คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [★ Fic exo ★ ChanBaek] Ch 15 : Imagine
Love of a friend
Chapter 15:
Imagine
♥ CN Blue-Imagine
ฉันคิดถึงเธอทุกวัน
จินตนาการภาพที่เราอยู่ด้วยกัน
เราจะเป็นอย่างนั้น
ฉันรักเธอนะ
★★★★
. …
“เป็นอะไรไป แบคฮยอนอ่า..” เสียงทุ้มที่ผมชอบฟังดังขึ้นมาทำให้ผมที่กำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต้องหันไปมองที่เจ้าของเสียงอย่างช่วยไม่ได้ แต่แล้วผมก็ต้องอยากจะกลับมานั่งเหม่อต่อ เพราะเรื่องที่ผมกำลังคิด.. มันคือเรื่องของคนที่กำลังส่งยิ้มเจิดจ้ามาให้ผมอยู่ตอนนี้
“เปล่าหรอกน่า.. แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย..” ผมไม่ได้มองหน้าคนที่กำลังยิ้มให้อีกต่อไปแล้ว ยิ่งเห็นรอยยิ้มแบบนั้นใจก็ยิ่งสั่น.. พอใจสั่นทุกสัมผัสของชานยอลก็ไหลเข้ามาราวกับว่าผมจำได้ทุกอย่าง
มันเกือบจะทำให้ผมยิ้มออกมาได้ง่ายๆ ถ้าไม่ติดว่าความรู้สึกดีพวกนี้มันเข้ามาตีกันกับความรู้สึกสับสนข้างในใจ
“อย่ามาหลอกกันให้ยากเลย มีอะไรก็พูดมาเลยสิ แบคฮยอน” ชานยอลเชยคางผมขึ้นให้มองหน้าของตัวเอง
ผมก็อยากจะถาม.. แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน ..
“อย่าเงียบแบบนี้สิ ลูกหมา” ชานยอลทำเสียงอ่อน ก่อนจะมองผมด้วยสายตาเว้าวอน
แล้วผมควรจะเริ่มจากตรงไหน.. ถ้าถามไปแล้วชานยอลไม่ตอบ หรือตอบสิ่งที่ผมไม่อยากได้ยินออกมา.. ผมจะต้องทำหน้าแบบไหนนะ
“หรือว่าแกไม่ชอบที่ฉันทำอะไรแบบนั้นในห้องเรียน” ชานยอลยังคงยิงคำถามมาในณะที่ผมได้แต่นั่งก้มหน้า
“....” อ่า.. ถึงมันจะอายเพื่อนในห้องที่มองมาก็เถอะนะ ไม่สิผมไม่รู้หรอกว่าใครมองพวกเราอยู่บ้างไหม เพราะในวินาทีแบบนั้นผมไม่กล้าพอที่จะมองอะไรต่อมิอะไรหรอก ในสายตาผมมีแค่ชานยอล..
อ่าผมอาย... แต่ผมเคยบอกชานยอลหรอ.. ว่าผมไม่ชอบ
ผมชอบ.. ทุกสัมผัส ทุกอย่างที่เป็นชานยอลนั่นแหละ
“ฉันก็รู้นะว่าแกอายที่เพื่อนๆเอาแต่มองมาที่เราแบบนั้น แต่จะให้ทำไง... เราเป็นแฟนกันนี่ ฉันก็แค่อยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าแบคฮยอนเป็นของปาร์คชานยอลคนนี้เท่านั้น...”
“....”
“ตกลงว่าเรื่องอะไรอ่า แบคฮยอนอ่า” ชานยอลยกมือของผมขึ้นมากุมไว้แล้วบีบมันเบาๆ “หรือว่าแกไม่อยากเป็นแฟนกับฉัน..” ผมเงยหน้าขึ้นมองดวงตาหม่นแสงที่เคยสุกใส ดวงตาที่เคยมีความเชื่อมั่น ตอนนี้มันแทบไม่เหลือ ความไหววูบในดวงตาของชานยอลทำให้ใจผมกระตุก
ผมอยากจะขยับปากพูดอะไรออกมาสักอย่าง เเต่ในตอนนี้ทำไมเหมือนมันหนัก .. ผมพูดออกมาไม่ได้ พูดไม่ออก
“....”
“...” ชานยอลเองก็เงียบไปเช่นกัน ในดวงตาที่ผมกำลังสบตอนนี้มีแต่ความเหนื่อยล้า ผมเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น ถ้าผมเห็นแบบนั้นในดวงตาของชานยอล แล้วชานยอลล่ะ.. เห็นอะไรในดวงตาของผม มองเห็นบ้างไหมความสับสน..
ผมอยากให้ชานยอลบอกผมเอง.. เพราะผมไม่กล้าพอที่จะถาม
“ฉันจะรอนะเว้ย.. ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นอะไร เป็นแบบที่ฉันคิดหรือเปล่า แต่แค่อยากให้รู้ว่าทุกอย่างที่ทำไปเพราะรักแค่นั้น..”
....
“ชะ..ชาน..” เสียงแผ่วเบาดังออกมาจากริมฝีปากที่ขยับไปมาของผม
มันเริ่มจะมีเสียงขึ้นมาแล้ว.. แต่จะมีประโยชน์อะไร เมื่อตอนนี้ร่างสูงโปร่งของชานยอลห่างไปไกลจนลับตาผมแล้ว ชานยอลไปแล้ว ...
“ฉันก็แค่ไม่แน่ใจ.. แต่ฉันไม่กล้าถาม..” ผมพึมพำเบาๆราวกับว่าชานยอลยังคงอยู่ตรงนี้ “ฉันก็แค่.. ทำไมแกต้องพูดเหมือนว่าฉันไม่ได้รักแกล่ะชานยอล..” ผมขบริมฝีปากล่างเอาไว้แน่นจิกเล็บลงไปที่มือของตัวเองราวกับจะลงโทษ .. ใช่ผมสมควรโดนลงโทษ
สมควรโดนลงโทษกับคำว่าไม่กล้าของผม...
แต่ผมกลัวคำตอบจริงๆ ผมกลัวว่าชานยอลจะยิ้มออกมาเมื่อผมพูดถึงเสี่ยวลู่หาน ผมกลัว..
ผมแค่อยากให้รอยยิ้มแบบนั้นเป็นของผมแค่คนเดียว แต่เมื่อกี้.. รอยยิ้มของชานยอลมันก็หายไปเพราะความงี่เง่าของผมเอง ผมได้แต่นั่งจินตานาการภาพของผมกับชานยอล ฉากแล้วฉากเล่าในอนาคตว่ามันจะสดใสแบบไหน ..
แต่มันจะได้เป็นแบบนั้นใช่ไหม?
★★★★
ครั้งแรกที่เจอเธอ ฉันเหมือนตกอยู่ในความฝัน
เพราะรอยยิ้มที่สวยราวกับนางฟ้าของเธอ
ถ้าวันหนึ่งเธอจะมาเป็นคนรักของฉัน
แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
ฉันจะบอกให้เธอรู้....
สองสามสี่ชั่วโมงที่แล้ว
“คยองซูอ่า วันนี้เราออกไปกินข้าวข้างนอกกันไหม” ใบหน้าของคิมจงอินที่ปกติจะไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่ตอนนี้มันกลับมีรอยยิ้มเท่ห์ๆประดับอยู่บนนั้น เพียงเพราะคนที่เค้ากำลังพูดด้วยคือโดคยองซู
แต่ไม่นานรอยยิ้มนั้นก็หายไปพร้อมกับความสงสัยเข้ามาแทนที่ เพราะคนตัวเล็กตรงหน้าเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา แถมยังไม่มองหน้าของเค้าอีก
ไม่มีปฏิกริยาตอบรับจากคยองซู .. .
ถ้าในเวลาปกติมันก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะคยองซูไม่ค่อยกล้ามองหน้าเค้าตรงๆอยู่แล้ว แต่จงอินสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
“นายรู้สึกขาดอะไรบ้างไหม.. ในตอนที่ฉันไม่ได้ดูนายเล่นบอล” อยู่ๆคยองซูที่เอาแต่นั่งเงียบก็พูดขึ้นมาแต่ตาโตๆนั่นกับมองอยู่ที่ปกเสื้อของคู่สนทนาก็เท่านั้น
“หืม..?” คิมจงอินที่ได้ยินคำถามแปลกๆออกมาจากคนตรงหน้าได้แต่มองคยองซูด้วยความสงสัยมากกว่าเดิม
“คุ้กกี้ที่ฉันทำให้ทุกวัน.. นายชอบมันไหมจงอิน”
“ชอบสิ.. อร่อยมากเลยนี่นา” ในสถานการณ์เบบนี้คิมจงอินที่ว่าแน่ยังไม่รู้ ว่าควรทำตัวแบบไหนกับคยองซูจึงตอบคำถามออกไปอย่างต้องการให้คยองซูอารมณ์ดี
“... ฉันไม่รู้ว่านายชอบมันอย่างที่พูดหรือเปล่า.. แต่ที่นายบอกว่าอร่อย.. มันจริงหรอ” ดวงตากลมโตของคนตรงหน้าคลอไปด้วยน้ำตาทำให้คนมองถึงกับไปไม่เป็น ไม่ใช่ว่าเค้าแพ้น้ำตาหรืออะไร แต่มันไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องของคนตัวเล็กตรงหน้า
ทุกเรื่องที่เป็นของคยองซู.. คิมจงอินไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับมันยังไง..
“คยองซู นายเป็นอะไรไป”
“...ฉันไม่รู้หรอกนะ.. ว่าฉันถามนายไปแบบนั้นทำไม” คยองซูถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความน้อยใจหรืออะไรก็ไม่ทราบ ความรู้สึกอยากจะครอบครองจงอินแค่คนเดียวมันเกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ คยองซูรู้ว่าไม่มีสิทธิ คยองซูรู้ รู้ดีว่าจงอินไม่ชอบให้ใครมาผูกมัก .. คยองซูก็มีความสุขดี.. ที่เป็นอยู่แบบนี้
ไม่มีสถานะสำหรับเค้าและจงอิน มันไม่ใช่แค่เพื่อน แก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องคำว่าแฟน.. มันอาจมากกว่านั้น แต่ก็ยังไม่มีใครรู้คำนิยามที่แน่ชัด.. เอาเป็นว่าคยองซูก็โอเคกับมันมาตลอด เค้าไม่ได้สนใจอยู่แล้วเรื่องสถานะ
แต่จงอินจะรู้ไหมว่าคยองซูไม่ชอบ..
“ทั้งๆที่ประเด็นมันมีอยู่แค่ว่า.. ฉันไม่ชอบ.. ทั้งๆที่ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบ ..แต่ก็นะฉันก็ไม่ชอบมันอยู่ดีนั่นแหละ ไม่ว่านายจะไปคุยอะไรกับใคร” คยองซูได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ “แต่อย่ามาทำให้ฉันเห็นไม่ได้หรอ..?”
“..” คิมจงอินมองคยองซูที่พ่นลมหายใจออกมาทางปากครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังคงเงียบ “ฉันรู้ว่านายไม่ชอบการผูกมัด.. อ่า.. ขอเวลาฉันสักหน่อยนะจงอิน.. อย่าพึ่งมาเจอกันสักพักนะ รอให้ฉันเลิกงี่เง่าแบบนี้ได้ก่อน ..” คยองซูเอื้อมมือของตัวเองไปบีบมือของจงอินอีกทีแน่นๆ ไม่รู้ว่าเพื่ออะไรก่อนจะถอนมือออกไป “แล้วฉันจะกลับมาเป็นค.. คยอ.ง ซูคนเดิม”
:::Kim Jongin:::
อือ.. ใช่แล้ว ผมคือคิมจงอิน ก็แค่คิมจงอินนี่แหละ.. ผมไม่มีเวลาแนะนำตัวหรืออะไรมากมายแบบคนอื่นหรอกนะ ผมเซ็งเกินกว่าที่จะทำอะไรแบบนั้นได้ .. ถ้าจะถามว่าเพราะอะไรล่ะก็ผมไม่ตอบหรอก..
แต่ก็บอกได้ไม่อยาก..
บยอนแบคฮยอน ... ไอ้หมาบ้า.. ไอ้ลูกหมาบ้านั่น ..
เอาเป็นว่าที่จริงผมไม่ได้อยากจะบ่นอะไรมากมายหรอก แต่ผมก็อัดอั้นเหมือนกันป่ะ? โอเคว่าคู่ของผมไม่ได้สำคัญเท่าคู่ของคนอื่นไม่ได้เข้าไปเกี่ยวโยงกับความยุ่งเหยิงอะไรมากมาย แต่ก็ช่วยสนใจผมหน่อยเถอะ ตอนนี้คนตัวเล็กงอนผมจนผมไปไม่เป็นแล้วเนี่ย ...
ผมยิ้มออกมาเล็กๆเมื่อคิดถึงจุดเริ่มต้นที่ผมก็ยังคงงงๆ.... ชีวิตของผมในแต่ละวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อ ผมยิ้มออกมาได้บ้างกับกลุ่มเพื่อน แบคฮยอน ชานยอล แล้วก็เซฮุน.. แน่นอนว่านอกจากสามคนนี้น้อยคนที่จะได้เห็นรอยยิ้มของผม แล้วยังมีอีกอย่างที่ผมรักเป็นชีวิตจิตใจ.. ฟุตบอล..
ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ในเกม ได้วิ่งไปทั่วสนามเพื่อไล่ต้อนลูกกลมๆลูกเดียวแย่งกับคนอีกสิบเอ็ดคน ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมือ่ไหร่ที่มีสายตากลมโตคู่หนึ่งมองมาที่ผมตลอด เอาเป้นว่าผมไม่เคยรู้ตัว เรียกง่ายๆก็คือผมไม่ได้สนใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่ได้สบเข้ากับสายตากลมโตคู่นั้น ..
‘จะ.. จงอิน เอ่อ.. ฉันทำคุ้กกี้มาให้’ เสียงหวานใสดังขึ้น พร้อมกับมือเล็กๆขาวๆที่ยื่นกล่องคุ้กกี้มาตรงหน้า ในขณะที่เจ้าของคุ้กกี้ได้แต่ก้มหน้า ผมถอนหายใจเบาๆ เพราะรู้สึกชินชาแล้วกับอะไรแบบนี้ .. คิมจงอินฮอตอยู่แล้วนี่ครับ
‘ขอบใจ..’ ผมรับคุ้กกี้นั่นมาเพื่อเป็นการรักษาน้ำใจของคนตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยของผม ก่อนที่อีกไม่กี่วินาทีใจของผมจะต้องชะงักราวกับจะหยุดเต้น เมื่อคนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมา ทำให้ผมได้พบกับก็รอยยิ้มสดใส.. แล้วก็ดวงตากลมโตคู่นั้น
โด คยองซู
ป้ายชื่อที่หน้าอกเขียนไว้แบบนั้น ..
ตั้งแต่วันนั้น ผมก็มักจะเห็นว่ามีตากลมโตคู่หนึ่งจับจ้องมาที่ผมตลอดเวลาที่ผมอยู่ในสนาม แต่ก็นะถึงผมไม่มองหาอะไรผมก็เจอคนตัวเล็กคนนั้นอยู่แล้ว เพราะตำแหน่งที่คนตัวเล็กบนอัฒจันท์นั่งน่ะมันไม่มีใครนั่งเลย แดดแรงอกขนาดนั้น ไม่ร้อนบ้างหรือไง
ทำไมไม่ห่วงตัวเองบ้างนะ ..
คยองซูก็มักจะทำคุ้กกี้มาให้ผมเสมอ แต่คนตัวเล็กมักจะเอามันไปไว้ที่ใต้โต๊ะเรียนของผมซะมากกว่า ถึงจะไม่มีกระดาษโน้ตอะไรแปะไว้ระบุถึงคนทำ แต่ผมก็รู้ว่าเป็นคยองซูแน่ เพราะคุ้กกี้รสชาติแปลกๆแบบนั้น คงไม่มีร้านไหนทำขายหรอกจริงไหม?
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จากหนึ่งวันกลายเป็นเกือบปีที่คยองซูยังคงทำแบบนั้น ผมเองก็พึ่งะรู้ตัวว่าทุกวันผมอยากจะให้คยองซูมานั่งเชียร์ผมจากที่ไกลๆ ถ้าวันไหนไม่เห็นมันจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง อยากกินคุ้กกี้รสชาติแปลกๆที่มันอร่อยขึ้นทุกวัน.. ทุกวัน ใช่ รสชาติของคุ้กกี้ที่คยองซูทำให้อร่อยขึ้นเรื่อยๆ จนคนทำอาจไม่รู้ตัว อาจเหมือนกับความรู้สึกของผมที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดๆนึง ผมก็ว่าผมเริ่มรู้ใจตัวเองขึ้นมาตงิดๆ
ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มจาก ตอนไหน อาจจะเป็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตา.. หรือวันไหนผมก็ไม่รู้สิ.. รู้แค่ว่าผมไม่รู้ว่าควรเข้าหาคนตัวเล็กยังไงดี ได้แต่ทำหน้านิ่งๆเป็นปกติให้ก็เท่านั้น เพราะเค้าเองก็เอาแต่ทำเหมือนเดิมทุกวันจนผมไม่แน่ใจว่าเค้าคิดยังไงกันแน่จนวันนั้น ..
วันที่ผมเอาแต่มองไปที่คนตัวเล็ก จนเผลอเตะบอลไปทางนั้น.. แล้วใครจะคิดล่ะว่าคิมจงอินคนนี้จะเตะบอลได้แม่นมากมายขนาดนั้น ..
‘ฉะ..ฉันชอบนายนะ..คิมจงอิน’ ใบหน้าน่ารักของคยองซูแดงไปหมดด้วยแรงอัดจาดลูกฟุดบอลที่ผมเป็นคนเตะ แต่ถึงอย่างนั้นแทนที่ผมจะเป็นห่วงอะไรมากมาย ผมกลับนั่งยิ้ม.. เมื่อคนตรงหน้าพูดคำนั้นออกมา คำที่เป็นเหมือนกรรไกรที่ตัดเส้นกั้นบางๆระหว่างเราสองคน
ตั้งแต่ผมได้ยินแบบนั้น.. ผมก็คิดเอาไว้แล้ว ว่าจะไม่ปล่อยให้คนน่ารักตรงหน้าหลุดมือไปอย่างแน่นอน..
เอาเป็นว่ามันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆจนถึงมากมาย กับการที่ต้องไปดูแลคยองซูที่โรงพยาบาล กับการได้แกล้งคนน่ารักเล่นแบบนั้น แก้มนุ่มนิ่ม ตากลมโต ริมฝีปากหวานๆที่ผมได้พิสูจน์มันเองแล้ว.. ผมถอนตัวจากโดคยองซูไม่ขึ้นแล้วล่ะครับ
อือ.. เอาเป็นว่าผมชอบคยองซู ผมชอบนิสัยของคยองซูที่ไม่ได้ต้องการผูกมัดอะไร ไม่ใช่ว่าผมจะเล่นๆกับคยองซูหรอกนะ แต่กับคนอย่างผมคำว่าแฟนน่ะมันดูเหมือนเป็นอะไรที่ค้ำและคล้องคออยู่ตลอดเวลา ราวกับมันคือหน้าที่อะไรสักอย่างที่ผมต้องรับผิดชอบ..
แต่ผมคนนี้คือคิมจงอินนะ ผมไม่พร้อมสำหรับอะไรแบบนั้นป่ะวะ แค่เราทั้งคู่ต่างก็มีความสุขก็พอแล้ว ถึงความรู้สึกของผมที่มีให้คยองซูมันจะมากจนอาจจะเกินหลายๆคนที่ใช้คำว่าแฟนไปแล้ว ผมว่าคยองซูก็ดูโอเคนะกับสถานะแบบนี้ของพวกเรา เราไม่เคยคุยกันเรื่องคำว่าแฟน แต่เราก็อยู่ด้วยกันบ่อยๆในโรงเรียนก็มีความสุขดีอ่ะ
ประมาณนี้แหละมั้ง มันจะเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบเพอร์เฟคมาก ถ้าไม่ติดว่าในวันนั้น ไอ้หมาแบคฮยอนดันลากผมที่กำลังจะเดินไปหาคยองซูมาคุยกันแบบสนิทสนมออกนอกหน้าแล้วมิวายเดินหายไปอีก.. ผมไม่ได้อะไรมาก เพราะคิดว่าคยองซูคงรู้ว่าผมกับแบคฮยอนเป็นเพื่อนกัน แต่จำให้ผมอยู่เฉยได้ยังไง เมื่อรอยยิ้มที่เคยประดับอยู่บนใบหน้าของคยองซูทุกทีมันหายไป..
มันหายไป.. คยองซูเป็นคนดูไม่อยากหรอก.. คยองซูไม่เคยฝืนความรู้สึก ไม่มีความสุขคยองซูก็จะไม่ยิ้ม เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมผมถึงมีความสุขเวลาอยู่กับคยองซูคนนี้
“คยองซูมันออกไปโรงอาหารแล้วล่ะ” คิมจุนมยอน เพื่อนสนิทของคยองซูพูดขึ้นด้วยแววตาที่ออกจะน่ากลัวอยู่นิดหน่อย
“ขอบใจ..” แต่เสียใจด้วยป่ะที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับสายตาแบบนั้นเลย ตอนนี้ที่ผมแคร์มีแค่คยองซูตัวน้อยของผมที่กำลังงอนอยู่ก็เท่านั้น
แม้จะรู้ว่าจุนมยอนไม่ชอบผมแต่เจ้าตัวก็คงรู้ว่าความสุขของคยองซูคืออะไร ถึงได้บอกผมง่ายๆแบบนี้
เหมือนกับผมที่ตอนนี้รู้แล้วจริงๆ ว่าความสุขของผมคืออะไร..
ไม่ใช่การเล่นฟุตบอลหรืออะไร แต่ความสุขของผมเกิดจากคนตาโตๆที่ชื่อโดคยองซูแค่เท่านั้นจริงๆ
แม้ในตอนแรกจะแอบเซ็งถึงขั้นขีดสุดที่จะต้องมาผิดใจกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ก็นะ .. หมดเวลาทำหน้าเซ็งแล้วล่ะครับ.. คยองซูงอนผมก็แค่ง้อ จริงป่ะ
★★★★
:::Luhan:::
ผมไม่รู้หรอก ว่าผมร้องไห้ติดต่อกัมากี่วันแล้ว.. มันอาจจะตั้งแต่วันที่ได้เจอเซฮุนอีกครั้งที่เกาหลี..
ผมไม่รู้.. ว่าผมยิ้มอย่างมีความสุขครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ .. อาจจะตั้งแต่วันที่เซฮุนจากผมไป.. ผมไม่เคยรู้เลยว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร
เพราะสิ่งเหล่านั้น.. ผมมักจะได้มาจากเซฮุน และมันก็ยังคงเป็นแค่เซฮุนจนทุกวันนี้ ..
แค่เซฮุนคนเดียวจริงๆ
ผมไม่เข้าใจ.. ไม่พร้อมจะเข้าใจจริงๆ ว่าเซฮุนจงเกลียดจงชังอะไรผมมากมายขนาดนั้นเลยหรอ.. ถึงได้แกล้งทำร้ายจิตใจผมขนาดนี้ ให้เซฮุนทุบตีทำร้ายร่างกายผมยังดีซะกว่ามาทรมานกันแบบนี้..
เซฮุนอยากจะดึงผมเข้ามาเซฮุนก็ดึง อยากจะผลักผมออกเซฮุนก็ผลัก.. ผมตามไม่ทันหรอกนะ
คนทำไม่รู้หรอกว่าคนโดนกระทำมันรู้สึกแบบไหน..
ผมรู้..รู้ดีแก่ใจเลยล่ะ ว่าเรื่องทั้งหมด ความเจ็บปวดทั้งหมดในวันนี้ที่ผมได้รับ มันเกิดจากตัวผมเองทั้งนั้น ผมเป็นคนเริ่มมันเอง ทั้งๆที่ผมสามารถจบมันได้แต่ผมไม่ทำ .. เพราะผมมันโลเลเอง นี่คงเป็นบทลงโทษ ..
ใช่.. ผมรู้ว่ามันคือบทลงโทษ.. แต่นี่ นี่มันมากเกินแล้วนะ มันมากเกินไป ผมจะทนรับมันไหวได้ยังไง ..
เซฮุน.. ตกลงนายรู้สึกยังไงกันแน่ตอนนี้..
ผมได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มเหมือนทุกครั้ง ไม่มีที่สิ้นสุด.. ความอบอุ่นจากเสื้อผ้าที่สวมอยู่ทำให้รู้ว่าบนตัวของผมมีเสื้อผ้าครบทุกชิ้น.. ต่างจากเมื่อคืนที่ผมจำได้ว่าผมหลับไป.. ทั้งๆที่มีแค่ผ้าห่มคลุมร่างเปลือยเปล่าเอาไว้
อยากจะให้เรื่องเมื่อคืนเป็นแค่ความฝัน... แต่ร่องรอยสีแดงประปรายตามแขนและส่วนที่พ้นเสื้อผ้าออกมาให้ผมปฏิเสธไม่ได้จริงๆ.. ว่าเมื่อคืน.. เซฮุนเกือบจะทำอะไรลงไป..
แล้วผมเอง.. ก็เต็มใจ..
ยิ่งคิดก็ยิ่งอายกับสิ่งที่ตัวเองและเซฮุนได้ทำลงไป.. พลันน้ำตาก็ใหลออกมามากกว่าเดิม เมื่อคำพูดของเซฮุนเมื่อคืนทุกคำ ยังคงทำร้ายจิตใจได้มากมายเสมอ ..
โดยเฉพาะ...
‘คบกับฉันไหม? ฉันจะทำให้แกลืมมันเอง’
หมดหวังแล้วสินะ...
แม้ว่าตอนนี้ใจผมจะรักเซฮุนมากแค่ไหน .. แม่ว่าตอนนี้มันจะยังเอาแต่ร้องเรียกหาเซฮุน..
แต่กับเรื่องแบบนี้ ผมจะไม่ฝืนมันแล้วล่ะ..
ไม่มีประโยชน์เลยสักนิดเดียว...
“คุณหนูคะ คุณเซฮุนให้ป้ามาบอกว่าถ้าคุณหนูจะกลับแล้ว ให้บอกคนขับรถไปส่งได้เลยนะคะ” ป้าแม่บ้านที่เปิดประตูเข้ามาอึ้งเล็กน้อย คงเพราผมนั่งร้องไห้
“ครับ..ขอคุณครับ” ผมปาดน้ำตาของตัวเองลวกๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ
ผมควรจะพอแล้ว.. ถึงเวลาแล้วจริงๆ หวังว่าการที่ผมยอมให้เซฮุนทำทุกอย่างกับผมแบบนี้ จะทำให้ความเกลียดที่มีต่อผมของเซฮุนมันจะลดลงไปบ้างนะ..
ไม่อยากให้เซฮุนเกลียด.. ไม่อยากโดนคนที่ตัวเองรักเกลียด แค่นั้นจริงๆ
ผมหยัดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง.. คงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้มาที่นี่.. ผมพยายามปั้นยิ้มออกมาเมื่อมองเห็นกรอบรูปที่ข้างในมีรูปของเซฮุน.. อย่างน้อย
อย่างน้อยเซฮุนในรูปก็ยิ้มให้ผม.. รอยยิ้มที่ผมไม่ได้เห็นมันนานแล้ว.. รอยยิ้มแบบที่ผมชอบ
....
ลาก่อนเกาหลี.. ลาก่อนโอเซฮุน..
ผมรู้แล้วล่ะว่ามันถึงเวลาที่ผมจะต้องทำใจให้ได้สักที ผมคงต้องกลับจีน..แม้ว่าที่นั่นจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเซฮุนเต็มไปหมด จนจะทำให้ผมลืมเซฮุนไม่ได้.. แต่ใครสนกันล่ะ หืม? เพราะผมไม่ได้คิดที่จะลืมเซฮุน.. ผมลืมไม่ได้หรอก
คงต้องปล่อยให้ภาพความทรงจำดีดีที่เคยมี.. หล่อเลี้ยงหัวใจของผมไป.. แค่นั้นก็พอแล้วล่ะกับคนนิสัยไม่ดีอย่างผม
ผมเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านเซฮุน .. ส่งยิ้มให้คุณป้าแม่บ้านที่ดูแลผมตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ก่อนที่สายตาองผมจะไปสะดุดอยู่กับแผ่นหลังของใครสักคนที่ผมคุ้นเคย..
“พะ.. พี่คริส..”
TBC
★★★★
:Shalunla)
ความคิดเห็น