คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : Ep.29 - Separate
UNagain.29 – Separate
“คุณน่ะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ【ซีหลง】รึเปล่าคะ?”
ดวงตาใสซื่อนั้นกำลังคาดคั้นคำตอบ เกลผงะไปเล็กน้อย แล้วครู่หนึ่งจึงว่า “เพิ่งเคยได้ยินนะ
ใครเหรอ?” หล่อนจึงผ่อนลมหายใจ สาธยายว่า “คนรู้จักน่ะค่ะ
เผอิญเธอเป็น <ตัวปัญหา> นิดหน่อย ว่าแต่คุณรู้จักกลุ่ม <ไอแซค> รึเปล่าคะ?”
“ถ้าจำไม่ผิด....เหมือนพวกโคจะเคยพูดว่าเป็นผู้ก่อการร้ายสินะ?”
หนนี้เขาตอบไปตามตรง,ส่วนเอแคร์ก็ผงักหน้าหงึกแล้วเสริมต่อ
“ใช่แล้วค่ะ
เป็นพวกกลุ่มก่อการร้ายที่เห็นแก่ตัวและมีนิสัยชอบหลอกใช้คนอื่น ดูเหมือนในกลุ่ม <ไอแซค> ผู้หญิงที่ชื่อ【ซีหลง】จะเป็นผู้นำระดับสูงล่ะค่ะ
เธอชอบหลอกล่อพวกหน้าใหม่ในเมืองให้ก่อเหตุจลาจลนู่นนี่นั่น————”
แปะ!
“คุณเกลเองก็ระวังตัวไว้นะคะ”
เธอตบไหล่,แล้วจึงเดินจากไปทิ้งให้เกลยืนค้างอยู่อย่างนั้น “ชิ....” เกลเดาะลิ้น,แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
กระทั่งมาถึงเขต 4 ชายหนุ่มจึงไปรวมตัวกับกลุ่มขนส่งแล้วปฏิบัติงานทันที
โดยส่วนมากก็คือขนส่งวัตสดุตั้งแต่ของเล็กๆอย่างจดหมายจนถึงของใหญ่ๆอย่างโต๊ะอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆตามบ้าน
ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับงานที่ต่างกันออกไป ซึ่งเกลนั้นได้รับงานมาทั้งหมด 4 ชิ้น
ที่แม้เหมือนจะดูน้อยนิดทว่ากลับกลายเป็นใหญ่เยอะจนยุ่งยาก
ลำบากเขาต้องเดินวนไปวนกลับเท้าลากดิน
“อืม,ลายเซ็นครบ.....เอาล่ะ! เท่านี้งานของเธอก็จบแล้วนะ,กลับไปพักได้แล้วล่ะ”
“ขอบคุณครับ”
เขาโค้งคำนับ แม้ฟ้ายังเป็นสีแดง,ทว่ารู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยเข้าช่วงมืด
เกลรับเงินค่าจ้างมาจำนวนหนึ่งก่อนจะเดินกลับไปยัง《เขต 7》ในสภาพเหนื่อยอ่อน
ระหว่างทางก็สังเกตว่าเมืองนี้ยังคงดูคึกคักอยู่เรื่อยๆ
“........”
ความสุขปลอมๆงั้นเหรอ?
.
.
“กลับมาแล้ว.....”
“ช้ามากค่ะ! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วรู้ไหมคะ..!?”
————เป็นคลาร่าล่ะ
ผิดคาดแฮะ,ไม่ยักกะนึกว่าจะเป็นยัยนี่ที่โผล่ออกมาต้อนรับ....ขณะที่เกลกำลังคิดเรื่องเสียมารยาทอยู่
เทียนเหมยโผล่หน้ามาสมทบ “อ้าว..? กลับมาแล้วเหรอ? วันนี้คงเหนื่อยแย่เลยนะ”
เธอว่าพลางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน
คิดว่าบางทีคงเพิ่งอาหารเสร็จล่ะมั้ง? เขานึกอย่างนั้นแล้วตอบกลับ “อือ,นิดหน่อยน่ะ” พร้อมกับถอนรองเท้าลงชั้นรอง,แล้วขึ้นมายังตัวบ้านเดินตามหลังทั้งสองไปยังห้องนั่งเล่น
......กับข้าววันนี้ก็ยังคงเป็นสลัด
ที่วันแรกมีเนื้อให้กิน
ก็คงถือว่าเป็นมื้อฉลองการมาของเกล
ดังนั้นในวันต่อมาอาหารทั้งหลายแหล่จึงมีแต่ผักสดที่หากินได้ง่ายกว่าแทน
พอมาถึงก็พบกับฉีกและโคที่นั่งพูดคุยกันอยู่
บนโต๊ะนั้นมีจานเปล่าสองใบเหลือคราบของครีมสลัดไว้อยู่เล็กน้อยและอีกหนึ่งใบซึ่งตั้งวางในสภาพสมบูรณ์พร้อมไม่มีใครแตะต้อง
เกลเข้าทักทายทั้งสองพร้อมกับนั่งลงทานสลัดเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่ง
บรรยากาศดำเนินไปอย่างแช่มช้า
ระหว่างนี้ทั้งสามก็มีคุยเล่นสาระและข่าวสารผลัดเปลี่ยนกันไป
จวบจนเกลทานเสร็จก็ลุกขึ้นเก็บจาน พร้อมกับออกไปฝึกวิชารอบดึกอีกครั้ง————
.....ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
กิจวัตรเดิมๆที่ถูกทำซ้ำๆ
พอคิดอย่างนั้นในใจของเกลก็เริ่มสั่นเทิ้ม
เป็นแรงสั่นซึ่งเกิดจากความกลัวในจิตใจ.....ที่เมื่อก่อน,แม้จะเคยถูกคนอื่นเหยียดหยามมานักต่อนัก
ทว่าสุดท้ายเขาก็ยังคงกล้ำกลืนมันลงไปจนกลายเป็นความเคยชิน
แต่ความเคยชินนั่นก็อยู่ได้ไม่นานนัก
หลังจากที่เจอเหตุการณ์ในวันนั้น————แฟนสาวซึ่งมีเซ็กซ์กับชายอื่นที่เขาไม่รู้จักพร้อมกับเหยียดยิ้มดูถูกเกลว่าไร้น้ำยาและไร้ค่านั้นสำหรับเกลมันกลับกลายเป็นความทรงจำอันขมขื่นที่ยากจะลืมเลือน
แม้จะเคยหลับนอนกับเธอมาหลายครั้ง
ทว่าหญิงสาวก็ไม่เคยแสดงท่าทีแบบนั้นให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
ตัวเธอในตอนนั้นเหมือนกับเด็กสาวที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
ความสุขที่แม้เกลจะให้ไปมากเท่าไหร่
ก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการในใจเธอได้
ทั้งที่เป็นแบบนั้น————แล้วก่อนหน้านี้ทำไมถึงได้ทำมาเป็นดีต่อกันล่ะ..?
คำตอบก็ง่ายๆ
“......”
เขาถูกหลอกยังไงล่ะ
เพื่อผลประโยชน์เพื่อความโลภเพื่อความพอใจของผู้คน
ดังนั้นจึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น
เกลเองก็รับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรือผิดแผกไปจากความเป็นจริงมากนัก
ทว่ารู้ตัวอีกทีความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามากลางใจก็ทำให้เขากระทำการอันร้ายแรงออกไปโดยไม่รู้ตัว
......ผลสุดท้ายก็คือสูญเสียทุกสิ่ง
เพื่อน,คนรัก,พ่อแม่
และที่พักพิง สำหรับเกลมันเป็นเพียงแค่ฝุ่นธุลีก้อนหนึ่ง
เป็นนามธรรมที่ตัวเขาไม่อาจจับต้องได้อีกต่อไป
เพราะแบบนั้นในใจของเกลจึงเกิดความนึกคิดว่าหากถูกหลอกใช้อีกเขาก็ย่อมต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไปอีก————ด้วยเหตุนี้ภายในใจของเกลจึงผุดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา
ไม่อยากจะเชื่อใคร....
ไม่อยากจะถูกหลอกใช้....
————ไม่อยากให้ทุกอย่างต้องจบซ้ำแบบเดิมอีก
“ทุกคน! มาดื่มชาร้อนกันเถอะ”
“ทั้งที่ชามีสารกระตุ้นต่อมประสาทแท้ๆ
แต่ก็ยังชงมาให้รอบดึกอีกเนี่ยนะคะ?”
“เอาน่าๆ,ถึงจะมีคาเฟอีนแต่ก็ไม่เยอะเท่ากาแฟหรอกนา”
“เฮ้อ~ ไม่ไหวเลยนะคะ คุณเทียนเองก็อายุ 30 แล้วแท้ๆ”
“ด–เดี๋ยวเถอะ! ชั้นยังแค่ 29 หมาดๆเองนะยะ”
“ปีเดียวมันก็ไม่ต่างกันหรอกค่ะ”
สองสาวแหวกันไปมาจนโคและฉีหัวเราะขบขัน
กระนั้นก็ผิดกับเกล,ซึ่งยืนมองทั้งสองด้วยแววตาเลื่อนลอย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เทียนเหมยเสิร์ฟชามาให้ตรงหน้า
แก้วเซรามิกสีขุ่นกับชาจีนสีเหลืองอ่อนแบบอู่หลง
ชายหนุ่มจ้องการไหวของน้ำในแก้วอย่างเงียบงัน
“......”
ที่ซีหลงพูดมาก็อาจจะจริง
เรื่องที่ว่าเขากำลังหลงลืมบางสิ่งและหลงละเมอกับความสุขรอบข้างจนตัวเองต้องมาเสียใจในภายหลัง————เรื่องแบบนั้นน่ะ,ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากจะเจออีกเป็นครั้งที่สอง
“มนุษย์เราเนี่ย,ไม่ว่าใครต่างก็เหมือนกันหมดเลยสินะ?”
ว่าอย่างนั้น,จนการสนทนาของชายหญิงทั้งสี่ต่างหยุดลง
พร้อมกันทั้งหมดก็หันมามองเขาเป็นตาเดียว ซึ่งแม้จะถูกจ้องทว่าเกลกลับไม่ใส่ใจ
สติทั้งหมดนั้นถูกแก้วชาตรงหน้าเข้าชักนำ
เกลจิบเข้าปากอย่างเเช่มช้า
ขณะเดียวกันไอร้อนก็แผ่ซ่านออกมารอบมุมปาก
“อืม.....จืดจังนะ”
พอเอ่ยขึ้นมาแบบนั้น,ทุกคนจึงเลิกคิ้วเปล่งเสียง ‘หะ..?’ ออกมาโดยพร้อมเพรียง————
“เดี๋ยวก่อนเลย,ปกติชาจีนมันก็ต้องจืดอยู่แล้วนี่?”
เทียนเหมยแย้งขึ้นแฝงแววข้องใจเล็กน้อย
เกลจึงวางแก้วลงตัก,แล้วว่า
“ชาที่บ้านผมมันหวานน่ะครับ”
۞۞۞
ความคิดเห็น