ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    merMAID Princess!! เงือก เมด เจ้าหญิง ป่วน!

    ลำดับตอนที่ #10 : หนูๆ ทั้งหลายจงจำไว้ ผลัดวันประกันพรุ่งมันไม่ดีหรอกนะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      0
      14 มิ.ย. 55

     

    เรือกอนโดล่าไม้โอ๊คสีดำขลับแล่นตัดผ่านผืนน้ำสีน้ำเงินอย่างเชื่องช้าเข้ากับบรรยากาศยามเช้าที่ไม่เร่งรีบ  เสียงดังจ๋อม ๆ ของไม้ค้ำกับเสียงเกลียวคลื่นที่เรือแล่นตัดผ่านผสานกับเสียงนกนางนวลฟังแล้วทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นสงบลงได้อย่างเหลือเชื่อ   แดดยามเช้าของวันนี้ดูอบอุ่นเป็นพิเศษ  นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใสขนาดนี้  ชวนให้จินตนาการว่าเทพธิดาผู้ทรงศักดิ์แหวกม่านหมอกลงมาเที่ยวเตร่ในมหานคร  ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่จู่ ๆ จะมีคนฮัมเพลงอย่างสุขอกสุขใจ  หรือพ่อค้าแม่ค้าจะลดราคาสินค้าให้เป็นกรณีพิเศษ 

     

    ทว่าบนเรือกอนโดล่าลำน้อยนี้กลับตลบอบอวนไปด้วยบรรยากาศมืดมนและทุกข์ระทม  ขัดกับบรรยากาศโดยรอบทุกประการ 

     

    โอ้ย! ปวดหัว...

     

     เจ้าหญิงผู้เป็นรัชทายาทอันดับหนึ่ง  มกุฎราชกุมารีแห่งอาณาจักรหอยกาบ  องค์หญิงตาลอสติเตส  เตเต้  บ่นงอแงอยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่ตื่นนอนจวบจนถึงปัจจุบัน  ในคราแรกเตเต้หวังว่าอากาศยามเช้าอันสดใสของวันจะช่วยให้หายอาการปวดหัวที่ราวกับมีปลาหมึกกำลังดูดมันสมองในหัว บวกกับอาการคลื่นไส้อาเจียนอันแสนจะทรมานนั่น — 

     

    แหว่ะ....ใครก็ได้ฆ่าฉันทีเหอะ

     

    — แต่ดูจากสภาพในตอนนี้คงพูดได้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรสักนิด

     

    จำไว้เลย  ต่อไปนี้ฉันจะไม่ดื่มอะไรที่ยายป้าคนนั้นยื่นให้อีกแล้ว! 

     

    เตเต้คะ  ถ้าขยับตัวมากไปเรือจะพลิกได้นะ  ซีเรียกล่าวขณะที่มือเกาะขอบเรือกอนโดล่าที่กำลังโคลงเคลงไปมา 

     

    ช่างมันประไร  มันจะมีอะไรแย่ไปกว่าตอนนี้อีกแล้วล่ะ  โอ๊ย  ปวดหัว  เตเต้กุมศีรษะบิดไปมา  ใบหน้าบู้บี้ราวกับว่าฟ้าจะถล่มดินจะทลายเดี๋ยวนั้น

     

    แม่บ้านผู้สัตย์ซื่อได้แต่ถอนหายรอบแล้วรอบเล่าพลางหันหลังไปยิ้มแห้ง ๆ ให้กับคุณลุงฟิลิปเป้  ลูกค้าขาประจำของโรงเตี๊ยมร็อคซ่าน่าอินน์  ผู้ที่กำลังพายเรือกอนโดล่าอย่างสบายอกสบายใจ

     

    ขอโทษเลยนะคะที่ต้องรบกวนคุณลุงแต่เช้าเลย

     

    ไม่เป็นไรหรอก  ยังไงเสียมันก็เป็นทางผ่านอยู่แล้ว  แถมยังมีสาวน้อยน่ารักๆ อย่างหนูมานั่งบนเรือลุงแค่นี้ก็ชื่นใจไปทั้งวันแล้วล่ะ 

     

    และดูเหมือนว่าสิ่งที่คุณลุงฟิลิปเป้พูดนั้นจะเป็นความจริงมากกว่าเป็นแค่คำพูดตามมารยาท  คุณลุงยิ้มร่าพลางผิวปากอย่างสบายอารมณ์  และดูเหมือนคุณลุงจะถือเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่ได้ซีเรียมาประดับเรือให้เป็นที่สนใจของเรือลำอื่น

     

    จากนั้นไม่นานเรือกอนโดล่าลำน้อยก็แล่นเข้าสู่คลองสายหลักที่เป็นหัวใจของการคมนาคมของมหานครชั้นใน  คลองมีขนาดกว้างขนาดต้องใช้เรือกอนโดล่าต่อตามแนวยาวประมาณสิบกว่าลำถึงจะเชื่อมถึงอีกฝั่งหนึ่ง  คูคลองทอดตัวคดเคี้ยวผ่านตัวเมืองโดยมีอาคารหลากสีสันตั้งตระหง่านราวกำแพงขนาบข้างทั้งสองฝั่งคลอง  สภาพอากาศแจ่มใสเช่นวันนี้ชวนเชิญให้เหล่าผู้คนต่างเปิดหน้าต่างรับแสงแดดของวัน  และมันก็ไม่แปลกถ้าเห็นแม่บ้านนำผ้าออกมาตากริมหน้าต่าง  หรือเหล่าบรรดาสามีผู้ว่างงานออกมานั่งคาบยาสูบพ่นควันปุด ๆ บนระเบียงอย่างสบายใจ 

     

    นอกจากคลองสายหลักนี้แล้วยังทางเส้นทางน้ำสายอื่นตัดผ่านตัวเมืองอีกนับร้อยสายเพื่อความสะดวกในการคมนาคมค่ะ ตรงนี้อาจจะเห็นไม่ชัด  แต่ถ้าเตเต้ได้ขึ้นไปบนยอดปราสาทของวิทยาลัยโซเฟียแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนค่ะ  ตอนนั้นฉันเคยมีโอกาสได้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ครั้งหนึ่ง  มันเป็นภาพที่สวยงามมากเลย  ราวกับว่าทั้งเมืองถูกขุดเป็นคูคลองซะพรุนไปหมดเลย]jt”

     

    ตลอดลำคลองจะเห็นเรือพายลำน้อยใหญ่ต่างผูกกับเสาหลักสีฟ้าริมน้ำเรียงกันเป็นแถวไปจนแทบจะไม่มีที่ว่างเหลือ  ในบางคราที่มีเรือลำอื่นแล่นสวนผ่าน  คุณลุงฟิลิปเป้ก็ทักทายพูดคุยตามภาษาคนรู้จัก  แถมอีกฝ่ายมีการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถอดหมวกทักทายซีเรียอีกด้วย

     

    ระหว่างนี้ซีเรียก็เริ่มถือวิสาสะเป็นมัคคุเทศก์เฉพาะกิจ  มือของหล่อนชี้ไปมาพัลวัน  เริ่มบรรยายเกี่ยวกับสถานที่และสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสะพานโค้งสีขาวไร้ตอม่อที่เป็นความภาคภูมิใจของอาณาจักรพ่อค้าอันมั่งคั่ง  คุยฟุ้งเรื่องโดมวิหารหินอ่อนที่รอดจากเพลิงไหม้ครั้งใหญ่  หรือนิทานเกี่ยวกับรูปปั้นของสองฝั่งเมืองที่ไม่ถูกกัน

     

    แต่กระนั้นเตเต้กลับหาได้มีความสนใจในเรื่องราวที่ซีเรียเล่ามาเลย  เธอเพียงแต่เหลือบมองตาลอย ๆ พลางพึมพำคำว่า เหรอ  หรือ  อืม…”  ก่อนกลับไปทำหน้าพะอืดพะอมต่อ

     

    เตเต้ค่ะ  ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเรากลับกันก่อนก็ได้นะคะ

     

    เรื่องสิ!  อุตส่าห์ออกมาแล้วทั้งที  ฉันไม่กลับไปที่ร้านแล้วดื่มน้ำรสชาติพิลึกนั่นอีกหรอก

     

    ซีเรียถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนกับตรรกะแปลก ๆ ขององค์หญิง  เพราะถึงกลับไปก็ไม่ต้องดื่มเบียร์หรือนมก็ได้ 

     

    ดูเหมือนเตเต้จะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง  แต่ช่างมันเถิด  ขืนให้ขลุกอยู่แต่ในห้องคงได้แย่กว่านี้แน่ 

     

    ทว่ามันก็มีบางสิ่งที่ช่วยให้องค์หญิงน้อยสร่างเมาค้างเร็วขึ้น

     

    ทันใดนั้น  อาการวิงเวียนที่เคยอัดแน่นในหัวก็พลันอันตรธานหายไปสิ้นเมื่อภาพของปราสาทขาวปรากฏต่อหน้า  นัยน์ตาสีน้ำทะเลเบิกกว้างเมื่อยามแหงนหน้ามองยอดหอคอยที่สูงจนทำให้ผู้มองรู้สึกเหมือนกับเป็นมดตัวน้อยที่คอยแหงนหน้ามองมนุษย์เลยทีเดียว

     

    เรือกอนโดล่าลำน้อยจอดเทียบท่าบริเวณใกล้เคียงก่อนจะถึงตัวปราสาท  เนื่องจากเลยคุ้งน้ำเลยจากนี้ไปเป็นเขตหวงห้ามที่ไม่ให้คนธรรมดาเลยล้ำเข้าไป

     

    หลังจากกล่าวอำลาลุงฟิลิปเป้เรียบร้อยแล้ว  ทั้งสองจึงมุ่งหน้าเข้าสู่ลานกว้างที่หน้าปราสาท  คูน้ำที่ต่อจากคลองหลักเป็นสิ่งที่แบ่งแยกส่วนของปราสาทกับลานกว้างออกจากกัน  สะพานหินมีป้อมประตูขนาดใหญ่เชื่อมต่อระหว่างปราสาทกับลานกว้าง  เหล่าบรรดาทหารหาญในชุดเครื่องแบบสีเขียวขาวกระชับปืนคาบศิลาติดดาบปลายปืนยืนเฝ้ายามราวกับเป็นรูปปั้นมีชีวิต  กำแพงสีขาวสูงยังคงตั้งตระหง่านเหมือนเมื่อวันวานเมื่อครั้นถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว  อีกทั้งยังประดับประดาด้วยเหล่าริ้วธงประจำราชอาณาจักรและตระกูลชั้นสูงทั้งหลายโบกไสวต้องสายลมราวกับเป็นศูนย์รวมของอำนาจผู้ปกครองในโลกนี้ 

     

    ซีเรีย  ดูสิ ๆ ! นี่มันปราสาทขาวที่เห็นเมื่อวานนี่นา  โห...ไม่คิดเลยว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้

     

    เตเต้ยืนแหงนหน้ามองดูปราสาทสีขาวอย่างตื่นเต้นจนเผลออ้าหวอค้างเสียอย่างนั้นตั้งนานนม

     

    มันทำเอาเรากลายเป็นมดไปเลย  เข้าใจไหมซีเรีย  เป็นมดนะ  ของจริงมันคนละเรื่องกับภาพในหนังสือเลย  นี่ ๆ ซีเรียรู้อะไรเกี่ยวกับปราสาทนี้ไหม

     

    ซีเรียเผยรอยยิ้มพึงพอใจที่ในที่สุดองค์หญิงน้อยก็ต้องการรับฟังคำพูดของหล่อนเสียที

     

    เมดสาวผายมือแนะนำปราสาทตรงหน้าด้วยความภาคภูมิ

     

    นี่ล่ะค่ะ  วิทยาลัยโซเฟีย

     

    ปากของเตเต้ยิ่งอ้ากว้างเข้าไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดของซีเรีย  เธอหันมามองซีเรียอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยินเมื่อสักครู่  ก่อนจะหันกลับไปแหงนมองปราสาทพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่

     

    ธงบนกำแพงนั่นเป็นธงประจำตระกูลแสดงถึงผู้ที่กำลังเข้ารับการศึกษาในวิทยาลัยโซเฟียค่ะ  ไม่ต้องห่วงนะคะ  ดิฉันเองเตรียมธงของอาณาจักรหอยกาบไว้เพื่อการนี้แล้วล่ะค่ะ  เตเต้คงอยากเห็นธงหอยกาบโบกสะบัดบนยอดกำแพงเหมือนกันใช่ไหมล่ะ  

     

    เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรหอยกาบเหม่อมองธงบนกำแพง  เหล่าตราสัญลักษณ์บนธงทั้งหลายล้วนดูคุ้นเคยเหมือนเคยผ่านตามตามตำราประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารของเหล่าอาณาจักรทั้งหลาย 

     

    ระหว่างนั้นเองขบวนรถม้าก็เคลื่อนขบวนมุ่งหน้ามาทางปราสาท  รถม้าสีน้ำเงินสลักทองลวดลายกวางสองตัวหันหน้าเข้าหากันพร้อมกับเหล่าขบวนผู้อารักขาบนหลังอาชาในชุดสีน้ำเงินหรูหราบ่งบอกถึงสถานะของผู้ที่โดยสารมาได้เป็นอย่างดี

     

    ดูจากตราบนรถม้าแล้วคงเป็นใครสักคนในตระกูลเซซิอารี่แน่เลยค่ะ

     

    ดูจากสีหน้าขององค์หญิงแล้วซีเรียก็พอจะทราบได้ว่าเตเต้ไม่ทราบถึงเรื่องที่ซีเรียกล่าวเมื่อสักครู่เป็นแน่ 

     

    โธ่  ดิฉันเคยสอนไปแล้วไม่ใช่เหรอคะเกี่ยวกับตระกูลผู้มีอิทธิพลทั้งหลายของอาณาจักรพ่อค้าอันมั่งคั่งนะค่ะ  องค์หญิงทรงส่ายพระพักตร์เป็นอันสรุปเรื่องราวทั้งหมด  ซีเรียจึงต้องเริ่มสาธยายความรู้รอบตัวใหม่อีกรอบ  ตระกูลเซซิอารี่เป็นตระกูลพ่อค้าเก่าแก่ตระกูลหนึ่งของอาณาจักรพ่อค้าเลยทีเดียว  ทำการค้าขายเป็นพ่อค้าคนกลางระหว่างจักรวรรดิกลางอันเกรียงไกรกับอาณาจักรทางภาคพื้นทวีปตะวันตกเป็นเวลาช้านาน   นอกจากนี้ตระกูลเซซิอารี่ครองส่วนแบ่งหนึ่งในสี่ของการค้าทาสกับสินค้าจำพวกผ้าไหมและเครื่องเทศที่เข้าสู่ทางทวีปตะวันตกเชียวนะคะ  ถือว่ามั่งคั่งเป็นอันดับต้น ๆ ไม่แพ้ตระกูลกษัตริย์ทั้งหลายเลย

     

    แต่ทว่านอกเหนือจากที่ซีเรียอธิบายแล้ว  เตเต้ก็ได้ยินสิ่งที่ผู้คนบนท้องถนนซุบซิบนินทาอย่าเผ็ดมันด้วย

     

    ดูสิ  ถึงขนาดกั้นถนนเพื่อเอารถม้าเข้ามาวิ่งอวดศักดาว่าข้ารวย  เจ้าพวกคนรวยมันจะทำให้ชาวบ้านชาวช่องเค้าเดือดร้อนไปถึงไหนกัน! 

     

    นี่เดี๊ยนได้ยินมาว่าปีนี้พวกเซซิอารี่จะส่งเจ้าลูกเมียน้อยนั่นเข้าเรียนนี่  คงคิดจะส่งลูกสาวให้ไปจับพวกเจ้าชายโง่ ๆ ในนั้นแน่เลย

     

    ได้ข่าวว่าผู้นำตระกูลดันเป็นหมันนี่  เปลี่ยนเมียมาตั้งหลายคนก็ไม่มีลูกเสียที  แต่ดันไปทำนางบำเรอท้องซะได้แถมลูกออกมายังเป็นผู้หญิงอีก  คิดเหรอว่าลูกของยายนั่นจะเป็นลูกแท้ ๆ ของตัวนะ  ช่างน่าสมเพชจริง ๆ

     

    พวกนั้นมันกระสันอยากจะมีเชื้อเจ้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา  โดนตระกูลอื่นดูถูกตลอดว่าเป็นแค่ตระกูลพ่อค้าริอาจเทียบชั้นกับตระกูลขุนนางชั้นสูง

     

    จนแม้แต่ขบวนรถม้าผ่านเข้าไปในปราสาทหมดแล้วเสียงข้อครหานินทาก็ยังซุบซิบกันปากต่อปากไม่หยุดหย่อน

     

    เตเต้คะ  พวกเราเองก็เข้าไปกันดีกว่า

     

    เตเต้ทอดสายตามองเหล่าฝูงชนและปราสาทโซเฟียที่สูงชะลูดอย่างกระอักกระอ่วนใจก่อนจะหันไปยิ้มแห้ง ๆ กับซีเรีย

     

    แฮะ ๆ ฉันลืมเอาจดหมายเชิญมานะ

         

    หา...ก็ดิฉันเห็นเตเต้หยิบมาแล้วนี่คะ

     

    ซีเรียแย้งแต่เจ้าหญิงเตเต้ยังพยายามแถเลี่ยงไปเรื่อย

     

    เอาน่า  เรายังมีเวลาอีกตั้งอาทิตย์กว่าจะหมดเขตไม่ใช่หรือ  ไปเที่ยวในตัวเมืองกันก่อนเถอะ  อากาศดีออกขนาดนี้แท้ ๆ

     

    ซีเรียได้แต่ต้องทิ้งข้อสงสัยที่ว่า  แล้วเมื่อสักครู่ที่กำลังจะเป็นจะตายนั่นมันคืออะไร  ทิ้งไปก่อนเดินตามเตเต้ที่กระโดดอย่างเริงร่าบนท้องถนน

     

    จากนั้นเตเต้และซีเรียก็ท่องเที่ยวรอบตัวเมืองอย่างสนุกสนาน  โดยเฉพาะองค์หญิงที่ดูเหมือนจะตื่นตาตื่นใจไปกับทุกๆ อย่างที่เมืองนี้พึงจะเสนอมาได้ 

     

    ซีเรียลองไปกินพายร้านนั้นกันไหม  เห็นคนต่อแถวกันยาวเลย

     

    ซีเรียมองชื่อร้านพายคุณนายเลิฟเ*ทแล้วก็พลันรู้สึกสยองขวัญขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุก่อนจะลากองค์หญิงไปห่างอย่างรวดเร็ว

     

    นั่นโรงอุปรากรใช่ไหม  คืนนี้เรามาดูกันเถอะ

     

    ถ้าไม่สนเรื่องจำนวนเหรียญกษาปณ์ที่เหลือเพียงน้อยนิดในกระเป๋าแล้ว  ซีเรียก็ไม่อยากให้องค์หญิงน้อยของตนโดนโคมไฟแชนเดอร์เลียล่นใส่พระเศียรสักเท่าไหร่นัก

     

    ว้าว  หออะไรเนี่ยสวยจังเลย  ดูสิ ๆ มีรูปสัตว์ประหลาดเกาะตามหลังคาเต็มไปหมด  โห  ระฆังเต็มไปหมดเลย  อยากรู้จังว่าใครเป็นคนตีระฆังทั้งหมดนั่นนะ

     

    ซีเรียก็ได้แต่หวังว่าองค์หญิงคงจะไม่ต้องหนีใครหัวซุกหัวซุนจนไปเจอกับคนตีระฆังนั่นเข้าก็แล้วกัน

     

    มันเป็นเวลาเย็นใกล้ค่ำก่อนที่ทั้งสองจะลากสังขารกลับมายังโรงเตี๊ยมร็อคซาน่าอินน์  ถึงแม้จะเดินเที่ยวทั้งวันอย่างไม่หยุดหย่อน  แต่เตเต้ยังคงดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าพลังงานเต็มเปี่ยมผิดกับรูปร่างผอมแห้งแรงน้อย

     

    ทันใดนั้นเอง....

     

    โอ้ย !

     

    ระหว่างกำลังจะขึ้นไปบนห้องตนจากทางด้านหลังของร้าน  เตเต้ก็ชนเข้ากับชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่ดูเหมือนรีบร้อนวิ่งลงมาราวกับหนีอะไรบางอย่างอย่างไม่คิดชีวิต  แต่แทนที่จะกล่าวคำขอโทษ  เขาหลับรีบเผ่นออกไปอย่างรวดเร็ว  มีแต่เสียงด่าทอของเตเต้ไล่หลังเจ้าหมอนั่นไป

     

    ฉันจำหน้ามันไว้ได้แล้ว  คอยดูเหอะ  เจอครั้งหน้าแม่จับล็อคให้มันนอนตายกันไปข้างเลย!

     

    แต่ซีเรียกลับมีท่าทีเคร่งเครียดราวกับฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง  รีบวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วก่อนจะตะโกนเรียกหาเตเต้อย่างรีบร้อน 

     

    เตเต้คะ  ไปเรียกร็อคซี่ขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!

     

    เตเต้เดินขึ้นไปข้างบนด้วยความสงสัยก็ต้องพบซีเรียที่กำลังประคองหญิงสาวแดงสกปรกผู้หนึ่งขึ้นมาจากพื้น  ศีรษะของเธอมีรอยฟกช้ำเหมือนถูกอะไรกระแทกอย่างแรงจนหมดสติ

     

    เร็วสิคะเตเต้!

     

    ..................................

    .......................

    ............

    ....

     

    ไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ  ขอโทษนะค่ะที่ทำให้ทุกคนวุ่นวายกันไปหมด

     

    หญิงสาวผมสีแดงสกปรกนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องครัวที่อยู่ด้านหลังโรงเตี๊ยม  ศีรษะด้านขวาของหล่อนปูดบวมราวเป็นลูกมะนาวยิ่งทำให้ศีรษะเถิก ๆ ของหล่อนดูเด่นขึ้นเข้าไปใหญ่  ใบหน้าเรียวยาวที่เต็มไปด้วยกระของหญิงสาวอายุไม่เกินยี่สิบห้ายังคงแฝงไปด้วยความตื่นตระหนกไม่หาย  นัยน์ตาสีน้ำตาลขุ่นจ้องมองแม่บ้านสาวที่ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบศีรษะเธออยู่  สำเนียงภาษากลางที่เธอพูดนั้นดูกระท่อนกระแท่นคล้ายกับสำเนียงที่ร็อคซาน่าพูดราวกับเป็นคนบ้านเดียวกัน

     

    ไม่หรอกค่ะ  ถ้าไม่ได้คริสเทียน่ามาเจอเข้าก่อนล่ะก็  ป่านนี้สมบัติของพวกเราคงโดนขโมยไปหมดแล้ว  ซีเรียกล่าว

     

    ใช่แล้วล่ะ  ถ้าพี่ไม่อยู่ป่านนี้คงโดนยกเค้าหมดห้องแหง  องค์หญิงกล่าวเสริม

     

    ขอบคุณค่ะ  โอ้ย!  คริสเทียน่าหลับตาปี๋เจ็บรอยปูดที่ซีเรียกำลังเช็ดอยู่

     

    จากคำบอกเล่าของร็อคซาน่า  คริสเทียน่าจะเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรก  เธอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าระหว่างที่เธอกำลังเข้าไปทำความสะอาดห้องของเตเต้  เธอบังเอิญไปเจอผู้ชายคนหนึ่งกำลังพยายามงัดแงะห้องอยู่พอดี 

     

    ตอนนั้นฉันพยายามจะตะโกนเรียกคนอื่นแล้ว  แต่โดนผู้ร้ายคนนั้นผลักล้มหัวชนผนังจนมึนไปหมดเลยล่ะค่ะ

     

    ในตอนนั้นมันเป็นเวลาเดียวกันกับที่เตเต้และซีเรียมาถึงโรงเตี๊ยมพอดีเลยช่วยเธอไว้ทันกาล  คาดว่าผู้ชายที่วิ่งชนเตเต้จะเป็นคนเดียวกันกับที่พยายามบุกเข้าไปในห้องกับทำร้ายคริสเทียน่า  

     

    แต่ว่าแย่เลยนะ  อุตส่าห์มาทำงานเป็นวันแรกก็เจอดีเข้าเสียแล้ว  เจ้าหญิงเตเต้เอ่ย  ถ้าเป็นที่เกาะหอยกาบต้องทำพิธีล้างโชคร้ายยกใหญ่เลยนะเนี่ย  เมื่อองค์หญิงพูดจบก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าเมื่อวันก่อนก็เพิ่งเจอเรื่องแย่ ๆ มาเหมือนกัน  นี่ซีเรีย  ฉันว่าเราก็น่าจะทำเหมือนกันนะ  ตั้งแต่มาสองวันนี่เจอแต่อะไรแปลก ๆ ทั้งนั้นเลย    

     

    หลังจากนั้นคริสเทียน่าก็พยายามที่จะขอไปทำงานต่อ  แต่ร็อคซาน่าสั่งผ่านซีเรียไว้ให้เธอไปพักผ่อน  หลังจากถกเถียงกันอยู่นานสุดท้ายคริสเทียน่าก็ยอมไปพักผ่อนตามที่ร็อคซาน่าขอร้องมาโดยซีเรียจะเป็นคนช่วยทำงานแทนในส่วนของเธอไปก่อน

     

    ................................

    ........................

    ............

    ....

     

    ร็อคซี่นึกครึ้มอะไรกันค่ะเนี่ยถึงได้ จ้างเด็กใหม่มาทำงาน  ซีเรียถามร็อคซี่ระหว่างกำลังเช็ดแก้วอยู่  ทั้งที่นอกจากหนูแล้วร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจ้างคนอื่นเลยนี่คะ

     

    เห...ที่ถามอย่างนี้น้อยใจที่น้าไปจ้างคนอื่นเหรอ  

     

    เปล่าค่ะ  แค่มันกะทันหันจนน่าแปลกใจนะ 

     

    เมื่อเห็นว่าซีเรียไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ  ร็อคซ่าน่าจึงค่อยผ่อนตัวพิงเคาน์เตอร์อย่างเหนื่อยอ่อน  เห็นอย่างนี้ความจริงน้าเองก็แก่ลงมากเลยนะ  เจ้าแก่นั่นก็ออกทะเล  นานปีจะกลับมาบ้านที  น้าเองก็คงทำโรงเตี๊ยมนี้คนเดียวแบบสมัยก่อนไม่ได้แล้วล่ะ

     

    แปลกจริง ๆ เลยนะค่ะที่ร็อคซี่ยอมรับว่าตัวเองแก่นะ  ซีเรียกล่าวติดตลกพร้อมกับขำออกมาเล็กน้อย

     

    ร็อคซาน่าที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะชอบใจออกมาพร้อมกับใช้ฝ่ามืออันทรงพลังขยี้ผมซีเรียอย่างเมามัน

     

    แหม  ยังฝีปากยังคงดีไม่เปลี่ยนเลยนะ  เห็นตอนอยู่กับคุณหนูหัวหยิกนั่นแล้วดูเรียบร้อยผิดหูผิดตาเชียว  ยังนึกอยู่เลยว่าเปลี่ยนไปมากเหมือนกัน  ที่ไหนได้...  หลังจากสาแก่ใจแล้วร็อคซาน่าจึงเล่าเรื่องต่อ  พูดถึงคริสเทียน่าตอนแรกน้าก็กะจะไม่จ้างหรอก  เธอเองก็โผล่มาเมื่อเช้าตอนที่พวกเธอออกไปได้ไม่นานสักเท่าไหร่  แต่เห็นว่าหล่อนเป็นคนถิ่นเดียวกับน้าถ้าไม่ช่วยเหลือมันก็กระไรอยู่  เห็นเธอมาอ้อนวอนขอเข้าทำงานแล้วก็นึกสงสาร  ช่วงนี้งานยิ่งหายากอยู่ด้วย  แต่ก็ดีนะ  เท่าที่ดูมาก็ทำงานได้คล่องเชียวล่ะ  ประหยัดแรงน้าได้เยอะเลย

     

    งั้นเหรอค่ะ  ซีเรียกลับไปใช้ความคิดอีกสักพักก่อนสักครู่  ร็อคซี่ค่ะ  หนูมีเรื่องติดใจเกี่ยวกับเรื่องเมื่อเย็นนะค่ะ

     

    อืมมม  น้าเองก็ตกใจเหมือนกันนะ  มันกี่ปีมาแล้วนะที่ไม่มีคนกล้าลองดีปล้นโรงเตี๊ยมตั้งแต่น้าฟาดหัวเจ้าหนุ่มนั้นจนไม่ฟื้นนะ  ดูจากรูปร่างของร็อคซาน่าแล้วก็ไม่น่าแปลกใจนักที่เธอจะทำได้อย่างที่กล่าวมา

     

    เปล่าค่ะ  ที่หนูสงสัยคือทำไมพวกนั้นถึงมาปล้นห้องของหนูต่างหาก  ทั้งที่ก็เพิ่งมาพักเป็นคืนแรกแท้ ๆ เท่าที่หนูตรวจสอบดูแล้วนอกจากที่ห้องจะโดนค้นจนกระจุยแล้วสมบัติอื่น ๆ แทบไม่ได้ถูกแตะเลย  หนูสงสัยว่าเจ้านั่นมันมีจุดประสงค์อื่นหรือเปล่าน่ะค่ะ 

     

    ซีเรียพูดอย่างนี้คงหมายถึงยายหนูหัวหยิกนั่นสินะ  ร็อคซาน่าอ่านความคิดของซีเรียออก  ถ้าเธอเป็นห่วงนักก็ไปหาซะสิ  ตอนนี้ลูกค้าก็ไม่ค่อยมีแล้วน้าคนเดียวคงทำไหวน่า 

     

    ถึงแม้ซีเรียค่อนข้างจะมั่นใจว่าเตเต้คงเล่นงานเจ้าพวกนั้นหมอบกระแตหมดแน่  แต่อย่างไรก็ดีซีเรียก็อดเป็นห่วงไปไม่ได้  จึงขอตัวขึ้นไปหาเตเต้บนห้อง 

     

    เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับเตเต้นอนแผ่บนเตียงทั้งฉลองพระองค์ที่ใส่มาทั้งวัน  เสียงกรนเบา ๆ บ่งบอกถึงห้วงนิทราของสาวน้อยได้เป็นอย่างดี

     

    ท่าทางการนอนของเตเต้นั้นดูสุขสบายจนซีเรียไม่อยากจะเข้าไปปลุกเลย  แม้จะได้กลิ่นตุ ๆ เล็กน้อยจากตัวก็เถอะ  แต่ใบหน้าที่ผ่อนคลายบนหมอนยัดขนเป็ดที่เยิ้มไปด้วยน้ำลายก็ทำให้ใครที่ผ่านมาเห็นต้องยิ้มออก 

     

    ซีเรียพลันเห็นม้วนจดหมายเชิญเข้าเรียนอยู่ในมือเตเต้  เนี่ยนะหรือที่บอกว่าลืมไว้น่ะ  ซีเรียบ่นเบา ๆ พลางหยิบม้วนสารออกมาจากมือ 

     

    หรือว่า....

     

    ด้วยเหตุบางประการ  ซีเรียจ้องมองม้วนจดหมายในมือราวกับมีบางอย่างดลใจเธอว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเชื่อมโยงกับม้วนจดหมายนี่ก็เป็นได้ 

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

     

     


    Edit Log: April 3rd, 2008: จบตอนซะเลย  ยืดมันเข้าไป ฮึ่ยๆ 
    Edit Log: April 4th, 2008: แก้ไขสำนวนเล็กน้อย
    Edit Log: May 8th, 2008: แก้คำผิด  ต้องขอขอบคุณท่าน  -*-MomO-*- ที่ช่วยตรวจทานให้ครับ
    Edit Log: Jan 9th, 2009: แก้ฟ้อนท์
    Edit Log: June 27th, 2011: มหกรรมรีไรท์
    Edit Log: June 14th, 2012: รีไรท์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×