ตอนที่ 4 : MY ONLY 1 | 02 : ใต้ชายคาเดียวกัน [1]
02
ในเวลาสามทุ่มกว่าคืนหนึ่ง เจ้าจันทร์ที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ตั้งใจว่าคืนนี้จะหยิบหนังสือนิยายเล่มเก่าที่นำมาจากบ้านด้วยออกมาอ่าน ในเวลาที่ว่างแถมบรรยากาศก็กำลังดีอย่างนี้มันจะมีอะไรเยี่ยมไปกว่าการนอนอ่านหนังสือเล่มโปรดบนเตียงนุ่มๆ แบบนี้ล่ะ
ถ้าไม่ติดที่ว่าอยู่ๆ ไฟห้องเธอก็ดับน่ะ
ร่างเล็กลุกออกจากเตียงเดินไปยังสวิตช์ไฟเพื่อกดเปิดปิดมันอยู่สองสามครั้งแต่กลับไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ จนท้ายที่สุดเจ้าตัวก็ต้องยอมเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อนมองหาผู้เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเธอมั่นใจว่าเวลานี้คุณป้าภัสสรคงกำลังนั่งเตรียมวัตถุดิบทำขนมอยู่ในครัวแน่นอน
“อ้าว หนูเจ้าจันทร์มีอะไรคะ” หญิงวัยกลางคนที่กำลังพับใบตองอยู่เงยหน้าขึ้นมาเจอกับหญิงสาวเข้าพอดี
“พอดีไฟบนห้องเปิดไม่ติดเลยค่ะ”
“งั้นหรือคะ เดี๋ยวป้าตามเจ้านะไปดูให้”
ณภัทรอีกแล้วเหรอ?
“เอ่อ คือ”
“นะ ทำอะไรน่ะลูก มานี่หน่อยสิ” ยังไม่ทันจะได้โต้แย้งอะไร คุณเจ้าของบ้านก็เอ่ยปากเรียกลูกชายของตัวเองทันที
“มีอะไรน่ะแม่”
เรียกปุ๊บก็มาปั๊บ โคตรได้ดั่งใจเลย
“ห้องของเจ้าจันทร์เขาไฟดับน่ะ นะไปดูให้เขาหน่อยสิ”
สิ้นประโยคของผู้เป็นแม่ ณภัทรก็เหลือบตามองหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ เขาหมุนตัวออกจากห้องครัวเพื่อจะเดินขึ้นไปที่ห้องดังกล่าว
เจ้าจันทร์เห็นแบบนั้นก็รีบสาวเท้าเดินตามไปทันที เธอเดินตามร่างสูงขึ้นจนถึงชั้นสองแต่แทนที่เขาจะเข้าไปในห้องของเธอแต่กลับเดินเข้าห้องตัวเองแทน
“เฮ้ ห้องฉันอยู่นี่นะ”
“รู้ ก็ผมจะมาเอาไฟฉาย ห้องคุณมันมืดนะตอนนี้” อีกฝ่ายหันหน้ามาตอบก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอนตัวเองอยู่สักพัก
ห้องนอนของทั้งคู่อยู่ตรงข้ามกันพอดีโดยมีทางเดินเป็นตัวคั่นกลาง ระหว่างที่รอเจ้าจันทร์ตัดสินใจกลับเข้าห้องของตัวเองพร้อมลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาวางใต้หลอดไฟจากนั้นจึงปีนขึ้นไปเหยียบมันเพื่อให้สูงพอที่จะเอื้อมมือไปคว้าหลอดไฟดวงบนหัวนี้ได้
เกลียวก็ไม่ได้หลวม งั้นก็น่าจะเสียที่ไส้หลอดละมั้ง
“ระวังจะตกเก้าอี้นะ ให้ผมช่วยดีกว่า” ณภัทรที่เดินเข้ามาพร้อมไฟฉายส่องไฟไปที่ร่างของหญิงสาวเจ้าของห้องที่กำลังปีนเก้าอี้หมุนหลอดไฟอยู่
“ไม่เป็นไร ฉันทำเองได้” คนหัวรั้นปฏิเสธพลางขะมักเขม้นถอดหลอดไฟ แต่ว่าเก้าอี้ที่เหยียบอยู่ดันไม่เป็นใจเสียได้ “กรี๊ด”
นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำเลย
เร็วกว่าความคิด ณภัทรรีบวิ่งเข้าไปรับตัวของเจ้าจันทร์ที่กำลังจะหล่นลงมาจากเก้าอี้ตัวที่เธอยืนอยู่ นี่เข้าต้องคอยระวังความปลอดภัยให้สาวเจ้ากี่ครั้งกันแล้วนะ
“ทำอะไรไม่ระวังตัวเลย ผมสงสัยจังว่าคุณมีชีวิตจนป่านนี้ได้ยังไง” แต่คำถามที่เขาสงสัยนั้นก็หาคำตอบได้ไม่ยากนักหรอก เพราะลูกสาวคนเล็กของบ้านย่อมมีแต่คนทำให้ทุกอย่างจนไม่ต้องลงมือลงแรงทำอะไรเองอยู่แล้ว
“นี่!” เป็นไปตามคาดเมื่อเธอหันกลับมาเขาตาเขม็ง
ณภัทรมองร่างเล็กที่อยู่ภายในอ้อมแขนและกำลังชักสีหน้าใส่เขาอยู่ด้วยความเอ็นดู ถึงแม้ว่าในห้องจะมืดแต่ก็ยังมีแสงไฟสลัวจากด้านนอกหน้าต่างส่องเข้ามาให้พอมองเห็นใบหน้าของเธอ เจ้าจันทร์คงไม่รู้ตัวหรอกว่าเวลาที่เธอทำหน้าแบบนั้นแล้วมันไม่ได้น่ากลัวมากนัก มันเหมือนลูกแมวน้อยกำลังแยกเขี้ยวใส่มากกว่า
“ปล่อย”
พอเป็นแบบนั้นเขาก็อยากแกล้งมากกว่าปล่อย
“ถ้าผมไม่ปล่อยคุณจะทำอะไรผมได้” ว่าแล้วร่างสูงก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม “อยู่กันสองคนแบบนี้ในห้องที่ไม่มีแสงไฟก็ได้บรรยากาศดีนะครับ ประตูห้องก็ล็อกแล้วด้วย”
เขาโกหกน่ะ ความจริงมันไม่ได้ล็อก
“ณภัทร! ฉันจะเรียกคุณป้า”
“ถ้าคุณตะโกน..ผมจูบ” เขาไม่กล้าทำแบบนั้นจริงๆ หรอก แต่เพียงแค่อยากขู่เอาไว้ดูปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเท่านั้น อาจจะดูเป็นนิสัยไม่ค่อยดีที่รู้สึกเอ็นดูทุกครั้งเวลาเห็นหน้าเจ้าจันทร์ตอนโดนเขาแกล้ง
“ไอ้บ้า ปล่อยนะ”
“นี่คุณรังเกียจผมขนาดนั้น?” แม้จะรู้อยู่แก่ใจแต่ว่ามันก็แอบเจ็บอยู่ลึกๆ ในใจ เขาไม่แน่ใจนักว่าตัวเองเคยไปทำอะไรให้สาวเจ้าเจ็บช้ำน้ำใจอะไรจนถึงขั้นเกลียดแบบนี้
“ใช่สิ ถ้านายทำอะไรฉันฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่” หญิงสาวว่าพร้อมกับพยายามขืนตัวเองออกจากอ้อมแขนของเขา แต่ว่าคนที่อ่อนแอกว่าจะสู้แรงของคนที่กำลังมากกว่าได้ยังไง
“ทำไม? คุณจะฟ้องพ่อคุณเหรอ”
“ฉันฟ้องแน่”
“ผมจูบคุณสักทีสองทีดีไหม จะได้คุ้ม”
Castle-G's Talk
แงงงงงง ร้ายจังเลยนะไอ้ต้าวณภัทรของเรา
ยัยตัวร้ายแบบนี้ก็ต้องปราบให้ได้ไวๆ แล้วนะคะ
ฝากส่งฟีดแบคด้วยค่า เม้นท์ให้เลาเถอะ
ใครเม้นท์บ่อยเลาแจกอีบุค พูดจริงๆ นะ 555555

มาหวีดติดแท็ก #ณเจ้าจันทร์
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สั่งสอนสักหน่อยก็ดี
เจิมมม รอนะคะ