คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : Chapter 34 : ครอบครัวกำมะลอ [100%]
Chapter 34
ครอบครัวกำมะลอ
“ว้าย! เธอดูครอบครัวนั้นสิ น่ารักจังเลย “
เสียงกระซิบกระซาบที่ดังเล็ดลอดออกมาตลอดระยะทางทำให้ซากุระได้แต่ก้มตาก้มตาด้วยความอาย
ตั้งแต่เดินทางออกมาจากหมู่บ้านคุโมะเธอและซาสึเกะ รวมถึงฮิเซ็นที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นลูกชายเพราะสีผมและ
ดวงตาดันเหมือนส่วนผสมระหว่างทั้งคู่ จึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นครอบครัววัยรุ่นไปเสียอย่างนั้น เธอไม่อยากจะคิดว่า
กว่าจะส่งฮิเซ็นถึงแคว้นโอนิจะถูกเข้าใจผิดอีกนานแค่ไหน และดูเหมือนว่าจะเป็นเธอเพียงคนเดียวที่รู้สึกกังวล
เพราะสองหนุ่มต่างวัยที่มาด้วยยังคงมีสีหน้าเป็นปกติ ซาสึเกะที่เดินรั้งท้ายยังคงนิ่งขรึมเช่นเคย ส่วนฮิเซ็นก็ยิ้มแย้ม
อยู่ตลอดเวลา
“พี่ซากุระ”
เด็กชายที่จูงมือเธออยู่มองใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังมีสีหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออกอยู่ เมื่อถูกเอ่ยทักเธอ
จึงรีบทำสีหน้าให้เป็นปกติและพยายามที่จะไม่สนใจสายตาของชาวบ้านที่ยังคงซุบซิบกันเป็นระยะ
“หืม
มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
“คือว่า...ผมรู้สึกปวดฉี่ฮะ”
ฮิเซ็นพูดเสียงเบาอย่างเขินอายนิดๆ ซากุระอดที่จะระบายยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้ เธอหยุดเดินแล้วย่อ
ตัวลงมาจนอยู่ใกล้เคียงกับเด็กชาย
“แถวนี้เป็นบ้านคนน่าจะมีห้องน้ำ งั้นเดี๋ยวพี่พาไป” เธอบอกกับเด็กชายแล้วเงยหน้าขึ้นไปหาชายหนุ่มที่ยืน
อยู่ข้างหลัง
”ซาสึเกะคุง รออยู่นี่แปบนึงนะ”
“ฉันจะไปเอง”
“เห?”
“ห้องน้ำ…ฉันจะพาเด็กนี่ไป เธอรออยู่ที่นี่”
“แต่ผมไม่อยากให้ลุงพาไปนี่ฮะ” ฮิเซ็นสวนขึ้นมาทันควันพร้อมกับบีบมือซากุระไว้แน่น ใบหน้าเล็กเชิดหนี
ซาสึเกะอย่างไม่ชอบใจ
“อย่าเรื่องมาก ไม่อายหรือไงที่ให้ผู้หญิงพาไปน่ะ”
“ทำไมผมต้องอายด้วยล่ะฮะ ผมยังเด็กอยู่นี่นา”
“ไม่ได้ ฉันจะพาไป”
“ไม่เอา!”
“พอทีทั้งสองคน! เดี๋ยวฉันจะพาฮิเซ็นไปเอง
เธอรออยู่ที่นี่ก่อนนะซาสึเกะคุง”
ซากุระรีบหยุดสงครามของทั้งคู่ก่อนจะตกเป็นเป้าสายตาไปมากกว่านี้ เธอยืดตัวขึ้นแล้วจูงมือฮิเซ็นไปหา
ห้องน้ำโดยเด็กชายหันหน้ามาแลบลิ้นให้กับเขาราวกับเป็นผู้ชนะ
...............................................
“พี่จะรออยู่หน้าประตูนะ”
ซากุระบอกกับฮิเซ็นที่ด้านหน้าห้องน้ำสาธารณะ เด็กชายพยักหน้ารับอย่างแข็งขันก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าไป
ห้องน้ำของฝั่งผู้ชาย จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าสิบนาทีเด็กชายก็ไม่มีท่าทีว่าจะออกมาจากห้องน้ำ ซากุระที่ยืนเฝ้า
อยู่เริ่มร้อนใจแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปในห้องน้ำชาย โชคดีที่มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ
เธอจึงไม่รอช้าที่จะตรงเข้าไปถาม
“ขอโทษนะคะ
เอ่อ...ไม่ทราบว่าเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆอยู่ในห้องน้ำบ้างไหมคะ”
“เอ...เด็กผู้ชายเหรอ ไม่มีนะครับ แต่จะมีห้องสุขาห้องหนึ่งล็อกกลอนไว้อยู่นะ”
“งั้นเหรอคะ
ขอบคุณนะคะ”
เมื่อได้คำตอบก็พอดีกับที่ซาสึเกะเดินตรงเข้ามาหาเพราะเห็นทั้งคู่หายไปนานพอสมควร ยิ่งเห็นสีหน้าไม่สู้ดี
ของซากุระก็คิดว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
“ซาสึเกะคุง !
ช่วยไปดูในห้องน้ำให้ทีสิว่าฮิเซ็นยังอยู่ในนั้นหรือเปล่า
เด็กคนนั้นเข้าไปซักพักนึงแล้วยังไม่ยอมออกมาเลย”
“เข้าใจแล้ว”
เขารับคำก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว เขาเคาะประตูห้องที่ลงกลอนอยู่ทว่าไม่มีเสียงตอบ
รับกลับมา ในที่สุดเขาก็ต้องใช้แรงกระทุ้งบานประตูเข้าไป ดวงตาสองสีมองสำรวจห้องน้ำที่ว่างเปล่าไม่มีคนใช้งาน
จะมีก็เพียงแต่ช่องหน้าต่างระบายอากาศเท่านั้นที่มีร่องรอยการถูกเปิดออก แถมตัวชักโครกยังมีรอยเท้าเล็กๆ
ปรากฎอยู่เต็มไปหมด เขาขบริมฝีปากอย่างเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
.....................................................
ฮิเซ็นเดินลัดเลาะมาตามป่าหลังหมู่บ้านหลังจากหนีออกมาจากช่องระบายอากาศ เขารู้ว่ากำลังทำตัวให้
ซากุระและซาสึเกะต้องเป็นห่วงแต่เด็กชายก็ไม่มีทางเลือก ภาพฝันที่ซากุระถูกทำร้ายยังคงเด่นชัดอยู่ในหัวสมอง
ถ้าหากทั้งคู่จะต้องไปส่งเขาที่แคว้นโอนิน่าล่ะก็คำทำนายนั้นจะเป็นจริงอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาก็มีคนต้องบาดเจ็บ
ล้มตายมาเพื่อเขามากพอแล้ว และเขาก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ถ้าเขาไม่อยู่ซักคนล่ะก็ ปัญหาทุกอย่างมันก็จะจบ
“พี่ซากุระ...ผมขอโทษนะฮะ”
เวลาที่เริ่มเย็นย่ำทำให้แสงสว่างภายในป่ามืดลง ขาเล็กๆยังคงก้าวเดินต่อไปแม้จะกลัวอันตรายที่แฝงมากับ
ความมืด เสียงร้องของแมลงที่เริ่มดังทำเอาหัวใจเด็กชายเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งเขาได้ยินเสียงสวบสาบดัง
แหวกผ่านพงหญ้ามาก็ยิ่งหวาดกลัว ใบหน้าเล็กไม่กล้าแม้แต่จะหันหน้าไปมอง ได้แต่พยายามตั้งสติเพื่อเตรียม
ออกวิ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้ก้าวขาออกไปไหนคอเสื้อด้านหลังก็ถูกหิ้วขึ้นสูงด้วยแรงอันมหาศาลจนร่างของเด็กชาย
ลอยขึ้นเหนือพื้น
“ทำอะไรของแก
เจ้าเด็กบ้า!”
เสียงอันคุ้นเคยทำให้ฮิเซ็นที่กำลังดิ้นพล่านพลางร้องโวยวายลืมตาขึ้นมองก็พบดวงตาสองสีทอประกายคม
ดุมองมาทางเขาอย่างโกรธขึ้ง ซาสึเกะในเวลานี้มีรังสีความน่ากลัวแผ่ออกมาจนเด็กชายไม่กล้าที่จะต่อปากต่อคำ
เหมือนในเวลาปกติ
“อยากตายนักหรือไงถึงได้กล้าหนีมาคนเดียวแบบนี้!”
“ฮึกๆ แงงงงงงงง!”
น้ำเสียงดุดันทำให้ฮิเซ็นถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ถึงแม้ความคิดความอ่านจะโตกว่าเด็กปกติ
แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นเด็กวัยหกขวบ อารมณ์จึงค่อนข้างเปราะบางอยู่มาก
“ฮิเซ็นคุง!”
ซากุระที่ได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาจากอีกฝั่งหลังจากแยกกันตามหาเด็กชายก็วิ่งเข้ามาตามเสียงทันที
เธอวิ่งเข้าไปอุ้มเด็กชายมากอดไว้แน่นด้วยความโล่งใจซึ่งพอดีกับที่ซาสึเกะยอมผละจากคอเสื้อเด็กชาย
ฮิเซ็นกอดคอซากุระไว้แน่นพร้อมกับร้องไห้โยเยบนไหล่ของหญิงสาว
“พี่เป็นห่วงแทบแย่
ปลอดภัยก็ดีแล้วเนอะ”
“ผมขอโทษฮะ ฮึก พี่ซากุระ แงงงง!”
“ทำไมถึงได้หนีออกมาแบบนี้ล่ะ บอกได้ไหม”
ซากุระถามด้วยน้ำเสียงปลอบประโลม เธอได้ศึกษาและทำงานด้านจิตใจของเด็กมานานย่อมรู้วิธีที่จะทำให้
เด็กชายรู้สึกผ่อนคลายและยอมเอ่ยปากเล่าเรื่องทั้งหมด พอได้ฟังสิ่งที่เด็กชายเผยออกมาเธอก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะ
เล็กเบาๆ
อย่างเข้าใจและซึ้งใจที่เด็กชายเป็นห่วงเธอจนต้องหนีเตลิดออกมา
“ขอบใจนะฮิเซ็นคุง
แต่พี่ไม่เป็นไรหรอก แถมยังมีลุงซาสึเกะอยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัวไปหรอกเนอะ”
คำว่า ‘ลุง’ ที่โพล่งออกมาจากปากของหญิงสาวทำเอาซาสึเกะหันขวับมามองหน้าเธอทันที แค่เจอเด็กจอม
แสบอย่างฮิเซ็นเรียกก็เหลือทนแล้ว นี่เธอยังมาเรียกเขาว่าลุงเพื่อเสริมตัวอย่างไม่ดีให้แก่เด็กอีกงั้นเหรอ
?!
“ผมจะไม่สร้างปัญหาอีกแล้ว
ขอโทษลุงซาสึเกะด้วยนะฮะ”
ฮิเซ็นเงยหน้าขึ้นมองซาสึเกะอย่างสำนึกผิด เขาไม่ตอบอะไรก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากป่า เขาไม่ได้โกรธ
เด็กชายแล้วหลังจากได้รู้เหตุผลทั้งหมด
เพียงแต่ว่าเขาแสดงอารมณ์ไม่ค่อยเก่งก็เท่านั้น
“ลุงยังโกรธ...”
“ฮื่อ ไม่หรอกจ้ะ ไปกันเถอะนะ หิวข้าวแล้วใช่ไหม”
ซากุระบอกพร้อมกับยิ้มกว้างให้เด็กชายก่อนจะกระชับร่างเล็กๆให้อุ้มได้ถนัดขึ้นแล้วเดินตามชายหนุ่มออก
ไปก่อนจะมืดไปมากกว่านี้
........................................................
“ว้าว ! มีขบวนแห่ด้วยล่ะ!”
ซากุระร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้นเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงหมู่บ้านหลักของแคว้นโอนิซึ่งช่วงนี้กำลังจัดเทศกาลดอกไม้ไฟประจำปี
บรรยากาศในหมู่บ้านจึงเต็มไปแสงไฟสวยงามและชาวบ้านที่ออกมาเที่ยวชมงานกันอย่างคึกคัก
“ไหนหรือฮะพี่ซากุระ
ผมมองไม่เห็นอะไรเลย”
ฮิเซ็นที่จูงมือมากับซากุระพยายามเขย่งเท้าพลางชะเง้อคอมองขบวนแห่แต่ความสูงกลับเป็นอุปสรรค
ตอนนี้เด็กชายเห็นได้แค่แผ่นหลังของผู้คนที่บดบังทัศนียภาพเสียจนมิด
“อ๊ะ จริงด้วย ! นี่ ซาสึเกะคุง ช่วยหน่อยสิ”
ซากุระหันไปร้องบอกซาสึเกะให้ช่วยอุ้มเด็กชายขึ้นเพื่อดูความสวยงามจากขบวนแห่ได้ถนัด ทว่าซาสึเกะก็
ปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด
“ไม่เอาหรอก”
“เถอะน่า...อย่าใจร้ายกับเด็กนักสิ”
ซากุระยังคงตื้ออีกครั้ง เธอรู้ว่าระหว่างทั้งคู่ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไร
อันที่จริงแล้วซาสึเกะอาจจะไม่ลงรอยกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเด็กทุกคนเลยก็เป็นได้
“...”
“น้า~”
ซาสึเกะถอนหายใจออกมาอย่างยอมจำนน
เข้าย่อตัวลงต่ำแล้วมองไปยังเด็กชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มร่าอย่างดีใจก่อนจะกระโดดขึ้นขี่หลังชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
เขาเองก็ใช้แขนขวาประคองตัวเด็กชายเอาไว้แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
ซากุระมองชายที่ยืนอยู่ข้างๆพร้อมกับกลั้นยิ้มขัน
ซาสึเกะเวอร์ชั่นที่มีเด็กเป็นไอเทมเสริมทำให้เปอร์เซ็นความน่ารักเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว
ตอนนี้เขาเหมือนคุณพ่อที่พาลูกมาเที่ยวงานเทศกาลอย่างไรอย่างนั้น
“มีอะไรน่าขำงั้นเหรอ”
ซาสึเกะปรายตามองซากุระที่กำลังปล่อยเสียงหัวเราะเบาๆอย่างขุ่นเคือง เธอส่ายหัวเล็กน้อยพลางยิ้มให้กับ
เขาแล้วขยับตัวเข้าไปเอนศีรษะพิงกับไหล่กว้าง ทั้งสามคนยืนดูดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นฟ้าด้วยกันจนกระทั่งถึง
นัดสุดท้าย
.......................................................
หญิงสาวผู้เป็นมิโกะแห่งแคว้นโอนิกำลังทอดมองดอกไม้ไฟในงานเทศกาลบนตำหนักบรรทมภายในศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ใกล้เนินเขา
ดวงตาสีอเมทิสต์ฉายแววสงบนิ่ง ผมสีบลอนด์ที่ยาวถึงกลางหลังปลิวสยายไปกับสายลมอ่อนๆยามค่ำคืน
“ท่านชิออน
ยังไม่เข้านอนอีกหรือขอรับ”
ผู้ติดตามหนุ่มที่เดินเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยเช่นทุกคืนเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นมิโกะสาวกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่
เขาเพิ่งเข้ามาเป็นผู้ติดตามได้เพียงสี่ปีนับตั้งแต่ทารุโฮะ
ผู้ติดตามคนก่อนยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องเธอเมื่อครั้งที่ต้องไปปิดผนึกปิศาจโมเรียว
“พระจันทร์...สีเลือด”
“ว่ายังไงนะขอรับ”
“วันมะรืน...พระจันทร์จะกลายเป็นสีเลือด”
“ท่านชิออนหมายถึง...”
“พรุ่งนี้จะมีแขกมาหา ฝากเตรียมของตามนี้หน่อย ฉันง่วงแล้ว”
เธอตัดบทอย่างเอาแต่ใจก่อนจะยื่นกระดาษให้ผู้ติดตามหนุ่ม เขารับมันมาอ่านอย่างแปลกใจเพราะรายการในกระดาษล้วนเป็นสิ่งของที่ต้องใช้ในพิธีปิดผนึกทั้งสิ้น
.........................................................
“อาบน้ำด้วยกันได้ไหมฮะ”
ประโยคที่ได้ยินจากเด็กชายตัวเปี๊ยกหลังจากพวกเขากลับเข้ามาในห้องพักของโรงแรมเรียกให้ซาสึเกะที่กำลังจัดของอยู่ชะงักค้างทันที
ทว่าเขาก็ยังทำนิ่งเฉย ไม่อยากให้เจ้าเด็กนั่นมาเล่นงานเขาได้อีกเป็นครั้งที่สาม
สี่ หรือห้า ยังไงก็แค่อาบน้ำกับเด็ก เขาจะคิดมากไปทำไมกัน...
“อื้อ
เดี๋ยวพี่ถูหลังให้ด้วยเลย จะได้สบายตัว”
ตุ้บ !
ประโยคตอบรับของซากุระทำให้ซาสึเกะที่ถือม้วนคัมภีร์อยู่ในมือปล่อยมันร่วงลงพื้นทันที
เหมือนหัวสมองของเขาจะหยุดสั่งการไปเรียบร้อยแล้ว
“ซาสึเกะคุง
เป็นอะไรหรือเปล่า” ซากุระหันมาถามเมื่อเห็นว่าเขาทำม้วนคัมภีร์ตก
ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนซุ่มซ่ามเลยแม้แต่น้อย
“ปะ เปล่า ไม่มีอะไร”
“งั้นเราไปอาบน้ำกันเถอะ”
ซาสึเกะที่ยังคงนิ่งค้างมองไปยังหญิงสาวที่กำลังเลื่อนบานประตูห้องน้ำออกพร้อมกับถืออุปกรณ์อาบน้ำไว้ในถังไม้ใบเล็กโดยมีฮิเซ็นเกาะติดเป็นลูกลิง
และไม่ต้องคิดให้มากความ เขาก็จัดการโยนปากกาไปใต้โซฟาด้วยความไวแสงแล้วเอ่ยเรียกหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าห้องน้ำไป
“ซากุระ”
“หือ”
“ฉันทำปากกาหาย ช่วยหาหน่อยได้ไหม”
“งั้นเอาของฉันไปใช้ก่อนไหม อยู่ใน...”
“ไม่!” ซาสึเกะรีบปฏิเสธทันควัน
แต่เมื่อเห็นสายตาประหลาดใจของซากุระเขาก็รีบคิดหาเหตุผลมารองรับทันที “ฉัน...สอดจดหมายของนารูโตะไว้ในนั้น”
จดหมายนารูโตะ...มีที่ไหนกันเล่า !
เขาไม่เคยจะเก็บจดหมายที่ส่งแต่เรื่องไร้สาระมาให้อ่านไว้ซักฉบับเดียว
“อ้าวเหรอ”
ซากุระงึมงำก่อนจะวางของใช้อาบน้ำไว้บนพื้นแล้วเดินเข้ามาช่วยซาสึเกะหาอย่างไม่มีทางเลือก
“ไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ”
ซาสึเกะเอ่ยบอกเด็กชายขณะที่ปล่อยให้ซากุระหาปากกาไปพลางๆ
ทว่าฮิเซ็นก็ไม่ได้ขยับไปไหนแถมยังส่งยิ้มพิมพ์ใจมาให้เขา
“ไม่เป็นไรฮะ ผมรอได้”
“เดี๋ยวน้ำในอ่างก็เย็นหมด ระวังจะไม่สบาย”
“ไม่เป็นไรฮะ
พี่ซากุระเป็นหมอนี่นา”
กรอดดด...!
...เขาเกลียดเด็กนี่ชะมัด !
“อ๊ะ นี่ไง เจอแล้ว”
เพียงไม่นานซากุระก็ยืดตัวขึ้นพร้อมกับปากกาในมือ
ซาสึเกะหันสายตาไปมองอย่างเซ็งๆ รู้แบบนี้น่าจะขว้างทิ้งไปนอกหน้าต่างก็ดี
!
“...ขอบใจ”
“ไปเถอะฮิเซ็นคุง”
ฮิเซ็นวิ่งถลาเข้ามาเกาะแขนซากุระไว้ก่อนทั้งคู่จะเดินไปยังห้องน้ำ
และเป็นอีกครั้งที่เด็กชายหันมายักคิ้วให้อย่างกวนประสาทเพื่อตอกย้ำว่า...
เขา-แพ้-อีก-แล้ว
!
....................................................
“พี่ซากุระ...แต่งงานกับลุงซาสึเกะแล้วใช่ไหมฮะ”
ฮิเซ็นถามขึ้นขณะกำลังเตรียมตัวเข้านอนพร้อมกับซากุระ
เมื่อถูกถามแบบนั้นใบหน้าเธอก็มีสีแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเขินเล็กน้อย
แถมคนถามยังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ เธอจึงไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเพราะเธอเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าแต่งงานได้หรือเปล่า
“ทะ
ทำไมจู่ๆถึงถามขึ้นมาล่ะ”
“นั้นก็เพราะว่า...” เด็กชายเว้นจังหวะแล้วเงยหน้าขึ้นมองซากุระ
นั่นทำให้เธอสังเกตเห็นว่าดวงตาสีมรกตของเด็กชายส่องประกายเรืองรองออกมาวูบหนึ่งก่อนมันจะเปลี่ยนกลับมาเป็นดวงตาสีมรกตดังเดิม
“อีกสองเดือน...”
“หืม”
“อีกสองเดือน พี่ซากุระจะมีข่าวดีฮะ”
“ฮะๆ นี่เป็นคำทำนายหรือ บอกได้ไหมว่าข่าวดีอะไร” เธอหัวเราะเบาๆเมื่อถูกทำนายอย่างไม่ทันตั้งตัว
“บอกไม่ได้หรอกฮะ” ฮิเซ็นส่ายหน้าเป็นพัลวันพร้อมขยับยิ้มกว้างส่งไปให้ซากุระ
“มาทำให้อยากรู้แล้วก็ไม่ยอมบอกพี่งั้นเหรอ ขี้แกล้งจังเลยนะฮิเซ็นเนี่ย”
“ฮ้าววว ~ ผมง่วงแล้วล่ะฮะ”
“ถ้างั้นฝันดีจ้ะ”
เธอบอกก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากไปจุมพิตที่ศีรษะของเด็กชายเบาๆ
เพียงไม่นานหนังตาของเธอก็เริ่มหนักอึ้ง พักหลังมานี้เธอเริ่มที่จะง่วงนอนมากกว่าปกติทั้งที่ตอนเริ่มเดินทางหรือออกแรงหนักๆยังไม่เคยรู้สึกเพลียเท่านี้ก่อน
สุดท้ายหญิงสาวก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างรวดเร็ว
ฮิเซ็นลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากแกล้งหลับไปได้ไม่ถึงห้านาที
พอเห็นว่าซากุระหลับไปแล้ว เด็กชายก็ขยับตัวคว้าหมอนกับผ้าห่มสำรองโยนไว้ที่พื้นข้างเตียง
ก่อนจะขยับตัวเข้ามาหาซากุระอีกครั้งพร้อมกับซุกตัวเข้าไปกอด ดวงตาสีมรกตปิดลงอีกครั้งก่อนความเหนื่อยล้าจะพาเด็กชายหลับใหลตามหลังซากุระไปอีกคนเช่นกัน
ซาสึเกะที่เดินออกมาจากห้องน้ำชะงักมองหญิงสาวกับเด็กชายนอนกอดกันกลมอยู่บนเตียง
ลมหายที่พ่นออกมาอย่างเป็นจังหวะทำให้เขารู้ว่ารู้ว่าทั้งคู่หลับไปเรียบร้อยแล้ว ตลอดเวลาที่เดินทางมาส่งฮิเซ็นทำให้เขาสังเกตว่าซากุระให้ความใส่ใจกับเด็กชายเป็นอย่างมาก
คงจะเป็นเพราะเธอทำงานด้านศูนย์ฟื้นฟูจิตใจเด็กมานานจึงเข้าถึงเด็กได้ดีกว่าเขา ยิ่งในอนาคตถ้าหากเธอมีลูกเป็นของตัวเอง
ความใส่ใจทั้งหมดคงถูกโอนถ่ายไปที่ลูกเป็นอันดับแรกอย่างไม่ต้องแปลกใจ
ซาสึเกะเดินขยับเข้าไปใกล้เตียงเพื่อที่จะพักผ่อนบ้าง
แต่แล้วสายตาก็หันไปเห็นหมอนกับผ้าห่มกองอยู่ที่พื้นเป็นความหมายว่านั่นคือที่นอนของเขา
ชายหนุ่มส่งสายตาพิฆาตไปยังเด็กชายที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวแถมยังนอนแผ่หลาจนไม่มีพื้นที่พอให้อีกคนนอนได้
เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยอมทิ้งตัวลงนอนไปบนพื้นเย็นเหยียบในที่สุด
........... ...........................................................
-TO BE CONTINUED-
Ps1. ตอนนี้แกล้งอิเกะอย่างเดียวเลย หลังๆมาจะปรับให้เบาลง เขียนบู๊มากแล้วทรมานตัวเอง 55555+เอาจริงๆเท่าที่ดูนารูโตะมาอิเกะมันก็ไม่ค่อยมีโมเม้นท์กับเด็กๆเท่าไรยกเว้นตอนเป็นป๊ะป๋า
Ps2. มีใครจำชิออนได้บ้างไหม นางมาจาก Naruto The Movie ภาคฝืนพรหมลิขิตพิชิตความตาย หน้าตาคล้ายกับฮินาตะแต่นิสัยไม่เหมือนกันเลย 5555+ ยังไงก็ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ! รักนักอ่านจ้ะ จุ้บ !
ชิออน
ความคิดเห็น