ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #255 : Extra Log 251: Turn Bringer

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 144
      5
      1 ส.ค. 61

    Extra Log 251: Turn Bringer

     

                แฟรนเซียม...”

                อิงศรกล่าว ตาเขาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยตกอยู่ในอาการตะลึงงึนงัน สาเหตุก็เป็นเพราะชายผู้ที่น่าจะตายไปแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งได้

                ตายในฐานะกบฏของธุวดารกะ

                ตายในฐานนะราชาของมนุษย์ต่างดาว

                ตายในฐานะขวากหนามสุดท้ายก่อนการเผชิญหน้ากับพระเจ้า

                แล้วถึงแม้ว่าความตายในครั้งที่สามเขาเป็นคนมอบมันให้กับมือเองก็ตาม ชายผู้นั้นก็ยังกลับมายืนอยู่ตรงหน้าได้อีก

                ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่”

                อิงศรกล่าวความในใจออกไป

                ออร์ฟี่ที่ยืนอยู่เคียงข้างเขาพูด

                ผมคืนชีพให้พวกเขาเพื่อค้นหาความจริงน่ะ”

                ความจริงงั้นเหรอ...หรือว่านายรู้เรื่องอะไรบ้างแล้ว”

                ออร์ฟี่พยักหน้าแต่ยังไม่ทันจะได้พูด

                คือว่า...”

                สมุนของราหู ผู้หญิงผมขาวซึ่งประดาบกับลิเธียมอยู่สลัดหลุดจากการไล่ตามมาได้ ในจังหวะนั้นหล่อนถอดแขนที่เป็นเคียวออกข้างหนึ่งแล้วขว้างมันมาทางนี้

                อันตราย!”

                มิ่งขวัญวัย 15 ตะโกนพลางเอาตัวเข้ามาบังพี่ชาย ยกโล่ขึ้นป้องกันเคียวที่หมุนติ้วมาที่นี่

                เคียวกระแทกเข้ากับโล่แล้วกระดอนออก มิ่งขวัญคิดว่าภัยอันตรายที่คืบคลานมายังพี่ชายได้หมดลงไปแล้ว

                แต่ทว่าเขาคิดผิด ผู้หญิงผมขาวทุ่มสุดชีวิตของหล่อนถอดเคียวจากแขนอีกข้างและขาทั้งสองข้าง ขว้างพวกมันมาก่อนที่ลิเธียมจะตวัดดาบสับร่างนั้นขาดเป็นสอง

                เคียวที่บินดิ่งตรงมานั้นหมุนควงจากากรขว้างทำให้มันเคลื่อนไหวฉวัดเฉวียนจนไม่อาจคาดเดาทิศทางได้ ไม่สามารถใช้โล่รับเอาไว้เหมือนกับอันก่อนหน้านี้ได้ มีแต่ต้องปัดมันให้ร่วงก่อนจะมาถึงเท่านั้น

                มิ่งขวัญไถลมือไปกับเรเปีย

                รอยัลเซเบอร์”

                แสงสว่างห่อหุ้มใบดาบของเรเปีย มิ่งขวัญตวัดมันออกไปพร้อมกับร่ายสกิลต่อเนื่อง

                บริโอแน็ค!”

                แสงจากใบดาบยืดยาวออกไป มิ่งขวัญตวัดดาบปัดเคียวร่วงไปได้สองอันแต่เหลืออีกหนึ่งอันที่ปัดทิ้งไม่ทัน

                ชิ”

                มิ่งขวัญเดาะลิ้นพลางออกแรงบิดข้อมือตัวเองเพื่อดึงดาบกลับมา สายตาจับจ้องไปที่เคียวซึ่งกำลังหมุนติ้ว กะจังหวะแล้วตวัดดาบเพื่อสอบมันให้ร่วง แต่เพราะฝืนบังคับใช้แรงบิดข้อมือแล้วดึงกลับกะทันหันทำให้ควบคุมทิศทางการฟันได้ไม่ดีนัก ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยนั่นทำให้ดาบตวัดพลาดไปจากเคียว

                เคียวหมุนติ้วตรงเข้ามา ตำแหน่งนั้นเล็งมาที่คอของมิ่งขวัญ

                ขวัญ!”

                อิงศรตะโกน เขาจับดาบแล้ววิ่งออกไปจะช่วยน้องชายแต่ว่ามันไม่น่าจะทันการ เคียวน่าจะฝังเข้าไปที่คอของมิ่งขวัญก่อนที่เขาจะไปถึง

                ปัง เสียงปืนดังขึ้นคล้ายเสียงคำราม ลูกกระสุนบินตัดหน้าอิงศรไปแล้วชนเข้ากับเคียวทำให้มันกระเด็นไปทางอื่นจนกระทั่งร่วงหล่นลงสู่พื้น

                เกือบไป เกือบไป ถ้าเจ้าศรวิ่งออกมาเร็วกว่านี้ได้กินลูกปืนแทนแน่”

                เสียงนั่นมัน...

                อิงศรหันไปยังทิศที่ลูกกระสุนพุ่งมา เจ้าของเสียงนั่นเขาจำมันได้เป็นอย่างดี

                ข้าวหลามก็ด้วยเรอะ”

                ชายหนุ่มเรือนผมสีทองยืนแบกปืนไรเฟิลที่ประกอบจากปืนสั้นสองกระบอกด้วยสกิลเทคนิคัลเวพ่อนพาดไว้บนบ่า กำลังจับจ้องมาทางนี้ ดูเหมือนว่าที่ออร์ฟี่คืนชีพให้จะไมได้มีแค่แฟรนเซียมเท่านั้น

                ข้าวหลามแบกปืนวิ่งเข้ามาสมทบกับพวกเขา... ให้ถูกคือตามมาสมทบกับแฟรนเซียม หรือสิงห์นั่นเอง

                ถึงจะฟื้นคืนชีพกลับมาก็ยังเป็นลูกน้องที่คอยรับใช้ไม่เปลี่ยนสินะ

                ข้าวหลามพูดกับมิ่งขวัญตอนที่วิ่งมาถึง

                ไง ไง งาย นึกไม่ถึงเลยเนอะว่าจะได้มาช่วยชีวิตคนที่เคยอัดตัวเองซะน่วมตอนเจอกันครั้งแรกเนี่ย”

                มิ่งขวัญเหลือบสายตามองข้าวหลามโดยที่ไม่ได้พูดตอบโต้อะไรกลับไป คงเพราะสับสนกับท่าทางของหมอนี่ ซึ่งอิงศรก็เห็นด้วยและคิดว่าคนที่ควรจะต้องตอบคำถามในเรื่องนี้ก่อนเลยก็คือ ออร์ฟี่

                อิงศรถาม

                สรุปแล้วนายคืนชีพให้ใครไปบ้างเนี่ย”

                ก็เยอะเอาเรื่องอยู่นะ”

                แต่แล้วแฟรนเซียมก็พูดขัดขึ้นมา

                อย่าไปถือความหาสาระกับหมอนี่เลยอิงศร ใจความสำคัญที่นายกำลังต้องการน่ะมันอยู่ที่ฉันคนนี้”

                อิงศรหันไปมองชายที่พูดให้ความสำคัญตัวเองอย่างเย่อหยิ่งนั่นด้วยสายตาเหม่อลอย

                จะว่าไปคนที่เป็นต้นเรื่องก่อนมันคือนายนี่นะ สรุปว่าที่ผ่านมานายเต้นตามที่เจ้าราหูนี่มันสั่งมาตลอดเลยงั้นสิ”

                ก็ไม่ผิดจากที่นายพูดนักหรอกแต่ว่าฉันเคยพูดไปแล้วตอนที่อยู่บนลิฟต์นะว่าพยายามขัดขืนมันมาตลอดแต่ว่าคนที่โดนมันหลอกใช้แล้วคอยบงการอยู่เบื้องหลังดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแต่ฉันแล้วสิ”

                แน่นอนว่าคนที่แฟรนเซียมพูดถึงอยู่ก็คือตัวเขาเองและอาจจะรวมถึงพวกพ้องคนอื่นด้วย ที่ผ่านมาอิงศรคิดอยู่เสมอว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองนั้นเสมือนกำลังเต้นอยู่บนฝ่ามือของใครบางคนมาโดยตลอด

                หลายครั้งที่ผู้บงการเผยโฉมออกมาแต่ก็มักจะมีจุดที่น่าสงสัยแอบแฝงซ้อนไปอีกขั้น แล้วผู้บงการที่พวกเขาประสบเจอมาก็กลายเป็นแค่หุ่นเชิดที่เต้นอยู่บนฝ่ามือของใครซักคนที่พวกเขาไม่รู้

                ไม่รู้ถึงการคงอยู่

                ไม่รู้ถึงความมีตัวตน

                ก็เพราะว่าสิ่งนั้น คนผู้นั้น คือแอดมินิสเทรเตอร์ที่แม้แต่หมู่แอดมินิสเทรเตอร์ด้วยกันยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ 

                สิงห์ มหาเทพราหู มันคืออะไรกันแน่”

                อิงศรถาม... ถามชายผู้ที่กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง คิดว่าคราวนี้คงจะอยู่ในฐานะของ สิงห์ ธุวดารกะ เสียที ดังนั้นเขาเลยคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบ แต่คนที่จะให้คำตอบกลับกลายเป็นออร์ฟี่ที่หยิบเอาไพ่อาคานาร์ใบหนึ่งยื่นมาให้

                อาคานาร์ เดอะ ฟูล

                ออร์ฟี่กล่าว

                ผมเริ่มสงสัยว่าบัลลังก์สวรรค์มันแปลกๆ เลยลองตรวจสอบดูก็พบว่ามีใครบางคนแฮ็กเข้ามาควบคุมระบบเอาไว้ ทำให้โลกที่น่าจะย้อนกลับไปตามที่เธอขอไม่เกิดขึ้น พวกเธอแค่ถูกผมส่งจากอาคาชิกแซงค์ทัวรี่กลับลงมาที่โลกโดยที่คิดว่าระบบทำงานตามที่ผมสั่งแต่ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น โลกตอนนี้มีสภาพเหมือนกับแทร็กข้อมูลที่เสียหายทำให้มันย้อนกลับไปกลับมาอยู่แค่วันๆ เดียว”

                ก็คือวนที่หนึ่งพฤศจิกายนนี่สินะ”

                ใช่ แล้วก็ตอนที่เธอตอบรับเมล์ที่พวกผมส่งมาให้จนสามารถเอาพลังกลับคืนมาได้มันก็ทำให้พวกผมดักฟังการสนทนากับมหาเทพราหูกับพวกเธอก่อนจะตามรอบมาถึงได้ด้วย”

                ออร์ฟี่กล่าวจบก็เดินแยกขึ้นไปเสมอกับสิงห์

                ผมไม่เคยได้ยินหรือจำได้ถึงการมีตัวตนของแอดมินิสเทรเตอร์ราหูลาริสมาก่อนเลย”

                แล้วชูอาคานาร์ที่แสดงให้เขาดูเมื่อครู่ไปยังราหู

                มหาเทพเห็นเช่นนั้นก็พูดว่า

                อาคานาร์ของผู้เลือกหนทางแห่งมนุษย์ อาคานาร์ของบุตรแห่งแสง อาคานาร์ของปีศาจ ถ้าอย่างนั้นเครื่องทำสวนเองก็ควรจะเลือกหนทางด้วยเช่นกัน… เจ้าได้เลือกหนทางแล้วสินะ”

                ใช่ ผมเลือกทางแห่งมนุษย์ แล้วก็ทั้งอาคานาร์ปลอมใบนี้ซึ่งได้มาจากร้านกาแฟของนาย รวมถึงเมล์นั่นด้วย ผมนึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าการที่เมล์ส่งเข้ามาตอนที่ไปร้านกาแฟนั่นก็เพราะว่าตัวคนส่งคือเจ้าของร้านซะเอง คิดไม่ถึงเลยจริงๆ”

                แต่อิงศรก็ทวนคำพูดนั้นด้วยความสงสัย

                เมล์แปลกๆ ?”

                ยังจำตอนที่เธอเข้ามาช่วยผมที่รากของอาคาชิกเรคคอร์ดได้รึเปล่าล่ะตอนที่พวกเฟนริล โลกิ อลิส บุกมาน่ะ”

                จะว่าไปตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันปลดปล่อยเมอร์คาบาห์ด้วยนี่นะ”

                แล้วตอนนั้นพวกเราก็ได้ยินเสียงของผู้บงการปีศาจทั้งสามตนนั่น ผมคิดว่ามันอาจจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างก็ได้”

                แฟรนเซียมพูดเสริม

                แล้วหลักฐานที่เชื่อมโยงกันน่ะมันก็มีอยู่”

                พลางก็วาดมือในอากาศ ทำให้หน้าจอระบบเปิดขึ้นมา บนนั้นฉายภาพบันทึกตอนที่อารย-สนธยาประกาศจะลบโลกใบนี้

                ภาพเงาของชายปริศนาที่จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่านั่นคือใคร แม้ว่าอารย-สนธยา จะถูกทำลายจนล่มสลายไปแล้วก็ตาม

                แฟรนเซียมกล่าว

                ตอนที่มีประกาศนี่ออกมาไม่ใช่ฝีมือของพวกฉัน ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเป็นฝีมือเจ้าราหูนี่แหละมันปลอมตัวเป็นใครต่อใครแล้วก็แทรกซึมไปทั่วตั้งแต่แรก”

                ออร์ฟี่พูด

                ผมคิดว่าเสียงของราหูเป็นเสียงเดียวกับผู้บุกรุกที่มาโจมตีผมในตอนนั้น”

                สรุปแล้ว ทุกอย่างก็เชื่อมโยงไปที่ราหูทั้งหมด เจ้านี่คือศัตรูตัวสุดท้ายที่ควรจะต่อสู้ด้วยจริงๆ นั่นแหละ

                ซีเซียมเดินขึ้นมาสมทบด้วยแล้วพูด

                เพราะงั้นตอนที่รู้ว่าเสียท่าให้ฟาวเดชั่นอีซะแล้วฉันก็เลยเสนอความคิดที่จะส่งตัวแอคทีฟระบบเกมโลกาวินาศไปให้พวกนายแต่เพื่อป้องกันไม่ให้โดนจับได้ซะก่อนที่พวกนายจะได้รับมันก็เลยทำเป็นเมล์อย่างว่าอำพรางไปความคิดฉันเจ๋งใช่ไหมล่ะ”

                งั้นนายก็รู้อยู่แล้วว่าในคำถามสุดท้ายพวกฉันจะเลือกตอบว่าอะไร...”

                เปล่าเลย เพราะยังไงฉันก็ทำให้มันกดได้ทั้งสองปุ่มนั่นแหละจะตอบใช่หรือไม่ผลมันก็เหมือนกันอยู่ดี”

                ได้ยินดังนั้นอิงศรก็พูดสบถใส่คำพูดของอีกฝ่ายไป

                แต่มันชวนสับสนนะเฟ้ย”

                ซีเซียมขยิบตาลงข้างหนึ่งพร้อมกับชูนิ้วชี้แกว่งไปมา ทำเสียงจิกจักในปากแล้วพูดว่า

                จะหลอกศัตรูมันก็ต้องหลอกพวกเดียวกันก่อนสิฉันยึดหลักการแบบนั้นแหละ”

                แฟรนเซียมพูดขัดขึ้นมา

                แล้วไง รู้สึกยังไงบ้างล่ะ การที่ได้กลืนกินพระเจ้าน่ะ”

                ดูเหมือนจะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาโค่นแอดมินสเทรเตอร์ที่ดูแลควบคุมโลกก่อนหน้านี้

                กลืนเหรอ ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะพวกฉันไม่ได้…”

                แต่ออร์ฟี่ก็พูดขัดมาอีก

                หมาป่าผู้ล่าพระเจ้า เขาเรียกเธอว่าแบบนั้นเพราะเปรียบเทียบเธอกับตำนานของสกอลกับฮาติน่ะ”

                หา?”

                สกอลกับฮาติเป็นพี่น้องหมาป่าที่จะกลืนกินดวงตะวันกับดวงจันทร์ในวันพิพากษาที่ชื่อแรกนารอค”

                ตำนานนอร์ธเหมือนกับโอดินสินะ”

                อิงศรตอบรับไปก่อนจะพูดตัดบทเพราะเห็นว่าคำตอบของคำถามที่เขาต้องการถูกบ่ายเบี่ยงอยู่

                ว่าแต่จะบอกมาได้รึยังพวกนายพูดกันมาขนาดนี้น่าจะรู้กันอยู่สินะตัวจริงของราหูน่ะมันคืออะไรกันแน่”

                ตอนนั้นเอง ข้าวหลามก็พาดแขนโอบไหล่เขาไว้แล้วดึงลากไป

                ให้ตายสิ หมอนี่มันจริงจังซะจนไม่รู้เลยนะว่าที่พวกเราเบี่ยงกันไปเบี่ยงกันมาเนี่ยก็เพราะไม่รู้ว่าเจ้านั่นคือตัวอะไรนั่นแหละ เมื่อกี้ตาเสื้อวอร์มนั่นก็ถามไปแล้วนี่”

                ข้าวหลามหันกลับไปแล้วถามราหูด้วยคำถามเดียวกับที่ออร์ฟี่ถาม

                สรุปแล้วแกเป็นตัวอะไรกันแน่”

                แต่มันจะตอบแน่หรือ?

                ก่อนหน้านี้เขาได้ถามถึงจุดประสงค์ของมันไปแล้วว่ามีเป้าหมายอะไรแต่โดนปฏิเสธให้ไปคิดเอาเอง

                แต่คราวนี้ราหูกลับจะตอบคำถามของออร์ฟี่

                มหาเทพราหูเป็นเพียงแค่บทบาทในโลกนี้เท่านั้นเมื่อมาถึงขั้นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงบทบาทนั่นอีกต่อไป”

                หรือว่าจะตอบเมื่อเป็นคำถามที่ถามถึงตัวตนของมันกันนะ ตอนที่เขาถามเจ้าของร้านกาแฟว่าเป็นใครมันก็เปิดเผยตัวเองออกมาในทันที

                ออร์ฟี่ถาม

                ถ้างั้นแล้วเป็นตัวอะไรกันล่ะ”

                ผู้รุกราน ทูตแห่งความว่างเปล่า ผู้นำมาซึ่งการพลิกกลับ ข้า...ไม่สิ”

                ทันใดนั้นเอง จากหลุมดำที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้าก็มีดวงดาวสีแดงสุกสกาวจำนวนนับร้อยดวงตกลงมา

                ราหูได้พูดเอาไว้ท่ามกลางท้องฟ้าที่ถูกย้อมด้วยแสงของดวงดาวจนเกือบจะกลายเป็นสีแดง

                พวกเราคือ เทิร์นบริงเกอร์ (Turn Bringer) ยังไงล่ะ”

     

    ***เปิดตอนแรกหลังจากงดไปอาทิตย์หนึ่งก็เลทไปซะเกือบวัน ;w; เมื่อวานสารพัดปัญหารุมโถมเข้ามาเหมือนรู้งานเลยทีเดียวเจอตั้งแต่ทีวีพัง ไฟดับ รถเมล์ไม่มี แวๆๆ แถมเมื่อวานครบรอบเดือนแล้วเลยเข้าไปจัดการหมวดหมู่จะย้ายเรื่องกลับไปหมวดแฟนตาซีดันไปกดรักแฟนตาซีแทน TwT อยู่ผิดที่ผิดทางไปอีกเดือนหนึ่งสินะๆๆ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×