ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #15 : Rhythm 13 : Just this moment

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.47K
      8
      24 ม.ค. 53

     Rhythm 13 : Just this moment

     

     

    วา เสร็จหรือยังครับ?

                อ...อีกนิดครับพี่...อ่ะ...ใกล้แล้ว...

                พี่จะรอไม่ไหวแล้วนะ

                ขอโทษ...ครับ...แฮ่ก...แฮ่ก...

                วา...

               

                ไอ้ห่าพวกนี้นี่! จะคุยอะไรส่อๆไปถึงเมื่อไหร่! รีบๆลุกนั่งให้เสร็จเร็วๆซีฟะ!!”

                พี่อั๋นแหกปากโวยวาย ในขณะที่ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ถึงเรื่องมือถือดังพี่กานต์จะไม่เอาผิดแต่มันก็ไม่อาจรอดหูผีหูนรกของพี่อั๋นไปได้ ผมเจอลุกนั่งไปห้าสิบค่าไม่ยอมปิดมือถือก่อนเข้าห้อง โดยที่พี่กานต์ได้แต่ยืนมองอย่างไม่อาจช่วยอะไรได้ 

                แหม ทะเลาะกับแฟนก็อย่ามาหาเรื่องลงโทษรุ่นน้องกูสิพี่กานต์บ่นพึมแต่ใบหน้าเจือรอยยิ้ม ผมสะดุ้งกับคำพูดของพี่เขา พี่อั๋นได้พ่นไฟแน่...

                ไอ้กานต์! มึงก็ลงไปห้าสิบเลยนะ!”

                คำสั่งไร้เหตุผล กูไม่ได้ทำไรผิด เรื่องไรจะต้องทำ~”

                แก!!”

                ตอนนี้เป็นเวลาหลังเลิกซ้อมแล้วครับ แต่ผมยังต้องอยู่เพื่อรับโทษ(ที่ไม่ได้ตั้งใจก่อ...) พี่กานต์จึงอยู่เป็นเพื่อนด้วยเพราะเรื่องที่เจ้ผมโทรมา

                เอ่อ...ใช่ฮะ...ผมตอบตกลงไปนอนค้างบ้านพี่กานต์วันนี้(ไม่รู้คิดถูกคิดผิด...)

                ปวดขาชะมัด...ผมบ่นอุบหลังจากเสร็จสิ้นบทลงโทษแล้ว และไหว้ลาพี่อั๋นที่ทำแค่หันมาพยักหน้ารับนิดๆ(มาดมาก...) ก่อนจะเดินลงตึกไปกับพี่กานต์

                กลับบ้านไปเดี๋ยวเอายานวดให้พี่กานต์พูดยิ้มๆ แต่แล้วก็ชะงักไปเหมือนหลุดคำบางคำที่ไม่น่าหลุดออกมา

                ผมได้แต่ยืนงง ยานวดมันทำไมหว่า มีอะไรหรือเปล่าครับ?

                อ้อ...ไม่หรอก...แค่...พี่กานต์หยุดไปนิดหนึ่ง แต่สายตากลับดูราวกำลังระลึกถึงบางสิ่งอยู่ แค่...นึกขึ้นมาได้ว่าช่วงที่ผ่านมาเพิ่งจะไปนั่งทายาให้เด็กซ่าๆคนหนึ่งมาน่ะสิ

                เห...?

                แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก วาอย่าสนใจเลยพี่กานต์กลับมายิ้มให้เหมือนปกติ แล้วก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

                ผมได้แต่มองหน้าพี่กานต์แบบงงหน่อยๆ

                แหม...แต่อันที่จริงผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกนะ...ไม่เห็นต้องทำท่าเหมือนกลัวผมโกรธขนาดนั้นเลยนี่?

                พี่กานต์นี่ก็แอบแปลกคน...

                บ้านพี่กานต์อยู่เลยบ้านผมไปประมาณกิโลสองกิโลครับ แต่อยู่บนถนนสายเดียวกัน เราลงรถริมถนนแล้วเดินเท้าต่อเข้าไปในซอย พี่กานต์บอกว่าห่างประมาณสองหรือสามร้อยเมตร ซึ่งมันก็ไม่ไกลนักในความเห็นผม(รอบสนามบอลสิบรอบยังโดนมาแล้ว แค่นี้จิ๊บๆ) และไม่นานเราก็มาถึงซอยหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง

                ให้ตายสิ...ผมอุทานในใจ...หมู่บ้านนี้ที่โคตรแพงเลยนี่หว่า...งั้นพี่กานต์ก็คุณชายดีๆน่ะสิฟะ...

                แต่นั่นก็ยังไม่มีอะไรน่าตกใจมากไปกว่าตอนเห็นบ้านพี่กานต์จริงๆ

                นิยามคำเดียวที่ผมนึกออกคือ...โค-ตะ-ระ-กว้าง...แค่สวนอย่างเดียวก็เท่ากับครึ่งบ้านผมแล้ว แถมตัวบ้านยังมีถึงสามชั้น กว้างใหญ่จนชวนให้ตกตะลึง

                เข้ามาได้เลยพี่กานต์ไขกุญแจประตูเล็กที่รั้วแล้วเดินนำหน้าเข้ามาก่อนปิดล็อคตามหลังผม ผมรู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้ามาในบ้านเศรษฐีอย่างไรชอบกล มันดูสมบูรณ์แบบลงตัวไปหมด แต่พอเห็นแบบนี้แล้วผมเลยยิ่งนึกถึงบ้านไอ้ซี บ้านมันก็อภิมหาหรูเหมือนกันครับเพราะพ่อแม่มันทำงานเป็นสถาปนิกกับมัณฑนากร รับงานตกแต่งออกแบบบ้านทุกประเภทแถมยังมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือและบริษัทรับออกแบบบ้านออกแบบเครื่องเรือนอีกเพียบ ทำให้บ้านมันรสนิยมสูงเทียมฟ้าสุดๆ...

                เฮ้ยๆๆ นี่ผมเผลอนึกถึงมันอีกแล้วหรือเนี่ย!?

                ผมรีบไล่ความคิดฟุ้งซ่านไร้สาระออกจากหัว แล้วเอ่ย บ้านพี่สวยดีนะครับ

                ขอบใจนะพี่กานต์ยิ้มกว้าง ท่าทางภูมิใจ ไม่ค่อยจะได้ยินคำชมจริงๆจังๆแบบนี้เท่าไหร่ พวกเพื่อนพี่มันมาทีไรก็กรูกันเข้ามาแบบคนป่าทุกที

                โห...พี่แกก็เล่นพูดซะผมเห็นภาพเลย...

    ผมเดินตามพี่กานต์เข้าไปด้านใน ในนี้สว่างไสวด้วยแสงไฟที่เปิดทิ้งไว้ที่ระเบียง พี่กานต์พาผมเดินไปที่ห้องทางซ้ายมือ ผมเห็นผู้ชายกับผู้หญิงคู่หนึ่งนั่งหันหลังอยู่ ดูแล้วน่าจะเป็นพ่อกับแม่ของพี่เขา

                พ่อครับ แม่ครับ ผมกลับมาแล้วนะพี่กานต์ยกมือไหว้พวกท่าน ผมจึงรีบยกมือไหว้ตาม

                แม่ของพี่กานต์ที่หันมาเห็นผมเข้าทำหน้าสงสัยนิดๆ แต่ก็ยังยิ้มให้ ในขณะที่พ่อพี่กานต์ทำเพียงมองผมนิ่งๆ

                นี่ทิวาครับ เป็นรุ่นน้องในวง วันนี้วาเขาเกิดขัดข้องนิดหน่อยกานต์เลยพามาพักบ้านเราแทนพี่กานต์อธิบาย และคุณแม่ของพี่เขาก็ยิ้มหวาน

                ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ เรียกวาได้ใช่ไหม?ผมพยักหน้านิดๆรับคำ กินอะไรมาหรือยัง? แม่กันส่วนของกานต์ไว้ให้แล้ว น่าจะพอทานสองคน ไปทานกันได้เลยนะ  

                ขอบคุณนะครับพี่กานต์พยักหน้าแล้วพาผมเดินเลี่ยงไปอีกทาง ผ่านหน้าห้องรับแขกเมื่อครู่ไปอีกจะเป็นห้องกินข้าวแล้วก็ห้องครัว พี่กานต์บอกให้ผมนั่งรอ ในขณะที่ตัวเองหยิบจานกับข้าวที่วางอยู่ในตู้ออกมาอย่างชำนาญ

                ไอ้ผมรึก็มาอาศัยเขา จะนั่งนิ่งก็กระไร วาช่วยนะครับ

                งั้น...หยิบจานบนตู้นั่นให้ทีนะพี่กานต์ชี้ไปที่ตู้เหนือศีรษะผม ผมทำตาม แต่พอเปิดตู้จะเอื้อมมือไปหยิบ สัจธรรมบางอย่างก็ทำเอาหน้าถอดสี

                ห่านจิก...หยิบไม่ถึง

                ฮึ่ม...ผมพยายามเขย่งเก็งกอยแต่ก็แตะโดนแค่ปลายนิ้ว ไอ้ตู้นี่จะทำสูงไปไหนวะ และผมก็ไม่อยากเสี่ยงทำจานบ้านชาวบ้านแตกตั้งแต่ห้านาทีแรกที่เหยียบเข้ามาเสียด้วยสิ หากยังไม่ทันทำอะไรต่อก็มีมือหนึ่งเอื้อมผ่านไหล่ไปหยิบให้เสียก่อน

                หยิบไม่ถึงก็บอกพี่สิพี่กานต์บอกเบาๆ ระยะที่ใกล้จนชวนให้ใจหายนี้ทำเอาผมสะดุ้งหายใจไม่ทั่วท้อง แถมมืออีกข้างของพี่กานต์ที่ยังว่างอยู่ก็โอบรอบเอวผม กอดไว้เบาๆ วา...

                ผมตัวแข็ง ไม่เคยคิดว่าจะถูกจู่โจมแบบนี้มาก่อนเลย พ...พี่กานต์...เดี๋ยวสิครับ...

                ขอโทษนะคำพูดเรียบง่ายจริงใจ แต่มือก็ไม่คิดจะปล่อยออก ง่า...แต่...ยังไงพี่ก็ไม่อยากแพ้...ไม่อยากยอมแพ้ไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองทำอะไรเลย

                ผมเบือนหน้ากลับไปเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงความหนักแน่นของถ้อยคำที่ดังขึ้นข้างหู

                ผมไม่ได้ลืมหรอกนะ ไม่เคยลืมว่าผู้ชายคนนี้เองก็รักผมเช่นกัน...รักทั้งๆที่ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีค่าอะไรให้เขาหันมามอง

                วาพี่กานต์วางจานลงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้เลยกลายเป็นพี่เขากำลังกอดผมจากทางด้านหลัง คางหนักๆวางลงมาบนบ่าเหมือนจะออดอ้อน...อาการที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ทำให้ผมชักจะเริ่มทำตัวไม่ถูก มันต่างจากเวลาที่ซีกอดผม...ไม่เหมือนกัน...

                ขอพี่...จูบวาได้หรือเปล่า?

                .........

                ฮะ...เดี๋ยวนะ...ผมหูฝาด...

                คำขอเรียบง่ายตรงไปตรงมาและน้ำเสียงจริงจังไม่มีเค้าของความล้อเล่นนี้ทำเอาผมถึงกับตัวแข็ง อึ้งจนลืมให้คำตอบ ฝ่ายนั้นเลยคงจะทึกทักเอาเองว่าเงียบแปลว่าใช่ พี่กานต์จับคางผมให้เบือนหน้ามาเล็กน้อย ผมเบิกตากว้าง อ้าปากเตรียมจะร้องอยู่แล้วในตอนที่เห็นใบหน้าคมคายหล่อเหลาก้มเข้ามาใกล้ แต่ทว่า...     

               

                แต่แด๊วแด่แด๊ว! ปอย...ปอย...ป่อย...

     

                บรรยากาศที่เหมือนหยุดนิ่งเมื่อครู่ถล่มโครมครามเพราะเสียงเมสเสสเข้า แน่นอน ยังคงเป็นเสียงเรียกเปิดตอนโดราเอมอน(ผมชอบ - -) พี่กานต์เหมือนจะได้สติเลยคลายวงแขนออกนิดหน่อย ผมจึงอาศัยจังหวะนั้นเบี่ยงตัวหลบ เผ่นออกมาแล้วคว้ามือถือขึ้นมาดู

     

                24/01/08    20.13

              อยู่ไหน

     

                ผมมองชื่อคนส่ง ทั้งดีใจและรู้สึกแปลกในคราเดียวกัน...ซี...

                แต่พอรู้ว่าเป็นไอ้ซี ผมเลยเหมือนจะรับรู้ได้โดยอัตโนมัติว่าขืนบอกความจริงไป เรื่องมันคงออกมาพิลึกกึกกือชัวร์

                ผมพิมพ์ตอบไปอย่างระมัดระวัง

               

                24/01/08    20.14

              วันนี้ไม่ได้กลับบ้าน เจ้อยู่หอเพื่อน กูเข้าบ้านไม่ได้

     

                แต่พอเมสเสสนี้ถูกส่งไปไม่ถึงครึ่งนาทีริงโทนเพลงแช่งของผมก็แหกปากร้องลั่นบ้าน...พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง...ผมอุทานกับตัวเองในใจ ไอ้ซีเป็นฝ่ายโทรกลับระหว่างเล่นสงครามจิตวิทยาเมสเสสถล่มตังค์มือถือ(ชักเว่อร์) นี่มันวันฟ้าบรรลัยชัดๆ(เริ่มไปกันใหญ่) ผมรีบกดรับ และเสียงเรียบๆของไอ้ซีก็ถูกส่งมาตามสาย

                [ ตอนนี้มึงอยู่ไหน? ]

                เอ่อ...ผมเหลือบมองพี่กานต์ที่ยืนมองผมคุยอยู่แวบหนึ่ง ...บ้าน...รุ่นพี่...

                ปลายสายเงียบไปนิดหนึ่ง

                [ รุ่นพี่คนนั้นสินะ ]เสียงไอ้ซียังคงนิ่ง แต่ผมก็จับสัมผัสได้ว่ามันชักจะเย็นเยียบมากขึ้น [ วา บอกทางมา เดี๋ยวกูไปรับ ]

                เฮ้ย! ไอ้บ้า! ดึกป่านนี้ยังจะขับรถอีกเรอะ!”ผมแหวใส่ ก็รู้หรอกว่าซีมันขับรถเป็นตั้งแต่ม.1 ม.2 แล้วแถมยังขับไปไหนมาไหนเองบ่อยๆ คงไม่มีปัญหา(แค่ไม่มีใบขับขี่...) แต่นี่มันก็ดึกแล้วแถมมันเพิ่งจะแข่งบาสเสร็จมาใหม่ๆแบบนี้เกิดหลับในแหกโค้งขึ้นมาคงมันพิลึก...

                [ เออ ขับได้ บอกมาเร็วๆ ]ผมได้ยินเสียงสตาร์ทรถลอยเข้ามาในสาย ท่าทางไอ้ซีมันคงไม่ได้ล้อเล่นแน่

                กูไม่บอก กูไม่ให้มึงออกมา ซี มึงอย่าขับรถตอนนี้เลย ถือว่ากูขอเหอะนะผมลองขอมันดูทั้งที่รู้ว่าไอ้ห่านี่โคตรจะดื้อ แต่ก็ได้รับเพียงความเงียบเป็นคำตอบ ...ซี...

                [ จะไม่ขับก็ได้ ]เพียงอึดใจเดียวเสียงไอ้ซีก็ลอดเข้ามาในสาย ผมเกือบจะยิ้มกับคำตอบนั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่มีของแถมต่อท้าย

     

    [ แต่มึงต้องตอบกูก่อน...ให้คำตอบกูเดี๋ยวนี้เลย ]

     

                เสียงไอ้บ้าซีดังก้องสะท้อนกลับไปกลับมาอยู่ในรูหู ผมนิ่งอึ้ง ตอบมัน? จะให้ตอบ เรื่องพรรค์นั้นกับมันตอนนี้เนี่ยนะ!?

    สายตาผมเหลือบไปมองพี่กานต์อีกครั้งโดยอัตโนมัติ ท่าทางพี่เขาจะรับรู้ได้ถึงความตึงเครียดของผมจึงยิ้มให้และทำมือเป็นเชิงบอกว่าจะออกไปรอข้างนอกก่อนผมจะได้คุยแบบเป็นส่วนตัวหน่อย ผมเลยได้แต่กลืนน้ำลายเอื๊อก อีกใจหนึ่งก็กลัวอีกใจหนึ่งก็เกรงใจ รู้สึกน้ำท่วมปากพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

                ผมต้องตัดสินใจแล้ว...ที่นี่...เดี๋ยวนี้...วินาทีนี้เลยด้วย

                [ เอ้า...กูจะออกรถแล้วนะ ]ไอ้เชี่ยซีเร่งยิกๆ ผมจึงฟิวส์ขาด ได้แต่สบถอย่างโกรธแค้น

                ถ้ามึงอยากจะตายนักก็เชิญ! ทำไมถึงไม่ยอมรับรู้บ้างวะว่ากูห่วงมึงแค่ไหน! เอาสิ! เชิญเลย! อยากทำให้กูเป็นบ้าตายก็เอา!”ผมรู้สึกได้ว่าเสียงของตัวเองเริ่มพร่า มันคงฟังดูแย่เอามากๆแน่ แต่ถึงกระนั้นความอึดอัดก็มีมากกว่า

                ไอ้บ้านี่...ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าผมเป็นห่วงมันแค่ไหน...แต่มันก็ยัง...

    อย่าเพิ่งบีบคั้นกูตอนนี้จะได้ไหม...มึงน่าจะรู้ดีกว่าใครไม่ใช่หรือว่ากูรู้สึกยังไง...

    ความเงียบเป็นคำตอบเดียวที่ซีมีให้ ผมกำโทรศัพท์มือถือแน่น ความอึดอัดหน่วงๆในอกที่แทบจะทำให้ขาดอากาศตายเริ่มทุเลาลงไปบ้างแล้ว แต่มันก็ยังไม่หายไปเสียทั้งหมด

    และแล้วซีมันก็เริ่มหัวเราะ   

                [ รู้อะไรไหมวา...กูน่ะรอวินาทีนี้มาตลอดเลยนะ ]มันกระซิบเบาๆ [ ได้ กูจะไม่เร่งรัดมึงแล้ว กูจะถือว่านั่นเป็นคำตอบที่ตรงกับที่กูอยากได้ ]

                ผมเริ่มหายใจทั่วท้องอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็รู้สึกโล่งใจหน่อยๆ ซี...

                [ เจอกันพรุ่งนี้นะ...วา ]

                ปลายสายกดวางไปแล้ว แต่ผมก็ยังคงถือโทรศัพท์แนบหูอยู่อย่างนั้น นานเท่านานกว่าที่จะเอาลงและกดล็อคเก็บ

                ผมยืนนิ่งอยู่กลางห้องครัว...ไม่เคยรู้สึกว่าคำว่า พรุ่งนี้จะมีความหมายเท่านี้มาก่อนเลย

                พี่กานต์เดินกลับเข้ามาในห้องครัวเหมือนรู้ว่าผมคุยเสร็จแล้ว ใบหน้าของพี่ยังมีรอยยิ้มให้ผมอยู่เหมือนดังเช่นทุกครั้ง แต่ผมก็รู้ว่าภายใต้รอยยิ้มนั้น...บางสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว

                ทานข้าวเย็นกันทว่าพี่กานต์ก็ยังคงเอ่ยชวนผมตามปกติราวกับไม่รู้สึกทุกข์ร้อน ทั้งๆที่...พี่กานต์น่าจะได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ทั้งหมด  

                บรรยากาศระหว่างเรากร่อยลงในพริบตา อาหารบ้านพี่กานต์อร่อยครับ แต่ผมดันไม่รู้สึกเจริญอาหารมากเท่าที่ควรซะนี่ พี่กานต์ไม่พูดถึงเรื่องตอนหยิบจานอีกเลย และก็ไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับบทสนทนาทางโทรศัพท์ของผมสักนิด ปล่อยให้ผมได้แต่กังวลเป็นไอ้บ้าอยู่ฝ่ายเดียว

                ทั้งหมด...ต้องยกให้เป็นความผิดของไอ้หมอนั่น!

                ไอ้บ้าที่ทำให้ผมเกือบเป็นบ้าตายเพราะมัน!

                พี่กานต์ให้ผมเข้าไปอาบน้ำก่อน ส่วนตัวเองก็บอกว่าจะเตรียมเสื้อไว้ให้ อีกฝ่ายยังชวนผมคุยไปเรื่อยๆเหมือนไม่รู้สึกรู้สา หากผมก็รู้ดี...รู้ดีกว่าใคร

                ผมคงซื้อเวลา...ยืดเวลาให้คำตอบออกไปเรื่อยๆไม่ได้แล้ว

                วา...พี่เอาเสื้อวางไว้ให้บนเตียงนะพี่กานต์เคาะประตูเบาๆ แต่ผมก็ได้แต่นิ่งเงียบ ยืนพิงประตูอยู่อย่างนั้น

                ต้องบอก

                ต้องพูดออกไป

                พี่กานต์ครับผมตัดสินใจเรียกชื่ออีกฝ่ายได้ในที่สุด เสียงฝีเท้าที่กำลังจะถอยออกห่างเลยพลอยหยุดชะงักไปด้วย ผม...ผมมีเรื่องต้องบอกพี่...

                อีกฟากของประตูมีเพียงความเงียบงัน นานพอควรกว่าที่จะได้ยินคำถามย้อน

                ...คุยกันตอนอาบน้ำเสร็จดีไหม?

                ไม่ได้ครับ!”ผมรีบปฏิเสธ เผลอขึ้นเสียงดังกว่าที่ควรอีกต่างหาก ต้องบอกตอนนี้...ตอนนี้เท่านั้น...นะครับ?

                พี่กานต์ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าเขายังคงยืนฟังผมอยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของประตู

     

                ผมยังไม่ได้ให้คำตอบพี่เลยสินะครับ...?

     

                ชั่วขณะนั้นเหมือนเวลาของเราจะหยุดหมุน พี่กานต์น่าจะเดาได้ว่าผมกำลังจะพูดอะไร เขาจึงเอ่ยขึ้นเรียบๆ

                เปิดประตูให้พี่หน่อย...แค่แป๊บเดียว

                ไม่...ไม่เอา

                ใครจะไปกล้าล่ะ...ถ้าเกิดเห็นหน้ากันขึ้นมา...ผมก็พูดอะไรไม่ออกน่ะสิ

                วา...พี่ขอร้อง...นะ

                ผมล่ะเบื่อ...

                เบื่อตัวเองที่เดี๋ยวก็เอนไปเอนมา ไม่เคยมั่นคง

                กริ๊ก!

                ...ทำไมหรือครับผมยอมเปิดประตูในที่สุด แต่พอตัวโผล่พ้นประตูมา ร่างสูงของพี่กานต์ก็โถมเข้ากอดผมอย่างรวดเร็วจนไม่อาจขยับหลบไปไหนทัน

                พอได้มาอยู่ใกล้ขนาดนี้ ผมจึงเพิ่งตระหนักเป็นครั้งแรกว่าพี่กานต์สูงกว่าผมขนาดไหน แข็งแรงกว่าผมขนาดไหน ทั้งอ้อมแขน ฝ่ามือ ไหล่ ทุกอย่างช่างดูแข็งแกร่งกว่าผมอย่างเทียบกันไม่ได้ แต่ในวินาทีนี้ รุ่นพี่ที่แข็งแกร่งขนาดนี้กลับกำลัง...ตัวสั่น

                อย่าเพิ่งพูดนะ...วาคำขอร้องแผ่วเบาถูกกระซิบผ่านริมหู

     

                ขอแค่ตอนนี้...แค่วินาทีนี้...ให้พี่ได้กอดวาอยู่อย่างนี้ก่อน...นะ?   

     

                เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมรู้สึกว่าพี่กานต์ไม่ใช่ลีดเดอร์ทรัมเป็ต ไม่ใช่หัวหน้าห้อง ม.5/9 ไม่ใช่มือโซโล่ที่น่าเกรงขาม แต่เป็นแค่พี่กานต์...พี่กานต์คนธรรมดาๆที่ยังคงหวาดกลัวต่อความผิดหวัง

                ผมทำร้ายคนคนนี้ไม่ได้จริงๆ

                ทำใจไม่ได้เลย

                นานชั่วอึดใจก่อนที่พี่กานต์จะปล่อยตัวผมออก และพอเราสบตากัน ผมก็ไม่เห็นแววสั่นกลัวใดๆในดวงตาคู่นั้นอีกแล้ว

                พอแล้วล่ะพี่กานต์ยิ้มให้ผม เป็นพี่กานต์คนเดิมกับที่เคยดูแลผมมาตลอด พี่รู้ว่าวาจะพูดว่าอะไร...พอจะเดาเอาจากโทรศัพท์ตอนนั้นได้

                ผม...

                พี่กานต์ยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆคล้ายจะย้ำเตือนไม่ให้ผมพูดอะไร

    ...เราชอบหมอนั่นใช่ไหม?

               

                ชอบ?

              นั่นสิ...ผมชอบซีงั้นหรือ?

     

                แต่ไหนแต่ไรมามันก็เป็นแค่เพื่อน...ถึงจะเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนคนสำคัญ แต่มันก็ยังเป็นแค่เพื่อน

                ไม่เคยมีอะไรมากไปกว่านั้น

                แต่...ตอนนี้...

               

    ผมเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าตัวเองคิดกับมันแค่ เพื่อนแน่หรือ?

     

                ผม...

                ผมไม่อาจตอบอะไรพี่กานต์ได้ พร้อมกันนั้นก็นึกสบถก่นด่าไอ้คนที่บังอาจทำให้ผมวุ่นวายใจขนาดนี้ เพราะมันคนเดียวเลย...ไอ้บ้าซี

                แต่ถึงมันจะบ้า ผมก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงบางอย่างไปได้

     

                มันสำคัญ...สำคัญสำหรับผมเหลือเกิน

                 

                ก็...อาจจะนะครับ

                พี่กานต์ชะงักไปนิดกับคำตอบนั้น แต่แล้วก็ยิ้มให้    

                ดีแล้วล่ะ...พี่เข้าใจ...มือคู่นั้นยังคงอบอุ่นเสมอสำหรับผม รอยยิ้มที่ใจดี มือที่อ่อนโยน ดีแล้ว...

                เรายืนใกล้กันแค่นี้แต่กลับรู้สึกห่างไกลกันราวกับพี่กานต์กำลังพยายามถอยออกห่างจากผมไปทีละนิด

                ผมอยากพูดเหลือเกิน...ว่าพี่กานต์เองก็มีความสำคัญต่อผมเหมือนกัน...ว่าพี่กานต์...เป็นพี่ชายที่ดีที่สุด น่ารักที่สุดของผม

                แต่ผมรู้ว่าถ้าพูดออกไปตอนนี้ มันคงจะเป็นการทำร้ายน้ำใจพี่เขาอย่างร้ายกาจ

                ดังนั้นสิ่งเดียวที่ผมทำได้ก็คือนิ่งเงียบ ปล่อยให้พี่กานต์ลูบหัวผมไปเรื่อยๆ

                แค่ตอนนี้...แค่วินาทีนี้เท่านั้น


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    มีใครสังเกตเห็นอะไรรึเปล่า....

    ตอนพี่กานต์กอดวาวาเพิ่ง0tอาบน้ำเสร็จ...แปลว่ายังไม่ได้ใส่เสื้อ!! O///O

    (โนว์/เผ่นป่าราบ)
    รู้สึกเสียววาบๆเหมือนหลายๆคนเคยขู่เอาไว้ว่าถ้าให้วาไปล่ะมีเรื่อง....แต่แบบ...ไงดีล่ะ...ถ้าไม่ไปมันก็ไม่เกิดเรื่องจิ = =a (เถียงข้างๆคูๆแล้ววิ่งหนีออกนอกกระทู้)
    อโหสิโนว์เหอะนะพี่ปูและอีกหลายๆท่านที่ข่มขู่โนว์มา....เหอๆๆๆ
    แหม พี่กานต์ก็เป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องเหมือนกันนั่นแหละน่า! อย่าเครียดๆ เอาเจ้าวาไปประเคนแค่คืนเดียว(?)แต่ผลตอบแทนเป็นแบบนี้ก็คุ้มล่ะ จริงม้า~~(เข้าข้างตัวเองแบบหน้าด้านๆ) พี่กานต์เขาเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว เขาไม่ทำอะไรหนูวาหรอก(แต่ถ้าเจ้าวาสมยอมก็อีกเรื่อง...เจ้ย!!!)
    ต่อจากนี้ อย่าถามโนว์นะ....ว่าวาเลือกใคร!! เอิ๊กอ๊าก~~

    วิ่งๆตอบเม้นท์ ใครไม่ขึ้นอย่างงเพราะกำลังจิ้มๆตอบอยู่ค่า~

    คุณ 
    LadY_s - ให้นอนจริงจ้า นอนไปแล้วด้วย แต่ดูจากสถานการณ์แล้วก็ไม่ค่อยมีเรื่องน่าหวาดหวั่นเกิดขึ้น ก็แหม...พี่เขาออกจะสุภาพบุรุษ แบบว่าไม่ทำอะไรเด็ดขาดไง ^^ ฮั่นแน่...แอบผิดหวังสินะ อะโฮะๆๆ 

    คุณ EdS0uL - ฮาๆ ขอบคุณเจ้าค่า ถ้าชอบโนว์ก็ดีใจ ว่าแต่....การสะกดจิตจะได้ผลรึเปล่าเนี่ย ไม่แน่นะ ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็คงอีกไม่นานแหละ(มั้ง...)ตอนนี้ปล่อยให้อกหักรักคุด(อีกคน)หลงรักวาข้างเดียวแห้งเหี่ยวหัวใจไปก่อน

    คุณ PRINCE MilKShake - ขอบคุณสำหรับคำชมคร้าบบบบบบ ยินดีต้อนรับสู่บ้านเครสเซนโดจ้า มีอะไรก็มาคุยกันต่อนะ ตอนนี้โนว์อัพตอนใหม่แล้ว ได้อ่านรึยังเอ่ย?

    คุณ Prince"Z - แหม....ฮ่าๆ ก็แบบว่าพาร์ทนี้ซีเขาไม่โผล่ ซีไม่อยู่วาเลยไปนอนค้างบ้านผู้ชายคนอื่น เอ๊ยยยย ไม่ใช่ๆ เขาเสนอมา อีหนูวาก็ด้วยความไม่คิดอะไรเลยตกลงไปแบบง่ายๆ(แอบใจง่าย...) เวลาไม่ค่อยจะมีก็จริงแหละ แต่ซีไม่อยู่ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ฮา~~

    คุณ bummi - หนึ่งเสียงสนับสนุน และเป็นเสียงแรกตั้งแต่ตอบเม้นท์มา ฮา...ไม่ค่อยจะได้ลองใจ แต่ได้เห็นดำเห็นดีกันไปเลยว่าอะไรเป็นอะไร(แต่จากนี้เรื่องจะสงบสุขหรือวุ่นวายก็ไม่รับประกันนะ...) อีตาพี่กานต์ความจริงก็หลุดไปหน่อยแล้วล่ะ แต่แค่หน่อยเดียว...เอาน่า ผิดหวังกันอยู่รึเปล่าคะ? กร๊ากกกกกก

    คุณ naminie - 55555+ ก็หนูวามันออกจะซึน+ซื่อ(บื้อ) ตัวเองเป็นอะไรยังไม่รู้ใจตัวเอง นี่ถ้าพี่กานต์ไม่ใจดีบอกให้ก็คงจะนั่งงมโข่งต่อไปอีกครึ่งชาติได้มั้ง เอ่อ...กอดจูบลูบคลำแล้วจับปล้ำทำแฟน - - ไม่ได้ว่านะจ๊ะ....แต่โนว์ชักกลัว 555+ 
    ปล.หลบรองเท้า+ขวด+สหบาทาให้แม่นๆล่ะ ระวังชาวบ้านเขาจะรุมยำเอา เอิ๊กๆ (ไม่ดูตัวเอง เจอพาร์ทนี้เข้าไปสงสัยชะตาอีโนว์ก็คงใกล้ดับ - - ) 


    คุณ frem - โฮ่ๆ ตัวละครกำลังติดกับดักที่โนว์วางไว้(กับดักหัวใจ - -? ) แม้แต่พี่กานต์ก็ไม่อาจหลุดพ้นไปจากวังวน(นรก)นี้ได้ มันดูเหมือนข้ออ้างเนอะ? โนว์เองก็คิดแบบนั้นล่ะ แต่ถ้าเฮียเขาอยากจะหลอกตัวเองต่อไปก็ปล่อยไปเถิดชะเอิงเอย~ เดี๋ยวเขาก็คงรู้ใจตัวเองเองนั่นแหละ พี่กานต์มีดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวที่เป็นคนใจอ่อนง่ายและโลเลแบบไม่น่าเชื่อ ใครจะมาเป็นแฟนคงน้ำตาตกในหน่อย -.,- แต่เรื่องที่พี่กานต์จะคู่ใครกันแน่...เหยียบๆไว้ก่อนน่า เอาเถอะ...ถึงจะเหยียบไม่มิดแล้วก็ตามที...โฮะๆๆ ส่วนน้องตะวันโมเอ้แบบนั้นก็ดีเนาะ เด็กลูกครึ่งญี่ปุ่นก็โมเอ้+ซึนงี้แล~~ ฮาๆๆ(หัวเราะสติแตก)
    พี่กานต์คิดซื่อนะจ๊ะ ชวนเข้าบ้าน(?)ด้วยความหวังดี(??) แต่หนูวานี่สิ...ตัวคิดไม่ซื่อ เลยเถิดกับเพื่อนแต่ยังไม่รู้ตัว น่ารักน่ากอดน่ากดดีเนาะ = = แอบสงสารซี ก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าชาติไหนะจะได้กดวาซะที ฮา~~  

    คุณ yunjae-kyumin - แหม ไม่ทันแล้วจ้ะ แต่แบบนี้มันให้ผลดีกว่ารึเปล่าเอ่ย? ซีมันไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่มันไปแข่งบาส -.,- พ่อนักกีฬาทีมชาติ วาเลยไปติดแหง็กอยู่บ้านพี่กานต์ซะงั้น เอาน่า...อย่าตื้บโนว์เลยนะ = = แต่ถึงจะไปผลลัพธ์ออกมาดีมันก็น่าจะโอแหละ...มั้ง...

    คุณ Fay - จะว่าแอบมันก็ไม่เชิงแอบ เหอๆๆ ซีมันก็เปิดเผยตรงไปตรงมาดีนะแต่วาดันสับสน พี่กานต์เองก็เป็นพวกพูดอะไรตรงๆแต่คนที่รับไม่ได้ดันเป็นวาเอง = = สรุปปัญหาทุกอย่างอยู่ที่ตาหนูวาคนเดียวเท่านั้น(วา-อย่ามาโยนขี้ใส่กันสิเฟ้ย! -o- ) แต่ยังไงซะ...สักวันวาก็ต้องเลือก แล้วก็ได้เลือกแล้ว...
    โนว์จะพยายามมาลงนะพี่เฟย์ แต่ช่วงนี้งานมันยุ่งๆไง คุมโน่นคุมนี่ กีฬาสีก็เงี้ย = = แต่ก็ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ โนว์ไม่เป็นไรหรอก แต่งนิยายอ่านนิยายแต่ไม่เสียการเรียน โฮ่ๆๆ ^O^
    ปล.รักพี่เฟย์เหมือนกัน ถ้ามีปัญญาหรือว่างแต่งเพิ่มก็คงได้แต่งจริงๆอ่ะแหละ...ถ้ามีปัญญานะ กร๊ากกกกก

    คุณ อ.อลิซ - รับแซ่บเจ้าค่า เปลี่ยนชื่อแต่ก็จำได้เพราะยังมีอลิซอยู่ในชื่อ โฮะๆ โนว์ยังสบายดี แต่ช่วงนี้ใกล้กีฬาสีงานเลยโหดหินทมิฬชาติ =o= คุมโน่นคุมนี่เยอะแยะแต่ก็ไม่เป็นไรหรอก อึด+ถึกพอ สู้ตายครับผม!! เอ้อ...พี่กานต์รุกหนักไปเหรอจ๊ะ งั้นให้จับวากดแทนน่าจะดีว่าเนอะ(เอี้ยวหลบรองเท้าของอลิซ) ฮ่าๆ อ่ะล้อเล่ง กรั่กๆๆ

    คุณ  oong fong  - ฮาๆ ช้าไปแล้วๆ มีแต่คนเชียร์ให้ไปบ้านซีแฮะ โนว์รู้สึกผิดดดดดด(เนี่ยนะรู้สึกผิด - -" ) แต่จะเอาแบบนี้อ่ะ =o= เอาน่า ยังไงซะตอนนี้ก็น่าจะกรี๊ดกันหน่อยๆล่ะมั้ง สวีทกันนิดนึงทางโทรศัพท์ เดี๋ยวไว้พาร์ทต่อๆไปก่อนละกัน ไว้ค่อย...หึๆๆๆ (เซ็นเซอร์แล้วเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะชั่วร้าย)


    คุณ ว้าว  - อยากจะลงติดๆแต่ก็รู้สึกผิดที่(ไม่ค่อย)แอบช้า = = เอาเป็นว่าโนว์มีความภูมิใจที่ยังไม่เคยเข็นมาแบบเปอร์เซ็นต์ เหอๆๆ(หัวเราะกลบเกลื่อน) ที่หนูวาเขาไม่ไปบ้านซีเพราะว่าซีไม่อยู่งับ แล้วก็ไม่ยอมโทรไปบอก(ระวังเถอะงานจะเข้าไม่รู้ตัว...) สรุปเรื่องมันก็เป็นประมาณนี้ล่ะนะ ฮาๆ 

    คุณ ReNaI---aWaRe - เอ่อ...ครือว่า...วามันแค่ไปหาที่ซุกหัวนอนคับ ยังไม่ได้ไปนอนกับใครทั้งนั้น = =a ยังไงซะโนว์ก็ไม่ยอมส่งหนูวาเข้าปากใครง่ายๆหรอก วางใจๆ เพราะแน่นอนว่าโนว์ก็อยู่ฝ่ายสนับสนุนให้เพื่อนสนิทเขาคิดไม่ซื่อต่อกัน ฮิ้วววววววววววววววว

    คุณ darku - ตอบแทนซะงั้น เอิ๊กๆ ฮาโหลๆ แล้ววาว่าไงบ้างคร้าบบ...ผลออกมามันก็ไม่แย่มากนิ อย่างดีที่สุดก็คือหนูวาของเรายังไม่ถูกใครจับกด...โฮ่ๆๆๆ

    คุณ p_infinity - ฮาๆ พี่ปูก็มาทีเดียวรวดเหมือนกันนั่นแล อย่ามาๆ~~ ย้อนๆกลับไปในอดีตอันแสนห่างไกล(อิเว่อร์!!) หนูตะวันเขาก็เป็นเด็กดีอยู่แล้วนะงุงิ แบบ ดีแต่ไม่แสดงออก กร๊ากกกกก เอ่อ...แต่เจ้าชาร์กกับตะวันนี่...ไม่เคยจิ้นแฮะ(ไม่กล้า...) โนว์กำลังแอบสงสัยว่าพี่ปูชอบอะไรเศร้าๆหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องรอแล้วรอเล่า รอต่อไปอีกน้านนนน นาน โนว์เองก็อยากเขียนคู่เศร้าๆแฮะ แต่เนื้อที่และปริมาณคู่ตอนนี้คิดว่าโอแล้ว ขืนเพิ่มเยอะกว่านี้โนว์คงตายคากอง(ตีน)ตัวละคร...เพราะชอบกลั่นแกล้งตัวละครเวลาไม่มีงานทำ นิสัยจริงๆเลย โฮะๆๆ(หลบรองเท้าพี่ปู) อยากให้อีหนูวาร้องไห้รึเปล่า? จัดไป...ไม่ใช่ละ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ล่ะนะ = = แง่มๆ แบบว่าโนว์ขัดคำสั่งพี่ปูอ่ะ บอกไม่ให้ไปแต่โนว์จะให้วาไป ไม่งั้นก็คงไม่รู้ใจตัวเองสักที อย่าพ่นไฟใส่หนูเลยนะ...งืออออ

    คุณ >>>BulldoG -  สั้นๆคำเดียวแต่ได้ใจความและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย =o= แต่แหม...โนว์ทำไปแล้วอ่ะจิ โกรธกันรึเปล่าเนี่ย ฮาๆๆ
    ตอบปล. จะเรียกพี่เหรอจ๊ะ โฮ่ๆๆ แค่ปี(รึครึ่งปี?) อันที่จริงก็รู้สึกแปลกๆ แต่ยังไงก็ได้ ตามสบายจ้า ^^

    คุณ SILVER_KNIGHT&Lovely Hee chuL - ง่า...งั้นถ้าเลือกเนื้อเรื่องก็จะเป็นหัวตอนอ่ะ เพราะถ้าไม่ใช่ตอนที่วาเล่าโนว์จะขึ้นหัวว่า Special Part ตอนเปิดตอนมาเลย แต่บางทีโนว์ก็แทรกเนื้อเรื่องหลักลงไปไง บางทีก็ไม่เกี่ยวกันร้อยเปอร์เซ็นต์แต่คิดว่ามันก็คงจะมีที่เกี่ยวพันกันโผล่มาบ้างแหละ ทางที่ดีอ่านหมดจะดีกว่านะ = =a ไม่ได้อยากบังคับจิตใจหรอกค่า แต่....งืม...ก็มันข้ามลำบากอ่ะ =o= 

    คุณ Chani_Berry - หนูวาคงไม่กล้ามีนอกมีใน กลัวตายไม่รู้ตัว ฮา~~ ซีมันดุจะตาย แค่มีข่าวลือออกมามันก็แทบบีบคอหนูวาแล้ว ขืนไปกิ๊กกันจริงๆมีหวังโดนฆาตกรรมหมู่ - -+ แต่เรื่องที่ว่าจะงานเข้ารึเปล่าอันนี้ยังไม่บอก เพราะซีคงต้องคิดบัญชีเรื่องที่วาหนีไปนอนบ้านผู้ชายคนอื่น(?)แหง...
    ปล. อัพให้แล้วจ้า เมตตาโนว์เถิด = =a เคลียร์ให้แล้วว่าตกลงไปนอนไหน แต่ว่า....ฮาๆ อ่านเนื้อเรื่องก็คงจะรู้เองอ่ะนะ โนว์ไม่พูดดีกว่า ^,.^ (วิ่งหนี)

    คุณ Casanovy - ตอนนี้เจ้าวามีปมในใจมากเป็นพิเศษเพราะกำลังอยู่ในอาการปวดกะโหลกได้โล่ ไม่เข้าใจในการกระทำหลายๆอย่างของซี(และของตัวเอง) เข้าตำรา....ซึนเดเระนั่นเอง...แป่วแหว่วๆๆๆๆๆๆ....แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงซะตอนนี้ก้คงรู้ใจตัวเองแล้ว(...มั้ง) พี่กานต์ก็เจอหักอกเข้าอย่างจัง คงหยุดออกอาละวาดไปสักพัก(ออกอาละวาด - -??) แต่...ตะวันจะเข้ามาได้ยังไงนั้น....อันนี้ก็เป็นปริศนาที๋โนว์จะต้องไปนอนตีลังกาคิดเนื้อเรื่องต่อ โฮ่ๆๆ
    ปล. โนว์ปล่อยระเบิดลงมาอีกลูกแล้วล่ะ คราวนี้ของเขาแรงด้วย รับรองตอนหน้าบึ้มชัวร์
    ปล2.คาชอยู่แผนวิทย์เหรอจ๊ะ โนว์เรียนแผนศิลป์อ่ะ โฮะๆๆ เด็กศิลป์หัวใจวิทย์(ปกติเขามีแต่เด็กวิทย์หัวใจศิลป์ไม่ใช่เรอะ - - )

    คุณ เจ้าหญิงแห่งนางฟ้า - ดีใจที่รู้ว่ามีคนที่กระตือรือร้นรีบมาอ่านนิยายเรา กระซิกๆฟืดดดดด(แอบยื้มเสื้อมาเช็ดน้ำมูก เอ๊ย ไม่ช่ายยยยย) ขอให้หายเหนื่อยไวๆนะเจ้าคะ (สไมล์พาวเวอร์หนึ่งที ^O^ ) ขอบคุณสำหรับคำชมค่า แต่ถึงจะชมโนว์ก็กลับเนื้อเรื่องให้ไม่ทันแล้วล่ะ โห่ฮิ้วววววววว (เพื่ออะไรเนี่ย = =a )

    คุณ ต.ต้าคุง (แชมป์คุง) - ขอบพระคุณรุนช่องเป็นยองใยมากเจ้าค่า(เริ่มออกอาการเพี้ยน????) โนว์อัพตอนใหม่ให้แล้ว พูดจริงนาว่าจะติดตามกันต่อ โฮะๆๆๆ

    คุณ i-on [C-a-na] - เรื่องมันเป็นไปแล้วและก็คงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เหอๆๆ จะโกรธโนว์กันมั้ยเนี่ย มีคนเชียร์ให้นอนบ้านซีเยอะแยะแต่โนว์ก็ยังดื้อเอาหนูวาไปประเคนให้พี่กานต์เฉย...กลัวโดนรุมแฮะ

     

    ตอบหมดแล้วววววว แบบว่ากระแสเรียกร้องขอบ้านซีเยอะแยะ ปกติโนว์จะจัดให้แต่ตอนนี้คงไม่ได้ = =a เอาน่าๆ พยายามคิดในแง่ดีกันเต๊อะว่าอย่างน้อยหนูวาก็ได้ก้าวหน้าไปอีกนิด....นี้ดดดดดดนึง โฮะๆๆๆ
    ปล.รักคนอ่าน รักคนเม้นท์ รักทุกคนเลยยยยยยย ^O^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×