ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Psalms of the New World

    ลำดับตอนที่ #26 : Evil has a Face

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 319
      0
      19 ม.ค. 51

    รอสในชุดเสื้อยืดกางเกงเลสีส้มล้มตัวลงไปนอนกับเตียงทันที  ผิวอันแดงฝาดกับผมสีน้ำตาลเข้มที่เปียกชื้นอยู่เล็กแสดงว่ารอสเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ  แต่รอสก็ไม่สนใจที่จะทำให้ศีรษะแห้งสนิทอีกต่อไปแล้ว  ไม่สนแม้แต่เสียงโหวกเหวกของตุ้มหูที่ถอดวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง  หรือแสงไฟสีส้มจากตะเกียงที่ยังถูกจุดทิ้งไว้  การได้พักผ่อนบนที่นอนอันนุ่มอุ่นสบายนี้มันเป็นรางวัลที่เขาควรจะได้รับหลังจากที่ต้องฝ่าฟันอะไรๆ มามากมายมาทั้งวันแล้ว  
     

                   ใช่แล้ว...มันเป็นวันแรกในดินแดนศัตรูที่วุ่นวายเสียเหลือเกิน
     

                   จากการที่เขาต้องวิ่งจากหอพักต้นไม้กลับไปยังอาคารอำนวยการมันก็เป็นระยะทางที่ไม่ใช่ใกล้ๆ  แถมยังถูกรั้งตัวโดยพวกอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยอีกรอบเนื่องจากบัตรผ่านที่คล้องคอไว้พลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยที่ตัวเขาเองนั้นก็ไม่รู้ตัว  กว่าจะไปพบกับครูใหญ่ได้เขาก็สายไปแล้วเกือบ 15 นาที  เหล่าบรรดาอาจารย์ที่คอยสัมภาษณ์เขาต่างพากันหงุดหงิดมากไปกว่าเดิมอยู่แล้ว  จากเดิมที่จู่ๆ ครูใหญ่พาเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าด้วยซ้ำมาเข้าเรียนทั้งๆ ที่โรงเรียนก็เปิดไปแล้ว  แถมยังมาสายไปอีก  หลังจากการถามคำถามรอส 2-3 ข้อแล้วจึงมีการประชุมกันระหว่างอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ 

               
                    การประชุมนั้นกินเวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงมีผลสรุปออกมา  ถึงแม้อาจารย์แทบทุกคนจะค้านหัวชนฝา  แต่การที่ครูใหญ่ยังคงยืนยันที่จะให้รอส (เมเปิ้ล)  เข้าเรียนนั้นทำให้อาจารย์ท่านอื่นไม่มีทางเลือกนอกจากต้องคล้อยตามการตัดสินใจของครูใหญ่  แต่ถึงกระนั้นรอสก็รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของบรรดาอาจารย์ทั้งหลาย  และ ความข้องอกข้องใจกับการตัดสินใจของครูใหญ่ปันจมี


                    แม้แต่ตัวรอสเองยังประหลาดใจกับความง่ายดายของการสมัครเข้าเรียน  ในตอนแรกรอสนึกว่าเขาต้องผจญผ่านด่านกับดักต่างๆ หรือ หรือข้อสอบข้อเขียนอันหฤโหด  หรือการประลองอันโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน เพื่อเลือกเฟ้นผู้ที่เหมาะสมกับโรงเรียนเหมือนตามนิยายแฟนตาซีที่เขาเคยได้ยินมา 


                    ใช่...มันง่ายเกินไป 


                    แต่ว่า....  ณ เวลานี้  รอส หรือ เมเปิ้ล  ไซรัส  ได้กลายเป็นนักเรียนของโรงเรียนโซเฟียแล้วอย่างเป็นทางการ
     

                    เขาได้รับการบรรจุเข้าเป็นนักเรียนชั้นปีที่ โดยจะเริ่มเข้าเรียนในวันจันทร์ที่จะถึง  (คืออีกสองวันหลังจากวันนี้)  ในสายสามัญวิชาพื้นฐาน  โรงเรียนโซเฟียมีข้อบังคับให้นักเรียนทุกคนต้องอาศัยอยู่ในหอพักที่ทางโรงเรียนจัดหาให้  ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นรอสจึงต้องย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักในโรงเรียน  สิ่งที่จำเป็นนั้นมีเพียงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวกับเครื่องแบบนักเรียนที่หาได้ตามร้านขายเสื้อผ้าในตัวเมืองในราคาที่ย่อมเยา  ส่วนอุปกรณ์การเรียนการสอนนั้น  ถ้านักเรียนไม่มีงบพอที่ซื้อหาเองได้  ทางโรงเรียนจะเป็นคนจัดหาให้โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย  ดังนั้นรอสจึงไม่ต้องไปเดินซื้อหาอุปกรณ์การเรียนตามตรอกซอกซอยให้ยุ่งยาก  ส่วนเครื่องแบบทางไบรอันเองก็มีพร้อมอยู่แล้วราวกับเตรียมไว้สำหรับการนี้โดยเฉพาะ 
     

                    เมื่อรอสกลับลงมาจากโรงเรียนโซเฟียก็พบว่าไบรอันนั้นยืนคอยอยู่ที่เดิมมาตลอด  ยามนั้นเป็นเวลาเย็นมากแล้ว  ไบรอันจึงพารอสที่ท้องโล่งมาตั้งแต่กลางวันไปรับประทานอาหารรสเลิศในตัวเมือง  
     

                    ไบรอันนั้นแทบช็อคไปเลยเมื่อทราบว่ารอสกลายเป็นนักเรียนของโรงเรียนโซเฟียไปแล้ว  ตรงกันข้ามกับทางลิสบ่อนโดยสิ้นเชิง  แม้ว่าซาฮาและนายพลโคลท์จะกล่าวว่าเป็นความสำเร็จที่เกินความคาดหมาย  แต่ดูเหมือนทางลิสบ่อนจริงๆ แล้วดูจะไม่แปลกใจกับเรื่องนี้เลย... 
     

                     ราวกับว่าพวกเขาคาดการเรื่องนี้เอาไว้แล้ว
     

                     ส่วนคนที่เป็นห่วงรอสที่สุดก็หนีไม่พ้นฟิลิปเป้เจ้าเก่านั่นเอง  ฟิลิปเป้พร่ำภาวนาสวดมนต์ให้รอสปลอดภัยซะจนกระทั่งรอสต้องปิดระบบการสื่อสารเพื่อพักหูของเขา  
     

                     กว่าทั้งรอสและไบรอันจะกลับมาถึงเซฟเฮาส์ก็ปาไปพลบค่ำแล้ว  หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยรอสก็จบเรื่องของวันนี้ด้วยการล้มตัวลงนอนกับเตียงอันอ่อนนุ่ม  
     

                     นั่นคือเรื่องราวที่ผ่านมาในช่วงบ่ายทั้งหมด  ตอนนี้สิ่งที่รอสต้องกังวลให้มากที่สุดคือเขาจะนอนหลับได้สนิทเพียงใดในคืนถัด ไป  เพราะหลังจากคืนนี้ไปเขาจะต้องไปอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้หญิงที่แสนจะป่าเถื่อนพวกนั้น
     

                     "อ้าว  ผู้หมู่  หลับแล้วเหรอครับ" 


                     ไบรอันก้าวเข้ามาในห้องที่ยังมีแสงสลัวๆ จากตะเกียงอยู่  ผมยาวเป็นลอนของไบรอันถูกถักเป็นเปียหลวม  สวมเสื้อกล้ามที่เผยให้เห็นแขนที่มีมัดกล้าม และหน้าอกที่กระชับดูไม่เข้ากับใบหน้าอิสตรีเลยแม้แต่น้อย  นั่นเป็นเหตุผลที่ไบรอันสวมเสื้อผ้าฟูฟ่องก็เพื่อที่จะปิดบังรูปร่างของเขานั่นเอง


                     "......."


                     เมื่อเห็นว่ารอสไม่ตอบ  ไบรอันจึงดับตะเกียงลงก่อนจะค่อยๆ เลิกเลิกผ้าห่มของรอสขึ้นมาแล้วจึงแทรกตัวลงไปนอนซุกอยู่ข้างๆ รอสด้วยคน


                    "เฮ้ย! ทำอะไรนะ"  รอสรีบหันควับมามองไบรอันที่กำลังจัดท่านอนอย่างสบายอารมณ์


                    "อ้าว...ผู้หมู่ยังไม่หลับเหรอครับผม"  ไบรอันพลิกตัวหันมาหารอส


                    "ไม่ใช่เรื่องนั้น  ทำไมจ่ามานอนตรงนี้!"  รอสกระเถิบตัวถอยห่างจากไบรอัน


                    "ก็มันไม่มีที่นอนที่อื่นแล้วนี่ครับ  ถึงอาราเนียมันจะอุ่นกว่ามูราล  แต่กลางคืนมันก็หนาวอยู่นะครับ"  ไบรอันกล่าวจบพร้อมกับหาวออกมา  "ตอนที่ผู้หมู่ซาฮามา  ผมโดนบังคับให้ไปนอนข้างนอก  มันหนาวมากเลยนะครับ"


                    "แล้วทำไมถึงคิดว่าผมจะไม่ไล่คุณไปนอนข้างนอกเหมือนกันละ"  รอสถามกลับด้วยความหงุดหงิดที่มีคนรบกวนการพักผ่อน


                    "ก็ผมว่าผู้หมู่คงมีเมตตานะครับ"  ไบรอันกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกับขยับตัวเข้ามาซุกกับรอส  "อ๊า...ผู้หมู่ตัวอุ่นจัง"


                     "เฮ้ยๆ  ไปให้ห่างเลยนะ"  รอสพยายามเขยิบตัวหนีอีก  แต่ก็เขยิบไปได้ไม่มากกว่านี้เพราะสุดขอบเตียงเสียแล้ว


                     "โห...ผู้หมู่ตัวหอมจัง"  ไบรอันค่อยๆ ขยับมาจนชิดรอสจนรอสรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของไบรอัน  ขาของไบรอันเริ่มก่ายลำตัวของผู้หมู่ผู้โชคร้าย  มือเริ่มซุกซนตามร่างกายของรอสราวกับเป็นของเล่น  "หน้าอกผู้หมู่เป็นแบบเสริมถาวรสินะครับ  นุ่มจังเลย แฮะๆ"


                      โป๊ก!


                     ฝ่ามือพิฆาตของรอสสับเข้าตรงกลางศีรษะของผู้ที่กำลังคุกคามทางเพศเขาอยู่  ทำเอาเหยื่อของฝ่ามือพิฆาตกุมหัวด้วยความเจ็บ


                     "เล่นมากไปแล้วนะ จ่า..." 


                     "ครับผม..."  ไบรอันรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนตัวไปนอนอีกฟากหนึ่งของเตียงโดยสดุดี


                     แทนที่เขาจะได้นอนอย่างไร้กังวล  ไบรอันกลับทำให้เขายิ่งระแวงเข้าไปอีก



                     ในยามค่ำคืนเมื่อบรรยากาศทุกอย่างพลันมืดและเงียบสนิท  มีเพียงเสียงหายใจเบาๆ ของคนสองคนบนเตียงอันอ่อนนุ่ม  หนึ่งในนั้นค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ เหมือนกับพยายามไม่ให้อีกคนหนึ่งตื่นขึ้น  เขาค่อยๆ เลิกผ้าห่มออกอย่างช้าๆ ค่อยๆ วางเท้าไปบนพื้นไม้  เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายบนเตียงยังไม่รู้สึกตัว  เขาจึงค่อยๆ เดินออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ


                      เวลาผ่านไปนานพอสมควรก่อนที่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของคนที่ยังอยู่บนเตียงพลันตื่นขึ้น


                      "ไบรอันหายไปนานเกินกว่าจะแค่ไปทำธุระส่วนตัวแล้ว"
      รอสค่อยๆ ลุกขึ้นมองดูห้องอันว่างเปล่าที่เหลือแต่ตัวเขาคนเดียวอย่างช้าๆ


                      รอสรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าไบรอันลุกออกไปจากเตียง  เพียงแต่เขาคิดว่าไบรอันคงจะออกไปทำธุระส่วนตัวสักพักแล้วจึงกลับมา  แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ รอสจึงเริ่มรู้สึกถึงความผิดปรกติ 


                      รอสสวมกำไลข้อมือคู่กายของเขาก่อนค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง  เดินออกจากห้องนอนสู่ทางเดินข้างนอกที่มืดไม่แพ้ห้องนอนเลย 


                      "จ่า..."  รอสตะโกนเบาๆ ออกไปตามทางเดินอันมืดสนิท  แต่ไม่มีใครตอบ  ไบรอันหายตัวไปไหนในยามดึกดื่นปานนี้มันช่างน่าสงสัยนัก


                      รอสค่อยๆ คลำตามกำแพงทางเดินไปเรื่อยๆ จนถึงห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งมืดสนิทอีกเหมือนกัน  เพียงแต่เบื้องหลังเงาตะคุ่มตรงที่เป็นชั้นหนังสือกลับมีลำแสงสีขาวเล็ดลอดออกมาตามแนวขอบตู้ 


                      เขาเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้สะดุดสิ่งของตรงไปยังลำแสงสีขาวนั้น


                     "มีห้องซ่อนอยู่หลังชั้นหนังสือ"
      รอสพอจะมองออกว่าแสงสีขาวนั้นต้องมาจากห้องที่ถูกซ่อนไว้เบื้องตู้เป็นแน่  ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ยื่นศีรษะไปตรงช่องว่างนั้น


                    "ไบรอันมีอะไรที่ต้องซ่อนไม่ให้เรารู้กันแน่"


                   รอสพลันนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ดูไม่สมเหตุสมผลของไบรอัน  ตั้งแต่ที่เขาพยายามถ่วงเวลารั้งตัวรอสไว้ไม่ให้เข้าไปในโรงเรียน  ทั้งเรื่องที่เขาทราบข้อมูลบางอย่างที่รอสไม่ทราบ  และเมื่อพบกับสิ่งที่ดูเหมือนไบรอันพยายามจะซ่อนยิ่งทำให้รอสกังขาในความน่าเชื่อถือของไบรอันเข้าไปใหญ่ 


                   ตั้งแต่รอสเข้าสู่ภารกิจนี้เขาพบกับหลายๆ สิ่งที่ทำให้เขาไม่ควรไว้ใจใครสักคน  ดังนั้นจึงไม่แปลกที่รอสจะเริ่มระแวงไปกับเสียทุกอย่าง


                   ทันใดนั้นก็มีแสงไฟสีส้มสลัวๆ จุดขึ้นมาทางด้านหลังเขา  รอสไม่รอช้ารีบย่อตัวลงพร้อมกับชูมือข้างที่กำไลเปิดอาวุธเตรียมพร้อมไปทางแสงนั่น


                  "เหวอ!"


                  มือของรอสจ่อใบหน้าที่ตกใจของไบรอันในสภาพเตรียมพร้อมยิงอาวุธ


                 "ผู้หมู่! ตกใจหมดเลย" 


                 "ไบรอัน  นายหายไปไหนมา"  รอสลดมือลงด้วยความโล่งใจที่เห็นไบรอัน  "แล้วห้องที่ซ่อนอยู่หลังชั้นหนังสือล่ะ" 


                   "อ่อ...ผู้หมู่เห็นแล้วเหรอครับ"  ไบรอันเดินไปยังชั้นหนังสือก่อนจะค่อยๆ ดึงชั้นหนังสือออกมา  ซึ่งที่แท้จริงแล้วเป็นประตูลับเพื่อนำไปสู่ห้องอีกห้องหนึ่งที่แอบซ่อนอยู่ด้านหลัง  "ผู้หมู่เชิญเข้ามาดูเลยครับ  ความลับทางธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ของผม"


                    ภาพที่รอสได้เห็นภายในห้องนั้นแทบทำเขาขำออกมา  เมื่อมองไปเหนือหัวก็จะเห็นด้ายนับร้อยๆ เส้นถูกขึงไปมาตามลูกรอกในแนวดิ่ง  มีสายพานและเครื่องจักรที่คอยปั่นเหล่าเส้นด้ายนั้นให้กลายเป็นผ้าดิบ  มีรางที่คอยป้อนผ้าดิบผืนแล้วผืนเล่าเข้าสู่เครื่องจักรตัดเย็บเสื้อผ้าอัตโนมัติ  ฟันเฟืองและเกลียวน้อยใหญ่ต่างทำงานกันอย่างแข็งขันส่งเสียงดังกึกกักเอี๊ยดอ๊าด  มีเสื้อผ้าที่ทำสำเร็จแล้วถูกแขวนไว้บนราวเพื่อเตรียมไว้สำหรับส่งขายในวันรุ่งขึ้น  เนื่องมาจากพื้นที่ในห้องนั้นกว้างเพียงไม่กี่ตารางเมตร  ดังนั้นกระบวนการผลิตทั้งหมดถูกจัดเรียงเป็นแนวดิ่งตามความสูงของต้นไม้ 


                    "เป็นไงบ้างครับผู้หมู่  รู้สึกเหมือนอยู่บ้านมั้ยครับ"  ไบรอันกล่าวกับรอสด้วยสีหน้าราวกับเด็กน้อยที่กำลังอวดของเล่นอยู่


                     "ฮะๆๆ  จ่าพูดถูก  เหมือนอยู่บ้านจริงๆ"  เครื่องจักร  ฟันเฟือง  เสียงเครื่องจักรทำงาน  กลิ่นน้ำมันหล่อลื่น  เหล็กสี่หม่นๆ มันช่างทำให้รอสรู้สึกว่าได้กลับสู่บ้านเมืองที่คุ้นเคยอีกครั้ง 


                    "ผู้หมู่มานี่ได้จังหวะพอดีเลย"  ไบรอันเดินไปยังโต๊ะไม้ที่ตั้งอยู่กลางห้อง  บนโต๊ะนั้นมีจักรเย็บไฟฟ้า หมอนปักเข็ม ด้าย  กรรไกรและ เสื้อเชิ้ตอีกสีห้าตัว กับกระโปรงวางพับอย่างเรียบร้อย  เขาหยิบเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาให้รอส  "ลองใส่ดูก่อนสิครับว่าพอดีมั้ย  ผมลองกะขนาดตัวผู้หมวดตอนนอนแล้ว  แต่กลัวว่าอาจจะหลวมไปนิด"


                    "นี่จ่าตื่นขึ้นมาดึกดื่นป่านนี้เพื่อปรับชุดนักเรียนให้ผมงั้นเหรอ"


                    "แฮะๆๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าผมชำนาญเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"  ไบรอันกล่าวกับรอส


                     ความรู้สึกสงสัยในตัวไบรอันพลันมลายหายสิ้น  รอสรู้สึกโล่งอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็ดีใจที่เขาคิดผิด


                    "ผู้หมู่ไปนอนต่อเถอะครับ  เดี๋ยวผมต้องจัดการกับพวกกระโปรงนี้อีกนิดหน่อย"

    ..............................

    .................

    .......


                      "ฟู่...."  ไบรอันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อแน่ใจว่ารอสพ้นจากสายตาไปแล้ว  เขารีบกลับเข้าไปในโรงงานผลิตเสื้อผ้าส่วนตัวของเขา  ปิดประตูช่องทางลับนั้นอย่างมิดชิด  จากนั้นเขาเดินไปยังโต๊ะที่มีจักรเย็บผ้าอยู่  หมุนหนึ่งในม้วนด้ายบนเครื่องเย็บ  ทันใดนั้น  ผนังตรงปลายสุดมุมห้องพลันเปิดออก  เผยให้เห็นบันไดเวียนทอดตัวลึกลงไปด้านล่าง


                       ไบรอันวางตะเกียงก่อนจะเข้าไปยังทางลับนั้น  เดินลงไปตามบันไดเวียนแคบๆ ที่หมุนเป็นวงลึกลงไป  โดยมีเพียงไฟสีฟ้าสลัวๆ คอยส่องให้เห็นขั้นบันได  ยิ่งลึกยิ่งรู้สึกได้ถึงไอเย็นยะเยือกลอยมาจากเบื้องล่าง 


                       เมื่อลงมาจนสุดก็จะพบกับห้องอันมืดสลัวที่มีเพียงไฟสีฟ้าเรืองแสงตามเครื่องจักรดูล้ำยุคเสียกว่าบรรดาเครื่องจักรที่อยู่ในโรงงานผลิตเสื้อผ้าหลายร้อยปี  ความหนาวเหน็บไม่ทำให้ไบรอันหนาวสั่นแต่อย่างไร  เขาก้าวเดินต่อไปจนไปหยุดอยู่ตรงหลอดสีฟ้าใหญ่พอที่จะเอาคนใส่เข้าไปได้ทั้งคน  ในนั้นมีของเหลวสีฟ้าอยู่เต็มโดยมีฟองผุดขึ้นมาจากเบื้องล่างอย่างบ้าคลั่ง  บดบังเงาตะคุ่มของบางสิ่งที่ลอยตั้งฉากอยู่ในหลอดนั้น


                      แสงสีฟ้าเรืองแสงจากหลอดส่องกระทบหน้าของไบรอันตัดกับเงาอันมืดมิดของห้องดูราวกับปีศาจจากขุมนรกไม่ปาน 


                      "โทษทีที่มีคนมาขัดจังหวะ  เรามาจัดการธุระของเราให้เรียบร้อยดีกว่านะ....


                       ...คุณไบรอัน" 


                       ไบรอันกล่าวกับสิ่งที่อยู่ในหลอดแก้วนั้น  ก่อนจะค่อยๆ แสยะรอยยิ้มอันชั่วร้ายและเย็นชาออกมา

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@
         
    พอดีตอนนี้ท่าจะยาวอีก  แถมมีจุดที่จะเป็นปมถึงสองแห่ง เลยหั่นมันเป็นสองตอนซะเลย เหอๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×