ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #35 : Login 33: พัฒนาการของชายผู้ว่างเปล่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      54
      5 ต.ค. 59

    Login 33: พัฒนาการของชายผู้ว่างเปล่า

     

                ห้องควบคุมหลักศูนย์บัญชาการค่ายฝึกชั่วคราว

                สิงห์มองการต่อสู้ของพวกนรินทร์ผ่านทางภาพของกล้องวงจรปิดที่ฉายลงจอโปรเจคเตอร์

                การต่อสู้เริ่มมาได้ซักพักก็มีคนตายไปมากมาย ไม่ใช่แค่ประตูที่พวกนรินทร์รับมือ แต่ประตูอื่นๆ ก็เริ่มมีคนตายเหมือนกัน

                สิงห์เดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจ

                “ชิ ไม่ไหวงั้นเรอะ

                แต่คำพูดของเขาก็ถูกเสียงของเจ้าหน้าที่ภายในห้องกลบไปหมด เสียงรายงานสถานการณ์ของประตูแต่ละทิศดังสลับกันไปมาอย่างสับสนอลหม่าน

     

                ที่สนามรบ

                หลังจากนรินทร์ทุ่มสุดตัวขัดขวางมังกรไม่ให้โจมตีได้แล้ว พวกพ้องที่วิ่งตามหลังมาก็แซงขึ้นไปข้างหน้าแล้วเริ่มเปิดฉากโจมตี ทั้งลำแสง ทั้งอาวุธบิน พุ่งขึ้นไปจากพื้นดินอย่างต่อเนื่อง เกิดระเบิดขึ้นบนร่างของมังกรไอควันสีขาวพวยพุ่งตลบอบอวลบดบังทัศนวิสัยจนย่ำแย่

                มีแต่หน้าจอแสดงแถบพลังชีวิตของมังกรที่แสดงให้เห็นว่าการโจมตีเมื่อครู่ได้ผล พลังชีวิตเริ่มลดลงไป

     

    Heraldic Beast Deity: Cerulean-Eyes Lv. 50

    [/////52435:56000///..]

     

                เสียงคำรามดังออกมาจากหมู่ควัน แล้วสายลมก็พัดโหมอย่างรุนแรง แรงถึงขนาดเป่าควันทั้งหมดให้หายไปในพริบตา แรงขนาดที่ว่ามีทหารบางคนตัวปลิวกระเด็นไปข้างหลัง

                นรินทร์ใช้เท้าจิกพื้นพยายามต้านทานแรงลมไว้ให้ได้ ผ้าคลุมสีดำของชุดเครื่องแบบโบกพลิ้วราวกับธงที่ปักอยู่บนยอดของอาคาร เด็กหนุ่มใช้มือข้างขวาป้องกันสายตาเอาไว้แล้วเงยหน้าขึ้น

                “เสร็จกัน!

                แล้วสบถออกมาด้วยใบหน้าตกตะลึง

                ตกตะลึงเพราะว่ามังกรกำลังร่ายรำ

                ร่างไม้อันใหญ่โตแหวกว่ายผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนที่นั้นทำให้เกิดลมกรรโชกรุนแรงขึ้นมา แต่ที่เขาเป็นกังวลนั้นไม่ใช่ลมที่หากแต่เป็นการร่ายรำของมังกรต่างหาก

                แว่นตาที่ได้รับจากแอพพลิเคชั่นปีศาจบอกให้รู้ถึงสกิลที่มังกรกำลังใช้งาน

                “ทุกคนระวังนะท่าโจมตีกวาดล้างกำลังจะมามันใช้ฟอเรสต์แดนซ์อยู่!

                แต่ก็สายเกินไป การร่ายรำเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ตอนที่เขาตะโกนแล้ว ทุกคนรับรู้แต่ก็ไม่มีใครขยับตัวหนีได้ทัน

                มังกรหยุดร่ายรำแล้วคำราม

                “ฟอเรสต์แดนซ์

                เสียงคำรามกลายเป็นคำพูดที่ทำให้สกิลทำงาน

                แผ่นดินสั่นสะเทือน สั่นไหวอย่างรุนแรง

                รากไม้จำนวนมากผุดงอกขึ้นมาจากพื้น รากเข้ามาพันที่แขนและขารวมถึงมัดลำตัวเอาไว้จนไม่สามารถขยับไปไหนได้อีก ทุกคนเสียท่าให้กับการโจมตีนี้จนหมด

                ทั้งที่มันเป็นสกิลสำหรับโจมตีแต่กลับควบคุมให้กลายเป็นสกิลตรึงเป้าหมายได้เจ้ามังกรมีพลังถึงขนาดนั้นเชียว พลังที่จะควบคุมสกิลได้ตามใจนึกจนราวกับว่านี่ไม่ใช่เกม... ถึงที่จริงแล้วโลกใบนี้จะไม่ใช่เกมตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็เถอะ

                จบสิ้นกันแล้ว...

                วินาทีที่ความคิดนั้นแล่นขึ้นมา นรินทร์ก็แสดงใบหน้าสิ้นหวัง

                ความกล้าที่ผุดขึ้นมาก่อนหน้านี้ราวกับจะหายไปทั้งหมด

                มังกรหัวเราะ

                “ฮะฮะ

                หัวเราะด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามและรอยยิ้มดูแคลนหากว่ามังกรแสดงสีหน้าได้เหมือนกับมนุษย์มันก็คงกำลังทำหน้าเยาะเย้ยพวกเขา

                “มนุษย์มักจะมีส่วนที่ใช้ไม่ได้เยอะเกินไปทั้งโง่เขลา อวดดี และอ่อนหัด รู้บ้างไหมว่าพวกเราเทพเจ้าพากันเอือมระอาในความใช้ไม่ได้ของพวกเจ้ามากี่ครั้งกันแล้ว

                มังกรพูดแล้วบินขึ้นไปข้างบน มันตีลังกากลางอากาศม้วนตัวหันหัวกลับลงมาแล้วหยุดอยู่ในท่านั้น

                “จบกันแค่นี้แหละมนุษย์เอ๋ยเราจะส่งพวกเจ้ากลับสู่ความว่างเปล่าเอง วอยด์บลาส(Void Blast)”

                ปากของมังกรอ้ากว้าง มันง้างออกมาจนปากบนกับปากล่างแทบจะตั้งตรงกันเป็นเส้นตรง

                อากาศกำลังถูกดูดเข้าไปรวมกันในปากของมัน อนุภาคแสงสีดำรวมตัวกันที่ใจกลางปากนั่น บีบอัดกลายเป็นลูกบอลแล้วขยายขึ้นเรื่อยๆ

                มีเสียงดังมาจากนายทหารหญิงคนหนึ่ง

                “นั่นมันท่าวอยด์บลาสของบิลด์วอยด์นี่นา

                คำพูดแค่นั้นก็เพียงพอแล้วเพราะนรินทร์เองก็รู้จัก วอยด์บลาสมันเป็นสกิลโจมตีแบบกวาดล้างของบิลด์คลาสอาชีพวอยด์ ถึงระยะหวังผลจะค่อนข้างใกล้แล้วยังต้องใช้เวลารวบรวมพลังค่อนข้างนาน แต่เรื่องพลังทำลายนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะมันคือจุดเด่นของสกิลนี้ซึ่งเป็นการโจมตีที่ใช้งานง่ายและรุนแรงที่สุด มันเป็นการโจมตีปิดฉากอย่างแท้จริง

                แล้วตอนนี้สกิลที่ว่านั่นก็กำลังชาร์จอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา

                หากโดนซัดในระยะนี้แล้วไม่แคล้วได้แหลกเป็นฝุ่นผงกันหมดอย่างแน่นอนยิ่งฝ่ายนั้นเป็นพลังระดับจ่าฝูงสัตว์เทวะคงไม่มีใครรอดชีวิตจากการโจมตีนี้แน่ หรืออย่างน้อยที่สุดก็คงมีคนตายซึ่งหนึ่งในนั้นคือเขาเองที่ยืนอยู่ตรงศูนย์กลางเป้ายิง

                เสียงกรีดร้องดังขึ้น เสียงโวยวายว่าไม่อยากจะตายดังขึ้น

                “...”

                นรินทร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาก้มหน้าลงดวงตาของมีน้ำตาคลออยู่ พอรู้ตัวว่ากำลังจะตายร่างกายก็เหมือนจะควบคุมไม่ได้จนเผลอแสดงความอ่อนแอ

                บอลแสงสีดำเป่งตัวจนมีขนาดเท่ารถยนต์คันหนึ่ง

                แล้วเมื่อมันเริ่มหดตัวลงนั่นคือสัญญาณก่อนการยิง

                วินาทีที่คิดว่าไม่รอดแล้ว ตอนนั้นเอง

                “จงสถิตในคันศรของข้า บัพแอโร่ว!!

                วินาทีที่ลำแสงสีดำอันน่าสะพรึงกลัวกำลังจะคืบคลานออกจากปากของมังกรนั่นเอง ลำแสงกลับเปลี่ยนทิศทางไป

                “อ่อก!

                มังกรสำลักออกมาขณะเดียวกันหัวของมันเบี่ยงไปทางซ้าย ทำให้ลำแสงเปลี่ยนทิศทางและยิงพลาด ลำแสงลอยข้ามกำแพงรั้ว ปะทะเข้ากับสนามพลังชีพจรมังกรแล้วระเบิดออก เป็นการะเบิดอันรุนแรงชนิดที่เสียงของมันทำเอาหูอื้อไปชั่วขณะ

                แผ่นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อยคงเป็นเพราะสนามพลังรับแรงกระแทกเกือบทั้งหมดเอาไว้

                นรินทร์เงยหน้าขึ้นทั้งที่น้ำตายังอาบแก้มอยู่

                แล้วเหม่อมองไปยังร่างที่ลุกเป็นไฟของมหิงสาขนาดยักษ์ที่พุ่งเข้ามาชนร่างของมังกรจากทางซ้าย

                “น...นี่มัน...

                มังกรพูดน้ำเสียงกระอักกระอ่วน ร่างของมันเกร็งไปหมดเพราะกำลังสู้กับแรงปะทะของมหิงสาเพลิง

                ทั้งคู่ไม่ขยับออกจากจุดเดิมเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นเองก็มีเสียงพูดเอะอะดังมาจากทิศที่มหิงสาเพลิงพุ่งมา

                “สงสัยจะไม่ไหวล่ะมั้งคะเนี่ย

                “หนวกหูน่ามีนาถ้าเห็นแล้วก็รีบจัดการเข้าสิ

                “ค่าๆ ใช้ยันเลยนะคะคุณอิงศรเนี่ย

                นรินทร์หันไปมอง พวกพ้องคนอื่นๆ ก็ด้วยทุกคนหันไปมองเป็นทางเดียวกันหมด

     

                ที่นั่นทหารหนุ่มสาวสี่คนกับอีก...หนึ่งตัวกำลังวิ่งตรงมาทางนี้

                พวกอิงศรนั่นเอง...แล้วก็มีสุนัขตัวหนึ่งวิ่งไล่หลังมาติดๆ ทุกคนตัวโทรมไปด้วยเหงื่อ แต่ว่า...หมา... ยังมีสัตว์ธรรมดาหลงเหลืออยู่บนโลกนี้...

                ความคิดตีกันมากเกินไปจนสับสนไปหมด... เลยคิดว่าช่างมันไปเถอะ

                สรุปก็คือ...

                มีนาเป็นคนที่วิ่งนำหน้ากลุ่มออกมาในมือถือเคียวสีดำเมี่ยม

                พอวิ่งมาถึงระยะหนึ่งหล่อนก็หยุดแล้วเงื้อเคียวฟันลงไปบนพื้นถนน

                “เนโครดราก้อน ไทรซอมบี้ทอปส์ (Necro DragonTrizombietops)”

                ทันใดนั้นแผ่นดินก็ปริแยกออกจากกัน

                ประกายสีดำพวยพุ่งขึ้นมา

                ร่างซึ่งเกิดจากการเรียงตัวของกระดูกหลายชิ้นปีนขึ้นมาจากรอยแยกนั่น

                กะโหลกศีรษะยื่นยาวไปข้างหลังเหมือนแผงคอ มีปากคล้ายกับนกแก้ว มีเขาสามเขาด้วยกันเขาแรกอยู่ตรงจมูกคล้ายกับนอแรด อีกสองเขาอยู่บริเวณจุดที่เคยเป็นดวงตามาก่อน คลานสี่ขาเหมือนกับช้าง

                ชื่อของมันมาจาก ไทรเซราทอปส์ สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังพอๆ กับทีเร็กซ์หรือไทแรนโนซอรัสมันเป็นเนโครดราก้อนตัวใหม่ที่มีนาสามารถเรียกออกมาได้เมื่อเธอมีเลเวลหกสิบ

                มีนาถอนจอบออกจากพื้น รอยแยกที่สร้างขึ้นมากลับมาเชื่อมสนิทกันในทันที เด็กสาวตวัดเคียวออกไปเป็นสัญญาณให้มังกรกระดูกที่เรียกออกมาโจมตี

                “ลุยเลยค่าไทรจัง

                พร้อมกับตั้งชื่อเล่นให้มันไปในตัว

                มังกรกระดูกสามเขา โจนตัววิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วผิดกับรูปลักษณ์แล้วกระโดดพุ่งเข้าใส่ร่างของเซลูลีนอายส์

                เกิดเสียงดัง โครมร่างของสัตว์เทวะลอยละลิ่วไปกระแทกสะพานจนถล่มแล้วตกลงมา

                ระหว่างนั้นเองกวินทร์ก็วิ่งแซงทุกคนไป

                แล้วชักดาบเล่มใหม่ออกมา ดาบซึ่งมีใบดาบสีดำที่ได้รับจากดันเจี้ยนกระจกเงา

                เด็กหนุ่มไถลมือไปกับใบดาบแล้วประกาศสกิล

                “ไพโรเบลด!

                เปลวไฟหมุนวนพันรอบดาบ เด็กหนุ่มเร่งฝีเท้าขึ้นพร้อมกัน แล้วไปตัดรากไม้ที่พันธนาการกองทัพของนรินทร์ ปลดปล่อยทุกคนเป็นอิสระในเวลาอึดใจเดียว

                อิงศร มีนา เมษา ทั้งสามคนตามมาถึงหลังจากนั้น

                อิงศรตรงเข้าไปคุยกับนรินทร์ก่อนใครเพราะเขาได้รับแจ้งจากสิงห์มาแล้วว่าเป็นผู้บัญชาการกองร้อยนี้รวมถึงแผนการรบครั้งนี้

                “โทษทีนะมาช้าไปหน่อย

                “…”

                นรินทร์ยังคงไม่พูด ที่จริงคือเขายังตกใจอยู่นิดหน่อยที่พวกอิงศรโผล่ออกมากะทันหัน

                “พอดีมีไอ้เบื๊อกคนหนึ่งลืมเช็คน้ำมันรถขากลับน่ะเลยต้องวิ่งมาตอนอยู่กลางทาง

                ขณะที่พูดอิงศรก็ชำเลืองมองไปทางกวินทร์อยู่เป็นพักๆ รุ่นน้องที่เหมือนจะรู้ตัวเลยยิ้มเจื่อนแสร้งทำเป็นเกาหัวและเบี่ยงหน้าไปทางอื่น

                “เลยวิ่งมากันจนเหงื่อท่วมน่ะเหรอ

                นรินทร์พูดพลางดึงแว่นตาปีศาจขึ้นไปคาดไว้บนหัวแล้วทำหน้าเข้าใจสาเหตุที่พวกเขาแฉะไปด้วยเหงื่อ

                จากนั้นเมษาก็หัวเราะแล้วพูดว่า

                “เอาน่าถือซะว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนออกศึกไง

                แล้วชกมือซ้ายตัวเองจนเกิดเสียงดังปึก

                “อุ่นเครื่องเหงื่อโชกแบบนี้น่ะไม่เอาอีกแล้วนะ

                อิงศรทำท่ารำคาญพลางดึงตรงส่วนปกคอเสื้อของเครื่องแบบที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ

                จากนั้นมีนา

                “พักเรื่องพูดคุยหยาบๆ อย่างเหงื่อเอย ไคลเอย ของพวกผู้ชายเอาไว้ทีหลังก่อนเถอะเพราะว่าศัตรูจะมาแล้วนะคะ

                ก็พูดออกมาแบบนั้นแล้วชี้ไปยังทิศที่สัตว์เทวะถูกชนกระเด็น

                เซลูลีนอายส์ทะยานตัวขึ้นจากกองซากสะพานบินฉวัดเฉวียนอย่างรวดเร็ว

                มันกำลังโมโห... พวกเขามองดูการบินของมันแล้วก็รู้สึกได้เอง

                “หนอยแน่ะเจ้าพวกมนุษย์อัปลักษณ์เอ๋ย บังอาจมาทำให้เทพต้องล้มลงบาปของพวกเจ้าต่อให้ลงนรกไปกี่ร้อยกี่พันชาติก็ชดใช้ไม่หมด!

                มีนายังชี้นิ้วไปที่สัตว์เทวะแล้วหันมาพูดกับอิงศร

                “เขาว่างั้นแน่ะ

                เด็กหนุ่มถอนหายใจแล้วตอบกับทุกคนว่า

                “เอาเป็นว่าจัดการมันก่อนก็แล้วกัน

                “รับทราบค่ะถ้าอย่างนั้นทุกคนช่วยเตรียมอิงศรฟอเมชั่นด้วยค่ะ

                มีนาพูดแล้วอมยิ้มขณะที่มองใบหน้าเอือมระอาของอิงศร

                “นี่เธออย่าเที่ยวเอาชื่อคนอื่นไปตั้งชื่อฟอเมชั่นได้ป่ะ

                พอได้ยินแบบนั้นนรินทร์ก็ถามขึ้นมา

                “อิ..อิงศรฟอเมชั่น? มันคืออะไรน่ะครับ

                มีนายื่นหน้าเข้ามาทันทีแล้วถามว่า

                “อยากเห็นใช่ไหมล่ะคะถ้างั้นขอความกรุณาคุณนรินทร์ช่วยสั่งให้ทุกคนทำตาม..

                แต่อิงศรกลับพูดขัดคำพูดของเธอ

                “เรื่องนั้นไม่ต้องแล้ว

                “เอ๋?”

                “สิงห์บอกหมดแล้วเรื่องให้ชั้นเป็นคนสั่งการแทนทันทีที่มาถึงแล้วนายโอเคนะ

                อิงศรหันไปถามนรินทร์ซึ่งพยักหน้าตอบทันทีโดยไม่มีความลังเลเลย

                “ฝากด้วยนะอิงศรเพราะว่าผมน่ะ...

                คำพูดของเขาหยุดชะงักเพราะอิงศรเอื้อมมือมาแตะไหล่จากนั้นก็พูด

                “วางใจเถอะจากนี้ไปชั้นจะไม่ยอมใครตายอีก แน่นอนว่ารวมชั้นเข้าไปด้วยนะ

                ราวกับเดาได้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร

                ปกติแล้ว คนๆ นี้สนใจรอบข้างถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?

                สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอิงศรเปลี่ยนไปจากที่เจอกันคราวก่อน

                ดูมีชีวิตชีวาขึ้น

                อบอุ่นขึ้น

                แทบไม่มีเค้าของเด็กหนุ่มที่เย็นชาและมีแววตาอันว่างเปล่าคนเดิมหลงเหลืออยู่เลย

                ไม่รู้ว่าทำไมแต่พอเห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา รู้สึกว่าความตึงเครียดในตัวมันผ่อนคลายออก จะเป็นเพราะว่าเขาได้ส่งต่อหน้าที่อันหนักอึ้งซึ่งไม่เหมาะสมกับตัวเองไปแล้วหรือว่าได้รับกำลังใจจากอิงศรที่เปลี่ยนไปกันแน่

                ตอนนั้นเองก็มีเสียงจากทหารที่เคยเป็นนักเรียนในห้องคิงพูดกันมาว่า

                “นั่นมันอิงศรนี่!

                “วีระบุรุษห้องคิงคนนั้นน่ะเหรอ

                “ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมเพิ่งจะโผล่มาก็เถอะแต่ช่วยเราจัดการเจ้ามังกรนั่นที

                “ทำได้ใช่ไหมถ้าเป็นนายน่ะ!

                แวบหนึ่งที่ใบหน้าของนรินทร์ปรากฏสีแห่งความเกลียดชังขึ้นมา

                เหล่าผู้คนอ่อนแอที่เอาความละโมบที่มีชื่อว่า ความคาดหวังประเคนโยนให้กับอะไรก็ตามที่กำลังเปล่งแสงแห่งความหวัง มันช่างน่าสมเพชเหลือเกิน

                ทว่า...

                “เออ! มาขับไล่สัตว์เทวะด้วยกันเถอะ

                อิงศรที่ได้ยินความละโมบเหล่านั้นกลับตอบรับมันอย่างไม่ลังเล

     

                ...แล้วพวกเขาก็หันหน้าเข้าท้าทายกับเทพเจ้า

                ...ท้าทายกับโลกใบนี้ที่กำลังทดสอบมนุษย์ว่ายังจะสามารถก้าวเดินต่อไปในอนาคตที่มองเห็นแต่ความสิ้นหวังได้หรือไม่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×