ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #29 : Ep.29 - Separate

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.73K
      117
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.29 – Separate

    คุณน่ะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อซีหลงรึเปล่าคะ?”

    ดวงตาใสซื่อนั้นกำลังคาดคั้นคำตอบ เกลผงะไปเล็กน้อย แล้วครู่หนึ่งจึงว่า เพิ่งเคยได้ยินนะ ใครเหรอ?” หล่อนจึงผ่อนลมหายใจ สาธยายว่า คนรู้จักน่ะค่ะ เผอิญเธอเป็น <ตัวปัญหานิดหน่อย ว่าแต่คุณรู้จักกลุ่ม <ไอแซครึเปล่าคะ?”

    ถ้าจำไม่ผิด....เหมือนพวกโคจะเคยพูดว่าเป็นผู้ก่อการร้ายสินะ?”

    หนนี้เขาตอบไปตามตรง,ส่วนเอแคร์ก็ผงักหน้าหงึกแล้วเสริมต่อ

    ใช่แล้วค่ะ เป็นพวกกลุ่มก่อการร้ายที่เห็นแก่ตัวและมีนิสัยชอบหลอกใช้คนอื่น ดูเหมือนในกลุ่ม <ไอแซคผู้หญิงที่ชื่อซีหลงจะเป็นผู้นำระดับสูงล่ะค่ะ เธอชอบหลอกล่อพวกหน้าใหม่ในเมืองให้ก่อเหตุจลาจลนู่นนี่นั่น————”

    แปะ!

    คุณเกลเองก็ระวังตัวไว้นะคะ

    เธอตบไหล่,แล้วจึงเดินจากไปทิ้งให้เกลยืนค้างอยู่อย่างนั้น “ชิ....” เกลเดาะลิ้น,แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างไม่ใส่ใจนัก กระทั่งมาถึงเขต 4 ชายหนุ่มจึงไปรวมตัวกับกลุ่มขนส่งแล้วปฏิบัติงานทันที

    โดยส่วนมากก็คือขนส่งวัตสดุตั้งแต่ของเล็กๆอย่างจดหมายจนถึงของใหญ่ๆอย่างโต๊ะอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆตามบ้าน ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับงานที่ต่างกันออกไป ซึ่งเกลนั้นได้รับงานมาทั้งหมด 4 ชิ้น ที่แม้เหมือนจะดูน้อยนิดทว่ากลับกลายเป็นใหญ่เยอะจนยุ่งยาก ลำบากเขาต้องเดินวนไปวนกลับเท้าลากดิน

    อืม,ลายเซ็นครบ.....เอาล่ะเท่านี้งานของเธอก็จบแล้วนะ,กลับไปพักได้แล้วล่ะ

    ขอบคุณครับ

    เขาโค้งคำนับ แม้ฟ้ายังเป็นสีแดง,ทว่ารู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยเข้าช่วงมืด เกลรับเงินค่าจ้างมาจำนวนหนึ่งก่อนจะเดินกลับไปยังเขต 7ในสภาพเหนื่อยอ่อน ระหว่างทางก็สังเกตว่าเมืองนี้ยังคงดูคึกคักอยู่เรื่อยๆ

    ........

    ความสุขปลอมๆงั้นเหรอ?

    .

    .

    กลับมาแล้ว.....

    ช้ามากค่ะนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วรู้ไหมคะ..!?”

    ————เป็นคลาร่าล่ะ

    ผิดคาดแฮะ,ไม่ยักกะนึกว่าจะเป็นยัยนี่ที่โผล่ออกมาต้อนรับ....ขณะที่เกลกำลังคิดเรื่องเสียมารยาทอยู่ เทียนเหมยโผล่หน้ามาสมทบ “อ้าว..? กลับมาแล้วเหรอวันนี้คงเหนื่อยแย่เลยนะ

    เธอว่าพลางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน คิดว่าบางทีคงเพิ่งอาหารเสร็จล่ะมั้งเขานึกอย่างนั้นแล้วตอบกลับ “อือ,นิดหน่อยน่ะ” พร้อมกับถอนรองเท้าลงชั้นรอง,แล้วขึ้นมายังตัวบ้านเดินตามหลังทั้งสองไปยังห้องนั่งเล่น

    ......กับข้าววันนี้ก็ยังคงเป็นสลัด

    ที่วันแรกมีเนื้อให้กิน ก็คงถือว่าเป็นมื้อฉลองการมาของเกล ดังนั้นในวันต่อมาอาหารทั้งหลายแหล่จึงมีแต่ผักสดที่หากินได้ง่ายกว่าแทน

    พอมาถึงก็พบกับฉีกและโคที่นั่งพูดคุยกันอยู่ บนโต๊ะนั้นมีจานเปล่าสองใบเหลือคราบของครีมสลัดไว้อยู่เล็กน้อยและอีกหนึ่งใบซึ่งตั้งวางในสภาพสมบูรณ์พร้อมไม่มีใครแตะต้อง เกลเข้าทักทายทั้งสองพร้อมกับนั่งลงทานสลัดเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่ง

    บรรยากาศดำเนินไปอย่างแช่มช้า

    ระหว่างนี้ทั้งสามก็มีคุยเล่นสาระและข่าวสารผลัดเปลี่ยนกันไป จวบจนเกลทานเสร็จก็ลุกขึ้นเก็บจาน พร้อมกับออกไปฝึกวิชารอบดึกอีกครั้ง————

    .....ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

    กิจวัตรเดิมๆที่ถูกทำซ้ำๆ

    พอคิดอย่างนั้นในใจของเกลก็เริ่มสั่นเทิ้ม เป็นแรงสั่นซึ่งเกิดจากความกลัวในจิตใจ.....ที่เมื่อก่อน,แม้จะเคยถูกคนอื่นเหยียดหยามมานักต่อนัก ทว่าสุดท้ายเขาก็ยังคงกล้ำกลืนมันลงไปจนกลายเป็นความเคยชิน

    แต่ความเคยชินนั่นก็อยู่ได้ไม่นานนัก หลังจากที่เจอเหตุการณ์ในวันนั้น————แฟนสาวซึ่งมีเซ็กซ์กับชายอื่นที่เขาไม่รู้จักพร้อมกับเหยียดยิ้มดูถูกเกลว่าไร้น้ำยาและไร้ค่านั้นสำหรับเกลมันกลับกลายเป็นความทรงจำอันขมขื่นที่ยากจะลืมเลือน

    แม้จะเคยหลับนอนกับเธอมาหลายครั้ง ทว่าหญิงสาวก็ไม่เคยแสดงท่าทีแบบนั้นให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

    ตัวเธอในตอนนั้นเหมือนกับเด็กสาวที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข

    ความสุขที่แม้เกลจะให้ไปมากเท่าไหร่ ก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการในใจเธอได้

    ทั้งที่เป็นแบบนั้น————แล้วก่อนหน้านี้ทำไมถึงได้ทำมาเป็นดีต่อกันล่ะ..?

    คำตอบก็ง่ายๆ

    ......

    เขาถูกหลอกยังไงล่ะ

    เพื่อผลประโยชน์เพื่อความโลภเพื่อความพอใจของผู้คน ดังนั้นจึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น เกลเองก็รับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรือผิดแผกไปจากความเป็นจริงมากนัก ทว่ารู้ตัวอีกทีความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามากลางใจก็ทำให้เขากระทำการอันร้ายแรงออกไปโดยไม่รู้ตัว

    ......ผลสุดท้ายก็คือสูญเสียทุกสิ่ง

    เพื่อน,คนรัก,พ่อแม่ และที่พักพิง สำหรับเกลมันเป็นเพียงแค่ฝุ่นธุลีก้อนหนึ่ง เป็นนามธรรมที่ตัวเขาไม่อาจจับต้องได้อีกต่อไป เพราะแบบนั้นในใจของเกลจึงเกิดความนึกคิดว่าหากถูกหลอกใช้อีกเขาก็ย่อมต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไปอีก————ด้วยเหตุนี้ภายในใจของเกลจึงผุดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา

    ไม่อยากจะเชื่อใคร....

    ไม่อยากจะถูกหลอกใช้....

    ————ไม่อยากให้ทุกอย่างต้องจบซ้ำแบบเดิมอีก

    ทุกคนมาดื่มชาร้อนกันเถอะ

    ทั้งที่ชามีสารกระตุ้นต่อมประสาทแท้ๆ แต่ก็ยังชงมาให้รอบดึกอีกเนี่ยนะคะ?”

    เอาน่าๆ,ถึงจะมีคาเฟอีนแต่ก็ไม่เยอะเท่ากาแฟหรอกนา

    เฮ้อไม่ไหวเลยนะคะ คุณเทียนเองก็อายุ 30 แล้วแท้ๆ

    เดี๋ยวเถอะชั้นยังแค่ 29 หมาดๆเองนะยะ

    ปีเดียวมันก็ไม่ต่างกันหรอกค่ะ

    สองสาวแหวกันไปมาจนโคและฉีหัวเราะขบขัน กระนั้นก็ผิดกับเกล,ซึ่งยืนมองทั้งสองด้วยแววตาเลื่อนลอย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เทียนเหมยเสิร์ฟชามาให้ตรงหน้า แก้วเซรามิกสีขุ่นกับชาจีนสีเหลืองอ่อนแบบอู่หลง ชายหนุ่มจ้องการไหวของน้ำในแก้วอย่างเงียบงัน

    ......

    ที่ซีหลงพูดมาก็อาจจะจริง เรื่องที่ว่าเขากำลังหลงลืมบางสิ่งและหลงละเมอกับความสุขรอบข้างจนตัวเองต้องมาเสียใจในภายหลัง————เรื่องแบบนั้นน่ะ,ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากจะเจออีกเป็นครั้งที่สอง

    มนุษย์เราเนี่ย,ไม่ว่าใครต่างก็เหมือนกันหมดเลยสินะ?”

    ว่าอย่างนั้น,จนการสนทนาของชายหญิงทั้งสี่ต่างหยุดลง พร้อมกันทั้งหมดก็หันมามองเขาเป็นตาเดียว ซึ่งแม้จะถูกจ้องทว่าเกลกลับไม่ใส่ใจ สติทั้งหมดนั้นถูกแก้วชาตรงหน้าเข้าชักนำ

    เกลจิบเข้าปากอย่างเเช่มช้า ขณะเดียวกันไอร้อนก็แผ่ซ่านออกมารอบมุมปาก

    อืม.....จืดจังนะ

    พอเอ่ยขึ้นมาแบบนั้น,ทุกคนจึงเลิกคิ้วเปล่งเสียง ‘หะ..?’ ออกมาโดยพร้อมเพรียง————

    เดี๋ยวก่อนเลย,ปกติชาจีนมันก็ต้องจืดอยู่แล้วนี่?”

    เทียนเหมยแย้งขึ้นแฝงแววข้องใจเล็กน้อย เกลจึงวางแก้วลงตัก,แล้วว่า

    ชาที่บ้านผมมันหวานน่ะครับ

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×