คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #256 : Extra Log 252: สวรรค์อนธกาล
Extra
Log 252: สวรรค์อนธกาล
เทิร์นบริงเกอร์
นั่นคือชื่อเรียกสังกัดของราหู
เป็นชื่อเดียวกับที่กฤษณะพูดเอาไว้ตอนอยู่ที่เกาะร้าง
เทิร์นบริงเกอร์
ทูตแห่งความว่างเปล่า
เทิร์นบริงเกอร์
ผู้นำมาซึ่งการพลิกกลับ
แล้วตอนนี้บนท้องฟ้าก็เนืองแน่นไปด้วยทัพของทูตแห่งความว่างที่กรูกันออกมาจากหลุมดำด้านบน
การมาของพวกมันทำให้สถานการณ์พลิกผันไปอย่างมาก
อิงศรเดาะลิ้น
“ชิ เยอะชะมัด”
พลางแหงนหน้ามองศัตรูที่ปิดล้อมท้องฟ้าด้วยจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อย
เหล่าทหารของเทิร์นบริงเกอร์มีทั้งที่รูปร่างเป็นมนุษย์และอมนุษย์
แต่ที่มีมากที่สุดน่าจะเป็นหุ่นจักรกล
ราวกับหลุดออกมาจากหนังสงครามอวกาศอย่างไรอย่างนั้น
ทหารของเทิร์นบริงเกอร์นั้นจะใส่ชุดรัดรูปสีดำคล้ายกับชุดอวกาศ
ติดเกราะหน้าอกสีขาวมีความมันวาวน่าจะสร้างขึ้นจากวัสดุคล้ายกับพลาสติก และผูกผ้าสีดำปิดบังดวงตามีลวดลายสีขาววาดเป็นนัยน์ตาขนาดใหญ่ทับเอาอีกที
พวกจักรกลก็มีทั้งแบบรูปร่างมนุษย์
ยานรบ สัตว์อสูร และ มังกร แตกต่างกันไป แต่สิ่งเดียวที่มีเหมือนๆ
กันหมดทั้งมนุษย์และจักรกลก็คือ ‘สวัสติกะสีดำ’ หมุดพัดกวัดแกว่งอยู่ตามที่ต่างๆ
ของร่างกาย พวกมนุษย์ส่วนใหญ่จะมี’ สวัสติกะสีดำ’ พัดอยู่บนหลัง
สวัสติกะสีดำ...
อิงศรพูด
“หรือว่าจะเกี่ยวกับนิมิตตอนนั้น”
นิมิตที่เมอร์คาบาห์แสดงให้เห็นที่วิหารบนแชงกริล่า
’สวัสติกะสีดำ’ ปรากฏขึ้นบนสวนศักดิ์สิทธิ์แล้วทำให้สวนตกอยู่ในกองเพลิง
‘สวัสติกะสีดำ’ ก็มีอยู่บนร่างของราหูด้วยเช่นกัน
เมื่อมหาเทพเกร็งมือปลดปล่อยสายฟ้าสีดำทะมึนออกมา ‘สวัสติกะสีดำ’ ก็หมุนวนอยู่รอบข้อมือทั้งสองข้าง
ราหูพูด
“จะมหาเทพราหู
หรือ แอดมินิสเทรเตอร์ราหูราลิส อันไหนๆ
ก็เป็นแค่เปลือกที่ใช้ในโลกจำลองแห่งนี้เท่านั้นตัวตนที่แท้จริงของข้าคือผู้ที่ถูกเรียกขานแม้แต่ในกองทัพเทิร์นบริงเกอร์ด้วยกันว่าเป็นฝันร้ายแห่งจักรราศี
เวิร์สแอกเกรซเซอร์ ไนท์แมร์โซดิแอก (Verse-Aggressor Nightmare Zodiac)”
มันบอกว่าตัวตนในฐานะแอดมินิสเทรเตอร์เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น
...ตัวตนที่แท้จริงของมันคือผู้รุกราน
คือฝันร้ายแห่งจักรราศี
ไนแมร์โซดิแอก...
“ที่โซลาริสบอกว่ามีผู้รุกรานก็คือเจ้าพวกนี้สินะ”
อิงศรพูดสรุปออกมา
แฟรนเซียมถาม
“แล้วผู้รุกรานอย่างแกมีเป้าหมายอะไรกันแน่”
ออร์ฟี่พูดเสริม
“ส่งแฟรนเซียมมาจากอีกโลกคู่ขนาน
มอบอาคานาร์ให้อิงศร ปั่นหัวผมให้ก่อกบฏต่อแอดมินิสเทรเตอร์
เข้าแทรกแซงโลกมนุษย์ทำให้เกิดการทดสอบความตั้งใจขึ้นมาทั้งหมดนั่นหรือว่าจะมีเป้าหมายที่การโค่นล้มระบบแอดมินสเทรเตอร์กันอย่างนั้นล่ะ”
แล้วทันทีที่พูดจบ
หอกแห่งเมสสิยาห์ก็สะสมพลังงานเสร็จพอดี
หอกสีขาวบริสุทธิ์เปล่งประกายแสงสว่างเจิดจ้า
ออร์ฟี่ควงหอกนั่นพร้อมกับพูดว่า
“ไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้นะเพราะไม่ว่าจะมีเป้าหมายอะไรก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องกำจัดทิ้งไปอยู่ดี”
ไพ่อาคานาร์ปรากฏขึ้นห้อมล้อมออร์ฟี่
เหมือนเมื่อครั้งที่โค่นโซลาริส
ออร์ฟี่กำลังจะใช้ท่าไม้ตายเพื่อปิดฉากหัวหน้าของศัตรู
ถ้าหากทำได้กองทัพเทิร์นบริงเกอร์ที่ไม่มีผู้นำแล้วก็จะสูญเสียกำลังใจและถอยกลับไป
แต่ราหูกลับ
“ไม่มีประโยชน์หรอก
เทิร์นบริงเกอร์นั้นไร้ความรู้สึกมีเพียงปณิธานแห่งความว่างเปล่าที่ยึดมั่นพวกเราไว้เป็นปึกแผ่นแล้วก็อีกอย่าง...”
พูดเหมือนตอบโต้ความในใจของอิงศร
แต่ออร์ฟี่ไม่รอให้มันพูดจนจบ
“อาคานาร์อาร์ค!!”
เขาตวัดหอกชูขึ้นไปปลดปล่อยสายรุ้งพุ่งไปที่ราหุพร้อมกับอาคานาร์ทั้งสิบใบ
ทั้งหมดผนวกเข้ากับลำแสงแห่งความปรารถนาแล้วมุ่งไปข้างหน้า
เสี้ยววินาทีก่อนที่ลำแสงจะเข้าถึงตัว
ราหูกลับพูดอย่างใจเย็น
“ออร์ฟิอูคูมันนาร์ทำไมตัวเจ้าถึงยึดติดกับอดัมที่ไม่น่าจะมีตัวตนอยู่จริงๆ
ได้ทั้งที่มันเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาของมนุษย์แล้วสวนศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าสังกัดอยู่ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวพ้องกับไบเบิลเลยซักนิดเดียวหัวใจของเจ้ามันบอกเช่นนั้น
ความสับสนนั่นสลักอยู่ในความปรารถนาของเจ้าถ้าอย่างนั้น”
ราหูแสยะยิ้มและไม่ขยับตัวเลย
ไม่รู้ว่าคิดจะต้านรับเอาไว้หรือสิ้นลายแล้วกันแน่
บางทีคงจะเป็นอย่างแรกหรือก็คือราหูไม่ได้ยี่หระเลยว่าลำแสงที่มันกำลังจะรับเอาไว้นั้นเคยฆ่าพระเจ้า
เคยทำลายแอดมินิสเทรเตอร์มาก่อน
“ไรท์
โพรเทคเวนท์”
ราหูเอ่ยพร้อมไพ่ใบหนึ่งปรากฏขึ้นในอุ้งกรงเล็บ
ตัวไพ่เปล่งแสง เกิดเสียงดังฟุ่บแล้วหายวับไป
อึดใจถัดมาก็มีช่องว่างมิติเปิดขึ้นเบื้องหน้าราหู
มีคนก้าวออกมาจากช่องว่างนั้นก่อนที่มันจะปิดลงทำให้คนผู้นั้นขวางทางลำแสงไว้
“เวิร์สแอกเกรเซอร์
เอดีเอเอ็ม สตอรี่เบรกเกอร์ (Verse-Aggressor AD – AM Story Breaker)”
ลำแสงแหวกผ่านตัวชายคนนั้น
พวกมันไม่กร้ำกลายเข้าไปราวกับทำให้ลำแสงเชื่อฟังได้
แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับโฉมหน้าของชายผู้นั้นหรอก
ออร์ฟี่ที่เห็นชายคนนั้นพูดเปรยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“อดัม”
แต่อิงศรก็กล่าวขัด
“เรียกตัวจากโลกคู่ขนานมาสินะ”
หลังจากมีกรณีของกฤษณะเขาก็เข้าใจแล้วว่ายุทธวิธีของราหูคือการเรียกตัวตนที่เหมือนกับพวกพ้องเขามาจากโลกคู่ขนาน
“เปล่าเลยนี่คือ
อดัมที่พวกเจ้าได้พบเจอบนสวนศักดิ์สิทธิ์นั่นล่ะบอกไปแล้วนี่ว่าข้าคือผู้ที่ผลักดันพวกเจ้าในการโค่นล้มเหล่าแอดมินิสเทรเตอร์
เอดีเอเอ็ม (AD - AM) หรือ
ออโต้เมชั่นดรอยด์อาร์ติแฟคเชียลแมน (Automation Droid - Artifactial Man) อดัมก็คือไซเบอร์รอยด์ที่ข้าสร้างขึ้นมาในฐานะฝ่ายวิจัยพัฒนาสงครามของเทิร์นบริงเกอร์
คืออาคานาร์ เดอะ ฟูล ที่ข้าจงใจเอามันไปใส่ไว้ในตัวออร์ฟิอูคูมันนาร์ไงล่ะ
มนุษย์เขลาที่กลืนกินผลแห่งปัญหาแล้วกำแหงต่อพระเจ้านามว่า อดัม อะไรกัน
มันก็เจ้าเองนั่นแหละที่รับบทบาทนั้น ออร์ฟิอูคูมันนาร์ผู้ทรยศ เทรเตอร์จอยน์มี (traitor join me) ฮะฮะฮะ”
พอราหูลั่นหัวเราะอย่างสะใจ
ออร์ฟี่ก็เบ้หน้าแล้วพูดว่า
“แกเป็นคนส่งเมล์นั่นมาตอนผมอยู่ที่ร้านกาแฟจริงๆ
ด้วยรวมถึงการบุกรุกรากแห่งอาคาชิกนี้เมื่อตอนนั้นด้วยสิ”
ออร์ฟี่พยายามบ่ายเบี่ยงไม่พูดถึงเรื่องของอดัม
หรือว่านั่นจะเป็นอย่างที่ราหูพูด
หมอนี่รู้จักอดัมมากที่สุดดังนั้นน่าจะดูออกว่าชายที่โผล่มานั้นเป็นตัวจริงหรือเปล่า
การบ่ายเบี่ยงนั่นเท่ากับเป็นการยอมรับอย่างนั้นหรือ
“ออร์ฟี่นาย…”
อิงศรไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
เขาเองก็สับสนเช่นกัน
ตอนนั้นเอง
ราหูก็พูดตอบ
“อา แบบนั้นแหละ
อดัมก็คือสปายที่ส่งไปสอดแนมและปรับปรุงความทรงจำของเจ้า
จัดฉากให้แผนการดำเนินมาถึงตอนนี้อย่างสมบูรณ์ แล้วก็เมล์กับการบุกรุกนั่นก็ด้วย
ทั้งหมดก็เพื่อกระตุ้นให้ความทรงจำที่ปรับปรุงเข้าไปนั้นทำงาน
ทำให้เจ้าเดินไปตามบทที่วางเอาไว้ และได้มอบอาคานาร์ที่จำเป็นให้กับอิงศร นำไปสู่การทดสอบที่เจ้ามอบให้อิงศรทำให้พลังของพวกเขาก้าวกระโดดขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง”
อิงศรสังเกตเห็นว่าช่วงที่ราหูพูดถึงอดัมนี้
ออร์ฟี่ชักสีหน้าเจ็บปวดอยู่ตลอด
มันก็เจ็บปวดเกินไปจริงๆ
นั่นแหละ
ถ้าหากว่าชายที่ราหูเรียกมาซึ่งประจันหน้ากับพวกเขาตอนนี้คืออดัมตัวจริงแล้วล่ะก็
ถ้าที่ผ่านมาทั้งหมดตั้งแต่ยุคสมัยที่มนุษย์ยังไม่ถือกำเนิดเรื่อยมาจนถึงตอนนี้เลยก็เป็นแผนของฟาวเดชั่นอี
เป็นแผนของราหูแล้วล่ะก็…
ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านพวกเขาสู้และดิ้นรนไปเพื่ออะไรกัน
ครืน ครืนนนน
เสียงอะไรบางอย่างที่ใหญ่มโหฬารกำลังถล่ม พอแหงนหน้ามองไปยังต้นทางที่เสียงดังมานั่น
โลกคู่ขนานซึ่งปรากฏเป็นช่องว่างบนท้องฟ้าก็กำลังตกลงมาที่โลกฝั่งนี้
ไม่ว่าจะอาคาร พื้นดิน น้ำ รวมถึงผู้คน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตกลงมายังโลกในฝั่งนี้
มายังรากแห่งอาคาชิกที่พวกเขายืนอยู่ จะถูกหลุมดำดูดกลืนเข้าไป
ทุกสิ่งทุกอย่างหายวับเข้าไปถายในหลุมดำ
แล้วมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่โลกของมิ่งขวัญจากอนาคตเท่านั้นแต่ยังมีโลกคู่ขนานอื่นๆ
ที่เปิดขึ้นมาบนท้องฟ้าก็ถูกดึงเข้าไปภายในหลุมดำด้วย
ตอนที่สร้างหลุมดำขึ้นมาราหูได้พูดเอาไว้แบบนี้
การหลอมรวมโลกจากทุกวัฏจักรได้เริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อกวนทุกอย่างเข้าด้วยน้ำอมฤตก็จะสมบูรณ์
การหลอมรวมที่ว่าคงหมายถึงแบบนี้
โลกทุกใบ ความเป็นไปได้ที่คู่ขนานกัน
ทั้งหมดจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันภายในหลุมดำนั่นผลลัพธ์ที่รออยู่ ณ
ปลายทางของการควบรวมโลกทุกใบไว้ภายในหลุมดำรวมถึงโลกฝั่งนี้ด้วยจะออกมาเป็นน้ำอมฤต
น้ำอมฤต นั่นคืออะไรกันแน่?
จนถึงตอนนี้ราหูก็แทบไม่ได้บอกคำตอบออกมาเลยหรือว่านั่นจะเป็นผลลัพธ์สำคั
เป็นเป้าหมายที่แม้จริงของมันกันนะ
“…”
อิงศรจ้องมองไปยังราหู
พยายามมองหาดวงตาของมันแต่ไม่พบเลย
บนใบหน้าที่ดูสงบนิ่งซึ่งอยู่บนศีรษะที่ซ่อนลึกอยู่ในปากของที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมนั้นดวงตาของมันปิดสนิทราวกับมืดบอด
ทำให้อ่านทางไม่ได้
ที่จริงเขาพอจะรู้แล้วว่าสมมติฐานเมื่อครู่น่าจะถูกเพราะถ้าเป็นตาม
กติแล้วราหูคงทักมาแล้วเพราะมันคอยอ่านใจพวกเขา
รับรู้ความนึกคิดของพวกเขาได้และคอยตอบโต้ให้ไขว้เขวอยู่ตลอด การที่มันไม่แย้งมาเป็นหลักประกันอย่างดี
ในตอนนั้นเอง
จู่ๆ
หูก็ได้ยินเสียงหนึ่งชัดเจนขึ้นมา สันหลังเสียววาบไปถึงกระดูกดำ
อิงศรไม่เคยรู้สึกอะไรแบนี้มาก่อน
เขาหันเหสายตาไปยังจุดที่ความรู้สึกอันน่าหวาดเสียวนี้ส่งมา บนท้องฟ้าที่ๆ
โลกคู่ขนานใบอื่นถูกหลุมดำดูดกลืนหายไป เขามองเห็นเด็กชายคนหนึ่ง
เด็กชายที่ดูคุ้นเคย
ตัวเขาเองในวัยเด็กนั่นเองซึ่งอยู่ในโลกคู่ขนานใบอื่นกำลังถูกหลุมดำดูดเข้าไป
อิงศรได้แต่ยืนมองตัวเองในโลกใบอื่นหายเข้าไปในนั้น
ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นมันยากจะบรรยาย
แต่ว่า…
“ราหู…ไม่สิ
เทิร์นบริงเกอร์หรืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ”
เขาพูดโดยที่ไม่อาจสงบความโกรธที่กำลังพุ่งพล่านได้อีก
แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะเข้าตาจนอยู่ก็ตาม
แต่ว่า
ราหูทำร้ายพวกเขา ทำร้ายจิตใจของพวกพ้อง ทำให้พวกเขาเป็นเหมือนของเล่นของมัน
“พวกเราจะไม่ยอมให้แกได้ทำตามใจชอบอีกแน่”
อิงศรชูมือขึ้นไปแล้วเรียกอาคานาร์สีทองออกมา
“เมอร์คาบาร์ฮันเซลัชช่า”
ร่างอวตารของเทวทูตที่คล้ายคลึงกับเขาบินทะยานออกจากไพ่
พุ่งขึ้นไปยังหลุมดำ
“สะบั้นภาพลวงตานั่นเลยเมอร์คาบาห์”
พริบตานั้นเอง
ซีเซียมก็เคลื่อนไหวตอบโต้คำพูดของเขา เพราะว่าที่นี่ยังไม่มีใครที่มียูนิทสะสมเอาไว้เลย
“กีก้าเอเนอร์จี้”
ซีเซียมร่ายสกิล
ทำให้ตัวเองมียูนิทลอยห้อมล้อมปืนของเขาถึงสี่ลูกด้วยกัน
อิงศรเหลือบสายตามามองการกระทำนั้นอย่างเข้าใจพร้อมกับออกคำสั่งเมอร์คาบาห์
“เมสไซอาห์บัสเตอร์”
ยูนิทลูกหนึ่งของซีเซียมลอยขึ้นไปหาเมอร์คาบาห์
เมื่อดูดกลืนยูนิทนั้นเทวทูตก็ประกบดาบที่แขนเข้าด้วยกันแล้วเหวี่ยงมันขึ้นไปยังหลุมดำ
ครั้งหนึ่งที่รากแห่งอาคาชิกนี้เขากับเมอร์คาบาห์เคยทำลายหลุมดำมาก่อนครั้งนี้ก็น่าจะทำได้เหมือนกันและหากทำสำเร็จก็อาจหยุดยั้งแผนการของราหูลงได้
ทว่า
อะไรๆ มันก็ไมได้ง่ายดายแบบนั้น
ทันทีที่เห็นว่าอิงศรเล็งเป้าไปยังหลุมดำราหูก็ตอบโต้ในทันที
ราหูโยนไพ่ที่น่าจะเป็นอาคานาร์ขึ้นไป
ไพ่แข่งความเร็วกับดาบของเมอร์คาบาห์อยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะระเบิดออกแล้วเปิดโพรงมิติให้นักรบที่อัญเชิญมาจากโลกคู่ขนานแซงหน้าไปหยุดการโจมตีเอาไว้
เมสไซอาบัสเตอร์ปะทะเข้ากับโล่ของนักรบผู้นั้นแล้วกระดอนออกอย่างง่ายดาย
ราหูพูด
“จะขอแนะนำให้รู้จักกับเวิร์สแอกเกรซเซอร์แห่งโล่เหล็กไหลเซ็นจิน หรือจะเรียกว่าเน็กส์ก็ได้นะ”
แล้วนักรบที่ป้องกันหลุมดำเอาไว้ก็ขยับโล่ออกเผยใบหน้าที่เหมือนกับเน็กส์ทุกระเบียดนิ้วแต่อายุมากกว่าตัวจริงราวสองปีได้
ผูกผ้าคาดตาสีดำที่มีลวดลายดวงตาดวงใหญ่สีขาวและสวมชุดรัดรูปเหมือนกับพวกนักรบเทิร์นบริงเกอร์
โลกคู่ขนานบนท้องฟ้าถูกดูดเข้าไปในหลุมดำจนกระทั่ง
ท้องฟ้ากลายเป็นความมืดอันเคว้งคว้าง ความเปล่า ฉายปรากฏอยู่แทนที่ในทุกๆ
โลกคู่ขนาน
ในตอนนั้นเอง
ราหูก็ได้คิดที่จะปิดบัญชีกับพวกเขายืนอยู่ตรงนี้
“จัดการพวกมัน”
***ช่วงนี้เจองานรุมเร้าจนเขียนไม่ทันเรื่อยๆ เลยขนาดอาทิตย์ที่แล้วงดไปอาทิตย์หนึ่งยังไม่วายโดนโยนงานมาให้ทำในวันหยุดด้วยเฮ้อ~~จากนี้อาจจะลดจำนวนตอนเป็นสองตอนต่ออาทิตย์ถาวรเลยก็ได้นะเนี่ยถ้ายังอยู่ในสภาพนี้
ยังดีว่าเนื้อเรื่องจะจบแล้วเอาเป็นว่าพบกันอีกทีวันพุธนะครับถ้าปั่นทัน
กระทั่งตอนนี้ยังปั่นมาได้ไม่กี่หน้าเอง TwT ตอนหน้าคิดว่าน่าจะจบ
Act เฉลยของราหูเสียทีเพราะเฮียแกปล่อยของเล่าแผนการหมดแล้วจากนี้ไปพวกอิงศรก็ต้องหาทางโค่นให้ได้กันล่ะนะ***
ความคิดเห็น