ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้วว} [★ Fic exo ★ ChanBaek]Love of a friend (ft.HH KD)

    ลำดับตอนที่ #16 : [★ Fic exo ★ ChanBaek] Ch 15 : Imagine

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 57


    Love of a friend

    Chapter 15:

    Imagine





    CN Blue-Imagine

     

    ฉันคิดถึงเธอทุกวัน

    จินตนาการภาพที่เราอยู่ด้วยกัน

    เราจะเป็นอย่างนั้น

    ฉันรักเธอนะ

     

    ★★★★

              . …

     

                “เป็นอะไรไป แบคฮยอนอ่า..” เสียงทุ้มที่ผมชอบฟังดังขึ้นมาทำให้ผมที่กำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต้องหันไปมองที่เจ้าของเสียงอย่างช่วยไม่ได้ แต่แล้วผมก็ต้องอยากจะกลับมานั่งเหม่อต่อ เพราะเรื่องที่ผมกำลังคิด.. มันคือเรื่องของคนที่กำลังส่งยิ้มเจิดจ้ามาให้ผมอยู่ตอนนี้

     

                “เปล่าหรอกน่า.. แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย..” ผมไม่ได้มองหน้าคนที่กำลังยิ้มให้อีกต่อไปแล้ว ยิ่งเห็นรอยยิ้มแบบนั้นใจก็ยิ่งสั่น.. พอใจสั่นทุกสัมผัสของชานยอลก็ไหลเข้ามาราวกับว่าผมจำได้ทุกอย่าง

     

                มันเกือบจะทำให้ผมยิ้มออกมาได้ง่ายๆ ถ้าไม่ติดว่าความรู้สึกดีพวกนี้มันเข้ามาตีกันกับความรู้สึกสับสนข้างในใจ

     

                “อย่ามาหลอกกันให้ยากเลย มีอะไรก็พูดมาเลยสิ แบคฮยอน” ชานยอลเชยคางผมขึ้นให้มองหน้าของตัวเอง

     

                ผมก็อยากจะถาม.. แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน ..

     

                “อย่าเงียบแบบนี้สิ ลูกหมา” ชานยอลทำเสียงอ่อน ก่อนจะมองผมด้วยสายตาเว้าวอน

               

               

                แล้วผมควรจะเริ่มจากตรงไหน.. ถ้าถามไปแล้วชานยอลไม่ตอบ หรือตอบสิ่งที่ผมไม่อยากได้ยินออกมา.. ผมจะต้องทำหน้าแบบไหนนะ

               

     

                “หรือว่าแกไม่ชอบที่ฉันทำอะไรแบบนั้นในห้องเรียน” ชานยอลยังคงยิงคำถามมาในณะที่ผมได้แต่นั่งก้มหน้า

                “....” อ่า.. ถึงมันจะอายเพื่อนในห้องที่มองมาก็เถอะนะ ไม่สิผมไม่รู้หรอกว่าใครมองพวกเราอยู่บ้างไหม เพราะในวินาทีแบบนั้นผมไม่กล้าพอที่จะมองอะไรต่อมิอะไรหรอก ในสายตาผมมีแค่ชานยอล..

     

                อ่าผมอาย... แต่ผมเคยบอกชานยอลหรอ.. ว่าผมไม่ชอบ

     

                ผมชอบ.. ทุกสัมผัส ทุกอย่างที่เป็นชานยอลนั่นแหละ

     

                “ฉันก็รู้นะว่าแกอายที่เพื่อนๆเอาแต่มองมาที่เราแบบนั้น แต่จะให้ทำไง... เราเป็นแฟนกันนี่ ฉันก็แค่อยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าแบคฮยอนเป็นของปาร์คชานยอลคนนี้เท่านั้น...”

     

                “....”

     

                “ตกลงว่าเรื่องอะไรอ่า แบคฮยอนอ่า” ชานยอลยกมือของผมขึ้นมากุมไว้แล้วบีบมันเบาๆ “หรือว่าแกไม่อยากเป็นแฟนกับฉัน..” ผมเงยหน้าขึ้นมองดวงตาหม่นแสงที่เคยสุกใส ดวงตาที่เคยมีความเชื่อมั่น ตอนนี้มันแทบไม่เหลือ ความไหววูบในดวงตาของชานยอลทำให้ใจผมกระตุก

     

                ผมอยากจะขยับปากพูดอะไรออกมาสักอย่าง เเต่ในตอนนี้ทำไมเหมือนมันหนัก .. ผมพูดออกมาไม่ได้ พูดไม่ออก

     

                “....”

     

                “...” ชานยอลเองก็เงียบไปเช่นกัน ในดวงตาที่ผมกำลังสบตอนนี้มีแต่ความเหนื่อยล้า ผมเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น ถ้าผมเห็นแบบนั้นในดวงตาของชานยอล แล้วชานยอลล่ะ.. เห็นอะไรในดวงตาของผม มองเห็นบ้างไหมความสับสน..

     

                ผมอยากให้ชานยอลบอกผมเอง.. เพราะผมไม่กล้าพอที่จะถาม

     

                “ฉันจะรอนะเว้ย.. ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นอะไร เป็นแบบที่ฉันคิดหรือเปล่า แต่แค่อยากให้รู้ว่าทุกอย่างที่ทำไปเพราะรักแค่นั้น..”

     

     

     

    ....

     

     

     

     

                “ชะ..ชาน..” เสียงแผ่วเบาดังออกมาจากริมฝีปากที่ขยับไปมาของผม

     

                มันเริ่มจะมีเสียงขึ้นมาแล้ว.. แต่จะมีประโยชน์อะไร เมื่อตอนนี้ร่างสูงโปร่งของชานยอลห่างไปไกลจนลับตาผมแล้ว ชานยอลไปแล้ว ...

     

                “ฉันก็แค่ไม่แน่ใจ.. แต่ฉันไม่กล้าถาม..” ผมพึมพำเบาๆราวกับว่าชานยอลยังคงอยู่ตรงนี้ “ฉันก็แค่.. ทำไมแกต้องพูดเหมือนว่าฉันไม่ได้รักแกล่ะชานยอล..” ผมขบริมฝีปากล่างเอาไว้แน่นจิกเล็บลงไปที่มือของตัวเองราวกับจะลงโทษ .. ใช่ผมสมควรโดนลงโทษ

     

               

                สมควรโดนลงโทษกับคำว่าไม่กล้าของผม...

     

                แต่ผมกลัวคำตอบจริงๆ ผมกลัวว่าชานยอลจะยิ้มออกมาเมื่อผมพูดถึงเสี่ยวลู่หาน ผมกลัว..

     

                ผมแค่อยากให้รอยยิ้มแบบนั้นเป็นของผมแค่คนเดียว แต่เมื่อกี้.. รอยยิ้มของชานยอลมันก็หายไปเพราะความงี่เง่าของผมเอง ผมได้แต่นั่งจินตานาการภาพของผมกับชานยอล ฉากแล้วฉากเล่าในอนาคตว่ามันจะสดใสแบบไหน ..

     

     

                แต่มันจะได้เป็นแบบนั้นใช่ไหม?   

     






     

     

     

    ★★★★

    ครั้งแรกที่เจอเธอ ฉันเหมือนตกอยู่ในความฝัน

    เพราะรอยยิ้มที่สวยราวกับนางฟ้าของเธอ

    ถ้าวันหนึ่งเธอจะมาเป็นคนรักของฉัน

    แค่คิดก็มีความสุขแล้ว

     

    ฉันจะบอกให้เธอรู้....


     




     

     

    สองสามสี่ชั่วโมงที่แล้ว

     

     

     

                “คยองซูอ่า วันนี้เราออกไปกินข้าวข้างนอกกันไหม” ใบหน้าของคิมจงอินที่ปกติจะไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่ตอนนี้มันกลับมีรอยยิ้มเท่ห์ๆประดับอยู่บนนั้น เพียงเพราะคนที่เค้ากำลังพูดด้วยคือโดคยองซู

                แต่ไม่นานรอยยิ้มนั้นก็หายไปพร้อมกับความสงสัยเข้ามาแทนที่ เพราะคนตัวเล็กตรงหน้าเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา แถมยังไม่มองหน้าของเค้าอีก

     

                ไม่มีปฏิกริยาตอบรับจากคยองซู .. .

     

                ถ้าในเวลาปกติมันก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะคยองซูไม่ค่อยกล้ามองหน้าเค้าตรงๆอยู่แล้ว แต่จงอินสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

     

                “นายรู้สึกขาดอะไรบ้างไหม.. ในตอนที่ฉันไม่ได้ดูนายเล่นบอล” อยู่ๆคยองซูที่เอาแต่นั่งเงียบก็พูดขึ้นมาแต่ตาโตๆนั่นกับมองอยู่ที่ปกเสื้อของคู่สนทนาก็เท่านั้น

     

                “หืม..?” คิมจงอินที่ได้ยินคำถามแปลกๆออกมาจากคนตรงหน้าได้แต่มองคยองซูด้วยความสงสัยมากกว่าเดิม

     

                คุ้กกี้ที่ฉันทำให้ทุกวัน.. นายชอบมันไหมจงอิน

     

                “ชอบสิ.. อร่อยมากเลยนี่นา” ในสถานการณ์เบบนี้คิมจงอินที่ว่าแน่ยังไม่รู้ ว่าควรทำตัวแบบไหนกับคยองซูจึงตอบคำถามออกไปอย่างต้องการให้คยองซูอารมณ์ดี

     

                “... ฉันไม่รู้ว่านายชอบมันอย่างที่พูดหรือเปล่า.. แต่ที่นายบอกว่าอร่อย.. มันจริงหรอ” ดวงตากลมโตของคนตรงหน้าคลอไปด้วยน้ำตาทำให้คนมองถึงกับไปไม่เป็น ไม่ใช่ว่าเค้าแพ้น้ำตาหรืออะไร แต่มันไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องของคนตัวเล็กตรงหน้า

     

                ทุกเรื่องที่เป็นของคยองซู.. คิมจงอินไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับมันยังไง..

     

                “คยองซู นายเป็นอะไรไป”

                “...ฉันไม่รู้หรอกนะ.. ว่าฉันถามนายไปแบบนั้นทำไม” คยองซูถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความน้อยใจหรืออะไรก็ไม่ทราบ ความรู้สึกอยากจะครอบครองจงอินแค่คนเดียวมันเกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ คยองซูรู้ว่าไม่มีสิทธิ คยองซูรู้ รู้ดีว่าจงอินไม่ชอบให้ใครมาผูกมัก .. คยองซูก็มีความสุขดี.. ที่เป็นอยู่แบบนี้

                ไม่มีสถานะสำหรับเค้าและจงอิน มันไม่ใช่แค่เพื่อน แก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องคำว่าแฟน.. มันอาจมากกว่านั้น แต่ก็ยังไม่มีใครรู้คำนิยามที่แน่ชัด.. เอาเป็นว่าคยองซูก็โอเคกับมันมาตลอด เค้าไม่ได้สนใจอยู่แล้วเรื่องสถานะ

     

                แต่จงอินจะรู้ไหมว่าคยองซูไม่ชอบ..

                “ทั้งๆที่ประเด็นมันมีอยู่แค่ว่า.. ฉันไม่ชอบ.. ทั้งๆที่ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบ ..แต่ก็นะฉันก็ไม่ชอบมันอยู่ดีนั่นแหละ  ไม่ว่านายจะไปคุยอะไรกับใคร” คยองซูได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ “แต่อย่ามาทำให้ฉันเห็นไม่ได้หรอ..?”

     

                “..” คิมจงอินมองคยองซูที่พ่นลมหายใจออกมาทางปากครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังคงเงียบ “ฉันรู้ว่านายไม่ชอบการผูกมัด.. อ่า.. ขอเวลาฉันสักหน่อยนะจงอิน.. อย่าพึ่งมาเจอกันสักพักนะ รอให้ฉันเลิกงี่เง่าแบบนี้ได้ก่อน ..” คยองซูเอื้อมมือของตัวเองไปบีบมือของจงอินอีกทีแน่นๆ ไม่รู้ว่าเพื่ออะไรก่อนจะถอนมือออกไป “แล้วฉันจะกลับมาเป็นค.. คยอ.ง ซูคนเดิม”

               

     

     

     

                :::Kim Jongin:::

     

                อือ.. ใช่แล้ว ผมคือคิมจงอิน  ก็แค่คิมจงอินนี่แหละ.. ผมไม่มีเวลาแนะนำตัวหรืออะไรมากมายแบบคนอื่นหรอกนะ ผมเซ็งเกินกว่าที่จะทำอะไรแบบนั้นได้ .. ถ้าจะถามว่าเพราะอะไรล่ะก็ผมไม่ตอบหรอก..

     

                แต่ก็บอกได้ไม่อยาก..

     

                บยอนแบคฮยอน ... ไอ้หมาบ้า.. ไอ้ลูกหมาบ้านั่น ..

     

                เอาเป็นว่าที่จริงผมไม่ได้อยากจะบ่นอะไรมากมายหรอก แต่ผมก็อัดอั้นเหมือนกันป่ะ? โอเคว่าคู่ของผมไม่ได้สำคัญเท่าคู่ของคนอื่นไม่ได้เข้าไปเกี่ยวโยงกับความยุ่งเหยิงอะไรมากมาย แต่ก็ช่วยสนใจผมหน่อยเถอะ ตอนนี้คนตัวเล็กงอนผมจนผมไปไม่เป็นแล้วเนี่ย ...

     

               

                ผมยิ้มออกมาเล็กๆเมื่อคิดถึงจุดเริ่มต้นที่ผมก็ยังคงงงๆ....  ชีวิตของผมในแต่ละวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อ ผมยิ้มออกมาได้บ้างกับกลุ่มเพื่อน แบคฮยอน ชานยอล แล้วก็เซฮุน.. แน่นอนว่านอกจากสามคนนี้น้อยคนที่จะได้เห็นรอยยิ้มของผม แล้วยังมีอีกอย่างที่ผมรักเป็นชีวิตจิตใจ.. ฟุตบอล..

     

                ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ในเกม ได้วิ่งไปทั่วสนามเพื่อไล่ต้อนลูกกลมๆลูกเดียวแย่งกับคนอีกสิบเอ็ดคน ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมือ่ไหร่ที่มีสายตากลมโตคู่หนึ่งมองมาที่ผมตลอด เอาเป้นว่าผมไม่เคยรู้ตัว เรียกง่ายๆก็คือผมไม่ได้สนใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่ได้สบเข้ากับสายตากลมโตคู่นั้น ..

     

                จะ.. จงอิน เอ่อ.. ฉันทำคุ้กกี้มาให้เสียงหวานใสดังขึ้น พร้อมกับมือเล็กๆขาวๆที่ยื่นกล่องคุ้กกี้มาตรงหน้า ในขณะที่เจ้าของคุ้กกี้ได้แต่ก้มหน้า  ผมถอนหายใจเบาๆ เพราะรู้สึกชินชาแล้วกับอะไรแบบนี้ .. คิมจงอินฮอตอยู่แล้วนี่ครับ

     

                    ขอบใจ.. ผมรับคุ้กกี้นั่นมาเพื่อเป็นการรักษาน้ำใจของคนตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยของผม ก่อนที่อีกไม่กี่วินาทีใจของผมจะต้องชะงักราวกับจะหยุดเต้น เมื่อคนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมา ทำให้ผมได้พบกับก็รอยยิ้มสดใส.. แล้วก็ดวงตากลมโตคู่นั้น

     

                โด คยองซู  

                ป้ายชื่อที่หน้าอกเขียนไว้แบบนั้น ..

                ตั้งแต่วันนั้น ผมก็มักจะเห็นว่ามีตากลมโตคู่หนึ่งจับจ้องมาที่ผมตลอดเวลาที่ผมอยู่ในสนาม แต่ก็นะถึงผมไม่มองหาอะไรผมก็เจอคนตัวเล็กคนนั้นอยู่แล้ว เพราะตำแหน่งที่คนตัวเล็กบนอัฒจันท์นั่งน่ะมันไม่มีใครนั่งเลย แดดแรงอกขนาดนั้น ไม่ร้อนบ้างหรือไง

     

                ทำไมไม่ห่วงตัวเองบ้างนะ ..

     

                คยองซูก็มักจะทำคุ้กกี้มาให้ผมเสมอ แต่คนตัวเล็กมักจะเอามันไปไว้ที่ใต้โต๊ะเรียนของผมซะมากกว่า ถึงจะไม่มีกระดาษโน้ตอะไรแปะไว้ระบุถึงคนทำ แต่ผมก็รู้ว่าเป็นคยองซูแน่ เพราะคุ้กกี้รสชาติแปลกๆแบบนั้น คงไม่มีร้านไหนทำขายหรอกจริงไหม?

     

                เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จากหนึ่งวันกลายเป็นเกือบปีที่คยองซูยังคงทำแบบนั้น ผมเองก็พึ่งะรู้ตัวว่าทุกวันผมอยากจะให้คยองซูมานั่งเชียร์ผมจากที่ไกลๆ ถ้าวันไหนไม่เห็นมันจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง  อยากกินคุ้กกี้รสชาติแปลกๆที่มันอร่อยขึ้นทุกวัน.. ทุกวัน  ใช่ รสชาติของคุ้กกี้ที่คยองซูทำให้อร่อยขึ้นเรื่อยๆ จนคนทำอาจไม่รู้ตัว อาจเหมือนกับความรู้สึกของผมที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดๆนึง ผมก็ว่าผมเริ่มรู้ใจตัวเองขึ้นมาตงิดๆ  

                ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มจาก ตอนไหน อาจจะเป็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตา.. หรือวันไหนผมก็ไม่รู้สิ.. รู้แค่ว่าผมไม่รู้ว่าควรเข้าหาคนตัวเล็กยังไงดี ได้แต่ทำหน้านิ่งๆเป็นปกติให้ก็เท่านั้น เพราะเค้าเองก็เอาแต่ทำเหมือนเดิมทุกวันจนผมไม่แน่ใจว่าเค้าคิดยังไงกันแน่จนวันนั้น ..

     

                วันที่ผมเอาแต่มองไปที่คนตัวเล็ก จนเผลอเตะบอลไปทางนั้น.. แล้วใครจะคิดล่ะว่าคิมจงอินคนนี้จะเตะบอลได้แม่นมากมายขนาดนั้น ..

     

                ฉะ..ฉันชอบนายนะ..คิมจงอินใบหน้าน่ารักของคยองซูแดงไปหมดด้วยแรงอัดจาดลูกฟุดบอลที่ผมเป็นคนเตะ แต่ถึงอย่างนั้นแทนที่ผมจะเป็นห่วงอะไรมากมาย ผมกลับนั่งยิ้ม.. เมื่อคนตรงหน้าพูดคำนั้นออกมา คำที่เป็นเหมือนกรรไกรที่ตัดเส้นกั้นบางๆระหว่างเราสองคน

     

                ตั้งแต่ผมได้ยินแบบนั้น.. ผมก็คิดเอาไว้แล้ว  ว่าจะไม่ปล่อยให้คนน่ารักตรงหน้าหลุดมือไปอย่างแน่นอน..

     

                เอาเป็นว่ามันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆจนถึงมากมาย กับการที่ต้องไปดูแลคยองซูที่โรงพยาบาล กับการได้แกล้งคนน่ารักเล่นแบบนั้น แก้มนุ่มนิ่ม ตากลมโต ริมฝีปากหวานๆที่ผมได้พิสูจน์มันเองแล้ว.. ผมถอนตัวจากโดคยองซูไม่ขึ้นแล้วล่ะครับ

     

     

                อือ.. เอาเป็นว่าผมชอบคยองซู ผมชอบนิสัยของคยองซูที่ไม่ได้ต้องการผูกมัดอะไร ไม่ใช่ว่าผมจะเล่นๆกับคยองซูหรอกนะ แต่กับคนอย่างผมคำว่าแฟนน่ะมันดูเหมือนเป็นอะไรที่ค้ำและคล้องคออยู่ตลอดเวลา ราวกับมันคือหน้าที่อะไรสักอย่างที่ผมต้องรับผิดชอบ..

    แต่ผมคนนี้คือคิมจงอินนะ ผมไม่พร้อมสำหรับอะไรแบบนั้นป่ะวะ แค่เราทั้งคู่ต่างก็มีความสุขก็พอแล้ว ถึงความรู้สึกของผมที่มีให้คยองซูมันจะมากจนอาจจะเกินหลายๆคนที่ใช้คำว่าแฟนไปแล้ว  ผมว่าคยองซูก็ดูโอเคนะกับสถานะแบบนี้ของพวกเรา เราไม่เคยคุยกันเรื่องคำว่าแฟน แต่เราก็อยู่ด้วยกันบ่อยๆในโรงเรียนก็มีความสุขดีอ่ะ

     ประมาณนี้แหละมั้ง มันจะเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบเพอร์เฟคมาก ถ้าไม่ติดว่าในวันนั้น ไอ้หมาแบคฮยอนดันลากผมที่กำลังจะเดินไปหาคยองซูมาคุยกันแบบสนิทสนมออกนอกหน้าแล้วมิวายเดินหายไปอีก.. ผมไม่ได้อะไรมาก เพราะคิดว่าคยองซูคงรู้ว่าผมกับแบคฮยอนเป็นเพื่อนกัน แต่จำให้ผมอยู่เฉยได้ยังไง เมื่อรอยยิ้มที่เคยประดับอยู่บนใบหน้าของคยองซูทุกทีมันหายไป..

     

    มันหายไป.. คยองซูเป็นคนดูไม่อยากหรอก.. คยองซูไม่เคยฝืนความรู้สึก ไม่มีความสุขคยองซูก็จะไม่ยิ้ม เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมผมถึงมีความสุขเวลาอยู่กับคยองซูคนนี้

     

    “คยองซูมันออกไปโรงอาหารแล้วล่ะ” คิมจุนมยอน เพื่อนสนิทของคยองซูพูดขึ้นด้วยแววตาที่ออกจะน่ากลัวอยู่นิดหน่อย

    “ขอบใจ..”  แต่เสียใจด้วยป่ะที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับสายตาแบบนั้นเลย ตอนนี้ที่ผมแคร์มีแค่คยองซูตัวน้อยของผมที่กำลังงอนอยู่ก็เท่านั้น

     

                แม้จะรู้ว่าจุนมยอนไม่ชอบผมแต่เจ้าตัวก็คงรู้ว่าความสุขของคยองซูคืออะไร ถึงได้บอกผมง่ายๆแบบนี้

     

                เหมือนกับผมที่ตอนนี้รู้แล้วจริงๆ ว่าความสุขของผมคืออะไร..

     

                ไม่ใช่การเล่นฟุตบอลหรืออะไร แต่ความสุขของผมเกิดจากคนตาโตๆที่ชื่อโดคยองซูแค่เท่านั้นจริงๆ

     

                แม้ในตอนแรกจะแอบเซ็งถึงขั้นขีดสุดที่จะต้องมาผิดใจกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ก็นะ .. หมดเวลาทำหน้าเซ็งแล้วล่ะครับ.. คยองซูงอนผมก็แค่ง้อ จริงป่ะ

     

               

     

    ★★★★






     

     

    :::Luhan:::

     

                ผมไม่รู้หรอก ว่าผมร้องไห้ติดต่อกัมากี่วันแล้ว.. มันอาจจะตั้งแต่วันที่ได้เจอเซฮุนอีกครั้งที่เกาหลี..

                ผมไม่รู้.. ว่าผมยิ้มอย่างมีความสุขครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ .. อาจจะตั้งแต่วันที่เซฮุนจากผมไป.. ผมไม่เคยรู้เลยว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร

     

                เพราะสิ่งเหล่านั้น.. ผมมักจะได้มาจากเซฮุน และมันก็ยังคงเป็นแค่เซฮุนจนทุกวันนี้ ..

     

                แค่เซฮุนคนเดียวจริงๆ  

     

     

                ผมไม่เข้าใจ.. ไม่พร้อมจะเข้าใจจริงๆ ว่าเซฮุนจงเกลียดจงชังอะไรผมมากมายขนาดนั้นเลยหรอ.. ถึงได้แกล้งทำร้ายจิตใจผมขนาดนี้ ให้เซฮุนทุบตีทำร้ายร่างกายผมยังดีซะกว่ามาทรมานกันแบบนี้..

     

                เซฮุนอยากจะดึงผมเข้ามาเซฮุนก็ดึง อยากจะผลักผมออกเซฮุนก็ผลัก.. ผมตามไม่ทันหรอกนะ

     

                คนทำไม่รู้หรอกว่าคนโดนกระทำมันรู้สึกแบบไหน..

     

                ผมรู้..รู้ดีแก่ใจเลยล่ะ ว่าเรื่องทั้งหมด ความเจ็บปวดทั้งหมดในวันนี้ที่ผมได้รับ มันเกิดจากตัวผมเองทั้งนั้น ผมเป็นคนเริ่มมันเอง ทั้งๆที่ผมสามารถจบมันได้แต่ผมไม่ทำ .. เพราะผมมันโลเลเอง นี่คงเป็นบทลงโทษ ..

     

                ใช่.. ผมรู้ว่ามันคือบทลงโทษ.. แต่นี่ นี่มันมากเกินแล้วนะ มันมากเกินไป ผมจะทนรับมันไหวได้ยังไง ..

     

                เซฮุน.. ตกลงนายรู้สึกยังไงกันแน่ตอนนี้..

     

                ผมได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มเหมือนทุกครั้ง ไม่มีที่สิ้นสุด.. ความอบอุ่นจากเสื้อผ้าที่สวมอยู่ทำให้รู้ว่าบนตัวของผมมีเสื้อผ้าครบทุกชิ้น.. ต่างจากเมื่อคืนที่ผมจำได้ว่าผมหลับไป.. ทั้งๆที่มีแค่ผ้าห่มคลุมร่างเปลือยเปล่าเอาไว้

                อยากจะให้เรื่องเมื่อคืนเป็นแค่ความฝัน... แต่ร่องรอยสีแดงประปรายตามแขนและส่วนที่พ้นเสื้อผ้าออกมาให้ผมปฏิเสธไม่ได้จริงๆ.. ว่าเมื่อคืน.. เซฮุนเกือบจะทำอะไรลงไป..

     

                แล้วผมเอง.. ก็เต็มใจ..

     

                ยิ่งคิดก็ยิ่งอายกับสิ่งที่ตัวเองและเซฮุนได้ทำลงไป.. พลันน้ำตาก็ใหลออกมามากกว่าเดิม เมื่อคำพูดของเซฮุนเมื่อคืนทุกคำ ยังคงทำร้ายจิตใจได้มากมายเสมอ ..

     

                โดยเฉพาะ...

     

     คบกับฉันไหม? ฉันจะทำให้แกลืมมันเอง

    หมดหวังแล้วสินะ...

     

     

    แม้ว่าตอนนี้ใจผมจะรักเซฮุนมากแค่ไหน .. แม่ว่าตอนนี้มันจะยังเอาแต่ร้องเรียกหาเซฮุน..

     

    แต่กับเรื่องแบบนี้ ผมจะไม่ฝืนมันแล้วล่ะ..

     

     

    ไม่มีประโยชน์เลยสักนิดเดียว...

     

    “คุณหนูคะ คุณเซฮุนให้ป้ามาบอกว่าถ้าคุณหนูจะกลับแล้ว ให้บอกคนขับรถไปส่งได้เลยนะคะ” ป้าแม่บ้านที่เปิดประตูเข้ามาอึ้งเล็กน้อย คงเพราผมนั่งร้องไห้

    “ครับ..ขอคุณครับ” ผมปาดน้ำตาของตัวเองลวกๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

     

    ผมควรจะพอแล้ว.. ถึงเวลาแล้วจริงๆ  หวังว่าการที่ผมยอมให้เซฮุนทำทุกอย่างกับผมแบบนี้ จะทำให้ความเกลียดที่มีต่อผมของเซฮุนมันจะลดลงไปบ้างนะ..

     

    ไม่อยากให้เซฮุนเกลียด.. ไม่อยากโดนคนที่ตัวเองรักเกลียด แค่นั้นจริงๆ

     

    ผมหยัดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง.. คงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้มาที่นี่.. ผมพยายามปั้นยิ้มออกมาเมื่อมองเห็นกรอบรูปที่ข้างในมีรูปของเซฮุน.. อย่างน้อย

     

    อย่างน้อยเซฮุนในรูปก็ยิ้มให้ผม.. รอยยิ้มที่ผมไม่ได้เห็นมันนานแล้ว.. รอยยิ้มแบบที่ผมชอบ

     

     

    ....

     

    ลาก่อนเกาหลี.. ลาก่อนโอเซฮุน..

     

    ผมรู้แล้วล่ะว่ามันถึงเวลาที่ผมจะต้องทำใจให้ได้สักที ผมคงต้องกลับจีน..แม้ว่าที่นั่นจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเซฮุนเต็มไปหมด จนจะทำให้ผมลืมเซฮุนไม่ได้.. แต่ใครสนกันล่ะ หืม? เพราะผมไม่ได้คิดที่จะลืมเซฮุน.. ผมลืมไม่ได้หรอก

     

    คงต้องปล่อยให้ภาพความทรงจำดีดีที่เคยมี.. หล่อเลี้ยงหัวใจของผมไป.. แค่นั้นก็พอแล้วล่ะกับคนนิสัยไม่ดีอย่างผม

     

                ผมเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านเซฮุน .. ส่งยิ้มให้คุณป้าแม่บ้านที่ดูแลผมตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่  ก่อนที่สายตาองผมจะไปสะดุดอยู่กับแผ่นหลังของใครสักคนที่ผมคุ้นเคย..

     

     

     

                “พะ.. พี่คริส..”

     

     

                                             

     



     

    TBC

    ★★★★
     

     

    :Shalunla)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×