ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #142 : เล่ม 5.2 - ตอนที่ 61.2 - เส้นทางสู่ตะวันตก (3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 933
      0
      19 เม.ย. 51

    รองหัวหน้าหน่วยรบพิเศษอัศวินดำก้าวออกมาข้างหน้า คุกเข่าลงข้างหนึ่งพร้อมกล่าวว่า “ข้าคอร์เนเลียขอรับผิดชอบในเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว อภัยที่ไร้ความสามารถมิอาจยับยั้งกองกำลังของราเมสไว้ได้ ทำให้พวกเราต้องสูญเสียเมืองและขุนพลอันสำคัญไป”
                    มีหรือเวอร์น่อนที่จะลงโทษคอร์เนเลียด้วยเรื่องเพียงเท่านี้ เวอร์น่อนมีคุณสมบัติของประมุขรัฐหนึ่งอย่างครบถ้วน รวมไปถึงความสามารถในการปกครอง ที่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร สมควรกระทำอย่างไรถึงจะทำให้ลูกน้องทุกคนยอมปฏิบัติภารกิจให้กับมันอย่างถึงที่สุด จึงกล่าวว่า “ลุกขึ้นเถิดคอร์เนเลีย ข้าทราบมาว่ากองกำลังที่เจ้าบัญชาการนั้นมีน้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามถึงเท่าตัว การที่สามารถปลิดปลงสังหารชนชั้นรองแม่ทัพของฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งทำร้ายการาดอสและราเมสบาดเจ็บสาหัส รักษากองกำลังของเราให้รอดมาได้กึ่งหนึ่ง ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจกับการรับศึกเฉียบพลัน ความผิดพลาดนี้มิได้มีผลมาจากการที่เจ้าปฏิบัติหน้าที่ขาดตกบกพร่อง ดังนั้นเรื่องนี้ข้าจะไม่ถือสาหาความแต่ประการใด”
                    ทาลอสที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวเสริมว่า “เมื่อยี่สิบห้าปีก่อนข้าเองก็ดำรงตำแหน่งเช่นเดียวกับเจ้า บางครั้งในสงครามการสูญเสียก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ หน้าที่ของผู้บังคับบัญชาคือการลดจำนวนความสูญเสียให้น้อยที่สุดซึ่งข้ามีความเห็นเช่นเดียวกับท่านจักรพรรดิว่าเจ้ากระทำได้ดี และในเมื่อพวกเราสูญเสียอัศวินดำไปถึงสองคนย่อมต้องมีอัศวินดำคนใหม่ขึ้นมาแทนที่ ท่านจักรพรรดิมีความเห็นอย่างไร?
                    ทาลอส ชไวน์อดีตรองหัวหน้าหน่วยอัศวินดำเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ปัจจุบันอายุหกสิบปีบริบูรณ์ นับเป็นขุนพลคู่ใจของเวอร์น่อนที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด ทั้งเรื่องสติปัญญาและวิชาฝีมือที่จัดว่าเป็นรองจักรพรรดิเวอร์น่อนอยู่เพียงขั้นเดียว ทาลอสมีผมสีขาวทั่วศีรษะไม่มีผมสีแดงหลงเหลือ แต่เส้นผมยังคงหนาเหมือนกับตอนหนุ่มแน่น ไว้ผมยาวลงมาถึงกลางหลังเช่นเดียวกับบุตรชาย ฉายาวิชชุสีโลหิตจึงถูกถ่ายโอนไปให้ซิฟเฟอร์แทน สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกันของทั้งคู่คือดวงตาที่มีสีแดงฉานปานโลหิต ที่มิได้ขาวโพลนไปตามกาลเวลาเหมือนเส้นผม ทาลอสสวมชุดยาวสีส้มอันเป็นสัญลักษณ์ของเอลแห่งสายฟ้า ข้างกายพกง้าวเล่มหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของวิเศษประจำตระกูล และแน่นอนว่ามันก็ต้องติดทำเนียบสิบหกสุดยอดศัสตราวุธเช่นกัน ง้าวยาวหนึ่งวาหนึ่งศอกเล่มนั้นได้รับการขนานนามว่า แยกนภา ที่สามารถเรียกสายฟ้าลงมาจากท้องนภาเบื้องบนเมื่อใดในตำแหน่งใดก็ได้ ปัจจุบันทาลอสดำรงตำแหน่งจอมพลแห่งจักรวรรดินอร์ มีอำนาจสั่งการกองทัพทุกส่วนในสมรภูมิ เป็นรองจากจักรพรรดิเวอร์น่อนเพียงผู้เดียว
                    จักรพรรดิเวอร์น่อนกล่าวว่า “ท่านจอมพลไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ข้าได้เตรียมการกับเสนาธิการสูงสุดและวานเตสเอาไว้แล้ว ว่าในการประชุมครั้งนี้จะมีการแต่งตั้งตำแหน่งใหม่หกตำแหน่งด้วยกัน เพิ่มเติมจากตำแหน่งจอมพลและเสนาธิการสูงสุดที่ได้แต่งตั้งไปเมื่อวันก่อน เนื่องจากข้าต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ในการรักษาตัวจากการประมือกับตัวบัดซบดูแรนดัล และระหว่างนี้จะต้องฝึกวิชาให้บรรลุขั้นสูงสุดของเคียวปลิดยมทูต ในช่วงเวลาข้าจะแต่งตั้งคณะบุคคลจำนวนหนึ่งขึ้นมาบริหารราชการแทนตำแหน่งจักรพรรดิ ขอเชิญท่านเสนาธิการสูงสุดดำเนินการได้”
                    มิดาส เดอแล่มก้าวเท้านำพาร่างที่อ้วนท้วนออกมา กล่าวว่า “ท่านจักรพรรดิมีนโยบายในการแบ่งกองทัพทั้งหมดออกเป็นสามส่วนแต่นั่นจะเอาไว้กล่าวต่อไปในภายหลัง ก่อนอื่นนั้นจะเป็นเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งสองตำแหน่งเสียก่อน อันได้แก่มหาอุปราชและอุปราชแห่งจักรวรรดินอร์ ขอเชิญท่านวานเตสและท่านโรฮันทั้งสองออกมารับตำแหน่ง”
                    ปรากฏกายของสองบุรุษในตระกูลซอร์โด ก้าวเท้าออกมาหาจักรพรรดิคุกเข่ารับตำแหน่ง
                    จักรพรรดิเวอร์น่อนกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้าต่างเป็นทายาทในตระกูลซอร์โดรุ่นถัดไป และมีผลงานการปฏิบัติงานดีเยี่ยมในเหตุการณ์ที่ผ่านมา ข้าจะอวยยศให้เจ้าดำรงตำแหน่งพิเศษ วานเตสจะดำรงตำแหน่งมหาอุปราชแห่งนอร์ทำหน้าที่รักษาการแทนจนกว่าข้าจะหายเป็นปกติ และยังคงความเป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษอัศวินดำต่อไป ส่วนโรฮันจะดำรงตำแหน่งอุปราชดำเนินการปฏิบัติการพิเศษรับคำสั่งโดยตรงจากข้าเพียงผู้เดียว”
                    เมื่อแต่งตั้งตำแหน่งเสร็จสิ้นมิดาสก็กล่าวต่อไปว่า “ส่วนตำแหน่งที่เหลืออีกสองตำแหน่งนั้นก็คือตำแหน่งอัศวินดำ วาคินที่มีความดีความชอบในการยึดตึกธงดาบจะดำรงตำแหน่งอัศวินดำหมายเลขเจ็ด ส่วนอัศวินดำหมายเลขห้านั้นจะดำเนินการคัดเลือกจากบุคคลทั้งสามนี้”
                    ทุกผู้คนคาดคิดแต่แรกแล้วว่าวาคินจะต้องได้รับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง จึงไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านอันใด แต่ประเด็นสำคัญกลับอยู่ที่ประโยคหลังนั่นคือการที่จะคัดเลือกอัศวินดำหมายเลขห้าจากผู้คนสามคน แต่ละคนล้วนคาดเดากันไปในทิศทางต่างๆกัน
                    ประตูห้องประชุมเปิดออก ปรากฏนักโทษอุฉกรรจ์สามคนเดินเข้ามาที่ห้องโถง แต่ละคนล้วนมีบาดแผลตามร่างกาย ดูจากฝีเท้าและทวงท่าการเดินแล้วทราบได้ว่าเป็นชนชั้นมือดีระดับจอมปราชญ์ แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใดถึงได้ถูกกักตัวไว้ในคุกใต้ดิน
                    มหาอุปราชวานเตสเห็นนักโทษทั้งสามถึงกับกล่าวออกมาว่า “จะดีหรือท่านจักรพรรดิ ตำแหน่งอัศวินดำหมายเลขห้านี้อาศัยพวกมันทั้งสามยังไม่คู่ควร”
                    จักรพรรดิเวอร์น่อนยกมือข้างหนึ่งเป็นเชิงให้เสนาธิการสูงสุดกล่าวต่อไป
    ยินเสียงมิดาสกล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งสามได้รับมหากรุณาธิคุณจากท่านจักรพรรดิ ที่มีคำสั่งปล่อยตัวพิเศษให้ปฏิบัติภารกิจชดเชยความผิดที่ก่อไว้ในอดีต หากกระทำได้สำเร็จจะได้รับความดีความชอบ รับการบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษอัศวินดำ แต่ถ้าไม่สามารถกระทำได้ตามเป้าประสงค์ที่วางไว้ จะไม่มีข้อแก้ตัวใดๆนอกจากโทษประหารชีวิต”
    นักโทษคนแรกที่มีผมสีดำยาวรุงรังเงยหน้าขึ้นมาเห็นเป็นใบหน้าที่โหดเหี้ยมไร้ความปราณี ดวงตาข้างหนึ่งเป็นสีเทามิอาจใช้การได้อีก ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำในบรรดานักโทษทั้งสาม กล่าวว่า “นึกไม่ถึงว่าพวกเราสามพี่น้องจะได้รับการปล่อยตัว เฒ่าจอห์นอุบาทว์นั่นสั่งโทษกักขังพวกเราตลอดชีวิต เชิญท่านจักรพรรดิว่ามาตามตรงว่าต้องการจะให้พวกเราสามพี่น้องกระทำอะไร เพื่อแลกกับอิสรภาพนั้นต่อให้ฆ่าคนวางเพลิงก็ไม่บ่ายเบี่ยง”
    อัศวินดำทุกคนต่างจับจ้องนักโทษทั้งสามนี้เป็นสายตาเดียว ทราบว่าพวกมันเป็นตัวก่อการร้ายในช่วงสามปีก่อนที่กองกำลังสุนัขป่าของราเกซจะเรืองอำนาจ แต่ถ้าเปรียบกันแล้วสามคนโฉดนี้เป็นโจรที่เก่งกาจกว่ามากนัก การจับกุมต้องอาศัยกำลังของมือปราบชั้นหนึ่งสามคนรวบจับพร้อมกัน ไก ปิแอร์และทาเรียนำกองกำลังมือปราบเกือบพันคนต่อสู้อาบเลือดกว่าชั่วโมง จนผลสุดท้ายก็ยึดฐานที่มั่นสังหารโจรกว่าห้าร้อยคนจับเป็นสามคนโฉดนี้ได้ และในวันนี้เวอร์น่อนที่ต้องการกำลังทุกหน่วยของนอร์มาใช้งาน แม้แต่นักโทษที่มีประวัติโหดเหี้ยมยังคงหยิบยกมาใช้สอย หากกระทำได้สำเร็จก็แล้วกันไป แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ฆ่าทิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการใช้สอยนักโทษประหาร
    เสนาธิการสูงสุดมิดาสเองเป็นคนริเริ่มความคิดเช่นนี้ จากการเล็งเห็นวิชาธนูของสามคนโฉด จึงสั่งการว่า “พวกเจ้าทั้งสามจะได้รับเครื่องแบบอัศวินดำไปสวมใส่ชั่วคราว แต่จะยังไม่ได้รับยศอัศวินดำเต็มตัว ดังนั้นพวกเจ้าต้องรับคำสั่งจากข้าโดยตรง หากปฏิบัติภารกิจสำเร็จ อิสรภาพและอนาคตใหม่จะรอพวกเจ้าอยู่ แต่ถ้าไม่สำเร็จจะเกิดอะไรขึ้นพวกเจ้าก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ”
    นักโทษอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุอ่อนกว่าคนตาบอด กล่าวขึ้นมาว่า “จะอย่างไรพวกเราถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินตลอดชีวิตก็เหมือนจะตายไปแล้ว หากจะต้องตายจริงๆจะเป็นไรไป?
    นักโทษที่เป็นพี่ใหญ่หัวเราะฮาๆด้วยเสียงอันดัง แล้วกล่าวว่า “ตกลงตามนี้ พวกเราสามคนโฉดยินดีรับใช้ท่านจักรพรรดิ”
    เวอร์น่อนพยักหน้าพลางแผ่ลมปราณอัคคีออกไปทั่ว กระทบถึงผิวสามคนโฉดจนแสบเหมือนโดนอัคคีลามเลีย กล่าวด้วยสายตาอันโหดเหี้ยมว่า “อย่าคิดว่าพวกเจ้าเป็นอิสระแล้วจะสามารถทรยศข้าได้ ผู้คนที่คล้อยตามข้าเท่านั้นถึงอยู่รอด หากขวางข้าก็มีแต่ตายสถานเดียว”
    สามคนโฉดต่างลอบหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ เมื่อรู้สึกได้ถึงปราณอัคคีอันแรงกล้า ฝีมือของพวกมันเมื่อเทียบกับจักรพรรดิตรงหน้าเรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน
    “พาพวกมันออกไป” เวอร์น่อนสั่งการ
    ถึงจุดนี้บุคคลในห้องโถงหลายคนมีสีหน้าไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งเมื่อครู่ ตำแหน่งอัศวินดำหมายเลขห้าจัดเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติยิ่ง เรียกได้ว่าเทียบเคียงกับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยอัศวินดำเลยทีเดียว จะนำนักโทษประหารผู้มีประวัติอาชญากรรมมารับตำแหน่งแทนยอดฝีมืออย่างแจ๊ค ไดรเนอร์ได้อย่างไร เสนาธิการสูงสุดมิดาสเพียงมองปราดเดียวก็ทราบถึงคำถามในใจของผู้คนเหล่านั้น จึงกล่าวว่า “พวกมันทั้งสามเป็นเพียงตัวหมากถ่วงเวลาจำนวนหนึ่งเท่านั้น พวกเจ้าไม่ต้องมีสีหน้าวิตกกังวลไป บุคคลที่มีคุณสมบัติรับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้จะถูกกำหนดอย่างจริงจังในเวลาถัดมา และแน่นอนว่าข้าจะเป็นคนดำเนินการคัดสรรด้วยตนเอง”
    เวอร์น่อนกล่าวต่อไปว่า “เรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งอัศวินดำให้พักไว้ก่อนเพียงเท่านี้ ข้าอยากรู้เหมือนกันว่ากากเดนนรกสามคนนี้จะมีประโยชน์เพียงใด ต่อไปขอเชิญท่านเสนาธิการสูงสุดบรรยายถึงการแบ่งกองทัพออกเป็นสามส่วน”
    มิดาส เดอแล่มรับหน้าที่ต่อ มันเรียกบริวารข้างเคียงให้ยกโต๊ะตัวใหญ่ที่กางไว้ด้วยแผนภาพใบหนึ่ง แสดงถึงแผนภูมิการแบ่งกองกำลังทุกหน่วยภายใต้การปกครองของจักรวรรดิ จากนั้นจึงค่อยๆกล่าวอธิบายกล่าวว่า “ปัจจุบันนักรบที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพวกเรามีราวสองแสนคน การแบ่งกองกำลังทั้งสองแสนคนนั้นจำเป็นต้องแบ่งตามหน้าที่ที่จะปฏิบัติและความชำนาญเฉพาะ มิใช่แบ่งตามจำนวนคนดั่งที่เคยเป็นในยุคของสหพันธรัฐแห่งนอร์ หน่วยแรกนั้นมีจำนวนเจ็ดหมื่นคน อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของมหาอุปราชวานเตส ทำหน้าที่ปกป้องตัวเมืองทั้งสามรวมถึงนครหลวงนอร์โปลิสให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย จัดการกับกากเดนที่หลงเหลือจากกองกำลังที่เป็นอริให้สิ้นซาก”
    มหาอุปราชวานเตสกล่าวขึ้นว่า “วานเตสขอน้อมรับหน้าที่นี้ และจะปฏิบัติอย่างสุดความสามารถ”
    มิดาสกล่าวต่อไปว่า “กองทัพที่สองอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของจอมพลทาลอสจำนวนแปดหมื่นนาย เตรียมพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการบุกตีเมือง พร้อมที่จะทำสงครามกับเมืองโลซานที่อยู่ทางตอนใต้ โดยให้อัศวินดำหมายเลขสี่ซิฟเฟอร์ ชไวน์เป็นผู้ช่วย”
    จักรพรรดิเวอร์น่อนกล่าวเสริมว่า “ขุนพลที่เก่งกาจที่สุดในหมู่พวกเราคงจะเป็นใครมิได้นอกจากท่านจอมพล ที่ข้าสามารถไว้วางในในฝีมือมากที่สุด”
    ทาลอสผู้ที่มีผมสีขาว นัยน์ตาสีแดงกล่าวรับคำว่า “ท่านจักรพรรดิไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ข้าและบุตรชายจะไม่สร้างความผิดหวังเป็นอันขาด”
    “ส่วนกองกำลังสุดท้ายอีกห้าหมื่นนายนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของข้าเอง โดยที่มีแม่ทัพใหญ่คือรองหัวหน้าหน่วยอัศวินดำคอร์เนเลีย รองแม่ทัพคืออัศวินดำหมายเลขสามเอริค และอัศวินดำอีกสองคนใต้สังกัดคือทานากะและโทมัส กองกำลังจำนวนห้าหมื่นนายนี้มีหน้าที่คือการบุกยึดเมื่อเจนีสเหนือให้ได้ในเร็ววัน ซึ่งข้านั้นจะทำหน้าที่เสนาธิการวางแผนกลยุทธ์การบุกตีเมืองทั้งหมดด้วยตัวเอง” เสนาธิการสูงสุดมิดาสกล่าว
    อัศวินดำทั้งสี่ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในคำสั่งเมื่อครู่ก้าวออกมา กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “น้อมรับคำสั่ง”
    ในขณะที่อัศวินดำที่เหลืออีกสองคน นั่นคือพริมและวาคินที่พึ่งได้รับการแต่งตั้งต้องอยู่ว่างไม่มีหน้าที่อันใด พริมจึงกล่าวออกมาในที่ประชุมว่า “เรียนท่านเสนาธิการสูงสุด สำหรับข้านั้นมีคำสั่งอันใดหรือไม่?
    มิดาสพยักหน้ากล่าวว่า “ย่อมต้องมีแน่นอน เจ้ากับวาคินทั้งสองจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของอุปราชโรฮันโดยตรง ดำเนินแผนการเฉพาะกิจเป็นการลับ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยนั้นจะบอกกล่าวในการประชุมลับอีกครั้งหนึ่ง พวกเจ้าไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีโอกาสทำความดีความชอบ ภารกิจที่พวกเจ้าทุกคนได้รับในที่นี้ล้วนเป็นภารกิจสำคัญทั้งสิ้น หากกระทำสำเร็จจักรวรรดินอร์ของเราจะไม่มีผู้ใดเปรียบติดอีกต่อไป”
    จักรพรรดิเวอร์น่อนจึงกล่าวปิดการประชุมว่า “ต่อไปนี้ผู้นำสูงสุดของพวกเจ้าจะเป็นผู้ที่คุมกองกำลังแต่ละหน่วยชั่วคราว ข้าเชื่อมั่นว่าท่านเสนาธิการสูงสุด ท่านจอมพลและพวกเจ้าผู้สืบทอดนามสกุลซอร์โดทั้งสอง จะไม่นำความผิดหวังมาให้ข้า”
    การประชุมสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ มีเสียงกล่าวท่านจักรพรรดิจงเจริญดังขึ้นคราหนึ่ง ปฏิบัติการของจักรวรรดินอร์ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×