ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำที่ดีของมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอน: Night of love

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.06K
      25
      24 ก.ย. 49



    - + บทที่ 1 + -

        ในที่สุดก็มาถึงวันคริสต์มาส เป็นวันที่นักเรียนต่างรอคอยกันมากที่สุด ตอนนี้ปราสาทฮอกวอตส์มีหิมะปกคลุมเสมือนเป็นหลังคาอีกชั้นหนึ่ง พื้นหญ้าที่เคยอ่อนนุ่ม และไหวไปตามสายลมบัดนี้ถูกหิมะครอบคลุมจนคล้ายกับว่าปูพรมสีขาวก็ไม่ปาน ทั้งรถม้าของโบซ์บาตงและเรือของเดิร์มสแตรงก์ก็ไม่วายที่จะมีหิมะปกคลุมเช่นกัน น้ำในทะเลสาปกลายเป็นน้ำแข็งแผ่นหนาๆ และเด็กนักเรียนมักจะไปยืนแถวๆ ทะเลสาบ เพื่อดูปลาหมึกยักษ์ พ่นน้ำ เพื่อเจาะน้ำแข็งขึ้นมา และนักเรียนจากโบซ์บาตงนั้นและเดิร์มสแตรงก์ ก็ออกมาเล่นหิมะกันอย่างสนุกสนานริมชายป่าต้องห้าม ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่และรอนนั้น ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเล่นปาหิมะกันอยู่ใต้ต้นบีชต้นโปรด ซึ่งการเล่นก็ต้องถูกขัดจังหวะ เมื่อ 'เรอคลอฟ ฟอสเตอร์' นักเรียนปีห้า บ้านเรเวนคลอ ขอคุยกับเฮอร์ไมโอนี่ซักครู่



    "อย่าบอกนะ ว่าเธอจะไปงานเต้นรำกับ หมอนี่" เสียงรอนไล่หลังพวกเขาทั้งสองไป

    "มีอะไรเหรอ เรอฟอสเตอร์" เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนการเรียกกระทันหันเมื่อนึกถึงคำของมัลฟอย

    "ผมจะมาบอกคุณว่า เอ่อผมเอาหนังสือ พืชน้ำหายาก…" เรอคลอฟพยามพูด แต่เด็กหญิงก็ขัดขึ้นเสียก่อน

    "เสียใจด้วย ฟอสเตอร์ มันหายไปแล้วล่ะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเสียใจ

    "เปล่าๆ ครับ ผมหมายถึง วันนั้นผมเอาหนังสือไปเอง" ในที่สุดเรอคลอฟก็พูดจบ

    "อ้าวแล้วทำไมพึ่งมาบอกเล่า รู้ไหมชั้นหาแทบแย่" เฮอร์ไมโอนี่ต่อว่าทันที

    "ผมฝากเดรโกมาบอกคุณตั้งนานแล้ว แต่ว่ามันพึ่งมาบอกผมว่า ยังไม่ได้บอก" เรอคลอฟอธิบาย

    "งั้นหรือ" เธอพูด แล้วมองข้างไหล่เรอคลอฟไป ก็เห็นมัลฟอยกำลังเดินมากับแพนซี่ พาร์กินสัน ด้วยสีหน้าที่เหมือนมีปลิงมาติดที่พื้นรองเท้า และมีนักเรียนหญิงบ้านสลิธีรินอีกหลายคน ที่เดินติดตามมาห่างๆ

    "ว่าแต่หาข้อมูลของใบไม้คริสตัลเจอรึยัง" เฮอร์ไมโอนี่ถาม แต่ก็ยังไม่ละสายตามาจากคนทั้งคู่

    "อ้อคุณต้องไปถามเดรโกแล้วล่ะฮะ ผมบอกเค้าไว้หมดแล้ว" เด็กหนุ่มพูด แล้วหันไปมองข้างหลังบ้าง

    "อืม" เธอรับคำเสียงแผ่ว 'เฮอะ!! ไปงานกับยัยพาร์กินสันน่ะสิ' เด็กหญิงคิด ใจหนึ่งเธอก็อิจฉาแพนซี่ อีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกหมั่นไส้มัลฟอยอย่างท่วมท้น

    "เป็นเพราะข่าวของยัยริต้านั่นแท้ๆ" เรอคลอฟพูดพลางหันกลับมา "เรื่องของคุณกับพอตเตอร์น่ะครับ คุณเชื่อมั๊ย มันทำให้เดรโกหัวเสียมากเลย เขาแทบจะเสกให้ทุกคนที่พูดถึงคุณกับพอตเตอร์ตามระเบียบงทางเดิน ให้ฝีขึ้นเต็มหน้าเขรอะ แล้วที่คะแนนบ้านสลิธีรินลดลงเรื่อยๆ ก็ เพราะ เดรโกเนี่ยแหละ มันเสกคาถาต่อหน้าอาจารย์แทบทุกวันเลย (ยกเว้นมู้ดดี้) แล้วก็ตั้งแต่นั้นมา เดรโกก็ถูกกักบริเวณเป็นว่าเล่นเลย แบบว่า พอมักกอนนากัลเสร็จ ก็ไปฟลิตวิก ไปสเปราต์ มันพึ่งมาเล่าให้ผมฟังเมื่อวันก่อน" เรอคลอฟอธิบายจนเฮอร์ไมโอนี่เข้าใจกระจ่างแจ้ง และความรู้สึกเคืองมัลฟอยก็ลดน้อยลงไปกว่าครึ่ง

    "เอ่อนายไปงานเต้นรำกับใครล่ะ ฟอสเตอร์" เฮอร์ไมโอนี่ถาม เพื่อเปลี่ยนเรื่อง

    "อแมนด้ายัยเด็กแสบนี่มาขอไปกับผม" เรอคลอฟพูดอย่างขำๆ

    "งั้นเหรอชั้นไปแล้วนะ" เธอพูดแล้วโบกมือให้เค้า แล้วเดินหันหลังกลับไปหารอนและแฮร์รี่

    "นั่นคู่เต้นรำของเธอเหรอ" แฮร์รี่ถามอย่างสงสัย

    "เปล่า คู่เต้นรำของอแมนด้าต่างหาก" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วหันไปมองหน้ารอน ซึ่งตรงกับที่เธอคาดการณ์ไว้เป๊ะ

    "ขอชั้นดูหน้ามันหน่อยซิ" รอนพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แล้วถลาไปหาเรอคลอฟ แต่ดีที่แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ฉุดไว้ทัน

    "นายนี่มันช่างหาเรื่องจริงๆ" แฮร์รี่พูดอย่างๆ หน่ายๆ ในท่าทีของเพื่อนรัก

    …+*+*+…

        พอเวลาห้าโมงเย็น ทั้งสามสหายก็ต้องรีบไปแต่งตัวเพื่อไปงานเต้นรำ เพราะ เฮอร์ไมโอนี่เริ่มบ่นแล้ว ว่า "เดี๋ยวชั้นแต่งตัวไม่ทัน" เมื่อมาถึงหอคอยกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ก็แยกไปทางหอนอนหญิง และ แฮร์รี่และรอนก็แยกไปทางหอนอนชาย พวกเขาทั้งสองแต่งตัวกับได้รวดเร็วราวกับสายฟ้าแล๊บ เพียง 15 นาทีก็เสร็จแล้ว พวกเขาจึงลงไปที่ห้องนั่งเล่นรวมเพื่อรอเฮอร์ไมโอนี่ เชมัส ดีน และเนวิลล์ก็เช่นกัน พวกเขาก็แต่งตัวเสร็จและลงไปที่ห้องนั่งเล่นรวมเช่นกัน



    "แฮร์รี่ รอน นายสองคนทำยังไงถึงได้ควงกับผู้หญิงหน้าตาสวยที่สุดของปีสี่ไปงานเต้นรำ" ดีนพูด เขาคิดว่า ปาราวตีและปัทมา สวยที่สุดของชั้นปีแล้ว แต่ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินลงมาจากหอนอนหญิง และทั้งรอน แฮร์รี่ เชมัส ดีนและเนวิลล์ ต่างก็จ้องมองไปที่เธอเหมือนต้องมนต์สะกด

    "เอ่ออย่าจ้องอย่างนั้นสิ" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างขัดเขิน แล้วเกาจมูก วันนี้เธอสวมกระโปรงตัดจากผ้าเนื้อบางเบาสีฟ้าที่จับระบายน้อยๆ อยู่ในตัว และผมที่เคยหยิกฟูของเธอนั้น กลับเหยียดตรงเป็นเงางาม รวบเกล้าเป็นมวยเก๋ที่ด้านหลังแทน แถมยิ่งตอนนี้ฟันของเธอเล็กลง และจัดเป็นระเบียบสวยงาม (เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่าง อ่านได้ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ถ้วยอัคนี หน้า 342) ทำให้รอยยิ้มของเธอดูมีความสดใสและมั่นใจยิ่งขึ้น และที่คอของเธอมีสร้อยทองคำขาว ที่มีจี้เป็นแหวนคริสตัลรูปดาว ดูเข้ากันกับชุดของเธออย่างแปลกประหลาด

    "นี่เธอเหรอเนี่ย!!" เนวิลล์อุทานออกมาเบาๆ

    "โอ้โห!! ผมเธอเยี่ยมไปเลย ทำได้ไง" รอนพูด อย่างทึ่งๆ

    "ชุดสวยนะ" แฮร์รี่พูด แล้วยิ้มให้

    "พระเจ้า!! ทำไมชั้นไม่ขอเธอไปงานด้วยนะ" ดีนพูดอย่างเสียดาย

    "สุดยอด" เชมัสพูด พร้อมกับดีดนิ้ว

    "อะไรกันย่ะ พวกนาย" เฮอร์ไมโอนี่ถาม พร้อมกับหน้าที่เป็นสีแดงจัด และเดินเรียบๆ เคียงๆ มาหาแฮร์รี่และรอน

    "อ้าว!!! ปาราวตีกับลาเวนเดอร์มาแล้ว" แฮร์รี่เปลี่ยนเรื่อง และรีบเดินไปหาปาราวตีทันที "เอ่อเธอสวยดีนะ" เขาพูดตะกุกตะกัก

    "ขอบใจมาก แฮร์รี่ นายก็ดูดีนะ" เธอพูด แล้วควงแขนแฮร์รี่ "ไปกันเถอะเออรอน ปัทมารออยู่หน้าหอนะ" ปาราวตีพูดอีกครั้งแล้วเดินจากไปพร้อมกับแฮร์รี่

    "ไปกันเถอะ ลาเวนเดอร์" เชมัสพูดบ้าง แล้วควงลาเวนเดอร์ออกไป

    "ไปเถอะ รอน ชั้นว่าคู่ของเราคงจะรอแล้วล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วเดินนำรอนออกไป

    "โอเค" รอนพูด และเดินตามเฮอร์ไมโอนี่ออกไป 'ใครคู่กับยัยนี่น้า' นั้นคือสิ่งที่เค้าสงสัยและไม่ได้รับคำตอบมาเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว

    …+*+*+…

        ในโถงทางเข้าตอนนี้มีนักเรียนเบียดเสียดกันอยู่อย่างหนาแน่น ทุกคนกำลังรอว่าเมื่อไหร่ประตูห้องโถงจะเปิดออกเสียที แฮร์รี่พบกับมัลฟอยและแพนซี่ มัลฟอยสวมชุดผ้ากำมะหยี่สีดำที่มีคอปกตั้งสูง และแพนซี่มาในชุดกระโปรงจับระบายสีชมพูอ่อน (ซึ่งไม่เข้ากับหน้าอันบึ้งตึงของเธอเลย) แล้วยังเจอปัทมา ที่ควงมากับรอน ซึ่งใส่ชุดสีเขียวไข่นกการเวกสดใส เขายังเจอมารีนในร่างจินนี่ที่สวมชุดสีไข่ไก่ยาวเลยเข่ามาเล็กน้อย และจินนี่ในร่างมารีนสวมชุดราตรีสีส้มอ่อนที่ทำมาจากผ้าย่นๆ เดินมาด้วยกันโดยไม่มีคู่ควง ตอนนี้ทั้งสองสนิทกันมาก (รวมถึงสนิทกับเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอย แฮร์รี่ รอน และอแมนด้าด้วย) ดูเหมือนพวกเธอทั้งสองไม่สนใจแล้วว่าตนเองสลับร่างกันอยู่ เขาเจอเรอคลอฟสวมเสื้อกำมะหยี่สีดำคล้ายๆกับมัลฟอย ซึ่งควงมากับอแมนด้า และในที่สุดประตูห้องโถงก็เปิดออกเมื่อเวลา 20.00 น. เด็กนักเรียนต่างพากันเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว แต่แฮร์รี่และปาราวตี ต้องแยกตัวออกไป เพราะ เป็นตัวแทน

        เมื่อนักเรียนนั่งกันเรียบร้อยในห้องโถงแล้ว ก็ถึงเวลาที่ตัวแทนและคู่ต้องเปิดฟลอร์ คนในห้องโถงใหญ่ปรบมือต้อนรับตัวแทนทุกคู่ที่ก้าวเข้ามา ทั่วทุกตารางนิ้วของผนังห้องโถงใหญ่ปกคลุมด้วยละอองสีเงินที่ทอประกาย โต๊ะประจำบ้านไม่เหลืออยู่ให้เห็น แต่มีโต๊ะขนาดเล็กวางเรียงรายเป็นร้อยไว้แทนที่ และเมื่อคู่ของครัมก้าวเท้าออกมา บรรดาแฟนคลับของครัมต่างก็กลั้นหายใจรอ ว่าใครจะได้เป็นคู่ของเขา แล้วก็เกิดเสียงพึงพำขึ้น เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ประจักษ์แก่สายตาทุกคู่ที่จ้องมองมาในฐานะคู่เต้นรำ...

        มัลฟอยยืนดูอย่างอึ้งๆ แล้วกอดอกอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เมื่อแพนซี่ ยืนต่อว่าเฮอร์ไมโอนี่อย่างออกรสอยู่กับเหล่า 'เดรโกแฟนคลับ' ข้างๆ เขา ส่วนรอนก็ยืนมองอยู่อย่างอึ้งๆ และไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่อึ้งและทึ่งกับการปรากฏตัวของเฮอร์ไมโอนี่ในครั้งนี้ แต่ยังมีเด็กนักเรียนชายนับร้อย (ไม่เว้นแม้แต่นักเรียนโบซ์บาตงและเดิร์มสแตรงก์) มองเธอตาเป็นมัน บางคนถึงกับอ้าปากค้าง แม้แต่พวกบ้านสลิธีรินที่เหยียดเรื่องเลือดบริสุทธิ์นักหนา ยังจ้องเธออย่างเปิดเผย เนื่องด้วยการ ปรากฏตัวของเธออย่างคาดไม่ถึง และการเปลี่ยนไปอย่างมากของเธอ ทั้งหน้าตา รูปร่าง ผิวพรรณและทรงผมของเธอนั้น เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะ เธอเริ่มแตกเนื้อสาวแล้ว

    การเปิดฟลอร์ก็เป็นไปได้ไม่ค่อยดีนัก เธอเผลอเหยียบเท้าครัมถึงสามครั้งด้วยความตื่นเต้น เพราะ สายตาของนักเรียนนั้นต่างมองมาที่เธอ ยิ่งแฟนคลับของครัมด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่ มองเธอด้วยสายตาดูแคลน เมื่อเพลงจบลง เธอก็ขอแยกตัวไปนั่งร่วมโต๊ะกับแฮร์รี่ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ถามว่า 'รอนหายไปไหน' เรอคลอฟก็มาขอเธอเต้นรำต่อ ("วีสลีย์มาคว้าตัว อแมนด้าไปซะแล้วล่ะ ผมเลยต้องมาเต้นกับคุณนี่ไง" เรอคลอฟพูดยิ้มๆ)

    เมื่อเธอเต้นกับเรอคลอฟจบ เธอนั่งพักได้ 5 นาที จัสติน ฟินช์-เฟลชลีย์ ก็มาขอเธอไปเต้นต่อ ซึ่งเธอก็ปฏิเสธไม่ลง เธอได้กับเค้าไปได้ครึ่งเพลงก็รู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย เธอจึงขอตัวมาพักก่อนด้วยหน้าอันแดงก่ำ แต่แล้วเฟร็ด วีสลี่ย์ก็มาขอเธอเต้นด้วย ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ('แหม!! พี่ชายของเพื่อนหนิ' เธอคิดอย่างอ่อนใจ) แต่ดีที่ตอนนั้นเพลงช้าบรรเลง จากนั้นก็มีนักเรียนชายนับสิบ ยี่สิบคนมาเชิญเธอไปกลางฟลอร์  (ซึ่งเธอก็ปฏิเสธไม่ค่อยจะได้ 'โอ้ย!! เหนื่อยแล้วนะย่ะ จะเต้นอะไรมากมาย' เธอคิด ตอนนี้หัวใจเธอเต้นเป็นจังหวะกลองด้วยความเหนื่อย 'โอโหยชั้นยังไม่ทันตอบรับเลยนะ' เด็กหญิงคิดหลังจากเด็กนักเรียนชายจากโบซ์บาตงเดินมาจูงเธอไปเต้นเอาดื้อๆ โดยไม่พูดอะไรซักนิด 'นี่!!! เดี๋ยวเหอะ ซุ่มซ่ามจริงๆ เจ็บนะ เดี๋ยวจะตบให้ซักฉาดนะ' เธอคิดอย่างโมโห เมื่อนักเรียนปีหกบ้านเรเวนคลอเหยียบเท้าเธอเป็นครั้งที่ 8) ถึงแม้ว่าเธอจะเต้นคู่กับนักเรียนชายหลายต่อหลายคนแต่ก็ไม่มีนักเรียนชายบ้านสลิธีรินเสนอหน้ามาแม้แต่คนเดียว ถึงจะเป็นมัลฟอยก็เถอะ



    + - บทที่ 2 - +

    "โอ้ย!!! เหนื่อยแทบขาดใจ" เฮอร์ไมโอนี่พูด พร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ แฮร์รี่

    "แหมเนื้อหอมจริงนะ" แฮร์รี่แซว แล้วยกแก้วบัตเตอร์เบียร์ขึ้นดื่ม

    "เฮอะ…" เธอพูด แล้วหันไปหารอน "เป็นไงบ้าง ได้เต้นรำกับอแมนด้าแล้วรู้สึกสดชื่นไหม"

    "ไม่ได้เต้นเลย พอชั้นลากตัวอแมนด้ามาจากเจ้าเด็กเรเวนคลอนั่นได้ เขาก็เกิดหิวขึ้นมา" เขาตอบอย่างหน่ายๆ แล้วมองไปที่ครัมซึ่งกำลังเต้นรำกับแฟนคลับอยู่ "แล้วเธอล่ะ เต้นกับเจ้าครัมนั่น เป็นไง!?" เขาถามกวนๆ

    "ก็ดีล่ะ..."  เธอตอบ และรีบพูดต่อทันที

    "พวกเธอเอ่อไม่หนุกกันเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ตัดบท รอนที่กำลังจะอ้าปากพูดต่อ

    "หนุกมากเลย" แฮร์รี่กัดฟันพูด แล้วมองไปที่นักเรียนชายอีก 4 คน ที่ตรงรี่เข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่

    "เอ่อคุณเกรนเจอร์ให้เกียรติเต้นรำ…" นักเรียนชายคนที่ยืนอยู่ทางขวาสุดในกลุ่มพูดกับเฮอร์ไมโอนี่

    "ไม่หรอก ชั้นเหนื่อยแทบแย่ เต้นตั้ง 39 เพลงแล้ว" เธอตัดบท แล้วส่ายหัว และนี่ก็เป็นครั้งที่ 3 ที่เธอปฏิเสธสำเร็จ นักเรียนสี่คนนั้นหน้าเจื่อนและเดินจากไปทันที

    "เดี๋ยวชั้นไปหาอะไรกินก่อนนะ หิวแทบขาดใจแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้น และสะบัดชายกระโปรงจากไปทันที

    "น่าสงสารจริงๆ" รอนพูด แล้วเขมือบขนมทาร์ตน้ำตาลข้นที่อยู่ในจานเข้าไป แล้วเดินไปที่กลางฟลอร์พร้อมกับปัทมา

    "อ้าว!!! ไปกันหมดเลย" แฮร์รี่คราง แล้วมองไปที่โช แชงที่ยิ้มกว้างมาให้ เขาจึงลองไปขอเธอเต้นรำ และเธอก็ตกลง เขาจึงเดินไปที่ฟลอร์พร้อมกับโช

    …+*+*+…

        เฮอร์ไมโอนี่เดินไปหาของมากิน ตรงโต๊ะที่ตั้งอยู่ริมห้องโถง ตอนนี้เธอปวดท้องซะจนแทบจะกินหมูหันทั้งตัวได้สบายๆ เธอยืนกินอยู่ตรงปลายโต๊ะ เพราะ ถ้าหากถือเดินไปกินที่โต๊ะ เธอคงจะต้องทนเก็บอาการโมโหหิวไม่ได้แน่นอน เมื่อเธออิ่มหนำสำราญกับอาหารเรียบร้อย (โดยที่ไม่มีใครขัดจังหวะ) เธอก็อารมณ์ดี และยิ้มให้กับทุกคนที่เธอสามารถมองเห็น เด็กหญิงเดินไปหาน้ำพั้นซ์มาดื่ม เธอยืนจิบน้ำพั้นซ์อย่างสบายอารมณ์และมองดูเพื่อนรักทั้งสองเต้นรำกับคู่อยู่กลางฟลอร์ แต่แล้วก็มีคนมาขัดจังหวะเธอเสียก่อน



    "เฮิร์ม-โอน-นินนี่" เสียงของครัมดังมาแต่ไกล เฮอร์ไมโอนี่หันไปตามเสียง แล้วยิ้มให้

    "ว่าไง วิกเตอร์" เธอถามอย่างสนิทสนม

    "ไปเต้นรำกับผมซักเพลงไหมครับ" ครัมพยามพูดให้ชัดเจน

    "เอ่อชั้นเหนื่อยแล้วล่ะ" เด็กหญิงพูด พร้อมกับทำหน้าเสียใจ

    "อ้อไม่เป็นไร" ครัมพูดแล้วหยิบน้ำพั้นซ์ที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะมาดื่มบ้าง

    "ดื่มแล้วชื่นใจดีเนอะ" เฮอร์ไมโอนี่ชวยคุย

    "ครับ" ครัมตอบสั้นๆ แต่แล้วบทสนทนาก็ถูกขัดด้วยแฟนคลับของครัมที่เดินมาชวนเค้าไปเต้นรำ เขายิ้มแหยๆ แต่ก็เดินออกไปกลางฟลอร์กับแฟนคลับของเขา

    "เฮ้อ!!" เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ และทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างห้องโถง แล้วเธอก็พบกับเด็กชายผมสีบลอนด์คนหนึ่ง ยืนอยู่ท่ามกลางสาวๆ หลายคน

    "ฮึ!!! นายนี่มีแฟนคลับกับเค้าด้วยหรือเนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วยิ้มน้อยๆ มัลฟอยนั่นเอง

    "มีสิค่ะ" เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น

    "อแมนด้า" เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางจิบน้ำพั้นซ์ แล้วหันไปหาเด็กหญิงที่วันนี้เธอดูสวยมากในชุดที่ทำจากผ้าบางๆ สีขาว ยาวลากพื้น และผ้าคลุมไหล่ขนสัตว์ที่ดูเข้ากันกับชุดของเธอ ส่วนผมของเธอก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ยังพองฟูเหมือนเดิม

    "ค่ะหนูเอง" อแมนด้าพูดอย่างสดใส

    "ไม่เป็นเต้นรำหรือจ๊ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงสดใสไม่แพ้กัน

    "เอ่อไม่หรอกค่ะหนูไม่ได้เนื้อหอมเหมือนพี่หนิค่ะ" อแมนด้าปฏิเสธ แต่ก็ไม่ลืมที่จะแซวเธอเลย

    "ไม่หรอกอแมนด้าว่าแต่มัลฟอยน่ะ มีแฟนคลับด้วยเหรอ พี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย" เธอถามตรงๆ อย่างสงสัย

    "มีค่ะ มีตั้งนานแล้ว แล้วก็พวกแฟนคลับเนี่ย ไม่ใช่มีแต่นักเรียนหญิงในฮอกวอตส์เท่านั้นนะค่ะ จากโบซ์บาตงและเดิร์มสแตรงก์ก็มีค่ะ แต่ทุกครั้งที่พี่เดรโกเค้าจะมาเจอพี่เฮอร์ไมโอนี่ เค้าก็จะให้พี่แครบ พี่กอยล์กันพวก 'เดรโกแฟนคลับ' ไว้ก่อน" อแมนด้าพูด เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ได้ฟังดังนั้นแล้วเธอก็รู้สึกขำๆ เหมือนกัน

    "ไม่น่าเชื่อเนอะ" เธอพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะจางๆ แล้วมองมัลฟอยที่ยังสะบัดกลุ่มสาวๆ ออกไปไม่ได้

    "พี่เชื่อไหมค่ะ พี่เดรโกได้จดหมายรักวันล่ะ 3 ฉบับเป็นอย่างต่ำ" อแมนด้าพูดเหมือนเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลก

    "จริงเหรอถึงว่านกฮูกไปรษณีย์มาส่งจดหมายให้ทุกวันไม่มีขาดเลย" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างทึ่งๆ พลางนึกไม่ชอบพวกแฟนคลับนั่นแล้วสิ

    "หนูไม่ชอบพวกแฟนคลับนี่เลย น่ารำคาญมาก" อแมนด้าพูดเสียงขุ่น

    "ทำไมล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถาม พลางรีดกระโปรงให้เรียบ

    "ชอบกันไม่ให้หนูไปคุยกับพี่เดรโกน่ะสิ หนูคุยกับพี่เดรโกได้เฉพาะเวลาทานอาหาร แล้วก็เวลาช่วงพักระหว่างเรียนนิดเดียวแค่นั้น…" เด็กหญิงพูดอย่างเซ็งๆ "ส่วนมากเรื่องที่คุยก็เรื่องที่พี่เฮอร์ไมโอนี่งอนพี่เค้าน่ะค่ะ" เธอพูดแล้วปลายตามองเฮอร์ไมโอนี่ ที่หลบสายตาโดยอัตโนมัติ

    "อืม" เธอรับคำ แล้วจิบน้ำพั้นซ์ซึ่งตอนนี้หมดแก้วแล้ว เธอจึงวางแก้วลง และมองออกไปนอกหน้าต่างห้องโถงอีกครั้ง คราวนี้ทั้งมัลฟอยและกลุ่มแฟนคลับหายกันไปหมดแล้ว เธอจึงหันกลับมา และตอนนี้กำลังมีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเรียงกันเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งรับรู้ได้ถึงสัญญาณไม่ดีได้ทันที

    "พี่ขอไปเดินเล่นหน่อยนะ อแมนด้า" เธอพูดแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปจากห้องโถงทันที

    "ค่ะๆ" อแมนด้าพูดไล่หลังเฮอร์ไมโอนี่ไป แล้วมองกลุ่มเด็กผู้ชายพวกนั้น ที่ตาละห้อยตามเฮอร์ไมโอนี่ไป

    …+*+*+…

        เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาจนถึงสวนหย่อมเล็กๆ ที่มีม้านั่งเรียงรายกันอยู่มากมาย ม้านั่งแต่ละตัวนั้นประดับตกแต่งด้วยละอองสีเขียวและสีแดงระยิบระยับ เฮอร์ไมโอนี่จึงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ซึ่งเมื่อทิ้งตัวนั่งลงไป เก้าอี้นั้นเยียบเยียบราวกับว่าทำมากจากน้ำแข็ง เด็กหญิงนั่งกอดอกเพื่อบรรเทาความหนาว เธอมองไปรอบๆ แล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า คืนนี้ดวงดาวเต็มท้องฟ้าสีนิล บรรยากาศช่างเหมือนค่ำคืนของคริสมาสต์ปีที่แล้วจริงๆ คืนนั้นเธอมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต เป็นความสุขที่แตกต่างจากการที่ได้เจอพ่อแม่ในช่วงปิดเทอม หรือเป็นที่หนึ่งของชั้นปี แต่เป็นความสุขที่สุดแสนจะพรรณนา ซึ่งบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

    แต่ในคืนนี้ถึงดวงดาวจะสวยพราวระยิบระยับเพียงใด ความสุขที่เธอเคยมีนั้น ได้ละลายหายไปพร้อมกับเด็กชายผู้ซึ่งเคยมอบความสุขนั้นให้กับเธอเมื่อคืนวันนั้น เพราะ ตอนนี้เค้ากำลังโกรธเธออยู่ (ถึงแม้เธอจะรู้ว่า เค้าแค่ทำเพื่อประชดประชันเธอเท่านั้น) และดูเหมือนจะไม่มีทางจางหายไปง่ายๆ เธอรู้สึกไม่ดีเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงคนรอบข้างเธอจะเห็นเธอเป็นคนที่เข้มแข็ง ร่าเริง สดใสอยู่เสมอ แต่แท้จริงแล้ว เธอเป็นคนที่อ่อนโยน และอ่อนแอมากคนหนึ่ง

    เธอนั่งคิดเรื่องของเธอและมัลฟอย กลับไปกลับมา คิดถึงตอนเค้ามอบแหวน และสร้อยให้เธอ คิดถึงตอนที่เธอนอนซบอกของเขาบนหาดทราย นึกถึงตอนที่เขายิ้มกวนประสาทยั่วเธอ คิดถึงตอนที่เค้ากลับมาจากอุบัติเหตุคราวนั้นที่แทบทำเธอล้มป่วย นึกถึงตอนที่เค้าขโมย 'First Kiss' ของเธอไป 'ทำไมนิสัยของตานั่น ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้น้า' เธอครุ่นคิด 'ตานี่เป็นโรคแพ้หยาดน้ำตาด้วยสิ' เธอคิดแล้วยิ้มออกมา เพราะ ทุกครั้งที่เธอร้องไห้ เค้าจะต้องแสดงอาการตกใจและร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด และน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่เป็นเหตุที่ทำให้มัลฟอยได้สนิทสนมและมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอ (อ่านสาเหตุได้ใน ตอน : การเริ่มต้น) แต่แล้วความคิดของเธอก็ต้องหยุด เพราะ เสียงฝีเท้าเหยียบย้ำมาบนพื้นหิมะ เดินมาทางเธอ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง เจ้าของเสียงฝีเท้าที่ตอนนี้มายืนอยู่ข้างหน้าเธอแล้ว



    + - บทที่ 3 - +

    "สวัสดี มิสเตอร์เดรโก มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่ทักอย่างเต็มยศแกมประชดประชัน แล้วฉีกยิ้มให้กับเขา

    "สวัสดี ยัยเลือดสีโคลน" มัลฟอยพูดด้วยเสียงเย็นชา แต่ดวงตาสีซีดที่มองมาที่เธอนั้นกลับดูอบอุ่นอ่อนโยน

    "มาทำอะไรที่นี่ล่ะค่ะ คุณเลือดบริสุทธิ์" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่ใส่ใจ เพราะ เธอไม่สนคำว่า 'เลือดสีโคลน' อีกแล้ว เพราะ มัลฟอยใช้เรียกเธอบ่อยเหลือเกิน จนเธอชิน

    "เธอไม่จำเป็นต้องรู้" เขาพูด "แล้วเจ้าหัวแผลเป็นพอตเตอร์ แล้วก็เจ้าครัมหลังค่อมหล่ะ ไม่ได้มานั่งด้วยกันเหรอ" เด็กชายด้วยน้ำเสียงเดียดฉัน เฮอร์ไมโอนี่อ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับว่า

    "อ้าว!! แล้วพาร์กินสันสุดที่รักของนายล่ะ" เธอตอกกลับบ้าง

    "ทำไมเธอพูดอย่างนั้น" มัลฟอยถามด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น และส่งสายตาคมกริบมาให้เธอ ซึ่งเธอก็พึ่งรู้ว่าพูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูดออกไปแล้ว

    "กะ...ก็นายอยากพูดกับชั้นก่อนหนิ" เธอเลือกคำตอบที่เหมาะกับสถานการณ์นี้ที่สุด แต่เธอก็เลือกผิดอย่างมาก

    "ชั้นถามถึงเจ้าพอตเตอร์กับครัม แต่ไม่ได้พูดว่า 'พอตเตอร์และครัมที่รักของเธอ' หนิ" เขากัดฟันพูด แล้วส่งสายตาที่ถ้าเฮอร์ไมโอนี่อ่านไม่ผิดก็คือ 'เจ็บมากนะ เกรนเจอร์' ซึ่งเธอก็ไม่ได้อ่านผิดเลยแม้แต่น้อย

    "ชั้น...ขอโทษ...ล่ะกัน" เธอพูดอย่างยากลำบาก และเริ่มมีน้ำตาปริ่มที่ขอบตา

    "อย่ามาทำเป็นพูดเลย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังเย็นชาเหมือนเดิม น้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ไหลพรั่งพรูออกมาทันที

    "ธะ...เธอร้องไห้ อีกแล้วเหรอ!?" เขาถามอย่างตกใจอย่างไม่ได้ปิดบังเลยแม้แต่น้อย ท่าทางเขาดูอ่อนลงทันที

    "เปล่า" เธอปฏิเสธ ทั้งๆ ที่น้ำตาไหลออกมาเป็นสายอย่างเปิดเผย

    "อย่าร้องไห้น่ะ เกรนเจอร์" เขาพูด อย่างหมดหนทาง "ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ" เด็กชายเสริม

    "ทำสิ...ทำไมจะไม่ได้ทำ" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสั่น

    "ทำอะไร" มัลฟอยถามอย่างสงสัย

    "ทำร้ายจิตใจชั้น" เธอพูดตามตรงกับเด็กชาย ที่ตอนนี้เริ่มตัวชาไปทั้งตัวแล้ว

    "ชั้นต่างหากมั้ง? ที่ต้องเป็นฝ่ายพูดประโยคนั้นน่ะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่กลบเกลื่อนความรู้สึกผิดเอาไว้

    "งั้นเหรอ ทำไมล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงสูง และใช้หลังมือปาดน้ำตา

    "เธอน่าจะรู้เหตุผลดี" เขาพูด แล้วนั่งลงบนม้านั่งตัวเดียวกับเด็กหญิง

    "นายเชื่อข่าวโง่ๆ ของยัยริต้า สกีตเตอร์นั่นด้วยเหรอ" เธอหันไปตอบอย่างเหลืออด จนทำให้น้ำตาของเธอร่วงรินลงมานับสิบหยด

    "ถึงชั้นไม่เชื่อ การกระทำของเธอมันก็ฟ้อง" เขาพูดด้วยเสียงที่แทบจะเรียกได้ว่าตะโกน

    "ชั้นเป็นเพื่อนกับแฮร์รี่ ไม่ใช่สิ เพื่อนสนิทด้วย แล้วตอนนั้นรอนโกรธแฮร์รี่ นายจะให้ชั้นทำยังไง นิ่งดูดาย ทำเป็นไม่สนใจใยดีเค้างั้นเหรอ ถ้านายคิดอย่างนั้นล่ะก็ นายก็เป็นมนุษยที่ไร้หัวใจคนนึงในโลกเลยล่ะ" เธอบอกกับเค้า แล้วซบหน้าลงกับฝ่ามือ มัลฟอยอึ้งไปทันที เค้าลืมคิดไปเสียสนิทว่า แฮร์รี่ และเฮอร์ไมโอนี่เป็นเพื่อนรักกัน (รวมถึงรอนด้วย) ก็ต้องอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นธรรมดา แล้วยิ่งตอนนั้นรอนโกรธแฮร์รี่อีก พวกเขาจึงต้องอยู่ด้วยกันและทำสิ่งต่างๆ ร่วมกันมากกว่าปกติ ถึงตอนนี้เค้าจะคิดได้ แต่เค้าก็ไม่รู้จะขอโทษเธออย่างไร เขาเหลือบมองเด็กหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ และก็เห็นเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขาออกมา และยื่นให้เธอ

    "เช็ดน้ำตาซะ" เขากระซิบ เธอเงยหน้าขึ้นมา และรับผ้าเช็ดหน้าของเขาอย่างไม่ปฏิเสธ

    "ขอบใจ" เธอพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา และเริ่มเช็ดน้ำตา ที่ไหลออกมายิ่งกว่าสายฝน

    "ชุดเธอสวยดีนะ" เขาชมเธอด้วยความจริงใจ

    "อ้อ...ขอบคุณ...นายก็ดู...ดีกว่าเดิม...นะ" เธอพูดด้วยเสียงที่ขาดเป็นห้วงๆ จากการร้องไห้

    "เออ...ต้องดูดีกว่าเดิมสิ ถ้าดูแย่กว่าเดิมก็แย่น่ะสิ" เขาพูด แล้วรู้สึกตลกกับคำพูดของตัวเอง

    "ชั้นไม่เห็นนายเต้นรำเลย วันนี้" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างชวนคุย แต่ที่จริงแล้วเธอเห็นเขาเต้นกับนักเรียนหญิงเป็นแถวๆ ไม่ซ้ำหน้ากันเลย ตอนนี้น้ำตาของเธอหยุดไหลแล้ว เธอจึงส่งผ้าเช็ดหน้าคืนให้เขา

    "เธอคงไม่ทันสังเกตน่ะสิ อ้อ...ชั้นลืมไปว่าเธอต้องเต้นกับนักเรียนชายที่ต่อคิวเรียงกันมาเป็นแถว แล้วนี่เป็นคู่เต้นจนครบทั้งโรงเรียนรึยังล่ะ" เขาพูดอย่างประชดประชัน อันที่จริงแล้ว เขาก็เต้นรำกับนักเรียนหญิงหลายคนได้ไม่น้อยไปกว่าเธอเลย

    "ยังไม่ครบหรอก ขาดนายอีกคนนึงน่ะ" เธอตอบน้ำเสียงประชดไม่แพ้กัน "ว่าแต่นายเถอะ เต้นกับนักเรียนหญิงครบทั้งโรงเรียนรึยังล่ะ" เด็กหญิงถามบ้าง พลางจ้องหน้าเขา

    "ก็ยังไม่ครบหรอก ขาดแต่เธออีกคนเดียว" เขาพูดกวนๆ

    "ไม่น่าเชื่อนะ คนอย่างนายนี่ ก็มีแฟนคลับกับเขาเหมือนกัน" เธอพูดอย่างขำๆ เมื่อนึกถึง 'เดรโกแฟนคลับ'

    "ทำหยั่งกับชั้นอยากมีนักน่ะ น่ารำคาญจะตาย" เขาบอก แล้วทำหน้าเซ็งๆ

    "แล้วมีมานานรึยังล่ะเนี่ย" เธอถาม 'ไม่มีเรื่องดีๆ กว่านี้จะคุยแล้วหรอเนี่ย' เด็กหญิงคิดในใจ

    "ไปถามยัยพาร์กินสันดูสิ" เด็กชายพูด แล้วมองเธอที่กำลังจ้องหน้าเขาเพลิน

    "ชั้นไม่ชอบพวกแฟนคลับนั่นเลย" เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แล้วถอนสายตาออกมาจากเขา

    "ทำไมล่ะ..." เขาถาม แล้วแสยะยิ้ม

    "เปล่าๆ ชั้นแค่...ไม่ชอบน่ะ" เธอตอบ และหันหน้าไปทางอื่น

    "อ๋อ...ชั้นนึกว่าเธอหึงซะอีก" เขาพูดอย่างผิดหวังนิดๆ พลางยักไหล่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

    "บ้าเหรอ ใครจะไปหึงนายล่ะ"  เธอพูด พร้อมกับหน้าอันแดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศ

    "นั่นสินะ...ดาวสวยเนอะ" เขาคราง เฮอร์ไมโอนี่จึงเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าบ้าง

    "อืม...สวยมากเลยล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบรับ ตอนนี้ความสุขที่เธอไม่เคยมีมานานได้วนเวียนกลับมาหาเธออีกครั้ง โดยเด็กชายผู้เคยทั้งทำลายและมอบความสุขนี้ให้แก่เธอ

    "ปีนี้ชั้นไม่มีของขวัญคริสมาสต์ให้เธอนะ ยัยหัวฟู"  มัลฟอยบอก พลางหันมาหาเด็กหญิงที่หันมาสบตากับเขาเช่นกัน

    "ใครว่าล่ะ เธอพึ่งให้ของขวัญชิ้นใหญ่ให้ชั้นเมื่อกี้นี้เอง ลืมไปแล้วหรือ" เฮอร์ไมโอนี่ถาม แล้วยิ้มให้เขา ซึ่งเป็นรอยยิ้มแรกในรอบสองเดือน ที่เธอยิ้มด้วยความสุขอย่างแท้จริง

    "งั้นเหรอ" มัลฟอยพูดอย่างงุนงง พลางครุ่นคิดว่าให้อะไรกับเธอไป

    "มันเป็นของขวัญที่วิเศษสุดจริงๆ นะ เป็นของขวัญที่ชั้นไม่ค่อยได้รับจากใคร และเป็นของขวัญที่ตามองไม่เห็น" เธอพูด ทำให้มัลฟอยพอเข้าใจบ้าง แต่เขาต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากปากเด็กหญิงมากกว่า

    "เอ่อ...ที่เธอหมายถึงคือ..." มัลฟอยเว้นช่วงเพื่อให้เธอตอบ

    "มันคือ ความสุขยังไงล่ะ" เธอต่อประโยคของเขา "ความสุขที่ชั้นไม่เคยได้รับจากใคร นอกจากนาย มันเป็นความสุขที่แตกต่าง จากความสุขอย่างอื่น ชั้นก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่ชั้นบอกได้เพียงว่า ตั้งแต่มีนายมาอยู่เคียงข้างชั้น ชั้นก็รู้สึกมีความสุขอย่างแปลกประหลาด แต่นายรู้ไหม ตอนที่นายโกรธชั้นตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ความสุขนั้นมันก็ละลายหายไปในพริบตา..." เธอพูด แล้วหลับตาลงช้าๆ เพื่อกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เด็กชายไม่พูดอะไรต่อ เค้าได้แต่นั่งนิ่ง 'ความรู้สึกของเด็กผู้หญิงนี่ละเอียดอ่อนจริงๆ' เขาคิด แล้วหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่

    "ตลอดเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ใช่ว่าชั้นจะมีความสุขนะ เกรนเจอร์ ชั้นเองก็รู้สึกผิด แต่ชั้นก็ไม่แน่ใจความรู้สึกตัวเองนะที่มีต่อเธอ ชั้นไม่รู้ว่าทำไมชั้นถึงโกรธขนาดนั้น ตอนที่อ่านข่าวของเธอกับพอตเตอร์ ในเดลี่พรอเฟ็ต ถึงชั้นจะรู้ว่ามันเป็นข่าวที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ แต่ข่าวนั่นมันก็ทำให้ชั้นหัวเสียมาก..."  เขาโพล่งออกมาอย่างที่เด็กหญิงไม่ทันตั้งตัว

    "ชั้นรู้ เรอคลอฟ เอ้ย!!! ฟอสเตอร์ เล่าให้ชั้นฟังแล้ว" เธอบอกเขา

    "งั้นเหรอ" เขาตอบรับ "เออ...ไอ้เรอคลอฟ มันเอาหนังสือพืชน้ำหายากไปนะ" อยู่ดีๆ เขาก็ร้องขึ้นมาอย่างพึ่งนึกออก

    "ชั้นรู้แล้ว ฟอสเตอร์บอกแล้วล่ะ" เธอบอกเขา

    "อืม...งั้นเธอคงรู้เรื่องใบไม้คริสตัลแล้วใช่มั๊ย" มัลฟอยถาม แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัว

    "ชั้นนึกว่ามันบอกเธอแล้วซะอีก...คือ ใบไม้คริสตัลนั่นน่ะ ไม่มีอะไรเลย เป็นแค่ใบไม้ที่ทำมาจากคริสตัล ธรรมดาๆ บางทีมันอาจจะมีอำนาจอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ก็ได้ และเราอาจจะใช้มันเพื่อแลกกับขนตาของชาวเงือกได้ เพราะ มันเป็นของที่สูงค่า ตามที่พวกชาวเงือกกำหนด"  เขาถาม และเฮอร์ไมโอนี่ก็พยักหน้าช้าๆ

    "แต่ว่า มันต้อง...หล่อหลอมจากความรัก หรือเจียรไนจากความภักดี ไม่ใช่เหรอ" เด็กหญิงถาม พลางเลิกคิ้วสูง

    "ชั้นบอกแล้วไงว่า หนังสือมันเวอร์ไปงั้นแหละ ไม่งั้นก็ไม่มีคนอ่านมันหรอก"  มัลฟอยพูดอย่างรำคาญ

    "อืม...ชั้นก็แค่ถามดู" เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจ

    "ก็เหลือแต่ไอ้น้ำตาเซ็นทอร์บ้าบอนั่นใช่ไหม" เด็กชายพูดอย่างเป็นการเป็นงาน

    "ใช่...ชั้นก็ไม่รู้ว่า มันหายังไงด้วย" เด็กหญิงพูดอย่างกลัดกลุ้ม

    "เราคงต้องไปตบเซ็นทอร์นั่นให้ร้องไห้มั้ง" เขาพูดอย่างอับจน

    "บ้าแล้ว...ลองไปถามสเนปดูสิ" เธอลองเสนอ

    "ไม่เอาอ่ะ...ชั้นขี้เกียจจะเสวนาด้วย" เขาพูด พลางทำหน้าแหยๆ

    "อ้าว!! ชั้นนึกว่านายชอบสเนปซะอีก"  เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างแปลกใจ

    "ก็เคยชอบนั่นแหละ แต่พอเขาอนุญาตให้ฟิลช์กักบริเวณชั้นกับเธอ ชั้นก็เลิกชอบเลย" เขาพูด เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้งทันที

    "กักบริเวณกับชั้น แล้วทำไมย่ะ" เธอพูดอย่างหาเรื่อง

    "เปล่าๆ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ชั้นหมายความว่า เจ้านั่นยอมอนุญาตได้ยังไง ทั้งๆ ที่ชั้นก็อยู่บ้านเค้าแท้ๆ" เขาพูดแก้ตัว

    "ก็เค้ามีความยุติธรรมน่ะสิ" เฮอร์ไมโอนี่พูดเข้าข้างอาจารย์ที่เธอชอบน้อยที่สุด

    "เอาเถอะๆ ถ้าขืนพูดกันต่อ เราต้องทะเลาะกันอีกรอบแน่ๆ" เขาพูด แล้วลุกขึ้นยืน

    "จะไปไหนล่ะ"  เฮอร์ไมโอนี่ถาม พลางลุกขึ้นบ้าง

    "เข้าไปในงานกัน" เขาชวน แล้วยื่นแขนในเด็กหญิงควง ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะควงแขนของเขา (เริ่มเปิดเผยมากไปแล้วนะ) เด็กชายจึงพาเธอเดินออกไปจากสวนหย่อมที่หนาวเหน็บ และมุ่งหน้าไปยังปราสาททันที



    + - บทที่ 4 - +

    "เอ่อ...เกรนเจอร์ ให้เกียรติเต้นรำกับชั้นซักเพลงได้มั๊ย" เขาหยุดเดิน แล้วหันมาถามเธอ และโค้งให้เธอเล็กน้อย (อุ้ย!!! สุภาพเชียว) เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องโถง

    "เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ" เธอพูด ทั้งๆ ที่อยากจะลงไปนอนขำอยู่บนพื้น เขายื่นแขนให้เธอควงอีกครั้ง และเธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะควงเขาอีกเช่นกัน เขาพาเธอเดินเข้าไปในห้องโถง

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด" เสียงกรีดร้องเหมือนเสียงหญิงสาวแบนชีดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่รู้ได้ทันที ว่าคือ แพนซี่ พาร์กินสันแน่นอน นั่นเป็นเสียงที่ทำให้ผู้คนต่างหันมามองพวกเขาทั้งคู่ อย่างสนใจมาก โดยเฉพาะ เดรโกแฟนคลับ และเด็กนักเรียนชายแทบจะทั้งห้องโถงไม่เว้นแต่บรรดาอาจารย์ก็ยังหันมามองพวกเขา เฮอร์ไมโอนี่มองเห็น แฮร์รี่ รอน จินนี่ อแมนด้า เรอคลอฟ มารีนในร่างจินนี่และจินนี่ในร่างมารีน นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน ซึ่งก็หันมามองพวกเขาเช่นกันกับคนอื่นๆ ทุกคนในโต๊ะไม่มีท่าทางตกใจเลยแม้แต่น้อยที่พวกเขาเดินมาด้วยกัน แต่กลับมีถ้าทีตื่นเต้นโดยเฉพาะจินนี่ในร่างมารีนและอแมนด้า แต่มารีนในร่างจินนี่นั้นถึงเธอจะไม่ไม่อยากจะให้เฮอร์ไมโอนี่สนิทสนมกับมัลฟอยเท่าไหร่ เธอก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจ หรือรังเกียจใดๆ ออกมา

    ...+*+*+...

    ทั้งสองมองเห็นแพนซี่กำลังถูก 'เดรโกแฟนคลับ' ฉุดแขนไว้ไม่ให้มาอาละวาด ซึ่งเหล่าแฟนคลับนั้น บางคนกำลังปิดหน้าปิดตาอย่างรับไม่ได้ บางคนกำลังสบถคำหยาบคาย  แต่เธอก็ไม่ค่อยสนใจ ในที่สุดก็มาถึงกลางฟลอร์ มีนักเรียนชายหญิงหลายคู่เต้นรำกันอยู่ แต่สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่คู่ของมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่อย่างทึ่งๆ ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะขยับขาตามจังหวะดนตรี ก็มีละอองระยิบระยับสีเงินและสีทองปรากฏขึ้นมารอบข้างพวกเขา บรรดาอาจารย์ที่นั่งรวมอยู่ที่โต๊ะเดียวกันก็ปรบมือให้คู่ของเขาเสียงดังสนั่น เพลงบรรเลงหยุดไปทันที ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้น และกระแอมเบาๆ



    "ฟลอร์เต้นรำนี้ถูกเสกคาถาให้เลือกคู่เต้นรำที่น่าทึ่งและเหมาะสมกันมากที่สุด โดยฟลอร์จะเลือกโดยการ สร้างละอองสีทองและสีเงินปรากฏขึ้นล้อมรอบตัวคู่เต้นรำนั้น...และคนคู่นั้นจะได้ 120 คะแนนให้แก่บ้านของตนเอง....ซึ่งก็คือเธอทั้งสองคน มิสเกรนเจอร์และมิสเตอร์มัลฟอย" เกิดเสียงร้องด้วยความดีใจขึ้น แต่ก็ต้องเงียบลงอีกครั้ง เพราะ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ต้องการจะพูดต่อ "และนี่ถือเป็นปรากฏการครั้งใหม่ ในรอบศตวรรษ..." ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์พูด สายตานักเรียนจับจ้องไปทางเขาทันที "ที่นักเรียนจากบ้านกริฟฟินดอร์และสลิธีริน เต้นรำคู่กัน ซึ่งไม่เคยเกิดมานับสิบนับร้อยปี..." เขาเว้นช่วง เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยต่างหน้าแดงเหมือนยามที่ดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน นักเรียนหลายคนปรบมือ หลายคนทำหน้าเหยเก หลายคนนั้นทำหน้าทึ่งจัด "หรือจะเรียกได้ว่า ครั้งแรกในโลกเลยก็ได้ (ไม่น่าเชื่อ!!!)  เพราะ ตั้งแต่มีงานเลี้ยงเต้นรำนี้ ไม่เคยมีนักเรียนสองบ้านนี้เต้นรำกันหรือเดินควงกันเข้ามาในงานเช่นนี้มาก่อน..." เขาเว้นช่วงและกระแอมอีกครั้ง  "ดังนั้นขอมอบคะแนนพิเศษ 50 คะแนนให้กับ มิสเกรนเจอร์และมิสเตอร์มัลฟอย ที่สร้างจุดเริ่มต้นของสัมพันธภาพ มิตรภาพและความสามัคคี ระหว่างทั้งสองบ้าน" เมื่อดัมเบิลดอร์พูดจบ เขาก็นั่งลง

    ...+*+*+...

    นักเรียนทั้งสี่บ้านโห่ร้อนกันเสียงดัง แม้แต่ฮัฟเฟิลพัฟ และเรเวนคลอยังร่วมยินดีไปด้วย ศาสตราจารย์มักกอนนากัลลุกขึ้นยืน แล้วปรบมือเสียงดัง สเนปนั่งทำหน้าขรึมๆ แต่ก็มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเขาบ้าง กลุ่มของแฮร์รี่ที่นั่งอยู่ทีโต๊ะนั้น กระโดดเหยงๆ ด้วยความดีใจ เฟร็ดกับจอร์จ วีสลี่ย์ กระโดดกอดกัน และนักเรียนจากโบซ์บาตงและเดิร์มสแตรงก์ ปรบมือกันเสียงดังสนั่น จนห้องโถงทั้งห้องแทบจะพังลงมา แต่มีนักเรียนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ดีใจเลยที่บ้านได้คะแนน คือ กลุ่มเดรโกแฟนคลับ ของบ้านสลิธีริน ที่กำลังยืนทำหน้าบึ้ง และพึมพำอะไรบางอย่างอยู่ มัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่ยืนมองหน้ากันอย่างตื่นเต้น ขณะนี้เหลือแต่คู่ของเขาเท่านั้น เพราะ คู่อื่นๆ เดินออกไปจากฟลอร์หมดแล้ว



    "ดีใจด้วยนะ มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่พูดฝ่าเสียงโห่ร้องอย่างดีใจจากนักเรียนและอาจารย์ทั้งห้องโถง

    "เช่นกัน ยัยหัวฟู" เขาพูด และแตะไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่เบาๆ และเหลือบเห็นสร้อยคอที่ห้อยอยู่ที่คอของเด็กหญิง

    "เธอใส่มันตลอดเลยเหรอ" เขาถามพลางมองไปที่สร้อยทองคำขาวที่มีจี้เป็นแหวนคริสตัลรูปดาว

    "อืม...จะถอดทำไมล่ะ" เธอพูดแล้วยิ้มให้เขา

    "สัญญากับชั้นนะ ว่าเธอจะไม่ถอดมันออก" เขาพูดอย่างเอาจริงเอาจัง

    "สัญญาก็ได้ แต่นายก็ต้องสัญญากับชั้นเหมือนกัน" เธอพูดบ้าง

    "เรื่องอะไร" เขาถาม

    "นายจะไม่โกรธชั้นอีก"  เธอพูดแล้ว ยื่นนิ้วก้อยมาให้เขา

    "ได้สิ  ยัยหัวฟู" เขาพูด แล้วยื่นนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวก้อยกับเธอ

    "ไม่น่าเชื่อเนอะ ว่าเราจะเป็นคู่แรก" เธอพูดเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

    "คู่แรกในโลก เฮอะ!!! ชั้นว่าดัมเบิลดอร์ต้องเวอร์แน่" เขาพูด ทั้งๆ ที่เขาก็เชื่อคำพูดของศาสตราจารย์ดัมเบิ

    ลดอร์มาก

    "ช่างเถอะ...ว่าแต่ เราจะเต้นรำกันไหม" เฮอร์ไมโอนี่ถาม แล้วมองไปรอบๆ ฟลอร์ซึ่งตอนนี้มีแต่คู่ของพวกเขาเพียงคู่เดียวเท่านั้น ฟลอร์เต้นรำที่แต่ก่อนมีไฟสว่างไสว กลับมืดสลัวลง ตอนนี้ไม่ใช่แค่ร่างกายพวกเขาเท่านั้นที่มีละอองสีเงินและสีทองล้อมรอบ แต่บนฟลอร์มีละอองระยิบระยับสีทองและเงินอยู่บนพื้นด้วย ทำให้ตรงกลางฟลอร์ดูเด่นขึ้น และสร้างความอัศจรรย์เป็นอย่างมาก

    "แล้วแต่เธอล่ะกัน" มัลฟอยตอบอย่างปัดๆ ตอนนี้เสียงเฮเมื่อครู่นี้จางหายไปแล้ว ห้องโถงกลับอยู่ในความเงียบ สายตาทุกคู่จ้องมาที่พวกเขาอย่างจดจ่อ

    "เอ่อ...เต้นเถอะ ไม่งั้นเราโดนสะกำแน่ แล้วแถมอาจจะถูกลดคะแนนที่ได้เมื่อกี๊อีกนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างมีเหตุผล

    "เฮ้อ!!! เอาก็เอา"  มัลฟอยถอนหายใจยาวๆ และเดินเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น

    ...+*+*+...

    เขาโค้งให้เฮอร์ไมโอนี่เล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่เลิกชายกระโปรงขึ้นและย่อเข่าเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นมัลฟอยก็เอามือของเขาโอบรอบเอวของเด็กหญิงที่ตอนนี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ถึงแม้เธอจะเคยอยู่ใกล้ชิดกับเขามากกว่านี้มาก่อน แต่ก็ไม่เคยที่จะมีใครเห็น เธอจึงอดตื่นเต้นไม่ได้ และมัลฟอยก็คว้ามือของเธออีกข้างหนึ่งมากุมไว้ ทั้งสองประสานสายตากันอยู่ครู่หนึ่ง แล้ววง 'เดอะเวียร์ดซิสเตอร์ส' ก็เริ่มบรรเลงเพลงอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเพลง Beauty And The Beast  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่รู้จักดี มัลฟอยยิ้มให้เธอก่อนจะขยับเท้าตามเสียงเพลง



    "ชั้นไม่ชอบเพลงนี้เอาซะเลย มันทำให้ชั้นเหมือนอสูรในนิทานเลย" มัลฟอยบ่นเบาๆ ให้เฮอร์ไมโอนี่ฟัง

    "ชั้นไม่ยักรู้ ว่าเธอฟังนิทานของมักเกิ้ลด้วย" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างแปลกใจ

    "โลกเวทย์มนต์เค้าก็มีนิทานเรื่องนี้เหมือนกัน ยัยเลือดสีโคลน" เขากระซิบบอก

    "งั้นหรือย่ะ ยัยเลือดบริสุทธิ์" เธอกระซิบตอบอย่างกวนๆ

    "เอาเหอะๆ" เขาพูด แล้วเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ตัวซึ่งตอนนี้สายตาทุกคู่ที่ยังไม่วางตาเลย

    "มัลฟอย...ชั้นกลัวว่า...ชั้นจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้เช้าน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่บอก แล้วเหลือบมองไปที่แพนซี่และกลุ่มเดรโกแฟนคลับ ที่ยังบ่นอะไรพึมพำอยู่และจ้องเธออย่างไม่วางตา

    "ถ้าเธอกลัว...วันนี้ก็ไปนอนที่ห้องชั้นสิ" เขาพูดอย่างทะเล้น เฮอร์ไมโอนี่จึงแกล้งเหยียบเท้าเขาอย่างตั้งใจ

    "โอ้ย!! เจ็บนะ" มัลฟอยร้อง "สองครั้งแล้วนะ อย่าให้ชั้นเอาคืนนะ" เขากัดฟันพูด เฮอร์ไมโอนี่จึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างท้าทาย

    "นายจะเหยียบเท้าชั้นคืนเหรอ" เธอพูด แล้วแกล้งทำหน้าหวาดกลัวอย่างทะเล้นสุดๆ พลางก้าวเท้าตามจังหวะ

    "ยิ่งกว่านั้นอีก" มัลฟอยพูดและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พลางดึงเธอเข้ามาใกล้อีก "ชั้นจะจูบเธอกล้าฟลอร์เต้นรำเนี่ย จะมีใครว่ามั๊ยน้า" เขาพูด อย่างกวนอารมณ์สุดๆ

    "มีแน่...ว่าแต่นายกล้ารึเปล่าเถอะ" เฮอร์ไมโอนี่ท้าทาย ทั้งๆ ที่เธอภาวนาขออย่าให้เค้าทำตามที่เค้าพูดเลย

    "ถ้าชั้นบอกว่ากล้าล่ะ" เขาพูด แล้วหลิ่วตาให้เธอที่หน้าเสียทันที

    "อาจารย์อยู่เต็มเลยนะ นักเรียนก็ตั้งมาก แถมยังจ้องมาที่เราอีกนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วเงยหน้ามองคนรอบๆ ข้าง ซึ่งตอนนี้ถอนสายตาออกไปจากพวกเขาแล้ว เพราะ มีนักเรียนคู่อื่นมาร่วมเต้นรำด้วย โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ว่าพวกนี้มาเต้นด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่

    "ไม่เห็นมีใครจ้องเราเลย" มัลฟอยพูด แล้วจ้องหน้าเฮอร์ไมโอนี่ที่พยามหลบสายตา "จูบซักที คงไม่มีใครสังเกตหรอกมั้ง" เขาพูด แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้เด็กหญิง ตอนนี้ขาของพวกเขาเต้นตามจังหวะเพลงโดยอัตโนมัติ (เพราะ ชินจากการเต้นมานับสามสิบเพลง)  

    "มะ...มัลฟอย เฮ้ย!!! อย่าสิ..." เฮอร์ไมโอนี่ร้อง ขณะที่มัลฟอยโอบเอวเธอแน่นขึ้น

    "ครั้งเดียวน่า...เธอทำกับชั้นไว้ตั้งเยอะนะ แถมเธอยังสัญญากับชั้นไว้ตอนนั้น อีกว่าจะตอบแทนชั้นที่เอาหนังสือ 'พืชน้ำหายาก' ให้ โดยการจูบหนึ่งที" เขาทวงสัญญา

    "ชั้นไปสัญญากับนายไว้ตอนไหน" เธอถาม อย่างสงสัย

    "ในห้องสมุด ตอนนี้เราพบข้อมูลขนตาชาวเงือก แล้วเธอก็ไม่รู้ตัวเลยว่า สัญญาอะไรกับชั้น" มัลฟอยพูด และยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

    "ติดไว้ก่อนนะ มัลฟอย กลางฟลอร์เต้นรำนี่มัน...ไม่ดีเลยนะ" เธออ้อนวอน

    "ก็ได้ๆ..." เขาบอก "เธอไม่เคยเบี้ยวอยู่แล้วหนิ ใช่ไหม" เขาเสริม และเต้นต่อไป จากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเมื่อยขามาก แต่เธอก็ต้องทนเต้นต่อจนจบเพลง และในที่สุด...



    + - บทที่ 5 - +

    "จบซะทีนะ" เด็กหญิงพูด และเดินออกมาจากฟลอร์ ตอนนี้ยังมีละอองสีเงินและทองล้อมรอบตัวพวกเขาอยู่เช่นเดิม

    "เมื่อยเป็นบ้า" มัลฟอยบ่น และนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด

    "เออ...นั่นสิ ขาชั้นนะ มันจะล้มลงไปให้ได้เลย" เธอบ่นบ้าง แล้วทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เขา

    "ถ้านับๆ ดูนะ ชั้นเต้นรำวันนี้ไป ราวๆ ซัก เกือบสี่สิบเพลงได้มั้ง" เด็กชายพูด พลางก้มลงนวดขาตัวเอง

    "โอ้ย!!!" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง "ปวดขา" เธอร้องเสียงเหมือนเด็กเล็กๆ แล้วนวดขาตัวเอง

    "ทำเป็นเด็กไปได้" เขาบ่น

    "อ้าว!! ก็มันปวดหนิ" เธอพูด "ออกไปข้างนอกกันดีกว่าไหม มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่เสนอ เมื่อมีนักเรียนชายและหญิงสี่ห้าคน เดินอย่างรีบเร่งมาทางพวกเขา

    "ไปสิ ชั้นก็ไม่อยากอยู่ในนี้เหมือนกัน" เขาพูด แล้วดึงเฮอร์ไมโอนี่ออกไปทันที

    ...+*+*+...

    "กี่โมงแล้วล่ะ มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่ถาม ขณะที่พวกเขาเดินเรียบๆ เคียงๆ กันไปที่ริมชายป่าต้องห้าม และละอองสีเงินและสีทองอันตธานหายไป จากตัวพวกเขาแล้ว

    "ห้าทุ่มกว่าๆ มั้ง" เขาพูด "ว้า!!! แย่จังพรุ่งนี้ซิลเดอเรลล่าร์ของชั้น ก็จะต้องกลายเป็นหนอนหนังสืออีกแล้วล่ะสิ" เขาพูดอย่างเสียดาย

    "ใครย่ะ ซิลเดอเรลล่าร์ของนาย" เธอถาม แล้วจ้องหน้าเขา

    "เธอไง" เขาตอบเรียบๆ และด้วยความเขินอาย เฮอร์ไมโอนี่จึงเดินหนีเขา เข้าไปในป่าต้องห้ามอย่างไม่รู้ตัว

    "เกรนเจอร์ อย่าเข้าไปสิ" มัลฟอยร้อง และชั่งใจว่าจะเข้าไปดี หรือรออยู่ตรงนี้ แต่เค้าก็ตัดสินใจได้เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเฮอร์ไมโอนี่ เขารีบวิ่งเข้าไปในป่าโดยไม่คิดชีวิต

    "เป็นอะไรรึเปล่า เกรนเจอร์" มัลฟอยวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเธอ ที่นั่งอยู่บนตอไม้อย่างสบายๆ

    "ไม่เป็นอะไรเลย" เด็กหญิงพูดอย่างง่ายๆ

    "แล้วกรี๊ดทำไม" นั่นคือคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาจากหัวสมองของมัลฟอย หลังจากที่ได้รับคำตอบจากเฮอร์ไมโอนี่

    "ชั้นแค่ลองดูน่ะ ว่านายจะวิ่งเข้ามาไหม" เธอพูดแล้วเดินเข้าไปหาเขา

    "ร้ายมากนะ" มัลฟอยพูด แล้วหยิกจมูกของเด็กหญิงเบาๆ

    "ออกไปกันเถอะ" เฮอร์ไมโอนี่ชวน แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมา

    "ใครกันน่ะ" มัลฟอยร้องถาม แต่แล้วเจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวแทบจะในทันที แฮร์รี่ รอน จินนี่ อแมนด้า เรอคลอฟ มารีนในร่างจินนี่และจินนี่ในร่างมารีน กำลังวิ่งเข้ามา มัลฟอยมองแฮร์รี่และรอนด้วยด้วยสายตาที่เย็นชา

    "อ้าว!!! พวกเธอมาทำอะไรกันที่นี่" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างประหลาดใจ

    "ก็เรากะว่าจะเดินมาตามหาพวกเธอ แต่ก็ได้ยินเธอกรี๊ดน่ะสิ" มารีนในร่างจินนี่ตอบอย่างเซ็งๆ

    "อืม ชั้นไม่เป็นไรหรอก...ออกไปจากป่านี่กันเถอะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วเดินนำออกไป

    "เออ ไปสิ" มัลฟอยพูดแล้วกอดคอเรอคลอฟ เดินตามเด็กหญิงไปอย่างรวดเร็ว

    "ไปกันเถอะค่ะ" อแมนด้าพูดแล้วจูงมือมารีนในร่างจินนี่และจินนี่ในร่างมารีนออกไป

    "แฮร์รี่ รีบออกไปกันเถอะ ชั้นไม่ค่อยชอบที่นี่เลย" รอนพูด และมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง

    "ก็รีบเดินสิ มัวแต่พูดอยู่นั่นแหละ" แฮร์รี่พูด แล้วลากรอนเดินตามเพื่อนๆ ออกไป

    ...+*+*+...

    "พี่เฮอร์ไมโอนี่ค่ะ เราวิ่งเข้ามาในป่าไกลกันขนาดนี้เชียวเหรอ" อแมนด้าถาม เมื่อพวกเขาเดินมาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ถึงชายป่าซักที

    "นั่นน่ะสิ ชั้นเดินจนขาลากแล้วนะ" รอนบ่น

    "ชั้นก็ไม่รู้สิ แต่ตอนที่ชั้นเข้ามาเนี่ย ก็ไม่ลึกเท่าไหร่นะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ และเริ่มมีสีหน้ากังวลใจ

    "หรือว่าพวกเราจะหลงทางกัน" จินนี่ในร่างมารีนพูดขึ้น ทำเอาทุกคนกระตุกเล็กน้อย

    "คะ...คงไม่หรอกมั้งจินนี่" แฮร์รี่พูด ตอนนี้พวกเขาทุกคนจำได้ขึ้นใจว่าจินนี่และมารีนสลับร่างกัน ดังนั้นพอจะคุยกับจินนี่ต้องหันไปหามารีน แต่ถ้าจะคุยกับมารีนจะต้องหันไปหาจินนี่แทน ซึ่งตอนที่สองคนนี้สลับร่างกันใหม่ๆ พวกเค้าถึงกับสับสนงุนงงเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้พวกเค้าชินกันแล้ว (ยกเว้นเรอคลอฟที่พึ่งรู้ว่ามารีนกับจินนี่สลับร่างกันไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว)

    "แต่ชั้นว่าเป็นไปได้นะ" เรอคลอฟพูดขึ้น หลังจากเงียบมาตลอดการเดินทาง

    "อืมๆ นั่นสิ เป็นไปได้นะ เพราะว่า เราเดินกันมาตั้งนานแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกจากป่านี่ได้เลย" มารีนในร่างจินนี่พูดขึ้น

    "ใครเอาไม้กายาสิทธิ์มาบ้าง" เฮอร์ไมโอนี่ถาม พลางไล่สายตามองเพื่อนไปทีละคน ซึ่งต่างคนต่างก็ส่ายหน้า แต่เมื่อมาหยุดที่มัลฟอย เค้าก็พยักหน้าน้อยๆ

    "ชั้นเอามา" เขาพูด แล้วหยิบไม้กายาสิทธิ์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง "ลูมอส" เค้าพึมพำ และบริเวณนั้นก็สว่างไสวขึ้นทันที แต่พวกเขาก็แทบจะกรีดร้องออกมา เมื่อเห็นว่ามีดวงตาสีดำสนิทคู่หนึ่งซ่อนอยู่ในพุ่มไม้กำลังมองเค้าอยู่

    "เฮ้ย!!! ลูกตาตัวอะไรน่ะ" รอนร้องออกมาอย่างตกใจ

    "ออกมาเดี๋ยวนี้นะ" แฮร์รี่ร้องบ้าง แต่ตาประหลาดคู่นั้นก็ยังไม่ออกมาปรากฏตัว

    "พวกเรามีไม้กายาสิทธิ์นะ" มัลฟอยตะโกนขู่ แต่ดวงตาคู่นั้นยังไม่ขยับเขยื้อน แถมยังมีน้ำตาคลออีกด้วย

    "เดี๋ยวๆ อย่าไปขู่มันสิ" จินนี่ในร่างมารีนพูดขึ้น

    "เอ่อ...นั่นใครค่ะ ออกมาเถอะ พวกเราไม่ทำอะไรหรอกค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างนุ่นนวล และได้ผล เจ้าของดวงตาคู่นั้นเดินออกมา และพวกเขาก็เห็นคนตัวเล็กจิ๋ว แต่งตัวเหมือนคนแคระของสโนว์ไวท์ แต่หน้าตาดูอ่อนโยนและใจดี

    "คุณคือ มินิไซน์ ซานต้า ใช่ไหมค่ะ" อแมนด้าย่อตัวลงมาอยู่ในระดับเดียวกับคนแคระคนนั้น ซึ่งกำลังพยักหน้าอยู่

    "มินิไซน์ ซานต้า..." จินนี่ในร่างมารีนร้องออกมา และกระโดดไปนั่งข้างๆ อแมนด้า

    "อะไรคือ มินิไซน์ ซานต้า" แฮร์รี่ถามอย่างงงๆ

    "นายไม่รู้จัก มินิไซน์  ซานต้าเหรอ" เรอคลอฟพูดอย่างทึ่งๆ เค้าพึ่งรู้จักกับกลุ่มของแฮร์รี่เมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว

    "เคยได้ยิน เพราะ มันเป็นรหัสของหอกริฟฟินดอร์" แฮร์รี่ตอบตามความจริง และเขาก็เห็นมัลฟอยยิ้มเยาะให้เขา

    "มินิไซน์ ซานต้า ก็คล้ายๆ ซานตาครอสของพวกมักเกิ้ลนั่นแหละ แต่มินิไซน์ ซานต้า ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นภูตแห่งความอ่อนโยนและใจดี จะปรากฏตัวในวันคริสมาสต์เท่านั้น เพื่อให้พรหนึ่งประการแก่ผู้พบเห็น" เฮอร์ไมโอนี่อธิบาย สายตาของเธอยังจับจ้องไปที่มินิไซน์ ซานต้า ซึ่งกำลังอ้าปากจะพูดอะไรซักอย่าง

    "พวกท่านพบตัวของเรา...เราคือ มินิไซน์ ซานต้า...มีชื่อว่า โดราโด...เราจะให้พรแก่พวกท่านหนึ่งประการ ซึ่งพวกท่านจะสมประสงค์..." มินิไซน์ ซานต้าพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

    "หมายถึง พวกเราทั้งหมด แค่หนึ่งประการเหรอ" รอนถามด้วยความเสียดาย และเข้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาทางพวกเขา

    "ใช่แล้ว พวกท่านแค่พูดว่า 'ต้องการ' สิ่งใดเท่านั้น พวกท่านก็จะได้สิ่งนั้นมา" โดราโดตอบอย่างรวดเร็ว

    "ได้ยินเสียงอะไรไหม" จินนี่ในร่างมารีนพูด แล้วละสายตาออกมาจากมินิไซน์ ซานต้าและมองไปรอบๆ

    "ได้ยิน"  มารีนในร่างจินนี่พูด และหันมองรอบๆ บ้าง

    "เสียงเหมือนม้ากำลังวิ่งเลย" แฮร์รี่พูด แล้วเค้าก็นึกออก "เซ็นทอร์..." เด็กชายร้องอย่างตกใจ

    "อะไรนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด "เซนทอร์เหรอ" เธอทวนคำ

    "ใช่น่ะสิ" รอนพูด ตอนนี้เขาแทบจะกอดแฮร์รี่แล้ว ถ้าทำได้

    "เยี่ยมเลย..." เฮอร์ไมโอนี่ร้อง

    "อะไรเยี่ยม เจอเซ็นทอร์ เนี่ยนะเยี่ยม" มัลฟอยถามอย่างตกใจ

    "ก็เรา 'ต้องการ' น้ำตาเซ็นทอร์กันอยู่ไง" เฮอร์ไมโอนี่พูด อย่างตื่นเต้น แต่มินิไซน์ ซานต้าก็พูดขึ้นกับเธอว่า

    "พวกท่าน 'ต้องการ' น้ำตาเซ็นทอร์...เราจะให้พวกท่านได้สมประสงค์" โดราโดพูด แล้วตัวของมันก็เรืองแสงสีแดงและเปลี่ยนเป็นสีเขียว และเมื่อแสงนั้นจากหายไป ในมือของโดราโดก็มีขวดแก้วใสๆ เล็กๆ ใส่น้ำสีเงิน เรืองแสงไว้เต็มขวด น้ำตาเซ็นทอร์นั่นเอง โดราโดยื่นขวดให้เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งรับขวดไว้อย่างงุนงง และตัวมันก็จางหายไปทันที

    "อะไรกัน" เฮอร์ไมโอนี่ถาม และหันไปหาเพื่อนๆ เพื่อขอคำตอบ

    "มันคงนึกว่าเธอขอพรน่ะสิ เพราะ เธอพูดคำว่า 'ต้องการ' น่ะสิ" มารีนในร่างจินนี่ตอบแล้วหายใจพรืดออกมาอย่างเซ็งๆ

    "แล้วเราจะทำยังไงกันต่อล่ะ" รอนร้องอย่างปอดแหก เพราะ ตอนนี้เซ็นทอร์นับร้อยตัวล้อมพวกเขาไว้แล้ว

    "เมื่อกี๊ เธอไม่น่าพูดเลย เฮอร์ไมโอนี่ เราจะได้ขอพรให้มินิไซน์ ซานต้าพาเราออกไปจากป่า แล้วจะได้ไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับเซ็นทอร์อย่างนี้" แฮร์รี่พูด ตอนนี้พวกเขาทุกคนเริ่มถอยเข้ามาชิดกันโดยสัญชาตญาณ

    "ชั้นขอโทษ ก็...ชั้นไม่รู้หนิ ว่าถ้าพูดคำว่า 'ต้องการ' แล้วมันจะให้พรน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด และเริ่มขยับถอยหลังไปเรื่อยๆ

    "แล้วทำไงกันดี" รอนร้องอีกรอบ

    "คิดสิ...คิด" อแมนด้าร้องบอก

    "คิดไม่ออกแล้ว" รอนแผดเสียงด้วยความกลัว ขณะนี้เซ็นทอร์ย่างก้าวเข้ามาหาพวกเขาเรื่อยๆ

    "เราต้องออกไปจากป่านี้...วิ่งออกไปก็ไม่ได้" มารีนในร่างจินนี่ตะโกนอย่างตกใจ

    "มุดดินลงไปก็ไม่ได้ด้วยสิ" รอนร้อง ตอนนี้ความคิดของเค้าเริ่มรวนแล้ว

    "หายตัวก็ไม่ได้" จินนี่ในร่างมารีนพูดด้วยเสียงสั่นเทา

    "บินออกไปก็ไม่ได้" เฮอร์ไมโอนี่พูด ด้วยความกลัว

    "บินเหรอ...บินได้สิ ไม้กวาดไง" เรอคลอฟเสนอ

    "ใช่ๆ...แล้วเราจะเอาไม้กวาดมายังไง" แฮร์รี่ถาม ทั้งๆ ที่เค้าก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าต้องทำยังไง

    "นิมบัสสองพันหนึ่ง แอ๊กซีโอ" มัลฟอยแผดเสียง เมื่อนึกถึงการประลองเวทย์ไตรภาคีครั้งแรกของแฮร์รี่

    "ไฟรโบลต์ แอ๊กซีโอ" แฮร์รี่ร้องบ้าง

    "คอมเม็ต แอ๊กซีโอ" เรอคลอฟตะโกนเสียงดัง "มีไม้กวาดแค่สามด้ามเองเหรอ" เขาร้องถาม

    "มะ...มีอีก แต่เป็นของเฟร็ดกับจอร์จน่ะ ชั้นไม่กล้า..." รอนพูด

    "เรียกมาเลย ระหว่างถูกเซ็นทอร์ฆ่าตาย กับเฟร็ดกับจอร์จฆ่าตาย อันไหนทรมานกว่ากัน รอน" แฮร์รี่ร้อง แล้วมองไปที่กลุ่มเซ็นทอร์ที่ยืนปรึกษากันอยู่ว่าจะทำอะไรกับพวกเขาดี

    "เซ็นทอร์ ทรมานกว่าสิ...คลีนสวีปเจ็ด แอ๊กซีโอ" รอนตะโกนอย่างเสียขวัญ เมื่อเซ็นทอร์จ้องมาที่พวกเขา และเดินตรงมาที่มารีนในร่างจินนี่

    "จับเด็กผู้หญิงไว้..." เซ็นทอร์ตัวหนึ่งตะโกน และเซ็นทอร์อีกสี่ตัว ก็กระโจนเข้าไปจับ เฮอร์ไมโอนี่ อแมนด้า จินนี่ในร่างมารีนและมารีนในร่างจินนี่ไว้

    "ปล่อยพวกเค้าซะ" มัลฟอยแผดเสียง ตอนนี้ไม้กวาดทั้งสีด้ามลอยผ่านอากาศมาหาพวกเขาแล้ว

    "ขอร้องล่ะค่ะ ปล่อยพวกเราเถอะ พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาในป่านี่" อแมนด้าร้อง

    "เงียบซะ...จับพวกเด็กผู้ชายไว้ด้วย" เซ็นทอร์ตัวเดียวกันตะโกนก้อง และเซ็นทอร์อีกสี่ตัวก็กระโดดเข้าไปล็อกคอ มัลฟอย เรอคลอฟ แฮร์รี่และรอนไว้

    "ปล่อย....ปล่อยพวกเรานะ" รอนร้องและดิ้นไปดิ้นมา

    "เงียบซะ..." เซ็นทอร์ที่ถือคันธนูตัวหนึ่งพูดขึ้น

    "เราไม่ทำร้ายลูกอ่อน" เซ็นทอร์ตัวที่เป็นคนสั่งให้จับพวกเขาไว้พูดขึ้น

    "แล้วจับเราไว้ทำไมล่ะ" มัลฟอยร้อง และกำไม้กายาสิทธิ์ไว้แน่น

    "ถ้าขืนแกไม่เงียบ...เราจะเย็บปากพวกแกให้ติดกัน" เซ็นทอร์ตัวที่แฮร์รี่รู้สึกคุ้นตาพูดขึ้น เบนนั่นเอง

    "เอาล่ะ...ข้าขอบอกให้พวกเจ้ารู้ไว้ว่า ป่านี่ไม่ใช่ที่ของมนุษย์ เป็นที่ๆ มนุษย์ไม่ควรจะมาอยู่ ดังนั้น ครั้งนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป เพราะ ถือว่าพวกเจ้ายังไม่รู้อะไร แต่ถ้าหากครั้งหน้าพวกเจ้าเข้ามาในป่านี้อีกล่ะก็ พวกเจ้าอาจจะไม่มีชีวิตอยู่รอดได้พบหน้าพ่อแม่อีกก็ได้" เซ็นทอร์ตัวที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าบอกกับพวกเขา

    "ปล่อยมัน" เซ็นทอร์ตัวเดิมพูดเสริม เซ็นทอร์ทั้งแปดตัวยกพวกเขาขึ้น และโยนลงไปบนพื้นหิมะ ที่มีรากไม้และกิ่งไม้อยู่เต็มไปหมด แล้วเดินจากไปโดยไม่สนใจใยดี เนื้อตัวของพวกเขาถูกกิ่งไม้ขูดเป็นแผล และช้ำเป็นจ้ำๆ จากการที่เซ็นทอร์จับพวกเขาและบีบอย่างแรง แถมโยนลงมากองกับพื้นอีก เสื้อผ้าของพวกเขาอยู่ในสภาพที่ถ้าป้าเพ็ตทูเนียมาเห็นคงจะไม่ยอมในเข้าบ้านเป็นแน่

    "โอ้ย!!! ชั้นพึ่งรู้ว่าเซ็นทอร์โหดอย่างนี้" เฮอร์ไมโอนี่พูด พลางถูแผลที่แขน

    "ดีนะที่พวกเราเป็นเด็กน่ะ ไม่งั้นมันคงฆ่าพวกเราไปแล้ว" รอนพูดเสียงสั่น

    "กลับกันเถอะ" มัลฟอยพูด แล้วลุกขึ้น

    "อืม" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วฉุดมือที่มัลฟอยยื่นมาให้ลุกขึ้น

    "ดึงหน่อยสิ เรอคลอฟ" มารีนในร่างจินนี่พูด แล้วยื่นมือไปให้เรอคลอฟ ที่ฉุดเธอขึ้นมาทันที

    "ขอบคุณมาก" เธอบอก

    "ไปเถอะ...อแมนด้า" รอนพูด แล้วพยุงอแมนด้าลุกขึ้น

    "จินนี่...ลุกซะทีซี่" แฮร์รี่ร้อง แล้วดึงจินนี่ในร่างมารีนที่นั่งอยู่กับที่ให้ลุกขึ้น

    "ไม้กวาดเรามีอยู่สี่ด้าม ใครจะไปกับใคร...แน่นอน เดรโกนายไปกับเกรนเจอร์" เรอคลอฟพูด เมื่อเห็นมัลฟอยดึงเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาใกล้

    "ชั้นไปกับอแมนด้า" รอนรีบพูด แล้วมองไปที่อแมนด้าที่พยักหน้าหงึกๆ

    "เอ่อ...ชั้นไปกับจินนี่" แฮร์รี่พูด แล้วฉุดจินนี่ในร่างมารีนให้มาอยู่ใกล้ๆ

    "นายจะไปกับวีสลี่ย์ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมดึงมารีนไปล่ะ" เรอคลอฟถามอย่างงงๆ

    "มารีนกับวีสลี่ย์ สลับร่างกันอยู่ เรอคลอฟ" มัลฟอยเตือนสติ

    "เออ...จริงด้วย" เรอคลอฟพูด และหันไปหามารีนในร่างจินนี่ "เธอจะเดินไป หรือจะขี่ไม่กวาดไปกับชั้น" เรอคลอฟพูดยิ้มๆ

    "นี่!! เรอคลอฟ ปากนายนี่ช่างเหมือนกับสุนัขจริงๆ เลยนะ" มารีนพูดอย่างสนิทสนม แน่นอนว่าทั้งสองคนนี้ก็เป็นญาติกัน

    "โอเคๆ เธอไปกับชั้น ตกลงไหม" เรอคลอฟพูด แล้วขึ้นขี่ไม้กวาด พร้อมๆ กับมัลฟอย แฮร์รี่และรอน

    "ขึ้นมาสิ" เด็กชายทั้งหมดพูดพร้อมกัน

    "ค่ะๆ" เด็กหญิงทั้งหมดก็พูดพร้อมกัน พลางขึ้นซ้อนท้ายไม้กวาดของเด็กชายพร้อมๆ กัน



    + - บทที่ 6 - +

        พวกเขาทั้งหมดขี่ไม้กวาดมาพร้อมๆ กัน เพียงแต่ไม้กวาดของแฮร์รี่และมัลฟอยจะนำอยู่หน่อยๆ เพราะ ไม้กวาดของพวกเขารุ่นดีกว่าเล็กน้อย ในที่สุดก็มาถึงหน้าปราสาท และมัลฟอยก็พึ่งรู้ว่า เฮอร์ไมโอนี่เป็นโรคกลัวความสูง เพราะ เธอหลับตาปี๋ตั้งแต่พวกเขาเริ่มบินขึ้นไปบนท้องฟ้า จนไม้กวาดลงจอดถึงพื้น



    "โอ้ย!!! กว่าจะมาถึง" มัลฟอยบ่น ทั้งๆ ที่พวกเขาบินกันไม่ถึงสิบนาที

    "แหมทำเป็นบ่น" เฮอร์ไมโอนี่พูด และลงมาจากไม้กวาด

    "งานเลี้ยงจะเลิกรึยังนะ" รอนพูด ในขณะที่ไม้กวาดของเขาพึ่งลงจอด

    "ยังหรอก รอน" แฮร์รี่บอก พลางเงี่ยหูฟังเสียงดนตรีที่ดังมาแว่วๆ

    "พวกเธอคิดจะเข้าไปในงานกันอีกเหรอ" มารีนในร่างจินนี่ถาม และลงมาจากไม้กวาด

    "ไม่อ่ะ..." จินนี่ในร่างมารีนตอบ

    "แล้วจะกลับหอเลยรึเปล่า" เรอคลอฟถามบ้าง

    "หนูอยากกลับเลย หนูง่วงแล้ว" อแมนด้าพูด พลางปิดปากหาว

    "กลับกันเลยไหม อแมนด้า" จินนี่ในร่างมารีนถาม เพราะ เธอนอนที่หอสลิธีรินตั้งแต่พวกเขาสลับร่างกัน

    "ค่ะ เมอร์รี่คริสมาสต์นะค่ะ ทุกคน" อแมนด้าพูด และหันหลังเดินมุ่งหน้าไปยังปราสาท

    "สุขสันต์วันคริสมาสต์นะค่ะ" จินนี่ในร่างมารีนพูด และเดินจากไป

    "เรากลับกันก่อนนะ เฮอร์ไมโอนี่" รอนถาม

    "อือ" เธอตอบรวดเร็วอย่างไม่ต้องคิด

    "แล้วตามไปล่ะ...เอ่อ...ช้าๆ ก็ได้นะ ไม่ต้องรีบ" แฮร์รี่พูด แล้วฉุดรอนและมารีนในร่างจินนี่ไปเก็บไม้กวาดด้วยกัน

    "อืม" เธอคราง และหันไปหามัลฟอย

    "ชั้นกลับล่ะนะ จะฝากไม้กวาดไปเก็บด้วยรึเปล่าล่ะ" เรอคลอฟถาม

    "ก็ดี" มัลฟอยพูด แล้วยื่นไม้กวาดให้กับเรอคลอฟ

    "ไว้เจอกันไอ้น้อง" เรคลอฟพูด แล้วเดินจากไป

    "นายจะกลับหอเลยรึเปล่าล่ะ" เด็กหญิงถาม

    "ยังหรอก..." เขาพูด "ไม่น่าเชื่อเลยนะ วันนี้น่ะ" เขาชวนคุย และเดินไปยืนใต้ต้นไม้ริมทะเลสาป

    "อืม...แล้วคนอื่นจะคิดยังไงกันบ้างน้า" เธอพูด พลางเดินตามเขาไป

    "เกรนเจอร์...ถ้าชั้นถามคำถามเธอ เธอจะต้องตอบชั้นตามตรงนะ" เด็กชายพูด เธอจึงพยักหน้าช้าๆ

    "ถามอะไรล่ะ ว่ามาสิ ถ้าชั้นตอบได้...ชั้นจะตอบ" เธอพูด แล้วยิ้มให้เขา

    "เธอมีใครในใจรึยัง" คำถามนี้เป็นคำถามที่คาใจเขามานานแล้ว เพราะ ถามเมื่อไหร่เธอก็จะพยามบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง

    "ชั้นคิดว่า...เอ่อ...มีแล้วล่ะ" เธอตอบ และมองเขาที่หน้าเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัด

    "คนๆ นั้นคือใคร...เธอบอกชั้นได้รึเปล่า" เด็กชายถาม ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

    "ได้สิ...แต่ชั้นก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ว่าใช้เค้ารึเปล่าที่กำลังอยู่ในใจของชั้นตอนนี้" เธอบอก

    "อืม..." เขาพูด

    "เขาคนนั้น...เป็นคนที่อ่อนโยนเป็นบางเวลา แข็งกระด้างเป็นบางเวลา...เค้าเป็นคนที่นิสัยไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่หรอก แต่ก็ถือว่าใช้ได้ เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ขี้งอน ขี้โมโหด้วย แล้วก็ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่..." เด็กหญิงเว้นช่วงเล็กน้อย หัวใจของเธอเต้นรัว และเธอก็หันมาหามัลฟอยที่ยืนพิงต้นไม้รับฟังอยู่ข้างๆ "เค้าคนนั้นเป็นคนที่ไม่กล้าหาญเท่าไหร่ และกลัวป่าต้องห้ามจับใจ แต่พอได้ยินเสียงชั้นกรี๊ด เข้าก็วิ่งเข้ามาในป่าทันที นายรู้รึยังว่าคนที่อยู่ในใจของชั้น คือใคร..." เมื่อเฮอร์ไมโอนี่พูดจบ มัลฟอยก็หันมาทันที

    "เธอหมายถึงชั้น...งั้นเหรอ" เขาถาม แล้วใช้นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่ตัวเอง

    "อือ" เฮอร์ไมโอนี่ครางตอบ และหันหน้าไปทางอื่น

    "เธอโกหกชั้นรึเปล่า" มัลฟอยถามอีก

    "ชั้นจะโกหกนาย ให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะ เดรโก" เฮอร์ไมโอนี่หันมาตอบ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกชื่อของเขา

    "นั่นสินะ" เขาพูด แล้วยิ้มให้เธอ

    "นายเข้ามาอยู่ในใจชั้น ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชั้นก็ไม่รู้ แต่ที่ชั้นรู้ก็คือ นายเป็นคนแรกและคนเดียวที่อยู่ในใจของชั้นตอนนี้" เธอพูด และหน้าของเธอก็แดงขึ้นเรื่อยๆ

    "เกรนเจอร์..." มัลฟอยพูด แล้วจับมือเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมากุมไว้ทั้งสองข้าง เธอจึงหันตัวมาหาเขาช้าๆ

    "หือ..." เฮอร์ไมโอนี่ตอบรับ

    "เธอจะว่าอะไรไหม ถ้าชั้นจะขอให้เธอ...มาเป็นคนที่จะช่วยดูแลรักษาหัวใจของชั้น..." มัลฟอยถามเธอ

    "นายกำลังขอชั้นเป็น ฟะ...แฟน เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างไม่แน่ใจ

    "อืม" เขาตอบ

    "ดะ...ได้สิ แต่ชั้นอาจจะดูแลได้ไม่ดีเท่าไหร่หรอกนะ" เธอตอบอย่างขัดเขิน แล้วก้มหน้ามองพื้น

    "แค่เธอตอบตกลง มันก็ดีเกินกว่าอะไรแล้วล่ะ" เขาเชยคางเธอขึ้นมา เพื่อสบตากับดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่ แล้วโน้มศีรษะไปจนหน้าผากของทั้งคู่ติดกัน จนเธอรู้สึกถึงลมหายใจเย็นเฉียบเนื่องจากความเหน็บหนาวของมัลฟอยที่ปะทะใบหน้า "เธอจะให้ชั้นได้รึยัง...ที่ค้างไว้ตรงกลางฟลอร์น่ะ" เขาถามเสียงแผ่วเบา

    "ครั้งนี้ไม่มีดอกเบี้ย ใช่มั๊ย" เฮอร์ไมโอนี่กระซิบถามเล่นๆ  

    "ไม่มีหรอก แต่ถ้าเธออยากจะให้ชั้นก็ยินดีรับนะ" เขาตอบ ไม่นานริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน มัลฟอยจูบเธออย่างแผ่วเบา เฮอร์ไมโอนี่ยกมือทั้งสองข้างขึ้นโอบรอบคอของเขาไว้  มัลฟอยใช้มือข้างหนึ่งโอบที่ไหล่ของเด็กหญิง และอีกข้างหนึ่งโอบที่เอวของเธอไว้ เขาขยับริมฝีปากอย่างพอใจ เฮอร์ไมโอนี่เองก็เช่นกัน ความเมื่อยล้าที่เคยขึ้นเมื่อซักครู่นั้นหายไปหมดแล้ว มัลฟอยดันเฮอร์ไมโอนี่ไปจนหลังเธอพิงชิดกับต้นไม้ และเริ่มจูบเธอเร่าร้อนขึ้น แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ต้องผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินผ่านมาทางพวกเขา

    "งานเลี้ยงคงเลิกแล้วล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด พลางหอบหายใจถี่ๆ

    "งั้นเหรอ" เขาตอบรับ และมองไปที่ประตูไม้โอ๊กบานใหญ่ข้างหน้าปราสาท ซึ่งตอนนี้เริ่มมีนักเรียนจากโบซ์บาตงและเดิร์มสแตรงก์เดินออกมากันแล้ว

    "กลับหอกันเถอะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด และเดินนำเขาออกไป

    "เดี๋ยวชั้นไปส่ง" เขาพูด แล้วเดินตามเด็กหญิงออกไป

    ...+*+*+...

        ตลอดทางที่เขาเดินผ่านนักเรียนไม่ว่าจะเป็นโบซ์บาตง เดิร์มสแตรงก์ หรือว่าฮอกวอตส์ ทุกคนต่างยิ้มน้อยๆ ให้พวกเขา มีนักเรียนชายบางคน พยามเดินเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของมัลฟอยแล้ว นักเรียนพวกนั้นก็ล่าถอยออกไปโดยสัญชาตญาณ และกว่าจะมาถึงหน้าหอคอยกริฟฟินดอร์ได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เพราะว่า เฮอร์ไมโอนี่ต้องพยามห้ามมัลฟอยไม่ให้สาปนักเรียนหญิงที่ส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้กับเขาให้กลายเป็นกบ



    "เมอร์รี่คริสมาสต์ มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่พูด

    "เช่นกัน แล้วก็ ราตรีสวัสดิ์นะ เฮอร์ไมโอนี่" มัลฟอยบอก และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อของเธอ

    "Good Night" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วหันหลังกลับ

    "เดี๋ยวสิ..." มัลฟอยพูด แล้วกอดเด็กหญิงจากด้านหลัง

    "ทำไมล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถามเด็กชาย ที่เกยหน้าอยู่บนไหล่ของเธอ

    "Good Night Kiss ล่ะ" เขาถามเสียงอ้อน

    "ติดไว้ก่อนล่ะกันนะ" เธอพูดเสียงอ้อนไม่แพ้กัน

    "นี่เธอคิดจะติดไว้ตลอดเลยรึไงกัน" เด็กชายถาม แล้วปล่อยมือที่กอดเธออยู่ออกอย่างโกรธๆ

    "โธ่!! ล้อเล่น" เธอตอบ แล้วหันหลังกลับไปหาเขา และเขย่งปลายเท้าขึ้นและประทับริมฝีปากลงบนริมผีปากของเขาอย่างนุ่มนวล และรวดเร็วกว่าทุกครั้ง

    "ราตรีสวัสดิ์" เธอพูดและหันหลังที่รูปภาพสุภาพสตรีอ้วน แต่เธอไม่อยู่ที่นั่น เหลือไว้แต่กรอบรูปเท่านั้น

    "หายไปไหนล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถามกรอบรูปที่ว่างเปล่า

    "สงสัยคืนนี้เธอต้องไปนอนที่ห้องจริงๆ แล้วมั้ง" เด็กชายพูดด้วยเสียงยียวนกวนประสาท

    "ฝันไปเถอะ" เด็กหญิงพูด แล้วยืนพิงกำแพงข้างๆ กรอบรูป "นายกลับไปก่อนก็ได้...อีกเดี๋ยวก็คงมามั้ง" เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่

    "ไม่เป็นไร ชั้นอยากอยู่เป็นเพื่อนเธอ" มัลฟอยพูด แล้วเดินไปยืนพิงกำแพงข้างๆ เด็กหญิง

    "ขอบใจนะ" เฮอร์ไมโอนี่บอก และหันไปยิ้มให้เขา

    "อืม..." มัลฟอยพูด แล้วจับแขนเด็กหญิงขึ้นมา "เธอนี่ ชอบเล่นอะไรไม่เข้าเรื่องเลยนะ" เด็กชายบอก เมื่อเห็นแผลเต็มแขนของเด็กหญิง

    "ก็ชั้นแค่อยากจะรู้ว่า นายจะวิ่งมารึเปล่าน่ะ" เธอพูดด้วยเสียงอันสดใส

    "แล้วถ้าชั้นไม่วิ่งเข้าไปล่ะ" มัลฟอยลองถาม แล้วนั่งลงกับพื้นที่เย็ยเยียบ

    "ก็ง่ายๆ...ชั้นคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก" เธอตอบ แล้วทรุดตัวลงนั่งบ้าง

    "ทีหลังอย่าเล่นอะไรอย่างนี้อีกนะ มันเสี่ยง" มัลฟอยบอก แล้วนั่งยืดขาอย่างสบายข้างๆ เธอ

    "ค่ะ พ่อ" เฮอร์ไมโอนี่ประชด แล้วพยักหน้าหงึกๆ

    "ง่วงจัง...ขอนอนหน่อยได้ไหม" เขาพูดแล้วเอนหลังกับกำแพง

    "เอาสิ...ชั้นก็ง่วงเหมือนกัน" เธอพูด แล้วเอนศีรษะลงกับไหล่อันอบอุ่นของมัลฟอย และนอนหลับไปแทบจะทันที



    + - บทที่ 7 - +

    "หนูจ๋า...หนู" เสียงของสุภาพสตรีอ้วนปลุกให้เฮอร์ไมโอนี่ตื่นจากฝัน

    "ค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมา และขยี้ตา "มาแล้วเหรอค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่หันไปถามสุภาพสตรีอ้วน

    "จ๊ะ...หนูรอนานรึเปล่า" เธอถามด้วยความเป็นห่วง

    "ไม่นานหรอกค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่บอก 'หลับไปตั้งตื่นนึงน่ะนานไหมล่ะ' เธอคิดประชดอยู่ในใจ

    "มัลฟอย...มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่เรียก พลางเขย่าตัวของเด็กชายไปด้วย

    "หือ..." เขาตอบ แล้วลืมตาขึ้น

    "นายกลับไปที่หอเถอะ...สุภาพสตรีอ้วนมาแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วลุกขึ้นยืน

    "อืม...ชั้นไปก่อนนะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้" เขาพูด แล้วลุกขึ้นอย่างงัวเงีย

    "ฝันดีล่ะ" เธอบอก

    "อืม...รีบเข้านอนล่ะ" เขาพูดเท่านั้นและเดินจากไป

    "นั่นแฟนหนูเหรอจ๊ะ" สุภาพสตรีอ้วนถาม เมื่อเฮอร์ไมโอนี่หันมา

    "เอ่อ...ประมาณนั้นล่ะค่ะ" เธอพูดเสียงแผ่ว

    "เหมาะสมกันดีนะ...ชั้นได้ข่าวมาว่า...เธอสองคนเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดในปีนี้หนิ" สุภาพสตรีอ้วนบอก

    "มินิไซน์ ซานต้า" เฮอร์ไมโอนี่บอกรหัสอย่างรวดเร็ว และรูปภาพก็เหวี่ยงเปิดออกทันที เธอปีนผ่านช่องหลังรูปภาพเข้าไปอย่างยากลำบาก เพราะ ชุดอันลุ่มล่ามของเธอ

    ...+*+*+...

    เมื่อเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นรวม ในนั้นไม่ใครอยู่เลยแม้ซักคนเดียว ไฟในเตาผิงนั้นมอดเกือบหมดแล้ว แต่แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ต้องตกใจแทบช๊อก เพราะ ไฟในเตาผิงนั้นสว่างจ้าขึ้นมาเหมือนพึ่งจุดใหม่ๆ และเมื่อเธอหันมองรอบๆ ห้องอีกครั้ง รอบๆ ห้องเต็มไปด้วยกระดาษสีเขียวและแดงประดับไว้ และมีลูกโป่งบินได้ไม่มีวันแตกลอยอยู่ห้าหกลูก ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ ส่วนมากก็เป็นนักเรียนตั้งแต่ปีสี่ขึ้นไปทั้งนั้น ทุกคนกำลังเหยียดยิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งตอนนี้แทบจะเป็นลมอยู่แล้วกับการทำเซอร์ไพส์แบบสายฟ้าแล๊บ



    "อะไรกันเนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่ถามทันที ที่ฝาแฝดวีสลี่ย์ก้าวออกมา

    "วันนี้เราจะฉลองกันจนถึงเช้าเลย...สำหรับ 170 คะแนนที่ได้มา...และมิตรภาพระหว่าง..." เฟร็ดพูด

    "สลิธีรินและกริฟฟินดอร์...และสำหรับคู่ที่เหมาะสมที่สุดแห่งปี แต่ชั้นไม่ค่อยเห็นด้วยเลยที่เป็นมัลฟอย" จอร์จพูดต่อ

    "แล้วพวกนายเข้ามาอยู่ในห้องนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่" เธอถาม

    "ก่อนที่เธอจะเข้ามา 1 ชั่วโมง เราขอร้องให้สุภาพสตรีอ้วนไปเยี่ยมเพื่อน เพื่อเราจะได้จัดห้อง โดยที่เธอไม่มาเห็นซะก่อน และเราก็ส่งรอน แฮร์รี่และจินนี่ ไปถ่วงเวลาเธอให้มาช้าๆ" เฟร็ดอธิบาย 'อ๋อถึงว่าสิ...แฮร์รี่ถึงพูดว่า...ช้าๆ ก็ได้นะ ไม่ต้องรีบ...'

    "แล้วทำไมชั้นไม่เห็นพวกเธอเลยล่ะ" เธอถามอย่างงงๆ พลางคิดว่า 'ชั้นตาถั่วขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย คนนั่งอยู่เต็มห้องยังมองไม่เห็นซักคน'

    "อ้อ...พวกเราใช้น้ำยาล่องหนที่พวกเราซื้อมาจากร้านซองโก้น่ะ" จอร์จตอบ

    "อืม..." เฮอร์ไมโอนี่คราง

    "เอาล่ะ งานเลี้ยงเริ่มได้รึยัง เฟร็ด" จอร์จถาม และหลิ่วตาให้คู่แฝด

    "ได้เลย" เฟร็ดพูด และสะบัดไม้กายาสิทธิ์เล็กน้อย โต๊ะที่เคยมีหนังสือวางอยู่ กลับมีอาหารมาวางแทนที่ และโซฟาที่เคยตั้งอยู่ กลางห้องก็หายไป กลับกลายเป็นฟลอร์เต้นรำเล็กๆ แทน

    "ให้เกียรติเต้นรำกับผมซักเพลงนะครับ" จอร์จ วีสลี่ย์พูดขำๆ ในความสุภาพเกินเหตุของตัวเอง

    "ได้ค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบรับทันที ถึงแม้ว่าร่างกายเธออยากจะพักผ่อนเท่าไหนก็ตาม เธอเต้นรำกับเฟร็ดในจังหวะวอลซ์ ซึ่งเธอแทบไม่เชื่อว่านี่คือเฟร็ด วีสลี่ย์เด็กแสบสุดๆ ในรอบทศวรรษ เพราะ เค้าเต้นได้ดีมาก จากนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็เต้นรำกับนักเรียนชายอีกหลายคน รวมถึงรอนและแฮร์รี่ด้วย เธอรู้สึกสนุกกับงานนี้มาก เพราะ เป็นงานเล็กๆ ที่อบอุ่น และไม่มีสายตาจับจ้องเธออยู่ เหมือนงานใหญ่เมื่อครู่

    "โอ้ย!!! เหนื่อยจัง" เธอร้อง แล้วนั่งพัก

    "ว่าไง เกรนเจอร์" มารีนในร่างจินนี่ทัก แล้วนั่งลงข้างๆ เธอ

    "เหนื่อยสุดๆ เลย" เธอพูด พลางโบกลมให้ตัวเอง

    "แหม...เธอนี่ขาดสะบักสะบอมขนาดนี้ยังเนื้อหอมไม่ส่างเลยนะ" มารีนในร่างจินนี่พูด พลางใช้สายตาไล่ไปตามเนื้อตัวของเด็กหญิงที่เป็นจ้ำๆ แดงๆ และมีแผลเต็มตัว

    "เอ่อ...เธอก็ไม่เบานะ" เธอไม่รู้จะพูดอะไรแก้เขินดี จึงใช้คำชมกลับ

    "ก็นี่มันร่างของจินนี่หนิ ไม่ใช่ร่างชั้นซักหน่อย" มารีนในร่างจินนี่พูดซึมๆ

    "อย่าพูดอย่างนั้นสิ เดี๋ยวก็ได้กลับร่างเดิมแล้วล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดปลอบใจ

    "อืม...สร้อยนั่น เดรโก ให้เธอเหรอ" มารีนในร่างจินนี่ถาม พลางหรี่ตามองสร้อยและแหวน

    "ใช่...แหวนนี่ด้วยนะ" เธอพูด แล้วจับแหวนคริสตัลที่เป็นจี้ห้อยคออยู่

    "เข้าใจเลือกนะ" มารีนในร่างจินนี่บอก พลางมองไปที่เฟร็ดกับจอร์จ ที่เดินมากลางฟลอร์ และใช้ไม้กายาสิทธิ์ปิดเพลงที่บรรเลงอยู่

    "ท่านสุภาพบุรุษและสตรีทั้งหลาย เรามีข่าวจะมาแจ้งให้ทราบว่า..." จอร์จเกริ่น

    "ขณะนี้ คุณฟิลช์และคุณนายแมวของเขา กำลังเดินตรวจโรงเรียนอยู่..." เฟร็ดบอกอย่างใจเย็น

    "และเขาได้รับแจ้งว่า นักเรียนที่หอกริฟฟินดอร์ยังไม่นอน และกำลังจัดงานเลี้ยงกันอยู่..." จอร์จพูด

    "และกำลังจะเดินทางมาที่หอกริฟฟินดอร์ ภายในอีก 10 นาทีนี้..." เฟร็ดค่อยๆ พูดอย่างชัดเจน

    "ขอให้ทุกท่าน รีบเอาตัวรอด ไปเข้านอนด่วน!!!" จอร์จร้องเสียงดัง และวิ่งขึ้นไปบนหอนอนชาย ตามด้วยเฟร็ด และนักเรียนชายอีกหลายคน ส่วนนักเรียนหญิงนั้นก็รีบวิ่งขึ้นไปบนหอนอนหญิงทันที

    ...+*+*+...

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดว่างานเลี้ยงจะจบลงง่ายๆ โดย 'อาร์กัส ฟิลช์' ซึ่งมันก็เป็นไปแล้ว เฮอร์ไมโอนี่รีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แผลที่เกิดจากการเข้าไปในป่าต้องห้ามของเธอนั้น หายเป็นปลิดทิ้ง ด้วยสบู่ที่เฟร็ดกับจอร์จประดิษฐ์ขึ้น คือ 'สบู่สะอาดสะอ้าน' สามารถลบได้แม้แต่รอยสัก หรือรอยแผลเป็น (แต่สำหรับแผลเป็นของแฮร์รี่นั้นใช้ไม่ได้ผล ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใด ซึ่งฝาแฝดวีสลี่ย์กำลังวิจัยอยู่) ซึ่งก็ง่ายมากสำหรับลบรอยแผลเล็กๆ น้อยๆ และมีกลิ่นหอมตามที่คนใช้ชอบ เธอเก็บรักษาน้ำตาเซ็นทอร์ไว้อย่างดี ใส่ไว้ในหีบกัดคนได้ ซึ่งจะกัดทุกคนไม่เว้นแม้แต่เจ้าของหีบ ซึ่งวิธีทำให้มันสงบก็คือ ผิวปากเบาๆ (แฮกริดมอบให้เป็นของขวัญคริสมาสต์ในปีนี้)

        เด็กหญิงนอนหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อย และความสุขหลายๆ อย่างที่เอ่อล้นอยู่ในหัวใจ ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่า ขณะนี้ยังมีนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่ง ที่ข่มตานอนไม่หลับ ด้วยความแค้นและความเจ็บใจ แต่ในที่สุดเธอก็ข่มตาหลับได้ แต่หลับอย่างไม่ค่อยเป็นสุขเท่าใดนัก สิ่งที่ทำให้เธอกลัดกลุ้มมากที่สุดในตอนนี้คือ 'ทำไมชั้นถึงแก้แค้น ยัยเกรนเจอร์ไม่สำเร็จนะ เพราะ อะไรกัน ทำไมมันถึงไม่เป็นอะไรเลย'....

    ...+*+*+...

    ตอนนี้ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยกลายเป็นบุคคลที่ทั้งโรงเรียนต่างให้การสนใจและเป็นหัวข้อการนินทาที่สนุกปากมากที่สุดของเหล่านักเรียนหญิงด้วย เพราะ ตั้งแต่ที่ฟลอร์เต้นรำเลือกให้พวกเขาเป็นคู่เต้นรำที่เหมาะสมกันที่สุด พวกเขาก็กลายเป็นนักเรียนหญิงและชายที่ป๊อบปูล่าร์ที่สุดในโรงเรียนไปโดยปริยาย ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสม หลายประการ อาทิเช่น ประการแรก รูปร่าง หน้าตาดีที่สุดในโรงเรียน ประการที่สอง นิสัยของมัลฟอยเป็นเอกลักษณ์ คือ ไม่ค่อยจะสนใจใคร เย็นชาและชอบกวนประสาท ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ส่วนนิสัยของเฮอร์ไมโอนี่นั้น เธอเป็นคนที่ขี้เล่น น่ารักและมีมนุษยสัมพันธ์ดี ซึ่งตรงกับสเป็กของหนุ่มๆ หลายคน...

    พวกเขามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เพราะ ในตอนนี้ฐานะของพวกเขาขยับเปลี่ยนไปจากเพื่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่มากกว่า นั่นคือ แฟน... และเมื่อพวกเขาเดินไปทางไหนนักเรียนแทบทุกคนต่างก็จะหลีกทางให้ และบรรดาสาวๆ ผู้ชื่นชอบมัลฟอย (แทบทั้งโรงเรียน) ก็จะกรี๊ดกันเสียงดัง หรือไม่บางคนก็จะพูดว่า "เค้าเพอร์เฟ็กทุกอย่างเลย หน้าตาก็ดี มีชาติตระกูล รวยก็รวย แถมยังนิสัยดีด้วยใจละลาย" ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ไม่เห็นด้วยเลยกับที่พวกสาวๆ บอกว่า เค้านิสัยดี...แต่เธอก็ยอมรับว่า เขานิสัยดีขึ้นกว่าเดิมมาก ส่วนเหล่านักเรียนชายผู้ซึ่งแอบปลื้มเฮอร์ไมโอนี่อยู่นั้น ก็มักจะไปหลิ่วตาให้เธอ หรือบางทีก็จะเดินเข้ามาพูดคุยกับเธอ แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่ามัลฟอยเดินมาด้วย พวกเขาจึงไม่สามารถเข้าถึงตัวเฮอร์ไมโอนี่ได้เลย

    ส่วนเหล่า 'เดรโกแฟนคลับ' นั้นก็ยังไม่เลิกจองเวรกับเฮอร์ไมโอนี่ซักที เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินผ่านกลุ่มพวกนี้ครั้งใด คนพวกนั้นก็มักจะส่งสายตามุ่งร้ายมาให้เธอเมื่อ และก็จะพึมพำบ่นอะไรไม่รู้จักหยุดปาก ซึ่งเธอก็บอกมัลฟอยหลายครั้งแล้วเรื่องนี้ แต่เค้าก็บอกว่า "ไอ้พวกนั้นก็คงแค่อิจฉาเธอล่ะมั้ง ก็คงจะแค่นินทาเธอนั่นแหละ" แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เชื่อ เพราะว่า 'คนอะไรจะนินทาได้ตลอดเวลา แถมคนที่เค้านินทาคนอื่นน่ะ เค้าจะไม่จ้องกัน แบบตาไม่กระพริบหรอก' เธอได้แค่คิดเท่านั้นและก็ต้องจำใจเชื่อเด็กชาย...

    ...- +To Be Continue+ -...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×