๆขยับและพลิกตัวไปมาก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น

    “ ถึงเวลาแล้วหรอ..” ฮิมชอลพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

    “ อื้อ ใกล้ถึงเวลาที่จองโต๊ะไว้แล้ว” ยงนัมพูดพร้อมกับยืนมองคนตัวบางที่ยังคงขี้เซาอยู่

    “ อื้อ.. แล้วฮิมชานล่ะ” ฮิมชอลค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนจะถามถึงน้องชาย

    “ ปานนี้ยงกุกมันคงปลุกแล้วมั้ง” ยงนัมพูด คนตัวบางพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงว่าเข้าใจ

    ด้านยงกุกกับฮิมชาน

    ยงกุกยืนมองฮิมชานที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ร่างสูงใช้เวลาเรียกร่างบางมาเกือบครึ่งชั่วโมง แต่เรียกยังไงคนขี้เซาและตื่นยากอย่างฮิมชานก็ไม่ยอมรู้สึกตัวสักที จนร่างสูงเริ่มจะหมดความอดทน

    “ ไม่ตื่นดีๆสินะ..” พูดจบยงกุกก็ไม่รอช้า ร่างสูงนั่งลงบนเตียงแล้วช้อนตัวร่างบางขึ้นก่อนจะดันอีกคนให้ตกเตียง

    ปึกกก!!

    เสียงร่างบางตกเตียงดันสนั่นไปทั่วห้อง แต่เสียงที่ตามมาดูเหมือนจะดังกว่า

    “ โอ๊ยยยย!!!!!!!! ทำบ้าอะไรของนาย!!!!!!!!!!!!!!!” ฮิมชานที่ในที่สุดก็ยอมตื่นเพราะความเจ็บโวยวายขึ้นเสียงดังลั่นห้องพร้อมกับส่งสายตาอาฆาตไปให้ร่างสูง

    “ ปลุกตั้งนานไม่ตื่นเอง ช่วยไม่ได้..” ยงกุกยังคงน้ำเสียงเรียบนิ่งแล้วมองสบตาร่างบางอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

    “ แล้วจะปลุกดีๆเหมือนคนอื่นเค้าไม่ได้รึไง!” ฮิมชานยังคงแหกปากโวยวายไม่เลิก ร่างบางจับไปที่หลังและบั้นทายของตัวเองอย่างรู้สึกเจ็บ

    “ ก็ฉันไม่ใช่คนอื่น ฉันก็คือฉัน” ยงกุกยักไหล่ไม่สนใจ

    “ เอะอะเสียงดังอะไรไปถึงข้างนอก” ยงนัมที่ได้ยินเสียงดังโวยวายเปิดประตูเข้ามาในห้องยงกุกแล้วถามขึ้นได้ความสงสัย

    “ ก็ไอ้ขี้เก๊กนี่อ่ะมันผลักฉันตกเตียง!” ฮิมชานหันไปพูดกับยงนัมเสียงดัง หน้าตาของร่างบางบ่งบอกได้เลยว่าไม่พอใจแค่ไหน ยงนัมมองไปที่ร่างบางที่อยู่ตรงพื้นข้างเตียง ก่อนจะหันไปมองน้องชายเป็นเชิงถาม

    “ ก็กูปลุกตั้งนานแล้ว” ยงกุกเข้าใจที่พี่ชายมองมาแบบนั้นเลยตอบออกไปตามความจริง

    “ อื้อ” ยงนัมพยักหน้ารับรู้

    “ มีอะไรกันหรอ” ฮิมชอลที่เพิ่งเดินตามเข้ามาทีหลังถามด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปเห็นน้องชายที่ทำหน้าโอดครวญอยู่ที่พื้นข้างเตียง

    “ ฮิมชาน! เป็นอะไรน่ะ” ฮิมชอลรีบวิ่งเข้าไปดูน้องชายอย่างเป็นห่วงก่อนจะค่อยๆพยุงตัวอีกคนให้ลุกขึ้นไปนั่งบนเตียง

    “ ก็ไอ้ขี้เก๊กมันผลักฉันตกเตียงน่ะสิฮิมชอล” ฮิมชานเมื่อเห็นว่าพี่ชายเข้ามาโอ๋ก็ได้ทีฟ้องยกใหญ่

    “ เป็นเพราะนายไม่ยอมตื่นรึป่าว” ฮิมชอลถามน้องชายพร้อมกับยิ้มขำ

    “ ฮิมชอลอ่า..” ฮิมชานลากเสียงอย่างงอนๆเรียกรอยยิ้มจากพี่ชายตัวบางได้เป็นอย่างดี

    “ โอ๋ๆ ไม่เจ็บแล้วนะ” ฮิมชอลกอดน้องชายและยิ้มให้อย่างเอ็นดู

    “ อื้อ ดีขึ้นบ้างแล้ว” ฮิมชานบอกกับพี่ชายก่อนทั้งสองจะหันไปมองที่ยงกุกและยงนัม

    “ ถ้าดีขึ้นแล้วก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะเลยเวลาซะก่อน” ยงนัมพูดพร้อมกับเดินนำทุกคนออกจากห้อง อีกสามคนที่เหลือก็เดินตามกันออกมา เมื่อเห็นว่าทุกคนออกมากันครบแล้วยงนัมก็ปิดล็อคประตูห้องและเก็บคีย์การ์ดใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง

    “ ไปถึงก็ทำตัวกันดีๆล่ะ” ยงนัมหันไปพูดกับร่างบางทั้งสองคนก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟท์และกดไปยังชั้นใต้ดิน ไม่นานนักลิฟท์ก็มาหยุดยังชั้นที่ต้องการ ทั้งสี่คนเดินออกจากลิฟท์ ด้านหน้ามีประตูเหล็กที่ดูหนาแน่นมากอยู่บานนึง ยงนัมพาทุกคนเดินตรงไปที่ประตู ร่างโปร่งหยิบเหรียญทองที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะใส่มันเข้าไปในช่องใส่เหรียญที่ประตู

    แกร๊ก..

    ทันทีที่เหรียญถูกใส่เข้าไปประตูบานเล็กด้านบนที่ใช้สำหรับตรวจสอบใบหน้าของคนที่จะเข้ามาภายในก็ถูกเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงประตูเหล็กที่ค่อยๆเปิดออก เบื้องหลังประตูเหล็กเป็นเหมือนบาร์เล็กๆ มีทั้งดนตรีและเครื่องดื่มมึนเมาครบครัน ยงนัมเดินนำทุกคนเข้ามาด้านในและตรงไปยังโต๊ะในสุดที่มีใครบางคนนั่งอยู่แล้ว

    “ มาสเตอร์จินซอก” ยงนัมเอ่ยทักคนที่นั่งก้มหน้าจดอะไรสักอย่างอยู่ที่โต๊ะ

    “ ยงนัม ยงกุก” จินซอกเงยหน้าขึ้นจากสมุดจดของตัวเองแล้วยิ้มให้กับยงนัมและยงกุก

    “ นี่คนที่มาสเตอร์ให้พามา” ยงนัมพูดก่อนจะหันไปมองแฝดร่างบางทั้งสองคน

    “ สวัสดีฮิมชอล ฮิมชาน.. พวกนายสี่คนนั่งก่อนสิ” จินซอกทักทายแฝดร่างบางทั้งสองพร้อมกับยิ้มให้แล้วพูดอนุญาติให้ทั้งสี่คนนั่งลง แฝดทั้งสี่จึงค่อยๆเข้าไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับจินซอก โดยที่ฮิมชอลกับฮิมชานนั่งตรงกลาง ส่วนยงนัมกับยงกุกก็นั่งปิดหัวท้ายของโซฟาคนละด้าน

    “ คุณรู้จักเราสองคนด้วยหรอครับ” ฮิมชอลที่สงสัยว่าทำไมคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าถึงรู้ชื่อตัวเองกับน้องชายเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

    “ ใช่” จินซอกตอบพร้อมกับยิ้มให้ร่างบางทั้งสองคนอีกครั้ง

    “ มาสเตอร์..” ยงกุกที่มีเรื่องคาใจอยากถามจินซอกเอ่ยขึ้น แต่ยังไม่ทันได้พูดจบคนตรงหน้าก็ขัดขึ้นซะก่อน

    “ นายจะถามเรื่องวันตายของพ่อแม่นายสองคนกับวันตายของพ่อแม่ฮิมชอลกับฮิมชานใช่รึป่าว” จินซอกหันไปมองยงกุกและถามขึ้นเหมือนรู้อยู่แล้วว่าร่างสูงกำลังคิดอะไร

    “ ครับ..” ยงกุกพยักหน้า

    “ มาสเตอร์รู้หรอ” ยงนัมถามขึ้นด้วยความสงสัย

    “ มาถึงตอนนี้แล้วก็คงจะได้เวลาที่ฉันต้องบอกเรื่องทุกอย่างกับพวกนายทั้งสี่คน” จินซอกพูดพร้อมกับมองไปที่แฝดทั้งสี่

    “ เรื่องอะไรครับ” ยงนัมถามต่อ

    “ พ่อแม่ของพวกนายทั้งสี่คนเป็นเพื่อนรักกัน พ่อแม่ของฮิมชอลกับฮิมชานเคยเป็นนักฆ่ามาก่อนเหมือนยงกุกกับยงนัม แต่ทั้งสองคนขอถอนตัวเพราะไม่อยากให้ลูกต้องมีชีวิตที่เสี่ยงตาย แล้วเรื่องที่พ่อแม่ของพวกนายตายวันเดียวกันนั้นก็เป็นเพราะพ่อแม่ของฮิมชอลและฮิมชานถูกตั้งค่าหัว หลังจากที่ทั้งสองคนขอถอนตัวไปได้ไม่นาน พอพ่อแม่ของยงกุกกับยงนัมรู้เรื่องค่าหัวและเรื่องวันลงมือของนักฆ่าที่จะไปฆ่าพ่อแม่ของฮิมชอลกับฮิมชานพวกเค้าก็รีบไปช่วยเพื่อนในทันที แต่ว่าฝ่ายนู้นเตรียมนักฆ่าฝีมือดีมามากเกินกว่าที่พ่อแม่ของพวกนายสี่คนจะรับไหว พ่อแม่ของพวกนายก็เลยโดนฆ่าตาย พวกเค้าเองรู้อยู่แล้วว่าคงจะรับมือไม่ไหว ก่อนตายพวกเค้าโทรหาฉัน และบอกฉันให้ดูแลพวกนาย นั้นเลยเป็นเหตุให้นายสองคนต้องรับงานแรกเร็วกว่ากำหนดหนึ่งปีเพื่อที่จะได้อยู่ในสองตาฉันตลอดเวลา..” พูดถึงตรงนี้จินซอกก็หันไปมองหน้ายงนัมกับยงกุกสลับกัน ก่อนจะค่อยๆหันไปมองแฝดร่างบางทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงกลาง

    “ ส่วนนายสองคน หลังจากที่พ่อแม่พวกนายตายฉันไม่สามารถรับพวกนายมาดูแลได้ เนื่องจากพ่อแม่ของนายสองคนถอนตัวออกจากองค์กร พวกนายสองคนจึงไม่มีรายชื่ออยู่ในองค์กรและไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร นายสองคนเลยถูกรับเลี้ยงโดยญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ คิมแทซง.. เค้าไม่ได้เป็นนักฆ่าเหมือนพ่อแม่ของพวกนาย แต่เค้าเป็นลูกน้องคนสนิทของเจ้าของธุระกิจมืดคนนึงที่เป็นคนตั้งค่าหัวพ่อกับแม่พวกนายขึ้นมา แทซงเลือกที่จะฆ่าน้องชายเพื่อให้ตัวเองมีทุกสิ่ง แต่เมื่อไม่นานนี้แทซงก็ถูกตั้งค่าหัวขึ้นมาจากใครบางคนที่อยากกำจัดเค้าทิ้งเพราะการช่อโกงของเค้า ยงกุกกับยงนัมถูกมอบหมายงานนี้และไปกำจัดลุงของนายสองคน จนพวกนายได้เจอกัน” จินซอกเมื่อเล่าเรื่องทุกอย่างจบเค้าก็ยื่นมือไปหยิบวิสกี้ของตัวเองที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาจิบ

    “ แสดงว่ามาสเตอร์ก็รู้อยู่แล้วว่าผมสองคนต้องไปเจอกับเด็กสองคนนี้” ยงกุกเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

    “ พวกฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ!!” ฮิมชานที่ได้ยินร่างสูงเรียกตัวเองกับพี่ชายว่าเด็กโวยวายขึ้น

    “ ฮิมชาน” ฮิมชอลหันไปดุน้องที่โวยวายไม่รู้เวลา ฮิมชานก็ไม่ได้ขัดอะไรพี่ชาย ได้แต่ทำหน้าไม่พอใจส่งไปให้ร่างสูง

    “ อื้อ ฉันรู้อยู่แล้ว ฉันถึงส่งงานนี้ให้นายสองคน เพื่อให้พวกนายไปพาตัวฮิมชอลกับฮิมชานมาที่นี่ เพราะมันถึงเวลาที่ทั้งสองคนต้องเลือกแล้วว่าจะเป็นแค่คนธรรมดาเหมือนที่พ่อแม่เลือกให้ หรือเป็นนักฆ่าอยู่ในองค์กร..” จินซอกพูดแล้วยิ้มบางให้กับแฝดร่างบางทั้งสอง

    “ เลือกงั้นหรอครับ..” ฮิมชอลถามด้วยความสงสัย

    “ ใช่ ถ้าพวกนายเลือกเป็นแค่คนธรรมดาพวกนายก็จะไม่สามารถเข้ามาในองค์กรนี้ได้อีก เพราะมันเป็นกฎ และหากพวกนายเลือกที่จะเป็นคนธรรมดาแล้วพวกนายก็ต้องดูแลชีวิตตัวเอง แต่ถ้าพวกนายเลือกเป็นนักฆ่าพวกนายก็จะสามารถอยู่ในองค์กรนี้ได้ และพวกนายก็จะอยู่ในสายตาของฉันตลอดเวลา” จินซอกพูดจบก็ยกวิสกี้ขึ้นจิบต่อ

    “ ฮิมชอลฉันอยากแก้แค้นให้พ่อกับแม่ ฉันอยากฆ่าไอ้คนที่มันสั่งฆ่าพ่อกับแม่เรา” ฮิมชานหันไปพูดกับพี่ชาย ตอนนี้ในใจของร่างบางยังคงมีแต่ความแค้น

    “ แต่ฮิมชาน เราสู้กันไม่เป็นเลยนะ แม้แต่จับปืนยังไม่เคย” ฮิมชอลคัดค้านในสิ่งที่น้องชายพูด ไม่ใช่ว่าคนตัวบางไม่อยากแก้แค้นให้พ่อกับแม่ แต่พวกเค้าสู้ไม่เป็นด้วยซ้ำ แม้แต่ชกต่อยกับใครก็ยังไม่เคย

    “ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง มีคนค่อยฝึกให้พวกนายอยู่แล้ว” จินซอกวางแก้ววิสกี้ลงบนโต๊ะแล้วมองมาที่แฝดร่างบางทั้งสองคน

    “ งั้นผมตก..!” ยังไม่ทันที่ฮิมชานจะได้พูดจบมือของคนที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างยงกุกก็ยกมือขึ้นมาปิดปากร่างบางซะก่อน

    “ ผมว่าให้เวลาพวกเค้าคิดอีกหน่อยดีกว่า..” ยงกุกไม่ได้มองไปที่ร่างบางที่พยายามแกะมือตัวเองออกและดิ้นไปมาอยู่ข้างๆ แต่กลับหันไปพูดกับจินซอก

    “ หึ นั้นสินะ.. แต่ถึงพวกเค้าจะยังไม่เลือกในตอนนี้ พวกนายสองคนก็ควรพาพวกเค้าไปฝึกเหมือนกัน เพราะฉันเชื่อว่าอีกไม่นานค่าหัวพวกนายสี่คนก็คงจะออกมา หากเจ้านายของแทซงรู้ว่าแทซงโดนนายสองคนฆ่าตาย และฮิมชอลกับฮิมชานมากับพวกนาย เค้าอาจจะคิดว่าพวกนายสี่คนจะรวมตัวกันเพื่อแก้แค้น และสั่งคนตามล่าพวกนายแน่ๆ” จินซอกสบตากับยงกุก

    “ ครับ ผมสองคนจะรับหน้าที่ฝึกให้พวกเค้าเอง” ยงกุกตอบรับด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง

    “ งั้นก็ตกลงตามนี้ ต่อจากนี้ก็ให้ฮิมชอลกับฮิมชานไปอยู่กับพวกนายที่บ้าน” จินซอกพูดสรุปและยิ้มให้แฝดทั้งสี่คน

    “ ครับ งั้นพวกผมขอตัว” ยงกุกพูดจบก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงมือฮิมชานให้ลุกขึ้นตามมาด้วย

    “ ขอตัวนะครับ” ยงนัมที่เห็นน้องชายลากฮิมชานออกจากโต๊ะไปแล้วก็ลุกขึ้นพาฮิมชอลเดินตามไป ฮิมชอลโค้งหัวให้จินซอกอย่างมีมารยาทก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะพร้อมยงนัม

    “ ไอ้ขี้เก๊กปล่อยฉัน! ใครบอกว่าฉันจะไปอยู่บ้านนายฮะ!!” เสียงของฮิมชานโวยวายขึ้นทันทีที่ปากโดนปล่อยให้เป็นอิสระ

    “ นายคิดให้มันดีๆก่อนจะพูดอะไรจะดีกว่า อย่าปากไวพูดไม่คิด..” ยงกุกเมื่อเห็นฮิมชานเริ่มโวยวายก็ปล่อยมือจากข้อมือบางที่เข้าจับให้เดินออกมาจากโต๊ะ และหันไปมองร่างบางด้วยสายตาเย็นชา

    “ ฉัน..” ฮิมชานชะงักเมื่อสบเข้ากับสายตาของร่างสูงและคำที่ร่างสูงพูด

    “ ยงกุก” ยงนัมเดินเข้ามาตบบ่าน้องชายเบาๆเป็นเชิงว่าเข้าใจในสิ่งที่น้องชายคิดก่อนจะพากันเดินนำร่างบางทั้งสองเพื่อออกจากบาร์

    “ ไอ้แฝดปีศาจ!!” ยังไม่ทันที่แฝดทั้งสี่คนจะก้าวไปถึงประตูทางออกก็มีเสียงหนึ่งตะโกนเรียกยงกุกและยงนัมขึ้นซะก่อน ทั้งสองคนหันไปตามเสียงเรียก

    “ อ้าว เฮียนิวแชมป์ มาทำอะไรอ่ะ” ยงนัมเอ่ยทักคนที่เดินเข้ามาหา

    “ มาทวงค่าเก็บกวาดของกูที่ผับนั่นไง” นิวแชมป์หยุดยืนตรงหน้ายงกุกกับยงนัมพร้อมกับมองอย่างเคืองๆ

    “ ยงนัม..” ยงกุกหันไปมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาตำหนิเป็นเชิงว่า.. อีกแล้วหรอ

    “ ฮ่าๆๆๆ โทษทีเฮีย ผมลืม” ยงนัมหัวเราะก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบเหรียญทองออกมาส่งให้นิวแชมป์

    “ พวกมึงก็ลืมทุกรอบอ่ะ” นิวแชมป์พูดพร้อมกับรับเหรียญมาจากยงนัม ก่อนสายตาของนิวแชมป์จะหันไปสังเกตเห็นร่างบางทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังยงกุกกับยงนัม

    “ แฝดอีกคู่งั้นหรอ นี่แมร่งเนื้อคู่ชัดๆ” นิวแชมป์พูดพร้อมกับเดินวนรอบร่างบางทั้งสองก่อนจะหันมามองและยิ้มให้กับยงนัมและยงกุก ร่างบางทั้งสองคนที่ยืนฟังอยู่ก็ถึงกับหน้าขึ้นสี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

    “ เฮียอยากเจอตีนคู่ไหม..” ยงกุกพูดหน้าตายมองหน้านิวแชมป์

    “ อะไรวะ แซวแค่นี้ก็ต้องโมโห” นิวแชมป์เบ้หน้าอย่างเซ็งๆ

    “ ไปแดกเหล้าต่อไปเฮีย เดี๋ยวเจอตีนคู่ไอ้ยงกุกแล้วจะแดกไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ” ยงนัมหัวเราะพร้อมกับเดินไปตบบ่านิวแชมป์

    “ เออๆ ไปก็ได้วะ แล้วทีหลังมึงสองคนอย่าลืมจ่ายกูอีกล่ะ ลืมอีกทีนี้กูคิดสองเท่านะเว้ย” นิวแชมป์พูดแล้วมองหน้าร่างสูงทั้งสองคน

    “ เฮียแมร่งหน้าเลือดชิบ” ยงนัมบ่นพร้อมกับยิ้มขำ

    “ เออ กูเป็นคนแบบนี้แหละ” นิวแชมป์พูดจบก็หันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง

    “ อ้าว นี่เฮียเป็นคนด้วยหรอ?! ฮ่าๆๆๆๆๆ” ยงนัมตะโกนไล่หลังนิแชมป์ไป เป็นเหตุให้คนที่เดินไปแล้วยกนิ้วกลางขึ้นชูส่งมาให้ ร่างโปร่งไม่ได้ตอบกลับอะไรเอาแต่ยืนหัวเราะ

    “ มึงจะหัวเราะอีกนานไหม..” ยงกุกมองยงนัมอย่างเอื่อมๆ

    “ เออๆ มึงนี่ไม่มีอารมณ์ขันเลยรึไงวะ เฮ้ออ” ยงนัมพูดก่อนจะกอดคอน้องชายและทั้งสองก็เดินออกจากบาร์ไปตามด้วยร่างบางทั้งสองที่เดินตามมาไม่ห่าง เมื่อออกมาจากบาร์แล้วทั้งสี่คนก็ตรงกลับเข้าห้องพักทันที ยงนัมหยิบคีย์การ์ดออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วแตะที่ประตู

    “ เดี๋ยวนายสองคนนอนห้องฉันแล้วกัน เดี๋ยวฉันนอนกับยงกุก” ยงนัมที่เดินกอดคอยงกุกนำเข้ามาในห้องพูดขึ้น

    “ อื้อ” แฝดร่างบางทั้งสองคนพยักหน้าตอบรับ แล้วทั้งสี่คนก็แยกไปเข้าห้องตามที่ตกลงกันไว้ ยงนัมกับยงกุกเดินเข้าไปในห้องของตัวเองและล้มตัวลงนอนทันทีด้วยความเหนื่อยล้า ต่างจากแฝดทั้งสองที่ได้พักไปบ้างแล้ว ร่างบางทั้งสองล้มตัวลงนอนบนเตียง

    “ นี่ฮิมชอล นายว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันบังเอิญเกินไปไหม” ฮิมชานเงยหน้ามองเพดานพร้อมกับเอ่ยถามพี่ชาย

    “ ในโลกนี้ไม่มีความบังเอิญหรอกฮิมชาน ฉันเชื่อว่าทุกอย่างมันคือพรหมลิขิต มันคือเรื่องที่พระเจ้ากำหนดไว้แล้วว่าจะให้มันเป็นแบบนี้” ฮิมชอลตอบน้องชาย คนตัวบางเองก็เงยหน้ามองเพดานไม่ต่างกัน

    “ งั้นหรอ..” ฮิมชานพูด

    “ อื้อ” ฮิมชอลตอบรับพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

    “ เข้าใจแล้วล่ะ งั้นเรานอนกันดีกว่า” ฮิมชานหันมามองพี่ชายพร้อมกับยิ้มบางส่งให้

    “ อื้อ ฝันดีฮิมชาน” ฮิมชอลหันมายิ้มตอบน้องชายอย่างอ่อนโยน

    “ ฝันดีฮิมชอล..” เมื่อฮิมชานพูดจบร่างบางทั้งสองก็ค่อยๆหลับตาลงและหลับไปในที่สุด..

     

    ------------------------------------------------------------------------

    ในที่สุดก็แต่งตอนที่สี่ได้สำเร็จ ใช้เวลาเรียบเรียงอยู่นานพอควร แต่เวลาของความขี้เกียจนี่เยอะกว่า ฮ่าๆๆๆๆๆ มาถึงตอนนี้ก็ยังคงมีเม้นน้อยเหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆ แต่ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ในทุกตอนที่ลงมีคนมาเม้นบ้างก็พอมีกำลังใจแต่งต่อแล้วคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามฟิคเรื่องนี้นะคะ ไรท์หวังว่าทุกคนจะชอบฟิคเรื่องนี้และติดตามไปจนจบ และตอนนี้ไรท์ก็อยากบอกว่าไรท์จะติดแท็กฟิคแล้วนะคะ เข้าไปติดแท็กแล้วให้กำลังใจไรท์กันได้เลยนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×