ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #141 : เล่ม 5.2 - ตอนที่ 61.2 - เส้นทางสู่ตะวันตก (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 972
      0
      17 เม.ย. 51

    สองวันก่อน ณ ตึกธงอาชาในนครหลวงนอร์โปลิส
    การประชุมของผู้นำระดับสูงในกลุ่มจักรวรรดินอร์ดำเนินขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งประธานจะเป็นใครเสียได้อีก นอกจากจักรพรรดิเวอร์น่อน                 นอร์ตะวันตกอันได้แก่เขตนครหลวงนอร์โปลิส เมืองแองเจลและเมืองโอดินทั้งสาม ได้รวมกลุ่มกันจัดตั้งคณะปกครองใหม่ขึ้นแทนระบอบรัฐสภา เปลี่ยนการปกครองกลายเป็นระบอบจักรวรรดิ โดยมีผู้นำเป็นจักรพรรดิ
    อัศวินดำที่เหลือรอดทั้งเจ็ดต่างเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ยืนเรียงรายกันในห้องโถงใหญ่ของตึกธงอาชา พื้นของห้องโถงยกระดับสูงต่ำแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนล่างที่เตี้ยกว่ามีไว้สำหรับบุคคลที่มียศระดับล่าง ส่วนบนที่สูงกว่ามีไว้สำหรับบุคคลที่มียศระดับสูง โดยมีบัลลังก์สีแดงสดสำหรับจักรพรรดิซึ่งเป็นเก้าอี้ตัวเดียวในห้องเปิดกว้างตั้งอยู่ด้านบน
                    บุคคลที่มีศักดิ์สามารถยืนอยู่ส่วนที่เป็นพื้นยกระดับมีเพียงสามคน ซึ่งถือว่าเป็นมือดีที่สุดของจักรพรรดิเวอร์น่อน คนแรกเป็นบุคคลหมายเลขหนึ่งแห่งตระกูลชไวน์นามว่าทาลอส คนที่สองเป็นมันสมองแห่งกองกำลังธงอาชานามว่ามิดาส และคนสุดท้ายเป็นบุตรชายของจักรพรรดิผู้คุมหน่วยรบพิเศษอัศวินดำโดยตรงนามว่าวานเตส
                    คนที่เหลืออันได้แก่คอร์เนเลีย เอริค ซิฟเฟอร์ ทานากะ โทมัส พริม วาคินและโรฮันยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะยืนอยู่เบื้องบน แต่ก็นับว่ามีศักดิ์ฐานะพิเศษไม่เช่นนั้นคงมิได้เข้าร่วมในการประชุมสุดยอดเช่นนี้ ส่วนมู่หลงที่ถือว่าเป็นยอดฝีมือแต่ด้วยฐานะที่เป็นคนในกึ่งหนึ่งคนนอกกึ่งหนึ่ง จึงมิได้ถูกรับเชิญให้เข้าร่วมประชุม
                    หลังจากพิธีรีตองการเปิดประชุมเสร็จสิ้น เวอร์น่อนก็ได้นั่งลงบนบัลลังก์สีแดงตัวนั้น แววตาและท่าทางของจักรพรรดิผู้นี้ไม่เหมือนกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสักนิด กล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งหลายในที่นี้ล้วนมีความดีความชอบด้วยกันทั้งสิ้น โดยข้าจะถือเป็นพวกเจ้าทั้งหมดเป็นขุนพลผู้ร่วมสถาปนาจักรวรรดิแห่งนอร์ แต่สิ่งที่พวกเราจะต้องกระทำในบัดนี้มิใช่การเฉลิมฉลองชัยชนะชั่วคราว ในเมื่อพวกเรายังมิอาจกวาดล้างกองกำลังสหพันธรัฐแห่งนอร์ได้สิ้น ปัญหาทั้งหลายก็จะยังคงอยู่ต่อไป จนกว่าวันที่พวกเราสามารถยึดครองแผ่นดินทั้งมวลได้ และด้วยเหตุนี้ข้าจะขอเชิญท่านเสนาธิการสูงสุดมิดาส ให้กล่าวบรรยายถึงสถานการณ์โดยรวม”
                    ผู้ตรวจการมิดาสหนึ่งในสามคนที่ยืนอยู่ด้านบนได้รับการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการสูงสุดหลังจากการปฏิวัติเสร็จสิ้น มีอำนาจในการสั่งการกองทัพได้อย่างอิสระ กล่าวว่า “เรียนท่านจักรพรรดิ ในขณะนี้กองกำลังของฝ่ายตรงข้ามแบ่งเป็นสามส่วนหลัก กองกำลังที่เข้มแข็งที่สุดเห็นจะเป็นใครมิได้นอกเสียจากกองกำลังตึกธงมังกรของคาร์ล พวกมันมีนักรบเกือบแสนนายประจำการอยู่ทางรัฐตะวันออก โดยยึดชัยภูมิสำคัญอย่างป้อมวอเตอร์ดีพเฝ้ารักษา เหล่าขุนพลและนักรบตระกูลวิลล์ที่เหลือรอดไปล้วนเดินทางไปสวามิภักดิ์ต่อมันทั้งสิ้น แม้ว่าพวกเราจะมีกำลังทหารมากกว่าเป็นสองเท่าก็มิอาจประมาทคาร์ลได้
                    ส่วนกองกำลังพวกที่สองเป็นของตระกูลฟาเดลที่เป็นพันธมิตรอันแนบแน่นของตระกูลวิลล์ พวกมันมีกองกำลังไม่มากเพียงสองหมื่นคนเศษ ยึดครองพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐกลางก็คือเมืองโลซาน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ไร่นารอบเมืองโลซานเพียงเขตเดียวสามารถส่งเสบียงบำรุงกองทัพของอาณาจักรนอร์เดิมได้ถึงครึ่งหนึ่ง พวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องบุกเข้ายึดเมืองนี้อย่างสายฟ้าแลบ สำหรับสงครามที่ยืดเยื้อการที่ได้พื้นที่รอบเมืองโลซานมาจะทำให้พวกเราได้เปรียบอย่างมหาศาล
                    กองกำลังสุดท้ายมีขนาดเทียบเคียงกับกองกำลังที่เมืองโลซาน นั่นคือกองกำลังปลดปล่อยเจนีสของการาดอส ซึ่งมีจำนวนสองหมื่นคนเศษเช่นกัน พวกมันฉวยโอกาสที่เราทุ่มเทกำลังยึดนครหลวงใช้โอกาสจังหวะที่สมบูรณ์พร้อม ประกอบกับการที่มีขุนพลอันเข้มแข็งบุกเข้ายึดเจนีสเหนือไปก่อนที่พวกเราจะควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่ต้องคาดเดาก็ทราบได้ว่าเป็นฝีมือของอดีตมือปราบชั้นหนึ่งราเมสวางแผนอยู่เบื้องหลัง”
                    “พวกเราแลกเมืองเจนีสเหนือมาด้วยการบาดเจ็บสาหัสของการาดอสก็นับว่าคุ้มค่าอยู่ เมื่อยี่สิบห้าปีก่อนนั้นมันผู้นี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกเรามิอาจยึดเมืองเจนีสใต้มาอยู่ในการครอบครอง” เวอร์น่อนพยักหน้ากล่าวต่อไปว่า “ข้าทราบดีว่าการที่พวกเราได้มาซึ่งจักรวรรดินอร์ในปัจจุบันย่อมมีความสูญเสียเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งอัศวินดำที่ว่างลงสองตำแหน่ง อดีตอัศวินดำหมายเลขห้าหมดพันธสัญญาที่จะรับใช้ข้าจึงลาจากไป ส่วนลีโซลมีก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดพลีชีพในสนามรบ”
                    กล่าวถึงตรงนี้โทมัสที่ยืนอยู่เกือบท้ายสุดต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แววตาแห่งความแค้นแดงฉานไปด้วยเส้นเลือด หมายจะแก้แค้นให้กับอัศวินดำรุ่นพี่ที่สนิทสนมที่สุดให้จงได้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×