ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    merMAID Princess!! เงือก เมด เจ้าหญิง ป่วน!

    ลำดับตอนที่ #9 : เด็กดีทั้งหลายไม่ควรดื่มเครื่องดื่มมีนเมานะจ๊ะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.07K
      0
      14 มิ.ย. 55


                    ถ้าจะเปรียบนครแห่งพ่อค้าเป็นเหรียญที่มีสองด้านก็คงไม่ผิดนัก 

     

    เหรียญด้านหนึ่งคือมหานครแห่งการค้าอันมั่งคั่งเป็นอันดับหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางการค้าของโลก  เป็นแหล่งศูนย์รวมของเหล่าปัญญาชนและศิลปินที่เป็นเฟืองจักรขับเคลื่อนการพัฒนาความศิวิไลซ์ของมนุษยชาติ  หลักตรรกะและวิทยาศาสตร์ต่างเฟื้องฟู  แนวคิดและนวัตกรรมต่างๆ ถูกประดิษฐ์รังสรรค์ไม่เว้นแต่ละวัน  อาคารตึกรามบ้านช่องถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตราวกับยกสรวงสวรรค์ลงมาจากฟ้า   

     

    กระนั้นเหรียญอีกด้านกลับอัปลักษณ์ราวกับเป็นเงามืดของแสงสว่างจัดจ้านของอีกด้าน

     

                    อีกด้านหนึ่งของนครแห่งพ่อค้าคือความเหลื่อมล้ำทางสังคมระหว่างคนรวยกับคนจน  ระหว่างคนที่สามารถทิ้งขว้างเงินที่เท่ากับเงินเก็บทั้งชีวิตของอีกคนเพียงเพื่อผ้าเช็ดหน้าเพียงผืนเดียว  ความโสมมและความเน่าเฟะทางจริยธรรมที่หลบซ่อนอยู่ในซอกลืบของความฟุ้งเฟ้อเหล่านั้นมีให้เห็นได้ทั่วไปเมื่อยามราตรีมาเยือน 

     

    ถ้าลองเดินไปตามตรอกซอกซอยของท่าเรือฝั่งตะวันตกในยามค่ำคืนจะพบกับแสงสีเสียงที่ดูตระการตาราวกับเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล  แสงตะเกียงหลากสี  เสียงดนตรีและผู้คนจากทั่วสารทิศที่เข้ามาเทียบท่าต่างเข้ามาหาความสำราญนั้นไม่อาจซ่อนสันดานดิบของเหล่ามนุษย์ได้  ภาพของเหล่ากะลาสีกลัดมันผู้กระสันหาหญิงสาวมาดับตันหาที่ค้างคาจากการติดแหง็กบนเรือเป็นเวลานาน  เหล่านางโลมในชุดยั่วยวนคอยเชื้อเชิญบรรดาชายหนุ่มทั้งหลายให้มาหาความสำราญกับตนอย่างไร้ยางอาย  เศรษฐีสูงวัยผู้มีอันจะกินควงเด็กสาวคราวลูกที่ตัวสั่นราวลูกนกเดินเข้าห้องรโหฐาน  บรรดาขี้เมาทั้งหลายที่เดินโซเซไปมาคอยตกเป็นเหยื่อของแก๊งเด็กข้างถนนที่ฉกชิงวิ่งราวเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ   เสียงคนเมาอาละวาดตีกันจนเป็นสงครามขนาดย่อมมีเห็นได้ทั่วไปเกือบทุกวัน

     

    แต่ท่ามกลางร้านรวงซ่องหอนางโลมและแสงสีเหล่านั้นกลับมีโรงเตี๊ยมคูหาเดียวซอมซ่อดูไม่เข้าพวกแห่งหนึ่งที่เปิดกิจการอยู่เป็นเวลาช้านาน  ด้านหน้าทางเข้ามีเพียงป้ายไม้ที่ตัวอักษรจางจนอ่านแทบไม่ออก  ดอกไม้เหี่ยว ๆ บนกระถางที่ห้อยประดับป้ายบ่งบอกการดูแลสภาพหน้าร้านที่ถูกละเลยเป็นเวลานาน 

     

    ไร้ซึ่งหญิงสาวคอยเชื้อเชิญแขก  เหล่าแขกขาจรเข้าออกร้านอย่างเบาตา  หน้าร้านที่ไม่ดึงดูดความสนใจแม้แต่น้อย 

     

    นั่นล่ะคือโรงเตี๊ยมร็อคซาน่าอินน์   

     

    ...................................

    .......................

    ...........

    ....

     

    นี่ซีเรียคนนั้นจริงๆ หรือ

     

    โหหนูน้อยซีเรียกลายเป็นสาวสวยไปแล้วเหรอเนี่ย!”

     

    นี่ซีเรีย  สนใจมาเป็นลูกสะใภ้ของลุงไหม?

     

    ไม่ได้หรอกฟิลิปเป้  หนูซีเรียมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว  แถมมาคราวนี้พกลูกมาด้วยนะ

     

    ลุงเปโดรคะ  หนูยังไม่ได้แต่งงานแล้วก็ยังไม่มีลูกด้วยค่ะ 

     

    ภายในโรงเตี๊ยมซอมซ่อเต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้นผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก  เหล่าบรรดาคุณลุงแก่ ๆ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้านต่างเข้ามาทักทายต้อนรับซีเรียอย่างชื่นมื่นราวกับได้พบหลานสาวอันเป็นที่รักอีกครั้ง  ไม่น่าเชื่อเลยว่าภายในโรงเตี๊ยมคร่ำครึที่เหมือนรอเวลาการปิดกิจการลงกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันอบอุ่น  ราวกับเป็นการรวมครอบครัวที่ไม่ได้พบหน้ากันมานาน

     

    ทว่าถัดออกไปเพียงช่วงตัวเดียวคือองค์หญิงเตเต้ที่เปลี่ยนฉลองพระองค์ชุดใหม่เสร็จแล้วถูกทิ้งให้นั่งแกร่วกับสัมภาระบนเคาน์เตอร์เพียงลำพัง  ปล่อยให้หล่อนเหม่อมองอีกตัวตนของซีเรียที่พระองค์ไม่รู้จักมาก่อน

     

    ตั้งแต่ทรงย่างเท้าเข้ามาในที่นี้เตเต้ก็เหมือนกับเป็นคนนอกมาตลอด  เหล่าบรรดาคุณลุงทั้งหลายต่างล้อมหน้าหลังซีเรียทิ้งให้เตเต้เดียวดายในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย  องค์หญิงก็ได้แต่นั่งงอนแก้ม ตุ๊บป่องรอซีเรีย

     

    ช้าจริงๆ เมื่อไหร่จะคุยเสร็จซะทีน้า  ฉันหิวแล้ว

     

    เตเต้เท้าคางมองซีเรียอย่างหงุดหงิดโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนเพิ่งวางแก้วน้ำบนเคาน์เตอร์ด้านหลัง 

     

    เอ้า  ทำไมทำหน้าบูดซะอย่างนั้นล่ะ  เสียงของหญิงวัยกลางคนอันแหบแห้งดังขึ้นจากเบื้องหลัง  ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนสิจ๊ะ

     

                    ผู้ที่เสนอนมอุ่น ๆ แก่เตเต้เป็นหญิงวัยกลางคน  ผิวขาวรูปร่างท้วม  ผมสีแดงส้มราวกับถูกโฉลมไปด้วยฝุ่นทรายเกล้าเป็นมวนรวบไว้ด้านหลัง  เธอมีนัยน์ตาสีน้ำตาลขุ่นบนใบหน้าที่อ้วนพองที่รอบคางสามารถแกว่งริ้วไขมันส่วนเกินไปมาได้เล็กน้อย  สวมเพียงชุดปอน ๆ เก่าซอมซ่อที่มีผ้ากันเปื้อนสีขาวคาดไว้          

     

    เตเต้ไม่คิดว่าจะมีผู้อื่นมาสนทนากับตน จึงมองหญิงวัยกลางคนผู้นี้อย่างสับสน  

     

    หือ  หนูเข้าใจที่น้าพูดมั้ย?  หญิงรุ่นป้าถามเมื่อเห็นเตเต้ทำหน้างงๆ หนู พูด ภา ษากลาง เป็น มั้ย ? 

     

    เตเต้ชี้มาที่ตัวเองเป็นการถามว่าพูดอยู่กับตนอย่างนั้นหรือ 

     

    ใช่  หนูนั่นล่ะจ้ะ

     

    เตเต้พยักหน้าตอบ  เมื่อเห็นดังนั้นหญิงวัยกลางคนจึงยิ้มอย่างถูกอกถูกใจ

     

    ดีแล้วๆ  ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องคงจะลำบากแย่  แล้วหนูชื่ออะไรล่ะจ๊ะ

     

    เตเต้... ตาลอสติเตส  เตเต้

     

    เตเต้งั้นเหรอ  ชื่อน่ารักดีนะคุณป้าลูบศีรษะด้วยความเอ็นดู  น้าชื่อร็อคซาน่า  แต่หนูเรียกแค่ว่าร็อคซี่ก็พอนะ

     

    คุณป้าร็อคซี่ที่กล่าวสรรพนามแทนตัวเองว่า น้า ได้อย่างหน้าตาเฉยยังคงยืนจ้องเตเต้อย่างสนอกสนใจ  โดยไม่ได้สนเลยว่าเตเต้จะแสดงความรู้รู้สึกกระอักกระอ่วนออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน 

     

    เอ้า  ดื่มนมก่อนที่มันจะเย็นซะซี่  น้าเลี้ยงเอง  

     

    แก้วนมที่มีควันกรุ่นถูกเลื่อนไปเบื้องหน้า  เตเต้มองของเหลวสีขาวขุ่นในแก้วอย่างฉงนใจ  องค์หญิงน้อยยกแก้วมาดมฟุดฟิดราวกับสุนัขน้อยก่อนจะลองจิบนมสักอึก  ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสัยเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเหยเก

     

    แหวะ  น้ำอะไรเนี่ย  เหม็นคาวจะอ้วก!”   

     

    ก็นมวัวธรรมดาๆ เท่านั้นเองนี่นา  คุณป้าร็อคซี่ลองจิบนมที่เตเต้ดื่มเหลือไว้อย่างสงสัย  ก็ไม่ได้บูดนี่นา...  หรือว่าหนูไม่เคยดื่มนมวัวล่ะ

     

    เตเต้ส่ายหัวทั้งที่ยังหลับตาปี๋ แล่บลิ้นพยายามดับคาวในปากอย่างเอาเป็นเอาตาย  แน่นอนว่า  เกาะเล็ก ๆ อย่างอาณาจักรหอยกาบไม่มีวัวอยู่เลยสักตัว  แล้วองค์หญิงจะเคยได้ดื่มนมจากไหน

     

    ว้า...ทำไงดีล่ะเนี่ย  น้ำเปล่าก็ไม่มีซะด้วย  ร็อคซี่มองไปรอบตัวจนในที่สุดก็เหลือบไปให้ถังไม้ขนาดใหญ่ด้านหลัง

     

    เอ้า  ดื่มนี่ไปก่อนก็แล้วกัน  ร็อคซี่วางเหยือกไม้ตรงหน้าองค์หญิงน้อย  ถึงขมหน่อยแต่ก็น่าจะกลบกลิ่นคาวนมได้  แต่อย่าดื่มเยอะล่ะ

     

    บทเรียนเมื่อสักครู่ทำให้เตเต้ค่อนข้างจะผวากับเหยือกตรงพอสมควร  แต่ความคาวในพระปากมันช่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่า

     

    ในที่สุดเตเต้ก็กระดกแก้วขึ้นดื่ม

     

    จิบแรกที่กล้ำกลืนลงไปมันช่างเฝื่อนขมเสียนี่กระไร  แต่มันกลับมีแรงดึงดูดบางอย่างให้อยากดื่มต่อ  เหมือนแต่ละจิบที่ผ่านคอไปจะค่อย ๆ ร้อนวูบวาบขึ้นอย่างแปลกประหลาด

     

    ร็อคซี่!”  ซีเรียแทรกตัวออกมาจากกลุ่มคุณลุงทั้งหลายวิ่งมาหาร็อคซี่อย่างดีอกดีใจ  เธอเดินอ้อมเข้าไปด้านหลังเคาท์เตอร์ก่อนจะเข้าไปสวมกอดคุณป้าร็อคซ่าน่าพร้อมทั้งน้ำตา  หนูกลับมาแล้วค่ะ  ขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้ติดต่อมาเลย

     

    ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ  แค่หนูปลอดภัยน้าก็ดีใจแล้ว...  ร็อคซี่ตบหลังซีเรียเบาๆ  ว่าแต่นี่เหรอหนูน้อยซีเรียที่เคยทำงานอยู่ในร้านฉันนะ  ตอนนี้โตจนเป็นสาวสวยไปซะแล้ว!”

     

    ฮะ ๆ ชมหนูเกินไปแล้วค่ะ  ซีเรียปาดน้ำตาอย่างเขินอาย  ว่าแต่ร็อคซี่ได้พบกับเตเต้แล้วรึยังคะ?

     

    อ๋อ  ลูกสาวหนูนะเหรอ  เมื่อกี๊น้าเพิ่งให้นมไปดื่มแนะ

     

    หนูยังไม่ได้แต่งงานค่ะ  จะมีลูกได้ยังไงกัน  ซีเรียรีบโวยวาย  นี่คือเจ้านายของหนูค่ะ  องค์หญิงเตเต้รัชทายาทแห่งอาณาจักรหอยกาบค่ะ

     

    เมื่อร็อคซี่หันไปมองยังเด็กสาวอีกรอบก็พบกับสิ่งที่ทำให้ร็อคซี่ต้องตกใจยิ่งกว่าการที่เตเต้เป็นเจ้าหญิง... มันคือภาพของเตเต้กำลังกระดกเยือกน้ำดื่มเอื้อก ๆ ไม่หยุด

     

    ตายแล้ว ๆ น้าบอกให้ดื่มนิดเดียวไง  ร็อคซี่รีบแย่งเหยือกแก้วมาจากมือเพียงเพื่อพบว่าภายในเหยือกนั้นว่างเปล่าเสียแล้ว  แค่ไม่ได้มองแป็บเดียวเอง

     

    นี่ร็อคซี่ให้องค์หญิงดื่มอะไรคะเนี่ย  ซีเรียหันไปมองเตเต้ก็ต้องถึงกับตกใจไปอีกคน  เมื่อใบหน้าของเตเต้ก่ำราวผลมะเขือเทศ  นัยน์เยิ้มเหม่อลอย  และปากที่ยิ้มร่าหุบไม่ลง

     

    นี่มันอาการคนเมาชัด ๆ

     

    คือ... น้าก็แค่เห็นว่าเค้าเหม็นคาวก็เลยหาอะไรกลบคาวสักหน่อย  แต่แถวนี้ก็มีแต่เบียร์กับเหล้า...  ร็อคซี่พยายามแก้ตัวพัลวัน  งั้นพาไปนอนชั้นบนก่อนก็แล้วกัน  น้าจัดห้องไว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ

     

    ซีเรียถอนหายใจพลางพยักหน้าตกลงก่อนจะเดินอ้อมเคาท์เตอร์เพื่อไปพาองค์หญิงตัวน้อยที่เมาแอ๋ไปนอนเสีย

     

    เตเต้ไปนอนก่อนเถอะค่ะ  เมาเละแล้วเนี่ย

     

    แต่เตเต้กลับหันมาจ้องซีเรียด้วยนัยน์ตาเลื่อนลอย  ศีรษะโยกไปเยกมาไม่หยุด

     

    มง มาว อารายกานนนน  ช้านม่ายรู้จากกก  เตเต้ดื้อไม่ยอมลุก  พลางพูดภาษาอาณาจักรหอยกาบปนกับภาษากลางมั่วซั่วไปหมด ซีเรียจาล่ายช้านไปกลายๆ ช่ายม๊ายล่า  หา...

     

    อย่าดื้อสิค่ะ  เตเต้สภาพตอนนี้ดูไม่ดีเลย 

     

    ม่ายดงม่ายดีอารายกาน... ช้านออกจาแฮ้ปปี้  องค์หญิงยังคงกล่าวไม่เป็นภาษาพลางหัวเราะอย่างไม่มีเหตุผล

     

     

    ลูกค้าทั้งร้านต่างหันมามององค์หญิงน้อยเป็นทางเดียวกัน  แต่ส่วนใหญ่แล้วเกรงใจซีเรียและร็อคซาน่าเลยทำเป็นไม่สนใจต่อไป  แต่ก็มีลูกค้าหลังร้านบางส่วนที่ดูเหมือนจะไม่ใช่ลูกค้าประจำทำท่าทางไม่ค่อยจะพอใจนัก

     

    นี่ซีเรีย...ยายหนูนี่เป็นเจ้าหญิงจริงเหรอ  ร็อคซี่กระซิบถามซีเรีย

     

    ค่ะ   ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นอย่างนี้  แต่พระองค์จริง ๆ แล้วน่ารักมากเลยนะคะ

     

    ทว่าหูของเตเต้กลับไวเป็นเลิศ  ได้ยินการสนทนาเมื่อสักครู่หมดทุกคำ

     

    อีกละ  มีแต่โคนชอบมองข้ามช้านอยู่เรื่อยเลย...  คราวนี้องค์หญิงเอ่ยเป็นภาษากลางทุกคำ  ช้านเปนจ้าวหญิงแล้วจาทามมายยย....ฮือๆๆ 

     

    จู่ ๆ พระองค์ก็เริ่มร้องไห้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  เจ้าหญิงน้อยก้มซบเคาน์เตอร์พลางยกมือทุบอย่างเอาเป็นเอาตาย  จากนั้นก็นิ่งเงียบไปสักพัก

     

    ........

     

    เตเต้... 

     

    ก่อนที่ซีเรียจะได้เอื้อมมือไปถึง เตเต้ก็พลันเงยหน้าจ้องเขม็งซีเรียซีเรีย  ทันใดนั้นเตเต้ก็เริ่มทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด 

     

    นั่นคือกระโดดขึ้นไปยืนบนเคาน์เตอร์ก่อนยืนตะโกนแหกปากดังทั่วร้าน

     

    พวกที่ม่ายเชื่อว่าราวเปนจ้าวหญิงนะฟางทางเน้!” 

     

    เตเต้ล้วงกระเป๋าหยิบม้วนสารหนังออกมา    ก่อนคลี่ม้วนสารชูขึ้นให้ทุกคนในร้านเห็น 

     

    ช้านนาเปนจ้าวหญิงเจงๆ น๊า  ดูเลย  สารเชิญเข้าปายเรียนที่วิทยาลายโซเฟียของจริง!อย่างน้อยช้านก็สำคัญพอที่จาด้ายร้าบเชิญเข้าปายเรียนล่า!”

     

    จากนั้นเตเต้เริ่มแสดงสีหน้าอย่างพะอืดพะอม 

     

    แหวะ...

     

    มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่รัชทายาทแห่งเกาะหอยกาบจะขย้อนคายของเก่าในท้องออกมาเลอะเทอะไปหมด  พร้อมกับร่างที่ทรุดฮวบหล่นลงมาอย่างน่าใจหาย  แต่ซีเรียสาวรับใช้ผู้จงรักก็ว่องไวพอที่จะรองรับเจ้าหญิงน้อยของตนไว้ได้ทันท่วงที 

     

    ในที่สุดเตเต้ก็สงบลง   นัยน์ตาหลับพริ้มราวกับเด็กอ่อนไร้เดียงสาในอ้อมอกแม่  ซีเรียได้แต่โล่งใจที่เตเต้ไม่หัวร้างข้างแตกเอา 

     

    ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย  ซีเรียก้มศีรษะขออภัยร็อคซาน่า

     

    ความผิดน้าเองล่ะ  น้าเป็นคนให้ยายหนูดื่มเบียร์เอง

     

    ไม่หรอกค่ะ  หนูเองที่ไม่ได้ดูองค์หญิงอยู่ตลอด  เดี๋ยวหนูทำความสะอาดให้เองนะคะ  ซีเรียยังคงยืนกรานอย่างนอบน้อม

     

    ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวน้าจัดการเอง  หนูซีเรียพาองค์หญิงของหนูไปพักก่อนดีกว่านะ

     

    ซีเรียยังลังเล  แต่ร็อคซาน่ายืนกรานด้วยใบหน้าอันอ่อนโยน  ปราศจากความโกรธแม้แต่น้อย  สุดท้ายแม่แต่ซีเรียก็ต้องยอมทำตามเมื่อเห็นแก่เตเต้ในอ้อมแขน   

     

    ............................................

    ............................

    ...............

    .......

    ...

     

    หลังจากซีเรียเปลี่ยนชุดนอนให้เตเต้เสร็จแล้วก็จัดแจงห่มผ้าห่มให้  เตเต้ที่นอนคุดคู้ในผ้าห่มบนเตียงดูน่ารักน่าชังไม่เหมือนกับตอนที่ที่ทุ่มชายร่างสูงใหญ่เกินตัวได้น่าตาเฉย  หรือตอนที่เมาโวยวายในร้านข้างล่าง  เมื่อเห็นพระพักตร์ดูสงบอย่างนี้แล้วซีเรียก็อดไม่ได้ที่จะลูบใบหน้าด้วยความเอ็นดู

     

    อืมม... เด็จพ่อจ๋า 

     

    เสียงอู้อี้โหยหาพระราชบิดามาพร้อมกับน้ำตาไหลริน  แขนกวาดไปมาราวไขว่คว้าหาบุคคลผู้เป็นที่รักยิ่ง  แต่หากแดนไกลบ้านอย่างนี้มือเล็ก ๆ คู่นี้จะเอื้อมถึงพระบิดาผู้ทรงอ่อนโยนได้หรือ ?

     

    แต่มือคู่นั้นนั้นหาได้ไขว่คว้าอย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป  ซีเรียกุมมือน้อย ๆ ที่ดูหยาบกร้านแต่กลับเปราะบางไว้ไม่ให้ห่าง

     

    ไม่ต้องห่วงหรอกนะเจ้าค่ะ  ดิฉันจะคอยอยู่เคียงข้างปกป้องเตเต้จนกว่าชีวิตจะหาไม่เลย

     

    อืมมม...

     

    จากนั้นก็ตามด้วยเสียงกรนอย่างสบายใจโดยที่ยังกุมมือของซีเรียแน่น  รอยยิ้มของซีเรียที่มอบให้กับองค์หญิงน้อยนั้นช่างดูราวกับแม่กำลังดูการเจริญเติบโตของลูกสาวตัวดี  ริมฝีปากอันเรียวสวยค่อย ๆ ก้มลงจุมพิตบนหน้าผาก

     

    ฝันดีนะเจ้าคะ



    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@  



    Edit Log: 21 Feb, 2008: Finish chapter
    Edit Log: 22 Feb, 2008: แก้สำนวน
    Edit Log: 23Feb, 2008: แก้สำนวน
    Edit Log: 25 June, 2011: มหกรรมรีไรท์
    Edit Log: 14 June, 2012: รีไรท์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×