ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #231 : Login 228: เผชิญหน้าลูนาริสแห่งจันทรา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 159
      8
      9 พ.ค. 61

    Login 228: เผชิญหน้าลูนาริสแห่งจันทรา

     



                ทันทีที่เน็กส์เข้าไปในร่างเมษา การตั้งฟอร์เมชั่นก็เสร็จไปขั้นหนึ่งซึ่งทันเวลากับที่ศัตรูโจมตีเข้ามาพอดี

                กรงเล็บสีดำโปร่งเหมือนเงาสองข้าง ลอดออกมาจากใต้ชุดคลุมสีเหลืองของลูนาริสแล้วพุ่งลงมาโจมตี

                วินด์ช็อก มาร์สไตรค์!

                อิงศรร่ายสกิลพร้อมกับลั่นไกยิงหน้าไม้ ลูกดอกพิเศษพุ่งออกไปแล้วระเบิดแตกเป็นลำธารเพลิงเผากรงเล็บเงาเหล่านั้น

                ยังต้องใช้เวลาอีกหน่อยกว่าฟอร์เมชั่นจะสมบูรณ์จำเป็นต้องมีเวลาให้มิ่งขวัญกับกวินทร์ร่ายสกิลสะสมยูนิทกับทำเงื่อนไขเวพ่อนไนซ์กันก่อน ดังนั้นเมษาที่รวมกับเน็กส์ไปแล้วจะมาจับคู่กับเขาเพื่อช่วยถ่วงเวลา

                กรงเล็บที่โดนเผาไปแล้วงอกขึ้นมาใหม่เพราะมันเป็นเงาอยู่แล้วกระมังคงเป็นวัสดุเทียมที่ลูนาริสสร้างขึ้นมา

                ซึ่งถ้าคิดแบบนั้นก็จะตอบได้ทันทีว่าทำไมถึงได้มีกรงเล็บพุ่งออกมาจากใต้ชุดคลุมอีกหลายสิบคู่เลยทีเดียว

                พระเจ้าคงตั้งใจจะเก็บกวาดในทีเดียวอย่างนั้นสิ

                ถ้าเป็นตอนที่อยู่บนโลกพวกเขาคงจะต่อต้านไม่ได้เลยเพราะลูนาริสจะปลดปล่อยแรงกดดันออกมาทำให้ขยับตัวไม่ได้อย่างที่คิด แต่ว่าบนอาคาชิกเรคคอร์ดแห่งนี้ดูเหมือนจะทำแบบนั้นไม่ได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง

                ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเมื่อรวมกับระดับเลเวลของพวกเขาที่เพิ่มขึ้นมาจากตอนนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหวทำให้ตอบโต้การโจมตีของพระเจ้าได้ในที่สุด

                ในที่สุดมนุษย์ก็ขัดขืนพระเจ้าได้แล้ว

                มีนาให้ไดโนเสาร์ของเธอที่โจมตีระยะไกลได้ยิงสกัดกรงเล็บพวกนั้นที หลังจากเคลียกรงเล็บพวกนั้นหมดแล้วนิวใช้สกิลเส้นใยเหวี่ยงตัวพี่ขึ้นไปข้างบนนะ

                ทั้งสองคนนั้นตอบรับในทันที

                รับทราบค่ะ!” “ค่ะพี่ศร!

                มีนาเงื้อเคียวแล้วทุบลงบนพื้นสร้างรอยแยกเรียกไดโนซอมบี้ขึ้นมา ฟอสซิลโครงกระดูกที่มีชีวิตของไดโนเสาร์มีแผ่นเกล็ดบนหลังสายพันธุ์สเตโกซอรัสผุดขึ้นมาจากรอยแยกนั่นแล้วจึงปิดตัวสนิท

                ลุยเลยจ้า~~ สเตโกจัง ปืนใหญ่หนาม

                โครงกระดูกส่งเสียงคำรามหวีดแหลมตอบรับคำสั่งของเธอได้ทั้งที่ไม่มีอวัยวะภายใน จากนั้นมันก็โก่งหลังที่เต็มไปด้วยแผ่นเกล็ดแหลมคม ระดมยิงแผ่นเกล็ดขึ้นไประรัวเหมือนปืนกล เมื่อแผ่นเกล็ดปะทะเข้ากับกรงเล็บเงาพวกมันก็จะระเบิด

                เกิดระเบิดต่อเนื่องกลางอากาศ ระเบิดดังตูมตามสะเทือนเลือนลั่น ควันไฟจากการระเบิดบดบังทัศนวิสัย แต่กรงเล็บของลูนาริสก็ถูกหยุดไปเรียบร้อย

                เมื่อสบโอกาสแล้วอิงศรจึงส่งสัญญาณ

                นิว!

                พับเพ็ทแดนซ์!

                เด็กสาวประกาศร่ายสกิลแล้วเส้นใยก็ถักทอขึ้นในมือ เธอสะบัดมือขว้างเส้นใยมาที่เขา

                สัมผัสของร่างกายขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้ร่างกายของเขาจะถูกโอนการควบคุมให้กับนิวโดยสมบูรณ์

                ขณะเดียวกับเมษาก็ร่ายสกิลเสริมพลังให้กับตัวเองเพื่อที่จะตามเขาขึ้นไปด้วย

                เมษาถอดเสื้อเกราะของตัวเองออกด้วยสกิล เชิ้ตออฟซึ่งเป็นกลยุทธ์พื้นฐานเฉพาะตัวที่เพิ่มพลังโจมตีให้สูงขึ้นจากนั้นก็ร่ายสกิลต่อเนื่อง

                เดินลมปราณ

                แล้วตวัดแขนทำท่าเหมือนปัด ทันใดนั้นลูกไฟยูนิทสีเทาจำนวนสี่ลูกก็ปรากฏขึ้นตามแนวการวาดของมือที่ตวัดไปเมื่อครู่

     

    [ศาสตร์ลับ "เดินลมปราณ" Lv(2/2)

    Element: -

    Attribute: Martial Art, Support, Technical

    กระบวนท่าพิเศษดึงพลังแฝงที่ซ่อนเร้น  ได้รับ Awakening Unit ไร้สี 4 หน่วย]

     

                เมษาใช้สองมือรวบเอายูนิทที่ลอยเรียงกันอยู่บีบประกบมันด้วยฝ่ามือทั้งสองข้างจนแนบชิดติดกัน

                ผนึกลมปราณ!

                เป็นสกิลสำหรับเพิ่มค่าพลังพื้นฐานทุกค่าให้สูงขึ้นตามจำนวนยูนิทที่จ่ายให้

     

    [ศาสตร์ลับ "ผนึกลมปราณ" Lv(4/4)

    Element: -

    Attribute: Martial Art, Support, Technical

    (Cast Cost) Awakening Unit 1 หน่วยขึ้นไปแต่ไม่เกิน 4 ;เสริมพลังด้วยลมปราณจนถึงขีดสุด (เพิ่มค่าสมรรถภาพพื้นฐานทั้งหมด + 10 * จำนวนยูนิทที่จ่ายให้)]

     

                ตอนนี้ร่างของเมษามีออร่าพลังห้อมล้อมรัศมีของพลังเด่นชัดถึงขนาดนั้นเพราะเป็นการเสริมพลังขั้นสูงสุดให้กับตัวเองความแข็งแกร่งคงจะไล่เลี่ยกับราชครูมนุษย์ต่างดาวระดับล่างๆ ได้เลยทีเดียว

                เมื่อเมษาพร้อมแล้วอิงศรก็ให้สัญญาณแก่นิวอีกครั้ง

                เอาเลย!

                พอนิวได้ยินก็รวบเส้นใยทั้งหมดไว้ด้วยสองมือแล้วเหวี่ยงไปทางซ้ายสุดแรงจนลำตัวหันตาม ด้วยการทำแบบนั้นร่างกายของเขาที่ถูกควบคุมด้วยเส้นใยจึงพุ่งขึ้นไปตามแรงเหวี่ยงเหมือนตุ๊กตาถูกขวัาง

                หลังจากขึ้นไปแล้วนิวก็กระตุกเส้นใยทั้งหมดออกจากร่างของเขาทำให้กลับมาควบคุมการเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

                ประจวบกับที่เมษากระโดดพุ่งขึ้นมาแล้วแซงหน้าเขาไป อิงศรยกหน้าไม้ขึ้นเล็ง การยิงคุ้มกันให้เมษาจะเป็นหน้าที่ต่อจากนี้

                นี่ก็คือรูปแบบฟอร์เมชั่นใหม่ที่ให้ผลัดกันโจมตีทีละคู่ คนหนึ่งจะโจมตีอีกคนคอยสนับสนุนแล้วพวกที่วางไว้ให้สนับสนุนอีกก็จะช่วยให้เพื่อนตายยากขึ้น ฟอร์เมชั่นใหม่นี้ได้ทั้งรุกและรับในเวลาเดียวกัน

                ชื่อของมันคือ ฟอร์เมชั่นแซดตัว Z ที่เป็นตัวสุดท้าย

                นี่คือฟอร์เมชั่นสุดท้ายของพวกเขาแล้ว เพราะเมื่อภารกิจนี้สิ้นสุดลงจะไม่มีโลกที่ต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างไร้เหตุผลแบบนี้อีกต่อไป

                ทุกคนต่างก็เชื่อมั่นอย่างนั้นจึงร่วมต่อสู้กันด้วยฟอร์เมชั่นที่มีชื่อว่าสุดท้ายนั่นเอง

     

                ลูนาริสปล่อยกรงเล็บเงาออกมาจากใต้ผ้าคลุมอีก จำนวนคือสิบทั้งหมดมุ่งตรงมาที่นี่

                วินด์ช็อก เมอร์คิวรี่สไตรค์!

                อิงศรลั่นไกหน้าไม้ แผ่นยันต์ซึ่งโหลดอัตโนมัติจากที่ซุกไว้ในแขนเสื้อด้วยสกิลลุกไหม้ส่งเสียงดังฉู่

    แล้วลูกดอกพิเศษซึ่งเกิดจากไฟสีฟ้าครามก็พุ่งออกไป ระเบิดแล้วกลายเป็นสารธารเย็นยเยือกไหลเชี่ยวพัดกรงเล็บให้เบี่ยงออกไปจากตัวเมษา

                แต่ปัดออกไปได้แค่ห้าอันเท่านั้น ยังเหลืออีกห้าอันที่มุ่งเข้าหาเมษา

                อิงศรเดาะลิ้นด้วยความเจ็บใจ

                ชิ พลังไม่พอเรอะ มีนา!

                พอตะโกนเรียกไปแบบนั้น มิสไซล์แผ่นเกล็ดก็พุ่งแซงหน้าไปปะทะกับกรงเล็บที่เหลือ เกิดระเบิดขึ้น กรงเล็บขาดกระจุยเป็นชิ้นๆ ทำให้เมษาผ่านเข้าไปถึงตัวของพระเจ้าได้

                แต่ก็ยังถึงแค่ปลายของเสื้อคลุมเท่านั้น แรงส่งจากกระโดดมาถึงแค่ตรงนี้

                ถึงแล้วเน็กส์

                เมษาพูดกับเน็กส์ที่สิงร่าง แล้วเน็กส์ก็ร่ายสกิลตอบกลับมา

                วินด์วาร์ป!

                พริบตาถัดมาเมษาก็หายตัวไปโผล่เกือบถึงส่วนที่เป็นดวงจันทร์

                อิงศรเพ่งสายตามองขณะที่ตัวเองกำลังร่วงหล่น ขนาดตัวของเมษาที่มองจากมุมนี้ดูเล็กลงถนัดตาแต่พระจันทร์กลับยังมองเห็นได้ชัดเจน เมษาที่ขึ้นไปสูงจนเกือบจะถึงคงมองเห็นสัดส่วนที่แท้จริงของดวงจันทร์ได้ คาดว่าขนาดของมันคงจะใหญ่กว่าภูเขาทั้งลูกหรือไม่ก็ตรงนั้นอาจจะเป็นดวงจันทร์จริงๆ เลยก็ได้

                เน็กส์ใช้สกิลเคลื่อนย้ายอีกครั้งพาเมษาเข้าไปประชิดผิวดวงจันทร์

                เมษาเงื้อหมัดขึ้น บรรจุสายฟ้าลงในกำปั้นแล้วซัดลงไป

                ซุสนัคเคิล!!”

                ที่ผิวดวงจันทร์ของแอดมินิสเทรเตอร์

                เปรี้ยง! เสียงสนั่นบาดหูดังกึกก้อง เกิดระเบิดขึ้นที่ผิวดวงจันทร์แล้วเมษาก็ปลิวกระเด็นออกมาเพราะแรงสะท้อนจากท่าของตัวเอง

     

    เมษา Lv. 144 [/////76540:77000////.]

     

                พลังชีวิตของเมษาลดลง การโจมตีเมื่อครู่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บมันมีเรื่องแบบนั้นด้วยหรือ?

                คำตอบก็คือไม่มี

                อิงศรสรุปอย่างนั้น ที่เมษาบาดเจ็บก็คงเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของแอดมินิสเทรเตอร์ อาจจะสะท้อนความเสียหายกลับมาได้

                “….”

                ไม่รู้สิ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแอดมินิสเทรเตอร์เลย นรินทร์ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้แต่ถ้าใช้เดม่อนแอพฯ ไม่ได้เรื่องนั้นก็ทำไม่ได้เหมือนกัน จะถามซีลอร์ดเหรอ แต่หมอนั่นโดนอัดจนขยับตัวไม่ได้ไปแล้ว

                ชิ

                อิงศรเดาะลิ้นด้วยความเจ็บใจแล้วหันหน้าไม้ลงไป

                ชาร์คชู้ต!”

                หลังจากร่ายสกิลแผ่นยันต์อาคมก็ลุกไหม้ไปอีกแผ่น เขาลั่นไกยิงกระสุนฉลามวารีให้เกิดแรงสะท้อนผลักตัวเองให้ลอยขึ้นไป

                การโจมตีเมื่อกี้ของเมษาไม่ฝากรอยแผลให้กับดวงจันทร์เลยแม้แต่น้อยแถมแอดมินสเทรเตอร์ก็ไม่มีแถบพลังชีวิตแสดงให้เห็นด้วยจึงไม่รู้ข้อมูลของอีกฝ่ายว่าได้รับความเสียหายบ้างหรือเปล่า

                ไม่รู้อะไรเลยซักอย่างแต่พระเจ้ากลับรู้พวกเขาอย่างหมดเปลือก

                รู้ว่าอีกเท่าไหร่ถึงจะฆ่าได้จากพลังชีวิต

                รู้การเคลื่อนไหวของพวกเขาที่มีพื้นที่จำกัดโดยที่ตัวเองลอยอยู่บนท้องฟ้า เพราะสมาชิกจำนวนหนึ่งของพวกเขาต้องยืนต่อสู้บนพื้นดิน

                แล้วก็คงรู้หมดว่ามีสกิล พลัง วิชา อะไรบ้าง เพราะฝ่ายนั้นเป็นถึงผู้ที่กำหนดความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง แน่นอนว่าเกมโลกาวินาศที่ซีลอร์ดวางระบบร่วมกับซีเซียมก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น

                แล้วพวกเขาก็พยายามจะต่อสู้กับศัตรูที่ตนเองเสียเปรียบทุกทางอยู่นี่

                แต่ว่ายังเหลือยูนิทที่ต้องสะสมอีกสองลูกเพื่อใช้ท่าไม้ตายถึงจะไม่รู้ว่าพลังที่เท่าเทียมกับการโจมตีของเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์จะใช้ได้ผลกับพระเจ้าที่เป็นผู้สร้างได้หรือเปล่าก็ตาม

                ก็มีแต่ต้องทำนี่เนอะ วินด์ช็อก!”

                แผ่นยันต์อาคมถูกใช้ไปอีกแผ่นเพื่อสเริมพลังให้การใช้สกิลถัดไป ทำให้ได้ยูนิทมาสะสมเอาไว้

                ก็มีแต่ทางเลือกแบบนี้อยู่ตลอด มีแต่ต้องเลือกทางต่อสู้แบบที่มองไม่เห็นอนาคตข้างหน้า ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนกว่าจะได้เดินไป ทางเดินที่มีบรรยากาศน่ากลัวรายล้อม เสียงโหยหวนอันน่าสยดสยองที่เรียกว่า ความเสี่ยง

                 อนาคต มักจะหลบซ่อนอยู่ในทางเดินแบบนั้นเสมอรอให้เข้าไปลุ้นเอาเองว่าเดิมพันชีวิตที่วางลงไปจะได้คุ้มหรือว่าหมดตัว

                นั่นแหละคือการเป็นมนุษย์ การเลือกทางเดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดจนกว่าชีวิตที่เป็นเดิมพันจะหมดในระหว่างทางนั้นจะกอบโกยอะไรมาได้บ้างก็จะกลายเป็นรอยเท้าให้คนที่ตามหลังมา

                การ ก้าวเดินไปข้างหน้ามันเป็นแบบนั้นแหละถ้ามัวเอาแต่เดินตามรอยเท้าของคนที่ล่วงหน้าไปก่อนสุดท้ายก็จะจบลงไปแบบคนๆ นั้น เพราะมนุษย์เอาแต่ทำแบบนั้นมาตลอดในช่วงหลังจากที่ก่อร่างสร้างอารยธรรม ทุกคนก็พากันหวาดกลัวความเสี่ยงแล้วเอาแต่เลือกเดินตามๆ กันไป เพราะแบบนั้นล่ะมั้งแอดมินิสเทรเตอร์ถึงคิดว่าพวกเขาเป็นวัชพืช

                วัชพืชที่ขึ้นได้ทุกที่ทุกหนแห่งขอแค่มีปัจจัยที่เพียงก็สามารถดำรงอยู่ได้โดยที่ไม่ก่อประโยชน์อันใดไว้ เหมือนกับการเลือกก้าวเดินไปในทางเดียวกันซ้ำๆ จนไม่มีความเป็นไปได้ใหม่เกิดขึ้นมาอีก

                ฮะ ฮะ ฮะ

                อิงศรหัวเราะให้กับตัวเองที่จู่ๆ ก็เกิดเข้าใจความนึกคิดของพระเจ้าขึ้นมา

                คงเพราะกำลังเผชิญหน้าอยู่ล่ะมั้งถึงได้เข้าใจว่าการเฝ้ามองอยู่ในตำแหน่งที่สูงถึงเพียงนี้มันให้ความรู้สึกแบบไหน

                ลูนาริสซึ่งไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลยหลังจากที่โดนหมัดของเมษาไปก็ยังคงปล่อยกรงเล็บออกมาจากใต้ชุดสีเหลืองอย่างไม่รู้จักหมดจักสิ้น

                มีกรงเล็บส่วนหนึ่งพุ่งมาหาอิงศร

                บ้าจริง!“

                อิงศรเล็งหน้าไม้แล้วลั่นไกยิงลูกดอกเพลิงธรรมดาๆ ออกไปโจมตีสกัดกรงเล็บ แต่ก็หยุดได้แค่สองสามอันเท่านั้นยังเหลืออีกสองอันที่พุ่งเข้ามาหา

                ตอนนั้นเองเสียงของเน็กส์กับเมษาก็ดังก้อง

                เอาเลยเน็กส์

                ครับ!”

                อิงศรชำเหลืองมองไปแวบหนึ่งก็เห็นเมษากำลังหมุนตัวควงสว่างกลางอากาศ

                เสียงร่ายสกิลของเน็กส์

                มหาวาโยราโอ

                เสียงตะโกนของเมษา

                เฮอริเทจ!!”

                ชื่อท่าที่ทั้งสองคนนั้นช่วยกันคิดขึ้นมาหลังจากคิดกลยุทธ์ใช้ท่าที่ฝืนเกินกำลังของเน็กส์โดยการเข้าไปอยู่ในตัวเมษาที่แข็งแรงกว่าเป็นคนรับแรงสะท้อนจากการใช้ท่าแบบพลิกแพลง เฮอริเทจ(Heritage) ความหมายของมันคือการสืบทอด ซึ่งก็ตรงตามความหมาย เมษาที่ใช้พลังของท่านั้นสืบทอดผ่านเน็กส์ที่เข้าไปสิง

                แสงอาคมธาตุลมหมุนวนเป็นพายุพัดออกมาจากมือของเมษาที่หมุนควงไปรอบๆ ทำให้มันกระจายออกไปโจมตีรอบทิศทางจากที่ปกติจะปล่อยออกไปได้แค่แบบกวาดทิศด้านหน้าเท่านั้น

                กรงเล็บทั้งหมดถูกทำลายในพริบตาและเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ที่กำลังตามขึ้นมาโจมตี

                ฟูพุ่งขึ้นมาพร้อมกับเงื้อค้อน พอความเร็วเริ่มจะตกก็เหวี่ยงค้อนทันทีเพื่ออาศัยแรงเหวี่ยงต่อระยะทางขึ้นไปอีกเล็กน้อย แต่นั่นก็ยังไปไม่ถึงตัวลูนาริสอยู่ดี

                แต่ก่อนที่จะตกลงไปฟูก็เปลี่ยนมาจับค้อนด้วยมือข้างเดียวแล้วควงมัน

                ธันเดอร์สไมท์!! (Thunder Smite)”

                ฟูร่ายสกิล ค้อนถูกบรรจุสายฟ้า แล้วขว้างออกไป

                เปรี้ยง! ค้อนที่มีสายฟ้าซัดใส่ผิวดวงจันทร์เต็มแรงจนเสียงดังสนั่นแบบคราวที่เมษาซัดลงไปแต่ก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี ค้อนกระเด็นออกไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นทั้งดวงจันทร์หรือแม้กระทั่งฟูที่โจมตีเข้าไปก็ไม่ได้รับความเสียหาย

                ดูท่าการสะท้อนความเสียหายนั่นอาจจะเกิดกับการโจมตีที่ใช้ร่างกายไปสัมผัสกับผิวดวงจันทร์หรือไม่ก็มีการปล่อยพลังที่ใช้โจมตีผู้ที่เข้าใกล้ดวงจันทร์แล้วเมษาก็ไปโดนเข้าตอนที่ซัดหมัดพอดี

                อิงศรพยายามทำความเข้าใจรูปแบบการต่อสู้ของพระเจ้า เทียบกับประสบการณ์ที่ต่อสู้มาทั้งหมด จากศัตรูทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ด้วยกัน มนุษย์ต่างดาว ปีศาจ สัตว์เทวะ หรือ เครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์

                แต่ไม่มีอันไหนที่เหมือนกันเลย พระเจ้าเหมือนกับยังไม่ได้เอาจริง การโจมตีที่ปลดปล่อยออกมาแต่พวกเขาก็ยังปัดป้องได้ เอาแต่ปล่อยการโจมตีแบบนั้นมาเหมือนกับกำลังทดสอบอะไรอยู่

                ทดสอบอย่างนั้นเหรอ

                หรือว่าทดสอบความตั้งใจของพวกเขาอยู่กันนะ

                อิงศรกลับลงมายืนบนพื้นพร้อมกับเมษาและฟู การโจมตีถึงสองครั้งไม่ได้ผลจำต้องหาทางรับมือต่อไปดังนั้นจึงหยุดการโจมตีเอาไว้แล้วมองหาช่องทางอื่น

                แล้วลูนาริสก็กล่าวออกมาในตอนนั้นเอง

                วัชพืชเอ๋ย สิ่งที่เรียกว่ามนุษย์คืออะไรอย่างนั้นรึ

                ก็แกสร้างพวกเราขึ้นมาไม่ใช่รึไงลองถามตัวเองดูเซ่

                พวกเจ้าน่าจะรู้ต้นกำเนิดนั้นไปแล้วนี่นะเพราะว่าออร์ฟิอูคูมันนาร์ได้บอกแก่พวกเจ้าไปแล้วนี่

                มันอ่านความคิดของพวกเขาได้อย่างนั้นหรือว่า...

                เหมือนกับซีลอร์ด

                แต่ลูนาริสก็พูดมาในทันที

                ความคิดอ่านของพวกเจ้าก็เป็นเพียงแทร็กข้อมูลหนึ่งที่ถูกบันทึกลงไปยังรากระบบ เอาล่ะมนุษย์เอ๋ย เมล็ดพันธุ์ผู้เกิดจากซากของมังกรเอ๋ย พวกเจ้าปรารถนาความเป็นไปได้ในการดำเนินการคงอยู่อย่างไร้ความหมายจนถึงกับมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ

                ท่าทางจะเป็นอย่างที่คิดตอนนี้เลยกลายเป็นว่าโดนดูออกไปจนหมดเปลือกแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของกำลังรบ กระทั่งความปรารถนาในจิตใจก็ด้วย ถูกล่วงรู้ไปทั้งหมด

                ถ้าอ่านความคิดของพวกเราได้ถึงขนาดนั้นแล้วก็ไม่เห็นต้องถามเลยนี่

                ข้าไม่เข้าใจประสงค์ของวัชพืชเลยจริงๆ

                นั่นเป็นคำโกหก อิงศรเข้าใจในทันทีว่าลูนาริสเปิดากสนทนากับเขาเพราะมุ่งหวังสิ่งใด

                เพราะว่าอีกแค่ไม่กี่วินาที แค่เวลาที่ใช้พูดคุยกันไปเมื่อกี้ก็ทำให้มิ่งขวัญกับกวินทร์เตรียมการเวพ่อนไนซ์เสร็จสมบูรณ์ รวมถึงพลอยที่ใช้สกิลจากอาวุธเทคนิคัลแบบพิเศษที่เรียกว่า เพิร์กเรเควี่ยม ทำให้แปลงร่างได้เหมือนกับสกิล เวพ่อนไนซ์ เพอกาทอรี่ฮิมส์ เดียโบลก็ใช้สำเร็จเช่นกัน

                เท่ากับว่าลูนาริสรู้อยู่แล้วว่าการพูดคุยเมื่อกี้จะทำให้กลุ่มของเขาพร้อมต่อสู้เต็มอัตราศึก

                แล้วทำไมถึงได้ยอมให้พวกเขาทำแบบนั้นได้กันล่ะ ถ้าว่ากันตามหลักเหตุผลแล้วไม่ว่าจะศัตรูแบบไหนถ้ารู้ว่าปล่อยไว้ศัตรูจะพร้อมฆ่าตัวเองก็คงจะชิงขัดขวางอย่างเต็มที่

                คำตอบนั้นง่ายมาก

                คิดจะดำเนินความปรารถนาอันไร้สาระด้วยพลังเพียงแค่นี้น่ะหรือ

                พวกเขาที่พร้อมรบเต็มที่ก็ยังมีพลังไม่พอจะเทียบชั้นด้วยนั่นเอง

                ถึงปล่อยให้แข็งแกร่งขึ้นมากขนาดไหนก็เอาชนะไม่ได้ พระเจ้ามีความมั่นใจในขอบเขตนั้นอยู่

                เมื่อกล่าววาจาประเมินพลังของพวกเขาอย่างต่ำต้อยแล้วดวงจันทร์ของลูนาริสก็เริ่มหันไปข้างหลัง

                พระเจ้ากำลังหันอีกโฉมหน้าออกมา

                โฉมหน้าอันน่าหวาดหวั่น

                ราวกับปีศาจ

                ราวกับอสูร

                ราวกับยมทูต

                 วัชพืชเอ๋ย...เกมจบลงแล้ว



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×