ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Haikyuu!!] Sunbeams แสงตะวัน (ฟิคแปล)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2: How to Make a Moon (วิธีสร้างพระจันทร์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 249
      19
      11 ส.ค. 61

    Title: Sunbeams แสงตะวัน

    Story: Saturnalius

    Translator: KITDS

     

    Chapter 2:  How to Make a Moon (วิธีสร้างพระจันทร์)

    เคย์ไม่แปลกใจเท่าไหร่เมื่อเทพสุริยะไซส์เทวดากลับมาอีกครั้งไม่กี่วันให้หลัง

    และแน่นอนว่ายามากุจิปล่อยให้เขาเข้ามา

    “-อยู่ข้างหลังนี่”

    เขาได้ยินยามากุจิเดินมาตามทางเดิน และ... ไม่นะ เขาพาฮินาตะมายังห้องทำงานของเขา เคย์ลุกขึ้นหมายจะล็อคประตูแต่มันก็เปิดออกก่อน

    ยามากุจิ ผู้ซึ่งดวงดาวพร่างพราวบนผิวกายและกลุ่มดาวซ่อนเร้นบนเรือนผม ดูจะกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อเปิดปากพูด

    “เจ้ามีแขกมาเยี่ยมล่ะ สึกกี้!”เขาร้องพลางเปิดประตูกว้างขึ้น

    แสงจากดวงดาวของยามากุจินั้นไม่สว่างพอจะรบกวนแสงสลัวในห้องทำงานของเคย์ แต่แสงเรืองรองของฮินาตะอาบย้อมทั่วทั้งห้องด้วยแสงสีอุ่นนั่น

    ยามากุจิจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เคย์หรี่ตามองแขกไม่ได้รับเชิญ

    “โอ๊ะ ขอโทษที”ฮินาตะกล่าว เขาหลับตาปี๋และแสงสว่างนั้นจางหายไปเมื่อปีกหุบกลับเข้าไปในแผ่นหลัง “ดีขึ้นมั้ย?

    เคย์พยักหน้า กระพริบตาถี่ไล่จุดพร่าจากแสงไฟ

    “คือ เจ้าเป็นเทพจันทรา”ฮินาตะพูดขึ้นหลังจากเงียบไปสักพัก

    “ใช่”

    “ข้าต้องไปถามสึกาวาระมาน่ะ”เขายิ้มแห้งพลางลูบหลังคอเหมือนกับจะถูกตำหนิ

    “ไม่เป็นไรนี่”

    ร่างเขาวูบไหวก่อนฮินาตะจะหายไป

    เคย์กลับหลังหันไปเจอฮินาตะอยู่ท้ายห้องทำงานเขา

    “นี่มันพระจันทร์เมื่อคืนก่อนนี่”

    เขาสายตาดีใช้ได้ มันมีโมเดลหลายพันดวงในห้องทำงานของเคย์ บางดวงลอยอยู่ บางดวงถูกล็อกไว้เป็นวงแหวนง่ายๆ ในขณะที่บางดวงล่ามด้วยสายมนตราไว้เพื่อไม่ให้มันขยับจากจุดที่ควรอยู่ แต่ดวงโปรดเขาวางอยู่ด้านหลังดวงเดียวโดดๆ

    ฮินาตะทรงตัวบนโต๊ะ มือทั้งสองพยุงร่างที่ขอบโต๊ะ

    เคย์ถอนหายใจก่อนจะเดินมาหาเขา

    “เจ้าสร้างพระจันทร์จริงๆ อย่างงั้นเหรอ?”ฮินาจะถาม นัยน์ตาเพลิงจับจ้องตรงหน้าตน

    “ถ้าข้าเลือกที่จะทำล่ะก็ ใช่”

    “ทำให้ดูหน่อยได้มั้ย?

    แล้วดวงตาคู่นั้นก็ย้ายมามองเคย์ วังวนสีน้ำตาล ส้ม แดงเพ่งมายังใบหน้าเขา ถ้ามันจะทำให้ฮินาตะยอมไปจากที่นี่ล่ะก็คุ้มค่าที่จะทำ

    “มันใช้เวลานะ”เขาบอก ฮินาตะดูไม่ใช่คนใจเย็นสักเท่าไหร่

    แต่อีกฝ่ายก็เพียงพยักหน้า

    เคย์ถอนหายใจอีกครั้งพลางถอนแว่น มันเป็นสิ่งที่อยู่ในตารางงานเขาอยู่แล้ว เอนโนะชิตะกำลังสร้างระบบสุริยะขึ้นใหม่ และเขาก็ขอให้เคย์สร้างพระจันทร์ให้จำนวนหนึ่ง

    ฮินาตะตามเขามาที่โต๊ะประดิษฐ์ และแล้วเคย์ก็ลงมือ

    กล่องทรงเหลี่ยมเต็มไปด้วยวัตถุดิบทุกชนิด บางชิ้นละเอียดราวฝุ่นผง บางชิ้นเป็นของเหลว และบางชิ้นไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร เขาเรียงพวกมันเป็นตารางเรียบร้อย ถัดไปเป็นโหลสีของเขา มันค่อนข้างโมโนโทน ส่วนมากเป็นสีฟ้าหลากเฉดสี แต่พวกมันจะเปลี่ยนเองเมื่อเขาใช้มัน เขาเก็บเครื่องมือไว้ในห่อผ้า เมื่อเขาเอาออกมาก็เรียงมันไว้ที่ขอบโต๊ะ

    ผังระบบสุริยะของเอนโนะชิตะก็อยู่ร่วมกับระบบอื่นๆ และเคย์วางมันบนพื้นที่แรงโน้มถ่วงต่ำ พวกมันเลยลอยอยู่กลางอากาศ

    งานหลักเขายังไม่ทันจะเริ่มฮินาตะก็ตื่นตาตื่นใจไปหมดแล้ว

    เคย์เมินเฉยอีกฝ่ายก่อนจะเริ่ม

    เขามองรูปแบบของเอนโนะชิตะก่อนจะวาดมือเหนือส่วนประกอบของตน เขาเลือกหย่อมพอดีมือ ออกมาจากห้องกล่อง ผงสีเทาละเอียด เขียวสว่างระยิบระยับ ดินเหนียวสีเทาเข้ม ของเนื้อเนียนสีขาวและก้อนหยาบสีดำ เคย์วางพวกมันไว้ในโซนแรงโน้มถ่วงจนกว่าจะใช้งาน จากนั้นเขาเลือกกล่องฝาปิดสีดำแล้วเปิดมันออก ข้างในมีแผงกั้งแบ่งเป็นสามชั้น ชั้นละเก้าช่อง นี่เป็นที่เก็บสีโทนสว่างทั้งหมด สีชมพู ม่วง แดง เหลือง มันมองไม่เห็นแต่ทุกช่องสี่เหลี่ยมเต็มไปด้วยสสารเวทมนต์หลากสี มันดูเหมือนทราบหรือกลิตเตอร์ละเอียดๆ และมันก็ส่องสว่างเกือบจะเท่ากับดวงตาของฮินาตะ

    เขาหยิบหนึ่งในเครื่องมือขึ้นมา มันเป็นจอบหัวข้าวหลามตัดบางๆ เขาใช้มันตักผงสีแดงชมพูจากชั้นที่สองของกล่องและเติมมันไว้ก่อนส่วนผสมอื่นๆ ในชั้นแรงโน้มถ่วงก่อนจะวางกล่องลง เขาหันไปทางโหลสีเนื้อเหลวก่อนจะส่งเสียงในลำคอขณะใช้ความคิด เคย์ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างซ้ายจุ่มลงไปในสีฟ้าเทาอ่อนโดยเลี่ยงสีฟ้าฟ้า ส่วนอีกข้างก็จุ่มสองนิ้วลงในสีเทาเรียบ

    ชายหนุ่มหลับตาลงครู่หนึ่ง สัมผัสถึงไอเย็นที่ก่อตัวขึ้นระหว่างไหปลาร้าและกลางหลัง มันเคลื่อนตัวผ่านแขนทั้งสองข้างสู่นิ้วทั้งสี่ที่จุ่มอยู่ในสี แสงสีฟ้าสว่างที่ดูราวกับของเหลวห่อหุ้มร่างของเคย์เมื่อเขาลืมตาขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลล้อมรอบด้วยสีฟ้า พวกมันดูเหมือนแสงสีขาวสว่างไม่ใช่อื่นใด

    นี่เป็นส่วนที่เคย์ชอบที่สุด เวทมนต์ของเขาโลดแล่นอย่างอิสระ เจ้าดาวเคราะห์มีชีวิตขึ้นระหว่างมือทั้งสอง มันรู้สึกเหมือนความแข็งแกร่ง

    เมื่อดวงจันทร์แข็งตัวและค่อนข้างกลม แสงสีฟ้าของเคย์ก็หายไป แต่ดวงตายังคงเรืองรอง เขาเสริมมิติให้มัน สร้างหลุมบนพื้นผิว ใส่แหล่งน้ำแข็งและควบคุมแรงโน้มถ่วงของมัน เขาแอบปรับเปลี่ยนรายละเอียดที่เอนโนะชิตะต้องการนิดหน่อย แต่เขาไม่สนใจ และเขาก็รู้ว่าเอนโนะชิตะเองก็ไม่สนเหมือนกัน

    มันใช้เวลาถึงสองชั่วโมงกว่าเคย์จะพอใจ เขาแบมือแนบกับหน้าโต๊ะ แสงสีฟ้าสว่างวาบทิ้งวงแหวนประทับอยู่บนโต๊ะ เส้นสายเวทมนต์เชื่อมดวงจันทร์ไว้กับวงแหวนมันจะได้อยู่กับที่ระหว่างที่เขาทำอย่างอื่น

    เมื่อดวงตาเขากลับสู่ปกติ เขาก็สังเหตเห็นสีหน้าอ้าปากค้างของฮินาตะก่อนจะเลิกคิ้ว

    “นั่นมันเยี่ยมไปเลย!”ฮินาตะกระโดดตัวลอย แสงรองจากร่างเขาวูบไหวเมื่อเขาเริ่มพล่าม

    เคย์ฟังด้วยความงงงวย ไม่เข้าใจว่าทำไมฮินาตะถึงตื่นเต้นนักกับอะไรธรรมดาอย่างการสร้างพระจันทร์ และน่าแปลกที่เคย์รู้สึกว่ายิ่งฮินาตะพูดมากเท่าไหร่ แก้มตัวเองก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ

    ปีกของเทพสุริยะโผล่ออกมาแม้จะยังพับเก็บอยู่ข้างลำตัวเพื่อไม่ให้รบกวนข้าวของให้ห้องทำงาน แต่จู่ๆ เขาก็หยุดพูดแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบแผ่นโลหะเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือออกมา มันกำลังสั่น

    “ข้าต้องกลับไปที่วังแล้ว”เขากล่าวพลางเก็บแผ่นโลหะเข้ากระเป๋า

    “โอเค”

    “ขอบคุณสำหรับแสดงวิธีสร้างพระจันทร์ให้ข้าดูนะ! มันสุดยอดมาก! ไว้ข้าจะกลับมาใหม่!

    แล้วปีกฮินาตะก็พาเขาออกจากประตูและจากไป

    ห้องทำงานของเคย์กลับสู่แสงสลัวอีกครั้ง

    .........................................

    “เจ้าไม่เคยให้แขกอยู่นานขนาดนั้นมาก่อน”ยามากุจิกล่าวขึ้นระหว่างที่พวกเขานั่งอยู่ที่หน้าผาตอนตกดึกวันนั้น

    “ข้าทำงาน และเขาก็แค่อยู่ดู”เคย์ตอบปัดๆ หวังว่ายามากุจิจะเลิกคุยเรื่องนี้ แต่เขารู้จักอีกฝ่าย ยามากุจิไม่ใช่คนที่จะทำแบบนั้นเลย

    “เจ้าปล่อยให้เขาอยู่ดูเหรอ?

    เคย์กัดกระผุงแก้มตัวเองเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจ

    “ข้าแค่คิดว่าเขาจะยอมไปหลังจากนั้น และเขาก็ไป”

    “นั่นเพราะเขาถูกเรียกตัวกลับต่างหากล่ะ”ยามากุจิขำ

    เคย์ไม่ตอบอะไร และทำเพียงมองขึ้นไปบนฟากฟ้ายามค่ำ มันไม่ได้มีกลุ่มดาวกลุ่มใหม่มานานมากแล้ว เคย์รู้ว่ายามากุจิจะบอกเขาถ้ามี แต่เขาก็มองหามันอยู่ดี

    แม้ว่าจะเป็นคนที่จัดวางพวกมันบนฟ้านั่น แต่ยามากุจิก็เฝ้ามองดวงดาวเหล่านั้นด้วยความอัศจรรย์ใจเสมอ ดวงดาวของตัวเขาเองที่แต่งแต้มใบหน้า แขนและผิวที่สามารถมองเห็นได้ส่องสว่างมากขึ้นเมื่อกลุ่มดาวเริ่มพากันปรากฏตัว

    พวกเขาอยู่ท่ามกลางความเงียบกันเกือบชั่วโมง ยามากุจิยิ้มให้เหล่าหมู่ดาว และเคย์หลับตาพริ้ม

    “ปีกเหรอ?

    เคย์ลืมตาขึ้นโพลง มันเรืองแสงสีฟ้าน้ำแข็ง

    “ไม่ใช่”

    “ขอโทษที ข้าถามไปโดยที่ไม่ทันคิด”ยามากุจิกระซิบ

    “มันไม่เกี่ยวกับเจ้าเลย ไม่เห็นต้องขอโทษ”

    ปีกของเคย์นั้นเป็นสิ่งที่น่าจับจ้อง

    เขามีปีกสองคู่ คู่หนึ่งเป็นสีขาวเทา กว้างกว่าปีกทั่วไปถึงสองเท่าและปลายปีกเป็นสีฟ้า พวกมันแข็งแรงพอจะปกป้องเขาจากการโจมตีด้วยพละกำลังราวกับเกราะเหล็ก ปีกคู่ที่สองนั้นเล็กกว่าและอยู่ล่างลงไปอีกบนแผ่นหลัง พวกมันมีสีน้ำเงินเข้มปลายสีขาวด้วยขนนกที่อ่อนนุ่มกว่า คู่ที่สองนั้นไม่ได้มีหน้าที่คอยป้องกันเขา แต่มันทำให้เขาบินได้เฉียบคมยิ่งขึ้น

    แต่ตอนนี้มันเหลือแค่เพียงรอยแผลเป็นและกระดูกหักงอในที่ที่พวกมันเคยอยู่ ลวดลายคดโค้งล้อมรอบบริเวณโคนปีกสีเขียวแก่ปนดำ และแสบร้อนเป็นครั้งคราว

    แม้เวลากว่าชั่วชีวิตจะผ่านไปแล้ว แต่บางครั้งเคย์ก็ยังคงตื่นขึ้นมาด้วยความหวังที่จะได้เห็นขนนกบนเตียงของตัวเองอีกครั้ง

    TBC…

     

    ll TALK WITH TRANSLATOR ll

    สวัสดีครับ

    ช่วงนี้มาอัพเร็วหน่อย เพราะเดือนนี้เป็นเดือนพิเศษสำหรับผมในหลายๆ ความหมายเลยขยันเป็นพิเศษไปด้วยครับ 55555 ก็หวังว่าจะชอบกันนะครับ ภาษาเรื่องนี้ส่วนตัวผมยังรู้สึกว่าแปร่งๆ อยู่บ้าง สามารถติชมได้เสมอนะครับ ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าครับผม ^ ^

    พาร์ท

    Killer in the Dark Shadow


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×