ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้วว} [★ Fic exo ★ ChanBaek]Love of a friend (ft.HH KD)

    ลำดับตอนที่ #10 : [★ Fic exo ★ ChanBaek] Ch 9 : (HunHan) Pain&The Past Sehun’s memories

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 57


    :)  Shalunla

     

    Love of a friend

    Chapter 9:

    HunHan

    Pain&The Past
     

    Sehun’s memories

     

    B.A.P - coffee shop

     

     

    없이 사는 니가 생각났지

    ทำไมถึงต้องมาคิดถึงนายที่ยังดูสบายดีเมื่อไม่มีฉัน

    ★★★★

     

     

    ซะ..เซฮุนผมเบิกตาของตัวเองกว้างขึ้นกว่าเดิม เมื่อเซฮุนเดินกลับมาแล้วกระชากผมออกจากชานยอลอย่างแรง

     

     

     

    จะทำอะไรวะไอ้ฮุนผมหันไปมองทางชานยอลอย่างขอความช่วยเหลือ

     

     

     

    มึงเงียบไปเลยไอ้ยอล มึงไปดูไอ้ลูกหมาของมึงนู่น

     

     

    มึงจะพาลู่หานไปไหน

     

     

    เรื่องของกู กูแนะนำเลยนะ มึงไปทำอะไรให้มันถูกต้องสักทีเถอะ แบคฮยอนเจ็บมากขนาดไหน มึงสนใจบ้างเถอะ

     

     

     

    แต่...ผมส่งสายตาขอร้องชานยอลที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

     

     

     

     

    ฉันเจ็บนะเซฮุน ปล่อยฉัน!!

     

    หุบปากไปซะเสี่ยวลู่หาน นายมานี่เลยจากนั้นผมก็โดนเซฮุนกระชากแขนมา หลังจากฉุดกระชากลากถูกันอยู่นานผมก็รู้สึกเหมือนไม่มีแรงเหลือ เลยยอมเดินตามเซอุนแต่โดยดี

     

     

     

     

    เดินตามดีดีตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องเจ็บตัวแล้วใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ข้อมือของผมมีรอยแดงที่ชัดเจนมาก รู้สึกเหมือนกระดูกข้อมือของตัวเองจะแหลกคามือของโอเซฮุน

     

     

     

    โอ้ย!! ฉันเจ็บนะผมร้องเมื่อเซฮุนเหวี่ยงผมลงกับพื้นหญ้า ตรงนี้น่าจะเป็นสวนหลังโรงเรียน ผมเคยได้ยินชานยอลพูดบ่อยๆ ว่าชานยอลกับแบคฮยอนชอบมานอนเล่นตรงนี้

     

     

    เจ็บหรอ นายทำตัวเองทั้งนั้นเสี่ยวลู่หาน ทำร้ายตัวเองไม่พอนายยังทำร้ายแบคฮยอนด้วย ทำไมนายเป็นคนแบบนี้ไปได้ล่ะผมอยากจะต่อยโอเซฮุนมากจริงๆ แต่ตอนนี้แค่แรงจะยืนผมยังไม่รู้ว่าจะไปหามาจากที่ไหน

     

     

     

    เพราะอะไรหรอเซฮุน... เพราะนายไง เพราะฉันรักนายไงเซฮุน!!!

     

    รัก...งั้นเหรอ?” เซฮุนทวนคำด้วยเสียงแผ่วเบาในลำคอ ผมมองไปที่ใบหน้าขาวๆแสนหล่อเหลาของเซฮุนก็พบว่าตอนนี้มีน้ำตาเอ่อคลออยู่ที่รอบดวงตาคู่สวยย

     

     

     

    เหมือนนายจะลืมอะไรหลายๆอย่างไปนะเสี่ยวลู่หาน ถึงได้เอาคำว่ารักบ้าๆของนายมาใช้กับฉัน ไม่แล้วล่ะมันไม่ได้ผลแล้ว

     

    ฉันไม่เข้าใจเซฮุน...นายรอฉันแค่นั้นนายรอไม่ได้หรอ... นายหนีฉันมาทำไมผมกลืนก้อนแข็งๆที่หนักอึ้งลงคอไป ไม่อยากจะร้องไห้ต่อหน้าโอเซฮุนสักเท่าไหร่ ไม่ได้อยากมองว่าทำตัวเองให้น่าสงสาร ไม่อยากได้ยินคำที่ออกจากปากโอเซฮุนมาประมาณว่าผมแกล้งบีบน้ำตา...

     

     

    รองั้นเหรอ รอให้นายไปมีความสุขกับไอ้บ้านั่น แล้วฉันต้องนั่งรอแบบคนโง่คนนึงเนี่ยนะ

     

    ฉันบอกนายแล้วไงเซฮุนว่ามันไม่มีอะไร... ฉันรักนายนะเซฮุน เชื่อฉันบ้างสิผมบอก.. อ่อนแรงเหลือเกินกับสายตาเหยียดๆและแสนจะเย็นชาของคนที่ผมรัก

     

     

     

     

     

    ผมไม่ได้ย้ายจากบ้านเกิดของตัวเอง มาตะลอนตามหาเซฮุนในเกาหลีเพื่อมาเจอสายตาและความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ ผมอยากจะเจอเซฮุนคนเก่า คนนั้น คนที่มักจะมีรอยยิ้มให้ผมเสมอ ผมอยากจะเจอ อยากปรับความเข้าใจความรู้สึกผิดและสับสนค้างคาอยู่ในใจผมมานานกว่าสองปี ผมร้องไห้ทุกวันจนรู้สึกชินชาที่จะร้อง... ผมร้องด้วยความคิดถึง ความไม่เข้าใจ

     

     

     

     

     

     

    ที่ฉันต้องเจ็บแบบนี้ ไม่ใช่เพราะคำว่ารักที่ออกมาจากปากพล่อยๆของนายเหรอ หึ! ไม่สิ เพราะฉันมันโง่เองแหละที่หลงเชื่อ.. โง่เองทั้งนั้น

     

    แล้วฉันไม่เจ็บหรอเซฮุน!!  นายไม่รู้เลยใช่ไหมตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ความสุขของฉันมันเกิดมาจากนาย นายคนเดียว ไม่ใช่พี่คริส ไม่ใช่ใคร .... พอนายหายไป เหมือนพระเจ้าได้เอาความสุขของฉันไป ไม่เหลือ... ไม่มีเลยเซฮุนผมปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมามองลึกเข้าไปในดวงตาของเซฮุนที่ผมยังคงรักไม่เคยเปลี่ยน ผมไม่ได้อยากจะอ่อนแอให้เซฮุนเห็น ผมไม่รู้แล้วว่าจะห้ามอาการพวกนี้ยังไง

     

     

     

     

    ผมจำความรู้สึกตอนที่ผมฝืนยิ้มอย่างสดใสให้ทุกคนไม่ได้

     

     

     

     

    ผมจำไม่ได้ว่าผมทำหน้าแบบไหนให้คนที่เป็นห่วงผมสบายใจ...

     

     

     

    เมื่อได้สบสายตากับผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนเมื่อไหร่... ความเข้มแข็งที่พยายามสร้างขึ้น ความสุขที่สะสมมา มันทลายหายไปในพริบตาเดียว

     

    นายทำมันได้ยังไงกันนะ โอเซฮุน!?

     

     

    เลิกพูดให้ตัวเองดูดีเถอะ มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ...เสี่ยวลู่หาน

     

    ฉันอาจจะเคยโกหกเรื่องอื่นกับนาย... ใช่ฉันยอมรับว่าฉันโกหก แต่คำว่ารัก... คำว่าฉันรักนายที่ออกมาจากปากของฉัน มันไม่ใช่คำโกหก!

     

     

     

    :::Oh Sehun:::

     

     

    รัก... งั้นเหรอ??

     

    ทำไมคนตัวเล็กตรงหน้าถึงได้พูดคำนี้ออกมาง่ายดาย... ง่ายซะจนผมไม่สามารถที่จะเชื่อได้เลย ว่ามันเป็นความจริง จากบทเรียนที่ผมได้รับ ความทรงจำที่ผมไม่เคยลืม

     

     

    ความทรงจำของไอ้โง่ โอเซฮุน.....

     

     

     

    ทุกภาพทุกเหตุการณ์ไม่เคยจางหายไปกับกาลเวลา ไม่ว่ามันจะผ่านมานานสักเท่าไหร่ ผมก็ไม่สามารถลบภาพที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยวลู่หานคนนี้ได้เลย ผมไม่เคยทำได้ ทุกๆเรื่องที่ทำด้วยกัน ทุกๆความทรงจำที่มีผมกับเสี่ยวลู่หาน มันยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ทุกสัมผัส ทุกคำว่ารักที่เคยพร่ำบอก แต่ก็นะ เรื่องดีดีผมก็จำ แต่เรื่องที่เสี่ยวลู่หานทำร้ายผม ผมกลับจำมันได้ดียิ่งกว่า...

     

    อยากจะเกลียด อยากจะเลิกรัก เคยคิดว่าไม่ได้คิดอะไรด้วยแล้ว แต่พอได้สบสายตาลูกกวางแสนหวานที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ หัวใจของผมก็กระตุกวูบ

     

     

    เวลาและระยะทาง ไม่ได้ช่วยอะไรโอเซฮุนเลย...

     

     

    ★★★★

     

     

    아직 잊지 못해서우리 기억이 남아서

    ผมยังไม่สามารถลืมคุณได้ ความทรงจำของเรานั้นมันยังคงอยู่

     

     

    ผมไม่เคยลืม... โอเซฮุนคนนี้ไม่เคยลืม ว่าครั้งแรกที่ได้สบตากับเสี่ยวลู่หาน ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงหวานๆนั่น ครั้งแรกที่มือได้สัมผัสกัน ครั้งแรกที่ริมฝีปากบางของตัวเองได้แนบสนิทกับริมฝีปากสวยนั่น มันรู้สึกแบบไหน ทุกความรู้สึกและความทรงจำยังตราตรึงอยู่ในใจ

     

     

    วันนั้น... ที่เฉิงตู  บ้านของคนที่แม่แท้ๆของผมตัดสินใจแต่งงานด้วย เห็นว่ามันเป็นความสุขของแม่ ผมเลยไม่ได้คัดค้าน แล้วด้านพ่อเลี้ยงของผม อู๋ อี้ฟง  ก็ไม่ใช่คนไม่ดี ผมเลยต้องย้ายจากเกาหลีตามแม่มาอยู่กับเค้าที่นี่

     

    ที่คอฟฟี่ชอปเล็กๆน่ารักๆของฮวังจื่อเทา  ... เจ้าแพนด้าที่ชอบตามผมไปทุกที เพราะเหตุผลแค่ว่า มันอยากมีเพื่อนแบบผม ตลกชะมัด

     

     

    “ไอ้ฮุน อย่าพึ่งกลับเถอะ ฝนมันตกไม่เห็นหรือไง” ผมไม่ได้มองหน้าคนพูด ตอนนี้สายตาของผมมองลอดผ่านกระจกใสใส ไปที่บริเวณนอกร้าน สายฝนเทลงมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่แรงมาก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบาลงหรือรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

     

    ต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า และทุกอย่างข้างนอกถูกสายฝนซึมซาบไปทั่ว ให้ความรู้สึกเย็นสบายแปลกๆ ขัดกับบรรยากาศข้างใน ที่ถูกความอบอุ่นจากฮีทเตอร์ที่ติดอยู่ทั่วร้าน แผ่ปกคลุมไปทั่ว

     

    ผมยกชานมไข่มุกในมือขึ้นมาดูดเพลินๆ อย่างรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศแบบนี้ ขณะที่สายตาของผมยังกวาดไปทั่วบริเวณ

     

    ผมมองไปที่ทางเดินใกล้ๆกับร้านของเพื่อนแพนด้าของตัวเอง เห็นใครคนหนึ่งที่กำลังเดินมาทางนี้ ร่างบางในชุดนักเรียนที่เริ่มบางเพราะถูกสายฝนซึมซาบไปทั่วทุกอณู ผมสีส้มๆที่เปียกน้ำลู่ลงมากับใบหน้าหวาน ดวงตาที่กระพริบถี่ๆเพื่อริมฝีปากที่เม้มแน่นเข้าหากัน จมูกโด่งรั้นเล็กๆที่เริม่ขึ้นสีแดง อาจเพราะความหนาวเย็นของอากาศข้างนอก

     

    ถึงจะบอกว่าใกล้ แต่มันก็ไม่ได้ใกล้ขนาดนั้น แต่ที่ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมร่างบางที่เปียกปอนถึงได้ชัดเจนในสายตาผมขนาดนี้

     

    ตึก ตึก ตึก

     

    เหมือนหัวใจของผมเต้นแรง...และผมก็ไม่ใช่คนโง่ ที่จะได้ไม่รู้ว่า ถ้าได้รู้จักันมากกว่านี้ ร่างบางตรงนั้นจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผม

     

    ใกล้.. ใช่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใบหน้าร่างกายบอบบางของคนคนนั้น ใกล้เข้ามาอีกแล้วในสายตาของผม  ยิ่งผมเห็นใบหน้าสวยนั่น ยิ่งตอนนี้ที่สายตาคู่สวยกำลังมองมาทางผมเช่นเดียวกัน ผ่านกระจกใสใสผ่านหยดน้ำที่หล่นลงมาใส่ใบหน้าของร่างบาง หัวใจของผมก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีใครมาเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจ ไม่ใช่จังหวะที่เต้นโครมครามทันที.. แต่มันค่อยๆ แรงขึ้น แรงขึ้น และ..

     

    “อ่าแค่กๆ  อ่ะ แค่กๆ”  ผมอาจจะลืมไปในบางที ว่าผมกำลังดูดชานมไข่มุกอยู่ เพราะผมแทบจะลืมหายใจตอนที่ได้สบตากับคนคนนั้น แล้วพอรู้ตัวอีกทีสติของผมก็ไปอยุ่ที่ไข่มุกที่ติดคอผม แอบดีใจที่มันไม่เข้าไปอุดอยุ่ในหลอดลมผม แล้วทำให้ผมขาดใจตาย

     

    เพื่อนแพนด้าของผมที่เดินมา ยิ้มอย่างขำๆ มันเห็นหมดแล้วสินะ ผมแยกเขี้ยวใส่มันที่กำลังเดินเทกแคร์ลูกค้าไปทั่วร้าน มันยักไหล่ให้ผมทีนึง ก่อนที่ผมเองตะเป็นฝ่ายเลิกสนใจมันแล้วมองกลับไปที่เดิม

     

     

    ไม่มีแล้ว... คนสวยคนนั้นหายไปแล้ว เพราะชานมไข่มุกเลยทีเดียว ถ้าไม่ติดว่าชอบกินผมอาจจะงดกินมันไปทั้งอาทิตย์

     

    ผมกวาดสายตามองหาไปรอบๆ นึกอยากมีคอที่ยาวเหมือนยีราฟ จะได้มองเห็นที่ไกลๆได้  แต่แล้วผมก็ไม่อยากจะคอยาวแบบยีราฟแล้วล่ะ

     

     

    แฮ่ !!

     

    “เฮ้ย!!!”  จู่ๆ ใบหน้าสวยๆของคนที่ผมเฝ้ามองเมื่อกี้ ก็มาปรากฏในสายตาผม ห่างกันเพียงแค่กระจกกั้น  ผมแทบจะตกจากเก้าอี้ และเอาชานมไข่มุกในมือปาใส่คนข้างนอกที่แกล้งทำให้ผมตกใจ ด้วยการกระโดดมาร้องแฮ่แข่งกับเสียงสายฝน เหมือนหลอกผีใส่หน้าผม แล้วไม่พอ เมื่อเห็นปฏิกริยาของผมแบบนั้นแล้วยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และหัวเราะเหมือนเด็กๆอีก  

     

     

    นาย มองฉันทำไมหรอเมื่อกี้ ?

     

    ร่างบางที่อยู่อีกฝั่งของกระจก พ่นลมหายใจร้อนๆใส่กระจกแล้วใช้มือเขียน ผมแอบทึ่งนิดหน่อย ที่เค้าเขียนหนังสือกลับหัวได้คล่องแคล่วทีเดียว ผมที่อยู่อีกฝั่งของกระจกเลยเห็นเป็นตัวอักษรธรรมดา ไม่ได้กลับหัวแบบที่ควรจะเป็น

     

    ผมจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ที่สุกใสเหมือนดวงดาวในตอนกลางคืน เมื่อจังหวะของหัวใจของผมเริ่มจะเต้นเรเงขึ้นเรื่อยๆอีกครั้ง ผมไม่รออะไรอีกแล้ว

    สองขาของผมวิ่งออกไปข้างนอกร้านทันที ไม่สนว่าตัวเองจะเปียกหรือเปล่า

     

    “ฉันชื่อเซฮุนนะ โอเซฮุน... นายชื่ออะไร” ผมบอกและมองใบหน้าสวย ตอนนี้ไม่มีกระจกหรืออะไรมากั้นแล้ว จะมีก็แค่หยดน้ำที่ทำให้ตาของผมพร่ามัวไปบ้าง แต่สเน่ห์ดึงดูดของคนตรงหน้าไม่ได้ลดลงไปเลย  อีกอย่างผมสูงกว่าคนตรงหน้าอยู่พอสมควรล่ะนะ

     

    “ฮะๆ เปียกหมดเลย นายไม่น่าวิ่งออกมาเลยนะ” มือเล็กๆขาวๆของคนตรงหน้า เอื้อมขึ้นมาลูบใบหน้าของผม เหมือนพยายามจะเช็ดน้ำออกให้ แต่เค้าอาจจะลืมไปว่ามือของตัวเองก็เปียกอยู่  “เซฮุนสินะ” ริมฝีปากสีสวยขยับไปมา ก่อนจะยกยิ้มน่ารักๆ จนหัวใจของผมจะระเบิดออกมาให้ได้  ผมใช้มือแกร่งของตัวเองกุมมือเรียวเล็กที่ขาวซีดและเย็นเฉียบจากการที่โดนน้ำฝนมานาน อย่างต้องการจะส่งผ่านความอบอุ่นไปให้

     

    “ลู่หาน เสี่ยวลู่หาน ชื่อของฉัน J ”  

     

    ลู่หานยกยิ้มสดใสให้ผมอีกที ก่อนที่ผมจะดึงร่างบางของคนตรงหน้าเข้ามาในร้าน อย่างไม่สนว่าร้านของเพื่อนแพนด้าจะเปียกหรือเลอะอะไรก็ตาม ตอนนั้นผมรู้สึกแค่ว่า ผมจะไม่ปล่อยให้ลู่หานต้องเปียกอีกแล้ว ถ้าจะเปียกก็จะต้องเปียกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของผมเท่านั้น . . .

     

    “นายก็เรียนที่เดียวกันหรอ ชั้นปีเดียวกันด้วย ฉันอยู่ห้อง A นะ นายล่ะ” ลู่หานที่พึ่งจะจัดการเช็ดผมตัวเองแห้งพูดกับผมที่กำลังจ้องใบหน้าขาวๆอย่างละสายตาไม่ได้

     

    “เซฮุน.. เซฮุนนี่ เซฮุน!!!” ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆลู่หานก็ส่งเสียงดัง พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ

     

    “อ่ะ หะ เออ ใช่ ฉันอยู่ห้อง G น่ะพึ่งย้ายมาเรียนที่นี่ นายคงเรียนเก่งน่าดูสินะ” เพราะห้องเอน่ะรวมหัวกระทิของโรงเรียนไว้เลยไง 

     

    ตั้งแต่วันนั้น วันที่เราพบกันครั้งแรก ในวันที่ฝนตกลงมา เราเรียนรู้ซึ่งกันและกันไปเรื่อยๆ เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ในวันหยุด ไปกินข้าวด้วยกันบ้างที่โรงเรียน  ลู่หานเป็นคนน่ารัก อารมณ์ดี นิสัยดี เรียกรอยยิ้มจากใบหน้าเฉยชาของผมได้เสมอ เวลาก็ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ แต่ทำไมถึงเกิดความรู้สึกผูกพันธ์กับลู่หาน อยากอยู่ใกล้ .. . . ทุกๆอย่าง พร้อมกับจังหวะของหัวใจของเราที่เริ่มค่อยๆเต้นตรงกันในความคิดของผม

     

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หัวใจของเด็กอายุ 16 แบบผมเต้นแรงได้ทุกครั้งเมื่อเห็นรอยยิ้มสวยๆจากใบหน้าที่ผมหลงใหล  ผมมักจะยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า ทุกเวลาที่คิดถึงเรื่องเกี่ยวกับลู่หาน แค่มองไปที่ท้องฟ้า ผมก็มักจะนึกถึงใบหน้าที่สดใสราวกับดวงอาทิตย์ที่คอยส่องแสงในใจของผม

     

     

    “ลู่หาน... เราเป็นแฟนกันไหม?” ผมไม่รู้เลยว่าคนที่มักจะมีความมั่นใจกับทุกเรื่องอย่างผมทำไมถึงเก้ๆกังๆ ที่จะพูดคำนี้ออกไป เสี่ยวลู่หานคนนี้ ทำให้ผมหมดความมั่นใจในตัวเอง ผมเสียการควบคุม

     

    “คือ... เอ่อ... รอเราก่อนนะเซฮุน เราขอเวลาก่อนนะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของผมหายไป พร้อมกับใบหน้าหวานที่แสดงออกถึงความกังวลของลู่หาน

     

    “หมายความว่ายังไง... นายไม่ได้รู้สึกเเบบเดียวกับฉันเหรอลู่หาน..” มือของผมเหมือนไร้เรี่ยวแรงในตอนนั้น ผมแทบจะเรียบเรียงคำถามมากมายที่อยู่ในใจไม่ไหว

     

     

    “ไม่ใช่นะเซฮุน ฉันแค่อยากให้เวลาฉันสักพัก ถ้าความรู้สึกที่อยู่ในใจนายมันคือคำว่า รัก แล้วล่ะก็ ความรู้สึกของเรามันตรงกันนะเซฮุน... รอฉันก่อนนะ”  คำว่ารักของลู่หานมันทำให้หัวใจของผมที่แห้งเหี่ยวพองโตขึ้นอย่างแทบจะหายใจไม่ทัน เหมือนลูกโป่งที่สูบลมเข้าไปจนเต็ม

     

    “รอฉันก่อนนะ”

     

     

    “ได้สิลู่หาน ให้รอทั้งชีวิต ฉันก็รอได้ อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นอีกนะ” ผมบอกพร้อมกับดึงแก้มของร่างบางตรงหน้าเบาๆ ก่อนที่รอยยิ้มสดใสจะกลับคืนสู่ใบหน้าสยอีกครั้ง

     

    แม้ผมจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ว่าเรื่องระหว่างเราจะต้องรออะไรอีก ในเมื่อความรู้สึกของเราตรงกัน ลู่หานรักผม และผมเองก็รักลู่หาน... รักมาก แต่ก็นะ เพื่อนลู่หานที่ผมรัก ผมจะไม่ถามไม่เซ้าซี้ ลู่หานคงมีเหตุผล และมันก็คงจำเป็นมาก

     

    อีกอย่าง.. อันที่จริง ระหว่างเราสองคน มันไม่ต้องมีสถานะก็ได้ไง แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็มีความสุขดี ผมมีความสุข ทุกวินาทีที่มันเสี่ยวลู่หานคนนี้อยู่ข้างกาย... ระหว่างเรา มันเกินคำว่าเพื่อนมาไกลมากแล้วในความรู้สึกของผม แต่เพราะเรายังไม่ได้คุยกันเรื่องคำว่าแฟน ผมเลยตัดสินใจเอ่ยมันออกมา

     

     

     

     

    “เซฮุน ลงมากินข้าวเร็ว วันนี้พี่คริสเค้าพาแฟนมาด้วย” เสียงของแม่ทำให้ผมที่กำลังอาบน้ำอยู่ยกยิ้มขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

     

    พี่คริส หรือ อู้อี้ฝาน ลูกติดของ คุณพ่อคนใหม่ของผมเนี่ยนะมีแฟน วันๆเห็นเฮียแกเอาแต่หมกตัวอยู่กับการเรียน เพราะพี่แกเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ ถึงแม้พี่คริสจะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของผม แต่พี่คริสก็รักผมเหมือนน้องชาย เช่นเดียวกับผมเองที่รู้สึกชอบพี่คริสอยู่ไม่น้อย

     

     

    “ไหนครับ แฟนพี่คริส ผมอยากเห็นใจจะข....” เหมือนคำพูดของผมถูกกลืนหายเข้าไปพร้อมกับลมหายใจเข้าออกของผม ขาของผมชะงักทันที พร้อมกับแววตาไม่เข้าใจ ที่ผมรู้ว่ามันคงจะฉายออกมาในตาผมอย่างชัดเจน

     

     

    คงไม่ใช่มั้ง...

     

    ผมได้แต่บอกตัวเองในใจ เมื่อได้สบสายตาแปลกๆของร่างบางตรงหน้า... ใบหน้าที่ผมหลงใหล ใบหน้าที่ทำให้หัวใจของผมเต้นระรัว และพองโตเหมือนลูกโป่ง

     

     

    “มาสิเซฮุน นี่ลู่หาน แฟนพี่เอง รุ่นเดียวกับนายเลยนี่ อยู่โรงเรียนเดียวกันด้วยสินะ เคยเจอกันบ้างหรือเปล่า” พี่คริสบอกพร้อมกับเลื่อนมือของตัวเองไปกุมมือของลู่หานเอาไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะยิ้มให้กัน แม้ผมจะเห็นแววตาเศร้าๆของลู่หานก็ตาม... แต่ความรู้สึกตอนนี้มัน..

     

    “ไม่เคยเห็นหน้า..เลยฮะ พี่คริส.. ฉะ.. ฉันลู่หานนะ...ยะ.. ยินดีที่ได้รู้จัก” เสียงสั่นๆของคนตรงหน้า กับคำพูดที่ทำให้หัวใจที่เหมือนลูกโป่งที่พองจนเต็มที่ แล้วแตกกระจายของผมสั่นไหว แต่ก็ไม่เท่ากับความไม่เข้าใจ

     

     

    ใครก็ได้ บอกผมทีสิ... ว่ามันไม่จริง

     

    หลังจากมื้ออาหารอันน่าอึดอัด มื้ออาหารที่ผมเอาแต่ก้มหน้า ฟังเสียงหัวเราะของพ่อ แม่ พี่คริส.. และลู่หาน.. ไม่สิ แฟนของพี่คริสต่างหาก  จะมีใครสักคนหันมาสนใจและเห็นผมบ้างไหม ว่าวันนี้ ผมกินข้าว..กับน้ำตา ลู่หานจะเห็นบ้างไหม ว่าน้ำตามันหยดลงไปในจานข้าวที่ผมก้มมอง... ไม่หรอกเนอะ

     

    ★★★★

    Monday, Tuesday, Everyday...

    วันจันทร์..วันอังคาร.. ทุกๆวัน

    그럭저럭 잘지내

    ผมยังทนอยู่ได้ ผมไม่เป็นอะไร

     

     

     

    ผมหลบหน้าของลู่หานตั้งแต่วันนั้น ผมปิดโทรศัพท์ของตัวเอง ไม่ไปคอฟฟี่ชอปของจื่อเทา เลี่ยงทุกที่ที่คิดว่าจะเจอเสี่ยวลู่หานในโรงเรียน และทุกๆที่  แต่วันนี้. . . มันคงจะถึงเวลาที่ผมจะเผชิญหน้าแล้วจริงๆ

     

    ร่างบางทีเดินมาหยุดตรงหน้าผม โผเข้ากอดผมทั้งน้ำตา ทำให้หัวใจผมอ่อนยวบยาบกับทุกๆอย่าง ผมไม่ได้ขัดขืน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

     

    “อย่าเงียบแบบนี้สิเซฮุน... อย่าหายไปแบบนี้ ฮึก”

     

    “ขอโทษที่ไม่ได้บอก..ว่าฉันกับพี่คริส... ฮึก เพราะฉันกลัวว่านายจะเป็นแบบนี้..ขอโทษเซฮุน”

     

    “นาย..รู้มาตลอดว่าฉันเป็นอะไรกับพี่คริสหรอลู่หาน” ผมจับไหล่ของลู่หานที่กอดผมอยู่ไว้แล้วดันดันร่างบางออกมามองหน้ากัน

     

    “ไม่ใช่นะ ฉันก็พึ่งรู้... แต่ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันรักนายเซฮุน.. รอฉันก่อนนะ.. ฉันจะบอกเลิกพี่คริส”

     

    “แล้วก็มาคบกับฉันอย่างนั้นเหรอ... นั่นมันพี่ชายฉันนะลู่หาน” ผมมองใบหน้าสวยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารด้วยความไม่เข้าใจ

     

                “แต่ฉันไม่ได้รักพี่คริส...”

     

     

    “และเราก็รักกันไม่ใช่หรอเซฮุน...” คำว่ารักของลู่หานทำให้หัวใจของผมแกว่ง... ถ้าเป็นลู่หาน ต่อให้ต้องทรยศพี่คริส... ผมทำได้

     

    “พี่คริสจะต้องเข้าใจนะเซฮุน... รอฉันก่อนนะ”

     

    แค่คำว่ารักของนาย... ฉันก็ยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว เสี่ยวลู่หาน...

     

    ริมฝีปากของลู่หานที่ทาบทับกับริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบา ไร้การรุกล้ำใดใด อย่างต้องการจะให้ผมมั่นใจ.. แต่ผมไม่เคยอดใจได้สักครั้งเวลาสัมผัสกับริมฝีปากนุ่มๆของลู่หาน ผมแทรกลิ้นร้อนของตัวเองเข้าไปกวาดหาความหวานในโพรงปากเล็กๆของคนที่ผมรักอย่างหมดใจ ค่อยเลื่อนมือของลู่หานให้คล้องคอผมเอาไว้ เพราะกลัวอีกคนจะเข่าอ่อนแล้วล้มพับไปเหมือนทุกที อย่างอ่อนโยน

    “ฮื่อ..ฮะ..ฮุน” แล้วค่อยๆเพิ่มความร้อนแรงขึ้นมา จับใบหน้าเล็กไว้อย่างแผ่วเบาอย่างต้องการปรับองศาให้ลู่หานเอียงรับจูบจากผม เมื่อลิ้นเล็กของคนตรงหน้าเริ่มตอบสนองและหยอกล้อกันกับลิ้นของผมอย่างขี้เล่น ผมดูดดันลิ้นเล็กเล่นอย่างอารมณ์ดี

    “อื้อ...” ลู่หานเริ่มทุบอกแกร่งของผมเบาๆ เมื่ออากาศที่เก็บไว้หายใจไม่มีอีกแล้ว

     

    “ฉันรักนายจริงๆนะ เซฮุน...”

    ผมอาจจะใจร้อนไปหน่อย ไม่ได้ให้เวลาใครเลย แต่เเล้วผมล่ะ ผมเองก็รอมานานแล้วนะ ผมปล่อยเวลาผ่านไปนานกว่านี้ไม่ได้แล้วเหมือนกัน

     

     

    ผมขอโทษนะพี่คริส... ขอโทษที่ผมเห็นแก่ตัว.. แต่ผมกับลู่หานเรารักกัน

     

     

     

    “พี่คริส... เอ่อ.. เรา..เลิกกันไหม?” ผมยืนมองทั้งสองคนผ่านช่องแคบๆของประตู

     

    เสียงสนทนาของทั้งคู่แผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนแทบจะไม่ได้ยิน ... แต่นี่มันเป็นครั้งแรก ที่ผม.. ที่ผมเห็นน้ำตาของพี่คริสที่แสนจะเข้มแข็ง...

     

    “ไม่เลิกไม่ได้หรอ..อาลู่...”

     

    “รักคนไปอื่นแล้วหรอ...” ผมไม่ได้ยินเสียงใดใดจากปากของเสี่ยวลู่หานที่ผมรัก และหวังจะได้ยินคำตัดรอนอย่างไร้เยื่อใย ได้ยินแต่น้ำเสียงน่าสงสารของคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชาย แต่ไม่มีความเห็นใจอยู่เลยสำหรับผม...

     

    ตอนนี้ คำว่ารัก และความเห็นแก่ตัวมันบดบังจิตใจของผมไปหมดแล้วล่ะ

     

    “พี่รักนายนะอาลู่...อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ...” ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อลู่หานพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับร้องไห้ออกมา ตามด้วยการที่พี่คริสเป็นฝ่ายประกบปากลงไปบนปากริมฝีปากสีสวย ที่ผมหวังจะได้เป็นเจ้าของและครอบครองมันคนเดียว

     

    การที่ลู่หานไม่ขัดขืน มันเป็นคำตอบอย่างดีเลยล่ะ... เป็นคำตอบว่าเค้าทิ้งพี่คริสไม่ได้...

     

    น้ำตาของผมไม่ไหลออกมา และมันปวดหนึบไปหมด... ไหนลู่หานบอกว่าจะเลิกกับพี่คริสไง.. ไหนบอกว่ารักผมไง... แล้วไหนล่ะ..

     

    ไหนล่ะ... สิ่งตอบแทนจากคำว่ารักของผมที่มอบให้ลู่หาน ไหนล่ะ คำว่ารักของลู่หานมันมีอยู่จริงๆใช่ไหมความรู้สึกที่ลู่หานเอาแต่พร่ำบอกผม

     

    สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจผมคือคำว่ารัก... แต่มันก็ไม่เคยมีค่าอะไรเลยสินะ ลู่หานจะทิ้งพี่คริสที่แสนดี มาหาคนเห็นแก่ตัวแบบผมได้ยังไง..

     

    วินาทีนี้ ความรู้สึกผิดต่อพี่คริสถาโถมเข้ามาหาผมอย่างมากมาย พี่คริส ที่แม้จะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ แต่พี่เค้าก็แทบจะยกทุกอย่างให้กับผมตั้งแต่วันที่ผมก้าวเข้ามาอยู่ในบ้าน... พี่คริสที่ใจดี พี่ชายที่เข้าใจผมทุกเรื่อง และช่วยเหลือผมมาตลอด

     

    ผมมันเห็นแก่ตัว ผมมันคนเห็นแก่ตัว... คนเห็นแก่ตัวแบบผมไม่สมควรจะอยู่ให้พี่คริสเห็นอีกแล้วล่ะ

     

     

     

     

    “แม่ครับ... ผมอยากกลับเกาหลี...”  

     

     

    ตั้งแต่ที่ผมพูดคำนั้นออกไปให้แม่ฟัง ผมรู้แล้วล่ะ ว่าตัวเองตัดสินใจที่จะกลับบ้านเกิดของตัวเอง กลับไปในที่ที่ผมจะไม่ต้องมองหน้าพี่คริสแบบรู้สึกผิด... มันไม่สนิทใจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว.. ไม่เลย

     

     

     

    กลับไป... กลับไปในที่ที่ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเสี่ยวลู่หาน...

     

    ★★★★

     

     

    ผมแค่นหัวเราะทั้งๆที่น้ำตามันไหลออกมา เมื่อคิดถึงเรื่องบ้าๆ คำว่ารักบ้าๆ ความเห็นแก่ตัวของตัวเอง น่าสมเพชที่สุด

     

    ผมมองร่างบางตรงหน้า ที่ร้องไห้ไม่ต่างจากผม ร้องไห้จนหัวใจผมแกว่ง ร้องไห้อย่างน่าสงสาร... จนผมใจอ่อนทุกครั้งที่เห็นใบหน้าแบบนี้ แต่นั่น...มันเมื่อก่อนมันแค่อดีต...

     

     

    Summer, Winter, Spring & Fall

    ไม่ว่าจะฤดูร้อน.. ฤดูหนาว..ฤดูใบไม้ผลิหรือร่วง

    시간은 빨리 가는데

    เวลามักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ

     

     

    찰랑거리는 머릿결

    เส้นผมที่อ่อนนุ่มของคุณ

    하얀 t-shirts & sneakers

    เสื้อยืดสีขาวและรองเท้าผ้าใบของคุณ

    새침한 걸음걸이 꿈속에서

    ผมเห็นคุณในความฝันของผม

    보지만 이젠 설레지 않아

    แต่มันไม่ได้ทำให้หัวใจผมสั่นไหวได้อีกต่อไปแล้ว

     

     

     

     

     

    “ถ้าวันนี้... ใจของฉันมันเต้นแรงกับคนอื่นไปแล้วล่ะ... นายจะทำยังไงเสี่ยวลู่หาน...”

     

    “อะ..อะไรนะ เซฮุน...”

     

     

    TBC

    ★★★★

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×