ตอนที่ 2 : ตอนที่ 2
ชายหนุ่มผู้แสวงหาความแข็งแกร่งได้ฝึกฝนดูดซับอณูวิญญาณโดยรอบมาเสริมร่างกายอยู่เสมอ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเขาเดินทางเพื่อหาชาวบ้านในระแวกใกล้เคียง น่าเสียดายสิ่งที่เขาพบกลับเป็นสองชายฉกรรจ์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลใกล้ตาย
ก่อนเขาตายชายหนุ่มได้รับข้อมูลจากอีกฝ่ายและได้รับรู้ว่าตัวเขาในตอนนี้อยู่ในเมืองลูคอนทิศเหนือในเขตซาราคิหรือเขต 80 ซึ่งเป็นเขตที่แสนจะอันตรายมาก แต่เขาก็ไม่ได้แปลกใจเพราะระหว่างการเดินทางเขาก็พบฮอลโลว์รวมแล้วหลายสิบตัวเข้าโจมตี
จากคำบอกเล่าของชายใกล้ตายในเขตที่ 80 มีทั้งอาชญากร ไหนจะมีชาวบ้านที่ขวนขวายหาอาหารจนต้องแย่งชิงฆ่าฟันกัน ทั้งยังมีฮอลโลว์ให้พบเห็นอีกมาก ทำให้ในเขตซาราคิมีผู้อยู่อาศัยที่น้อยกว่าในเขตอื่นๆเนื่องจากอัตราเสียชีวิตที่สูงกว่าเขตอื่นๆ
ในอดีตในเขตที่ 80 มีสัตว์ร้ายอยู่ตัวหนึ่ง สัตว์ร้ายตัวนั้นแข็งแกร่งมาก แต่นิยามซึ่งถูกขนานนามสัตว์ร้ายที่ว่านั้นเป็นมนุษย์สุดบ้าคลั่งและแข็งแกร่ง ปัจจุบันสัตว์ร้ายตนนั้นได้เป็นยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 11 หนึ่งในสิบสามหน่วยพิทักษ์ ซาราคิ เค็มปาจิ
ซาราคิเป็นชื่อที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของชายคนนั้น เขาจึงนำชื่อเขตที่ 80 มาตั้งเป็นชื่อของตนเอง แม้แต่ดาบฟันวิญญาณของเขายาจิรุก็นำชื่อเขตที่ 79 เขตคุซาจิชิมาตั้งเป็นชื่อของตนเองด้วยเช่นกันจะบอกว่าตามกระแสก็ไม่ผิดนัก
"อยู่ที่เขตซาราคิ สักปีสองปีน่าจะดี"
ที่นี่มีผู้คนจำนวนน้อยและส่วนใหญ่นั้นเป็นอาชญากรแม้จะอันตรายแต่มันก็ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นได้ การจะแข็งแกร่งขึ้นได้ควรเริ่มฝึกฝนตั้งแต่จิตวิญญาณของตนเอง แน่นอนว่าเขาไม่ใช่พวกวิปริตเลือดเย็นทีที่หลงใหลในการฆ่าฟัน
แต่โลกใบนี้มันบีบบังคับให้เขาต้องทำ ถ้าเขาไม่ทำตัวเขานี่แหละที่จะกลายเป็นเหยื่อของโลกใบนี้ เขาไม่อยากอดตายเหมือนคนพวกนั้น เขาไม่อยากอ่อนแอและกลายเป็นอาหารให้พวกฮอลโลว์ แม้ว่าสถานที่ในเขตเลขที่ต่ำกว่าจะปลอดภัยแต่ที่นั่นไม่ใช่สถานที่เหมาะสมสำหรับการบ่มเพาะตนเอง
ความคิดและความรู้สึกด้านมนุษย์ของเขาเริ่มผิดแปลกไปหลังสังหารฮอลโลว์ ยิ่งดูดซับหลังการสังหารพวกมันมากเท่าไหร่ จิตใจของชายหนุ่มก็ยิ่งด้านชามากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะอยู่ที่เขตนี้ไปสักระยะด้วยสามเหตุผล
หนึ่งคือล่าสังหารอาชญากรเพื่อบ่มเพาะจิตใจและฝีมือตนเอง สองเพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นเขาจะล่าฮอลโลว์เพื่อดูดซับพวกมัน สามที่เขตนี้มีเหตุผลข้อหนึ่งและสองมากกว่าเขตอื่น!
"จากข้อมูลไม่ไกลจากที่นี่มีถ้ำโจร โคเอ็นอาศัยอยู่"
มือกำปลอกดาบแน่นและมองไปยังทิศทางที่ว่า ไม่ไกลจากสายตาของเขามีหุบเขาใหญ่และน่าจะเป็นสถานที่นั้นตามคำบอกเล่าของชายผู้ตาย ชายหนุ่มกำดาบในมือก่อนจะก้าวเท้าเดือนไปยังหุบเขาแห่งนั้น
นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดเพี้ยน ถ้าเป็นตัวเขาเมื่อก่อนคงเลือกจะหลีกหนีและหาวิธีไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปเขาไม่ใช่คนโง่เขลา เขาอยากแข็งแกร่งและนี่เป็นโอกาศเดียวในชีวิต!
การเดินทางใช้เวลาเกือบสิบนาทีในที่สุดเขาก็มาถึงตีนหุบเขา ชายหนุ่มเร้นกายตามหลืบและเฝ้าดูเส้นทางด้านหน้าที่มีโคมไฟตั้งพื้นไว้ตามเส้นทาง ไม่ผิดที่นี่เป็นแหล่งกบดาลของกลุ่มโจรโคเอ็น
"ฟู่ววว เราฝึกมาตลอดเจ็ดเดือนก็เพื่อการนี้"
พ่นลมสายตาเย็นชาเหล่มองไปทางชายฉกรรจ์สองคนที่กำลังยืนเฝ้าหน้าปากถ้ำ ชายหนุ่มค่อยๆเดินย่องเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ตอนนี้เขายังไม่ถือว่าตนเองแข็งแกร่งนักและข้อมูลเกี่ยวกับอีกฝ่ายมีน้อยเกินไป จำนวนของอีกฝ่ายเขาก็ยังไม่ทราบจึงไม่ได้เลือกทำอะไรอย่างผลีผลาม
"เฮ้! เจ้าคิดเหมือนข้าไหม ช่วงนี้ที่เขตซาราคิของพวกเรามีฮอลโลว์โผล่ออกมามากผิดปกติ"
"ข้าก็คิดเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อสองวันก่อน ข้าเห็นฮอลโลว์หลายสิบตัวในเขตซาราคิ แต่เรื่องนี้ช่างมันก่อนเถอะ แกคิดว่าแม่สาวที่หัวหน้าจับมาจะมีลีลาที่เด็ดดวงไหม ?"
"ไม่น่าถามนะ แค่ช่วงบนของแม่นั่นก็กินขาดแล้ว !"
"จิ้ๆ ข้าละอิจฉาหัวหน้าจริงๆ ข้าว่าคืนนี้นางคงถูกหัวหน้าของเรากลืนกินไปทั้งตัวและก็ตายเหมือนคนก่อนๆ"
"นั่นสิ พูดแล้วก็น่าเสียดายเลยไอ้บ้าเอ้ย!!"
เสียงพูดคุยกันหน้าถ้ำไม่ดังมากนัก แต่ชายหนุ่มที่ลอบเข้ามาใกล้ทั้งคู่กลับได้ยินชัดเจน เขาไม่ได้โฟกัสในเรื่องไร้สาระ แต่สิ่งที่เขาสนใจที่สุดกลับเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮอลโลว์ต่างหากที่น่าสงสัย เพราะมันพอดีกับช่วงเวลาที่เข้ามาอยู่แถวนี้พอดี
'หรือจะเป็นเพราะเรา ?'
หลายเดือนที่ผ่านมาเขาสังหารฮอลโลว์ไปมากกว่าร้อยตัวทำให้แรงดันวิญญาณของเขาสูงขึ้นผ่านการดูดซับพลังวิญญาณและแรงดันวิญญาณ 70% จากฮอลโลว์ที่ถูกเขาสังหาร แม้จะยังไม่รู้ระดับแต่ตัวเขาในตอนนี้ก็น่าจะพอเป็นยมทูตระดับล่างได้อย่างไม่ยากเย็น
แน่นอนว่านี่เป็นการคาดเดาของเขาเอง เนื่องจากเขายังไม่รู้ระดับตายตัวของพวกยมทูต แต่เป็นที่แน่นอนแล้วว่าตัวเขาในตอนนี้น่าจะอยู่ในระดับยมทูตฝึกหัด เป็นระดับที่ยังไม่สามารถรับรู้หรือกล่าวขานชื่อดาบฟันวิญญาณได้
'มันค่อนข้างน่าสนใจ แต่ก่อนอื่น...'
วูบ
ร่างของชายหนุ่มกระพริบหายไปจากที่เดิมในชั่วพริบตา ร่างของเขาโผล่มายืนด้านหลังของยามทั้งสองอย่างนุ่มนวลไร้เสียงการเคลื่อนไหวใดๆ กว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ได้ ชายหนุ่มก็ชักดาบผ่าร่างทั้งสองและโยกย้ายร่างกายจากไปในสองลมหายใจเท่านััน
ร่างของชายหนุ่มโผล่มาอยู่แถวตีนเขา ใบหน้าของเขาค่อนข้างซีดขาว ในมือที่ถือดาบสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ลมหายใจก็แปรปวนติดขัด แต่ยังไม่ถึงระดับคลื่นไส้ใกล้อาเจียน นี่ครั้งแรกในการสังหารผู้คน!
"หืม"
ชายหนุ่มที่เริ่มควบคุมสติและลมหายใจของตนเองได้ ก็เบิกตากว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงดันวิญญาณที่เพิ่มขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย สายตามองไปที่ศพของยามทั้งสองที่เริ่มสลายกลายเป็นอณูสีฟ้าพุ่งตรงมาหาเขา
"วิญญาณมนุษย์ก็ด้วยสินะ"
ข่มตาหลับและลืมตาขึ้นอีกครั้งอาการแปลกๆในจิตใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวเองเริ่มสลายหายไป สายตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนร่างกายที่แปลกประหลาดไม่ได้จำกัดการดูดซับแค่ฮอลโลว์เท่านั้น การสังหารมนุษย์ก็ดูดซับพลังวิญญาณแรงดันวิญญาณด้วยเช่นกัน
"นี่สินะที่เขาเรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว"
ริมฝีปากเผยให้เห็นรอยยิ้มลี้ลับ ดาบในมือถูกกำแน่นจนเกิดเสียง สายตามองไปที่ถ้ำอีกครั้ง ปัจจุบันความชำชาญเกี่ยวกับเทคนิคการเคลื่อนไหวของเขาอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม
ทักษะที่เขาใช้ในการเคลื่อนที่ก็คือShunpo หรือก้าวพริบตา เป็นทักษะเคลื่อนไหวโยกย้ายร่างในระดับพื้นฐานของเหล่ายมทูต เทคนิคนี้ยมทูตส่วนใหญ่สามารถใช้ออกมาได้เกือบทุกคน แต่ความชำชาญของแต่ละคนจะอยู่ในระดับไม่เท่ากัน
ยกตัวอย่างปรมาจารย์ขั้นเทพที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด เช่นอดีตหัวหน้าหน่วยที่สองทั้งยังเป็นอดีตหัวหน้าตระกูลหนึ่งในสี่ตระกูลขุนนางชั้นสูงของเซเรย์เทย์ ตระกูลชิโฮอิน ชิโฮอิน โยรุอิจิที่ใช้ก้าวพริบตาได้เร็วที่สุดในโลกจนถูกผู้คนขนานนามว่า เทพพริบตาโยรุอิจิ
แน่นอนว่าในโลกแห่งความเร็วนั้นยังมีชายที่สามารถใช้ซุนโปได้เร็วดุจสายฟ้าและถือเป็นปรมาจารย์ด้านซุนโปอีกคน เขาคือเทนจิโระ คิรินจิที่ถูกขนานนามว่ารวดเร็วดั่งสายฟ้าเทนจิโระ ทั้งสองที่ถูกเขาเอ่ยคือผู้มีความเร็วที่เหนือใคร
แน่นอนว่าชายหนุ่มนั้นได้รับโอกาศที่ดี วิชายมทูตระดับพื้นฐานทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในสมุดบันทึกที่เขาได้รับไว้แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะZanjutsu(เทคนิคดาบฟันวิญญาณ) Hakuda(เทคนิคการต่อสู้ด้วยร่างกาย)Hohō(เทคนิคการโยกย้ายร่าง)หรือแม้แต่Kidō(วิถีมาร)ก็ถูกบันทึกไว้ภายในสมุด แม้สิ่งที่เขียนจะเป็นเพียงหลักการฝึกระดับพื้นฐานแต่ก็เพียงพอให้เขาสร้างรากฐานในการเป็นยมทูตผู้ชำนาญ
"สักวันเราจะต้องรวดเร็วเหนือโลกหล้า!"
ดวงตามีประกายและร่างของเขาก็กระพริบและหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ เขาโผล่มาหน้าปากถ้ำก็ยิ้มเล็กน้อยหลังไม่พบศพยามทั้งสองที่ถูกสังหารไปเมื่อครู่ การดูดซับส่วนใหญ่จะถูกเขาเอาไปสะสมไว้ในร่างกายถึง 70 % ส่วนที่เหลือน่าจะถูกส่งกลับไปในโซลโซไซตี้เพื่อไม่ให้โลกเสียสมดุล
"เอาละมาเริ่มการล่าสังหารกันเถอะ!"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มีพวกเทพแบบดราก้อนบอลมาหรอกนะ555
สนุกมากเลยครับ อ่านเพลินดี