คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF : HAPPY VAIENTINE DAY _ KIHAE
SF : HAPPY VALENTINE DAY _ KIHAE
...........ประตูบานใหญ่ของห้องซ้อมในบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี SM Entertainment
ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของชายหนุ่มแก้มป่องที่เดินแจกยิ้มเข้ามาภายใน
“ อ้าว ! คิบอม มาได้ไงเนี่ย ? “ เป็นพี่ใหญ่ของวงที่เอ่ยทักขึ้นมาก่อน
“ ก็คิดถึงพี่ไง ถึงได้มาหา “ ริมฝีปากคมยกยิ้มขณะที่ก้าวเดินเข้าไปหาอีทึกพร้อมกับยกแขนขึ้นกอดหัวหน้าวงซะเต็มรัก
“ นั่นซิ หายหน้าหายตาไปซะนานเลยนะไอ้น้อง นึกว่าลืมพวกเราไปซะแล้ว “ พ่อหมีคังอินเอ่ยขึ้นบ้าง ขณะที่มือใหญ่ดึงแขนคิบอมให้หันหน้ามาหาตัวเองพร้อมกับมอบอ้อมกอดให้น้องชายที่รัก เป็นผลให้คิบอมต้องยอมปล่อยมือที่กอดอีทึกออก แล้วหันมารับกอดของพี่หมีแทน
“ ที่กอดผมซะแน่นเนี่ยคิดถึงผม?..หรือว่าหึงที่เห็นผมกอดพี่อีทึกกันแน่ฮะ “ เอ่ยออกมายิ้มๆขณะที่ยังกอดกันแน่น
“ ทั้งสองอย่างโว้ย! ฮ่ะฮ่ะ ก็ใครใช้ให้แกกอดที่รักฉันซะแน่นขนาดนั้นล่ะ“ เอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะคลายอ้อมกอดออก
“ ว่าแต่วันนี้ไม่มีถ่ายละครรึไง ถึงได้มาถึงที่นี่ได้ “ และเป็นอึนฮยอกที่เอ่ยถามออกมาบ้าง หลังจากที่ยืนมองฉากหึงหวงของพี่หมีจบลง
“ หยุดฮะ วันนี้เค้าพักกองหนึ่งวัน ก็เลยแวะมาหาทุกคนนี่แหละ “ คิบอมว่าพลางยกยิ้มจนตาหยี สายตาคมยังคงมองไปทั่งห้องเหมือนกำลังมองหาอะไร หรือมองหาใครอยู่
“ มาหาพวกเราหรือมาหาใครกันแน่ห๊ะ? “ มักเน่ของวงเอ่ยแซวออกมาบ้าง เพราะว่าดูเอาจากการที่มองจนทั่วแบบนี้มันต้องหาคนของมันชัวร์ ในขณะที่มือหนายังคงโอบอยู่ที่เอวของซองมิน
“ นี่ ! คยู เอามือออกไปเลยนะ คนยิ่งร้อนๆอยู่ “ เจ้าของเอวพูดขณะที่ดึงมือปลาหมึกที่แสนหนียวให้หลุดจากเอวของตัวเอง
“ นั่นซิ ตั้งแต่เข้ามาก็เอาแต่มองหา แล้วยังจะมาบอกว่าคิดถึงพวกเรา “ เรียวอุคที่นั่งมองสมาชิกแซวกันไปมาเอ่ยออกมาบ้าง แถมยังทำน้ำเสียงเหมือนจะน้อยใจคนตัวโตที่เพิ่งเข้ามาใหม่อีก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คิบอมรู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะเค้ารู้ว่าที่เรียวอุคพูดมาก็เพียงแค่แซวเล่นเท่านั้น
ไม่ว่าเค้าจะหายไปนานแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่กลับมาบรรยากาศต่างๆทั้งความสนุก ความเหน็ดเหนื่อยจากการซ้อมเต้นที่ยาวนาน หรือจากตารางงานที่แสนจะยุ่งยาก แถมเวลาพักผ่อนที่แสนจะน้อยนิด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความผูกพันธุ์ ความสนิทสนมระหว่างพวกเค้าลดน้อยลงไปเลยซักนิดเดียว แต่ทุกครั้งที่คิบอมกลับมาเยี่ยมสมาชิกเค้ายังรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่มันยังอบอวลอยู่รอบๆตัว และนั่นมันก็ทำให้เค้ารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้ห่างหายไปไหนเลยแต่วันเดียว และเจ้าความอบอุ่นที่ว่าก็ยิ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อเจ๊ใหญ่ของวงที่แม้จะไม่ใช่หัวหน้าวง แต่ก็มีอำนาจอยู่เต็มมือเอ่ยขึ้น
“ คิดถึงไอ้ปลามันล่ะซิ? “ ฮีชอลอดจะหมั่นไส้ไม่ได้เมื่อเห็นว่าไอ้แก้มป่องๆนั่นยิ่งจะป่องมากขึ้นเมื่อได้ยินชื่อของอีกคน ทำไมเค้าจะไม้รู้ว่าที่คิบอมเอาแต่มองหา แต่ไม่ยอมถามกับสมาชิกคนอื่นๆว่าคนที่ตัวเองมองหาไปไหนก็คงเพราะกลัวจะโดนแซวน่ะเอง
“ แล้ว..ดงเฮ ไปไหนล่ะฮะ “ เอ่ยออกมาจนได้ซินะ ก็แหม! มองหาจนทั่วแล้วก็ไม่เห็น ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนซิน่า
คนตัวโตที่คิดได้เพียงแค่นั้น ก็ต้องหลบสายตาล้อเลียนของบรรดาสมาชิกที่พร้อมใจกันมองมาที่ตัวเองแบบพร้อม
เพรียงกัน
“ ฮ่ะ ฮ่ะ อะไรว่ะ แค่นี้ทำเป็นเขินไปได้ “ คังอินที่พูดพร้อมกับยกมือขึ้นกุมท้องหัวเราะแบบเอาเป็นเอาตาย กับท่าทางของคิบอม อะไรกันว่ะ แค่เรียกชื่อเฉยๆมันยังเขินได้ขนาดนิ้ แล้วถ้าทำกันมากกว่านี้มันไม่ทรุดลงไปกองกับพื้นก่อนที่ภาระกิจจะเสร็จสิ้นเหรอว่ะ
“ โน่น ! โดนพวกพี่สไตลิสล์ลากออกไปก่อนนายเข้ามาแป๊บเดียว เห็นบอกว่าจะให้ไปลองอะไรซักอย่าง “ สุภาพบุรุษที่สุดในโลกอย่างชีวอนได้ฤกษ์เอ่ยออกมาบ้าง แล้วเดินแบบเนียนๆไปยืนข้างๆฮีชอล มือหนายกขึ้นวางบนบ่ามนแบบเนียนๆอีกเหมือนกัน
“ ไม่ต้องมาเนียนเลย เอามืออกไปเดี๋ยวนี้นะ “ ซินคนสวยขู่พร้อมกับเอามือปลาหมึกที่ไหล่ตัวเองออก
“ ฮีชอลอ่า แค่นิดเดียวเอง ขอผมวางตรงนี้แป๊บเดียวเอง ซ้อมเต้นมาตั้งนานมันเมื่อยนะ “
“ นี่ ! ซ้อมเต้นน่ะ มันต้องเมื่อยขานะ ไม่ใช่เมื่อยแขน แล้วก็หันยืนด้วยกระดูกสันหลังของตัวเองซะบ้าง ไม่ใช่อะไรก็พิง อะไรก็โอบ อะไรก็ซบ ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆซะหน่อย “ ร่ายยาวซะงั้น แต่ไอ้คนโดนบ่นน่ะยังยืนยิ้มหน้าตายอยู่ข้างๆเหมือนเดิมแถมมือมันก็ยังอยู่ที่เดิมเป๊ะไม่ได้ขยับไปไหนซักเซ็นเดียว
“ แต่ก็เป็นกับซินคนเดียวนะครับ “ ว่าแล้วก็ส่งสายตาวิบวับไปให้ ไม่ได้รู้สึกกับคำบ่นที่แสนยืดยาวก่อนหน้าซักนิด
“ ไม่ต้องมาทำตาแบบนี้เลยไอ้สิงโตบ้า แล้วก็ไปยืนห่างเลย มือนี่ก็เอาออกไปด้วย “ คนสวยที่พูดพร้อมกับยกมือขึ้นตีที่แขนคนรักเบาๆ
คิบอมที่ยืนมองดูฉากสวีท ( ? ) ของเจ๊ใหญ่ของวงแล้วก็นึกขำกับน้องๆหรือใครต่อใครฮีชอลคนนี้ไม่มียั่น สู้ยิบตา แต่พอเจอลูกตื้อของชีวอนเข้าไปเท่านั้นแหละจากที่แข็งๆอยู่ก็อ่อนเป็นขี้ผึ้งโดนไฟลนเชียว แต่จะว่าไปก็น่ารักดีเวลาที่ฮีชอลอยู่ในโหมดแบบนี้ แต่ก็ยังน่ารักน้อยกว่าคนนั้นของเค้าอยู่ดีล่ะน๊า ....... ว่าม๊ะ?
“ งั้นเดี๋ยวผมกลับมานะ “ เห็นบรรยากาศหวานๆของคู่วอนซินแล้ว มันชักจะทนไม่ไหวแฮะ! ไปตามหาคนน่ารักของเค้าดีกว่า
ชายหนุ่มที่เดินผ่านไปตามห้องต่างๆก็พยายามมองหาคนน่ารักของตัวเองไปด้วย แต่ว่าหามาก็หลายห้องแล้วยังไม่เห็นตัวซักที
“ เฮ้อ ! ไปอยู่ไหนน้า “
.....ขณะที่ขายาวกำลังจะเดินผ่านห้องๆหนึ่ง พลันเสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น ตอนแรกคิบอมก็ไม่คิดจะสนใจแต่ว่าชื่อของอีกคนที่หญิงสาวคนนั้นเอ่ยเรียกนี่ซิ .... มันชื่อของคนที่เค้าตามหานี่นา
“ เห็นไหม พี่ว่าแล้วต้องน่ารัก เห็นม๊า ดูซิ น่ารักมากเลย “
“ นั่นสิ รับกับหน้ามากๆเลย ไหนมาดูใกล้ๆซิ ดงเฮใส่แบบนี้แล้วน่ารักมากเลยอ่ะ “ เสียงชมของหญิงสาวที่น่าจะมีมากกว่าสองคนที่กำลังเอ่ยชมดงเฮ ทำให้แขนยาวต้องค่อยๆแง้มประตูเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง แล้วผู้หญิงพวกนี้กำลังทำอะไรกับดงเฮของเค้ากันแน่นะ
.....ภาพที่เห็นคือหญิงสาวสามคนที่กำลังยืนล้อมหน้าล้อมหลังดงเฮอยู่ แต่ว่าทั้งหมดกำลังยืนหันหลังให้ประตูทั้งหมดเลยไม่รู้ว่ามีบุคคลที่สี่กำลังยืนฟังบทสนทนาอยู่ด้วย ที่สำคัญบังดงเฮของเค้าซะมิดเลยอ่ะ ( -*- )
“ พวกนูนา ทำอะไรเนี่ย? ผมเป็นผู้ชายนะฮะ ทำแบบนี้ใครมาเห็นเข้ามีหวังต้องเอาหน้ามุดดินหนีอายแหงๆ “ เสียงหวานๆที่คิบอมคิดถึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แม้ว่าจะไม่เห็นเพราะว่าโดนล้อมอยู่ แต่คิบอมก็พอจะเดาออกว่าดงเฮจะทำหน้ายังไง
“ ก็ดงเฮน่ารักจริงๆนะ น่าจะเอาไปให้คนอื่นดูด้วยเน๊อะ ว่าไหม? “ หน้าหวานยู่ทันทีที่ได้ยินหญิงสาวคนหนึ่งพูดจบ
“ ไม่เอาด้วยหรอกนะฮะ พวกนูนาว่าสวยก็เอาไปใส่เองเลย ผมไม่เอาด้วยเด็ดขาด “ ดงเฮพูดจบก็ทำท่าจะถอดสิ่งที่ใส่อยู่ออก และนั่นยิ่งไปกระตุ้นให้อีกคนที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องแทบจะทนไม่ไหวว่า ดงเฮถูกจับให้ใส่อะไรกันแน่ ทำไมถึงโดนชมว่าสวย เร็วเท่าความคิดแขนแกร่งเปิดประตูออกจนสุดก่อนที่ริมฝีปากหนาจะเอ่ยขึ้น
“ ทำอะไรกันอยู่เหรอฮะ “ เพราะเสียงทุ้มที่เอ่ยทักดังขึ้นทำให้สามสาวที่ยืนอยู่หันหน้ากลับมาเจ้าของเสียงที่เข้ามาใหม่อย่างพร้อมเพรียง และนั่นส่งผลให้คิบอมมองเห็นคนที่ถูกล้อมไว้แบบเต็มๆตา
“ คิ ... คิบอม “ ดงเฮเอ่ยชื่อชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่ด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักนั่นไม่ใช่ว่าตัวเองทำอะไรผิด เพียงแต่มันเป็นเพราะตกใจต่างหากไม่คิดว่าจะเห็นคิบอมที่นี่และยิ่งในเวลานี้ด้วยยิ่งไม่สมควรเลยจริงๆ
.....ร่างสูงมองเลยผ่านสามสาวไปมองหน้าหวานๆของดงเฮที่ตอนนี้บนหัวทุยๆนั่นมีวิกผมดัดลอนสีบลอนสวมอยู่ ตากลมๆมองมาที่เค้าพร้อมกับความสงสัยที่ถูกส่งมาอย่างเปิดเผย เปลือกตาสวยกระพริบถี่เหมือนไม่แน่ใจกับภาพตรงหน้า ดงเฮยังอยู่ในชุดเสื้อกล้าม กางเกงวอว์มอย่างที่ชอบใส่เวลาซ้อมเต้น คิบอมมองภาพตรงหน้าอย่างอึ้งนิดๆ ปกติแล้วใบหน้าของดงเฮที่อยู่ภายใต้กรอบผมสีน้ำตาลอ่อนที่ตัดสไลส์ ไล่ลงตามโครงหน้าแค่นั้นก็ส่งผลให้ดงเฮน่ารักจนบอกไม่ถูกอยู่แล้ว แต่พอมาใส่วิกผมแบบนี้มันยิ่งทำให้ดงเฮยิ่งดูสวยหวานมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวนัก
.....ฝ่ายดงเฮที่ยังอึ้งที่จู่ๆคิบอมก็มาโผล่อยู่ตรงหน้า แถมยังมาตอนที่เค้ากำลังใส่วิกนี่อยู่ด้วย สายตาหวานยังคงจ้องไปที่ร่างสูงไม่วางตาเหมือนมีคำถามอยู่ในแววตานั่น
“ คิบอมอ่า ทำไมมาตอนนี้นะ.... แล้วมันดูตลกรึเปล่าล่ะเนี่ย? “ ร่างบางที่ทำได้เพียงแค่คิดในใจ ดงเฮที่ดูเหมือนว่าความมั่นใจที่ถูกสามสาวเป่าหูว่าใส่วิกแล้วดูดีมันจะหายไปจนหมดเมื่อเห็นแววตาคู่นั้นของคิบอม
“ อ้าว! คิบอมมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยห๊ะ ? ” หนึ่งในสามสาวเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าสองหนุ่มเอาแต่จ้องหน้ากันไปมา
“ มาสักพักแล้วล่ะครับ ว่าแต่กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอฮะ “ ร่างสูงเอ่ยตอบออกไปแต่ว่าสายตายังคงจ้องไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มร่างบางอีกคนไม่วางตา
“ พอดีพวกเราได้วิกมาใหม่ อันที่ต้องให้ sj ใส่โชว์บนเวทีอาทิตย์หน้า ก็เลยให้ดงเฮมาช่วยลองดูก่อนว่ามันเหมาะหรือเปล่าน่ะ “ เป็นอีกสาวที่ช่วยตอบไขข้อข้องใจของคิบอม
“ เหรอฮะ แล้วเป็นไงบ้างล่ะฮะ “
“ แหม! ก็ต้องสวยซิจ๊ะ ดงเฮน่ะใส่แล้วสวยกว่าผู้หญิงซะอีกน๊า “
“ ใช่ ใช่ดงเฮน่ะ ใส่แล้วน่ารักมากๆเลยนะ ว่าแต่คิบอมล่ะ ดูแล้วว่าไงบ้าง “ พอพูดจบก็พยักเพยิดหน้าไปทางประตูเป็นสัญญาณว่าออกกันไปได้แล้ว
“ งั้นพวกพี่ไปก่อนนะ ไว้คุยกันวันหลังนะคิบอม......... พี่ไปนะดงเฮ “ เมื่อเห็นว่าอยู่ไปก็เหมือนเป็นส่วนเกินสามสาวเลยขอตัว ปล่อยให้สองคนเค้าคุยกันเองดีกว่า
“ เอ่อ..แล้วเจอกันฮะ “ เป็นดงเฮที่เอ่ยลาเมื่อสามสาวกำลังจะก้าวออกจากห้องไป
“ ......... “
“ เอ่อ! .... คิ คิบอมจะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะ “ ดงเฮที่พยายามรวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของอีกคนขณะที่เอ่ยถาม แต่ก็มีอันต้องหลบสายตาของคิบอมอีกรอบ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็จ้องตัวเองไม่วางตาสักนิด แล้วสายตาแบบนี้มันหมายความว่าไงกันนะ อาจจะขำที่เห็นเค้าใส่วิกอยู่แบบนี้ก็ได้ เมื่อคิดได้แบบนั้นมือขาวเลยถูกยกขึ้นเพื่อดึงวิกผมที่ใส่อยู่ออก
.... หมับ !!!!
..แต่ยังไม่ทันที่จะดึงมันออก พลันมือแกร่งของอีกคนก็คว้าเข้าที่ข้อมือบางอย่างรวดเร็ว สายตาแห่งความสงสัยถูกส่งไปยังคนตัวโตที่ยืนจับข้อมือตัวเองอยู่ แถมยังไม่ยอมพูดจาอะไรออกมาซักคำ
“ ทะ ทำไม? “ เสียงหวานถูกส่งออกไปถามหาเหตุผลที่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ยอมให้ถอดวิกออกซะงั้น คิบอมที่ตอนนี้มือข้างหนึ่งจับเข้าที่ข้อมือบางของดงเฮ ขายาวก้าวช้าๆขยับตัวเข้าหาคนตรงหน้า ส่วนสายตาน่ะไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายังคงจ้องไปที่ไหน
“ อย่าเพิ่งเอาออกเลยนะ เอาไว้อย่างนี้ก่อน “ ริมฝีปากหนาเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาจนชิดร่างเล็กตรงหน้า
“ ทำไมล่ะ? มันดูตลกออก พวกนูนาน่ะชอบแกล้ง ชอบมาบังคับให้เค้าใส่อะไรแบบนี้อยู่เรื่อย “ ดงเฮยังคงส่งเสียงตามที่ตัวเองคิด แล้วยิ่งเห็นว่าคิบอมที่เอาแต่มองแล้วไม่ยอมพูดอะไรก็ยิ่งมั่นใจว่ามันต้องตลกมากแน่ๆ
.....ริมฝีปากสวยที่กำลังทำท่าเหมือนจะพูดต่อมีอันต้องเงียบเสียงเพราะว่าริมฝีปากของคนตรงหน้าที่บดเบียดลงมาแบบไม่ให้ตั้งตัว คิบอมที่คว้าเอวบางของดงเฮเพื่อดึงร่างบางให้ขยับเข้าแนบชิดมากขึ้น ในขณะที่ริมฝีปากก็ยังควานหาความหวานจากกลีบกุหลาบเนื้อนุ่ม
คิบอมที่ค่อยๆดูดดุนปากบางทั้งบนและล่างสลับกันไปมาเบาบ้างหนักบ้าง ในครั้งแรกลิ้นหนาไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าไปหาความหวานด้านในเพียงแต่ขบเม้มอยู่ด้านนอกเท่านั้น ดงเฮที่สัมผัสได้ถึงความชื้นบริเวณริมฝีปากตัวเองที่มาพร้อมกับความรู้สึกร้อนวูบวาบในตัว ร่างเล็กสั่นน้อยๆเมื่อรู้สึกได้ว่าคิบอมนั้นอ่อนโยนแต่ว่าเร่าร้อนอยู่ในที
ใบหน้าคมถูกปรับเปลี่ยนไปตามองศาที่ต้องการเพื่อซึมซับความหวานของคนที่ตัวเองคิดถึงอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ในขณะที่มือหนาก็กระชับเอวบางให้ชิดเข้ามาอีกจนหาพื้นที่ว่างให้อากาศรอดแทบไม่ได้ ส่วนมืออีกข้างจับเข้าที่มือบางให้เปลี่ยนจากจับอยู่ที่อกเสื่อให้เป็นโอบรอบคอตัวเองแทน และเพราะโดนบังคับให้โอบรอบคอคนที่ตัวโตกว่าเลยกลายเป็นว่าดงเฮต้องเลยหน้าขึ้นรับจูบจากคิบอมแบบที่ไม่สามารถหลีกหนีไปไหนได้
“ อ..อืม ” ดงเฮที่ส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ใบหน้าหวานตอนนี้กลับกลายเป็นสีแดงจากแรงอารมณ์ที่ค่อยๆถูกปลุกขึ้นจากฝีมือของคนคุ้นเคย
คิบอมที่ตอนนี้ค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปหาความหวานจากโพรงปากของดงเฮ ลิ้นร้อนกวาดต้อนอย่างคนที่เอาแต่ใจ รุกไล่จนคนสวยแทบจะหายใจไม่ทัน พอดงเฮตอบสนองเจ้าตัวกลับถอยหนีปล่อยให้ดงเฮเป็นฝ่ายไล่ตามบ้าง แต่ที่ร่างสูงสัมผัสได้ก็คือความหวานที่ไม่ว่าจะกวาดต้อนเท่าไหร่ก็ไม่เคยหมดไป พอคนสวยทำท่าจะหมดแรงไล่ตามลิ้นร้อนก็กลับมารุกไล่ เลาะเล็มไปตามไรฟันที่เรียงตัวสวยอยู่ภายใน ลิ้นหนาสำรวจไปทั่วโพรงปากอย่างชำนาญ เกาะเกี่ยว ตอดรัดลิ้นเล็ก หยอกล้อจนร่างบางสั่นน้อยๆเพราแรงกระตุ้นจากร่างสูง ลิ้นเล็กถูกหยอกล้อให้ตอบรับจนแทบไม่ทันจนเจ้าของเหมือนจะละลายไปกับรสจูบที่อีกฝ่ายป้อนให้
“คะ คิ คิบอม “ ดงเฮเอ่ยชื่อคนตรงหน้าออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อริมฝีปากบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ว่ายังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อ คนตัวสูงกว่าก็ทาบริมฝีปากลงมาใหม่ ความนี้คิบอมมอบจูบที่เร่าร้อนกว่าครั้งแรกให้ดงเฮที่ยังคงอ่อนระทวยกับจูบในตอนแรกยิ่งอ่อนปวกเปียกกว่าเดิมหลายเท่า จนคิบอมต้องออกแรงโอบที่เอวบางให้แน่นขึ้นเพราะว่าคนตัวเล็กทำท่าเหมือนจะลงไปกองกับพื้นถ้าเค้าไม่ออกแรงประคองไว้
คิบอมที่ตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังหลงใหลไปกับความหวานจากริฝีปากของร่างบาง ยังคงรุกเร้าอย่าเอาแต่ใจจนร่างเล็กต้องปล่อยมือจากที่โอบรอบคอมาเป็นขยุ้มที่อกเสื้อแทน และเพราะแรงขยุ้มที่อกเสื้อที่ดูจะเพิ่มแรงขึ้นทำให้คิบอมรับรู้ว่าดงเฮคงต้องการอากาศเพิ่ม ริมฝีปากหนาถูกถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง แต่คิบอมยังคงใช้ปลายจมูกเป็นตัววัดระยะความห่างของใบหน้าตัวเองกับดงเฮ ส่วนอีกคนที่พอถูกปล่อยให้เป็นอิสระร่างบางก็สูดอากาศเข้าปอด ลมหายใจที่เหมือนจะผิดจังหวะไปหมด รวมทั้งหัวใจที่เหมือนจะขยันเต้นเอามากๆ ใบหน้าหวานแดงปลั่งอาจจะเพราะขาดอากาศเมื่อครู่หรือเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกกันแน่ แต่ที่แน่ๆมันส่งผลให้เจ้าของดูน่ารักขึ้นมากในสายตาของเจ้าของผลงาน บางทีอาจจะน่ารักมากจนน่าที่จะทำมากกว่าจูบซะอีกด้วย
“ ใส่ไว้อย่านี้แหละนะ น่ารักดี..........สวย “
“ ............ “ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเงียบไป คิบอมที่ยังคงมีรอยยิ้มที่มุมปากตลอดก็กดริมฝีปากลงไปใหม่ กดจูบแบบแรงๆแต่เพียงแค่ภายนอกไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด
“ คิดถึงจัง “ พูดจบก็กดจูบลงไปใหม่ แต่คราวนี้ร่างสูงออกแรงดูดดุนที่ริมฝีปากบางเบาๆ ขยับไล่ลัดเลาะไปตามริมฝีปากจนทั่วทั้งบนและล่าง
“ พอ พอแล้ว เดี๋ยวช้ำหมด “ ร่างเล็กที่ดูเหมือนว่าสติจะกลับเข้าร่างแล้ว หลังจากถูกทำให้สติหลุดไปชั่วครู่มือบางออกแรงดันที่อกแกร่งเบาๆเป็นเชิงเตือนไม่ให้ร่างสูงทำตามใจตัวเองมากไปกว่านี้ แต่ขณะที่ปฏิเสธดงเฮไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้นมองคิบอม เพราะว่าถ้าเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเจอกับสายตาที่ดื้อรั้นของคิบอมแน่ๆ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าจะยังกล้าปฏิเสธคิบอมอยู่รึเปล่าไม่แน่ใจ
“ ทำไมล่ะ?.. หรือว่าไม่คิดถึงผม “ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนจะน้อยใจนิดๆที่ถูกปฏิเสธ
“ เปล่านะ เพียงแต่ที่นี่มันห้องแต่งตัว เดี๋ยวมีคนมาเห็น มันไม่ดี “ พอได้ยินเสียงที่แสดงความน้อยใจออกมาเท่านั้นดงเฮก็รีบเงยหน้าขึ้นสบตากับคิบอมแทบจะในทันที พร้อมกับหาเหตุผลที่พอจะฟังขึ้นเพื่อไม่ให้คิบอมต้องเข้าใจผิด
แน่ล่ะทำไมดงเฮคนนี้จะไม่คิดถึงคิบอมล่ะ ไม่เจอกันตั้งสองอาทิตย์ โทรศัพท์ก็แทบจะไม่ได้คุยเพราะร่างสูงไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดสัญญาณก็ไม่ค่อยดี แล้วอีกอย่างดงเฮก็ไม่กล้าที่จะโทรไปนักเพราะกลัวว่าจะรบกวนการทำงานของคนรัก คำว่าไม่คิดถึงไม่เคยมีในหัว ทุกวันในหัวใจมีแต่คำว่าคิดถึง อยากอยู่ใกล้ อยากได้สบตากันทั้งตอนตื่นและก่อนนอน แต่ในความเป็นจริงทำได้เพียงส่งข้อความหากันในเวลาที่คิดถึงจนทนไม่ไหว เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ยังรับรู้ว่ายังมีกันและกัน
......คิบอมที่ตอนนี้ยอมเงยหน้าขึ้นมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ความห่างของใบหน้าเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ดงเฮรู้สึกว่าหัวใจตัวเองกลัวมาเต้นปกติได้อีกครั้ง สายตาคมยังจับจ้องใบหน้าหวานๆตรงหน้าไม่วางตาเหมือนเดิม รอยยิ้มที่ยังประดับอยู่บนใบหน้าไม่จางหาย
อะไรนะที่ทำให้เค้ายิ้มได้ตลอดเวลานี้ทั้งที่ปกติกับใครต่อใครเค้าก็แค่ยิ้มแบบผ่านๆเท่านั้น คำตอบก็คงเป็นคนตรงหน้านี่เอง แค่ได้ยินชื่อหัวใจก็พองโต แค่ได้เห็นหน้าก็ไม่สามารถหุบยิ้มได้ รอยยิ้มที่อ่อนหวาน บวกกับแววตาที่สดใสสุกสะกาวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ริมฝีปากบางที่เค้าไม่อาจจะปฏิเสธว่าตัวเองเผลอมองทุกครั้งที่มันขยับเอื้อนเอ่ยคำพูดสารพัด ที่สำคัญเค้าไม่สามารถที่จะห้ามไม่ให้สัมผัสมันได้ซักครั้งเลยจริงๆ คิดถึงๆจริงในตอนนี้ในหัวใจมีแต่คนๆนี้เท่านั้น
“ ก็ช่างใครต่อใครซิ ใครจะเห็นก็ช่างมัน ตอนนี้ผมรู้แต่ว่าผมคิดถึงดงเฮเท่านั้น “ ว่าจบก็หากำไรเข้าตัวโดยการกดจูบเข้าที่แก้มเนียนแรงๆอีกที ให้ตายซิดงเฮเพิ่งจะซ้อมเต้นมาไม่ใช่เหรอ เหงื่อก็ต้องออกแต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่าดงเฮยังคงหอมหวานเหมือนเพิ่งอาบน้ำมาแบบนี้นะ ไม่เห็นเหม็นเหงื่อเหมือนที่ควรจะเป็น หรือว่าต่อมรับกลิ่นของผมมันจะเสียไปแล้วนะ แต่ช่างทันเถอะขอแค่ผมยังได้กลิ่นของดงเฮก็พอแล้ว เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าต่อมรับกลิ่นของผมยังรับกลิ่นของดงเฮได้งั้น......ขออีกทีแล้วกัน
......ว่าแล้วคนเอาแต่ได้ก็ฝังจมูกตัวเองลงไปที่แก้มขาวๆของดงเฮอีกรอบแต่คราวนี้ จูบมันทั้งสองข้างเลยจะได้มั่นใจว่ายังรับกลิ่นได้ไหม
“ พอแล้ว เดี๋ยวมีคนมาเห็น “
“ แต่ว่ายังไม่หายคิดถึงเลยอ่ะ “ คนเอาแต่ใจยังคงหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองต่อ วงแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าไปอีก
“ เค้าหายมานานแล้ว กลับไปหาคนอื่นกันเถอะเดี๋ยวอีทึกฮยองจะถามหา “ คนที่โดนเอาเปรียบก็พยายามหาทางเอาตัวรอดจากการถูกเอาเปรียบต่อไป
“ ไม่หรอก พวกนั้นรู้ว่าผมมาตามหาดงเฮให้แล้ว “
“ แต่นี่หมดเวลาซ้อมแล้ว เดี๋ยวทุกคนจะรอกลับหอ “ มาถึงตอนนี้คนสวยเริ่มกล้าที่จะมองหน้าเจ้าของวงแขนที่โอบกอดตัวเองอยู่แล้ว เลยส่งสายตาอ้อนๆไปให้เพื่อหวังว่าคิบอมจะใจอ่อนเลิกเอาเปรียบตัวเองซักที ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรอกนะที่คิบอมแสดงออกแบบนี้แต่ว่ามันอายต่างหาก ยิ่งอยู่ในที่ที่มันไม่ได้เป็นส่วนตัวแบบนี้ด้วย น่าอายจะตายถ้าเกิดมีคนมาเห็นเข้า
“ อืม ก็ได้ “ จู่ๆคิบอมก็รับปากง่ายๆซะงั้น เลยส่งผลให้ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มขึ้นเต็มใบหน้า โดยที่เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าไอ้รอยยิ้มแบบนี้อาจจะทำให้คิบอมเปลี่ยนใจก็ได้
“ แต่ว่า......... “ แต่พอได้ยินคำต่อมาคิ้วสวยก็ขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
“ ......คืนนี้......ผมจะทบต้นทบดอกนะครับคนสวย “ คิ้วเข้มถูกยักให้คนตรงหน้าอย่างกวนๆ แววตาบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นเอาจริงชนิดที่ไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทนถูกส่งมาให้คนสวยของคิบอมที่ตอนนี้อึ้งกิมกี่ไปแล้ว
แล้วก็ไม่ต้องปล่อยให้คนสวยต้องงงนานมือหนาเปลี่ยนจากกอดเป็นโอบเข้าที่เอวบางแล้วออกแรงกระชับให้มากขึ้น ออกแรงลากเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนสวยเหมือนจะไม่ยอมขยับขาตามเพื่อพาออกจากห้องไปหาสมาชิกคนอื่นทันที
คิบอมพยายามที่จะไม่ขำกับหน้าตาเหรอหราของดงเฮหลังได้ยินคำว่าทบต้นทบดอก คนสวยดูจะอึ้งไปเล็กน้อยสังเกตุได้เพราะเล่นเงียบไม่พูดอะไรซักคำปล่อยให้เค้าลากออกจากห้องทั้งที่ยังอึ้งๆอย่างนั้นแหละ ก็จะช้าทำไมล่ะครับเสียเวลา กลับถึงหอเมื่อไหร่ผมจะได้ทบต้นทบดอกดงเฮของผมให้เต็มที่เลย จะไม่ไปล่อยให้คนสวยได้มีเวลาปฏิเสธเหมือนตอนนี้เด็ดขาด........ผมสัญญา
ส่วนคนสวยของคิบอมที่กำลังตกตะลึง หรือจะเรียกว่าอึ้งไปกับเหตุผลที่คิบอมยอมปล่อยไปตอนนี้ ขาเรียวเหมือนจะหนักขึ้นมาเอาดื้อๆ แต่แรงลากจากคนตัวโตกว่าที่พยายามเอาเค้าออกจากห้องทันทีที่พูดจบ ทำไมจะไม่รู้ว่าคิบอมน่ะพูดจริงทำจริงกับเรื่องนี้แค่ไหน
..... ก็จะไม่ให้อึ้งได้ไง คืนนี้ดงเฮคนนี้จะโดนทบต้นทบดอกนะ .....
จบตอนนี้แค่เพียงเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ
แล้วจะมาต่อใหม่ในวันต่อไป
แฮะๆ หวังว่าคงพอจะอ่านได้เน๊าะ
จะขอบคุณถ้าอ่านแล้ว Ment ด้วย
ความคิดเห็น