ตอนที่ 7 : ✂- - - - - ฟิคอวดผี เทปที่ 5
- C h a p t e r 5 -
“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด และ แปด โอเค! แบบนั้นแหล่ะ...”
“อ่า... นี่คือที่จะเอาไปเต้นงานสานสัมพันธ์หรอครับ?” ลู่หานทรุดนั่งลงกับพื้นปาเก้ลื่นๆ รังกระดุมเสื้อนักเรียนของตัวเองถูกกระพือให้อากาศเย็นถ่ายเถเข้าไปในตัวที่ท่วมไปด้วยน้ำเหงื่อราวกับลูกหมาตกน้ำ ทันทีที่เขาเลิกและตัดสินใจมาที่ห้องชมรม เขาก็ถูกอาจารย์หัวหน้าชมรมคนสวยอัดท่าเต้นใหม่ให้เขาแบบกระหน่ำฉ่ำแฉะตั้งแต่สี่โมงครึ่ง กว่าจะได้หยุดพักก็ตอนนี้... หกโมงเย็นเป๊ะ!!
“อืม... ตอนนี้อาจารย์คิดออกแค่เพลงเดียวแหล่ะ ที่เราเต้นไปนี่ก็เป็นของผู้ชาย เพลง Suit & Tie” เพลงที่เปิดคลอไปด้วยตลอดตอนเขาซ้อมก็เป็นตัวบ่งบอกได้ดี ซาวด์ดนตรีอิเล็กโทรผสมอาร์แอนด์บีและบวกกับจังหวะป็อบน่าโยกอีกนิดหน่อย... ฟังแล้วเป็นเพลงที่ดูเหมาะกับโยกไหล่เบาๆ เต๊ะหน้าหล่อไปพลางในชุดสูทหรูอยู่ข้างฟลอร์ซะมากกว่ามาเต้นตายหอบกินเป็นอาแปะไชน่าทาวน์แบบนี้...
“ส่วนผู้หญิง... อาจารย์ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาเพลงอะไร ท่าก็เลยยังไม่ได้คิด” อาจารย์สาวว่า เธอเต้นตามจังหวะเพลงด้วยการเตะเท้าขวาไปข้างหน้าก่อนจะลากเข้ามาชิดพร้อมกับยกปลายเท้าซ้ายขึ้นเคาะที่ด้านหลัง แล้วกระโดดถอยหลังพร้อมกับวาดมือขึ้นข้างลำตัวเล็กน้อย “จริงๆแล้วแกะมาจากยูทูปนะเนี่ยเพลงนี้...” คำสารภาพของอาจารย์สาวทำเอาลู่หานหัวเราะก๊ากจนหางตาขึ้นริ้วรอย
“ผมก็นึกว่าอาจารย์คิดท่าเองซะอีก รู้งี้ผมขอลิงค์ยูทูปอาจารย์มาแกะเองซะยังดีกว่าอีก”
“เจ้าเด็กนี่! มีอาจารย์เอาไว้เป็นหัวหลักหัวตอรึไงยะ!?” อาจารย์สาวทรุดนั่งพัดหวี่ใส่หน้าของตัวเอง เสียงบ่นอุบอิบถึงพัดลมห้องชมรมที่แรงไม่ได้ดั่งใจเธอดังเคล้ากับ เสียงทรัมเป็ตที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงดัง Suit & Tie และเสียงกระพือเสื้อจากลู่หาน สมาชิกชมรมเพียงคนเดียวที่เข้าชมรมเป็นอาจิณ... ส่วนนอกนั้นน่ะเหรอ?
ก็มัวแต่เรียนหน้านั่นเรียนโน่นเรียนนี่อยู่ไง ไฮสคูลเกาหลีน่ะเรียนหนักจะตายไป... มาเรียนแต่เช้า เลิกเรียนเสร็จก็ต้องมีเรียนพิเศษต่อ เรียนพิเศษต่อก็ต้องกลับบ้านไปอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีได้เจียดเวลามาเข้าชมรมแบบนี้เท่าไหร่นักหรอก บางชมรมมีแต่ชื่อชมรม ชื่อสมาชิก ห้องชมรมนี่ร้างยิ่งกว่าสุสาน!
ลู่หานว่าประเทศเขาเรียนหนักมากแล้วนะ... พอได้แลกเปลี่ยนมาใช้ชีวิตไฮสคูลที่เกาหลีแบบนี้ สิ่งที่เขาเจอน่ะเรียกว่าขี้หมูขี้หมาไปเลย!! ยิ่งช่วงเวลานี้ใกล้ถึงงาน Double-SMT งานใหญ่ยักษ์ที่เป็นหน้าเป็นตาของเรียนชนิดที่ว่าหลบไม่ได้หนีไม่พ้นแบบนี้แล้วนั้น ไม่ต้องนอนกันล่ะ
เออ!! พอพูดถึงงานนั่น... ลู่หานก็นึกอะไรออก
“เอ่อ... อาจารย์คือผมจะบอกว่า”
“...?”
“เรื่องงานแสดงชมรมอ่ะครับ ผมอาจจะเข้าร่วมไม่ได้นะอาจารย์”
“เฮ้ย!! ได้ไงอ่ะลู่หาน? เธอจะโดดกิจกรรมเหรอ?”
ลู่หานเบะหน้าร้องเหวออกมา... เมื่อย้อนนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เขาพลาดงานแสดงของชมรมไปอย่างน่าเสียดาย และเริ่มสาธยายถึงเจ้าต้นเหตุที่ว่านั่น
ต้นเหตุที่ริดรอนอิสรภาพและโอกาสอันสว่างไสวเรืองรองในการส่องสาว SMT หมดสิ้น!
แน่ะ! ทำเป็นมอง ลู่หานเป็นผู้ชายก็ต้องมีเหล่สาวกันบ้างเป็นธรรมดาสิครับแหม่ะ...
- - - -
Last 3 Days
“...ทุกคนเงียบ!”
และแล้ววันนี้ก็มาถึง... วันประชุมใหญ่คณะกรรมการและทีมงานวันสานสัมพันธ์โรงเรียนมัธยมซูมาน และ SMT
วันนี้เป็นวันอาทิตย์... แทนที่ลู่หานจะได้หยุดนอนผึ่งพุงอยู่ที่บ้านสบายๆ กลับต้องมาอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของนักเรียนไฮสคูลปีสองจากทั้งโรงเรียนมัธยมซูมานของเขาเอง และ SMT
16 ห้อง สามร้อยกว่าชีวิต!
เสียงดุของประธานนักเรียนโรงเรียน SMT ที่ดังกระหึ่ม ไม่ได้ทำให้เสียงเจี๊ยวจ๊าวลดลงเลย ลู่หานถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตานั่งเรียงเป็นตับภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ของโรงเรียน SMT ที่ไม่คุ้นตา เก้าอี้สีแดงเลือดหมูที่ถูกออกแบบให้ไล่ระดับลงไปเป็นเนินถูกตัดด้วยสีเสื้อผ้าหลากหลายรูปแบบตั้งแต่เสื้อผ้าสีจัดจ้านเครื่องประดับพะรุงพะรังซะจนดูเหมือนต้นคริสมาสรกๆมากกว่านักร้องไอดอล ไปจนถึงเสื้อยืดเน่าๆที่มีรูขาดรูเบ้อเริ่มที่หลังเสื้อ
กูว่ามึงอย่าใส่เลยดีกว่ามั้ย... ลู่หานในชุดเสื้อยืดสีน้ำเงินกางเกงยีนส์ธรรมดานึกในใจพลางขยี้เปลือกตาด้วยความงัวเงีย
“โอ้ย~ ทำไมจะต้องนัดประชุมวันอาทิตย์ด้วยว้า~”
“เออ... ต้องแหกขี้ตามาเขียนอายไลน์เนอร์แต่เช้าเลย ง่วงชิบ”
“โอ้ย! ไอ้นี่ วันๆห่วงแต่จะอ่อยผู้ชาย ไอ้ตุ๊ด!”
“ตุ๊ดบ้านเตี่ยมึงดิมินซอก! อย่างกูเขาเรียกว่ามีเสน่ห์กับเพศเดียวกันโว้ย! เลิกบ่นแล้วนั่งนิ่งๆได้แล้ว จะนอน!” พยอนแบคฮยอนพูดอย่างไม่ได้ดูตัว พลางเอนซบไหล่คิมมินซอกที่กำลังหาวหวอดอย่างไม่อายฟ้าอายดิน
“ก็แล้วจะนอนดึกทำไมเล่า... บอกให้นอนก็ไม่นอน”
ลู่หานร้องฮะออกมาเบาๆเมื่อเสียงที่ค่อนแคะตบท้ายแบคฮยอนไม่ใช่ของจงแด แล้วเขาก็หายข้องใจเมื่อสายตาสบเข้ากับสายตาเป็นประกายวิบวับของเจ้าของเสียง ริมฝีปากเหยียดยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันเรียงตับขาวใสราวกับพรีเซนเตอร์ยาสีฟัน
“โอฮาโยะ ลู่หานซัง...”
ปาร์คชานยอล ห้อง D
“ไอ้บ๊อง!! ลู่หานเป็นคนจีนโว้ย!” แบคฮยอนหันไปตะคอกพร้อมกับประเคนผ่ามืออรหันต์ใส่หัวทุยๆของชานยอลเข้าโครมโต!
“เอ้า! ก็ฉันจะรู้มั้ยอ่ะ? เห็นลู่หานหน้าอาโนเนะเหมือนโซระ อาโออินี่นา”
“อาโออิมันนางเอกเอวี!” แบคฮยอนแถมให้อีกหนึ่งโครม จนชานยอลต้องหันมานั่งรับกรรมด้วยใบหน้าเจื่อน ได้แต่พึมพำว่าทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้
“อ่า... โอฮาโยะนะชานยอล เออ... แล้วทำไมวันนี้ถึงมากับแบคฮยอนได้อ่ะ?” คนที่ถูกปรักปรำว่าหน้าเหมือนนางเอกเอวีโบกไม้โบกมือทักทายพอเป็นมารยาท...
“ม... ไม่มีอะไร บังเอิญเจอกันระหว่...”
“เมื่อเช้าฉันไปรับมาน่ะ”
“เฮ้ย!! ไอ้บ้าเอ้ย” มินซอกร้องอ๋อ หันหน้ามาทางลู่หานและหัวเราะอย่างรู้กัน ปล่อยให้แบคฮยอนที่เผลอร้องแวดออกมาลงมือประทุษร้ายร่างกายชานยอลคนปากโป้ง
ก็นะ... ชานยอลตามจีบเพื่อนเขาอยู่นี่นา จริงๆแล้วไม่ต้องจีบแล้วล่ะ เพราะดูจากท่าทีแบคฮยอนก็เหมือนจะยอมรับชานยอลมาตั้งแต่ต้นเทอมปีสองแล้ว แต่คุณพยอนแบคฮยอนของพวกเขาเนี่ย ปากหนัก ทิฐิเยอะเป็นที่หนึ่ง! ไม่ยอมตกลงคบกันซักที... แถมยังเคยบอกอีกวะ “มีแฟนไม่ได้เว่ย เดี๋ยวเรตติ้งตก สู้ลู่หานไม่ได้” เฮอะ! ห่วงแรดอย่างเดียวจริงๆ พยอนแบคฮยอนเอ้ย!
“แล้วคยองกับพ่อมหาล่ะ?” จู่ๆแบคฮยอนก็หยุดฟาดชานยอลแล้วหันมาถามพวกเขาทั้งสองคน ชานยอลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างรอดตาย แต่แล้วก็ถูกฟาดซ้ำลงไปที่หน้าท้องจนชานยอลร้องจ๊าก... ไม่แน่อีกหน่อยชานยอลอาจจะทนเป็นกระสอบทรายให้แบคฮยอนไม่ไหวแล้วหายไปเองก็ได้ แต่กว่าวันนั้นจะมาถึงก็คงอีกนานอ่ะ
ก็แอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางลอบท้องปอยๆแบบนั้นอ่ะนะ
“นั่นไง!” มินซอกยักไหล่พลางมองไปทางฝั่งของชานยอล เป็นคิมจงแดกับโดคยองซูที่เดินแทรกเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทางรีบเร่ง จงแดที่สบตาเข้ากับมินซอกพอดีโบกมือไหวๆให้ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้ายังเก้าอี้สองตัวที่ถูกแบคฮยอนวางข้าวของจองไว้ตามประสาคนรักเพื่อน
“อ้าว... ปาร์คชานยอล” จงแดใช้นิ้วชี้ขยับแว่นสายตากรอบกลมขึ้นแล้วจึงนั่งลง
“หวัดดีจงแด มินซู...”
“เพื่อน-ฉัน-ชื่อ-คยอง-ซู!” แบคฮยอนเน้นคำ แหงแซะว่าปาร์คชานยอลโดนโบกเข้าให้อีกหนึ่งดอก!
นี่คนหรือกระสอบทรายของไมค์ ไทสัน?
“แบคฮยอนอา! อย่าไปทำชานยอลเขาสิ ว่าแต่... นี่ยังไม่เริ่มประชุมใช่มั้ย?” คยองซูว่า
ปุ ปุ ปุ!
“รบกวนเพื่อนช่วยเงียบกันซักนิดนะครับ”
“Hey guys! Silence!”
ลู่หานเพ่งสายตาลงไปยังเวทีที่อยู่ตรงแถวสุดท้ายของเนินเก้าอี้ คนกลุ่มนึงที่คาดว่าเป็นเหล่าประธานรุ่นของทั้งสองโรงเรียนเดินควักไคว่ไปทั่วเวที โดยมีสองหนุ่มและอีกหนึ่งสาวที่กำลังถือไมโครโฟนเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนร่วมรุ่นที่นั่งกับจนแทบจะล้นห้องประชุม แต่ที่เขาสนใจ...ก็คือคนที่เพิ่งจะโฟ่วภาษาอังกฤษใส่ไมโครโฟนไปนั่นเอง
“โอเค เงียบได้ที่ละ เริ่มแนะนำตัวเลยล้ะกัน... ผมจองยูควอน ประธานรุ่นปีสองของซูมานนะครับ”
“ชิมยอนฮวา ประธานปีสอง SMT ภาคสามัญค่ะ”
“I’m Kevin Wu, Grade 11’s President” เสียงทุ้มแนะนำตัวห้วนๆจบ ก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดดังของสาวๆแทบทั้งห้องประชุม ร่างสูงชะลูดกระตุกยิ้มหล่อที่แทบจะทำสาวๆกลิ้งคลุกๆลงไปกองกันหน้าเวที มีเพียงประธานฝั่งสามัญที่ทำตาขวาง เสียงบ่นของเธอที่แอบเล็ดลอดเข้าไมค์จับใจได้ว่า พูดภาษาเกาหลีก็ได้นะอี้ฟาน!
“คนนั้นใครอ่ะ แบคฮยอน?”
“ฮึ! เควินน่ะหรอ? ประธานรุ่นภาคอินเตอร์ ชื่อเต็มๆคืออู๋อี้ฟาน อยู่ห้อง B เป็นลูกครึ่งจีน-แคนาดา รวยมากๆ ดีกรีอันดับที่สองของชาร์ตหนุ่มป็อบประจำรุ่นเลยนะ” แบคฮยอนอธิบายด้วยแววตาแพรวพราว... มินซอกเบะปากส่ายหน้าให้คนด้านข้าง พยอนแบคฮยอนน่ะไม่ได้เรื่องอะไรซักอย่างยกเว้นอยู่สองเรื่องคือร้องเพลงกับการส่องชาวบ้านไปวันๆ ยิ่งเป็นคนของ SMT เนี่ยนะ อยากรู้จักมักจี่กับใครขอให้ถามเจ้านี่... รู้ดียันโคตรเหง้าศักราช ที่อยู่ เบอร์โทร ไปจนกระทั่งไซส์รองเท้า ยิ่งกว่าซาแซงแฟนของเหล่าไอดอลซะอีก!! รู้ไปหมด รู้ทุกความเคลื่อนไหว จนแทบจะโดนซูฮกให้เป็นสารานุกรม SMT ไปแล้วนะเนี่ย...
“...พ่อเป็นเจ้าของธุรกิจซอฟท์แวร์ที่แคนาดา แม่เป็นนางแบบฟรีแลนซ์แล้วก็ปักหลักอยู่ที่เกาหลีกับลูกชายสองคน แต่น่าเสียดายมีแฟนแล้ว ชื่อจางอี้ชิง...” แบคฮยอนหรี่ตาเบะปากตามความรู้สึกแล้วเสริมว่า “คนนี้ไม่รู้ประวัตินะ รู้แต่เป็นคนจีน แล้วก็เป็นผู้ชายด้วย!”
“ใครอยากรู้เยอะขนาดนี้ล่ะแบคฮยอน... กูไม่ได้จะไปแข่งแฟนพันธุ์แท้ผู้ชาย SMT แบบมึงนะเว่ย” แหม่... ถ้าจะรู้ดีขนาดนี้ บอกไซส์กางเกงในมาด้วยเลยมั้ย?!
“เอ้า... ใครจะไปรู้” แบคฮยอนยักไหล่
“เราจะมาว่ากันถึงละครเวทีของเราก่อนนะเพราะว่าเรื่องนี้สำคัญสุดแล้ว เดี๋ยวให้ยูควอนเป็นคนอธิบายแล้วกันนะครับ” แม้ว่าพ่อหนุ่มลูกครึ่งจะพูดภาษาเกาหลีด้วยสำเนียงประหลาดแต่ก็ไม่ได้สั่นคลอนให้เสียงกรี๊ดลดลงได้เลย... อู้ย! จะป็อบอะไรขนาดนั้นพ่อคุณเอ้ย!!
“โอเค แต๊งกิ้วเวรี่มัชครับเควิน... เรื่องละครเวทีกรรมการรุ่นทั้งสองโรงเรียนก็ได้คุยกันแล้วนะครับว่าจะใช้นิยายวัยรุ่นเบสท์เซลเลอร์ของเพื่อนเรามาทำละครเวที ซึ่งก็คือเรื่อง ‘ปิ๊งรักกลับขั้วของยัยตัวน่ารัก’ ของโกฮารา SMT ภาคสามัญห้อง E นะครับ” เสียงฮือฮาดังขึ้นเมื่อประธานรุ่นเอ่ยถึงชื่อนิยายที่จะใช้ทำละครของพวกเขาในปีนี้... หรือแม้แต่ตัวลู่หานเอง
นิยายเรื่องนี้น่ะมันเป็นเบสท์เซลเลอร์หมวดนิยายวัยรุ่นอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆนะ ขนาดลู่หานเองก็ยังเคยอ่านแล้วก็ชอบอยู่พักใหญ่... นอกจากจะดังด้วยสำนวนการแต่งแล้ว ก็ยังดังเพราะเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตามแล้วก็ตีตลาดได้ทั้งนักอ่านสาววัยใสและนักอ่านสาววายอีกต่างหาก เฮอะ! ทำไมน่ะเหรอ... ก็เพราะแม่นางเอกที่ถูกแม่มดสาปให้กลายผู้ชายแล้วต้องเอาร่างตัวเองที่กลายเป็นผู้ชายไปตามหาความรักให้ตัวเองและคนอีกสี่คนเนี่ยน่ะสิ มันทั้งลุ้นทั้งเขินจนไส้บิดไปหมด
“เรื่องบทละครเพื่อนๆไม่ต้องซีเรียสกันนะครับ เพราะว่าฮาราคนเขียนเขาอาสาเขียนบทละครให้เราและเราก็จะมีการออดิชั่นคัดนักแสดงบางส่วนด้วย ซึ่งก็จะจัดในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้านะ... บทที่จะเปิดให้ออดิชั่นก็คือบทของแม่มด บทเพื่อนนางเอก เพื่อนพระเอก ยังมีบทอื่นๆอีกนะ มีตัวประกอบ นักเต้นอีก เดี๋ยวเย็นนี้เราจะไปชี้แจงในเพจเฟสบุ๊คสต๊าฟงานสานสัมพันธ์ไว้ให้ ใครที่ยังไม่ไปกดไลค์เพจก็ไปกดกันด้วยนะ! สำคัญมาก!! ส่วนใครที่อยากรู้ว่ามีบทอะไรเพิ่มเติมบ้าง กลับบ้านไปก็ลองไปหาปิ๊งรักกลับขั้วอ่านดู”
“สำหรับบทพระเอกนั้นตอนแรกเราก็ล็อกบทไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแจฮีสุดหล่อของ SMT นะครับ แต่ว่า... เกิดเหตุนิดหน่อยอย่างที่หลายๆคนน่าจะทราบกันนะ เลยทำให้เราอาจจะต้องออดิชั่นบทพระเอกด้วย แต่! มีแต่ด้วยนะ... ที่เราออดิชั่นบทพระเอกเนี่ยก็คือให้เป็นนักแสดงสำรองในบทพระเอกเท่านั้นนะครับ”
“แจฮีนี่ใครอ่ะ? แล้วเกิดอะไรขึ้นวะแบคฮยอน?”
“โอ้ย! ลู่หาน มึงนี่จะอยากรู้อะไรเยอะแยะวะฮะ?”
“เออน่า! บอกมาเร็วๆ” แบคฮยอนกรอกตา
“ก็แจฮี SMT ห้อง A ภาคอินเตอร์ที่เป็นเน็ตไอดอลไง คนนี้ที่เป็นอันดับหนึ่งของชาร์ตหนุ่มป็อบประจำรุ่นไง ส่วนไอ้เหตุที่ว่าเนี่ยก็คือ เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วอ่ะมีข่าวรั่วออกมาจากอาจารย์ที่ SMT ว่าแจฮีเข้าโรงพยาบาล หลังจากหายไปห้องเรียนได้เกือบสองเดือน! คือ...ทั้งโรงเรียนไม่มีใครรู้เลยนะ พวกแฟนคลับก็ไม่รู้เรื่องกัน แล้วที่นี้ข่าวมันก็ยิ่งรั่วออกมาหนักขึ้น ว่าแจฮีน่ะเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ได้เกือบเดือนแล้ว!”
“เฮ้ย! จริงเด่ะ... ตั้งสองเดือนทำไมข่าวมันมาช้าจังเลยอ่ะ” มินซอกเริ่มสนใจ เขาหันไปหาแบคฮยอนและเริ่มที่จะไม่ฟังเสียงจากลำโพง
“อืม แล้วที่นี่ประเด็นมันอยู่ที่ เรื่องที่กูพูดเมื่อกี้นี้อ่ะ เป็นจริงหมดเลย... มีแฟนคลับตามสืบ แจฮีเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาลประจำเขตของเราเนี่ย! แล้วที่นี้ก็เหมือนแบบว่าแฟนคลับเริ่มไปเค้นเอาความจริงจากเพื่อนสนิทเขาอ่ะ ก็เลยยอมรับหมดเลยว่าแจฮีเป็นเจ้าชายนิทราจริงๆ แล้วที่ไม่มีใครรู้เรื่องเลยก็เพราะแม่ของแจฮีขอร้องไว้ แล้วก็จ่ายเงินปิดปากผอ.และอาจารย์ทุกคนในโรงเรียนจนสนิท!”
“โอ้โฮ!!! นี่มันนิยายชัดๆเลยอ่ะมึง” ลู่หานถลึงตาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน... เงินนี่ทำได้ทุกอย่างจริงๆเลยงั้นสิ! เขาล่ะไม่เข้าใจวิถีคนรวยเลยจริงๆ แต่ก็ช่างเถอะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาซะหน่อย
กรี๊ด~~~~~~~~~~~~~~~~~~!!!
แล้วจู่ๆเสียงกรี๊ดที่กระหึ่มเสียยิ่งกว่าตอนเควินอะไรนั่นพูดใส่ไมค์ก็ดังกลบไปทั้งหอประชุม!! ทำเอาสติของร่างเพรียวที่กำลังจดจ่ออยู่กับเรื่องของพ่อพระเอกละครอะไรนั่นหมดลง และที่ยิ่งไปกว่านั้น...
คนทั้งหอประชุมกำลังมองมาที่ลู่หานเป็นตาเดียว รวมถึงจงแด คยองซู และปาร์คชานยอลนั่นด้วย...
“อะไรวะ?” ลู่หานงึมงำ มองหน้าแบคฮยอนและมินซอกสลับกันไปมาซึ่งดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะให้คำตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเกิดบ้าอะไรขึ้น!!
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ดูเหมือนลู่หานของเราจะไม่ได้ยินนะครับ งั้นผมจะอธิบายใหม่นะ คือตามท้องเรื่องเนี่ย นางเอกของเราจะต้องโดนสาปกลายเป็นผู้ชายตลอดทั้งเรื่องเลยใช่มั้ยล่ะครับ ความพิเศษของเราก็จะอยู่ที่ว่าเราจะใช้นางเอกด้วยกันถึงสองคนจากทั้งสองโรงเรียน ซึ่งก็คือปาร์คโชรงคนสวยจาก SMT รับบทนางเอกในเวอร์ชั่นผู้หญิงนะครับ ขอเสียงกรี๊ดให้โชรงอีกรอบนะครับ!”
“เออ โชรงก็น่ารักดีนะเว่ย กูเองยังปลื้มเลย” ลู่หานหันไปเออออกับมินซอกพลางสอดส่ายสายตาหาคนที่รับบทนางเอก แต่ลู่หานหารู้ไม่เลยว่า...
“และบทนางเอกในเวอร์ชั่นผู้ชายซึ่งก็คือ ลู่หานผู้มาดแมนและแฮนด์ซั่ม จากซูมานนั่นเองครับผม”
- - - -
“มันก็อย่างนี้แหล่ะครับอาจารย์...”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลู่หานคนแมนของอาจารย์ได้เล่นเป็นนางเอกเหรอเนี่ย!”
“ง่า... นึกอีกก็อยากจะไปลาตาย ให้แก้ผ้ายังดีกว่าอีกอ่ะอาจารย์!”
“งั้นแก้ตอนนี้เลยมั้ย?”
“อาจารย์อ้ะ!!” ลู่หานล้มตัวลงนอนกับพื้นปาเก้ด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียด... นี่แม้แต่อาจารย์ยังไม่เข้าข้างเขาเลย!
“อาจารย์ก็อ่านนิยายเรื่องนี้ อาจารย์ยังจิ้นเธอเป็นนางเอกเลยนะ! นี่ถ้าได้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาล่ะก็จะไม่แบ่งบทให้แม่หนูโชรงไปหรอก ให้เธอเล่นควบทั้งบทผู้หญิงผู้ชายเลยยังจะเวิร์คกว่า” อาจารย์สาวโบกมือหยอยๆ
“ฮือ~~~~~~~~~~ ไม่อยากเล่นอ่ะอาจารย์ ให้ผมมาเต้นกับที่ชมรมยังดีกว่าอีก!”
“ไม่ได้นะ!! เธอต้องเล่นนะลู่หาน อาจารย์จะไปซื้อตั๋วไปดูเธอแน่นอน จะบอกให้เพื่อนอาจารย์มาดูด้วย เออ! เดี๋ยวแอบพกกล้องติดเข้าไปด้วยดีกว่า จะได้เก็บไปฟินที่บ้านต่อ... ลูกศิษย์ฉันรับบทเด่นซะขนาดนี้ เออว่าแต่...
เธอเห็นหน้าพระเอกรึยังน่ะลู่หาน? ถ้าไม่หล่อต้องขอเปลี่ยนนะ เดี๋ยวไม่ฟิน...”
“ฮือ~~~~~~~~~~~ แม่จ๋า ลู่หานจะบ้าตาย แง~~~~~~~”
ไอ้ออร่าสีม่วงอร่ามจากตัวอาจารย์นี่มันอะไรวะ!? นี่มันจะม่วงทั้งแผ่นดินกันแล้วรึไง ยู้ฮู~ สาวไม่วายยังมีอยู่มั้ย? แสดงตัวให้ลู่หานชื่นใจหน่อยสิแหม่ อร๊าก!!!! แม่จ๋าช่วยด้วย ลู่หานจะสำลักความม่วงตาย!
ตอนนี้บอกได้เลย คำเดียว... คำเดียวจริงๆ
พับผ่า!!!!!!!!!!!!!!
เม้าท์;
A: ม้าอะไรสีแดง?
B: ม้า-เขือ-เทศ~~~~~
A: ผิด!!
B:ม้า-ม่วง-แรด
A:ผิด!!
B: ม้า-บอย?????
A:ผิด!!
B: เชี่ยยย แล้วม้าอะไรวะ?! ยอมและๆ
A: เฉลยนะ
B: เอออ เร็วๆ
A: ม้า-บ้าน-มึง-สิ-สี-แดง!!!!!!!
B: ฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึฮึ /ลับมีด
บัวบึ๋ยรักคนอ่านนะ จุ๊บ <3
#บลมน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ละใครเป็นพระเอกหนอ
55555555
มาต่ออีกน้าคะ