ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้วว} [★ Fic exo ★ ChanBaek]Love of a friend (ft.HH KD)

    ลำดับตอนที่ #17 : [★ Fic exo ★ ChanBaek] Ch 16 : Be With U

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.27K
      13
      13 มิ.ย. 57

    Love of a friend

    Chapter 16:

    Be With You

     

    *ชานแบคจะได้กันแล้ววววววววววววววว





    Jang Wooyoung - Be With You

     

    ★★★★

    I just wanna love you know that I want you

    ผมรักคุณนะ..รู้ใช่ไหมว่าผมต้องการคุณ

    곁에 있을 있게 (come to me oh)

    ผมจะอยู่ข้างคุณแบบนี้ (เขยิบเข้ามาหาผมสิ)

    ★★★★

     
     

     

      

      :: Byun BaekHyun ::

     

     

    ผมได้แต่มองใบหูกางๆของชานยอลที่โผล่พ้นกลุ่มผมสีดำน่าสัมผัสออกมาด้วยดวงตาที่ไหววูบ ความกลัวเริ่มกัดกินเข้ามาในหัวใจผมอีกแล้ว

     

    บรรยากาศแบบนี้ผมบอกได้เลยว่าไม่ชอบเลย.. เกลียดเลยด้วยซ้ำ

     

    ชานยอลทำเหมือนกับผมเป็นอากาศ ไม่พูดไม่จา พอกลับเข้ามาเรียนก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียน และหันหน้าเข้าผนังไปแล้ว

    เพื่อนในห้องหลายๆคนมองมาด้วย สายตาอยากรู้อยากเห็น บางคนก็ยิ้มให้ผมน้อยๆแล้วทำหน้าเชิงจะถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ตอนนี้เซฮุนกับจงอินหายไปไหนก็ไม่รู้ไม่ยอมมาขึ้นเรียน..

     

    เอาเป็นว่าถ้าผมรู้ว่าต้องมาเจอกับเดดแอร์แบบนี้นะ.. ผมโดดเรียนดีกว่า

     

    บรรยากาศในช่วงครึ่งหลังของวัน ต่างจากเมื่อเช้าอย่างลิบลับ.. ผมต้องทำยังไงถึงจะได้ชานยอลคนเดิมกลับคืนมา ผมต้องทำยังไง ถ้าทำได้ผมจะย้อนเวลาจะไม่ทำตัวงี่เง่าแบบนั้น..

     

    แต่ไม่ทันแล้ว ชานยอลเฉยชากับผมจนใจหาย ชานยอลไม่มองหน้า ชานยอลไม่พูดไม่จา

     


     

     

    ....

     

    เพื่อนๆในห้องทยอยกันออกไปหมด แล้ว ชานยอลก็เช่นกัน ร่างสูงโปร่งของชานยอลเดินนำหน้าเพื่อนคนอื่นไปไกล ผมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังกว้างอยู่อย่างนั้น 

    ทั้งๆที่ปกติจะเป็นชานยอลที่ เดินอยู่ข้างๆ ทั้งๆที่ตอนนี้ควรจะมีมือของชานยอลกุมมือของผมเอาไว้ แล้วเดินไปด้วยกันพร้อมกับเสียงหัวเราะของร่างสูงกับใบหน้าขึ้นสีระเรื่อของ ผมเพราะชานยอลพูดจาน่ารักๆ  ทั้งๆ ที่มันจะต้องมีตอนที่ผมมองชานยอลด้วยสายตาค้อนๆพร้อมกับฟาดมือลงไปที่แขน แข็งแกร่งแล้วชานยอลร้องโอดโอยส่งยิ้มกว้างมาให้ผม ตามด้วยก่อนจะก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย เพราะชานยอลขโมยหอมแก้มของผม

     

    แต่ไม่.. แบบนี้มันไม่ใช่แล้วนะ ผมทำมันพังหมดแล้ว

     

    เอาล่ะเด็กๆ อาทิตย์นี้ก็เหมือนเดิมอาจารย์จะให้พวกเราหัดส่งลูกบอลเหมือนเดิมกับคู่ที่ อาจารย์จัดไว้ให้ แล้วอาทิตย์หน้าเราจะมาสอบเก็บคะแนนกัน เสียงของอาจารย์ชาที่พูดอยู่ไม่ได้เข้าไปในสมองของผมสักนิด ผมนั่งมองเสี้ยวหน้าของชานยอลที่กำลังยกยิ้มให้เพื่อนคนหนึ่งที่เข้ามาคุย เล่นด้วย .. เอาล่ะอาจารย์จะปล่อยให้ซ้อมกันเอง  ดูแลตัวเองได้นะ อาจารย์ขอตัวก่อนอาจารย์มีประชุมเสียงเฮของเพื่อนๆในห้องดังลั่นไม่ค่อยแสดงออกถึงความดีใจเลยที่อาจารย์ไม่อยู่

    แต่ผมก็ยังคงสนใจแค่ชานยอล ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเพื่อนในห้องที่กำลังดีใจอยู่สักนิด

    ...

     

     

     

    ผมยืนถือลูกบอลมองชานยอลที่ยัง คงนั่งอยู่กับที่.. ไม่มองมาที่ผมสักนิด จนคนถูกมองรู้ตัวและมองมาที่ผมช้าๆ ด้วยใบหน้าที่นิ่งเสียจนผมไม่อาจคาดเดาความรู้สึกของคนตัวสูง

     

    ไม่ว่าจะทำอะไรชานยอลก็ยังคงดู ดีในสายตาของผม ชานยอลหยัดลุกขึ้นเต็มความสูงเดินเข้าไปหาจินยองกับซานดึลที่กำลังส่งบอลกัน อยู่ ก่อนจะพูดอะไรกับทั้งสองคนนั้นนิดหน่อย แล้วจินยองก็ชี้นิ้วมาที่ผม ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วพูดสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะร้องไห้

     

    ชานยอล บอกให้ฉันมาคู่กับนายแทนหมอนั่นน่ะ
     

    ...

     

     

    ผมพยักหน้าให้จินยอง ว่าผมรับรู้มันแล้ว ก่อนจะถอนหายใจระบายความอึกอัดจนแทบอยากจะกรีดร้องออกมาให้หมดสิ้น.. แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร ผมรู้สึกโล่งได้แปปเดียวความรู้สึกหนักอึ้งและจุกแถวๆหน้าอกมันก็กลับมา อีก.. และไม่ได้น้อยลงไปกว่าเดิมเลยสักนิด

     

    จะเริ่มแล้วนะแบคฮยอน เสียงจิยองดังเข้ามาในโสตประสาทของผม แต่ก็ไม่ได้เข้าไปผ่านการประมวลผลในสมองเลยสักนิด สายตาของผมยังคงจับจ้องไปที่ชานยอลที่ดูมีความสุขดีกับการส่งบอลกับซานดึล สายตาแห่งความสุขที่มักจะมองมาที่ผมเสมอ รอยยิ้มกว้างๆที่มีให้ผมตลอด

     

    ผมควรทำยังไง ผมต้องทำอะไรถึงจะได้มันกลับมา ..

     

    ก็แค่อยากให้เราเป็นเหมือนเดิม..

     

     

    ปั๊ก!!!

     

    แบคฮยอน!!!” ผมค่อยๆล้มลงช้าๆจากแรงกระแทกของลูกบอลกับใบหน้าของผม

    ฉันขอโทษ แบคฮยอนอ่า นายเหม่ออะไรอยู่เสียงใสใสของจินยองดังขึ้นพร้อมกับคำขอโทษแกมต่อว่า ก่อนที่ผมจะปล่อยให้น้ำตาใหลออกมาช้าๆแล้วหลับตาลง

     

    ...

     

     

     

    ภาพความทรงจำสุดท้ายยังคงเป็น ชานยอลที่ส่งรอยยิ้มมา.. รู้ไหมแค่นี้ผมก็มีความสุขกับรอยยิ้มของชานยอลในความทรงจำ แต่มันโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมอาจจะไม่ได้รับมันอีกแล้ว

     

     

                ผม ตื่นมาก็เจอกับอาจารย์ประจำห้องพยาบาลและก็ห้องสีขาวสะอาดที่ผมเริ่มคุ้นชิน ช่วงนี้ผมเข้ามาบ่อยนี่นา.. อาจารย์ห้องพยาบาลบอกว่าผมโดนบอลอัดจนสลบไป ถามไถ่อาการของผมนิดหน่อย ก่อนจะบอกให้ผมกลับบ้านดีดี ผมมองหน้าอาจารย์ด้วยความสงสัยนิดนึง แล้วก็ได้รบคำตอบออกมาทั้งๆที่ผมยังไม่ได้เอ่ยถาม

     

                “ชานยอลพาเธอมาส่ง แล้วก็กลับไปแล้วล่ะ

     

     

     

     

    ★★★★

     

     

    ไม่เป็นไรนะ แบคฮยอน อย่าร้องไห้สิผมเงยหน้ามองใบหน้าเจ้าเสียงทุ้มต่ำที่เปล่งภาษาเกาหลีสำเนียงแปลกๆออกมาด้วยดวงตาที่พร่ามัว

    “..ฉัน.. ทำไมฉันงี่เง่าแบบนี้ล่ะจื่อเทาผมเบะปากออกมาเมื่อนึกถึงท่าทีเฉยชาของชานยอล โกรธผมใช่ไหม.. สมควรแล้วแหละ

    เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย!” ดวงตาคล้ำๆของจื่อเทาถลึงออกมานิดหน่อยราวกับจะบังคับและขู่ให้ผมบอก แต่สัมผัสตอนที่จื่อเทาใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยนมันทำให้ ผมไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด

     

    แต่ได้ระบายให้ใครสักคนฟังก็คงจะดีเหมือนกัน..

     

    ..

    .

    ....

     

     

    นายไม่รู้จริงๆหรอแบคฮยอน ว่าควรทำยังไงจื่อเทาขยี้กลุ่มผมของผมเบาๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างแล้วมองผมที่กำลังจะร้องไห้ขึ้นมาอีกระลอกด้วยสายตาล้อ เลียน

    อะไร อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะจื่อเทา!!!” ผมสูดน้ำมูกที่กำลังจะไหลออกมาจนเกิดเสียง พร้อมกับต่อว่าคนที่ทำหน้าแบบนั้นทั้งๆที่ผมกำลังร้องไห้

     

    ฉันไม่ได้โง่นะ .. แต่ทำไมพอเป็นเรื่องของชานยอลทีไร ฉันกลับไม่รู้ว่าฉันควรเดินไปทางไหน.. ฉันไม่กล้าที่จะก้าวไปทางไหนเลย

     

    ถ้าผมถาม..

    ถ้าผมพูดตรงๆ

    ถ้าผม..

     

    แต่

    ผมไม่กล้าที่จะทำมัน..

     


     

    นายรู้ใช่ไหมว่านายผิด
     

    ผมพยักหน้าหงึกๆ ขบริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้ก่อนที่จำกระพริบตาไล่น้ำไร้สีที่ค้างอยู่รอบดวงตา ให้มันตกลงไปที่พื้น
     

    ถ้านายผิด ก็แค่ไปขอโทษ..จื่อเทาช้อนตาขึ้นมองผมที่กำลังตั้งใจมองใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะทำสีหน้าจริงจังส่งมาที่ผม
     

    แล้วถ้าชานยอลยังเย็นชากับฉันล่ะ ถ้าชานยอลไม่สนใจคำขอโทษของฉัน..
     

    เหตุผลไง.. นายก็บอกเหตุผลไปสิ

     

    เหตุผล.. หรอ?
     

     

    บอกชานยอลไปเรื่องความรู้สึกและสิ่งที่นายกำลังกลัวอยู่ตอนนี้  ถ้าชานยอลรักนายจริง มันต้องเข้าใจนาย

    แต่..ผมขยับปากกำลังจะพูด แต่ก็ถูกจื่อเทาสวนขึ้นมา

     
     

    แต่ถ้ามันไม่ยอมเข้าใจ แล้วยังทำแบบนี้กับนายอยู่อีก .. นายควรจะคิดทบทวนเรื่องมันใหม่แล้วล่ะ

     

    ผมพรูลมหายใจออกมาทางปากอย่าง คิดหนัก ก่อนจะมองไปเห็นรอยยิ้มของจื่อเทาที่ส่งมาให้พร้อมกับกำลังใจ ส่งผ่านสายตาที่บอกผมว่าอย่าไปกลัว ถ้าผมเจ็บจะยังมีเค้าคนนี้ที่คอยปลอบใจ

     

    ระยะเวลาที่รู้จักกันมันไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก.. แต่คำว่า มิตรภาพ ที่จื่อเทาหยิบยื่นมาให้ .. ต่างหากคือสิ่งสำคัญ


     

    ....



     

     

    ให้ไปส่งไหมแบคฮยอนแบคฮยอนส่งรอยยิ้มเล็กๆมาให้พรอ้มกับส่ายหน้าเบาๆ

    ไม่เป็นไรหรอก..

    อ่า โชคดีนะแบคฮยอน จื่อเทามองตามแผ่นหลังเล็กนั่นอย่างไม่วางตา ก่อนที่แบคฮยอนจะหันมาอีกครั้งกับรอยยิ้มกว้างจนตาเรียวเล็กหยีแทบจะปิด ทำให้คนมองหัวใจกระตุก

    ขอบใจนะ จื่อเทา!!!” แบคฮยอนตะโกนมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันหลังกลับไปแล้วเดินไปข้างหน้า

     

     

    .

    .

    ..

     

     

     

     

    จื่อเทายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ..

    มองคนน่ารักที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ มองทั้งๆที่ตอนนี้แบคฮยอนเดินไปไกลแล้ว ไกลจนจื่อเทาไม่สามารถเอื้อมไปถึงได้เลย

     

    แม้จะอยากให้ชานยอลไม่เข้าใจแบ คฮยอนมากแค่ไหน แม้จะอยากให้แบคฮยอนตัดใจจากชานยอลสักเท่าไร แต่พอนึกถึงใบหน้าขาวเนียน ริมฝีปากสีสดใส จมูกเล็กที่โด่งรั้น น้ำเสียงหวานน่ารักๆของแบคฮยอน .. ก็รู้ดีเลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ใครจะทิ้งคนน่ารักเเบบนั้นได้ลงคอ..



     

    เเล้วยิ่งเป็นชานยอล  คนที่เเบคฮยอนยกหัวใจให้ตัวเองทั้งใจขนาดนั้น

     

     

     

    ถ้าชานยอลกล้าทิ้งแบคฮยอนก็โง่เต็มทน ..

     

     

     

     

    ★★★★  

      


     

    조금씩 떨려오는 순간을 (waited for a long time)

    ช่วงเวลานี้ที่ทำให้ว้าวุ่นอยู่นิดๆนั้น ผม.... ( ผมรอมันมาแสนนาน )

    얼마나 기다렸는지 모르잖아 (I know everything you want it too)

    รอคอยมาแสนนานแล้ว (ผมรู้หมดแหละว่าคุณก็ต้องการเหมือนกัน)

     

    ★★★★




     

     

               ผมชั่งใจมองบ้านเดี่ยวสองชั้นสีขาวขนาดปานกลางที่ถูกกั้นด้วยรั้วสีฟ้าสดใส อยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจกดกริ่งเบาๆสองครั้ง ไม่นานร่างเพรียวที่มีใบหน้าใกล้เคียงกันกับชานยอลจะปรากฏออกมาพร้อมกับรอย ยิ้มกว้าง..

     

                ยิ่งตอนยิ้มพี่ยูรา พี่สาวของชานยอลยิ่งเหมือนชานยอล..  เหมือนซะจนผมคิดถึงรอยยิ้มแบบนี้ของชานยอล คิดถึงตอนชานยอลยิ้มมาให้

     

                มาหาชานยอลหรอแบคฮยอนพี่ยูราตรงเข้ามากอดผมก่อนจะหยิกแก้มผมแล้วทำหน้าแบบว่าหมั่นเขี้ยว

                ครับ พี่ยูราผมทำได้แค่ส่งยิ้มเล็กๆให้พี่ยูรา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ที่ผมเตรียมใจมาผมยังยิ้มอยู่ได้ แต่ตอนนี้ความกลัวที่ผมมักจะมีมันก็กลับมาอีกแล้ว

     

                พี่คิดถึงแบคฮยอนนะเนี่ย ไม่ได้มาบ้านนี้นานเท่าไหร่แล้วนะเราพี่ยูรากดผมลงกับโซฟาสีครีมก่อนจะทิ้งตัวลงมาเหมือนกัน

                ผมก็คิดถึงพี่ยูรากับคุณป้าเหมือนกันครับ

                แล้วคิดถึงใครมากกว่ากันเนี่ย พี่ยูราทำเสียงล้อเลียนผมนิดหน่อยตามประสาพี่สาวที่ใจดี แต่วันนี้แม่ไม่อยู่แบคฮยอนคงไม่ได้เจอแล้วล่ะ ผมยู่ปากเล็กๆให้พี่ยูราอย่างอดจะเสียดายไม่ได้ นานแล้วจริงๆที่ผมไม่ได้มาบ้านของชานยอล

     

                ฮ่าๆ พี่รู้นะว่าเราอยากกินกับข้าวฝีมือแม่ 555 ไว้วันหลังมา บอก่อนล่วงหน้าสิ รับรองแม่เคลียร์คิวรอแบคฮยอนแน่ๆ พี่ยูรานี่รู้ใจผมดีจริงๆ ทำไมน้องชายของพี่ยูราไม่รู้ใจผมแบบนี้มั่งนะ

     

                ไม่เป็นไรครับ .. ว่าแต่ ชานยอล..

     

                อ๋อ พี่ก็มัวแต่ชวนเราคุยลืมไปว่าเรามาหาชานยอล อยากเจอชานยอลสินะ พี่น้อยใจนะเนี่ย!” ผมทำหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนที่พี่ยูราจะหลุดขำออกมาพร้อมกับขยี้หัวของผมเบาๆ ฮ่าๆ อย่าทำหน้าเบเบนั้นสิพี่ล้อเล่น แบคฮยอนนี่น่ารักจริงๆเลย พี่ยูราบอกผมก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้อีกครั้ง พี่จนผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้กับท่าทางน่ารักๆแบบนั้น  

     

                ชานยอลอยู่บนห้องนั่นแหละ พี่ต้องออกไปทำธุระแล้วล่ะ ฝากบอกชานยอลด้วยนะว่าพี่ไปทำธุระคืนนี้คงไม่กลับบ้าน จะนอนแล้วก็ปิดไฟในบ้านด้วยนะ

     

                พี่ยูราบอกก่อนจะเดินไปที่ประตูบ้านเปิดมันแล้วหันมาส่งยิ้มให้ผม  ก่อนจะปิดประตูลง

     

                ผม เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองด้วยจิตใจที่บอกได้เลยว่ากำลังว้าวุ่นเป็นอย่างมาก จุดหมายอยู่ที่ห้องนอนของชานยอล ที่ตอนนี้คงมีคนที่ผมอยากปรับความเข้าใจมากที่สุดอยู่ข้างใน

     

                ผมเคาะประตูเบาๆสองสามครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆตัดสินใจเอมมือไปหมุนลูกบิดประตู พบว่ามันไม่ได้ล๊อค.. ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้าไปข้างใน

     

                เสียงหยดน้ำกระทบพื้นในห้องน้ำดังอยู่ บอกผมได้ดีเลยว่าชานยอลกำลังอาบน้ำ ผมมองไปรอบๆก่อนจะถอนหายใจอีกที ตอนนี้ในใจกำลังภาวะนาให้ชานยอลอาบน้ำไปนานๆ แต่ผมเคยบอกแล้วไง .. ว่าพระเจ้าไม่เคยเข้าข้างบยอนแบคฮยอน ..

                เสียงน้ำหยุดไปแล้ว สักพักร่างสูงที่อยู่ในชุดนอนสบายๆก็เข้ามาอยู่ในสายตาของผม ชานยอลชะงักอยู่สักพักก่อนจะเดินผ่านผมไปเหมือนมองไม่เห็น ..

     

                แต่ผมมาถึงที่นี่แล้ว ผมไม่ควรปล่อยให้ชานยอลเดินหนีผมอีกแล้ว ผมรู้ดี .. มือเล็กของผมจับข้อแขนของคนที่กำลังจะเดินหนีเอาไว้แน่น ชานยอลไม่ได้ขัดขืน แต่ก็ไม่พูดอะไร

     

                ผม ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรในเมื่อสายตาว่างเปล่าของชานยอลยังคงมองมาที่ผม.. แต่เพรามันว่างเปล่า ผมเลยไม่รู้ว่ามันกำลังสื่อความหมายอะไร จนชานยอลทำท่าจะแกะมือของผมออก

     

                “..อย่า.. เย็นชากับฉันแบบนี้สิไอ้หูกาง ผมกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้อย่างไม่ต้องการจะร้องไห้ออกมาตอนนี้ อยากคุยกับชานยอลให้รู้เรื่องก่อน ผมกลั้นเอาไว้ทั้งๆที่น้ำตามันพร้อมจะไหลออกมาเต็มที่

     

     

                “....”


     

                ชานยอล..ผมเรียกชื่อชานยอลด้วยน้ำเสียงที่บอกชานยอลว่าผมเหนื่อย.. ผมกลัว ขอโทษ..   

     
     

                แกไม่ได้ทำอะไรผิดชานยอลบอกไม่รู้ว่าเสียงดังมากแค่ไหน แต่ผมกลับรู้สึกว่าได้ยินมันจากที่แสนไกล กลัวว่าชานยอลจะห่างออกไป..


     

                ผิด...ผิด สิ ผิดที่เอาแต่กลัว ผิดที่เอาแต่ทำตัวงี่เง่า หายโกรธฉันนะ ผมบอกด้วยน้ำเสียงที่เริ่มจะเบาหวิวเพราะแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้

     

    ผมเข้าไปสวมกอดชานยอลแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นหลังแข็งแกร่งตรงหน้า เพราะไม่อยากให้น้ำตาไหลออกมา

    ฉันไม่ได้โกรธแกนะแบคฮยอน.. รู้ไหม คนสุดท้ายบนโลกที่ฉันจะโกรธก็คือแก .. ไอ้ลูกหมาของฉัน ชานยอลแกะแขนของผมที่โอบกอดเอาไว้ออกก่อนจะหันหน้ามามองผม


     

    หืม?” ผมเม้มปากแน่นก่อนจะมองหน้าชานยอลด้วยความสงสัยที่แทรกเข้ามา

    ฉันแค่อยากให้แกเลิกเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว สงสัยอะไรก็บอกฉันสิมือหนาลูบหัวของผมเบาๆ  อย่ากลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจ เพราะหัวใจของฉันมันยกให้ได้แค่แกผมเบะปากออกเล็กน้อย


     

    ชานยอล ..แกล้งกันหรอกหรอ น้ำตาของผมไหลออกมาแต่ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรสักนิด กลับโล่งใจและรู้สึกดีเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนขนนกบางเบา ฉันเครียดนะ ไอ้บ้าผมฟาดชานยอลอย่างที่ชอบทำ  ผมโดนแกล้ง ผมอาจจะโกรธถ้าเป็นคนอื่น แต่กับชานยอล.. มันไม่ใช่เลยสักนิด

     

    เพราะเค้าไม่เหมือนใคร .. ต่อให้พี่ยูราจะยิ้มแล้วเหมือนชานยอลแค่ไหน แต่เจ้าของรอยยิ้มแบบนี้ก็มีคนเดียว.. คนเดียวในใจของผม ปาร์คชานยอล ..

     

    หยุดร้องได้แล้วคนดี.. ชานยอลเกลี่ยน้ำตาออกจากหางตาของผมอย่างแผ่วเบาจนหยดน้ำสีใสเหือดแห้งไปราว กับมีมนตร์สะกด ทีนี้บอกได้แล้วหรือยังว่าเป็นอะไร ชานยอลกดผมให้นั่งลงบนเตียงเดี่ยวของตัวเอง ก่อนจะทิ้งน้ำหนักลงมาเช่นกัน

     

    ผมมองหน้าของชานยอลอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมา ตามด้วยการบอกทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ

     

    พอผมบอก ชานยอลก็ทำหน้าราวกับอยากจะทำร้ายตัวเอง ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแน่น จมูกโด่งกดลงบนกลุ่มผมของผมก่อนจะสูดดมกลิ่นแชมพูเข้าไปทำให้หัวใจของผมเต้น ตึกตัก

     
     

    แล้วคำตอบที่ได้รับกลับมาของคำ ถามที่ค้างคาใจของผม มันทำให้ผมอยากจะทึ้งหัวตัวเอง ที่เอาแต่กลัวไม่กล้าถาม ทั้งๆที่ความจริงมันไม่มีอะไร แต่ผมกลับจินตนาการไปไกล.. ชานยอลกับลู่หานไม่ได้มีอะไรกัน.. ลู่หานแค่ประชดเซฮุน แค่นั้น

     

     




     

    ที่จริงก็แค่หึงฉันกับเสี่ยวลู่ใช่ไหมล่ะชานยอลคนเดิมกลับมาแล้ว .. ผมเองก็ยิ้มออกมาได้แล้วเช่นกัน

    เปล่าสักหน่อย! ... ว่าแต่ เซฮุนกับลู่หาน..ผมไม่คาใจอะไรเรื่องชานยอลแล้ว แต่กลับเป็นห่วงเรื่องของเซฮุนกับลู่หานขึ้นมาแทน

     
     

     
     

    ตอนนี้อย่าพึ่งสนใจคนอื่นเลย.. เรื่องของเราน่ะ.. ชานยอลส่งนิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของผมเบาๆราวจะให้ผมหยุดพูด ก่อนจะไล้นิ้วไปทั่วริมฝีปากของผมเบาๆ

     

     

     

     

     

    ★★★★
     

    나도 몰래 그대에게로 조금씩 가까워지네

    ผมเองก็ขยับเข้าแนบชิดคุณมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

    이제는 말로 전할 사랑을 하고파

    ตอนนี้ผมอยากจะรักกับคุณจนไม่สามารถเอ่ยออกไปได้

    촛불이 꺼질 때까지 그댈 알고파

    อยากจะรู้จักคุณจนกว่าเปลวเทียนนั้นจะมอดดับไปจนหมด

     

    ★★★★

     
     

     

    แบคฮยอน รักนะ จบคำนั้นชานยอลก็กดจูบลงมาที่หน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนจูบจากเปลือกตาลงมารวมถึงแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆกดจูบลงมาที่ริมฝีปากผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามด้วยทาบริมฝีปากลงมาอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ลิ้นร้อนจะส่งเข้ามาในโพรงปากผมอย่างต้องการจะกวาดชิมความหวานในโพรง ปากทุกตารางนิ้ว ผมได้แต่หดลิ้นหนีลิ้นหนาของชานยอลที่กำลังส่งเข้ามาหยอกล้อ มือแกร่งของชานยอลยกตัวผมขึ้นมาวางบนหน้าตักของตัวเอง ทั้งๆที่ยังไม่ผละริมฝีปากออกไปด้วยซ้ำ จูบยาวนานของชานยอลทำผมแทบจะไม่มีแรงส่งตัวเลยต้องส่งแขนทั้งสองข้างไปช้อน ตัวชานยอลอีกเช่นเคย

                 
    อือิม.. ชานยอลส่งเสียงครางอย่างพอใจในลำคอเมื่อผมเริ่มที่จะเรียนรู้และจูบตอบไป อย่างอ่อนโยนตามที่ได้สัมผัสมาก่อนที่ลิ้นร้อนของชานยอลจะเร่งจังหวะเพิ่ม อุณหภูมิในโพรงปาก และจังหวะการเต้นหัวใจของผมด้วยจูบที่ร้อนแรงยิ่งกว่าเดิมจนผมไม่สามารถสู้ ได้เลย






     

     -----ตัดฉึบละจ้าาาาาา-------

    เเอร๊วววววววว ลิ้งอยู่ในไบโอทวิตนะ
    www.twitter.com/chanbaek_92
    @ChanBaek_92

     

     














     

     

     

            “ชานยอลอ่า..แบคฮยอนซุกตัวเข้ามาในอ้อมกอดของผมเช่นกันก่อนจะผลักหมอนออกให้พ้นทางแล้วใช้แขนแกร่งของผมเป็นที่รองรับแขนของตัวเอง

     

                    ทำไมน่ารักแบบนี้นะแบคฮยอน น่ารักซะจนผมอยากจะรักอีกหลายๆรอบ

     

     

    ว่าไง..ครับคนดี?”

     


     

    ฉันรักชานยอลนะ..กับคำพูดน่ารักๆของแบคฮยอนทำให้ผมยิ้มออกมาก่อนจะกระชับกอดให้แน่นกว่าเดิม
     

    รักแบคฮยอนเหมือนกัน.. เผลอๆมากกว่าด้วยซ้ำ

     
     

     

    “..แบคฮยอนอ่าผม ถามพร้อมกับลูบหลังของคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด รออยู่นาน แต่ก็ไม่ยินเสียงตอบกลับของคนข้างกายพอหันไปมองใบหน้าหวานก็หลับตาพริ้ม พร้อมกับแผ่นอกบางที่มีรอยแดงอยู่ประปรายที่ขึ้นลงเป็นจังหวะ บอกผมได้ว่าคนตัวเล็กได้เข้าสู่นิทราไปเรียบร้อยแล้ว

     

     

    กำลังนอนฝันเรื่องอะไรนะ แต่ผมรู้นะว่าในฝันของแบคฮยอนต้องมีผมอยู่แน่ๆ เพราะรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่ที่มุมปากของแบคฮยอนตอนนี้ไงล่ะ..  J




     

     

    I just wanna be with you

    I just wanna be with you my love..

     

    TBC

    ★★★★

     

    :) Shalunla

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×