คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : เรียนรู้การเป็นนักเวทย์สายมังกร-Introduction to Dragons
เชื่อกันว่าเมื่อเรานอนหลับความฝันอันเป็นนิมิตจะถูกส่งถึงเราจากมิติวอยด์ ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเราทำการติดต่อมังกร หรือสปิริต เอนทิตี้ใดๆ พวกเขาติดต่อเราจากวอยด์ นั่นเป็นเหตุผลที่ตลอดระยะเวลาประวัติศาสตร์ เรื่องราวของมังกรและสิ่งในตำนานอื่นปรากฎอยู่ตามวัฒนธรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าต่างๆ กลุ่มประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะซีกโลกตะวันออกหรือตะวันตก ย่อมมีเรื่องราวของมังกรหรือสิ่งมีชีวิตในตำนานอยู่ทั้งสิ้น เพียงแต่จะแตกต่างกันไป
มังกรเดินทางอย่างต่อเนื่องระหว่างโลกของเรากับมิติวอยด์อยู่เป็นระยะเพื่อตัดสินว่ามนุษยชาติได้เติบโตเต็มที่แล้วหรือไม่ แต่
ประวัติของมังกรในศาสตร์เวทย์มังกร
บรรพบุรุษของเราเกือบทั้งหมดเชื่อว่าโลกนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้
ความคิดมาจากไหน? ว่ากันว่ามังกรมีต้นกำเนิดมาจากจินตนาการของมนุษย์ทั่วไป
พวกมันเป็นเพียงความทรงจำที่สืบทอดมาจากไดโนเสาร์
หรือพวกมันเป็นเพียงสิ่งที่สร้างขึ้นโดยจิตใต้สำนึกของเราเพื่อพยายามอธิบายสิ่งที่อธิบายไม่ได้ออกไป
เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกเวทย์มังกรไม่เชื่อสิ่งนี้
แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจแบบแผนที่เราจะต้องเผชิญ
แล้วถ้าไม่มีจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ เราจะทำอย่างไร? ในฐานะนักเวทย์มังกรผู้เปี่ยมความหวัง
เราต้องมีความเชื่ออย่างแน่วแน่ในมังกร หากคุณไม่ทำเช่นนั้น
คุณควรเดินออกจากพื้นที่การศึกษานี้เพราะคุณจะไม่มีวันก้าวไปไกลกว่าทฤษฎี
คุณไม่สามารถหวังที่จะติดต่อกับมังกรด้วยความหวังว่าพวกมันจะพิสูจน์การมีอยู่ของพวกมันให้คุณ
ผมได้รับการสอนว่าครั้งหนึ่งมีมังกรอยู่บนโลกทางกายภาพนี้ ในฐานะพ่อมด ผมอยากจะเชื่อสิ่งนี้จริงๆ แต่ความเป็นคนขี้ระแวงในตัวผมต้องการการพิสูจน์ ตามที่เป็นอยู่ ผมเลือกที่จะเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นอาจมีอยู่จริง และผมก็เปิดใจกว้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์ของผมสอนว่าบางทีในช่วงที่มังกรยังมีอยู่หรือหากมีมังกรสองสามตัวที่หลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบัน ให้คิดว่าพวกเขาได้พยายายามถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเขาให้กับเราอย่างดีที่สุดแล้ว พวกเขาไม่ได้หายไปไหน ไม่ตาย หรือหนีจากความโหดร้ายที่พวกเขาพบในมนุษย์
เราเชื่อว่าพวกเขาพัฒนาเกินกว่าระดับนี้ไปสู่สิ่งมีชีวิตทางจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์
บ้านของพวกเขาตอนนี้อยู่ในระดับมิติที่เหนือกว่าเรา มันหมายความว่าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครเพื่อช่วยให้เราพัฒนาไปสู่สิ่งมีชีวิตที่ดีขึ้น
พวกเขาสอดคล้องกับจักรวาลที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรามากขึ้น
และสามารถช่วยให้เราเข้าใจโลกที่เราอาศัยอยู่ได้ดีขึ้น (ลองคิดดูสิหากมังกรยังอยู่และยังมีสงครามของมนุษย์กับมังกรดังปรากฎในตำนานและต่างฝ่ายต่างพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ โลกเราคงเละก่อนเวลาอันควรแน่)
คำว่า มังกร มาจากคำภาษาละติน 'Dracon' ซึ่งแปลว่า งูใหญ่-Serpent ส่วนคำว่า Dracon ในภาษาละตินก็มีต้นกำเนิดมาจากคำภาษากรีก คำว่า 'Spakov' (งู) อีกที Spakov ได้มาจากกริยาภาษากรีกว่า 'Spakelv' แปลว่า "การมองให้กระจ่าง" มันยังเกี่ยวข้องกับคำอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น เช่นว่า คำว่า Darc ในภาษาสันสกฤต แปลว่า "มอง" คำว่า Darstis ในภาษาอเวสตะ (ภาษาที่เก่าแก่ที่สุดของชาวอิหร่านโบราณ) แปลว่าการเห็น และ 'Derc' ของชาวไอริชโบราณ อันแปลว่า "ดวงตา" จากสิ่งนี้จึงทำให้สรุปได้อีกอย่างว่า "มังกร" คือผู้เฝ้ามองด้วยนั่นเอง
เรื่องราวของมังกรยุคแรกๆ สำหรับมนุษย์คือสุเมเรียและจีน ดินแดนทั้งสองมีเรื่องราวของมังกรที่มีอายุย้อนไปถึงประมาณ 5,000 ปีก่อนคริสตศักราช แท้จริงแล้วชาวจีนเชื่อว่าพวกเขาเป็นลูกหลานของมังกร ญี่ปุ่นก็มีนิทานเรื่องมังกรในยุคแรกเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับมังกรกับภัยธรรมชาติ ทั้งมังกรจีนและญี่ปุ่นสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ มังกรอียิปต์ปรากฏขึ้นราว 3,000 - 2,000 ปีก่อนคริสตศักราช และโดยส่วนใหญ่ ชาวอียิปต์มองว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย นี่เป็นเพราะว่าอาโปฟิส-Apep เป็นมังกรชั่วร้ายและความปรารถนาสูงสุดของอาโปฟิส คือการโค่นล้มมหาเทพรา-Ra ตำนานมังกรของชาวบาบิโลนก็ปรากฏตัวขึ้นเมื่อราว 2,000 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งเรื่องที่โด่งดังที่สุดคือมหากาพย์แห่งกิลกาเมซ
วันนี้เราต้องอาศัยตำนานเก่าแก่เหล่านี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับมังกร เรื่องราวเหล่านี้จะทำให้เราได้ทราบถึงพลังที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีอยู่ตลอดจนความตามอำเภอใจของพวกมังกร
มังกรและวิทยาศาสตร์?
มังกรถูกกล่าวถึงทั้งในการเล่นแร่แปรธาตุและการแพทย์ในยุคกลาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์
ผู้คนในสาขาการแพทย์แสวงหามังกรไม่ใช่เพื่อภูมิปัญญาโบราณ แต่เพื่ออวัยวะของพวกเขา
พวกเขาหวังว่าจะพบยาวิเศษหรือยาชูกำลังเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ
ดังนั้นพวกเขาจึงบอกกับ “นักฆ่ามังกร-Dragon Slayers” ว่าพวกเขาจ่ายเงินเพื่อตามล่าและฆ่ามังกร
กล่าวกันว่าเลือดของมังกรจะทำให้มนุษย์คงกระพันต่อบาดแผลหากถูกอาบลงไป
และสามารถเข้าใจภาษาของนกและสัตว์ได้หากดื่มเข้าไป
การกินหัวใจมังกรจะทำให้คนแข็งแกร่งและกล้าหาญเกินกว่าจะเปรียบเทียบ
การกินลิ้นจะทำให้วาจามีคารมคมคายและสามารถเอาชนะข้อโต้แย้งใดๆ
ตับรักษาโรคบางชนิดได้ เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ส่วนเกล็ดของมังกรสามารถใช้เป็นโล่
ในการเล่นแร่แปรธาตุ มังกรถือเป็นสสาร โลหะและร่างกาย การเล่นแร่แปรธาตุโบราณใช้รูปมังกรหรืองูมีปีกเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ลับมากมาย
สัญลักษณ์ทั่วไปของการเล่นแร่แปรธาตุทางจิตวิญญาณคือมังกรหรืองูใหญ่ที่ถือคาบหางไว้ในปาก
ซึ่งเป็นวงกลมแห่งนิรันดรกาล โดยเลือดมังกรถือเป็นทั้งยาและวัตถุดิบในการเล่นแร่แปรธาตุในประวัติศาสตร์ และจากข้อเท็จจริงหนึ่งคือมังกรไม่ยอมให้เลือดกับใครง่ายๆ และมักหลบซ่อนตัว เหล่าแพทย์โบราณและนักแปรธาตุจึงหันไปใ้อย่างอื่นที่จับต้องได้ง่ายกว่า โดยมีการกล่าวถึงว่าเขาใช้ของหลายอย่างที่พอแทนกันได้มาใช้ทดแทนอวัยวะมังกรจริงๆ เช่น หินเลือด-BloodStone,
อย่างไรก็ตาม เลือดมังกรที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือยางไม้เลือดมังกร (ดูในหัวข้อ
ความคิดเห็น