คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #127 : [Day 5] คำพิพากษา (อันแสนแฟบูลัส?)
[ คำพิพากษา ]
มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถมีชีวิตรอดด้วยตัวคนเดียวได้ เพราะฉะนั้นจึงได้รวมกลุ่มกัน มีการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันจนเกิดความแข็งแกร่งเพื่อลดทอนช่องว่างอันเสียเปรียบที่เกิดจากปัจจัยทางชีวภาพที่ว่ามนุษย์นั้นมีร่างกายที่อ่อนแอ ซึ่งยังผลให้มนุษย์มีพลังอำนาจที่จะต่อต้านธรรมชาติได้...
มนุษย์นั้นแต่ดั้งเดิมแล้วมีนิสัยรักอิสระ มีความสุขกับการได้ทำตามใจตนเอง โดยมีแรงขับเคลื่อนก็คือราคะ(อีรอส) และความตาย(ทานาทอส)
ทว่า...เพื่อไม่ให้สังคมถูกแรงกระตุ้นตามธรรมชาติทำลายลงไปมนุษย์จึงได้สร้างของสิ่งหนึ่งขึ้นมา
ดังคำกล่าวที่ว่า "ไม่มีสิ่งใดที่จะขัดขวางอิสรภาพของมนุษย์ เว้นเสียแต่ตัวของมนุษย์ด้วยกันเอง"
...เช่นนั้นแล้ว มนุษย์นั้นจึงได้สร้าง "กฏเกณฑ์" ในการควบคุมสังคมให้เแป็นระเบียบขึ้นมา
ผู้ที่ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ ผู้ที่ทรยศ ผู้ที่ก่อความเดือดร้อนแก่สังคม และผู้ที่อยู่ไปก็ไม่เกิดผลประโยชน์
คนเหล่านั้นจึงได้ถูก "กฎเกณฑ์" ที่ถูกคนในสังคมส่วนใหญ่บัญญัติไว้ "ลงทัณฑ์"
...ในรูปของ "คำพิพากษา"...
"จูโนส โกรว เราลงความเห็นกันว่าเจ้าเป็นภูติ เพราะฉะนั้นจงสำนึกผิดในคุกซะ"
คำพิพากษาจากผู้ที่เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมานั้นช่างโหดร้ายและเจ็บปวดเหลือแสน ทว่าทั้งหมดนั้นเกิดมาจากสิ่งเดียวคือความรู้สึกที่ว่าหากเคยถูกหักหลังไปแล้วครั้งหนึ่ง ย่อมไม่เกรงกลัวที่จะเอาคืน
"มิซาริ มานารุ ด้วยความเด็ดขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง เจ้าจะต้องถูกพิพากษา"
คำพิพากษานั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงหรือ? พวกเราที่เต้นเร่าอยู่ในอุ้งมือของใครบางคนนั้นไม่ได้ระลึกถึงคำถามนี้เลย
หากไม่อยากแปลกแยกล่ะก็.... จงทำตามซะ....
ร่างสองร่างที่ถูกพันธนาการไว้ในสถานที่ที่แตกต่างกัน ด้วยกลุ่มคนที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองมีอยู่ร่วมกันคือ
ไม่อาจฝืนต่อโชคชะตาที่จะถูกพิพากษาได้!!
"ช่างน่าเศร้า ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน...."
เสียงอันสั่นเครือที่ดังขึ้นก้องไปทั่วทั้งบริเวณ แม้จะยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนพูด ทว่าน้ำเสียงที่ทรงพลังและเจือด้วยความโศกเศร้าสุดหัวใจนี้ก็ทำให้ทั้งเหล่าองเมียวจิและเอ็กโซซิสต์หยุดมือ พลางสอดส่ายใบหน้าหาต้นเสียง
"มนุษย์ที่ไม่อาจหลุดพ้นจากโชคชะตาอันน่าสังเวช บัดนี้ตัวข้านั้นได้หลั่งน้ำตาแทนความโศกเศร้าโสกาหาสิ่งใดมาเปรียบของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง อาาาา พวกเจ้ากล้าใช้นามของพระองค์ทำเรื่องโหดร้ายเหล่านี้ได้เยี่ยงไร!!"
เสียงที่กดดันฉายแววตัดพ้อตอนท้ายประโยคทำให้เหล่าเอ็กโซซิสต์สะดุ้งเฮือก เหงื่อไคลไหลมาตามใบหน้า
"ด้วยพระเมตตาจากเทพเจ้าแห่งแสงสว่างผู้ต้องการเพียงสอนให้บุตรของพระองค์ได้รับความเมตตาและความยุติธรรม ความเอื้ออาทรของพระองค์ได้อาบไล้ไปทั่วทุกแผ่นดินส่องสว่างไปทุกหย่อมหญ้าไม่เว้นแม้แต่ในใจอันมืดบอดของลูกแกะที่ไม่อาจพ้นจากชะตากรรม พระสุรเสียงอันอ่อนโยนของพระองค์ได้กล่าวต่อข้าผู้เป็นผู้แทนวจนะของพระองค์แต่กลับด้านชาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความโหดร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำยังตกเป็นเหยื่อของโชคชะตาที่ไม่อาจฝ่าฝืน! ว่าพระองค์ประสงค์ที่จะให้อภัยแก่บุตรของพระองค์ เพราะฉะนั้น... ข้าจะไม่ยอมให้ใครถูกคำพิพากษาผูกมัดอีกแล้ว!!"
ฉับพลัน แสงสว่างก็สว่างจ้าไปทั่วทั้งบริเวณของคุกทั้งสองพร้อมๆกับกลีบของดอกทิวลิปสีขาวโปรยปราย ขับไล่ความมืดมิดทั้งหลายออกไป
ร่างในอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์เบาบางราวกับไม่ได้ทำด้วยเส้นไหมใดๆบนโลกได้ปรากฎขึ้นมาท่ามกลางแสงสว่างนั้น ท่อนบนของร่างนั้นเปลือยเปล่าเผยให้เห็นเรือนร่างกำยำสมชายชาตรี เส้นผมสีเงินที่รวบไว้ด้านหลังพริ่วไปกลับสายลมคลอเคลียใบหน้าได้รูปที่งดงามราวกับรูปสลัก ในมือถือหอกยาวสีทองส่องสว่าง พร้อมๆกับด้านหลังที่ปรากฎเป็นปีกสีขาวพิสุทธิ์ที่สยายออกอย่างงดงามขับให้ร่างตรงหน้าดูพิเศษยิ่งขึ้น
พิเศษราวกับไม่ใช่มนุษย์!!
"ค...คุณ..."
ทุกสายตาหันไปมองร่างนั้นที่ดึงดูดจนไม่อาจเบือนสายตา และไม่อาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดๆออกไปได้
"อา... ข้าเข้าใจ ความงดงามของข้านี้บางทีมันก็เป็นบาป ข้ารู้สึกเศร้าใจอย่างสุดซึ้งที่ต้องให้เจ้าได้เชยชมเรือนร่างที่ย้อมไปด้วยบาปอันหอมหวานเช่นนี้----"
"....คุณตำรวจขา ตอนนี้มีคนโรคจิตชอบโชว์ถือของมีคมพูดจาไม่รู้เรื่องเข้ามาขัดขวางการจับกุมภูติค่ะ...."
"แคว่กกกกกกก!!!"
เป็ดมากุโร่สีขาวสองตัวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นฉากหลังกระโดดออกมาก่อนจะตีปีกแล้ววิ่งไปรอบๆ
"แคว่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
"อ้าาาาา พวกเจ้ามีแต่ตาแต่ไม่มีแววเอาเสียเลย บังอาจมองข้าคนนี้เป็นคนโรคจิตที่ไม่มีความสง่างามแบบนั้นไปเสียได้!!"
ธีโอดอร์ เอส. แซนดิเวียร์ปล่อยหอกสีทองในมือก่อนจะกอดไหล่ที่ไหวน้อยๆ นัยน์ตาทั้งสองข้างมีน้ำตาซึมออกมาที่หางตา
"ใช่ซี่ ข้าหล่อจนพวกเจ้าอิจฉากันใช่ไหมล่ะ ยอมรับมาเถอะ"
"อา ธีออนนี่ เค้าเมื่อยมือแล้วอ่ะ จะประกาศได้ยัง"
เสียงของอลิเซีย กราเซียส ดัชเชสแห่งโนวาริสต้าดังออกมาจากในมุมมืด เมื่อฉายไฟดูจึงสังเกตุเห็นหญิงสาวผมทองถือกระสอบใส่กลีบดอกทิวลิปสีขาว ข้างๆกันนั้นมีโครงเสาไฟสปอร์ตไลท์ 3 ต้น ซึ่งเป็นที่มาของความสว่าง
แต่ที่ไม่อาจละสายตาไปได้ก็คือป้ายสีขาวที่เขียนข้อความสีทองไว้ว่า
[ฉากเปิดตัวอันแสงอลังการงานสร้างสุดเลอค่าแซ่บเวอร์และเดอะโมสแฟบูลัสออฟดิสเวิร์ลของพระสัน]
"....พระสัน?"
ธีออนเมื่อได้ยินดังนั้นก็กุมมือไว้ที่อก ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ข้าคือพระสันตะปาปาเองไงล่ะ เพราะฉะนั้นพวกเจ้าจงฟังคำสั่งของข้า ณ บัดนาวเลย! ข้าขอสั่งห้ามพวกเจ้าจับคนขังคุกวันนี้ ได้ยินไหม! อ้อ แล้วเจ้าจงประกาศความหล่อและความแฟบูลัสของข้าไปให้ทั่วเฟอร์เลยนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"ค่าๆ...."
"อุวะฮะฮ่าๆๆๆๆๆๆ เห้ย เดี๋ยว อลิซซี่ นั่นเธอว์จะทำอะไร?"
"อัดคลิปนี้แล้วแชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์คไงค้า"
"อ๊าาาาาา ถึงข้าจะภูมิใจก็เถอะแต่ข้าก็อายเป็นเหมือนกันนะ อ๊ะ มีคนกดไลค์ด้วยล่ะ ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
========================================================
ผู้ที่หาญสาบสูญ
1. Kazania ::ยุงเยอะง่ะ TOT (คาร์ซาเนียร์ เดอ. โบรอนซาร์) |
|
คุกฝ่ายเอ็กโซซิสต์
|
1. Dark Love : ความรักที่เจ็บปวด (Canzoni di morte)
2. The Great Devil [King Lucifer 2] (ลูซิเฟอร์ ดาร์คเนส คาดิออส) 3. ChenWin Avian Diagolas (เชนวินด์ ดิ ไนท์แมร์) 4. [yume] solitary◆Alone (อายูมะ มาซาโตะ) |
========================================================
วันนี้ไม่มีผู้ใดถูกคุมขัง
(ด้วยพลังแฟบูลัสของพระสัน ฟฟฟฟฟ)
========================================================
ความคิดเห็น