ลำดับตอนที่ #27
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Chapter 23
:)
Shalunla
"จุนฮงอาาาาาาาาา~"
Chapter 23
"จุนฮงอาาาาาาาาา~"
"อะไรยัยบ้า! ใครให้เธอเรียกรุ่นพี่ด้วยชื่อเฉยๆแบบนั้นกัน!"
"ก็มันน่ารักดีนี่นา -3- ฉันเห็นโอปป้าคนอื่นๆเรียกโอปป้าแบบนี้แล้วก็เลยอยากจะเรียกบ้าง"
"มีไว้ให้ฮยองเรียกเท่านั้นแหละ อย่ามาลามปามนะ!"
บทสนทนายามเช้าวันนี้ดูเหมือนจะเรียกเสียงหัวเราะให้คุณได้ไม่น้อย คุณนั่งจ้องมองคนตัวสูงที่นั่งเช็ดรองเท้าสนีกเกอร์อยู่บนพื้นด้วยแววตาตื่นเต้น รองเท้านับสิบคู่วางเรียงรายอยู่บนพื้นดูละลานตาไปหมดจนยงกุกโอปป้าบ่นอุบเพราะไม่มีที่จะยืน
"อะไรเนี่ยจุนฮง วันนี้คิดยังไงถึงเอารองเท้าพวกนี้ออกมาวางเรี่ยราดแบบนี้"แดฮยอนโอปป้าที่เดินออกมาจากครัวพร้อมแก้วกาแฟควันกรุ่นตาเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นมหกรรมรองเท้าสนีกเกอร์ที่เซโล่เป็นคนจัด -__-^
แต่ละคู่ก็ยี่ห้อดังๆแพงๆทั้งนั้น......ลิมิเต็ดอิดิชั่นด้วยแหงๆ
"อย่าเหยียบนะฮยอง! ผมแค่จะเอาลูกๆผมออกมาเช็ดทำความสะอาดเฉยๆ รู้สึกจะอยู่ในตู้นานไปหน่อยแล้ว"จุนฮงโอปป้าพูดในขณะที่ยังคงสนอกสนใจกับรองเท้าในมือ
น่ารักจัง เพิ่งเคยเห็นมุมนี้ครั้งแรกนะเนี่ย. -//////-
"มีอะไรกียอน เธอนั่งมองฉันแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ"
"เอ่อ.....คือว่า......."
คุณตัดสินใจไม่ถูกว่าจะพูดเลยดีรึเปล่าเพราะตอนนี้ดูเหมือนคนจะเยอะเกินไป เรื่องของจงฮยอนน่ะมีแค่คุณกับจุนฮงโอปป้าเท่านั้นที่รู้
"คืออะไร"
"ไปที่ระเบียงเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิคะ คือ.....จะให้ช่วยหาของหน่อยน่ะ"คุณพ่นคำโกหกออกไปเต็มๆและแน่นอนว่าผลที่ตามมาคือคนตัวสูงตรงหน้าขมวดคิ้วเป็นปม
"ลืมอะไรไว้เหรอ"
"มาเถอะค่ะ อย่าถามมากเลยน่า"คุณพูดพร้อมกับดึงมือของเขาให้ลุกขึ้นมาจากวงล้อมของรองเท้าพวกนั้นแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ขยับเขยื้อนเลย
โอ้ย! แขนจะขาวอะไรนักหนาวะ! เห็นแล้วอิจฉา อยากจะเอาหน้าไปถูไถลูบไล้จัง -//////-
"ไปก็ได้" เซโล่เบะปากก่อนจะวางรองเท้าในมือลงแล้วลุกขึ้นยืนตามคุณออกมา
คุณกึ่งจูงกึ่งลากเซโล่โอปป้ามายังระเบียงด้านนอกที่ตอนนี้แดดจากด้านหน้าสาดเข้ามาเต็มๆหากแต่ว่ากลับไม่ร้อนเลยซักนิด อากาศที่นี่น่ะ ถึงแดดจะร้อนเปรี้ยงปร้างขนาดไหนแต่ก็ไม่เคยเอาชนะลมหนาวที่พัดมาได้เลย แดดระอุแต่พอลมพัดมาเท่านั้นแหละมึงเอ้ยยย ถ้าเป็นที่ไทยป่านนี้อีพี่แด้คงดำยิ่งกว่านี้ -.,-
"เธอลืมไว้แถวๆไหนเหรอ?"คนตัวสูงยื่นมือไปเลื่อนปิดประตูก่อนจะก้มลงหาตามกระถางต้นไม้ตามซอกเก้าอี้อย่างตั้งอกตั้งใจในขณะที่คุณเอาแต่ยืนบิดไปมาเพราะไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดี
"โอปป้าคะ....คือจริงๆแล้วฉันแค่อยากจะขอร้องให้ช่วย"
"????"คนตัวสูงที่เมื่อครู่กำลังงุดๆอยู่กับการก้มลงหาสิ่งของที่ไม่มีอยู่จริงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคุณด้วยแววตาตั้งคำถามและดูเหมือนว่ากำลังรอให้คุณอธิบายต่อ
"คือ.........เมื่อคืนจงฮยอนโทรมาหาฉันค่ะ เขาบอกว่ามีอะไรจะคุยด้วย"
"เรื่องอะไร"น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อจงฮยอน
"ฉันก็ไม่รู้ค่ะ แต่เขาบอกว่าจะมารับฉันที่นี่ และไปคุยกันข้างนอก"
"ไม่ ฉันไม่ให้เธอไป"
"เขาบอกว่าสำคัญจริงๆนะคะและเขายังบอกอีกว่าจะให้คุณไปด้วยก็ได้"
"..............."เซโล่มีท่าทางครุ่นคิดอยู่สองสามวินาทีก่อนจะเงยหน้าสบตาคุณอีกครั้ง
"นะคะโอปป้า........ไปเป็นเพื่อนฉันนะ"คุณเดินเข้าไปเกาะแขนขาวๆของเขาด้วยท่าทางออดอ้อน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ลอยออกมาจากคนตัวสูงทำให้คุณเคลิ้มจนอยากเอาหน้าไปซุกให้รู้แล้วรู้รอด เออ! หลอกแต๊ะอั๋งนั่นแหละว้อย!
"กี่โมงล่ะ"เขาเหล่การกระทำของคุณก่อนจะส่ายหัวนิดๆแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางขัดขืนอะไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะรีบแกะมือคุณออกภายใน0.1วิและพูดว่า 'นี่! เดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอก!' บลาๆๆๆ~
"บ่ายสามมั้งคะ ประมาณนั้นแหละ"
"อืม หมอนั่นบอกว่าจะมารับใช่มั้ย?"
"อือฮึ"คุณพยักหน้าหงึกหงัก
"โอเค ฉันพร้อมเสมอ ห้ามออกห่างจากฉันเด็ดขาด ฉันจะอยู่ฟังบทสนทนาของเธอตั้งแต่คำพูดแรกยันคำพูดสุดท้ายเลย"คนตัวสูงขยี้เบาๆบนผมของคุณก่อนที่มือหนาจะยื่นมาบีบจมูกคุณอย่างหมั่นเขี้ยว
อาาาา~ -/////- มันเหมือนเลยจุดของคำว่าเขินไปแล้ว แบบนี้รึเปล่าน้าที่เขาเรียกว่าเขินจนชินน่ะ ความรู้สึกแค่นี้เทียบไม่ติดกับตอนที่ริมฝีปากเราประกบกันแม้แต่น้อย ตอนนั้นน่ะมันรู้สึกราวกับโลกหยุดหมุนจริงๆ ไม่รับรู้อะไรเว้นแต่สัมผัสนุ่มละมุนที่ริมฝีปาก
คุณใจเต้นตึกตักขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
คุณและเซโล่เดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้รองเท้าก็ยังคงวางระเกะระกะเหมือนเดิม โอปป้าคนอื่นๆนั่งกองอยู่บนโซฟายกเว้นยงกุกโอปป้าคนเดียวที่ง่วนอยู่กับหน้าจอโน้ตบุ๊คที่ส่องสว่างแข่งกับทีวีจอยักษ์
"ฮยอง! ฮยองทำอะไรน่ะ"จุนฮงโอปป้ากระโดดเป็นลิงโลดเข้าไปเกาะไหล่พี่ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าคอม ยงกุกหันมามองน้องเล็กของวงก่อนจะหันไปสนใจสิ่งที่อยู่บนจอต่อ
"ก็กะจะดูรีแอคชั่นของเบบี้น่ะหลังจากที่พวกเราโพสแบบนั้นลงไป เพราะนายเลยจุนฮง"
"โถ่ฮยอง จะให้ผมทำยังไงล่ะ ผมไม่ได้มีตารอบทิศนะถึงจะรู้ว่ามีใครจ้องมองอยู่บ้าง"เซโล่เบะปากและพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจและท่าทางน่ารักนั่นก็ไม่เคยทำให้พวกฮยองโกรธเขาเลย จริงๆเรียกว่าโกรธไม่ลงน่าจะถูกกว่า
"เออน่า คราวหน้าคราวหลังก็ระวังๆหน่อย อย่าลืมสิว่านายเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมมีสายตาจับจ้องอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะเป็นที่ไหนก็ไม่สำคัญหรอก"
"แต่ยังไงเบบี้ก็เชื่อว่ายัยกียอนเป็นน้องสาวผมนี่นา"
"จุนฮงอา ฉันเคยบอกนายแล้วว่าความลับไม่มีในโลก ตอนนี้นายโกหกเบบี้ได้แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเชื่อนายตลอดไป เรื่องแบบนี้มันแดงได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว"ยงกุกโอปป้าพูดพลางตบไหล่น้องเล็กเบาๆ จุนฮงโอปป้าเม้มปากแน่นก่อนจะก้มหน้าลงต่ำและได้แต่พยักหน้ารับในสิ่งที่ฮยองของเขาพูด ขนาดคุณเองที่ยืนฟังอยู่ไม่ไกลยังรู้สึกใจหายกับคำพูดที่เป็นสัจธรรมเหล่านั้น
ใช่แล้วล่ะ.......ความลับไม่มีในโลก........
"อย่าคุยเรื่องเครียดๆกันเลย ไหนๆเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว เราลืมๆมันไปเถอะ"แดฮยอนผู้ที่เหมือนจะไม่เคยเครียดอะไรเลยพูดขึ้นก่อนจะตักชีสเค้กในมือเข้าปากอีกคำ
จุนฮงโอปป้าเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยท่าทางหงอยๆที่ค่อนข้างเห็นได้ชัด ถึงพวกเขาจะดูเหมือนไม่ได้เครียดอะไรแต่เชื่อเถอะว่าภายในใจจะต้องกังวลอยู่บ้างไม่มากก็น้อย เขานั่งลงบนพื้นก่อนจะเริ่มไล่เช็ดรองเท้าต่อไปโดยที่ไม่พูดกับใครเลย คุณเองก็ได้แต่ยืนเคว้งอยู่ที่เดิมเพราะไม่รู้จะไปนั่งตรงไหน เมื่อยองแจโอปป้าที่กำลังคาบมันฝรั่งแผ่นอยู่ในปากหันมาเห็นคุณเขาก็หยิบไอ้ทิกเกอร์บนโซฟาออกแล้วพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงให้คุณไปนั่งตรงนั้น
คุณยิ้มและโค้งให้เขาก่อนจะเดินไปนั่งอย่างว่าง่าย คุณนั่งมองเซโล่เช็ดรองเท้าในขณะที่คนอื่นนั่งหัวเราะเพราะรายการวาไรตี้ในทีวี คุณเอาแต่ยิ้มให้กับท่าทางของคนตัวสูงที่นั่งอยู่ในวงล้อมรองเท้า ถ้าเอามือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้ได้คงถ่ายไปแล้วล่ะ
"ยองแจโอปป้า"คุณเอ่ยชื่อคนข้างๆเบาๆ
"หือ? มีไรอ่ะ"เขาละสายตาจากหน้าจอทีวีแล้วหันมามองคุณ
"ฉันจะอยู่ที่นี่ได้อีกนานแค่ไหนคะ พวกเขาจะไล่ฉันออกมั้ย?"คุณเองก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้
"เอาจริงๆนะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"..............."คุณฝืนยิ้มนิดๆแล้วหยิบหมอนข้างๆขึ้นมากอดไว้ก่อนจะฟุบหน้าลงอย่างหมดแรง
"เฮ้ๆๆ พวกเขาไม่ใจร้ายไล่เธอออกไปเร็วๆนี้หรอก แต่ฉันว่า..........พวกเขาคงให้เธออยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอก"
"ฉันรู้ค่ะ"
"แต่เธอไม่ต้องห่วงนะ พวกเราลืมเธอไม่ลงหรอก ว่างๆก็มาหาพวกเราบ้างก็ได้ เดี๋ยวจะทำบัตรสตาฟให้เป็นการพิเศษเลย"
"จริงเหรอคะ!!??"คำว่าบัตรสตาฟลอยกระแทกเข้าหูก่อนจะแล่นไปทั่วร่างจนคุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าลืมความเครียดไปหมดสิ้น
"ได้แน่นอน สตาฟหลักบางคนน่ะชอบจุนฮงจะตายไป แค่หมอนั่นไปทำหน้าลูกหมาใส่พวกสตาฟก็ใจอ่อนกันหมดแล้ว เนอะจุนฮง!"ยองแจโอปป้าหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปพยักเพยิดทางคนตัวสูงที่นั่งแหมะอยู่บนพื้น
"หัวเราะอะไรฮยอง ชอบคิดเองเออเองทุกทีเลย"
ในช่วงเช้า คุณก็อยู่กับพวกบีเอพีตลอดไม่ได้ไปไหน คุณอาจจะไม่ค่อยชินและวางตัวไม่ถูกไปบ้างบางครั้งเมื่อโอปป้าคนอื่นๆชวนดูหนังหรือชวนกินข้าวเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณไม่ค่อยจะได้อยู่กับทุกคนครบขนาดนี้ เช้าตื่นมาก็ไม่เจอใครเลยพอออกไปทำงานกลับมาก็เจอกันแค่ไม่นานแล้วพวกเขาก็เข้านอน
คนที่คุณอยู่ด้วยบ่อยที่สุดก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ......คนที่คอยจ่ายค่าข้าวให้ คนที่คอยเขวี้ยงหมอนใส่คุณทุกเช้า คนที่คอยไปรับไปส่งที่ทำงาน คนที่เอาแต่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนคุณทั้งๆที่มันไม่ได้มีอะไรเลย
รักผู้ชายคนนี้จัง........และไม่เคยคิดจะเลิกรักด้วย แต่เขาคงไม่รู้หรอก
"กียอนนนนนนนน!!!"
"คะ!??? อะไรๆๆ??!"
"เหม่ออะไรอยู่ ฉันเรียกเธอเป็นรอบที่ล้านแล้ว"คนตัวสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับง้างหมอนสีชมพูแอ๊บแบ๊วลายน่ารักเตรียมจะปาใส่คุณในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าแต่แล้วเขาก็ตัดสินใจวางมันลง รองเท้ารอบตัวเขาตอนนี้หายไปจนเกลี้ยง
"มีอะไรคะโอปป้า"
"ฉันบอกว่ามือถือเธอมันดัง รีบรับซักทีสิ"
คุณหันสายหันขวาเพื่อหาที่มาของเสียงก่อนจะคว้ามือถือที่กำลังร้องเพลงและสั่นครืดๆอยู่ใต้หมอนขึ้นมาดู
'Jonghyun'
คุณกดรับอย่างไม่ลังเล
"บ่ายสามไม่ใช่เหรอ?"
"(เธอพร้อมจะออกมาเลยมั้ย คือตอนบ่ายสามฉันไม่ว่าง ทางค่ายxxนัดฉันไปคุยเรื่องงานพอดี)"
"อ้ออออออ...นายกำลังจะเป็นศิลปินนี่นา"
"(ว่าไง ถ้าเธอโอเคฉันจะเอารถออกไปรับเลย)"
"อื้ม ก็......ว่างอยู่นะ"
"(โอเค งั้นอีกสิบนาทีเจอกัน)"
ตู้ดๆๆๆๆๆๆ.......
คุณเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปยังเจ้าของเรือนผมสีหม่นที่ยืนบิดขี้เกียจอยู่ข้างๆเคาท์เตอร์ในครัว
"โอปป้า เราออกไปรอจงฮยอนข้างนอกกันดีกว่า"คุณเดินไปจับแขนเขาก่อนจะกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
"เมื่อกี้หมอนั่นโทรมาเหรอ?"
"อื้ม"
"ฮยองงงงง~ เดี๋ยวผมพากียอนออกไปซื้อยาข้างนอกหน่อยนะครับ เมื่อกี้ยัยนี่บอกผมว่าท้องเสีย"
คุณสะดุ้งโหยงกับคำโกหกคำโตที่ออกจากปากคนข้างๆจนคุณต้องสะบัดสายตาไปมองเขาด้วยสายตาค้อนๆและแน่นอนว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือยิ้มเล็กๆมุมปากด้วยความสะใจจากคนข้างๆ
"ฮ่าๆๆๆๆ กระซิบกระซาบกันอย่างกับอะไรน่าอาย ไปสิไป แล้วรีบๆกลับมาล่ะ"
คุณและเซโล่เดินออกมาจากห้องเพื่อมารอจงฮยอนที่ด้านหลังตึกตามที่เคยนัดกันไว้ เซโล่หยิบฮู้ดลายทหารสวมทับเสื้อที่เขาใส่อยู่ก่อนจะสวมหมวกสีน้ำเงินส้มที่เขาเพิ่งซื้อมาและแน่นอนว่าคุณก็ต้องใส่ผ้าปิดปากของเขาเหมือนเดิม
คุณและเซโล่ยืนรออยู่ไม่ถึงสิบนาที รถออดี้สีเขม่าก็มาจอดเทียบริมฟุตบาทก่อนที่เจ้าของรถจะลงกระจกมามองคุณสองคน แว่นกันแดดสีเข้มรับกับใบหน้าขาวคมของจงฮยอนเป็นอย่างดี ดูเหมือนผมของเขาจะถูกจัดทรงใหม่และย้อมเป็นสีน้ำตาลเฮเซลทำให้ดีกรีความหล่อแบดบอยของเขาเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เสื้อเชิ้ตสีดำที่ถูกพับแขนขึ้นถึงศอกทำให้เห็นท่อนแขนขาวและนาฬิการาคาแพง
คุณทำท่าจะเดินขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งข้างๆกับจงฮยอนแต่แล้วก็โดนมือใหญ่ดึงเอาไว้ก่อน เซโล่เปิดประตูออดี้ด้านหลังแล้วยัดคุณลงไปก่อนที่เขาจะเดินไปเปิดประตูและนั่งข้างคนขับแทน
รอยยิ้มแบบนั้นมันอะไรกันน่ะ สองคนนั้นยิ้มให้กันด้วยรอยยิ้มที่ชวนขนลุก ขนาดคุณเองที่นั่งดูอยู่ด้านหลังยังรู้สึกถึงแรงอาฆาตที่แผ่รังสีออกมารอบตัวของพวกเขา คุณรับรู้ตลอดเวลาว่าจงฮยอนแอบมองคุณผ่านกระจกมองหลังอยู่หลายครั้ง เดาไม่ออกเลยจริงๆว่าแววตาคมภายใตแว่นกันแดดจะเป็นอย่างไร
"ฉันนึกแล้วว่านายต้องมาด้วย"
"กียอนขอให้ฉันมา"
"นายจะไม่เรียกฉันว่าฮยองหน่อยเหรอ ฉันแก่กว่านายสามปีเลยนะ"
"ไม่ล่ะ ฉันคงจะกระดากปากแย่ นายก็คงขนลุกเหมือนกันแหละน่า"
บทสนทนาระหว่างผู้ชายสองคนด้านหน้าทำให้คุณรู้สึกอึดอัดขึ้นเป็นทวีคูณ แอร์เย็นๆจากรถออดี้กระทบกับขาอ่อนคุณเป็นระยะๆจนคุณต้องขยับมานั่งด้านหลังเบาะคนขับแทน จริงๆแล้วคุณแค่ต้องการอยู่ให้พ้นรัศมีการมองเห็นของจงฮยอนเท่านั้นเอง จงฮยอน....นายหล่อมากๆเลยนะ แต่ฉันยังไม่ชินกับสายตาแบบนั้นของนายจริงๆ
ไม่ถึงสิบนาทีรถออดี้ก็จอดเทียบกับหน้าร้าน คุณ เซโล่และจงฮยอนลงจากรถพร้อมๆกัน จงฮยอนเดินนำหน้าคุณและเซโล่ไปยังที่นั่งด้านหลังร้านที่มีต้นไม้ห้อยอยู่เต็มระแนงบังแดด เพลงเบาๆเปิดคลอไปตามกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟและคาราเมลที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
เซโล่ลากเก้าอี้ออกจากใต้โต๊ะก่อนจะกดไหล่คุณให้นั่งลงก่อนที่เขาจะนั่งลงข้างๆ
"กินอะไรหน่อยมั้ย"จงฮยอนถอดแว่นกันแดดวางลงบนโต๊ะก่อนที่จะนั่งลงตรงข้ามคุณและเซโล่
"ไม่ล่ะ นายมีเรื่องอะไรจะคุยก็รีบๆพูดมาเลย"
"หะๆๆๆๆ โอเคๆ"เขาฝืนหัวเราะเฝื่อนๆก่อนที่จะล้วงมือลงไปหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อออกมา เขามองสิ่งที่อยู่ในมือสองสามวินาทีก่อนจะวางมันลงตรงหน้าคุณ
คุณมองสิ่งที่อยู่บนโต๊ะด้วยแววตาสงสัยก่อนที่สมองจะประมวลผลและบอกคุณว่ามันคืออะไร
สิ่งที่อยู่บนโต๊ะทำเอาคุณต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ คุณรีบคว้ามันขึ้นมาดูใกล้ๆให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด
พ่อ!!!!!!!!!!
รูปผู้ชายวัยกลางคนในมือทำให้คุณเหงื่อแตกพลั่ก ใจหนึ่งก็ดีใจแต่ใจหนึ่งก็รู้สึกตกใจ คุณรับรู้ได้ว่ามือตัวเองสั่นเกินจะควบคุมจึงวางรูปกลับไปบนโต๊ะ
ดูเหมือนจุนฮงโอปป้าจะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"น......นายเอามาจากไหน"
"กียอน......เธอฟังฉันให้ดีๆนะ ตอนนี้พ่อเธออยู่ที่บ้านฉัน"
"!!!!!!!!!!"
"เขาบอกให้ฉันช่วยตามหาเธอให้เจอ เขาดูเป็นห่วงเธอมากจนไม่เป็นอันกินอันนอน เธอต้องกลับไปนะกียอน"
คำพูดทุกคำพูดที่ออกมาจากปากคนตรงหน้าทำให้คุณรู้สึกราวกับโดนของแข็งทุบลงตรงกลางกบาล มันทั้งรู้สึกเจ็บและมึนจนเรียบเรียงความคิดในหัวไม่ถูก
"ยังมีอีกเรื่องที่ฉันไม่ได้บอกเธอ"
".........."
"ฉัน..........เป็นคู่หมั้นของเธอ"
"อะไรนะ!!!!"จุนฮงโอปป้าที่นั่งเงียบอยู่นานโพล่งลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางตกใจ เหงื่อเม็ดเล็กเกาะพราวที่ขมับขวา ใบหน้าคมที่เคยดูสดใสบัดนี้ซีดเผือดขึ้นทันตา
"ฉันไม่ได้โกหก"
"กียอน!!! เธออธิบายทุกอย่างให้ฉันฟังที คู่หมั้นอะไรทำไมฉันไม่รู้"คนตัวสูงเขย่าไหล่คุณไปมาพร้อมกับยิงคำถามมากมาย คุณรู้สึกว่าทั้งตัวสั่นไปหมดไม่รู้จะตอบว่าอะไร ความคิดและคำตอบมากมายในหัวตีรวนกันจนคุณต้องกุมขมับตัวเองและคิดตัดสินใจทุกอย่าง
ถึงเวลาแล้วจริงๆใช่มั้ย? วันที่คุณไม่อยากให้มาถึง วันที่คุณต้องกลับไปที่ๆเคยมาแล้วลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ให้หมด ลืมว่าเคยได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนในโปสเตอร์ที่คุณหลงใหลมานาน คนที่เข้ามาทำให้คุณรักจนยากจะถอนตัว ต่อจากนี้ทุกอย่างมันก็เป็นเหมือนความฝันที่พอตื่นขึ้นมามันก็สลายหายไป เด็กผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำกับผู้ชายที่เป็นดาวเจิดจรัสบนฟ้าสุดท้ายมันก็มีแค่ในนิยายจริงๆ
ไม่!!.....ฉันอยากอยู่ที่นี่!
ความคิดเห็นแก่ตัวและความถูกต้องตีกันมั่วไปหมดจนคุณได้แต่ตะโกนกู่ร้องห้ามความคิดของตัวเองอยู่ในใจ
"โอปป้า.........พ่อ........."
คนตัวสูงค่อยๆนั่งลงอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมาเว้นเสียแต่ความเงียบงัน ภายในใจของเซโล่ก็ไม่ต่างอะไรกับคุณ เขาอยากจะกระชากคอเสื้อผู้ชายตรงหน้าเพื่อบีบบังคับให้เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ชัดเจนแต่เขาไม่สามารถทำได้ เขารับรู้แล้วว่าการที่ต้องนั่งเฉยทั้งๆที่ในใจแทบลุกเป็นไฟมันทรมาณราวกับกำลังจะโดนเผาทั้งเป็น
"เธอควรจะกลับไปหาพ่อ........"เซโล่กัดริมฝีปากล่างแน่นก่อนจะตัดสินใจพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจเขาโดยสิ้นเชิง
คุณสะบัดหน้าไปมองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
"เธอคงต้องกลับบ้านจริงๆ"เขาพูดต่อไป ไม่แม้แต่จะหันหน้ามาสบตาคุณแม้แต่น้อย เขากำมือแน่นบนตัก สายตาที่ก้มต่ำช่างดูว่างเปล่าและเคว้งคว้างไม่ต่างกับคุณ ริมฝีปากแดงที่คุณเคยสัมผัสเม้มแน่นก่อนจะคลายออกจากกัน
"แต่ฉัน......."
"เธอต้องกลับไปหาคนที่รักเธอ กลับไปยังที่ๆเป็นบ้านของเธอ กลับไปหาเพื่อนและครอบครัว......ไม่ใช่อยู่ที่นี่....."ประโยคหลังเบาลงราวกับกำลังจะกลืนหายไปในอากาศแต่ก็ยังดังพอที่คุณจะได้ยิน
น้ำเสียงและท่าทางจริงจังของคนตรงหน้าทำให้คุณรู้สึกร้อนผ่าวที่ตาเหมือนน้ำใสๆกำลังจะทะลักออกมา แววตาของคนตรงหน้าสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัดแต่เขากลับควบคุมน้ำเสียงได้ดีเยี่ยมจนคุณตกใจ
รู้สึกเหมือนมีมีดที่มองไม่เห็นพุ่งมาปักลงกลางใจจนเจ็บและจุกไปหมด รู้สึกราวกับทุกอย่างพังทะลายลงตรงหน้าไม่เหลือชิ้นดี
"โอปป้าอยากให้ฉันไปขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"คำถามจากก้นบึ้งหัวใจคุณหลุดออกมาจากปากโดยที่ควบคุมไม่ได้ ความเสียใจและน้อยใจผสมปนเปกันไปหมดจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
เสียงความคิดตัวเองดังกึกก้องอยู่ในหัวจนอยากจะกรี๊ดดังๆ
'เขาไม่ได้รักเธอหรอก ผู้หญิงธรรมดาๆแบบเธอเขาแทบไม่อยากจะชายตามองด้วยซ้ำ อย่าลืมสิว่าที่เธอได้มาอยู่ที่นี่เพราะอะไรถ้าไม่ใช่ความสงสารและความสมเพช!"
'เขาคงอยากจะให้เธอออกไปจนแทบบ้าตายอยู่แล้ว เธออยู่ไปก็มีแต่จะสร้างภาระ'
'แล้วที่เขาจูบฉันล่ะเพราะอะไร ใครก็ได้ตอบฉันที!'
"ไม่.........ไม่ใช่แบบนั้น......เธอกลับบ้านเธอไปเถอะ"
"............"คุณรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก ใจเจ็บเกินจะอ้าปากพูดออกมาเป็นคำๆได้ หลายๆสิ่งที่คุณอยากจะพูดบัดนี้แม้แต่จะอ้าปากยังทำไม่ได้เลย นัยน์ตาเคลอไปด้วยม่านน้ำตาจนภาพตรงหน้าคุณเริ่มเลือนราง
"จงฮยอน....."จุนฮงโอปป้าเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
จงฮยอนสบตาเขานิ่งโดยที่ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป จุนฮงโอปป้าเม้มปากอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจพูด
"พรุ่งนี้เช้า..........นายมารับกียอนกลับไปได้เลย"
น้ำใสๆที่คุณสะกดไว้บัดนี้ไหลทะลักออกมาอาบแก้มอย่างห้ามไม่ได้ คุณพยายามเงยหน้ามองฟ้าแต่น้ำตาก็ยังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย คุณก้มหน้าฟุบลงกับมือของตัวเอง น้ำตาอุ่นๆไหลลงบนมือก่อนจะหยดลงบนขาอ่อน ความพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นทำให้คุณปวดไปทั้งกายและใจ
ฮือออออออออ.....หยุด......หยุดพูดซักที!
หัวใจตอนนี้เจ็บปวดมากที่สุด......ถ้าทั้งหมดนี่มันเป็นความฝันจริงๆ ฉันขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม...
"พายัยนี่กลับไปหาพ่อซะ"
ภาพด้านหน้ามืดมัวมองไม่เห็นอะไรเว้นแต่เสียงของคนที่คุณรักกำลังพูดในสิ่งที่คุณไม่อยากได้ยิน
"แต่ฉันขอ.......แค่คืนนี้คืนเดียว"
".................."
"ขอให้ฉัน........."
"................"
"ได้อยู่กับคนที่ฉันรัก หวังว่านายคงจะไม่ขัดขืน....."
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น