คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #257 : Extra Log 253: Ark of Noa
Extra
Log 253: Ark of Noa
เมื่อราหูออกคำสั่งจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกเขา
เหล่านักรบของเทิร์นบริงเกอร์ที่ปิดล้อมท้องฟ้าไว้ก็พากันโฉบลงมา
นักรบถือดาบ
ขวาน หอก ซึ่งแผ่รัศมีแสงสีดำมะเมื่อมดิ่งตรงเข้ามาพร้อมกับพวกสัตว์อสูรจักรกลที่ใช้อวัยวะกลไกต่างอาวุธ
อย่างปีกซึ่งคมเหมือนมีด กรงเล็บลำแสงที่ปล่อยออกมาจากปลายนิ้ว
นักรบที่ถือปืนก็ลั่นไกปืนปลดปล่อยลำแสงสีดำทะมึน
นักรบที่มีสวัสติกะสีดำลอยอยู่ตรงหัวไหล่ก็คว้ามันมาขว้างดั่งจักรสงคราม
หุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ใช้ปืนที่แขนสาดกระสุนพลังงานสีดำทะมึน
“ต้านเอาไว้!”
อิงศรตะโกนบอกพวกพ้องด้านหลังส่วนพวกมนุษย์ต่างดาวนั้นนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว
แฟรนเซียมชักดาบจากเอวออกมา
เป็นดาบประจำตัวของสิงห์ที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นปีศาจ
แฟรนเซียมตวัดดาบตอบโต้การโจมตีระยะไกลของศัตรูที่แซงหน้ากลุ่มโจมตีประชิดตัวมา
“รีลีสสเตจโควริว”
แฟรนเซียมอัญเชิญราชามังกรทองคำขึ้นมา
มังกรสร้างเกราะพลังงานป้องกันล้อมรอบพวกเขาทั้งหมด
การโจมตีของศัตรูปะทะเข้ากับเกราะพลังงาน เกิดระเบิดเสียงดังกัมปนาทจนหูแทบดับ
เสียงดังมากเสียจนอิงศรต้องยกมือขึ้นปิดหูตัวเองพวกพ้องของเขาก็ทำเหมือนกันมีแต่พวกเหนือมนุษย์ที่ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนได้
เกราะพลังงานของโควริวแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ตัวเขาที่เคยเผชิญหน้ากับมันมาก่อนตระหนักถึงเรื่องนั้นเป็นอย่างดีแต่ว่าศัตรูมีจำนวนมากเกินไป
เกราะพลังงานต้านรับเพียงแค่ระลอกเดียวก็แตกสลายไป
ถึงอย่างนั้นพวกเขาที่อยู่ด้านสนเกราะกำบังก็ยังอยู่รอดปลอดภัยกันหมด
ทันทีที่เกราะกำบังหายไปพวกเขาก็โจมตีสวนกลับทันที
พวกฝ่ายศัตรูที่เป็นระยะประชิดเพิ่งจะเข้ามาถึงและปะทะกับพวกเขา
“ออร์ฟี่
เราต้องตีฝ่าออกไปนะไม่งั้นได้ตายกันหมดแน่”
อิงศรตะโกนจากนั้นเขาก็ตวัดคันธนูที่มีมีดติดอยู่ตัดหัวศัตรูไปตนหนึ่ง
ทันทีที่ร่างไร้หัวนั้นล้มลง ร่างก็แตกกระจัดกระจายสลายหายไปราวกับอากาศธาตุ
มิ่งขวัญกับกวินทร์กำลังยันกับพวกศัตรูระยะประชิดปกป้องนรินทร์กับพลอยเอาไว้
ส่วนเน็กส์กับนิวอยู่ในความคุ้มครองของฟูกับเมษา มิกซ์วิ่งตรงมาหาเขา
“พี่ศรข้างหลังพวกมันบุกเข้ามากันแน่นจนจะกันไม่ไหวแล้ว”
แล้วชี้ให้ดูจุดที่มิ่งขวัญกับกวินทร์กำลังยันพวกศัตรูเอาไว้
ทั้งสองต่อสู้อย่างดุเดือดฆ่าศัตรูไปได้หลายตัวแต่ก็มีเสียทีพลาดถูกโจมตีไปบ้างแต่บาดแผลไม่สาหัสและยังจับอาวุธเข้าฟาดฟันต่ออย่างไม่กลัวตาย
เพราะถ้าตรงนั้นปลดให้หลุดเข้ามาได้ล่ะก็ทุกอย่างก็จบ
อย่างไรก็ตามอิงศรไม่คิดว่าน้องชายกับรุ่นน้องจะต้านทานได้นานนักจำเป็นต้องมีคนที่เก่งกล้าพอจะเข้าไปช่วยเสริมแต่ตัวเขากับเมอร์คาบาห์ก็ติดพันตรงนี้อยู่เหมือนกันถ้าถอยเสริมตรงนั้นแนวป้องกันก็จะพังทันที
“ถอยออกมาซะ”
มีเสียงสั่งไปที่มิ่งขวัญกับกวินทร์
มิ่งขวัญหันกลับมาแววตานั้นเหมือนกับรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่กวินทร์ยังหน้ามึนไม่เข้าใจอยู่นั้นก็ถูกมิ่งขวัญจับคอเสื้อหิ้วพาถอยร่นเข้ามา
พริบตานั้นแนวป้องกันตรงที่ว่างเพราะทั้งสองคนถอยกลับมา
ก็มีลิเธียมไปปรากฏตัวอยู่ตรงนั้นแทน
ดาบในมือมีลูกไฟยูนิทล่องลอยอยู่สี่ลูกด้วยกัน
ศัตรูที่อยู่บริเวณนั้นแทบจะเปลีย่นเป้าหมายและกรูกันเข้าไปหาลิเธียมในทันทีพวกมันคงรู้สึกถึงความคุกคามจากตัวของลิเธียมที่แผ่ออกมาหรือไม่ก็เพราะหมอนั่นเข้าไปใกล้มากเกินไป
หรือไม่ก็เพราะมียูนิทในจำนวนที่สามารถใช้สกิลท่าไม้ตายได้
ลิเธียมเงื้อดาบขึ้นสูงสุดแขนยูนิททั้งสี่ลูกลอยเข้าไปรวมกับตัวดาบ
“จงขวิดทุกสรรพสิ่งที่ขวางหน้าด้วยเขาแห่งการทำลายล้าง”
จากนั้นจึงฟาดดาบลงพื้นอย่างแรง
เกิดฝุ่นควันสีแดงตลบอบอวลเต็มบริเวณนั้นทั้งที่พื้นถนนลาดยางจึงไม่น่าจะมีฝุ่นควันลอยขึ้นมาได้แถมยังเป็นสีแดงอีก
นั่นคงเป็นการแสดงผลของสกิลท่าไม้ตาย
สกิลของสายอาชีพโคลสเซอร์
“บัฟฟาโล่บลาส!”
เสียงของลิเธียมดังกังวานออกมาจากกลุ่มควัน
ทันใดนั้นเครื่องทำสวนอันเลือนรางดั่งเงาก็พูนตัวขึ้นมาจากวังวนฝุ่นควันพร้อมกับสร้างสายลมที่พัดหอบออกไปทำให้ทัศนวิสัยกลับมาชัดเจนอีกครั้ง
เครื่องทำสวนยืนสี่เท้าลักษณะคล้ายวัวหรือกระทิงแต่มีเขายาวโง้งเหมือนควายป่าหรือโคไพร(กูปรี)
ร่างกายมันวาวเหมือนกับโลหะมีส่วนเว้าที่ดูกำยำราวกับวัวหนุ่มที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม
เครื่องทำสวนยกขาหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างนี้ลิเธียมจะไม่สามารถขยับตัวได้ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นเป้านิ่ง เพราะความสามารถในการหยุดเวลาของสกิลท่าไม้ตายถูกแอดมินิสเทรเตอร์ทำลายไปแล้ว
อิงศรคิดว่าต้องยื่นมือเข้าไปช่วย
เขาคิดจะยิงสกัดศัตรูที่อยู่ทางนั้นให้ซักวินาทีหนึ่งก็ยังดี
“ไม่ต้องไปช่วยหรอก”
ทว่า ซีเซียมที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อก็ยื่นมืออ้อมหัวเขาไปจับแขนของศัตรูที่กำลังเหวี่ยงดาบลำแสงลงมาสับเขาที่มัวแต่หันไปสนใจลิเธียม
ซีเซียมจ่อปืนอัดใส่ท้องนักรบคนนั้นแล้วลั่นไกปืนรัว
ยิงจนกระทั่งร่างกระสุนระเบิดร่างนั้นขาดเป็นสองท่อนลำตัวท่อนบนห้อยต่องแต่งสิ้นใจคามือซีเซียมและสลายหายไปในอึดใจต่อมา
ซีเซียมพูด
“สกิลไม้ตายของโคลสเซอร์น่ะมันพิเศษกว่าอาชีพอื่นๆ”
พลางเปิดหน้าหน้าจอแสดงรายละเอียด
สกิลที่ลิเธียมกำลังให้ให้ดู
[Buffalo
Blast Lv(2/2)
Element:
-
Attribute:
Ultimate, Physical Attack, Awakening
(Cast
Cost) 4 Awakening Unit, ร่าย 'จงขวิดทุกสรรพสิ่งที่ขวางหน้าด้วยเขาแห่งการทำลายล้าง'; อวตารแห่งนักษัตรฉลู
จะปลดปล่อยการโจมตีแบบกวาดล้าง ระหว่างนั้นผู้ใช้จะเป็นอมตะ
เมื่อสิ้นสุดการโจมตีแล้วจะใช้ Brave Bull โดยไม่สนใจเงื่อนไขทันที]
“พลังของสกิลจะคุ้มครองหมอนั่นจนจบการปล่อยท่านี่เป็นลักษณะพิเศษของสกิลท่าไม้ตายนี้แม้แต่เคาท์เตอร์อัลติเมทอย่างแรคน่าบัสเตอร์ของสายเวพ่อนเอนแชนท์เตอร์ที่สวนกลับในจังหวะหยุดเวลายังทำอะไรไมได้เลยล่ะ”
จากที่ซีเซียมพูดมารวมกับรายละเอียดบนหน้าจอที่ระบุว่าผู้ใช้สกิลจะเป็น
‘อมตะ’ นั่นดูเหมือนจะเชื่อถือได้และผลลัพธ์ก็มีออกมาให้เห็นกันต่อหน้าต่อตา
การโจมตีทั้งหมดทะลุผ่านตัวลิเธียมไปราวกับว่าเขาไม่ได้มีร่างอยู่ตรงนั้น
เมื่อเครื่องทำสวนที่ยกขาหน้ายืนด้วยสองขาทุ่มตัวลงมาพร้อมกับเอาเขาที่ยาวโง้งนั่นทิ่มลงดินตามมาด้วย
แรงปะทะอันมหาศาลยากจะจินตนาการก็ระเบิดคว้านเอาพื้นที่อยู่ในบริเวณนั้นลอยขึ้นไปข้างบนพร้อมๆ
กับฉีกกระชากร่างของผู้รุกรานให้กลายเป็นเศษไปในพริบตาเดียว
แต่การโจมตียังไม่ได้หมดเพียงแค่นั้น
เงาร่างของเครื่องทำสวนยังคงอยู่ไม่ได้หายไปทันทีแม้ว่าสกิลจะดำเนินผลจนจบแล้ว
ขณะเดียวกันหน้าจอรายละเอียด สกิลที่ซีเซียมเปิดให้เขาดูก็ขึ้นรายละเอียดใหม่
[Brave
Bull Lv(2/2)
Element:
-
Attribute:
Ultimate, Support, Awakening
(Cast
Cost) 4 Awakening Unit, ร่าย 'จงกู่ร้อง! เขายักษ์แห่งการทำลายล้าง'; สร้างห้วงมิติพิเศษขึ้นมารอบตัว
ได้รับพรคุ้มครองจากอวตารแห่งราศีวัว
ผู้ใช้จะเป็นอมตะและคลายสถานะผิดปกติทั้งหมดรวมถึงในระหว่างนั้นจะรวบรวมพลังจนถึงขีดสุดเพิ่มพลังโจมตี
ความเร็ว พลังป้องกันเป็นสามเท่าของปัจจุบันเป็นระยะเวลาหนึ่ง
จากนั้นจะยกเลิกสถานะอมตะแล้วใช้ Buffalo Blast โดยไม่สนใจเงื่อนไขทันที]
เครื่องทำสวนเงยหน้าของมันขึ้นปลดส่วนเขาที่ยาวโง้งพับลงไปเก็บที่ใต้คาง
เผยเขาอันใหม่ที่สั้นกว่าซึ่งถูกเขาโง้งประกบหุ้มเอาไว้ในตอนแรก
เขาสีทองคำเปล่งแสงสว่างไสว
ลิเธียมที่ยืนอยู่ใต้ร่างของเครื่องทำสวนลุกขึ้นยืนกางแขนทั้งสองข้างพลางแหงนหน้าขึ้นไปราวกับกำลังรอรับพรจากมัน
“จงกู่ร้อง
เขายักษ์แห่งการทำลายล้าง!”
สิ้นคำเขาทองคำของเครื่องทำสวนก็โปรยละอองแสงสว่างลงมาอาบใส่ลิเธียมทำให้ร่างเปล่งประกายเป็นสีทองไปด้วย
แล้วเครื่องทำสวนก็เลือนหายไป
อิงศรพอจะเข้าใจอยู่ว่าทำไมท่าไม้ตายที่ลิเธียมใช้ถึงได้ทำงานต่อเนื่องกันถึงสองสกิล
เดิมทีสกิลท่าไม้ตายจะแบ่งตามอาชีพพื้นฐานอยู่แล้ว
ท่าไม้ตายเองก็มีคุณลักษณะที่คล้ายคลึงกับรูปแบบการต่อสู้ของอาชีพนั้นๆ ด้วย
อย่างเวพ่อนเอนแชนท์เตอร์ที่สกิลในสายเน้นไปที่การเสริมพลังอาวุธก็เลยทำให้สกิลท่าไม้ตายจะเป็นการแปลงร่างเพื่อใช้อาวุธที่เสริมพลังถึงขั้นสูงสุดของแต่ละสายนั้นๆ
หรือพอเป็นเท็นกะโกเค็นกับแรคน่าบัสเตอร์ทั้งสองสกิลที่กวินทร์ใช้ก็มาจากรูปแบบการต่อสู้ของบิลด์สายเอเลเมนทัลเอนแชนท์เตอร์ที่เน้นการขัดจังหวะและสวนกลับเช่นกัน
สำหรับสายอาชีพโคลสเซอร์ที่ลิเธียมสังกัดอยู่เป็นสายที่ไม่ค่อยมีลูกเล่นหรือความอลังการ
เน้นการใช้งานที่ง่ายรวดเร็วฉับไวเป็นหลักรวมถึงยังเป็นสกิลทำจังหวะต่อเนื่องเหมือนรูปแบบต่อสู้ของสายอาชีพที่สกิลมีหลายๆ
อันที่ต้องใช้ร่วมกันเพื่อทำจังหวะโจมตีอย่างต่อเนื่อง
นั่นเลยทำให้สกิลท่าไม้ตายได้รับอิทธิพลแบบนั้นมา แน่นอนว่าความจริงที่ซีเซียมเป็นคนออกแบบสกิลพวกนี้ก็มีส่วนแต่การทำแบบนั้นมีเหตุผลรองรับในเรื่องของความเคยชินของผู้ใช้แฝงอยู่ด้วย
คนเราถ้าทำอะไรที่ซ้ำๆ หรือคล้ายกันก็จะทำได้ดีมันเป็นหลักเหตุผลแบบนั้น
ลิเธียมที่ได้รับการเสริมพลังจากสกิลท่าไม้ตายจนร่างกายเปล่งแสงสีทองก็ใช้พลังที่ได้รับมาจัดการสังหารศัตรูไปหลายคน
ถึงแม้ว่าพลังที่คงอยู่นั้นจะไม่ได้นานมากมายแต่เพียงแค่นั้นก็ซื้อเวลาให้มิ่งขวัญกับกวินทร์ที่ถอยกลับมาได้พักและตั้งตัวกันใหม่
เมื่อพรที่ได้รับจากสกิลไม้ตายหมดฤทธิ์ร่างของลิเธียมก็กลับมาเป็นปกติ
เจ้าตัวก็รีบบึ่งกลับมารวมกลุ่มทันที
ทั้งที่พวกเขาก็ฆ่าศัตรูไปตั้งมากมายแต่จำนวนนั้นไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยแต่กลับเพิ่มมากขึ้น
อิงศรแหงนหน้าขึ้นไปมองต้นเหตุของการเพิ่มจำนวนศัตรู
มันคือหลุมดำที่ลอยอยู่เหนือเมือง พวกผู้รุกรานทยอยบินออกมาจากหลุมดำกันไม่ขาดสาย หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปพวกเขาจะถูกจัดการเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
จู่ๆ
ฟูก็พูดขึ้นมา
“ได้ยินเสียงอะไรกันไหม”
ฟูถามกับมิกซ์แต่คนอื่นก็ได้ยินไปด้วย
อิงศรพยายามเงี่ยหูฟังเสียงที่ฟูกล่าวถึง แม้ว่าหูของเขาจะไม่ได้ดีเทียบเท่ามนุษย์หมาป่าแต่สัมผัสอันว่องไวของสายอาชีพและความสามารถที่ฝึกฝนมาก็พอจะได้ยินอยู่บ้าง
เสียงแผ่วๆ
เสียงของสายลมกำลังแหวกออกจากที่ไกลออกไป
เสียงนั่นค่อยๆ เด่นชัดมากขึ้นจนกระทั่งมันกลายเป็นเสียงดัง ‘ครืน’ คล้ายกับเสียงฟ้าร้อง
ทันใดนั้นเองท้องฟ้าส่วนหนึ่งซึ่งหลุมดำยังแผ่ขยายไปไม่ถึง
ความว่างเปล่าของโลกคู่ขนานที่ล่มสลายลงยังไม่ลามไปนั่นเอง
มิติแหวกออกเป็นโพรงขนาดใหญ่ มีเรือสำเภาลำมหึมาไหลออกมาจากช่องว่างนั้น
เรือนั่นบินโฉบข้ามหัวพวกเขาไปโดยที่ชนพวกผู้รุกรานที่ขวางทางกระเด็นไปอย่างไม่หยี่ระต่อสถานการณ์
บนดาดฟ้าเรือมีเงาคนยืนอยู่ด้วยกันสองคน
หนึ่งในนั้นตะโกน
“บัลลิสต้าพันนิชเชอร์!”
วินาทีถัดมาเครื่องทำสวนรถยิงหน้าไม้ที่ปกติจะเทียมติดกับตัวของดีเซมแมร์ก็ปรากฏขึ้น
แต่แทนที่จะเป็นวัตถุมันวาวคล้ายโลหะมันกลับเป็นผลึกทั้งดุ้น
อิงศรรู้ในทันทีว่าใครที่ยืนอยู่บนเรือลำนั้น
รูบิเดียมนั่นเอง
ความคิดเห็น