ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fan Fic B.A.P Cat's Slave Story

    ลำดับตอนที่ #2 : Cat's Slave Story 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 221
      2
      12 ก.พ. 57

    Cat’s Slave Story
     
    1
     
    “แมวเลือกเรา เราไม่ได้เป็นเจ้าของมัน”
     
    คริสติน คาสท์


     
              “ยองแจ...”
     
              เสียงใครคนหนึ่งเรียกชื่อเขา ยองแจพยายามมองหาที่มาของเสียงนั้น ทว่ารอบกายเขาถูกบดบังด้วยหมอกสีขาว ที่แม้จะให้สัมผัสเย็นสบาย แต่ก็ทำให้ยองแจมองไม่เห็นอะไรเลย 
     
               “ยองแจ...”
     
              เสียงนุ่มนั้นร้องเรียกเขาอีกครั้ง ครั้งนี้ยองแจรู้สึกว่าเจ้าของเสียงนั้นน่าจะอยู่ใกล้ ๆ นี้ ไม่ทันไรก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่น ๆ จากด้านหลัง มีใครบางคนโอบกอดเขาจากด้านหลัง ยองแจรู้สึกถึงสองแขนที่โอบรอบเอวเขาไว้แน่น แผ่นหลังของตัวเองที่แนบชิดกับอีกคน และคางที่เกยไหล่ด้านขวาของเขาไว้ คนถูกกอดตัวแข็งทื่อ แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้รังเกียจอ้อมกอดนั้น และยังชอบมากเสียด้วย กอดนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นเจือด้วยความโหยหา ยองแจรู้สึกเหมือนคิดถึงอ้อมกอดนี้มานาน เหมือนคนที่กอดเขาไว้เป็นคนที่เขารักและคนคนนั้นก็รักเขามาก
     
              รักมากจริง ๆ
     
              ยองแจพยายามจะหันไปดูหน้าของคนคนนั้น แต่เมื่อหันไปริมฝีปากก็สัมผัสบางสิ่งที่นุ่มนวลอ่อนหวาน
     
             สัมผัสนั้นทำให้ยองแจสะดุ้งตื่น
     
             เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบดวงตาสีฟ้า และใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยขนนุ่มสีดำในระยะประชิด เจ้าแมวน้อยนอนตะแคงเหยียดตัวยาวอยู่ตรงหน้า หัวกลมเล็กของมันหนุนหมอนใบเดียวกับยองแจ ทำให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน ซ้ำยังใกล้มากจนหนวดยาว ๆ ของมันแทบจะเคลียแก้มของเขา ดวงตาสีฟ้าคู่สวยของมันจ้องเขาเขม็งราวกับจะเอ่ยทักว่า  “ตื่นแล้วเหรอ”
     
              “อรุณสวัสดิ์”
     
              ชายหนุ่มพูดกับเจ้าแมว ไม่ได้หวังคำตอบกลับ ทว่าเจ้าเหมียวกลับส่งเสียงร้อง “เหมี๊ยว” เบา ๆ ราวกับจะตอบว่า “อรุณสวัสดิ์ เมื่อคืนหลับสบายดีไหม”
     
              ยองแจยิ้มให้เจ้าแมว นึกขำที่ตัวเองคิดอะไรประหลาดเสียจริง
     
              ชายหนุ่มบิดตัวกลับมานอนหงาย สายตาเหลือบมองนาฬิกาบนผนังที่อยู่ทางปลายเตียง นาฬิกาบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า หากเป็นวันทำงาน ตอนนี้เขาคงยืนเบียดกับผู้คนอยู่บนรถไฟฟ้าใต้ดินอันแน่นขนัด แต่โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ วันหยุดประจำสัปดาห์ของคนทำงานบริษัทอย่างเขา ยองแจหลับตาลง คิดจะนอนต่อถึงสิบโมงค่อยลุก แต่เสียงประท้วงจากร่างที่อยู่ข้าง ๆ เรียกให้เขาต้องลืมตาอีกครั้ง
     
              “เหมี๊ยว”
     
              ยองแจเอี้ยวตัวหันกลับไปมองต้นเสียง ตอนนี้เจ้าแมวลุกขึ้นมาอยู่ในท่าหมอบ สองขาหน้าอิงหมอนไว้ ยืดคอตั้งตรงจนหัวของมันอยู่เหนือใบหน้าของยองแจที่นอนอยู่ ชายหนุ่มเพิ่งสังเกตตอนนี้เองว่ากลุ่มขนที่หน้าอกของมันเป็นสีขาวสะอาดตัดกับสีขนที่เหลือทั้งหมด ดวงตาสีฟ้าสบตาของชายหนุ่มราวกับอยากจะสื่อสารผ่านสายตา ยองแจไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน เพราะพ่อกับแม่ของเขาไม่ชอบแมว แต่เคยเลี้ยงหมาอยู่ตัวหนึ่งชื่อ สำลี เพราะขนสีขาวของมันยาวฟูฟ่องเหมือนสำลี เจ้าสำลีเป็นหมาพันธุ์ทางที่คนรู้จักยกให้เลี้ยง และเวลาที่เจ้าสำลีพยายามจะเรียกร้องความสนใจจากเขา  มักจะมีสาเหตุอยู่ไม่กี่อย่าง
     
              “หิวล่ะสิ”
     
              เอ่ยถามเจ้าแมวเหมือนรู้ใจ แม้จริง ๆ แล้วจะแค่เดาไปส่ง ๆ เท่านั้น เจ้าแมวยังคงมองหน้าเขานิ่ง ยองแจจึงค่อย ๆ ดันตัวเองขึ้นจากเตียงอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะเปิดประตูห้องนอนเดินลงบันไดไปยังห้องครัวชั้นล่าง โดยมีร่างเล็กย่องตามหลังไป
     
              ร่างผอมที่ยังคงอยู่ในชุดทำงานของเมื่อวานตรงไปเปิดตู้เย็น กวาดตาสำรวจทั่วตู้ที่มีเพียงน้ำดื่มไม่กี่ขวดและนมรสหวานกล่องใหญ่ที่เหลือเพียงครึ่งกล่อง สงสัยวันนี้เขาคงต้องออกไปซื้อของเข้าบ้านบ้างแล้ว
     
              ยองแจหยิบนมกล่องออกมาจากตู้ ค้นหาชามขนาดพอเหมาะบนขั้นวางจานอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะจัดแจงรินนมใส่ชามจนเกือบเต็ม แล้ววางชามนั้นลงบนพื้นใกล้ ๆ เจ้าแมวดำ มันมองชามนมนั้น ก่อนจะเงยหน้ามองเขาราวกับกำลังข้องใจ
     
              “กินไปก่อนน่า เดี๋ยวไปซื้ออาหารมาให้”
     
              เมื่อชายหนุ่มพูดปลอบออกไป เจ้าเหมียวก็ค่อย ๆ เข้าไปดม ๆ ชามนมนั้น ก่อนจะเริ่มเลียนมรสหวานนั้นอย่างหิวโหย ยองแจเห็นแบบนั้นแล้วก็รีบกลับขึ้นไปบนห้องนอน คว้าผ้าเช็ดตัวได้ก็เข้าห้องน้ำไปทำความสะอาดร่างกายที่เหนียวเหนอะทันที จะได้รีบออกไปซื้ออาหารให้เจ้าแมวเร็ว ๆ เพราะดูท่ามันจะหิวจัดจริง ๆ
     
              ครึ่งชั่วโมงต่อมา ยองแจก็กลับมาพร้อมหิ้วถุงใส่เสบียงจากร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้าน ต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องรีบออกไปซื้ออาหารมานั้นนอนรอเขาอยู่บนโซฟายาว เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกลับมาแล้ว มันก็ลุกขึ้นจากโซฟาเดินตามเขาเข้าไปในครัว เจ้าของบ้านเทอาหารเม็ดสำหรับแมวใส่ชามใบใหม่ ก่อนจะวางลงบนพื้นข้าง ๆ ชามนมที่เจ้าแมวกินไม่หมด แล้วหันมาร้องเรียกเจ้าขนนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่างให้มากินอาหารในชาม
     
              “เหมียว มากินเร็ว หิวไม่ใช่เหรอ”
     
              เจ้าแมวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ชามอาหารเม็ด แต่ดม ๆ อยู่เพียงครู่เดียวก็เบือนหน้าหนี หันมามองหน้าคนเตรียมอาหารพร้อมส่งเสียงร้องประท้วง
     
               “หม๊าว”
     
              “ไม่ชอบเหรอ”
     
              ยองแจนึกต่อว่าโฆษณาอาหารเม็ดที่หลอกลวงว่าแมวทุกตัวชื่นชอบ ขณะนั้นเองเจ้าแมวก็เดินหนีไปจากชามใส่อาหารเม็ด กระโดดขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว ยื่นหน้าไปดม ๆ ถุงใส่อาหารที่เขาซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองการกระทำของแมวดำ สงสัยมันคงอยากกินอะไรสักอย่างที่อยู่ในถุงนั้น ยองแจเดินตรงไปที่โต๊ะ หยุดยืนข้างเก้าอี้ที่เจ้าแมวนั่งอยู่ ก่อนจะทยอยหยิบของกินออกมาจากถุง นมรสหวานกล่องใหญ่ ขนมปังหนึ่งแถวยาว แยมรสสตรอว์เบอร์รี่ แยมเนยถั่ว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสกิมจิ และเค้กช็อกโกแลตฟัจด์ตัดเป็นสี่เหลี่ยมสองชิ้น
     
              ขณะที่ชายหนุ่มนำของทุกอย่างออกมาวางเรียงบนโต๊ะ เจ้าแมวดำก็ใช้ดวงตาสีฟ้าคู่สวยของมันมองตามทุกการกระทำของเขา เมื่อยองแจนำกล่องเค้กช็อกโกแลตฟัจด์วางลงบนโต๊ะ เจ้าเหมียวก็มองเค้กในกล่องใสตาไม่กระพริบ
     
              “อยากกินเค้กเหรอ”
     
              เจ้าแมวเงยหน้ามองยองแจ มันกระพริบตาใส่เขาหนึ่งครั้งราวกับจะตอบรับก่อนจะเบนสายตาไปมองขนมเค้กเหมือนเดิม ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็คลี่ยิ้มกว้างอย่างนึกเอ็นดู ยองแจไม่แน่ใจว่าแมวกินช็อกโกแลตได้หรือไม่ เขาเคยอ่านมาว่าหมาไม่ควรกินช็อกโกแลต แต่เจ้าสำลีของเขาชอบกินนมรสช็อกโกแลตมาก ๆ ซึ่งเขาก็ตามใจมันประจำ มันกินนมช็อกโกแลตทุกวันก็ไม่เห็นเป็นอะไร ดังนั้นชายหนุ่มจึงจัดการหาจานมาแบ่งเค้กช็อกโกแลตฟัจด์หนึ่งชิ้นให้เจ้าเหมียว
     
              ทันทีที่จานใส่เค้กถูกวางลงตรงบนโต๊ะตรงหน้าเจ้าแมวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ยื่นจมูกไปดมเค้กในจานอย่างกระตือรือร้น ก่อนที่จะใช้ลิ้นเล็กชิมรส ดูเหมือนจะรสชาติถูกปาก เพราะเจ้าเหมียวกระโดดขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ แล้วค่อย ๆ ละเอียดกินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย
     
              “ชอบล่ะสิ”
     
              เอ่ยแซวเจ้าแมวพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปเตรียมอาหารเช้าให้ตัวเองบ้าง ยองแจหยิบขนมปังสองแผ่นไปใส่เครื่องปิ้งขนมปังไฟฟ้า กดให้เครื่องทำงาน ไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงเครื่องร้องดัง ติ๊ง บ่งบอกว่าขนมปังของเขาปิ้งเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มใช้ช้อนสองคันคีบขนมปังร้อนหอมกรุ่นออกมาจากเครื่องปิ้ง จัดแจงทาเนยถั่วและแยมสตรอว์เบอร์รี่บนขนมปังอย่างละแผ่น ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวฝั่งตรงข้ามกับเก้าอี้ตัวที่เจ้าเหมียวเคยนั่ง เจ้าแมวเงยหน้าขึ้นมองครู่เดียวเมื่อเห็นว่ายองแจมานั่งที่โต๊ะ ก่อนจะจัดการเค้กของตัวเองต่อไป
     
             “พอได้เค้กแล้วไม่สนใจฉันเลยนะ”
     
              ยองแจแกล้งพูดตัดพ้อเจ้าแมว หลุดหัวเราะออกมาเมื่อดวงตาสีฟ้าเหลือบตาขึ้นมองข้ามก้อนเค้กมาสบตาเขา ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้เจ้าแมว ก่อนจะเริ่มกินอาหารเช้าบ้าง กินขนมปังไป มองเจ้าตัวนุ่มนิ่มกินเค้กไป เผลอหลุดยิ้มกับท่าทางน่ารักน่าชังของเจ้าแมวดำหลายครั้ง
     
              ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของร่างเพรียวตรงหน้าดึงดูดสายตาเขา เพียงแค่ได้มองมันเขาก็รู้สึกเป็นสุขอย่างประหลาด... บางทีเขาอาจจะอยู่ตัวคนเดียวมานานเกินไป ชินชากับการทำอะไรตามลำพัง จนไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองเหงามากแค่ไหน
     
              ไม่รู้ว่าแมวตัวนี้มาจากไหน และมีเจ้าของไหม แต่ถ้ามันเต็มใจจะอยู่กับเขาก็คงดี
     
              “นี่ เจ้าเหมียว”
     
              ลองเอ่ยเรียกดู แต่เจ้าตัวที่ถูกเรียกทำเพียงเหลือบตามองเขาครู่เดียว ก่อนจะหันไปสนใจเค้กเหมือนเดิม ทว่ายองแจก็ยังไม่ละความพยายาม
     
              “เจ้าเหมียว... ฉันไม่รู้นะว่านายมีเจ้าของรึเปล่า... แต่ถ้านายยังไม่มีบ้าน...”
     
              เมื่อยองแจพูดถึงตรงนี้ เจ้าเหมียวก็เหลือบตาขึ้นมองเขาอีกครั้ง แม้ปากจะยังไม่หยุดแทะเล็มเค้ก แต่สายตาที่มองมาก็ทำให้ชายหนุ่มแน่ใจว่าเจ้าแมวกำลังตั้งใจฟังอยู่
     
              “ถ้านายยังไม่มีบ้านอยู่ ก็อยู่ที่นี่ด้วยกันนะ สัญญาเลยว่าจะดูแลนายอย่างดี”
     
               เจ้าแมวดำยังคงกินเค้กต่อไป ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดใด ยองแจเห็นแบบนั้นจึงพูดต่อ
     
              “ให้นายนอนบนเตียงด้วย”
     
              คราวนี้หูของเจ้าเหมียวกระดิก แต่มันก็ยังไม่ตอบรับ ยังคงก้มหน้ากินเค้กต่อไป
     
              “แล้วก็จะซื้อเค้กให้กินทุกวันเลย”
     
              สิ้นคำสัญญาของยองแจ เจ้าแมวก็เงยหน้าขึ้นจากเค้ก ดวงตาสีฟ้าสุกใสของมันสบตากับชายหนุ่ม ก่อนจะร้องออกมาเบา ๆ ว่า
     
              “เหมี๊ยว”


     
    [ Cat's Slave Story ]
     
    ขอบคุณความคิดเห็นจาก คุณKoko Run คุณMaewdae คุณPrimiePrim และคุณDaeJae
    เราก็หวังว่าเรื่องนี้จะสนุกน่าติดตามแบบที่ทุกคนว่านะคะ เราจะพยายามเต็มที่ค่ะ -_-)b
    ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ
     
    ปล. เรารู้ว่าช่วงนี้เบบี้ยุ่ง ๆ กับการโหวตและปั่นวิวให้บีเอพี สู้ ๆ นะทุกคน มาพยายามด้วยกันเถอะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×