ตอนที่ 12 : Open world 10 : "Come back home" 100%
#ฟิคSweetieMB
ยังไม่ตรวจแก้คำผิดค่ะ
“พี่มาร์คน้องแบมอยากกินอันนี้” คนตัวเล็กชี้นิ้วไปยังกองผลไม้หลากชนิดที่พวกเจบีซื้อมากองไว้ให้ ใช่แล้วครับตอนนี้เด็กแก้มป่องฟื้นแล้ว ก็ตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ ตอนนี้ผมเลยอาสาเป็นคนดูแลแบมแบมให้เพราะพวกเจบีมีเรียน ส่วนป๊ากับม๊าแบมแบมก็ไปเคลียร์ธุระที่โซล เมื่อวานที่ป๊ากับม๊าแบมแบมมาเห็นสภาพลูกชายที่พวกท่านเฝ้าถนุถนอมก็ถึงกับร้องไห้โฮ ถึงป๊าม๊าแบมแบมจะไม่ได้โทษผม แต่ผมก็รู้สึกผิดอยู่ดี เฮ้อ //ถอนหายใจแรง
“กินชีสเค้กไปเมื่อกี๊ยังไม่อิ่มอีกหรอ” เด็กแก้มป่องยู่ปากเบินๆใส่ผมเหมือนงอน แต่หัวทุยๆนั่นกลับเอนมาซบที่ไหล่ผม ขี้อ้อนจริงๆ
ผมปอกเปลือกแอปเปิ้ลและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆให้เด็กขี้อ้อน แบมแบมตาลุกวาวทันทีมือบางข้างที่ไม่ได้เจาะสายน้ำเกลือก็เอื้อมมาหยิบแอปเปิ้ลไปสองสามชิ้น
เพี๊ยะ!
“กินทีละชิ้น” ผมตีมือเด็กนั่นเบาๆเป็นการลงโทษ ใครเค้าให้ยัดแอปเปิ้ลทีละสามชิ้นกัน
“แฮะๆ” แบมแบมหัวเราะแห้งๆแล้ววางแอปเปิ้ลสองชิ้นไว้บนจานข้างโซฟาดังเดิม แล้วยัดแอปเปิ้ลอีกชิ้นเข้าปาก แก้มบวมเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย รอยช้ำที่มุมปากไม่เป็นอุปสรรค์ในการกินเลยจริงๆ ไวเท่าความคิดผมเอื้อมมือไปลูบแก้มเด็กนั่นเบาๆ ตากลมโตที่มองแต่อาหารเบนกลับมาโฟกัสที่ใบหน้าของผมแทน
ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงจางๆ เขินเป็นด้วยหรอไง แบมแบมก้มหน้างุดแล้วเอนหัวมาซบที่อกของผม มีใครเขินแล้วทำแบบนี้บ้างครับ มาร์คอยากจะถาม
ไอ้เด็กชอบฉวยโอกาส
“พี่มาร์คพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมน้องแบมอีกมั๊ยฮะ” ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดที่อกแกร่งตามจังหวะเข้าออกของการหายใจ ตามด้วยเสียงสูดจมูกอีกสองสามที เป็นหวัดหรอแบมแบมหรืออะไร?
“ติดธุระ” มือหนาลูบศีรษะเล็กของเด็กที่ซุกอยู่ในอ้อมอกเบาๆ
“ธุระอะไรอ่ะ มาหาน้องแบมก่อนไม่ได้หรอฮะ” เด็กแก้มย้วยช้อนตาขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าหมาหงอย นี่แหละท่าไม้ตาย ฮะๆ
“ต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ขาดมาหลายวันละ เดี๋ยวโดนไล่ออก” ผมผลักหัวเล็กนั่นเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว อ้อนอีกละไม่หลงกลหรอกนะมนุษย์แบมแบม
เด็กน้อยเบะปากทันทีที่ผมพูดจบ อยากจะบิดปากเบินๆนั่นจริงๆถ้าไม่ติดว่าแบมแบมป่วยอยู่ผมคงทำไปแล้ว แบมแบมเอนตัวมาซุกที่อกผมเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเอามือมากอดเอวผมไว้ด้วย เสียงสูดจมูกดังขึ้นอีกสองสามครั้ง เป็นหวัด?
“เป็นหวัดหรอ หรือหายใจไม่ออก” ผมก้มหัวไปถามเด็กน้อยเบาๆ แบมแบมสูดจมูกอีกสองสามครั้งแล้วก็เอาหน้าถูไถไปมาที่แผงอกของผมอีกครั้ง จั๊กจี้ดีแฮะ
“เปล่าฮะ น้องแบมแค่อยากดมเสื้อพี่มาร์คเฉยๆ พี่มาร์คฮะน้องแบมง่วงแล้วอะ” เด็กน้อยพูดอู้อี้ทั้งที่ยังไม่ยอมเอาหน้าออกไปจากแผงอกแกร่งของผม
“งั้นก็ไปนอนบนเตียงดีๆ” ผมจูงมือแบมแบมไปส่งที่เตียง เด็กน้อยนอนลงอย่างว่าง่ายไม่งอแงเหมือนทุกครั้ง สงสัยจะง่วงมากจริงๆ
ผมจัดการห่มผ้าให้แบมแบมที่จ้องผมตาแป๋ว มือหนาเอื้อมไปลูบหัวเป็นการกล่อมแต่เด็กน้อยก็คว้ามือผมเอาไว้ ตากลมโตเป็นประกายวิบวับเวลาจ้องมองมาที่ผม ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเจ้าตัวเล็กต้องการอะไร
“พี่มาร์คนอนกับน้องแบมนะ ก็…ก็พรุ่งนี้เราก็ไม่ได้เจอกันตั้งวันนึง วันนี้น้องแบมเลยอยากให้พี่มาร์คกอดน้องแบม” เด็กน้อยเสตาไปทางอื่น ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย ตัวเองเป็นคนพูดเองก็อายเองนะคนเรา ฮ่าๆ ผมทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆแบมแบมซึ่งเตียงมันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรจึงทำให้ตัวแบมแบมเกยขึ้นมาบนตัวผมเล็กน้อย ผมเอื้อมมือไปกอดคนตัวเล็กหลวมๆเจ้าตัวจะได้ไม่อึดอัด คนตัวเล็กเอนหัวมาซบที่อกของผมอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ
“ถ้าป๊าม๊ากลับมาเห็น พวกท่านจะไม่ตกใจหรอที่เห็นลูกตัวเองนอนกอดผู้ชายแบบนี้” ผมกระซิบหยอกล้อคนในอ้อมกอดเบาๆ แอบสูดความหอมจากกายเล็กนั่นด้วยนิดหน่อยพอกรุบกริบ
“ไม่ตกใจหรอก น้องแบมเล่าเรื่องพี่มาร์คให้คุณม๊าคุณป๊าฟังออกบ่อย แล้วน้องแบมก็บอกคุณป๊าคุณม๊าแล้วด้วยว่าน้องแบมน่ะชอบอ้อมกอดของพี่มาร์คที่สุดเลย เวลากอดพี่มาร์คมันทำให้น้องแบมคิดถึงคุณป๊ากับคุณม๊า เพราะกอดของพี่มาร์คอบอุ่นที่สุด งื้อออออออ น้องแบมจะนอนแล้ว!” ฮะๆ ผมได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ เด็กอะไรพูดเองก็เขินเอง ผมกดจมูกลงที่ศีรษะเล็กเบาๆแล้วก้มลงกระซิบข้างใบหูขาวที่ขึ้นสีแดงก่ำ
“ฝันดีครับ”
หลังจากนั้นประมาณ 30 นาทีพวกเจบี จินยอง แจ็คสัน พร้อมทั้งยูคยอมยองแจก็มาหาเด็กขี้อ้อนพร้อมทั้งขนมเต็มไม้เต็มมือ ยูคยอมเป็นคนเดินมาที่เตียงคนแรก เจ้าเด็กนั่นส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ก่อนจะเบี่ยงตัวไปนั่งที่โซฟา แต่พอไอ้บีมาเห็นผมนอนกอดแบมแบมนี่สิ หน้านี่ตึงเลยครับมันแทบจะมากระชากตัวผมออกจากเตียง
โชคดีที่จินยองมันปรามไว้ก่อน ไอ้คนขี้หวง ผมจึงบอกลาพวกมันแล้วกลับคอนโดไปเตรียมตัวสำหรับธุระวันพรุ่งนี้ ผมจะต้องไปจัดการเรื่องแบมแบมจนแน่ใจเสียก่อนว่ามันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมไม่มีทางลดหย่อนแน่ถึงไอ้นั่นมันจะเป็นลูกเมียพ่อ แต่ก็ไม่ใช่น้องผม ผมไม่จำเป็นต้องแคร์
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ Los Angeles
“มาร์คทานนี่สิ ของโปรดมาร์คนี่ดี๊จำได้” อาหารน่าทานโดนตักวางบนจานของร่างสูงที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง
“นั่นมันนานมาแล้ว ตอนนี้ผมไม่ชอบมันแล้ว” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบแต่รูปประโยคกลับดูตัดพ้อทั้งแววตาที่แอบเศร้าในสีหน้าเย็นชานั่นอีก
“อ่าวหรอ งั้นลองอันนี้มั๊ยดี๊ว่ามาร์คต้องชอบแน่ๆ” ร่างหนาของชายวัยกลางคนพยายามตักอาหารหลากหลายอย่างใส่จานคนตัวสูง แต่มาร์คก็ไม่มีทีท่าจะตักมันเข้าปากเลยแม้แต่คำเดียว
“พูดเรื่องของเราเถอะครับ เรื่องที่ซูจินก่อปัญหาไว้คุณจะจัดการยังไง” มาร์คจ้องใบหน้าของผู้เป็นพ่อนิ่ง ท่าทางเย็นชาและห่างเหินช่างเป็นอะไรที่บีบหัวใจของปาร์คจินยองยิ่งนัก มาร์คคนเดิมของเขาจะไม่กลับมาแล้วจริงๆหรอ
“ดี๊จะจัดการให้มาร์คไม่ต้องห่วงนะ” แต่ปาร์คจินยองก็ข่มอารมณ์ความเสียใจเอาไว้ เขาส่งรอยยิ้มใจดีไปให้ลูกชายอีกครั้ง มือหยาบเอื้อมไปลูบหลังมือมาร์คเบาๆด้วยความอ่อนโยน มาร์คชักมือออกจากเกาะกุมแล้วกอดอกมองใบหน้าของผู้เป็นพ่อ
“จัดการหรอ คุณพูดแบบนี้กี่ครั้งแล้ว กี่เรื่องที่คุณบอกว่าจะจัดการแต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นแบบเดิมซ้ำๆ” ร่างสูงพูดไปด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เขาเสหน้าไปทางอื่นด้วยดวงตาแดงก่ำ ประโยคที่แอบแฝงไปถึงเรื่องอื่นๆทำให้ปาร์คจินยองสะอึกไม่น้อย
“ดี๊ขอโทษ” ขอโทษที่ทิ้งมาร์คให้โดดเดี่ยว ดี๊ขอโทษ เป็นสิ่งที่เขาคิดในใจเท่านั้น เพราะหากพูดออกไปลูกชายต้องต่อต้านเขาอีกเป็นแน่ มาร์คไม่เคยจะคุยกับเขาดีๆตั้งแต่วันที่เขาขอหย่ากับแม่ของมาร์ค
“ซูจินต้องเข้าสถานบำบัด BH ที่แอลเอจนกว่าจะหายเป็นปกติและห้ามไปเหยียบเกาหลีเป็นเวลา 10 ปี” น้ำเสียงหนักแน่นกับใบหน้าที่จ้องมองผู้เป็นพ่อ จินยองก็รับรู้ได้เลยว่ามาร์คทำตามอย่างที่พูดแน่ๆ ผมค่อนข้างจะลำบากใจไม่ใช่ไม่อยากให้ซูจินหายจากอาการป่วยทางจิต
แต่สถาน BH ไม่ได้เป็นเพียงสถานบำบัดทางจิตอย่างเดียว แต่เป็นสถานที่ที่เคร่งคัดและมีระเบียบ และฝึกให้ผู้ป่วยเข้มแข็งดูๆแล้วมันก็น่าจะดีอยู่หรอก แต่ที่นี่โหดมากเหมือนกับเป็นสถานที่นักโทษอะไรประมาณนั้น ซึ่งผมไม่อยากจะให้ซูจินต้องทรมาน
“ถ้าคุณไม่ตกลงตามที่ผมขอ เราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก…” ไม่ต้องคุยกันอีกของมาร์คไม่รู้ว่านานแค่ไหน อาจจะตลอดไปเลยก็ได้ ปาร์คจินยองได้แต่ถอนหายใจหนักอย่างอยากจะระบาย
“โอเคดี๊ยอมแล้ว ดี๊จะให้น้องเข้าบำบัดที่ BH ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย”
“ขอบคุณครับ งั้นผมกลับละ” ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่มือหยาบก็เอื้อมมาจับที่ข้อมือคนตัวสูงนั่นไว้ก่อน
“อยู่ต่อสักสองสามวันสิ มาร์คไปอยู่เกาหลีตั้งนานไม่คิดถึงบ้านบ้างหรอ” จินยองพยายามหลอกล่อลูกชายให้อยู่ต่อกับตน เพราะเขาเพิ่งจะทำธุรกิจใหม่ที่นี่จึงยังไม่เรียบร้อยนัก เขาจึงไม่ได้กลับเกาหลีอีกหลายเดือน และกว่าจะเจอลูกชายแต่ละทีก็ยากซะเหลือเกิน
มาร์คถอนหายใจเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับผู้เป็นพ่อเนือยๆ อยู่สักสองสามวันคงไม่เป็นไรเพราะมาร์คก็คิดถึงที่นี่เหมือนกัน
ร่างเล็กพลิกตัวไปมาบนเตียงด้วยความกระวนกระวายใจ ก็จะไม่ให้น้องแบมกระวนกระวายได้ยังไงล่ะฮะ ก็พี่มาร์คของน้องแบมน่ะสิหายไปทำงานจนลืมน้องแบมแล้วเนี่ย ไม่มาเยี่ยมน้องแบมสองวันแล้ว ทั้งงอนทั้งหงุดหงิด ข้าวปลาน้องแบมก็กินไม่ค่อยลงน้องแบมกินได้แต่ขนมเพราะมัวแต่คิดถึงพี่มาร์ค เห้อออ น้องแบมต้องผอมโซแน่ๆเลยตอนนี้น่ะ พี่มาร์คนะพี่มาร์คทำไมไม่มาหาน้องแบมห๊ะ!
“เป็นอะไรคะน้องแบมหน้าบึ้งเชียว” คุณม๊าพับนิตยสารแฟชั่นไว้ที่โซฟาแล้วเดินมาหาเด็กน้อยที่หน้าบูดบึ้งเหมือนคนท้องผูก
“คุณม๊า พี่มาร์คไม่มาเยี่ยมน้องแบมสองวันแล้ว น้องแบมคิดถึงพี่มาร์คอะคุณม๊าโทรหาพี่มาร์คให้น้องแบมหน่อยสิฮะ โทรศัพท์น้องแบมหายตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้ว” เด็กน้อยพูดเจื้อยแจ้วทั้งเบะปากแสดงอาการเอาแต่ใจอีกด้วย
“พี่มาร์คเค้าอาจจะมีธุระเลยไม่ได้มาหา น้องแบมไม่งอแงสิคะ” คุณม๊าลูบหัวเด็กน้อยด้วยความอ่อนโยน
“แต่พรุ่งนี้น้องแบมก็ต้องกลับไทยแล้ว น้องแบมอยากเจอพี่มาร์คนี่ฮะ” เด็กน้อยก้มหน้างุดแทบชิดอก ถ้าน้องแบมกลับไทยแล้วก็ไม่รู้จะได้เจอพี่มาร์คอีกตอนไหน น้องแบมต้องคิดถึงพี่มาร์คมากแน่ๆเลย
“เดี๋ยวก็ได้เจอเองนั่นแหละ ติดพี่มาร์คมากกว่าพี่ใหญ่อีกนะเรา ไม่กลัวพี่ใหญ่น้อยใจหรอคะ” คุณม๊าเอ่ยแซวลูกน้อยและเสตาไปมองลูกชายคนโตที่กำลังติวหนังสือกันกับจินยองอีกฟากห้อง
“พี่ใหญ่ก็ติดพี่จินยองมากกว่าน้องแบมเหมือนกันฮะคุณม๊า คิกคิก” แบมแบมหัวเราะคิกคักเป็นจังหวะที่ยูคยอมกับยองแจและแจ็คสันมาหาแบมแบมพอดี ซึ่งในมือนั้นต้องมีขนมและผลไม้อย่างแน่นอน ก็คนป่วยนี่สิอยากกินนั่นกินนี่ ปกติคนป่วยเค้าจะกินอะไรไม่ค่อยลงใช่มั๊ยล่ะ แต่กับแบมแบมนี่ยิ่งป่วยยิ่งกินจุไปอีก
“งั้นคุณม๊าขอไปจัดการธุระก่อนนะคะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะน้องแบม จุ๊บ” คุณม๊าก้มลงจูบขมับบางลูกรักเบาๆก่อนจะบอกลาเด็กๆแล้วออกจากห้องไป
พี่มาร์คจะไม่มาหาน้องแบมจริงๆหรอพรุ่งนี้น้องแบมก็กลับไทยแล้วนะ ถามใครก็มีแต่คนบอกว่าไปทำงานพาร์ทไทม์ ทำงานพาร์ทไทม์ถึงวันไหนกันล่ะ ทำจนลืมน้องแบมเลยหรอ คิดถึงพี่มาร์คอะ อยากกอดจะแย่ งือออออออออ
“พี่ใหญ่อย่าลืมบอกพี่มาร์คนะว่าน้องแบมจะกลับไทยพรุ่งนี้อะ”
“ได้ครับ ถ้าเจอมันเดี๋ยวพี่จะบอกให้นะครับน้องเล็ก” แจบอมยิ้มกริ่มแล้วเดินมาลูบหัวน้องรักเบาๆด้วยความเอ็นดู
“ทำไมพี่ใหญ่ไม่โทรบอกตอนนี้เลยล่ะฮะ” นั่นไงน้ำเสียงงอแงเริ่มนำมาก่อนแล้ว
“พี่ติดต่อมันไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ แต่น้องแบมไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอกเดี๋ยวพี่ใหญ่บอกมันให้นะ” มือหนาลูบหัวเล็กเบาๆให้เด็กน้อยคลายกังวลลง
“น้องแบมไม่อยากกลับไทยเลย น้องแบมต้องคิดถึงทุกคนแน่ๆ” เด็กน้อยเบะปากเตรียมจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เม็ดน้ำคลอดวงตาใสปริ่มๆ
“โอ๋ๆไม่ร้องนะครับเด็กดี ไปแป๊บเดียวเองเดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกอยู่แล้ว ถ้าน้องแบมกลับมานะพี่เนียร์จะทำขนมอร่อยๆให้ทานเลย โอเคมั๊ย” จินยองเดินเข้ามาลูบหัวเด็กน้อยบ้างพลางพูดปลอบใจเด็กขี้งอแงจะได้สบายใจขึ้น
“จริงนะ” เด็กน้อยช้อนตามองจินยองตาแป๋ว น่ารักน่าเอ็นดูเสียจนต้องเอื้อมมือไปบีบแก้มย้วยของเด็กน้อยเบาๆ
“ครับๆ” จูเนียร์ยิ้มหวาน จากนั้นทั้งห้องก็เริ่มพูดคุยกันอย่างเฮฮา หัวเราะเสียงดังกันบ้างจนคุณพยาบาลเข้ามาเตือน ก็รวมกลุ่มกันทีไรมันก็มีเรื่องให้คุยแบบนี้ตลอดเลยนี่นะ
ถ้ามาร์คกลับมาแล้วรู้ว่า แบมแบมกลับไทยไปแล้วจะเป็นยังไง ก็อยากโทรไม่ติดเองนี่นะมาร์คต้วน เมื่อคิดถึงแผนการที่คุยกันไว้กับแจบอมเมื่อครู่ จินยองก็อดที่จะยิ้มกริ่มไม่ได้จริง ใครล่ะจะไม่อยากเห็นคุณชายน้ำแข็งหลุดลุคของตัวเอง ฮ่าๆๆๆ
**Talk Time**
กรี๊ดดดใครไปคอน GTH บ้างคะ งืออออออ กัซหล่อมากดีมากน่ารักมากกกกกกกกกกกก นี่ขนาดเราโซนหน้าคอมยังคลั่งขนาดนี้เลย เห็นรูปเห็นคลิปแล้วจะเป็นลม คือผู้ชายเราดีมากอ่ะ รักกกกก ><
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำไมพ่อมาร์คชื่อปาร์คจินยอง เราอ่านผิดหรอ