ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Zelo x You] สาวใสโชคร้ายขอมัดใจนายซุปตาร์ COME BACK

    ลำดับตอนที่ #28 : Chapter 24

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 909
      5
      22 ต.ค. 56

    :)  Shalunla   


    Chapter 24






    เวลาเดินไปอย่างเชื่องช้ากว่าที่มันควรจะเป็น เป็นเวลานานกว่าดวงอาทิตย์จะตกดิน จงฮยอนบอกจะมาส่งแต่คุณกลับปฏิเสธไปเพราะอยากใช้เวลาเดินกลับกับเซโล่เพียงแค่สองต่อสอง แต่แล้วมันกลับตรงกันข้ามกับที่คุณคิด ไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างทางกลับ ไร้ซึ่งสิ่งใดๆเว้นแต่เสียงของนกที่กลับเข้ารังและเสียงของรถราบนท้องถนน
     
     
     
     
     
    คุณเดินตามแผ่นหลังกว้างของเซโล่มาตามทางเดินเงียบเชียบของหอพักที่เดิม ทุกๆก้าวที่กำลังเดินอยู่คุณรู้สึกราวกับอยากจะซึมซับทุกๆความรู้สึกที่เท้าแตะพื้นแห่งนี้ก่อนที่คุณจะไม่มีวันได้เหยียบมันอีก รู้สึกราวกับวิญญาณหลุดลอยไปยังที่ๆไกลแสนไกล รู้สึกช่วงท้องเบาโหวงและในหัวขาวโพลน แผ่นหลังกว้างของคนที่เดินอยู่ข้างหน้าไม่มีทีท่าว่าจะหันหลังและเดินกลับมาทางคุณ
    รูัสึกไกลทั้งๆที่ใกล้ รู้สึกราวกับกำลังเหยียบอยู่ระหว่างเส้นบางๆที่กั้นระหว่างความฝันกับความจริง
     
     
     
     
     
     
    คุณกำลังก้าวล้ำเข้าไปยังความจริงเข้าไปทุกที........เวลาแห่งความฝันอันหอมหวานกำลังจะหมดลง
     
     
     
     
     
     
    "กียอนอา........"คนตรงหน้าหยุดเดินก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อคุณด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มโดยที่ยังไม่ได้หันมาสบตา
     
     
     
     
     
     
    คุณไม่ตอบหากแต่กลับก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าเพื่อให้ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด
     
     
     
     
     
     
    คุณเอนหัวที่รู้สึกมึนและหนักอึ้งวางบนแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าอย่างหมดแรงและสิ้นหวัง
     
     
     
     
     
     
    ไหล่กว้างแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ครู่หนึ่ง เงาจากแสงไฟสลัวทาบทับลงบนร่างสูงโปร่งที่มีร่างเล็กของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซ้อนอยู่ด้านหลัง มือเล็กของเด็กสาวค่อยๆยกขึ้นโอบกอดรอบเอวของชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแรงที่มีเหลืออยู่น้อยนิดก่อนที่เธอจะกอดรัดชายหนุ่มตรงหน้าแน่นและปล่อยให้น้ำตาไหลอาบเสื้อราคาแพงของเขาอีกครั้ง
     
     
     
     
     
     
     
    ทางเดินที่เงียบงันไร้ผู้คนราวกับตั้งใจมีเพียงแค่เสียงสะอื้นอ่อนแรงของคุณกับเสียงหายใจของคนทั้งสอง
     
     
     
     
     
    เซโล่ค่อยๆยกมือใหญ่ขึ้นมากุมมือเล็กที่โอบรัดรอบเอวของเขาช้าๆก่อนจะออกแรงเพียงน้อยนิดแกะมันออกแล้วหันมาเผชิญหน้ากับคุณ
     
     
     
     
     
    คุณยังคงก้มหน้าแน่นิ่งไม่อยากจะเงยหน้าให้น้ำตาไหลออกมาอีก แค่นี้ก็รู้สึกสมเพชจะแย่ สัมผัสอบอุ่นที่มือมันแผ่ซ่านปกคลุมไปทั้งหัวใจ แต่คุณก็รู้สึกเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อรับรู้ว่าวันพรุ่งนี้เช้าจะไม่มีอีกแล้วความรู้สึกดีๆแบบนี้
     
     
     
     
     
    "ข.....ขอโทษนะคะ.....ท....ที่ทำให้เสื้อโอปป้าเปียก"คุณพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นเครือเพราะแรงสะอื้น
     
     
     
     
     
     
    "เลิกร้องไห้ได้แล้ว......ไม่น่ารักเลยนะ"ร่างสูงก้าวเข้ามาหาคุณอีกก้าวก่อนจะไล้นิ้วร้อนไปบนพวงแก้มของคุณที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ความรู้สึกอบอุ่นปกคลุมหัวใจคุณอีกครั้งยามที่เขาสัมผัสใบหน้าของคุณ คุณอยากจะซึบซับทุกความรู้สึกทั้งหมดเลยไม่อยากจะปล่อยให้มือหนาที่กุมอยู่หลุดมือไปซักวินาที
     
     
     
     
     
    ร่างสูงและร่างเล็กเคลื่อนเข้าหากันช้าๆก่อนที่ร่างสูงจะโอบกอดร่างเล็กที่สั่นสะท้านเข้ามาในอ้อมกอดที่เขาไม่เคยมอบให้ผู้หญิงที่ไหน ความอบอุ่นและความรักรายล้อมคนสองคนจนไม่อยากจะผละออกจากอ้อมกอดนี้ไปแม้แต่เสี้ยววินาที
     
     
     
     
     
    คุณหลับตาลงเบาๆพร้อมกับฝังแก้มลงบนแผงอกอบอุ่นและซึมซับทุกๆกลิ่นทุกๆสัมผัสที่จะเป็นสิ่งๆเดียวที่คุณจะจดจำเขาได้ในทุกๆลมหายใจ
     
     
     
     
     
    จะไม่ลืมเลยว่าโอปป้าตัวหอมแค่ไหน จะไม่ลืมเลยว่าโอปป้ากอดได้อุ่นที่สุดในโลกและจะไม่มีวันลืมสัมผัสนุ่มจากริมฝีปากของเขาไปจนวันสุดท้ายที่หายใจ
     
     
     
     
     
     
    ร่างสูงเกยคางลงบนผมนุ่มของผู้หญิงตรงหน้าพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกเพื่อซึมซับความรู้สึกทุกอย่างไว้ในหัวใจไปจนวันตาย
     
     
     
     
     
    คุณและเขาผละออกจากกันก่อนที่เซโล่จะจับมือคุณอีกครั้งแล้วพามายังดาดฟ้าชั้นบนสุดที่ยามนี้คงเป็นที่ที่ดีที่สุดและรอดพ้นจากสายตาคน ลมเย็นๆพัดเอากลิ่นบรรยากาศของกรุงโซลยามค่ำคืนขึ้นมาปะทะกับใบหน้าของคุณทั้งสอง แสงไฟจากตึกรามบ้านช่องส่องสว่างระยิบระยับรับกับท้องฟ้าสีดำสนิทไร้ซึ่งการแต่งแต้มจากหมู่ดาว
     
     
     
     
     
    มือใหญ่ยังคงกุมมือของคุณไว้ไม่ได้ปล่อยไปไหน..........
     
     
     
     
     
    "ฮึก......."การสะกดกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาเป็นสิ่งที่ทรมาณที่สุดในยามนี้ ความรู้สึกมากมายเทประดังเข้ามาในหัวจนอยากจะทรุดลงไปนั่งกับพื้น คุณขบปากแน่นจนเจ็บเกร็งไปทั่วริมฝีปาก น้ำตาไหลพรั่งพรูอาบแก้มโดยไร้เสียงสะอื้นเป็นครั้งที่ร้อยของวันนี้
     
     
     
     
     
     
    "อาาาาาา......เลิกร้องไห้ได้แล้ว"
     
     
     
     
     
    เขาพูดว่าเลิกร้องไห้ได้แล้วซ้ำๆโดยที่ไม่รู้เลยว่ายิ่งเขาพูดก็จะยิ่งทำให้คุณร้องไห้หนักกว่าเดิม
     
     
     
     
    คุณปาดน้ำตาออกจากแก้มก่อนจะหันไปสบตากับแววตาอบอุ่นจากคนข้างๆที่ดูสั่นเครือและเจือไปด้วยความรู้สึกมากมาย รอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากของเขาดูเหมือนเขาแค่พยายามแค่นมันออกมาให้คุณได้สบายใจ
     
     
     
     
     
    "ฉันไม่อยากกลับบ้าน"
     
     
     
     
     
    "ไม่ได้หรอกกียอน......."
     
     
     
     
     
    เกลียดคำพูดแบบนี้ของเขาจัง.....โอปป้าพูดเป็นอยู่แค่นี้เหรอ?
     
     
     
     
     
    "ถ้าไม่มีโอปป้าอยู่ข้างๆ ฉันต้องบ้าตายแน่ โอปป้าไม่มีวันรู้หรอกว่าตอนที่ฉันได้แต่เฝ้ามองรอยยิ้มของโอปป้าในมือถือโดยที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางได้แตะต้องมันเจ็บปวดแค่ไหน"
     
     
     
     
     
     
    "................."
     
     
     
     
     
    "ความรักของฉันมันน่าเศร้าเนอะ ฮึก! รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้แต่ก็ยังไม่เลิกฝันอีก ฮืออออออ"
     
     
     
     
     
    น้ำตาไหลอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
     
     
     
     
     
     
    "ฮือออออออ สุดท้ายมันก็จบลงแบบนี้ สุดท้ายฉันก็ไม่เหลืออะไร ฮือออออ กลับไปเป็นคนธรรมดา เล่าเรื่องทุกอย่างให้คนในโปสเตอร์ฟังเหมือนคนบ้า ส่วนโอปป้าน่ะก็ยังคงเป็นเซโล่เหมือนเดิม ได้พบปะกับคนดังสวยๆมากมายและไม่นานก็ลืมฉัน ฮืออออออ"
     
     
     
     
     
    คุณพูดไปร้องไห้ไปราวกับเด็กที่งอแง คราบน้ำตาเต็มข้างแก้มแต่คุณก็ไม่สนใจมัน สภาพตอนนี้คงจะทุเรศมากใช่มั้ย เคยพยายามสวยที่สุดต่อหน้าเขาแต่ตอนนี้แค่จะหยุดร้องไห้ยังทำไม่ได้เลย ไหนๆก็จะไม่ได้พูดแล้วขอพูดให้หมดเลยแล้วกัน ฉันมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
     
     
     
     
     
    เสียงที่คุณพูดสั่นเครือและเคล้าไปด้วยเสียงสะอื้นจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ แต่เซโล่กลับเข้าใจชัดทุกอย่างแม้เด็กผู้หญิงข้างๆเขากำลังร้องไห้อย่างหนักก็ตาม
     
     
     
     
     
     
    "ฉันรักโอปป้า! ฉันรักมักเน่บีเอพี ฉันรักเซโล่ ฉันรักนายชเว จุนฮง ฉันรักเขามากที่สุด ได้ยินมั้ยยยยยย!! ฮือออออออออออ"
     
     
     
     
     
    คุณตะโกนสิ่งที่อยู่ในใจออกไปทั้งหมดราวกับคนที่กำลังจะเป็นบ้า น้ำตาหยดเล็กๆไหลลงกระทบกับพื้นเป็นระยะๆ คุณบีบมือใหญ่ที่กุมอยู่แน่นก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกรอบ
     
     
     
     
     
    "เธอมันบ้า..........ซื่อบื้อ ไร้สาระ ฝันเฟื่อง แล้วแถมยังโง่ด้วย!"
     
     
     
     
     
     
    มาเป็นชุด.....
     
     
     
     
     
     
     
    คุณเงยหน้าขึ้นช้าๆก่อนจะหันไปมองคนตัวสูงที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ
     
     
     
     
     
     
    ใบหน้าขาวผ่องดุจน้ำนมรับกับริมฝีปากแดงสด ดวงตาคมจ้องมองคุณด้วยแววตาที่คุณอธิบายไม่ถูกแต่กลับทำให้คุณรู้สึกเย็นชื้นที่หัวใจ ลมเย็นพัดมาปะทะเสี้ยวหน้าได้รูปจนผมสีหม่นเขายุ่งไม่เป็นทรง
     
     
     
     
     
     
    มือหนายื่นมาโอบรอบเอวคุณก่อนจะดึงเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้งแต่คราวนี้คนที่กอดคุณแน่นที่สุดก็คือเขา มือหนากอดรัดให้ร่างคุณแนบชิดกับกายเขาจนคุณเองก็กลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นดังจนแทบทะลุออกมานอกอก
     
     
     
     
     
     
    "ยัยโง่เอ้ยยยย! เธอโง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่ที่ไม่รู้ว่าฉัน.......รักเธอ"เขาพูดในขณะที่ยังไม่คลายกอด
     
     
     
     
     
     
    คำว่ารักที่ออกจากปากเขาทำให้หัวใจคุณเต้นแรงขึ้นทวีคูณ
     
     
     
     
     
    "!!!!!!!!"
     
     
     
     
     
    "ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาาาาา....อย่าให้ฉันอธิบายเลย ไม่งั้นคืนนี้เธอคงต้องฟังฉันเล่าทั้งคืน หะๆ"
     
     
     
     
     
    "................"
     
     
     
     
     
     
    "ลองฟังเสียงหัวใจฉันดูสิ ตอนนี้มันเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาข้างนอกอยู่แล้ว"เขาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นก่อนจะลูบเบาๆที่ผมของคุณและกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นจนคุณคิดว่าอาจจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาจริงๆ
     
     
     
     
     
    เขาผละอ้อมกอดออกช้าๆก่อนจะจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของคุณ
     
     
     
     
     
    และแล้วริมฝีปากของคุณและเขาก็สัมผัสกันอีกครั้ง หมู่ผีเสื้อในท้องของคุณปลิวว่อนบินไปคนละทิศคนละทางเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสนุ่มละมุนที่ทาบทับอยู่บนริมฝีปาก
     
     
     
     
     
     
    ริมฝีปากบดเบียดแนบชิดอย่างนุ่มนวลอยู่นานหลายนาทีก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่ทำเอาคุณแทบละลาย เขาเปลี่ยนจังหวะการจูบได้อย่างรวดเร็วโดยกาาเริ่มต้นบดขยี้ริมฝีปากคุณด้วยริมฝีปากได้รูปของตัวเองราวกับจะกลืนกิน จูบดูดดื่มและมือหนาที่นัวเนียไปตามร่างกายคุณเล่นเอาคุณขาสั่นจนแทบจะละลายลงไปกองอยู่แทบเท้าของคนตรงหน้า
     
     
     
     
     
    คุณสัมผัสได้ถึงรสกาแฟอ่อนๆที่ติดอยู่ที่ปลายลิ้นร้อนของเขาเมื่อเขาตวัดมันเข้ามาสำรวจในโพรงปากอุ่นของคุณ 
     
     
     
     
     
     
    เขาก้าวเท้าเร็วเข้ามาหาคุณจนคุณต้องถอยกรูดไปชิดกับกำแพงด้านหลังอย่างห้ามไม่ได้ ร่างสูงโปร่งของคนตรงหน้าบดเบียดแนบชิดอยู่บนร่างกายคุณจนรับรู้ได้ถึงความเย็นเชียบของกำแพงซีเมนต์ด้านหลัง คุณกำเสื้อแจ็คเกตลายทหารของคนตรงหน้าแน่นพร้อมกับหลับตาลงรับกับสัมผัสที่เขามอบให้
     
     
     
     
     
    มักเน่ผู้นุ่มนวลบัดนี้กลายเป็นเสือที่หิวโซกำลังขย้ำเหยื่อในอ้อมแขนอย่างหื่นกระหาย
     
     
     
     
     
    เซโล่ครอบครองริมฝีปากคุณอยู่เนิ่นนานก่อนจะผละจูบออกแล้วไล้ริมฝีปากได้รูปไปบนซอกคอของคุณแล้วเริ่มทำการขบเม้มสร้างรอยแดงไปทั่วอีกครั้ง คุณทั้งรู้สึกเคลิบเคลิ้มและเสียวซ่านในเวลาเดียวกันจนเผลอคลายมือที่ขยุ้มเสื้อเขาไปโอบรอบคอของคนตรงหน้าและจับเบาๆที่เรือนผมนุ่มสีเขม่า
     
     
     
     
     
     
    เซโล่ค่อยๆจับต้นขาของคุณทั้งสองข้างขึ้นคร่อมเอวหนาของเขาแล้วเบียดคุณให้ชิดผนังอีกครั้งโดยที่ยังไม่ผละจากจูบร้อนแรง
     
     
     
     
     
    ริมฝีปากอุ่นบดขยี้อย่างไม่ยอมแพ้และลิ้นร้อนที่ฟาดฟันกันอยู่ในโพรงปากโดยที่ไม่เว้นวรรคให้คุณได้สูดอากาศหายใจ
     
     
     
     
     
     
    มือหนาเริ่มซุกซนทำตามความต้องการของเขาโดยการเริ่มสอดไปใต้เสื้อตัวบางของคุณและลูบไล้สัมผัสเรือนร่างไปทั่วจนคุณกอดรัดเขาแน่นอีกครั้ง มือสากลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังสั่นสะท้านของคุณและกำลังจะปลดตะขอบราเซียร์สีดำที่คุณสวมอยู่
     
     
     
     
     
     
    "อ........โอปป้า....."คุณเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นและยากเกินจะควบคุม
     
     
     
     
     
     
    แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจเสียงเรียกของคุณแม้แต่น้อยหากแต่ยังครอบครองเรือนร่างของคุณโดยการทั้งจูบทั้งเม้มไปทั่วจนซอกคอคุณเต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำๆ คุณขบปากแน่นและทำได้แค่กอดเกี่ยวขาพันรอบเอวเขาแน่นเพื่อสะกดความต้องการในใจแต่เมื่อร่างกายคุณแนบชิดแผ่นอกร้อนจนแทบจะหลอมรวมกลายเป็นคนคนเดียวกันดูเหมือนไม่ช่วยอะไรเลย
     
     
     
     
     
     
    มือหนาปลดกระชากบราเซียร์ตัวบางเบาออกจากการเกี่ยวรัดรอบทรวงอกได้รูปของคุณและคุณก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือร้อนเริ่มต้นไล้มาที่หน้าท้องก่อนที่มือสากจะเลื่อนขึ้นมาและบีบเค้นทรวงอกขนาดพอดีมือเหมือนมันเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง
     
     
     
     
     
     
    "หยุดเถอะค่ะ.........ม........ไม่ใช่ตอนนี้..."
     
     
     
     
     
    คุณรู้ดีว่าถ้าหากยังคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปแน่นอนว่าเรื่องจะไปจบลงบนเตียง คุณรู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาถึงแม้ว่าตอนนี้คุณเองก็ต้องการมันเช่นกัน
     
     
     
     
    มือหนายังคงบีบเค้นและคลึงไปทั่วทรวงอกคุณอย่างไม่ลดละ
     
     
     
     
     
    คุณจิกเท้าแน่นสะกดกลั้นความอยากที่สุมอกก่อนจะออกแรงที่เหลืออยู่เฮือกสุดท้ายผลักอกกว้างของผู้ชายตรงหน้าให้ออกห่างจากร่างกายเป็นระยะที่พอให้คุณไม่สติกระเจิงเหมือนเมื่อครู่นี้
     
     
     
     
     
     
    คุณพยายามทรงตัวให้ยืนอยู่กับที่และไม่สบตามีเสน่ห์ทรงพลังคู่นั้นก่อนจะทำการติดตะขอบราเซียร์ที่โดนปลดเมื่อครู่ให้เข้าที่และจัดเสื้อที่ยับย่นให้ดูเป็นทรงเหมือนเดิมมากที่สุด
     
     
     
     
     
    คุณรู้สึกเขินอายจนไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของคนตรงหน้าที่กำลังจ้องมองคุณอยู่ไม่วางตา
     
     
     
     
     
    "กียอน.......เอ่อ.......เมื่อกี้ฉัน......ขอโทษนะ"
     
     
     
     
     
     
    "ม...ไม่เป็นไรค่ะ"
     
     
     
     
     
     
    "ฉัน.....ควบคุมตัวเองไม่ได้ คงเป็นเพราะ.....ฉันรักเธอ"
     
     
     
     
     
     
    "!!!!!!!!!!!!"
     
     
     
     
     
     
     
    "รู้รึเปล่าว่าฉันรักเธอ"
     
     
     
     
     
     
    "รู้แล้วววววว~"คุณพูดยิ้มๆด้วยน้ำเสียงเขินอายโดยที่ไม่กล้าเงยหน้าไปสบตาเขา คุณยังก้มหน้าเพราะไม่อยากให้เขาต้องมาเห็นใบหน้าแดงๆ
     
     
     
     
     
     
    "เขินฉันรึไง.....หือ?"มือหนาค่อยๆยกขึ้นมาเชยปลายคางของขึ้นให้เงยหน้ามาสบตากับเขา
     
     
     
     
     
     
     
    อาาาาา.....ดวงตาเขาช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน ไหนจะใบหน้าชวนให้หลงใหลแบบนั้นอีก ถึงแสงไฟจะสลัวแต่คุณก็รับรู้ได้ว่าใบหน้าขาวผ่องของคนตรงหน้าก็ขึ้นสีเรื่อไม่ต่างอะไรกับคุณ นัยน์ตาสีดำขลับของเขาสะท้อนแสงจากโคมไฟสีนวลและใบหน้าของคุณก็อยู่ในนั้นด้วยเหมือนกัน มีเพียงเงาของผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในดวงตาเขานั่นก็คือคุณ
     
     
     
     
     
     
    "ขอจูบอีกทีได้มั้ย?"
     
     
     
     
     
     
    "////////////////"
     
     
     
     
     
     
    "ได้มั้ย?? นะๆๆกียอนน้าาาาา~~~"เซโล่พูดก่อนจะค่อยๆก้าวเข้ามาชิดเพื่อลดระยะห่างจากตัวคุณพร้อมกับทำหน้าและน้ำเสียงออดอ่อนจนคุณใจเต้นแรงขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
     
     
     
     
     
    หยุดน้าาาาา อย่าทำท่าทางน่ารักแบบนั้นนะ
     
     
     
     
     
     
    "อื้อ! แต่แค่จูบนะ!" คุณพยักหน้ารัวๆก่อนจะหลับตาปี๋และรู้ตัวอีกทีก็ถูกคนตรงหน้าดึงเข้าไปในอ้อมกอดแล้วเริ่มต้นมอบรสจูบนุ่มละมุนให้อีกครั้ง คราวนี้คุณไม่อยากจะผละ
    จากเขาไปซักวินาทีเดียวเลยจริงๆ.....
     
     
     
     
     
     
     
    หลังจากที่เขาครอบครองริมฝีปากและหยอกเย้าอารมณ์ของคุณจนพอใจเขาก็พาคุณกลับมายังห้องพักที่ป่านนี้พวกพี่ๆคนอื่นๆในวงคงจะเป็นห่วงกันแทบแย่
     
     
     
     
     
     
    "ไปซื้อยาแค่นี้หายไปเป็นวันๆเลยนะ เฮ้ย! แล้วนั่นไปทำอะไรกันมาน่ะ ทำไมหน้าแดงกันขนาดนั้น"ฮิมชานโอปป้าหันขวับมาทางคุณและเซโล่ก่อนจะทำหน้าตกตะลึงแล้วชี้นิ้วมายังใบหน้าของคุณทั้งสองและแน่นอนว่าคนอื่นๆในวงก็หันมามองเป็นตาเดียว
     
     
     
     
     
     
    คุณอมยิ้มน้อยๆแต่ไม่ได้ตอบอะไรไป รีบๆบอกพวกเขา ว่าพรุ่งนี้จะไม่มีคุณให้กวนใจอีกแล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงแล้วจริงๆ
     
     
     
     
     
     
     
    "ทุกคนคะ......พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านแล้ว"
     
     
     
     
     
    "ห้ะ!!!!!! ทำไมล่ะ!!?"
     
     
     
     
     
    "พ่อของฉันอยู่ใกล้ๆนี้เอง ฉันจะต้องกลับบ้าน ต้องกลับไปหาพ่อกับแม่ที่เป็นห่วงฉัน"
     
     
     
     
     
     
    "กียอนอา......เอาตรงๆนะ ฉันไม่อยากให้เธอกลับไปเลย"
     
     
     
     
     
     
    "งั้นเหรอคะ....หะๆ แต่ฉันอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอก ถ้าฉันไม่ออกไปเองยังไงซะซักวันหนึ่งผู้จัดการของพวกโอปป้าก็ต้องไล่ฉันออกไปอยู่ดี"
     
     
     
     
     
    คุณพูดด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุด ยอมรับว่าภายในใจยังรู้สึกเสียใจและเสียดายแต่เพราะเมื่อกี้คุณร้องไห้ออกไปหมดแล้ว ร้องไห้จนหมดน้ำตา ต่อจากนี้ไปจะไม่เสียใจ จะไม่ร้องไห้ จะไม่อะไรทั้งนั้น
     
     
     
     
     
     
    "การมาที่นี่ครั้งนี้รู้สึกว่าคุ้มค่ายิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น เวลาเพียงไม่นานที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกับพวกโอปป้านับว่าฉันโชคดีมากๆแล้ว ฉันเองยังเคยแอบไปคิดเลยว่าชาติที่แล้วตัวเองทำบุญด้วยอะไรมา หะๆ"
     
     
     
     
     
     
    "..............."
     
     
     
     
     
     
     
     
    "ต่อจากนี้ไปอีกซักสิบปีหรือยี่สิบปี ฉันก็พร้อมที่จะเฝ้ามองความสำเร็จของพวกโอปป้าต่อไป จะคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ถึงแม้ว่าพวกโอปป้าอาจจะลืมว่าเมื่อวันหนึ่งเคยมีคนอย่างฉันอยู่ในชีวิต"
     
     
     
     
     
    ".............."
     
     
     
     
     
     
    "แต่ฉันสัญญานะคะว่าจะไม่มีวันลืมว่าพวกโอปป้าอบอุ่นมากแค่ไหน ไม่มีวันลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่โอปป้าเคยให้ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะ ฉันซึ้งใจมากจริงๆ"
     
     
     
     
     
     
    "กียอนนน เธอหยุดพูดเดี๋ยวนี้ เธอกำลังจะทำให้ฉันร้องไห้"
     
     
     
     
     
     
    คุณเผลอหัวเราะนิดๆให้กับท่าทางแบบนั้นของแดฮยอนโอปป้า น่ารักเป็นบ้าเลย
     
     
     
     
     
    "เธอจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะกอดเธอหน่อย"ยงกุกโอปป้าที่ยืนอยู่ด้านหลังพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำในแบบฉบับของเขาพร้อมกับก้าวขาเข้ามาใกล้คุณ คุณพยักหน้าและยิ้มเบาๆหลังจากนั้นพี่ใหญ่ของวงก็สวมกอดคุณไว้ในอ้อมแขนอบอุ่นพร้อมกับลูบหลังคุณเบาๆด้วยความรักและเอ็นดูที่คุณสัมผัสได้
     
     
     
     
     
    "เธอทำให้ฉันรู้สึกอยากจะมีน้องสาว รู้ตัวบ้างมั้ยกียอนอา"เขาพูดในขณะที่ยังกอดคุณอยู่
     
     
     
     
     
    ความรู้สึกเหมือนเขาเป็นพี่ชายของฉันจริงๆเลยนะ มันคนละความรู้สึกกับที่จุนฮงโอปป้ากอดฉัน
     
     
     
     
     
     
    คุณและยงกุกผละออกจากกันและคนอื่นๆในวงก็เข้ามาสวมกอดคุณทีละคนจนครบ แม้แต่จงออบหน้ามึนผู้ที่คุณเคยนับสถิติเล่นๆว่าวันนึงคุยกับเขากี่คำ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวลากอดจะอุ่นขนาดนี้
     
     
     
     
     
     
    "ฉันจะส่งบัตรสตาฟไปให้ทีหลังนะ ฉันเคยพูดอะไรไว้ฉันจะไม่ผิดสัญญา"
     
     
     
     
     
     
    คุณโค้งให้ทุกคนในวงอีกครั้งแล้วเดินมายังห้องนอนที่คืนนี้คุณจะได้นอนเป็นคืนสุดท้าย
     
     
     
     
     
     
    คุณเดินเข้ามาในห้องที่ปิดไฟจนมืดสนิทตามมาด้วยเสียงปิดประตูด้านหลัง ไฟสีเหลืองนวลๆถูกเปิดขึ้นจนทั้งห้องสว่างจนพอมองเห็น ม่านสีขาวยังคงปิดสนิทเหมือนเช่นทุกวัน ห้องก็กลิ่นเดิม บรรยากาศก็เหมือนเดิม แต่ความรู้สึกมันช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง
     
     
     
     
     
    คุณเดินช้าๆไปยังหน้ากระจกบานเดิมที่คุณเคยใช้ส่องทุกวัน คุณจ้องมองเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ผู้หญิงในกระจกเหมือนไม่ใช่ตัวเองเลยจริงๆ เพราะคนในกระจกน่ะคือกียอน ไม่ใช่ฉัน.....
     
     
     
     
    คุณเบือนหน้าจากสายตาว่างเปล่าของตัวเองในกระจกมายังกระเป๋าเงินฟีบแบนมานานที่วางแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะตรงหน้า คุณค่อยๆยกมือที่สั่นเทาหยิบมันขึ้นมาถือไว้ก่อนจะเปิดและหยิบกระดาษสีสันสดใสข้างในขึ้นมาถือไว้
     
     
     
     
     
     
    คุณค่อยๆคลี่มันออกมาอ่านทีละใบอย่างทะนุถนอม ข้อความในนั้นทำให้คุณยิ้มอีกครั้ง มันทั้งเจ็บปวดและมีความสุขในเวลาเดียวกัน คุณรู้สึกหนังตาเริ่มร้อนผ่าวและน้ำตาก็ไหลพ้นขอบตาออกมาอาบแก้มอีกครั้ง คุณห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ไม่ได้จริงๆทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คิดว่าตัวเองจะไม่ร้องไห้อีก คุณรีบเก็บกระดาษพวกนั้นใส่กระเป๋าเหมือนเดิมก่อนที่น้ำตาจะทำให้ตัวหนังสือเลือนหายไป
     
     
     
     
     
    "ฮึก!.......ฮือออออ......"คุณกอดกระเป๋าตังไว้แนบอกแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกรอบ การร้องไห้เป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้   น้ำตาไหลพรูลงมาเหมือนเขื่อนที่กักเก็บน้ำไว้ไม่อยู่จนต้องทะลักออกมา
     
     
     
     
     
     
    คุณสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงท่อนแขนแข็งแรงที่ค่อยๆเลื่อนมาโอบกอดคุณจากทางด้านหลัง คุณเงยหน้ามองเงาในกระจกก็พบว่าคนที่กำลังโอบกอดคุณอยู่นั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจุนฮงโอปป้า เขาเข้ามาตอนไหนคือคำถามที่ดังก้องอยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยในคำตอบ
     
     
     
     
     
     
    เขาค่อยๆฝังจมูกลงบนไหล่คุณเบาๆแล้วกระชับอ้อมกอดให้คุณแนบชิดกับเขามากขึ้น ไออุ่นแผ่ซ่านเกาะกุมหัวใจจนไม่อยากจะผลักไส อยากจะอยู่ในอ้อมกอดอย่างนี้ไปทั้งชีวิตแต่มันเป็นไปไม่ได้
     
     
     
     
     
     
    "เธอร้องไห้อีกแล้วนะ.......ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้หยุดร้องไห้"เสียงทุ้มนุ่มดังแนบชิดอยู่ข้างๆหูพร้อมกับสัมผัสจักจี้นิดๆจากไรผมสีควันบุหรี่ที่ไล้เบาๆอยู่บนคอ
     
     
     
     
     
     
     
    "ไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อย......."คุณพูดออกไปทั้งๆที่เสียงตัวเองก็ยังสั่นจนเห็นได้ชัด
     
     
     
     
     
     
     
    "น้ำตาไหลเต็มแก้มขนาดนี้บ้านฉันเขาเรียกว่าร้องไห้นะ บ้านเธอเขาเรียกว่าอะไรเหรอ???"เสียงยียวนกวนประสาทของเขาทำให้คุณหลุดยิ้มออกมานิดๆและหยิกเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวที่แขนขาวๆของเขา
     
     
     
     
     
    "โอ๊ยๆๆๆๆ! เจ็บนะ หยิกฉันทำไมเนี่ย"คนตัวสูงโวยวายก่อนจะผละออกจากตัวคุณแล้วลูบแขนตัวเองป้อยๆพร้อมกับทำปากจู๋หน้าตาลูกหมา
     
     
     
     
     
     
    "แบร่~~"
     
     
     
     
     
     
    "มานี่เลย! มาให้ฉันเอาคืนเดี๋ยวนี้"ร่างสูงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะออกตัวพุ่งมาทางคุณที่ยืนเอ๋ออยู่เลยไม่ทันจะปลีกตัวหนีเลยถูกลากเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาอีกครั้ง
     
     
     
     
     
     
    "นี่แน่ะๆๆ เธอบ้าจี้ใช่มั้ย ขอโทษนะที่ฉันไม่บ้าจี้เหมือนเธอ"คุณตัวสูงยิ้มกว้างพร้อมกับจี้ไปตามจุดที่คุณโคตรจะบ้าจี้จนคุณต้องบิดตัวหนีแล้วหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า ไม่ว่าจะดิ้นยังไงคนตัวสูงก็ไม่ยอมปล่อยและมือซนๆของเขาก็ยังจักจี้ที่เอวคุณไม่หยุด
     
     
     
     
     
    "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยย พอได้แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ ไม่เอาแล้ววววว  ก้ากกก"
     
     
     
     
     
     
     
     
    ร่างสูงหยุดจี้เอวคุณแล้วเปลี่ยนเป็นช้อนร่างคุณขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาทิ้งคุณลงบนเตียงหนาข้างๆก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองขึ้นมานอนซ้อนหลังแล้วกอดเอวคุณแน่นอีกครั้ง
     
     
     
     
     
     
    คุณใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ว่ามันกำลังจะทะลุออกมานอกอก ในตอนนี้คุณดูเหมือนลูกแมวน้อยในอ้อมอกของผู้ชายร่างยักษ์เกินเด็กที่ยังคงนัวเนียคุณไม่เลิกรา
     
     
     
     
     
     
    ท่อนแขนแข็งแรงกอดรัดคุณแน่นจนแผ่นหลังแนบชิดกับอกกว้าง ไม่นึกเลยว่าโอปป้าจะตัวใหญ่และกอดอุ่นขนาดนี้ รู้สึกดีจนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไงจริงๆในยามที่ได้กลิ่นน้ำหอมเขาใกล้ๆและได้สัมผัสตัวเขาแต่เพียงผู้เดียว
     
     
     
     
     
     
     
    "ขอนอนกอดเธอแบบนี้ทั้งคืนเลยได้มั้ย"
     
     
     
     
     
     
    "เอ่อ......จะดีเหรอคะ......โอปป้าไปนอนกับฮยองเถอะ มันจะดูไม่ดีนะ"คุณปฏิเสธไปทั้งๆที่ในใจกลับอยากให้เขาอยู่ด้วยใจจะขาด
     
     
     
     
     
    "ไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันแค่ไม่อยากให้เธอร้องไห้อีก ในขณะที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ฉันก็แค่อยากใช้ทุกวินาทีอยู่กับเธอแค่สองคน"
     
     
     
     
     
     
    "..............."คุณพลิกตัวหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของดวงตามีเสน่ห์ มือใหญ่ยื่นมาเขี่ยปอยผมของคุณให้ขึ้นไปทัดหูเอาไว้ให้อย่างเบามือ แววตาแห่งความรักฉายชัดอยู่ในดวงตาของเขาถึงแม้ในห้องจะมีแค่แสงไฟสลัวๆชวนหลับ แก้มใสๆของคนตรงหน้าทำให้คุณอดใจไม่ได้ที่จะสัมผัสมัน คุณยกมือขึ้นกุมข้างแก้มเขาไว้เบาๆ
     
     
     
     
     
     
    "ฉันรักเธอจริงๆแล้วล่ะ......เมื่อก่อนฉันไม่มั่นใจในความรู้สึกแต่ตอนนี้ฉันสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำอย่างไม่ต้องอายว่าฉันรักเธอ"
     
     
     
     
     
    "ฉันก็รักโอปป้า รักมาตั้งแต่ตอนที่โอปป้ายังไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ"
     
     
     
     
     
     
     
    เขาอมยิ้มมุมปากก่อนจะยื่นหน้ามาประกบปากจูบคุณอีกครั้งอย่างนุ่มนวลอยู่เนิ่นนานหลายนาทีก่อนจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง
     
     
     
     
     
     
    "มาเป็นคนรักของฉันได้ไหม ตลอดไปเลย"
     
     
     
     
     
    "โอปป้าจะถามทำไมในเมื่อรู้คำตอบอยู่แล้ว"คุณตอบเขินๆเมื่อมือหนาดึงมือซ้ายของคุณไปกุมไว้อีกครั้ง
     
     
     
     
     
     
    เซโล่ค่อยๆดึงแหวนสีเงินเรียบๆแต่ดูมีราคาที่สวมอยู่ที่นิ้วก้อยขวาขึ้นมาถือเอาไว้ก่อนจะค่อยๆบรรจงสอดแหวนวงนั้นเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของคุณแล้วกุมมือคุณไว้แนบอกอีกครั้ง
     
     
     
     
     
     
    ถึงแสงในห้องจะน้อยแต่คุณกลับรู้สึกว่าแหวนวงเล็กๆนี่กลับสะท้อนแสงวาววับได้อย่างสวยงามยิ่งกว่าแหวนเพชรราคาหลายล้าน แหวนที่เคยอยู่บนนิ้วของเขาบัดนี้มันถูกสวมอยู่บนนิ้วที่มีเส้นเลือดเชื่อมต่อกับหัวใจคุณ
     
     
     
     
     
    "เอาแหวนนี่ไปก่อนแล้วกันนะ ใช้มันเป็นตัวแทนของฉันระหว่างที่ฉันไม่ได้อยู่ข้างๆเธอ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะมีวันว่าง แต่ฉันสัญญาว่าว่างเมื่อไหร่จะบินไปหาเธอถึงไทยเลย"
     
     
     
     
     
     
     
    "พูดแล้วห้ามผิดสัญญานะคะ ฉันจะรอโอปป้าทุกลมหายใจเลย"
     
     
     
     
     
     
     
    "โอปป้าสัญญาครับ..."
     
     
     
     
     
     
     
    "เรื่องจงฮยอน......ฉันไม่แต่งกับเขาแน่นอน ถึงพ่อจะบังคับขู่เข็ญยังไงฉันก็จะไม่มีวันแต่ง"
     
     
     
     
     
     
     
    "พรุ่งนี้เช้า.........ฉันจะไปกับเธอด้วย"
     
     
     
     
     
     
     
    "ห้ะ! โอปป้าไม่ต้องไปหรอกค่ะ ส่งแค่ที่นี่ก็ได้"
     
     
     
     
     
     
    "ไม่ ฉันจะไปหาพ่อเธอต่างหากล่ะ......"
     
     
     
     
     
    เสียงเรียบนิ่งและแววตาฉายแววเอาจริงคู่นั้นทำให้คุณค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น แต่เขาจะไปทำไมกัน เดี๋ยวก็งานเข้าหรอก ก็ที่ๆพ่ออยู่น่ะ.....มันบ้านของจงฮยอนนี่นา
     
     
     
     
     
    "!!!!!!!!!!"
     
     
     
     
     
     
     
    "จะไปบอกกับเขา ว่าฉันพร้อมที่จะรักและดูแลลูกสาวของเขาคนนี้ไปชั่วชีวิต......ฉันจะพูดไม่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นยังไง ฉันทนไม่ได้หรอกที่เห็นคนที่ฉันรัก.......โดนคนอื่นแย่งไปต่อหน้าต่อตา"


    To be continue .....
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×