คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : Ep.30 - Separate
UNagain.30 – Separate
“ยินดีด้วย..!”
เป๊าะ..เป๊าะ..แปะ!
จู่ๆทุกคนก็เฮโลแล้วจุดพลุกระดาษกระจายไปทั่วห้อง
เกลที่เพิ่งกลับมาจาก <ภารกิจ> จึงแสดงสีหน้างุนงงออกมา
จากนั้นเทียนเหมยจึงว่า “ดีใจด้วยนะ,ในที่สุดเธอก็อยู่ครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว”
“เอ๋? หนึ่งอาทิตย์..?”
ระหว่างที่เขายังเผยแววเงอะงะให้เห็นทุกคนก็ลากเกลเข้ามากลางวงห้องนั่งเล่น
หนนี้อาหารที่รอกลับเป็นเนื้อ <อสุภะ> ผิดกับสลัดผักทอดแบบทุกที,โคว่า
“ปกติที่นี่จะมีเงื่อนไขอย่างลับๆอยู่น่ะ
ว่าหากพวกหน้าใหม่อยู่ที่นี่ครบหนึ่งสัปดาห์โดยไม่ทำผิดกฎที่ตั้งไว้ จะได้รับสิทธิ์สอนเรื่อง <อาคม> แบบเจาะลึกให้น่ะ”
“แบบเจาะลึก? อะไรล่ะนั่น..?”
เกลทวนคำพลางตักเนื้อ <อสุภะ> เข้าปาก แม้จะรู้ว่าสิ่งนี้คือวัตถุดิบที่มีรากเง้าเกิดจากมนุษย์
ทว่าทุกคนกลับงับเข้าปากไปโดยไม่รู้สึกรู้สา
ซึ่งก็คงไม่แปลกเพราะแม้จะเป็นเนื้อคนมาก่อนแต่ก็เป็นเนื้อคนแปรรูปผ่านการปรุงมาเรียบร้อย
ยังไงก็คงไม่มีใครมาแหวะกับเรื่องหงุมหงิมพรรค์นั้นอยู่แล้ว
.....คิดว่านะ
“เรื่องนี้น่ะเป็นกฎที่ <ท่านผู้นำ> ตั้งเอาไว้ <อาคม> ที่พวกชั้นสอนนายไปน่ะเป็นแค่ช่วงผิวเผิน
เพราะงั้นต่อจากนี้นายก็สามารถการเรียนรู้การใช้ <อาคม> แบบจริงๆจังๆได้แล้วล่ะ” โคว่า
ซึ่งหลังจากทานอะไรเสร็จสรรพ
ทั้งหมดก็ย้ายไปรวมตัวกันที่สวนเพื่อฝึกวิชา ซึ่งดูเหมือนนอกจากวิชาเตะต่อยแล้ว,วันนี้จะมีอะไรแตกต่างไปจากเดิม
แล้วตอนนั้นฉีก็ร่าย【พานี•ทัลวาล】ออกมา
.....มวลน้ำสีครามพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
“เอาล่ะ,เนื้อหาต่อจากนี้อาจจะอันตรายซักหน่อย
ดังนั้นก็ขอให้เธอระวังตัวด้วยล่ะ” จบคำ,ฉีจึงยื่นมือไปสัมผัสจนผืนน้ำแตกโพลงเผยดาบสคิมิต้าร์อยู่ในกำมือ
“โค,ช่วยวางเป้ามาทางนี้หน่อย”
“ครับ..!”
แผ่นไม้สูง 2 เมตรถูกโคย้ายมาไว้ตรงหน้า
ซึ่งเหมือนรายนั้นจะทราบว่าฉีจะทำอะไร,เพราะวางเสร็จเจ้าตัวก็รีบปลีกตัวออกมาปล่อยให้บริเวณนั้นเหลือเพียงแค่เป้านิ่งกับฉีที่ยืนห่างกันเกือบ
10 เมตร ขณะเดียวเกลก็เริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ————ที่ใบดาบ【พานี•ทัลวาล】นั้นกลับปรากฏบางสิ่ง
“นั่นมัน...หรือว่า––”
สิ่งแปลกปลอมนั้นเริ่มเด่นชัด มันแผ่ประกายแสงสีฟ้าออกมาเรืองรองพร้อมกับเริ่มห่อหุ้มคมดาบจนดูคล้ายกับน้ำสายหนึ่ง
มันบิดพลิ้วรอบโลหะสีเงินกระทั่งถึงจุดหนึ่ง พริบตานั้น,ฉีจึงตั้งท่าแล้ววาดดาบออกไปในห้วงอากาศ
แม้ภายนอกดูเหมือนกับการหวดลม,ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับไม่ใช่
....มวลน้ำบนดาบถูกซัดออกเป็นแถบริ้ว
แล้วพุ่งตัดเป้านิ่งจะขาดออกเป็นสองท่อน
เกลถึงกับตะลึงงัน
นี่มัน....เหมือนกับตอนนั้น————ตอนที่เขาใช้【นารากะ•พาราห์】ใน <สถานีที่ 3>.....แม้จะต่างกันหน่อย แต่โดยรวมก็คิดว่าเป็นตัวเดียวกันไม่ผิดแน่
ขณะแท่นไม้ขาดครึ่งเผยฝุ่นควันคลุ้งไปทั่ว,ฉีก็วกหันกลับมาว่า “คงต้องเริ่มตั้งแต่หลักการก่อนล่ะนะ”
เขาชูสองนิ้วขึ้นแล้วเอ่ยต่อ
“โดยทั่วไป <อาคม> จะมีอยู่หลักๆเพียง 2 ประเภท หนึ่งคือ <อาคม•ภาวนา> วิชาพวกนี้จะเป็นอาคมรักษาหรือเรียกสสารออกมา
เช่น ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ
ส่วนประเภทที่สองก็คือ <อาคม•ขจัดมาร> หรืออาคมจำพวกเรียกอาวุธ ซึ่งความจริงมันก็ไม่ได้มีดีแค่นั้นหรอก
เพราะอาวุธที่เรียกออกมาน่ะไม่ใช่ของทั่วๆไป”
“หมายถึง.....สามารถปล่อยไอ้คลื่นนั่นได้น่ะเหรอครับ?”
“อ่า,อาวุธหนึ่งชิ้นต่อ <ความสามารถพิเศษ> หนึ่งอย่าง ซึ่งแต่ละชิ้นก็จะมีคุณสมบัติและความสามารถแตกต่างกันออกไป
อย่าง【พานี•ทัลวาล】จะสามารถเรียกน้ำออกมาได้ดังใจนึก
ที่ชั้นใช้เมื่อกี้ก็คือการเพิ่มแรงดันน้ำให้สูงจนสามารถตัดสิ่งของได้น่ะ”
“.....สุดยอดไปเลยครับ————แล้วผมต้องทำยังไงบ้างล่ะถึงจะใช้ได้”
“เงื่อนไขมีเพียงอย่างเดียว,นั่นก็คือ <จินตนาการ>”
“แค่นั้นน่ะเหรอครับ..?” หลังจากตอบไปแบบนั้น,โคจึงโพล่งว่า “ไม่ใช่ <แค่นั้น> แต่เป็น <ขนาดนั้น> เลยต่างหาก รู้ไหมว่า <จินตนาการ> น่ะไม่ใช่เรื่องง่ายๆแบบที่คิดปุ๊บจะทำได้ปั๊บหรอกนะ อย่างเช่นนายลองจินตนาการว่าบินได้แล้วตัวเองจะบินได้เลยรึไง?”
“เอ่อ....ไม่มั้ง?”
“ก็นั่นแหละ <จินตนาการ> ที่ว่าเนี่ยจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อเป็นความคิดอันแรงกล้า
ซึ่งความคิดอันแรงกล้าเนี่ยส่วนใหญ่จะไม่ขัดกับกฎเกณฑ์ตามธรรมชาติ
ถ้าให้เทียบความคิดอันแรงกล้าก็เปรียบเสมือน <ความจริงที่จับต้องได้> ถ้านายยังเกิดความคิดขัดแย้งตามหลักวิทย์อยู่ก็จะไม่สามารถสร้างภาพในหัวให้กลายเป็นจริงได้”
“....ฟังดูยุ่งยากแฮะ”
เกลพึมพำ จากนั้นจึงเรียก【พานี•ทัลวาล】ออกมาตามคำของฉี จากที่ฟังมาเหมือนจะบอกให้จินตนาการภาพเอาไว้....ถึงจะพูดงั้น,แต่แค่คิดก็สามารถทำให้เป็นจริงได้เลยเหรอ?
————ลองดูละกัน
กึด..!
ท่ามกลางสายตาของทุกคน
เกลก็กระชับดาบในมือแน่นพร้อมกับตั้งท่าเตรียมวาดออก,ขณะเดียวกันก็เริ่มจินตนาการถึงสิ่งที่ฉีกระทำไปเมื่อครู่อย่างตั้งมั่น
เพ่งสมาธิแล้วเค้นความคิดออกมาให้เหมือนกับว่าตนสามารถบงการน้ำออกได้ราวกับขัดกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ได้จริง
.....ทันใดนั้นที่คมดาบพลันปรากฏประกายแสงเรืองรอง
แสงสีฟ้าราวกับสายน้ำบริสุทธิ์นั้นกำลังเลื้อยคลานจากกั่นดาบจนไปถึงสุดปลายคม
เกลตระหนกเล็กน้อย,ก่อนจะเผยยิ้มออกมาพร้อมกับคำรามลั่นอย่างมั่นใจ
“ฮ่า!”
แปะ!
“.............”
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือน้ำย่อมหนึ่งกระเด็นออกมารดผืนหญ้าแทน
ด้านชายหนุ่มนั้นถึงกับยืนค้างท่าดาบอยู่กับที่
ขัดกับทางโคหรือเทียนเหมยที่กำลังตอบสนองกลับมาด้วยเสียงหัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตลกเป็นบ้าเลยว่ะ,ร้อง <ฮ่า!> ซะมั่นใจเชียวนะ”
“แหมๆ
เขาเรียกสร้างกำลังใจต่างหากเล่า นายนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ....อุ๊บ,ฮิฮิฮิ”
ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ————
ก็ทำนองนั้นแหละ,หลังจากล้มไปครั้งหนึ่ง
จึงทำให้เกิดครั้งต่อๆมาซึ่งก็ลองดูทุกหนทางแล้ว จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงทว่าที่ฟันดาบไปมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังคงให้ผลลัพธ์เดิมไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลง
.....มีน้ำตกแหมะกับพื้น,ไม่ใช่พุ่งออกไปเป็นแถบริ้วแบบของคุณฉี
ตอนนั้นเขาจึงฉุกใจนึก ทั้งที่คราวของ【นารากะ•พาราห์】ก็ยังใช้ได้แท้ๆแต่ไหงหนนี้ถึงได้ล้มเหลวกันนะ? เมื่อนึกอย่างนั้น,เกลจึงสรุปใจความได้เรื่องหนึ่ง
คีย์เวิร์ดจะใช่ <ความรู้สึก> รึเปล่านะ..? เขานึกเช่นนั้น
เพราะตอนที่สู้ <อสุภะ> แล้วเผลอใช้ลำแสงขนาดใหญ่นั่นไป เท่าที่จำได้ในหัวของเขาก็มีแต่ <ความโกรธ> และ <ความสับสน> อันแรงกล้าอยู่เต็มไปหมด
บางทีอาจจะเพราะถูกอารมณ์เข้าบดบังจึงทำให้แนวคิดตรรกะในแง่ของความเป็นจริงมันผิดเพี้ยนไปก็ได้
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลำแสงสีดำแดงนั่นได้แปรเปลี่ยนเป็นรูปธรรมขึ้นมา————ถ้าลองคิดแบบนั้น,อะไรๆก็ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลขึ้นมาหน่อย
.....กระนั้นตัวเกลในตอนนี้กลับปราศจาก <ความรู้สึก> ที่ว่า
อารมณ์โกรธงั้นเหรอ————
“นี่,เขาจะยืนนิ่งแบบนั้นอยู่อีกนานไหมคะเนี่ย?”
“ไม่รู้สินะ”
คลาร่าสนทนากับเทียนเหมย
กระนั้นเสียงของทั้งคู่กลับไม่อาจเล็ดลอดเข้าสู่โสดประสาทของเกล
ชายหนุ่มยืนนิ่งค้างอยู่กับที่ พร้อมเพรียงกันก็เริ่มนึกถึงสาเหตุที่คิดว่าจะให้ตน <โกรธ> ขึ้นมาได้ในใจ
.....แน่นอนว่าสิ่งที่เหมาะสมที่สุดก็คงมีแต่เรื่องนั้น
เรื่องที่เขาถูกหลอกโดยแฟนสาว————เรื่องนั้นน่ะไม่ว่ายังไงก็คิดว่าจะต้องทำให้เขา <โกรธ> ขึ้นมาได้แน่
ในใจเกลนั้นเริ่มปรากฏเค้าหน้าของสาวน้อยพลางฝืนย้อนความว่าครั้งหนึ่งเคยมีความรู้สึกดีๆต่อกัน
จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลง
แปล๊บ..!
“อึก!”
ทุกอย่างมันจบแล้ว.....ทั้งความฝันและความรัก,ทั้งพ่อและก็แม่————
ทุกอย่างมันถูกแย่งชิงไปจนหมด
ถูกยัยนั่นขโมยไปจนหมด!
กรอดดดด...!
“ท่าทางหมอนั่นดูแปลกๆนะครับ” โคว่า,ซึ่งทุกคนเองก็เผยแววกังวลออกมาไม่ต่างกัน
เพราะตั้งแต่เมื่อครู่เกลก็เอาแต่ยืนค้างอยู่กับที่โดยไม่มีการเคลื่อนไหวมาเกือบจะ
3 นาทีได้จนดูผิดปกติ
ขณะที่ทุกคนยังเป็นกังวลอยู่,พริบตานั้นเกลพลันเบิกตาขึ้นพร้อมกับวาดดาบออกไปอย่างแช่มช้า
ปลายดาบได้หยุดลงในสภาพชี้ไปเบื้องหน้าแทน
หนนี้ไม่มีเสียงร้องปลุกใจหรืออะไรทำนองนั้น
ที่ปรากฏอยู่กลับกลายเป็นมวลน้ำ 3 สายกำลังลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
ท่ามกลางความงุนงงของทุกคนเกลก็วาดดาบตัดล่างลงไปอย่างหนักหน่วง ส่งให้ผืนน้ำ 3
สายทะยานออกไปปะทะต่อแท่นไม้ดุจกระสุนปืนขนาดย่อม
โผล๊ะ! โผล๊ะ! โผล๊ะ!
บนเป้าพลันปรากฏรูโพลงขึ้นสามแห่ง
แม้จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 2-3 นิ้ว
ทว่ากระสุนน้ำดังกล่าวก็เพียงพอต่อการสังหารใครซักคนหนึ่งได้โดยไม่ยากเย็น
“.....เหมือนผมจะทำผิดวิธีไปหน่อยสินะ”
เกลยิ้มเจื่อนออกมา,กระนั้นฉีกลับแย้งว่า “ไม่หรอก,แบบนี้ก็นับว่าใช้ได้แล้วล่ะ
เผลอๆเธออาจจะดีกว่าซะอีก,ที่สามารถจู่โจม 3
ครั้งซ้อนได้ในเวลาเดียวกัน......ว่าแต่ขีดจำกัดในการสร้างของเธอคือเท่าไหร่ล่ะ?”
“....คง 3
นัดอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ”
“อืม,งั้นเหรอ.....จากนี้ก็ลองฝึกให้บ่อยๆเข้าล่ะ แล้วก็อย่าฝืนจนเกินไปด้วย,เพราะถ้าใช้สมองหนักเกิน นายอาจจะถึงขั้นหมดสติไปเลยก็ได้”
“อ–เอ๋!? จริงเหรอครับนั่น————”
.....ไม่สิ,พอนึกดูแล้วตอนที่ใช้ลำแสงนั่นเราเองก็ถึงกับล้มพับไปเลยนี่นา
ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงแฮะ........อันตรายๆ
เกลนึก,แล้วพริบตานั้นจู่ๆก็เหมือนจะหน้ามืดเซตัวไปด้านหลังเล็กน้อย
โชคดีที่ยังพอมีสติอยู่จึงทำให้เขาตั้งหลักได้ไม่ล้มลงไปกองกับพื้น
ดูเหมือนว่าสิ่งนี้คงเป็นผลมาจากการใช้ <อาคม> แบบถี่ยิบมาตลอด 30 นาทีเต็ม
ซึ่งหลังจากการเกลเผยท่าทีเหนื่อยล้าให้เห็น
ฉีจึงบอกให้พอแค่นี้ก่อน,ด้านเทียนเหมยเองก็อาสาจะใช้【จิวาล•กา•จอล์】ฟื้นความเหนื่อยล้าให้
กระนั้นเกลกลับเกรงใจแล้วบอกปัดไปว่าเดี๋ยวเดียวก็หาย
สุดท้าย,การฝึกของวันนี้จึงจบลงอย่างที่เห็น
.
.
“เฮ้อ~ อาบน้ำหลังฝึกนี่ดีชะมัดเลยน้า....” เกลเปรยขึ้นด้วยสีหน้าระรื่นพลางก้าวเดินไปยังห้องนอนของตนที่อยู่ชั้นสองมุมขวาสุดของตัวบ้าน
วันนี้ทุกคนเองก็เหมือนจะเหนื่อยกับการจัดปาร์ตี้ด้วย————
ถึงจะดูดาษๆจนแทบมองไม่ออก,แต่เกลก็สังเกตเห็นพวกกระดิ่งหรือโบว์รุ้งที่ถูกประดับอยู่รอบห้องนั่งเล่น
ตัวเขาน่ะลึกๆแล้วรู้สึกดีใจ,ที่อย่างน้อยก็ยังมีคนมาคอยเป็นห่วงและก็คอยยิ้มให้กันอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นเรื่องที่คับข้องใจต่อทุกคนเมื่อก่อนหน้านี้จึงถูกเกลปัดทิ้งไปโดยไม่คิดจะกลับมาใส่ใจอีก
อดีตหรืออนาคตจะเป็นยังไงก็ช่าง,ที่สำคัญก็คือตอนนี้ต่างหาก......เกลเชื่ออย่างนั้น
แกร๊ก..!
เกลเดินเข้าห้องไปตามปกติ บรรยากาศภายในถูกกลบไว้ด้วยแสงสลัวสีแดงสดจากตัวเมฆทะลุผ่านเข้าหน้าต่าง
แม้แรกๆจะดูน่าขนลุกทว่าพอชินขึ้นมาก็รู้สึกว่าดูไม่เลวเลยซะทีเดียว
กระนั้นหนนี้ก็มีสิ่งที่ผิดแปลกไปจากปกติ
ในห้องซึ่งควรว่างเปล่า เวลานี้กลับปรากฏเค้าร่างของคนผู้หนึ่งขึ้นเรือนราง
บุคคลดังกล่าวนี้เป็นผู้หญิง,เธอกำลังยืนเท้าคางอยู่ริมหน้าต่างแล้วแหงนมองเมฆสีแดงสดอย่างเงียบงัน
“ท้องฟ้าสีแดงเนี่ย สวยจังนะ”
“.........”
หญิงสาวว่าแล้วเบือนหน้ามาทางเกล,จนมองเห็นรูปลักษณ์ได้อย่างหมดจด
หญิงสาวผู้นี้ไว้ผมยาวประบ่าสีเทาอ่อน ใบหน้าเองก็กำลังขับเน้นด้วยรอยยิ้มดูมีเสน่ห์ชวนให้บุรุษเพศใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
แน่นอนว่าเกลเองก็เช่นกัน——
“อย่างกับเลือดเลย,ว่าไหม?”
.....เธอคนนั้นคือซีหลง
۞۞۞
ความคิดเห็น