คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #67 : CHAPTER 66 กลับบ้านเรา~ (สวัสดิภาพ)
…สุดท้ายเย็นวันนั้นก็ตบด้วยส้มตำและเหล้าเบียร์มหาศาล...
พวกมันอ้างว่า..เพราะเป็นวันเกิดผมหรอกถึงดื่ม..แต่ถามว่า..!! ไม่ใช่วันเกิดกูแล้วมึงดื่มมั้ย!?! ก็แค่หาเรื่องสูบแอลกอฮอลล์เท่านั้นอ่ะดิไม่ว่า...!!
ส่วนผมน่ะไม่ค่อยอยากดื่มครับ วันเกิดมันก็วันมงคลวันนึง..ไม่อยากให้มันเสียด้วยอบายมุข...รอเก็บศพพวกมันทีหลังดีกว่า..
ด้วยเหตุประการดังกล่าวผมเลยต้องทำตัวให้คลีนเหมือนคนข้างๆ..ด้วยการนั่งจิบเปปซี่แทนน้ำเมา..แต่ก็ยังนั่งสรวลเสเฮฮาอยู่ในวงเหล้าได้...ถามว่ามันดีมั้ย? ก็โอเคแหละ สนุกอยู่แล้ว..เพียงแค่ไม่เมา..มันเลยไม่กล้าทำอะไรบ้าๆเท่านั้นเอง...
สุดท้ายมันก็อยู่กันเกือบตีห้า..ก่อนจะนอนตายบนแคร่กันเป็นทิวแถว..จะมีก็แต่ไอ้ไวน์น่ะแหละที่ไม่เมา รายนี้เสือกคอแข็งจัด..แต่ง่วงนอนก่อน..ก็เลยนอนตามชาวบ้านแถวนั้น อากาศมันเย็นๆยุงเลยไม่เยอะครับ สบายล่ะ..
"ง่วงรึเปล่า?" เขาถามผมก่อน
ผมวางแก้วน้ำแข็ง แล้วหันไปถามมัน "แล้วมึงง่วงป่ะละ?"
"ถ้าอยู่กับกานดา..ไม่นอนทั้งคืนก็ไหว~"
พูด..พร้อมรอยยิ้มแปลกๆ..
…เล่นเอารู้กันเลยว่าแม่งหมายความว่าไง..!
ผมเลยจัดการตบกบาลมันไปทีนึง แล้วยกขาขึ้นมาขัดสมาธินั่งพิงแขนมันอีกทอด ครั้งนี้ไม่ใช่ทำเพราะเมานะ..แต่ทำเพราะเราอยู่กันสองคน..มันเลยไม่น่าจะเสียหายอะไรนี่..
มันเอนศีรษะมาพิงผมอีกต่อนึง แล้วกดจมูกบนหัวผมเบาๆ
"…ถ้าทำได้ก็ไม่อยากนอนเลยนะ..."
"หืม? ทำไมอ่ะ?"
"…กลัวว่าถ้าตื่นขึ้นมา...เรื่องทั้งหมดจะเป็นแค่ความฝันน่ะสิ..." หมอนั่นพูดเสียงเบามาก..เรียบมาก..แต่แฝงไปด้วยกระแสอะไรบางอย่างที่ผมสัมผัสได้.. "…เรื่องที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้...เรื่องที่ได้มาเชียงใหม่...เรื่องที่เจอกับคนมากมาย...หรือแม้กระทั่ง....เรื่องที่ได้รักกับกานดา...."
"..ไม่ใช่ฝันสักหน่อย.."
"…..ก็แค่กลัวน่ะ ฮะๆ ไม่เป็นไรหรอก..."
"สีคราม.."
"ครับ?"
"…เป็นอะไรรึเปล่า?"
ผมถามพร้อมดึงหัวตัวเองออกจากไหล่ของเขา เลือกที่จะหันไปมองหน้าโดยตรง..
..เวลามันดึกแล้ว..มีเพียงไฟหลอดเล็กราคาถูกห้อยอยู่บนกิ่งไม้เท่านั้นที่เป็นแสงสว่าง และก็พวกเพื่อนๆที่นอนเรียงรายอยู่บนแคร่ถัดไป..
ผมมองหน้ามัน..
..ดวงตาคู่สวยคู่นั้นก็มองมาทางผม ก่อนมันจะหลุบเอาดื้อๆ..
"พูดมา!"
"เดี๋ยวต้องไปผ่าตัดอีกรอบ"
มันตอบกลับมาแทบจะในทันทีที่ผมสั่ง หมอนั่นเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมอีกรอบนึงแล้วหลบวูบไป คงจะกลัวเรื่องที่ผมจะมอง 'ตา' ข้างนั้นโดยตรงกระมัง..
"ทำไมล่ะ? เป็นอะไร?"
"เปล่า..มันเป็นกำหนดการน่ะ นี่มันก็สองเดือนหลังผ่าครั้งแรกแล้วไง...บอกไว้ก่อน....เพราะงั้น...."
"ไม่เป็นไรใช่มั้ย?"
"ก็ต้องไม่เป็นไรอยู่แล้วล่ะ ฮะๆ"
เขายื่นหน้ามาจูบผมเบาๆ แล้วละออกไปพร้อมเสียงหัวเราะ
..ส่วนผมน่ะช็อคไปแปปนึง ก่อนจะก้มหน้างุด
"…เดี๋ยวพ่อก็เห็นหรอก.."
"ไม่เห็นหรอก เชื่อสิ"
"…..ทำมาเป็นพูดดี เดี๋ยะๆ" ผมชี้หน้าขู่ทั้งหน้าแดงก่ำ "แล้วนี่จะไปวันไหน? ต้องรีบกลับรึเปล่า?"
"ไปวันที่14จ้ะ"
"..ทำไมไม่รีบบอก"
"ก็บอกอยู่นี่ไงคนเก่ง อย่าโกรธนะครับ" ไม่ว่าเปล่า ยื่นแขนมาดึงผมไปซบอกมันด้วยซะงั้น
ตอนแรกก็โกรธ..แต่ผมก็เข้าใจแหละว่ามันพยายามทำเต็มที่แล้ว..คือเรื่องแบบนี้มันก็ทำใจลำบากล่ะ แต่เนื่องจากดูเหมือนจะไม่เป็นไรมากผมเลยไม่ใส่ใจอะไรเท่าไหร่ เหมือนที่มันต้องการ..
เนื่องจากมันได้เช้ามืดแล้ว เราเลยตัดสินใจเดี๋ยวค่อยนอนตอนกลางวันแบบจริงๆจังๆ..รอดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า แล้วก็แวะไปสวนโน่นนี่ จัดการช่วยพ่อทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับมานอน โปรแกรมอะไรตอนนี้ติดจะชิวไปนิดเพราะพวกมันตื่นมาคงจะเมาค้างกันล่ะ
พอตะวันขึ้นได้ไม่กี่อึดใจ พวกมันก็ร้อนๆแล้วก็ย้ายกันขึ้นไปนอนบนตัวบ้านแบบมึนๆ โชคยังดีที่ตั๊มไม่อ้วกเรี่ยราด..ไม่งั้นคงทำความสะอาดกันตาย...
หลังจากช่วยงานในสวนเล็กๆน้อยๆช่วงเช้าเรียบร้อย พ่อบอกว่าพายุผ่านไปแล้ว อากาศจะแจ่มใสเตรียมรับลมหนาวกันสักที ช่วงนี้ดอกไม้ประจำฤดูจะขายดีเป็นพิเศษ..และนักท่องเที่ยวจะแห่กันมาเที่ยวในปลายปีเยอะมาก เป็นโอกาสทำเงินเลยละ เพียงแค่ว่าผมติดเรียนจนไม่ได้มีโอกาสช่วยท่านเท่านั้นเอง
"ไม่เป็นไรหรอก หน้าที่ตอนนี้ของเดียร์คือเรียนนะลูก" แม่ว่า "ถ้าเลือกที่จะทำอย่างหนึ่งให้สำเร็จแล้ว..ก็ไม่มีเวลามาพะวงสิ่งที่อยู่ข้างหลังหรอก ทำให้เต็มที่เถอะ"
ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่าผมโชคดีมาก ที่ได้เกิดมามีครอบครัวที่แสนวิเศษขนาดนี้..เรื่องเพื่อนหรือเรื่อง...แฟน...มันเป็นเรื่องของตัวผมเอง นิยัสยของผม สันดานของผม การกระทำของผม..ทำให้ได้เพื่อนแบบนี้มา....แต่ถ้าเป็นครอบครัวน่ะ ผมไม่ต้องทำอะไร เกิดมาก็เจอครอบครัวดีๆแบบนี้แล้ว..นี่คงจะเป็นเรื่องของบุญกรรมชาติที่แล้วครับ
ผมเดินเข้าห้องตัวเองโดยมีสีครามเดินตามมาด้วย ห้องร้อนนิดหน่อยเพราะเป็นตอนกลางวัน ผมเลยเดินไปปิดม่านแล้วยกพัดลมมาเปิดเพิ่ม..ไอ้เอ็กซ์งี้นอนเปิดพุงเหงื่อซกเชียวตามประสาคนขี้ร้อน เห็นแล้วก็สงสารมันแหละ แต่แม่งไม่ตื่นเองนี่หว่า..
สีครามเลยบอกให้ผมไปอาบน้ำก่อน แล้วเขาค่อยอาบ (อนึ่ง..เพราะป้าน้อยอยู่ชั้นล่างน่ะฮะ...ไม่งั้นคงตามเข้าไปอาบด้วยแล้ว...) แล้วค่อยมานอนกันจริงๆจังๆสักหนหนึ่ง...
เพราะอากาศมันร้อน..เราเลยไม่ได้นอนกอดซุกกันเหมือนเคย (อีกอย่าง...พ่อจะตามเข้ามาดูเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบได้ฮะ =_='') จะตื่นโน่นก็เกือบบ่ายสี่โมง เรียกว่านอนกินพระอาทิตย์กันเลยทีเดียว..
วันนี้แปลกที่เราตื่นใกล้เคียงกันหมด เลยอาบน้ำอีกรอบแล้วลงมาหาไรกินกัน
"ตื่นช้าว่ะพวกมึง กูตื่นตั้งกะบ่ายสอง"
จิ๊บนั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวพอดีตอนที่เราลงไป ไอ้ตั๊มเลยฉกแซนวิชจากมือมันมากินต่อหน้าตายพร้อมเดินไปเปิดทีวี
"นอนแบบนี้เวลารวนกันหมด ซวยแย่"
"แล้วคุ้มมั้ยเนี่ย? มาเที่ยว..เอาแต่แดกเหล้า" ผมว่าแล้วนั่งลงข้างๆไอ้ไวน์
"ไม่ได้มาแค่เที่ยว แต่มาพักผ่อนด้วยว้อย..เปิดเทอมเรียนหนักจะตายชัก"
"เออ เอาเข้าไป ข้ออ้างว้อย ข้ออ้าง..."
"แล้วนั่นกล่องอะไรวะไอ้เดียร์"
ผมเหลือบตามองกล่องพัสดุสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะอีกตัวนึงถัดไปตอนที่ทาแยมบนขนมปังปิ้ง แล้วตอบ
"กล่องพัสดุจากไอ้ล่าไง"
"ไอ้ล่าหรอ!?!"
เหมือนที่ผมคาด..แต่ผมลืมครับ! ว่าพวกมันต้องกระโดดตะครุบกล่องพัสดุนั้นแล้วฉีกทึ้งแบบไม่มีชิ้นดีแน่นอน....และเพื่อสวัสดิภาพของกล่องใบน้อย..ผมเลยเดินไปหยิบกรรไกรมาตัดเชือกห่อของให้มันครับ (อ่าว!)
พวกเราทั้ง9(ยกเว้นสีครามนะ..รายนั้นพยายามห้ามแล้วล่ะ..)ชะโงกหน้ามุงดูการขยับของปากกล่อง ส่วนที่อ้าออกเผยให้เป็นถึงสิ่งของจำนวนมากมายในนั้น..
…และจดหมายสีขาวปิดผนึกอย่างดีสมเป็นมันนอนนิ่งอยู่ด้านบนสุด...
สายตาของพวกเราทั้งหมดจับจ้องสิ่งของกันคนละชิ้นสองชิ้น..
..ไม่มีความละอายแก่ใจที่แอบรื้อของชาวบ้านดูเลยแม้แต่น้อย..
......ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างออกมาแทบจะพร้อมๆกัน = ]
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
"สิบปีจะนัดเจอกันยังไง?"
วุ่นเป็นคนเปิดประเด็นนั้นตอนใช้เท้าเขี่ยๆกลบดินบนหีบใบโตด้วยกัน
"..ตอนนั้นกูอาจจะเป็นผู้จัดการบริษัทอะไรสักอย่าง" จิ๊บต่อ
"อ่าว? ไม่ใช่คนหมักเหล้าเถื่อนหรอ?"
โป๊ก!
"งั้นมึงคงเป็นเจ้าพ่อซ่องแล้วล่ะ ห่านเอ้ย!"
"ไอ้ล่าคงเปิดคลินิคที่ไหนสักแห่ง.."
"มันจะเป็นหมอหรอ?" ตั๊มสวนขึ้นมาทันที
"หมอรักษาหมาในปากมึงอ่ะ" บูมตอกกลับพร้อมหัวเราะไปด้วย "กูจะเอาธงปิกะจูปักไว้ จะได้รู้ว่าฝังไว้ตรงไหน"
"โหว ปัญญา.."
"..กูอาจจะได้มาทำงานโรง'บาลแถวนี้ก็ได้นะเว้ย บรรยากาศดีออก" วุ่นว่า
"งั้นกูอาจจะได้มาทำกับมึงนะ" บูมต่อคำ
"นี่มึงคุยเรื่องอนาคตกันขนาดนี้เลยหรอวะ?"
"แล้วมึงจะเรียนไรวะตั๊ม? เพื่อนเค้ามีอนาคตกันหมดละ.."
"โหวสัส คำถามกวนส้นตรีน" มันว่า "เรื่องนั้นกูยังไม่ได้คิด...เดี๋ยวค่อยดูอีกทีว่ะ ก็คิดเหมือนกันนะว่าอาจจะไม่ติดถ้าไม่ล็อคเป้าหมายความพยายามไว้ก่อน"
"ดูมึงพูดจามีสาระก็วันนี้แหละ.."
"ฟาย!"
"พวกมึงน่ะว่าไปอย่าง...อย่างกูน่ะ ห้องเด็กความสามารถพิเศษ...มีงานทำก็จริงแต่ไม่มีที่เรียน"
กลอนเปิดประเด็นต่อ พร้อมทิ้งตัวนั่งลงบนเสื่อ
"เพื่อนกูก็ชอบทำงานมากกว่า ความรู้งี้เกือบไม่มีติดหัว..นี่ถ้าไม่มีเกษรวิทยาคงไม่ได้ทำตามฝันกันมาถึงขนาดนี้ว่ะ...จะโชคดีต่อไปถ้าเกษรวิทยาทำวิทยาลัยสักที..."
"เฮ้ยเจ๋งว่ะ! เอาไปเสนอกับผอ.ดิ กูจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องสอบเข้ามหา'ลัย"
"กูว่าไม่เวิร์คๆ!" บูมแย้งขึ้น "สมมติว่าโรงเรียนเราเปลี่ยนเป็นวิทยาลัยจริง....จะชื่อว่าวิทยาลัยเกษร...ส่วนพวกเราก็จะเรียกย่อๆเป็นนักเรียนสาธิตม.เกย์......ผู้ชายที่จบจากที่นี่กลายเป็นเกย์หมดพอดี"
"นี่มึงตั้งใจจะกัดพวกกูอ่ะป่ะ?" ไวน์ร้องอย่างขัดใจ
"รึว่าไม่จริงวะ!"
"สัสหมี่นี่ เดี๋ยวปั๊ดๆ"
"พอเหอะน่า ต่อให้ทำจริงก็คงไม่ใช่เร็วๆนี้ว่ะ ยังไงก็ต้องคิดเรื่องสอบเข้าไว้ก่อน...มึงจะเอาทุนต่อป่ะเดียร์?"
"ของตาย" ผมแบะปาก "แค่ขยันนิดหน่อยก็ได้เรียนจบฟรีๆ ไม่คุ้มหรอ?"
"มันคุ้มสำหรับมึงน่ะ แต่ไม่ใช่พวกกู!"
"เลิกพูดเรื่องเครียดๆแล้วมานี่มามะ!!"
จิ๊บโบกมือเรียกตอนเอาถุงมะนาวออกมา
"ห่านจิกนี่ ตะวันยังไม่ตกดินจะเอาแล้วเรอะ!"
"…กูได้เป็นตับแข็งก่อนเรียนจบแน่ไอ้ห่า"
"พ่วงด้วยโรคต่างๆอีกมากมายจากการติดสุราเมรัย..-_-''"
"มึงไม่ติดหรอกน่า นี่ก็กินขำๆ...ตอบกูมาคำเดียว จะแดกไม่แดก?"
"แดก!!"
..แล้วมึงจะค้านกันทำเพรื่ออ??..
สรุปสุดท้ายคืนนั้นเกือบทั้งคืนเราก็ปาร์ตี้กันอีกรอบ ปาร์ตี้แบบถี่ๆซะขนาดนี้ทำเอาทั้งรำคาญทั้งสนุกในรวดเดียวครับ หวังว่าทริปต่อๆไปคงไม่ได้มีแค่เหล้านะ......มันเฮฮาและก็เปลืองพอดูละ....
แล้วพอดื่มเสร็จนอน ตื่นขึ้นมา..มันจะเป็นอารมณ์ประมาณว่า...ยังค้างๆคาๆกับแอลกอฮอลล์ในหัวอยู่ แล้วก็เลยเดินทางกลับแบบมึนๆอึนๆกันต่อ....มีแวะซื้อของฝากจังหวัดโน้นนี้นั้น..เยอะจนเต็มเบาะหลังไปหมด เกือบจำไม่ได้แล้วว่าไอ้ตอนซื้อน่ะ.....กูคิดจะเอาไปฝากใครวะ? เพราะภาพที่เห็นในคลองสายตามันจะเบลอๆ ไม่รู้ว่านี่ฝันหรือทำไปแล้วจริงๆกันแน่....สรุปอาการแบบนี้ได้ว่า 'เมาค้าง' ขั้นที่หนึ่ง...
สรุปคร่าวๆของการไปเที่ยวครั้งนี้คือการพักผ่อนบวกเข้าไปด้วย ผมว่ามันก็โอเคนะ..ถึงแม้จะหาสาระอะไรไม่ได้เลยก็เหอะ ได้นอนเต็มอิ่ม กินเต็มที่ ทำอะไรได้อย่างเต็มเหนี่ยว(จนบางครั้งออกจะเว่อร์เกินไปหน่อย..) อยากไปก็ไป อยากเที่ยวไหนก็ออก นอนเล่นอยู่บ้านซะส่วนใหญ่..กินเหล้าเมายาเป็นส่วนมาก..แต่ก็สนุกสุดๆ ติดที่ว่าลาล่ามาไม่ได้เนี่ยแหละ..
ตั๊มกับกรังโอดครวญใหญ่ว่าพรุ่งนี้จะประกาศผลสอบแล้ว..สำหรับพวกมันน่ะแค่ให้ได้อยู่ในห้องเด็กทุนก็เก่งแล้ว แต่พ่อแม่มันเนี่ยสิ..มีหวังโดนตัดค่าขนม บลาๆๆ แน่นอนสำหรับคะแนนเทอมนี้...
พวกผมเดินทางเข้ากรุงเทพในเวลาเกือบๆสองทุ่มครับ เป็นกะที่สีครามขับพอดี..เราเลยต้องเอารถไปส่งที่อู่ของเล้ง(เพื่อนสีคราม) แล้วค่อยแยกย้ายโบกแท๊กซี่กลับกัน
"กูไปแล้วน๊า บายๆๆ"
"เออบายๆ เฮ้ยๆ! บอร์ดติดประกาศกี่โมงวะ?"
ตั๊มหันมามองค้อนบูม "มึงกับไอ้เดียร์ต้องกังวลห่านอะไรอีกวะ ไอ้พวกทุนร้อยเปอร์!!"
..นั่น..เลยกลายเป็นว่าโดนมันตอกกลับอีกรอบ..
แต่ก็รู้กันละว่าตั๊มมันพูดไปงั้นแหละ..มันยังหันมายิงฟันจ๋าโบกไม้โบกมือลาพวกผมขึ้นแท๊กซี่ไปกับจิ๊บกับกรัง (บ้านใกล้กัน) ส่วนกลอนกับวุ่นมันขึ้นไปอีกคันแล้ว(นี่ก็ใกล้กันอีก) เอ็กซ์กับไวน์ก็โบกอีกคันอยู่ แล้วค่อยถึงคิวพวกผมกลับหอ..
"เฮ้ยมึงขึ้นไปก่อน เดี๋ยวกูซื้อโจ๊กฝากไอ้เท่าฟ้าแปป.."
"เออๆ" ผมตอบรับไอ้บูมไปส่งๆ
ตอนแรกก็คิดว่าจะอยู่รอเป็นเพื่อนมันละ แต่เห็นสีครามเหนื่อยๆ(ถึงมันไม่ได้พูดก็เหอะ..) ก็เลยขึ้นไปพักผ่อนก่อนดีกว่า
พอไขประตูเข้าห้อง ผมก็ยกของต่างๆมาวางไว้บนโต๊ะน้ำชา..แล้วเดินไปเปิดประตูระเบียงให้ลมพัดเข้ามาหน่อย ไม่อยู่ตั้งหลายวันห้องเหม็นอับแย่...
"ทานไรมั้ย?" ผมถามสีคราม
มันไม่ตอบ แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทั้งอย่างนั้นพร้อมหันมามองผม
ผมเข้าใจว่ามันคงเหนื่อย..ทั้งขับรถและคอยบริการโน่นนี่นั่นให้ตามปกติของไอ้สุภาพบุรุษ ส่วนผมน่ะนิ่งเป็นหลับ ขยับตื่นเป็นหัวเราะ..เลยไม่กล้าดุมันเรื่องขึ้นไปบนเตียงทั้งชุดเลอะๆนั่น..
"กานดาๆ~"
แต่มันก็ยังหันมายิ้มให้ผมแล้วโบกมือไหวๆ
เลยต้องสนองพระเดชพระคุณด้วยการเดินเข้าไปนั่งด้วยซะหน่อย..
มันเอี้ยวตัวมากอดเอวผมไว้หลวมๆ แล้วซุกหน้าลงกับหน้าตักผมเหมือนอ้อน..ซึ่ง..อื้ม..ผมก็ให้มันอ้อนแหละ...
"คืนนี้ต้องทำอะไรรึเปล่า?"
มันถามเสียงเบาๆแล้วก็อู้อี้ๆ ผมเลิกคิ้ว..แล้วใช้มือเกลี่ยผมสีขนกาของมันเบาๆ
"เปล่านี่...ทำไมอ่ะ?"
…..มันผลักผมลงนอนแทนคำตอบ.....
..หลังจากนั้นผมก็เฝ้าคิดทบทวนอยู่หลายตลบทีเดียวว่า..
…..นี่กูยอมมันง่ายไปมั้ยวะ!?!?......
ความคิดเห็น