ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #254 : Extra Log 250: รวมตัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 168
      5
      22 ก.ค. 61




    Extra Log 250: รวมตัว


                เหนือน่านฟ้าของเมือง หลุมดำซึ่งเกิดมาจากพลังของราหู จากเดิมที่มีขนาดเท่ากับรถยนต์คันหนึ่ง ตอนนี้มันได้ขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็นหกเท่า หลุมดำเปล่งประกายแสงระยิบระยับออกมาแต่นั่นไม่ใช่แสงของมันเองหากแต่เป็นแสงสว่างที่ถูกดูดเข้าไป

                ราหูพูด

                วอยด์สตาร์ติดตั้งเรียบร้อย ทีนี้บทบาทของราหูลาริสก็จะสิ้นสุดลงที่นี่

                แล้วทอดสายตาลงไปด้านล่าง ในขณะที่ยืนสังเกตการณ์หลุมดำโดยลอยตัวอยู่กลางอากาศก็ได้ส่งลูกสมุนสามตนไปถ่วงเวลาผู้ขัดขวาง

                อิงศรกับเหล่าผู้ติดตามพ่ายแพ้ให้กับลูกสมุนของราหูอย่างหมดรูป แม้ว่าพลังกับจำนวนเมื่อนับรวมกันแล้วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสมุนทั้งสามก็ตาม

                 กระนั้นก็ยังพลาดท่า สาเหตุก็คือความประมาทนั่นเอง ความประมาทซึ่งตนตั้งใจให้เป็นไปตามนั้น ราหูมองลึกเข้าไปในหัวใจของอิงศรและค้นพบความเคลือบแคลงใจอยู่ภายในนั้น จงใจใช้คำพูดชักจูงรั้งความสนใจเอาไว้แล้วก็ส่งสมุนออกไปล้อมในขณะนั้น

                จากการเฝ้าจับตาดูมาโดยตลอดทำให้รู้ว่าผู้ติดตามของอิงศรนั้นเคลื่อนไหวโดยเชื่อฟังคำสั่งจากอิงศรทั้งหมด เป็นเพราะความเชื่อมั่นที่มีให้กันอย่างแรงกล้าเมื่ออิงศรตกอยู่ในความสับสนจนลืมสนใจรอบข้างแผนการก็เป็นไปโดยราบลื่น แต่ก่อนที่จะเผด็จศึกกลับมีตัวเกะกะเข้ามาเพิ่ม

                เมื่อวอยด์สตาร์ วัตถุคล้ายหลุมดำถูกติดตั้งลงบนท้องฟ้าพลังของมันทำให้เกิดช่องว่างที่เชื่อมต่อไปยังโลกอื่น พลังที่ทำให้มิติคู่ขนานทั้งหมดบิดเบี้ยวแล้วเริ่มเชื่อมเข้าหากัน รวมถึงโลกก่อนหน้าที่บุกไปก็ด้วยตัวตนจากโลกใบนั้นไล่ตามมายังฝั่งนี้

                มิ่งขวัญจากอีกโลกคู่ขนานร่อนลงมาจากช่องว่างที่ว่า แล้วช่วยอิงศรผู้เป็นพี่ชายโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง

                ข้อเท็จจริงว่านั่นไม่ใช่พี่ชายที่แท้จริงของตนเพราะที่นี่คือโลกอีกใบที่มีความคล้ายคลึงกันเท่านั้น อิงศรที่โลกใบนั้นกับโลกนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

                ราหูพูดใส่มิ่งขวัญที่ยืนประจันหน้ากับสมุนทั้งสาม

                ไม่เจอกันมาซักพักเลยนะมิ่งขวัญ

                ขณะเดียวกันเหล่าสมุนซึ่งประกอบด้วยปีศาจสิงโต กับ ผู้หญิงผมขาว และเจ้าของหมัดจรวดซึ่งก็คือหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ทำจากโลหะสำริดขนาดตัวของมันสูงกว่าอาคารที่อยู่รอบๆ นี่ เป็นรองแค่ขนาดของราหูเท่านั้น

                มิ่งขวัญจากอนาคตแหงนหน้ามองมาทางนี้

                แกมาอยู่ที่นี่เองงั้นเรอะราหูลาริส

                ราหูพูด

                การที่เจ้าข้ามมายังฝั่งนี้ได้ก็เช่นกันอย่างเจ้าน่าจะรู้ดีนะมิ่งขวัญว่ามันหมายความว่าอย่างไร

                ไม่ยอมให้แกทำตามใจชอบหรอก

                เป็นเด็กดื้อจังน้า~...จัดการซะ สแกร์ครอส

                สิ้นคำของราหู ผู้หญิงผมขาวก็ตวัดแขนที่เป็นเคียว การตวัดนั้นรุนแรงจนทำให้เกิดคลื่นสุญญากาศ

                คลื่นอันคมกริบพัดโถมใส่พวกอิงศรที่ไม่อยู่ในสภาพจะป้องกันตัวเองได้

                คลื่นไม่ได้สังหารแต่มอบความเจ็บปวดให้แทน คลื่นกระทบลงบนร่างของแต่ละคนฝากบาดแผลอันเจ็บปวดกระตุ้นให้กรีดร้องทรมาน

                ทั้งหมดนั่นก็เพื่อปั่นหัวมิ่งขวัญจากอนาคต

                ทุกคน อดทนเอาไว้นะ

                มิ่งขวัญจากอนาคตพูด พลางกำหอกสีขาวในมือแน่นขึ้นไปอีก

                อิงศรเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้กรีดร้องให้กับบาดแผลที่โดนคลื่นสุญญากาศ เขากัดฟันทนแล้วข่มความเจ็บปวดเอาไว้เพราะรู้เป้าหมายของศัตรู หากกรีดร้องออกไปจะเข้าทางพวกมัน สายตาของอิงศรจดจ้องไปยังหอกในมือของมิ่งขวัญจากอนาคต

                หอกแห่งเมสสิยาห์ หอกซึ่งเหมือนกับหอกของออร์ฟี่ อิงศรเริ่มคิดถึงความเชื่อมโยงของอันน่าประหลาด

                หอกแห่งเมสสิยาห์ของโลกคู่ขนานตกอยู่ในมือของมิ่งขวัญจากอนาคตเจ้าตัวได้บอกกับพวกเขาว่าเดิมทีเป็นหอกที่อิงศรในโลกนั้นเป็นผู้ถือครองก่อนจะสละชีพเพื่อปกป้องโลกเอาไว้แล้วมันก็ส่งต่อมาถึงมิ่งขวัญ

                หอกแห่งเมสสิยาห์ของโลกนี้ปรากฏออกมาเมื่อซีลอร์ดกลายเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์

                หอกที่เหมือนกันจากโลกทั้งสองใบ มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่

                ตอนนั้นเอง ราหูก็พูด

                แหมๆๆ มีความเป็นผู้นำดีจังนะต่างกับตัวเองในโลกนี้ลิบลับเลยเพราะว่าพี่ชายที่นั่นดันด่วนจากไปก่อนเธอก็เลยต้องออกนำพวกพ้องที่เหลืออยู่ต่อสู้กับข้าถึงสองปี

                พูดเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นในโลกฝั่งนั้น

                อิงศรยันร่างตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วพยายามส่งเสียงออกไป

                ขวัญ

                แต่มิ่งขวัญจากอนาคตก็พูดขัด โดยที่ไม่หันกลับมา

                พี่ศรอย่าเพิ่งฝืนพูดอะไรเลย

                ราหูพูด

                ดูเหมือนพี่ชายเริ่มอยากจะฟังเรื่องที่เกิดขึ้นในรูทก่อนๆ นะ ข้าจะเล่าให้ฟังก็ได้น้า~”

                หุบปากไปเลย การที่แกปรากฏตัวมาแบบนี้ก็เพราว่าเตรียมจะทำลายโลกทั้งหมดแล้วไม่ใช่รึไง

                รีบปัดจังนะ ไม่อยากให้พี่ชายรู้ถึงความขมขื่นที่ตัวเองต้องเผชิญซ้ำเหมือนในรูทก่อนงั้นเหรอรักพี่จังเลยนะ

                มันไม่มีทางเกิดขึ้นซ้ำรอยหรอกน่า เพราะฉันจะหยุดมันไว้เอง

                ไม่หรอก ที่เจ้ารีบบอกปัดไม่ใช่เพราะว่าห่วงพี่ชายแต่เพราะไม่อยากให้ตัวเองต้องขมขื่นกับการเปลี่ยนไปที่แสนน่าสมเพชสำหรับตัวเจ้าเองสินะมิ่งขวัญ

                หุบปาก!

                พี่ชายแสนดีกลายเป็นตัวแบบนั้นไปซะแล้ว แย่จังรับไม่ได้เลย จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว แต่ว่าพวกพ้องที่พี่ชายรวบรวมมาให้ก็ทยอยกลายเป็นตัวน่ารังเกียจกันไปทีละคนๆ แล้วตัวเจ้าเองที่หนีเอาตัวรอดก็ถูกทิ้งไว้ที่โลกใบนั้นตอนนี้คิดจะมาสำนึกบาปเอาที่นี่รึไง

                มิ่งขวัญตะโกนพร้อมกับชูหอกขึ้นไป

                บอกให้หุบปากไงเล่า!

                บนแผ่นหลังแผ่แสงสว่างออกมา แสงสว่างกลายเป็นปีก

                เอ็กซ์แลนเซีย!!

                แสงทั้งหมดไหลไปรวมกันที่ปลายหอกแล้วพุ่งออกไป ลำแสงขยายใหญ่ขึ้นตามระยะทางที่มันพุ่งไปข้างหน้า

                สมุนทั้งสามของราหูเคลื่อนไหวตอบโต้การโจมตีนั้น พยายามจะเอาตัวเข้าไปป้องกันเจ้านาย

                แต่ทว่า...

                ไม่จำเป็น

                ราหูพูด สมุนทั้งสามหยุดเคลื่อนไหวทันที

                ลำแสงจึงมุ่งเข้าหาราหูโดยตรง ลำแสงกลืนร่างของแอดมินิสเทรเตอร์

                อ๊า!!!

                ราหูถูกแผดเผาจนกรีดร้อง แต่น้ำเสียงนั่นฟังดูไม่เหมือนว่ากำลังทรมานอยู่เลยกลับกันเหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังรื่นรมย์ไปกับความเจ็บปวดนั้นเสียมากกว่า

                เมื่อแสงสว่างที่ห้อมล้อมร่างของราหูหายไปหมด แต่ร่างของมันกลับไร้ซึ่งร่องรอยหรือบาดแผลใดๆ

                สมกับที่เป็นร่างพระเจ้า....มีแต่ความคิดแบบนั้น มีแต่เหตุผลนั้นเท่านั้ที่บอกเล่าว่าทำไมราหูจึงไร้เทียมทานถึงขั้นนี้

                ข้าไม่ใช่พระเจ้าหรอกนะแต่เป็นผู้รุกรานต่างหาก

                ราหูพูดตอบโต้ความนึกคิดของอิงศร จงใจตอบโต้ความรู้สึกตัดพ้อในใจนั่น

                อิงศรถามอีกฝ่ายกลับว่า

                นี่แกอ่านใจฉันงั้นเรอะ

                ยิ่งกว่าอ่านใจอีก ข้าจะบอกให้รู้เอาไว้ก็แล้วกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือกำลังทำอะไรอยู่ข้าก็สามารถรับรู้ได้ทั้งหมดนั่นแหละตราบใดที่พวกเจ้ายังอยู่ภายใต้การควบคุมของอาคาชิกเรคคอร์ด

                อิงศรชันร่างกายลุกขึ้น ร่างกายได้พักเพียงพอพลังของเกมจึงช่วยฟื้นฟูให้กลับมามีแรงแล้ว แขนส่วนที่ถูกตัดไปก็เริ่มจะงอกขึ้นใหม่

                ราหูพูด

                โอ๊ะๆๆ ดูเหมือนจะเสียเวลามากไปหน่อยโดนขโมยลูกไม้เดียวกันไปใช้ซะแล้วสิ

                จังหวะนั้นเองนรินทร์ก็เดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา

                อิงศรทุกคนฟื้นฟูกันหมดแล้วเดี๋ยวผมจะรักษานายให้ยื่นแขนมาสิ

                อิงศรยื่นแขนไปให้นรินทร์ มีเวลาให้ฟื้นฟูแขนขึ้นมาใหม่ไม่มากนัก เพราะถูกศัตรูรู้ตัวเข้าให้เสียแล้ว

                ในระหว่างที่มิ่งขวัญจากอนาคตซื้อเวลาให้นั้นพลอยกับนรินทร์ที่พวกเขาปกป้องไว้ให้บาดเจ็บน้อยที่สุดก็เพื่อหวังจะฟื้นฟูแล้วดึงเกมกลับมา ตอนแรกแผนนี้พินาศไปเรียบร้อยเพราะว่าทุกคนนอกจากสองคนนั้นพากันเสียท่าให้ศัตรูหมด แต่เพราะการมาอันคาดไม่ถึงของมิ่งขวัญจากอนาคตทำให้สามารถดำเนินแผนนี้ต่อไปได้

                รวมถึงความเชื่อมั่นของทุกคน ที่ถึงแม้จะไม่ต้องบอกก็ยังรับรู้กันได้เองว่าควรจะทำอะไร ทุกคนต่างเข้าใจถึงหน้าที่ของตัวเอง

                นรินทร์รักษาแขนของเขาเสร็จเรียบร้อย แต่ฝ่ายนั้นก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโจมตีเข้ามา

                จงใจรอให้พวกเขาฟื้นฟูเพราะมั่นใจว่าเกมไม่มีทางเปลี่ยนฝั่งมาที่พวกเขาได้อย่างนั้นหรือ?

                อิงศรตะโกน

                ทุกคนใช้อิงศรฟอเมชั่น!”

                โออออออออออ!”

                ทุกคนส่งเสียงขานรับแล้วกระจายตัวกันออกไปทันที

                แต่มิ่งขวัญจากอนาคตกลับตะโกนให้พวกเขาหยุด

                อย่านะ! อย่าทำแบบนั้น ตอนนี้น่ะมัน...

                กว่าจะรู้เหตุผลของคำพูดนั้นก็ตอนที่เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว พวกเขาที่ก้าวเท้าออกไปไม่สามารถขยับตัวได้

                นี่มันอะไรกันน่ะ

                อิงศรพยายามดันเท้าไปข้างหน้าแต่มันไม่ขยับเลย แขนก็ไม่สามารถขยับได้เหมือนกัน

                มีเสียงดังลงมาจากด้านบน

                เจอตัวจนได้นะอิงศร

                อิงศรเงยหน้าขึ้นไปมองไม่ได้เพราะอำนาจบางอย่างที่ควบคุมร่างกายเอาไว้ แต่ว่าเคยได้ยินเสียงนั้นมาก่อน

                กฤษณะงั้นเรอะ

                ได้ยินเสียงร้องของม้าดังไล่มาหลังจากนั้น กฤษณะขี่ม้าขาวร่อนลงมาจากด้านบน ลงจอดรวมกับพวกสมุนของราหู

                โปรดเรียกผมด้วยชื่อใหม่ด้วยล่ะ ตอนนี้คือกัลกี

                กฤษณะพูดแล้วผละความสนใจไปยังมิ่งขวัญจากอนาคต

                เพราะอิงศรกับคนอื่นๆ ที่ไม่รู้เรื่องความสามารถของผมก็เลยต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้จนได้นะมิ่งขวัญ

                อิงศรตะโกน เขาไม่สามารถหันไปคุยกับน้องชายจากอนาคตได้

                ขวัญนายเองก็ขยับไม่ได้งั้นเหรอ

                มันเป็นทริกเกอร์สกิลของกัลกีน่ะ จะทำงานเมื่อศัตรูตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเคลื่อนไหวพร้อมกันในรัศมีสามสิบเมตรรอบตัวมันจะถูกผนึกการเคลื่อนไหว

                ทริกเกอร์สกิล...มันคืออะไรน่ะ

                เป็นประเภทหนึ่งของสกิลแบบพาสซีฟน่ะ สกิลพวกนี้จะทำงานเองเมื่อปัจจัยจากภายนอกเข้ากับเงื่อนไขเป็นของที่ไม่มีให้พวกเราใช้หรอกนะเพราะว่าเจ้าพวกนั้นสร้างกันขึ้นมาเอง

                เท่าที่ฟังมาจากมิ่งขวัญแล้วพลังของกัลกีก็เป็นสกิลอย่างหนึ่งในเกมโลกาวินาศ ถ้าอย่างนั้นก็ยังพอมีวิธีอยู่

                แค่ผนึกการเคลื่อนไหวสินะ การที่ฉันกับนายยังคุยกันได้อยู่ก็แปลว่ายังใช้สกิลได้...

                รูปแบบของสกิลนั่นน่าจะเป็นประเภทผนึกเขตแดน ถ้าใช้ ซีลเบรกที่เป็นสกิลทำลายผนึกเขตแดนของเขาแล้วล่ะก็...

                ไม่ให้ใช้หรอกน่า

                กัลกีพูดแล้วควบม้าตรงมาที่นี่ ชักดาบกับควงไม้ตะบองพุ่งเข้ามา

                อิงศรร่ายสกิลโดยไม่สนใจว่าจะทันหรือไม่

                ซีลเบรก!”

                แต่ไม่ทันจริงๆ นั่นแหละ ดาบของกัลกีตวัดเข้ามาที่คอ คอจะโดนตัด แต่ว่า...

                มีอะไรบางอย่างขัดลงมาที่ดาบนั่นแล้วปัดมันกระดอนออกไป สกิลของอิงศรทำงาน พวกเขากลับมาขยับได้อีกครั้ง

                อิงศรยิงธนูสวนออกไป ลูกดอกไฟกระแทกใส่ม้าซึ่งคงจะไม่ใช่ม้าจริงๆ เพราะมันแตกเป็นผงไปในทันทีที ส่งให้กัลกีที่นั่งอยู่บนหลังร่วงหล่นมาก้นคะมำพื้น

                โอ้ย

                ทันใดนั้นหอกสีขาวก็จ่อเข้าไปที่คอของกัลกี อิงศรจำได้ว่ามันคือสิ่งที่เข้ามาขัดดาบของกัลกีไม่ให้ฟันเข้าที่คอ แต่ว่าไม่ใช่หอกของมิ่งขวัญจากอนาคต เพราะหมอนั่นก็ขยับตัวไม่ได้ในตอนนั้น

                มีแค่คนเดียวที่มีหอกแบบนั้น

                ออร์ฟี่

                รู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของตัวเองนั้นเบิกบานอย่างเต็มที่

                ผมมาช่วยแล้วอิงศร

                ออร์ฟี่กล่าว แต่กัลกีที่โดนจ่อหอกเข้าที่คอก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ง่ายๆ อันที่จริงออร์ฟี่ไม่ได้แค่จ่อหอกไปที่คออีกฝ่ายแต่ตั้งใจจะแทงให้ตายเพียงแต่ระยะของหอกไม่พอ

                กัลกีตวัดดาบปัดหอกให้เบี่ยงออกแล้วถีบตัวกระดอนถอยไปด้านหลัง

                ที่นั่น พวกสมุนของราหูแห่สวนกัลกีเข้ามาหาพวกเขา แต่กลับมีลำแสงสีแดงพุ่งตัดหน้าไปหาผู้หญิงผมขาวที่เป็นหนึ่งในลูกสมุน แยกหล่อนออกจากกลุ่มด้วยความเร็วในการฟาดดาบที่เทียบเคียงกับความว่องไวของหล่อน คนที่เร็วได้ระดับนั้นเท่าที่นึกออกก็มี

                ลิเธียมงั้นเรอะ

                ไม่ใช่แค่เขาหรอกนะ

                ออร์ฟี่พูด ดูเหมือนจะไม่ได้มาที่นี่เพียงลำพังแต่พวกราชครูที่อยู่ข้างเดียวกับเขามาด้วย

                ไม่นานนักหลังจากคำพูดนั้น ซีเซียมกับ โพแทสเซียมก็โผล่หัวมา

                ให้ตายเถอะกว่าจะหาพวกแกเจอได้เนี่ยรู้ไหมว่าฉันกับไฮโดรเจนหัวหมุนกันขนาดไหน

                ฮะฮะ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ไม่เห็นท่านซีเซียมจะทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอครับคนที่หาพวกซุงอิงเจอน่ะฝีมือท่านไฮโดรเจนล้วนเลย เนอะ

                โพแทสเซียมหันมา เนอะ ใส่ออร์ฟี่ เพราะกลัวจะโดนซีเซียมเล่นงานเอาที่พูดแซวไป

                อิงศรคิด... เจ้าพวกนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจากที่เจอหน้ากันครั้งสุดท้ายก็ตอนอยู่ที่บาเบล ทั้งที่ทำเป็นพูดเล่นหัวกันอยู่นี่แต่มือก็ยังจับอาวุธโจมตีไปด้วย

                ซีเซียมเล็งปืนไปที่ปีศาจสิงโต

                ไฮเปอร์ชู้ตติ้ง

                ร่ายสกิลพร้อมกับลั่นไก ลูกกระสุนพุ่งออกไปได้เล็กน้อยก็ระเบิดออกเป็นห่ากระสุนโถมใส่จนปีศาจสิงโตหยุดเท้าแล้วตั้งแขนขึ้นป้องกัน ผิวหนังของมันหนาจนกระสุนยิงไม่เข้า แต่จุดประสงค์ของซีเซียมไม่ได้มุ่งหวังการปลิดชีพอยู่แล้วที่ทำไปก็เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของมันเท่านั้น

                คนที่จะปิดฉากก็คือโพแทสเซียม เจ้านั่นตั้งคันธนูคู่ใจที่ใหญ่พอๆ กับตัวคนใช้ โก่งสายธนูสร้างลูกดอกเพลิงขึ้นมาแล้วร่ายสกิล

                เลเซอร์แอโร่ว

                ลูกดอกที่ขึ้นอยู่บนคันศรเปล่งแสงสว่าง พอปล่อยออกไปก็กลายเป็นลำแสงขนาดใหญ่พุ่งทะยานออกไป ลำแสงกลืนปีศาจสิงโตแล้วพุ่งอัดใส่เจ้าหุ่นสำริดยักษ์ที่อยู่ด้านหลังจนหงายล้ม ส่วนปีศาจสิงโตก็นอนแผ่หลาอยู่บนตัวเจ้าหุ่นนั่น

                ตอนนั้นเอง ราหูก็เริ่มเคลื่อนไหว

                มีคนมาจุ้นเยอะเสียเหลือเกินนะ

                 โจทย์เก่าของแกยังมีฉันอยู่อีกคนนะราหู

                มีเสียงดังมาอีก แล้วคนที่ไม่คาดคิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ก็ร่อนลงมายืนขวางหน้าราหู

                อิงศรพูด

                แฟรนเซียม นี่นาย...

                ชายคนนั้นคือคนที่น่าจะตายไปแล้ว

     

    ***สัปดาห์หน้าจะงดนะครับ ขอเวลาไปเรียบเรียงพล็อตก่อน เริ่มรู้สึกว่างานตัวเองมันกินที่จนไม่มีเวลามาเรียงพล็อตซะที แล้วก็เข้าโค้งสุดท้ายของเรื่องแล้วด้วยเลยอยากจัดระเบียบบทที่จะให้เรียบร้อยไปเลยน่ะครับ ไว้เจอกันใหม่วันอังคารที่ 31 เลยเน่อ****

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×