ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destiny Love (Hermione & Malfoy) by Peterpan

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 17 : The Decision [Chapter : 5]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.41K
      59
      21 เม.ย. 50






    ********5*********

    หัวรถจักรไอน้ำสีแดงจอดสงบนิ่งอยู่บนรางรถไฟพลางส่งเสียงครางต่ำ ๆ เป็นระยะ ควันสีขาวลอยกรุ่นออกมาเป็นทางยาวจากปล่องไฟสลับกับเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กและเสียงหีบหนัก ๆ ลากครูดไปบนพื้นทางเดิน - - ที่นี่คือชานชลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ ที่จอดประจำของรถไฟสายด่วนไปยังโรงเรียนสอนเวทมนตร์ฮอกวอตส์ บริเวณชานชลาในวันนี้คราคร่ำไปด้วยบรรดาเด็กนักเรียนจำนวนมากเหมือนดังทุกครั้งที่วันเปิดภาคเรียนมาถึง

    แฮร์รี่กับรอนกำลังช่วยกันลำเลียงหีบขึ้นไปบนขบวนรถโดยมีเฮอร์ไมโอนี่คอยรับของจากหน้าต่างตรงตู้นั่งของพวกเขา ขณะที่แฮร์รี่ก้มลงหยิบกรงเฮดวิกนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกจ้องมองเมื่อเงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นเดรโก มัลฟอยยืนอยู่ไกล ๆ โดยมีแครบและกอยล์ขนาบข้างเหมือนเช่นเคย รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เห็นแฮร์รี่เฉยไปพวกเขาจึงหันไปมองตามแล้วทั้งสองก็เห็นมัลฟอยที่กำลังส่งสายตาราวกับต้องการจะแผดเผาทุกคนตรงหน้าให้เป็นจุณ แต่เมื่อตาสีซีดคู่นั้นมองสบมาที่เฮอร์ไมโอนี่ เขาก็เบือนหน้าหนีแล้วเดินขึ้นรถไฟไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    "คงแค้นน่าดูเลยล่ะ หมอนั่น" รอนพูดด้วยน้ำเสียงสะใจแล้วก้มลงยกของต่อ

    "หวังว่าการที่พ่ออยู่ในคุกจะทำให้เขาคิดได้บ้างนะว่าถ้าขืนยังทำตัวอย่างนี้ต่อไปเขาต้องได้โซ่ล่ามขาในอัซคาบันเป็นมรดก - - น่าภูมิใจไหมล่ะ" แฮร์รี่ยื่นกรงเฮดวิกซึ่งเป็นสัมภาระอย่างสุดท้ายให้เฮอร์ไมโอนี่แล้วตบไหล่รอนให้เดินขึ้นรถไฟไปด้วยกัน

    เฮอร์ไมโอนี่ทิ้งตัวลงนั่งขณะรอให้เพื่อนทั้งสองเดินมายังตู้ของตัวเอง เด็กหญิงปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นแต่ไม่สามารถบังคับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาได้ - - ทั้งที่ตั้งแต่วันที่จากเขามาเธอก็สัญญากับตัวเองว่าจะร้องไห้เพียงวันนี้แล้วก็จะลืมเรื่องทั้งหมด ทว่าวันรุ่งขึ้นทุกครั้งที่นึกถึงเขาสัญญาที่เคยให้ไว้กับตัวเองอันนี้ก็พังทลายไปจนหมด ดวงตาว่างเปล่าของมัลฟอยเมื่อครู่ดูเหมือนจะยิ่งย้ำความเสียใจในครั้งนี้ที่ไม่มีทางหมดไปได้ง่าย ๆ ไม่มีทางที่เธอจะทำได้เหมือนเขา...

    ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!

    เสียงฝีเท้าของแฮร์รี่กับรอนใกล้เข้ามา เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัว เธอรีบเช็ดน้ำตาและพยายามบังคับสีหน้าให้เป็นปรกติ เด็กหญิงต้องฝืนทำอย่างนี้มาหลายวันแล้วเพื่อไม่ให้ใครต่อใครสงสัย

    แฮร์รี่กับรอนนั่งลงที่เก้าอี้และเริ่มคุยกันถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้ยินมาจากวิทยุเพื่อคาดเดาว่าเป็นฝีมือของลอร์ดโวลเดอมอร์หรือไม่ขณะที่รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากชานชลาโดยทั้งสองเพียงแต่กินขนมนิดหน่อยโดยไม่คำนึงถึงของแถมอีกแล้ว ดูเหมือนว่าเมื่อพวกเขาโตขึ้นก็เริ่มสนใจรูปร่างหน้าตาของตัวเองโดยไม่กินตามใจปากเหมือนเมื่อก่อน

    "ฉันว่าเด็กปีหนึ่งปีนี้มากขึ้นนะ" รอนว่า

    "พวกผู้ปกครองคงรู้แล้วว่าฮอกวอตส์เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดน่ะสิ" แฮร์รี่พูด

    "เพอร์ซี่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้หรอก"

    แฮร์รี่ตาเบิกกว้างที่อยู่ ๆ รอนก็พูดถึงพี่ชายคนนี้ของตัวเองขึ้นมา ทั้งที่เขาเคยบอกว่าเขายินดีจะมีพี่เป็นโทรลล์สมองกลวงเสียยังดีกว่ายอมรับว่าโลกนี้มีเพอร์ซี่อยู่

    "หมอนั่นพยายามเขียนจดหมายมาหาฉันอีกฉบับ" รอนมีสีหน้ารังเกียจ จดหมายฉบับก่อนหน้านี้เขาฉีกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและเรียกเพอร์ซี่ว่ายอดยี้งี่เง่า

    "เขาว่าที่จริงแล้วหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับทำหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของทุกคนคือกระทรวงเวทมนต์ ฮอกวอตส์เองก็ยังต้องรับความคุ้มครองจากกระทรวงอยู่ดี อย่าได้เชื่อพวกอาจารย์มากนักถ้ามันขัดกับกฎกระทรวงบางกฎ"

    "กฎกระทรวงอีกแล้วเหรอ! - - เขาคิดจะส่งยายคางคกหนังเหนียวมาสอนที่โรงเรียนอีกรึไง!" แฮร์รี่พูดเสียงดัง

    รอนส่ายหน้า

    "ปีนี้ยังไม่มีอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดมาหรอก แล้วคนในกระทรวงก็ไม่มีใครเสียสละมาอีกแล้วตราบใดที่ยังไม่มีใครรับผิดชอบสวัสดิภาพได้ เพราะกลัวว่าจะเป็นเหมือนอัมบริดจ์" เด็กชายพูดถึงอาการประสาทของคนที่เขาอยากจะสมน้ำหน้า

    "เฟร็ดกับจอร์จบอกว่าพวกเขาจ้างบุรุษพยาบาลคนหนึ่งให้คอยทำเสียงควบม้าตอนกลางคืนให้ยายนั่นสะดุ้งตื่นเป็นระยะจนกว่าจะออกจากโรงพยาบาลไป"

    แฮร์รี่มองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะพูด

    "ถึงนั่นจะยังน้อยไปก็เถอะ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันได้ยินมาตลอดหน้าร้อนนี้เลยล่ะ"

    ไม่กี่ชั่วโมงต่อมารถไฟก็เริ่มชะลอความเร็วลง เป็นสัญญาณเตือนว่าพวกเขากำลังจะถึงฮอกวอตส์ในไม่ช้า เมื่อรถไฟจอดสนิทสามสหายที่เปลี่ยนชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้วก็เดินลงรถไฟไปรวมตัวกันกับเด็กอีกหลาย ๆ คนที่เริ่มตั้งแถวกัน พวกเขาเห็นแฮกริดกำลังยุ่งอยู่ไกล ๆ คอยบอกให้นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งตั้งแถว และเดินนำชั้นปีอื่น ๆ ไปลงเรื่องลำเล็กที่จะพาพวกเขาไปยังฮอกวอตส์

    วันนี้ที่ฮอกวอตส์ดูเหมือนจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป แม้อาจารย์ทุกคนพยายามทำให้เหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นปกติ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ยังคงมีรอยยิ้มแจ่มใสให้ทุกคน ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็ยังมีท่าทีเคร่งขรึมเหมือนเมื่อก่อนและสุดท้ายคือศาสตราจารย์สเนปที่มีสีหน้าไม่เป็นมิตรกับใครรวมทั้งเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกเขาก็ทำท่าเหมือนแค้นเคืองกันมานาน แต่บรรดาเด็กนักเรียนต่างก็รู้ดีว่าแท้ที่จริงแล้วไม่ว่าใครก็ดูเหนื่อยอ่อนและหวาดระแวงมากขึ้น ฟิลช์ไม่แอบมายืนดูพวกเขาในพิธีสวมหมวกคัดสรรซึ่งจะเลือกเด็กให้ไปอยู่ตามบ้านต่าง ๆ แต่เลือกที่จะไปยืนอุ้มคุณนายนอร์ริสเงียบ ๆ ตรงทางเข้าออกห้องโถงใหญ่ราวกับว่าถ้ามีภัยขึ้นมาเขานี่แหละจะวิ่งออกไปก่อนคนแรก

    "เฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่" รอนเรียกเพื่อนขณะนั่งอยู่บนโต๊ะประจำบ้านต่าง ๆ เพื่อดูพิธีคัดสรร เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังทอดสายตาอย่างไร้จุดหมายรู้สึกตัวขึ้น

    "มีอะไรเหรอ" เด็กหญิงถาม - - เธอกำลังบังคับตัวเองไม่ให้หันหลังไปมองโต๊ะที่อยู่อีกฟากของห้อง...โต๊ะของบ้านสลิธีรินและเหตุผลที่เธอเลือกเก้าอี้ตัวนี้ก็เพราะจะได้หันหลังให้มัลฟอย ไม่ต้องบังคับสายตาให้ไม่มองเขา

    "ฉันล่ะอยากให้พวกนายมานั่งตรงนี้จริง ๆ" รอนพูดอย่างสะใจกับเพื่อนทั้งสอง

    "จะได้เห็นหน้าหมอนั่นให้ชัด ๆ ฉันว่ามัลฟอยดูซีดลงกว่าเดิมซะอีก คงกลุ้มเรื่องพ่อจนไม่เป็นอันกินอันนอน ถ้าหมอนั่นต้องกลายเป็นแฟเร็ดอีกละก็ต้องเป็นแฟเร็ดขนร่วงหมดตัวแน่"

    แฮร์รี่ไม่อยากพลาดภาพนั้น เขาหันไปมองทันทีผิดกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่กล้าแม้แต่จะขยับศีรษะไปด้านหลัง

    จริงอย่างที่รอนว่า วันนี้มัลฟอยดูไม่วางอำนาจเหมือนทุกครั้งทั้งที่มีตราพรีเฟ็คติดอยู่ตรงหน้าอก ไม่ทันไรมัลฟอยก็หันมาเห็นพวกเขาพอดี แฮร์รี่กับรอนไม่คิดจะหลบสายตาพวกเขาตีความหมายดวงตาของมัลฟอยไปว่าคงจะจ้องพวกเขากลับด้วยความแค้นเหมือนเมื่อตอนแรก แต่แท้ที่จริงแล้วเขากำลังมองแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังคงไม่หันมา เขารู้ว่าเธอคงเหมือนเขาคือพยายามลืมเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดแต่ที่เขารู้อีกอย่างก็คือ - - เขาทำไม่ได้!

    "ทุกอย่างคงจบแค่นี้แล้วล่ะ" รอนพูดพร้อม ๆ กับอาหารมากมายเริ่มปรากฏขึ้นบนจานทองตรงหน้าเป็นการบอกว่าพิธีคัดสรรจบแล้วและได้เวลาที่พวกเขาจะได้เอร็ดอร่อยกับอาหารเสียที

    คืนนั้นบรรดาเด็ก ๆ บ้านกริฟฟินดอร์ต่างมานั่งพูดคุยกันที่ห้องนั่งเล่นรวมแม้ว่าในปีนี้จะดูมีสีสันน้อยลงเพราะเฟร็ดกับจอร์จไม่อยู่แล้วแต่รอนก็ทำให้ทุกคนหายคิดถึงทั้งสองคนด้วยการเอาขนมที่ฝาแฝดฝากมาแจกให้กับเพื่อน ๆ ได้สนุกกันเหมือนทุกครั้ง

    "ฮา! เนวิลล์หูนายกางออกเหมือนช้างเปี๊ยบเลย" ดีน โทมัสชี้ขณะที่เนวิลล์เอามือโบกหูตัวเองไปมาอย่างสนุก

    "นายก็ปากอวบอิ่มเหลือเกินนะ" รอนบอกดีนที่ตอนนี้ปากของเขาขยายขนาดจนปิดคางไปหมด

    เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยให้เพื่อน ๆ ของเธอสนุกสนานไปโดยที่เธอก็พยายามหัวเราะไปกับพวกเขาบ้าง เมื่อถูกหันมามองกระทั่งตกดึกต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายเข้านอนที่ห้องของตัวเอง เหลือเพียงเธอที่เดินตรวจรอบ ๆ ห้องนั่งเล่นเป็นคนสุดท้ายในฐานะพรีเฟ็ค("เปิดเทอมพรุ่งนี้งานก็เริ่มพรุ่งนี้สิ" รอนว่า - - เขาก็เป็นพรีเฟ็คเหมือนกัน)

    เสียงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนแล้วเด็กหญิงหยิบนาฬิกาเรือนเงินที่มัลฟอยให้ไว้และเธอก็พกไว้ตลอดเวลาขึ้นมาดู เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เมื่อเห็นเข็มของมันนิ่งสนิท

    มันตายแล้ว....เหมือนกับหัวใจของคนที่ให้และคนที่รับมา

    To be continued+

    เอาล่ะจ้ะ ตอนนี้ก็เข้มข้นขึ้นทุกทีนะคะ
    ขอเอาใจคนชอบอ่านฟิกด้วยการมาอัพทุกวันละกัน
    อิอิ อ่านแล้วก้อคอมเม้นต์ด้วยเด้อออ

    แต๊งกิ้วหลายๆ จ้า

    ด้วยจิตคาราวะและนอบน้อม (เอิ้กๆๆ)
    เด็กผมฟู + ทั่น Peterpan

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×