ตอนที่ 16 :
My friend รักใสใสภายใน365วัน
My friend – 15
“อย่าเจอกันอีกเลยนะ”
“มีอะไรรึเปล่าคะ...”
“มีจ้ะ”
“...”
“ฉันอนุญาตให้เธอเข้าใกล้เวกัส แต่ ...เธอต้องช่วยฉัน”
“ค่ะ! หนูจะช่วยทุกอย่าง ขอแค่ให้หนูได้เป็นเพื่อนกับเขาก็พอค่ะ”
“ปีหน้าลูกชายของฉันจะต้องไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น...และอีกสามปีเขาจะต้องเข้าพิธีการหมั้นกับเซร่า”
“อะไรนะคะ!”
“แต่เขายังไม่มีใจให้กับเซร่า...ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เขามีใจให้เซร่าได้ ช่วยฉันหน่อยนะพัดชา”
...............................................................................................................................
บรรยากาศภายในรถช่างน่าอัดอัดใจเสียจริง ฉันขอแลกที่กับบอดี้การ์ดอีกคนที่ตามมาด้วยก็ไม่ให้แลกแถมยังไล่ให้ฉันไปนั่งข้างหลังกับคุณนาย เชอะ! เห็นว่าแก่กว่านะเลยยอมทำตาม ไม่อย่างนั้นแม่จะจับเอาหัวโขกกับพวงมาลัยซะให้แตกเลย!
วันนี้คุณนายแต่งตัวโทนสีอ่อนๆ เดรสสีขาวยาวถึงข้อเท้าเหมือนเดิม ผมถูกม้วนเก็บไปด้านหลังดูรวมๆเหมือนออกมาจากวัดยังไงยังงั้นแหละ
ฉันคิดว่าอาการของเขายังคงไม่กำเริบ ยังคงพยายามทำตัวให้สบาย เพราะไม่อย่างนั้นฉันไม่มานั่งอยู่เบาะหลังร่วมกับเขาหรอก
บอดี้การ์ดเลี้ยวรถเข้าไปในร้านกาแฟชื่อดัง ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เดินเข้าร้านนี้ต้องระดับวีไอพีทุกคน ฉันเคยได้ยินมาว่ากาแฟร้านแก้วละร้อยกว่าๆ ฉันยอมดื่มน้ำเปล่าเสียยังดีกว่า ขนาดรองเท้าที่ฉันใส่ตอนนี้ยังแค่เก้าสิบเก้าบาทเอง เฮ้อ- -
พอรถจอดสนิท บอดี้การ์ดทั้งสองก็ลงเปิดประตูให้ ฉันค่อยๆกระเถิบเอาร่างตัวเองออกจากรถแล้วเดินตามหลังคุณนายไปต้อยๆ หวังว่าคงจะไม่เอาฉันไปคั่วกับกาแฟหรอกนะTT
กริ๊ง...
เสียงโมบายที่แควนอยู่ประตูหน้าร้านดังขึ้นเป็นการต้อนรับลูกค้าอย่างคุณนายและฉันที่กำลังเปิดประตูเข้าไป พนักงานข้างในรีบวิ่งมาต้อนรับพร้อมกับรับบัติวีไอพีที่คุณนายยื่นให้ไป และผายมือไปที่ห้องส่วนตัวสำหรับลูกค้าวีไอพี
“ตามคุณท่านไปสิ” ฉันต้องเข้าไปด้วยใช่ไหมT T คุยกันข้างนอกก็ได้คนเยอะแยะออก
“แล้วพวกคุณไม่เข้าไปเหรอคะ” ฉันยื่นหน้าออกมาถามบอดี้การ์ดทั้งสอง ก็ได้แต่ความเงียบกริบเป็นคำตอบ ชิส์... ไอ้บอดี้การ์ดพวกนี้ไม่หล่อแล้วแถมหยิ่งด้วยนะ แหม!
ฉันเดินตามคุณนายเข้าไปข้างใน ภายในห้องขนาดใหญ่โทนสีที่ใช้ตกแต่งเป็นสีแดงเลือดหมูสีโปรดของคุณนาย และมีชุดโต๊ะเก้าอี้ตั้งไว้ตรงกลาง ฉันนั่งลงตรงข้ามกับคุณนาย พนักงานสาวคนหนึ่งนำกาแฟมาให้ก่อน แล้วค่อยย่องๆออกไป ทีนี้ก็เหลือแต่ฉันกับคุณนายอยู่ในห้องนี้สองคน
“มีอะไรรึเปล่าคะ...” ฉันเอ่ยถามออกไปเพราะเห็นว่ายิ่งเงียบบรรยากาศยิ่งน่าขนลุก
คุณนายยิ้มก่อนจะตอบ
“มีจ้ะ” ท่านตอบแค่สองพยางค์แล้วยกกาแฟขึ้นจิบ มีอะไรล่ะ...ได้โปรดพูดออกมาให้หมดเลยค่ะ หนูทนรอไม่ไหวแล้ว
“...” ฉันมองเป็นตาละห้อย คือกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟแก้วละร้อยกว่าบาทมันลอยมาเตะจมูกฉันจนอยากจะเอื้อมไปหยิบแก้วจากมือคุณนายมาครอบครองซะไม่มี (เห็นแก่กินอีกละ)
“ฉันอนุญาตให้เธอเข้าใกล้เวกัส แต่ ...เธอต้องช่วยฉัน” นี่ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม!?
“ค่ะ! หนูจะช่วยทุกอย่าง ขอแค่ให้หนูได้เป็นเพื่อนกับเขาก็พอค่ะ” ฉันบอกไปพลางทำท่าดีใจจนออกหน้าออกตา ก็แหม... รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ตัวเองไม่ค่อยจะสดีดสะดิ้งเลยเนาะ คิคิ สงสัยฉันคงแอบชอบเวกัสเข้าอีกครั้งละสิ ><
คุณนายยกกาแฟขึ้นจิบก่อนจะพูดต่อ...
“ปีหน้าลูกชายของฉันจะต้องไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น...และอีกสามปีเขาจะต้องเข้าพิธีการหมั้นกับเซร่า”
อ๋อ ปีหน้าเขาจะต้องไปญี่ปุ่น และอีกสามปี...หะ! อีกสามปีเขาจะหมั่นกับคุณหมออย่างนั้นเรอะ!!! หู หูฉันต้องเพี้ยนไปแน่ๆ
“อะไรนะคะ!” ไอ้หูบ้า ไอ้หูงี่เง่า!!!
“แต่เขายังไม่มีใจให้กับเซร่า...ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เขามีใจให้เซร่าได้ ช่วยฉันหน่อยนะพัดชา”
“...” ฉัน...กำลังจะเป็นบ้าภายในไม่กี่วินาทีข้างหน้า
ฉัน...กำลังจะหยุดหายใจ ภายในไม่กี่นาทีข้างหน้า
และฉัน...กำลังจะหายไปจากเขาภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“หมอเซร่าเป็นคนดีสำหรับฉัน และเธอมีบุณคุญกับฉันมาก ถ้าฉันไม่มีเขาฉันต้องตายไปแล้วแน่ๆ พัดชา เธอต้องช่วยฉันนะ พัดชา ในอณาคตฉันอยากให้หมอเซร่าแต่งงานกับเวกัส จริงๆ เธอช่วยไปพูดกับเขาและห้ามทำให้เขารักเธอเด็กขาดนะ”
แต่ฉันรักเขาไปแล้ว...ฉันรักเขาไปแล้วค่ะคุณนาย
“พักนี้ฉันเห็นเขาชอบนั่งเหม่อคิดอะไรก็ไม่รู้อยู่บ่อยๆ พอถามก็ไม่ตอบ ฉันคิดว่าเขาต้องหลงรักเธอแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะมีรูปเธออยู่ในห้องได้ยังไง” คุณนายพูดพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาโดยที่ตัวไม่รู้ตัว ฉันว่าอาการเขาคงกำเริบอีกแล้ว...
คุณนายเปิดกระเป๋าหยิบรูปฉันขึ้นมาชูให้ดู
นั้น! เป็นรูปตอนฉันเรียนอยู่มอหนึ่งเลยนี่นา เขามีได้ยังไง ใครเป็นคนให้เขา!!!
“หนูไม่เคยให้รูปเขาเลยนะคะ” ฉันเบิกตาโตมองดูรูปภาพรูปนั้นอย่างเหลือเชื่อ คุณนายยื่นมันมาให้ฉันก่อนจะบอกอีกว่า...
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็เอาไปซะสิ” ฉันเอื้อมมือไปรับรูปสมัยตอนมอหนึ่งมาแล้วเม้มปากเบาๆ ยิ่งรู้ว่าเขารักฉัน...ฉันยิ่งรักเขาเพิ่มมากขึ้น
จะทำยังไงดีคะคุณนาย...ฉันตัดใจจากเขาไม่ได้จริงๆ
“รับปากฉันนะว่าเธอจะช่วย...รับปากสิ! รับปากฉันสิ!!!”
ไม่...เธออย่ารับปานะพัดชา เธอหยุดทำร้ายตัวเองเถอะนะ!
“ถ้าไม่อย่างนั้น...ฉันต้องต้องเป็นบ้าเข้าโรงบาลฯประสาทอีกแน่ ฉันคงอายุสั้นขึ้น และตายเร็วเพราะทั้งชีวิตแทบจะไม่เหลือความสุขเลย”
“ใจเย็นๆนะคะ”
“ทั้งชีวิตฉันไม่มีความสุขเลย พวกเธอไม่เป็นฉันไม่มีวันเข้าใจ!!! ฉันอยากตาย ฉันอยากตาย!!!” คุณนายปัดแก้วกาแฟมาทางฉันจนมันหกเลือกเทอะเต็มเสื้อไปหมด แถมแขนของฉันยังโดนกาแฟร้อนๆนี่ลวกอีก แต่ไม่เป็นไร ฉันชาไปแล้วล่ะ...
“ฮือ...ไม่มีใครเข้าใจฉัน! ในโลกนี้มันโหดร้าย ฉัน...ฉันเบื่อ ฉันกลัว ฉันอยากตาย!!! ตายไปกับลูกของฉัน ลูกของฉันตายแล้ว เธอรู้ไหมพัดชา ลูกของฉันตายไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“คุณนายพูดอะไรออกมาคะ เขายังไม่ตายสักหน่อย เวกัสยังไม่ไปไหนหรอกค่ะ เขายังอยู่ อยู่กับคุณนาย เขาจะไม่มีวันตาย และคุณนายจะมีอาการดีขึ้นแน่นอนค่ะ หนูจะช่วยคุณนายเอง” ฉันรีบคว้าแขนของท่านเอาไว้เพื่อที่จะไม่ให้หยิบอะไรต่อมิอะไรมาทำร้ายตัวเอง และเมื่อฉันตอบตกลงว่าจะช่วย ท่านก็อาการดีขึ้นทันที เขายิ้มแปลกๆ ตาเหลือกขึ้นไปข้างบนเหมือนคนจิตไม่ปกติ ตอนฉันนี้เปลี่ยนจากกลัวมาเป็นสงสารคุณนายมากๆ ท่านมีอาการหลอนกับความคิดที่ยังไม่เกิดกับตัวเอง เพราะฉะนั้นฉันไม่ควรทำร้ายจิตใจเขา
ใช่ไหม.. ฉันไม่ควรทำร้ายจิตใจของเขา
“จริงเหรอ! เธอช่วยฉันจริงๆนะพัดชา” คุณนายยิ้มกว้างแล้วโอบกอดฉันทันที ฉันเองก็ค่อยๆเอามือวางบนหลังของท่านเพื่อเป็นการกอดตอบ แล้วคลี่ยิ้มบางๆ
อย่างน้อยก็ทำเพื่อนายนะเวกัส
.........................................................................................................................
Vegas part
ผมกลับมานั่งในบ้านคนเดียวเงียบๆ ป่านนี้ทั้งพ่อและทุกคนตามหาผมจนวุ่นวายไปหมดแล้ว มือถือของผมดังขึ้นไม่ขาดสาย จนผมต้องกดปิดเครื่องแล้วโยนมันทิ้งไว้บนโต๊ะ
ตอนนี้ใจใจผมมีอะไรปิดบังกับพัดชา...กะว่าจะบอกตอนผมคบกับเธอได้สักเดือน แต่ผมก็ไม่ได้คบกับเธอสักที จนตัวผมเองก็รู้สึกว่าจากแค่ชอบกลายเป็นรักซะแล้วทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเผลอใจไปให้ยัยตัวเล็กนั่นเมื่อไหร่ และผมก็อยากดูแลเธอไปตลอดชีวิต แต่ทำไมแม่ของผมต้องขัดขวางผมด้วย ไม่ใช่แค่พัดชาคนเดียวที่แม่ผมไม่ยอม ผู้หญิงทั้งหมดที่กำลังจะคบกับผมก็ถูกแม่ของผมปราบซะจนหัวหดหายไปหมด
ก็เหลือแต่พัดชาเท่านั้นแหละ ผมจะไม่ยอมให้เธอรับมือกับแม่ของผมคนเดียว เพราะผมจะช่วยเธอด้วย ใครจะว่าผมปีกกล้าขาแข็งผมไม่สน ผมจะไม่ยอมให้แม่ด่าว่าผมอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว ทีเธอยังมีคนอื่นนอกจากพ่อผม แล้วทำไมผมจะมีคนอื่นนอกจากยัยป้าเซร่านั่นได้ล่ะ
เซร่าหมอสาวที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลโตเกียว แต่ก็ถูกคุณแม่ผมหิ้วกลับมาเมืองไทยจนได้ เซร่าเป็นคนเดียวที่แม่ของผมไว้ใจและรักมากเหมือนกันลูกคนหนึ่ง จนผมเองยังอิจฉาเธอเลย แต่เธอก็เป็นคนดีจริงๆนี่นา เธอคอยให้กำลังใจผมตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้เธอยังยิ้มให้กับทุกๆคนเหมือนเดิม เวลาผมเสียใจเรื่องอะร้าเธอยิ้มให้ผมจะหายไปเลยล่ะ เพราะรอยยิ้มของเธอมันเป็นรอยยิ้มของนางฟ้าชัดๆ
แต่ความสัมพันธ์ของผมกับเซร่ามันก็แค่ลูกพี่ลูกน้องกัน ที่จริงแล้วผมกับเธอรู้จักกันตั้งแต่เซร่ายังอยู่มอปลาย บ้านของเธอติดกับบ้านของผมเลย จึงแวะเวียนมาเล่นกับผมบ่อยๆ ถึงเธอจะเป็นหมอแต่เธอก็เล่นบาสเก่งจนน่าอิจฉา ผมยังเคยให้เธอสอนเล้ย
ตึ๊ง ตึง!
เสียงข้อความไลน์มือถือผมเองแหละ
‘ออกมาเจอฉันหน่อย’ ผมเบิกตากว้างทันทีเมื่อจู่ๆยัยตัวเล็กก็บอกให้ผมออกไปเจอ แต่เธอไม่ระบุตำแหน่งว่าอยู่ไหน แล้วผมจะไปเจอเธอที่ไหนละทีนี้
‘อยู่ไหน’ ผมถาม
‘^^’ เอาแล้วไง? เธอมาไม้ไหนกันแน่นะ ไม่บอกแถมยังส่งอิโมจิค่อนหน้ายิ้มมาให้ด้วย
ผมรีบลุกจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูเปิดกว้างออกก็เผยให้เห็นร่างเล็กยืนหันหลังให้ ผมแทบจะตรงไปฉุดกระฉากเธอเข้ามาข้างในเพราะเมื่อก่อนหน้านี้ฟ้าร้องดังติดต่อกัน และคาดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าฝนจะต้องตกแน่นอน ผมถึงไม่อยากให้เธอยืนอยู่ข้างนอกแบบนี้ไง
“พัดชา” ผมเรียกให้คนตัวเล็กหันมา แววตาของเธอวูบไหวเหมือนจะร้องไห้ “เป็นอะไรรึเปล่า?”
“เปล่า...เปล่าจ้า^^” แต่จู่ๆเธอก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีเมื่อผมถาม “เออ นายกินข้าวรึยัง”
“ยังอ่ะ ฉันเพิ่งกลับถึงบ้าน” ผมตอบ “เข้ามาข้างในก่อนสิ”
“อะๆ ไม่ดีกว่า ข้างนอกอากาศเย็นสบายดี” คนตัวเล็กเด้งตัวออกไปก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปโอบไหล ทำไมเธอมีท่าทีแปลกๆไปนะ?
“ถ้างั้นมีอะไรรึเปล่า” ผมถามย้ำไปอีกครั้ง เธอค่อยๆนั่งยองๆเอาคางเกยที่เข่า ผมก็ทำตามเธอไปด้วย
“เมื่อเช้าฉันเจอผู้หญิงคนหนึ่งในบ้านของนาย เขาเป็นหมอใช่ไหม” เป็นหมอเหรอ พนันได้เลยว่าเธอต้องเจอกับเซร่ามาแน่ๆ
“อ๋อ!เซร่า เป็นลูกพี่ลูกน้องน่ะ”
เธอส่งยิ้มบางให้ผม
“เธอสวยมากเลย นายว่าไหม”
“อึ้ม...แต่เธอสวยกว่า ^^” ผมปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าเซร่าเป็นคนสวย เธอสวยมาก สวยคนไข้ในโรงพยาบาลมาเข้าแถวต่อคิวซื้อขนมจีบเป็นแถว
“ฮ่ะๆ ^^” เธอยิ้มบางให้ผมอีกแล้ว ดูเหมือนว่าไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่เลย รึเธอแค่ถามเพื่อลองใจผม เฮ้ย นี่ผมต้องบอกว่ายัยเซร่าขี้เหร่สินะ!
“เซร่าน่ะเหรอก็เฉยๆอ่ะ ไม่เห็นสวยตรงไหนเลย เธอสวยกว่าตั้งเย๊อะเลย” พัดชาแอบลอบยิ้มให้กับตัวเอง บิดตัวไปมาอย่างเขินๆ
“นายก็ชมฉันเกินไป แต่ฉันว่าเขาทั้งสวย ทั้งฉลาดแถมใจดีด้วย นายไม่ชอบเหรอ” อันนี้ก็คงลองใจอีกแน่เลย
“ไม่อ่ะ ยัยป้านั่นแก่กว่าฉันตั้งหลายปี ฉันไม่ชอบคนแก่หรอก” เธอหลุดขำออกมาตรงที่ผมบอกว่าไม่ชอบคนแก่ ถ้าพัดชาอายุเยอะกว่าผม ผมก็คงชอบอยู่แหละ
“เอ่อเวกัส นายเคยรู้จักฉันมาก่อนรึเปล่า?” ใจผมแทบทะลุออกจากอกเมื่อจู่ๆเธอก็ถามคำถามนี้ออกมา
“ถามอะไรแปลกๆ ก็รู้จักเธอตอนนี้ไง”
“อ๋อ..อึ้ม”
“ทำไมเหรอ เป็นอะไรรึเปล่าเนี้ย=_=?” ผมเริ่มรู้สึกว่าคนข้างๆมีอาการผิดปกติไปตั้งแต่ตอนเปิดประตูเมื่อกี้แล้วนะ เอ๊ะ... “รึว่าไม่ใช่พัดชา ผีรึเปล่าวะ ให้ตายเถอะ ถึงว่ามาตอนเย็นๆ”
“ฉันนี่แหละ ไม่ใช่ผีหรอก” เธอหันมาตอบ
“แฮะๆ ก็เห็นเธอทำตัวแปลกๆไปนิ”
“ฉันอยากเจอกับนายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย” หะ? จู่ๆมาพูดอะไรให้ชวนขนลุกเนี่ย
“พูดอะไรของเธอน่ะ อย่าบอกนะว่า...เธอจะฆ่าตัวตายอ่ะพัดชา อย่าเชียวนะ”
“เปล่า ฉันพูดเล่น^^” เอาอีกแล้ว มาพูดให้ใจหายแบบนี้มันน่าจับตีก้นให้ตาย ชิ!
“เธอนี่ล้อเล่นไม่ถูกเวลาจริงๆเลยนะ อืม...เธอเคยได้ยินตำนานน้ำตาของนางฟ้ามั้ย?” ไอ้ตำนานพวกนี้ผมมั่วเองแหละ อยากสร้างบรรยากาศกับเธอสักหน่อย
“ไม่รู้สิ”
“เขาว่ากันว่า เมื่อก่อน มีผู้หญิงจิตใจดีชื่อ’แอล’ เธอไปหลงรักหนุ่มเมืองกรุงชื่อ‘มาร์’ มาร์มีนิสัยเจ้าชู้กะล่อนปริ้นปร้อน แต่ยังไงแอลก็รักมาร์มาก เพราะอะไรน่ะเหรอ...เธอบอกว่า เธอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงรักมาร์ ทั้งๆที่เขาเจ้าชู้หลายใจ แต่ถ้าเมื่อใดที่เธอรู้ว่าทำไมถึงรัก เมื่อนั้นความรู้สึกดีๆของเธอที่มอบให้กับมาร์จะไม่มีเหลืออีกแล้ว”
“สุดท้ายแอลก็หาคำตอบได้ว่าทำไมถึงรักมาร์”
“ไม่ใช่...สุดท้ายแอลก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรักมาร์ เพราะแอลรักมาร์เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยเท่า และระหว่างที่แอลกับมาร์นั่งรถไปด้วยกันเพื่อที่จะกลับบ้าน พวกเขาต้องผ่านทางลาดชัน และช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฝนตกหนักมาก มาร์เป็นคนขับเขาเพิ่งดื่มเหล้ากับเพื่อนที่ทำงานมา เมื่อก่อนหน้านี้แอลเตือนแล้วว่าอย่าดื่ม แต่เขาก็ดื่ม”
“แล้วยังไงต่อเหรอ?”
“มาร์ก็หมดสติคาพวงมาลัยเลยน่ะสิ แอลต้องรีบมาจับพวงมาลัยบังคับทิศทางเอง แต่ก็ไม่ไปถึงไหน...เพราะแอลขับรถไม่เป็น” ดูเหมือนยัยตัวเล็กจะเชื่อสนิทเลยแฮะ ^^
“จริงเหรอ พวกเขาตายใช่ไหม?”
“ตกเหวตายทั้งสอง.. มาร์ลงไปเกิดในนรก ส่วนแอลขึ้นไปเกิดบนสวรรค์ และเวลาที่พวกเขาทั้งสองคิดถึงกันเมื่อไหร่ มาร์จะส่งเสียงคำรามดังกึกก้องทั่วผืนฟ้าเพื่อให้แอลรู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องอยู่ห่างกันคนละฟ้ากับเหว”
“ส่วนแอลก็ร้องไห้ออกมาเป็นสายฝนใช่ไหม” เธอจ้องหน้าผมทำตาปริบๆ
“อืม นั่นแหละน้ำตาของนางฟ้า^^” พอผมเล่าจบก็แอบเห็นคนตัวเล็กขยี้ตาตัวเอง สงสัยอินกับตำนานที่ผมกุขึ้นมาเองละมั้ง ฮ่าๆ
ให้ตายเถอะ นี่ผมเอาเรื่องตำนานนี้ไปแต่งเป็นนิยายได้เลยนะเนี่ย- -
“เวกัส...” เธอเรียกพลางหันมาพร้อมกับกำปั้นน้อยๆ อะไรอ่ะ? เธอจะชกหน้าผมเหรอ=[]=!
พัดชาคว้ามือของผมไปกุมไว้ ผมรู้สึกอบอุ่นใจเหลือเกิน และรู้สึกเหมือนเธอจะเอาอะไรไม่รู้มายัดใส่มือของผมด้วยนะ
“อะไรเหรอพัดชา?” ผมเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“รอฉันกลับก่อนแล้วนายค่อยดูนะเวกัส^^” เซอร์ไพรส์แน่เลย อะไรน้า
“ครับ จะไปแล้วเหรอ”
“อืม...ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ” จู่ๆเธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วโบกมือบ๊ายบายผมจากนั้นก็จูงรถจักรยานโดเรม่อนคันที่ขี่มาตอนเมื่อเช้าไป
ตอนนี้ผมดูได้รึยังนะ...?
เอาล่ะ เธอไปแล้ว ก็ดูได้แล้วสินะ ตื่นเต้นจัง><
ผมค่อยๆคลายกำปั้นออก มันเป็นสร้อย...? นี่สร้อยที่ผมเคยให้ไว้กับเธอนี่นา สร้อยจี้รูปหัวใจเส้นนี้ เธอเอามาคืนผมทำไมกัน!
สักพักเสียงข้อความไลน์ในมือถือก็ดังขึ้น อ่านจบเข่าผมแทบทรุด! ทำไม...เธอทำกับผมแบบนี้?
‘ฉันคืนสร้อยให้นายแล้ว เชื่อฟังแม่นายให้มากๆ เราอย่าเจอกันอีกเลยนะ’
ตึ๊ง ตึง!
กริ้วววว ทักทายจ้านักอ่านทั้งหลาย^^ ดีใจนะที่ได้ออกมาหน้านี้สักที5555
ตั้งใจว่าจะให้จบสักตอนที่20 เย้>< รู้สึกใกล้จะโล่ง ใกล้จะออกจากไหดองยังไงก็ไม่รู้(ฮ่า)
พอเรื่องนี้จบแล้ว ไรท์คงไปปั่นเรื่องวัยรักต่อค่ะ ไรท์จะได้ไม่สับสน แฮ่ๆ (วุ่นวายจริงๆTT)
สุดท้ายของคุณนักอ่านที่ทั้งแอดแฟบและไม่แอดแฟบ คนเม้นท์และนักอ่านเงาทุกคนนะคะที่ยังช่วยจิ้มเข้ามาดูเรื่องนี้ ฮรือออ ปลื้มมากกกT^T ฝากเม้นท์ฝากโหวตด้วยน้าาา รักทุกคนเลยจ้า <3
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ มันอาจไม่สมบูรณ์เพราะไรท์แต่งพร้อมกันสองเรื่อง งงจริงๆเจ้าค่า(ฮ่า)
ป.ล. แอบฮากับตำนานน้ำตานางฟ้าอะไรนั่นอ่ะ555555
ไม่รู้ว่าเคยได้ยินหรือเคยอ่านนะ เหมือนเคยเห็น หรือว่ามโนไปเองก็ไม่รู้ ใครรู้สึกเหมือนเคยอ่านตำนานนี้ทวงได้นะคะ เดี๋ยวใส่เครดิตให้ (งงตัวเองอยู่เหมือนกัน เอ้อ55555)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำเอาทั้งสองคนเสียใจไปหมด
เวกัสทำไมนายไม่รู้ตัวสักทีนะว่าพัดชาเค้ารักนายมากแค่ไหนน่ะะ
ปลล. ขอโทษนะคะที่หายไปนาน พอดีติดสอบด้วยน่ะค่ะ
นี่เราเองนะ เจ้าของเรื่องขององศา ^^
ปล.อัพไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ