ตอนที่ 6 : - { Behind the illusion } - // บทที่ ๐๕ : ประตูของเส้นทางความฝัน
ในวันต่อมาทางด้านกองถ่ายละคร ‘Beauty Girl’ ที่วันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ทีมนักแสดงแต่ละคนจะนั่งประจำอยู่ที่เก้าอี้หน้ากระจกเพื่อให้ช่างแต่งหน้าทำผมได้จัดการเซตความสวยความหล่อให้อย่างทุกครั้งโดยที่แต่ละคนก็ไม่ลืมที่จะเอาบทมานั่งอ่านในขณะที่ช่างกำลังแต่งหน้าผมอยู่
ไลน์!~
ในขณะที่เจสสิก้ากำลังนั่งอ่านบทพร้อมกับให้ช่างทำผมให้เสียงไลน์ก็เตือนขึ้นเจสสิก้าจึงเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อคแล้วเปิดอ่านข้อความที่ซอฮยอนลงมาให้
ซอจูฮยอน : พี่สิก้าคะฉันมีข่าวดีจะบอกแหละ > <
เจสสิก้าจอง : ข่าวดีอะไรกัน?
เมื่อเปิดอ่านข้อความของซอฮยอนเจสสิก้าก็อดจะขมวดคิ้วไม่ได้ด้วยความสงสัยก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
ซอจูฮยอน : คือวันนี้ฉันจะได้ไปแคสติ้งในละครเรื่อง ‘My Lady Girl’ ด้วยแหละ กรี๊ดดดดดดด > <
เจสสิก้าจอง : Wow! น่ายินดีจังแล้วตอนนี้เราอยู่ไหนแล้วล่ะ?
ซอจูฮยอน : อยู่บ้านค่ะกำลังรอให้ชานยอลมารับ
เจสสิก้าจอง : แล้วเราจะเริ่มแคสติ้งตอนไหนล่ะ?
ซอจูฮยอน : ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่คงอาจจะประมาณตอนเที่ยงมั้งคะ
เจสสิก้าจอง : แล้วทำไมรีบไปจังเลยล่ะ?
ซอจูฮยอน : ก็จะได้ไปเตรียมตัวก่อนไงคะพี่ก็รู้ว่าฉันชอบทำเสียเรื่องเวลาตัวเองตื่นเต้น T^T
เจสสิก้าจอง : อ่อออออออออ..งั้นถ้าพี่ถ่ายละครเสร็จเร็วจะไปให้กำลังใจนะ ^_^
ซอจูฮยอน : รักพี่สิก้าที่สุดเลย!!
ซอจูฮยอน : ยังไงฉันไม่กวนพี่แล้วดีกว่าพี่จะได้รีบถ่ายละครแล้วมาให้กำลังใจฉันนะคะ ^_^
เจสสิก้าจอง : จ้า
“ยิ้มอะไรของแก?” หลังจากที่การโต้ตอบผ่านทางไลน์ของเจสสิก้ากับซอฮยอนจบลงแทยอนที่สังเกตสีหน้าของเจสสิก้าเป็นระยะก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“อ๋อ! ซอฮยอนส่งไลน์มาบอกว่าวันนี้จะไปแคสติ้งละครน่ะน่าดีใจเนอะ J” เจสสิก้าตอบคำถามของแทยอนพลางส่งยิ้มไปให้
“จริงดิ? ไม่น่าเชื่อเลยอ่ะฉันว่าแกเคยบอกว่าซอฮยอนเรียนมาได้แค่ไม่กี่ปีไม่ใช่เหรอ?” แทยอนถามต่อ
“อื้ม! แต่ซอฮยอนตั้งใจกับวงการนี้มากนะแล้วท่าทางผู้จัดคงจะเห็นแวววันนี้แกมีถ่ายกี่ซีนอ่ะ?” เจสสิก้าตอบก่อนจะถามต่อ
“อืม...รู้สึกจะมีสามนะ” แทยอนตอบในขณะที่ลองเปิดดูบท
“ถ้าวันนี้ถ่ายเสร็จเร็วแกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยดิ” เจสสิก้าบอกเชิงขอร้อง
“ไปไหน?” แทยอนถามพลางเลิกคิ้วสูง
“ก็ไปให้กำลังใจซอฮยอนไง ^_^” เจสสิก้าบอกพลางส่งยิ้มไปให้
“แหม่...ทำตัวเหมือนเป็นผู้ปกครองเลยนะที่ต้องไปนะให้กำลังใจเนี่ย” แทยอนบอกแกมแซวแต่เจสสิก้าก็ไม่ใส่ใจอะไรก็แค่ไหวไหล่ให้แทยอนอย่างกวนๆ
ทางด้านของซอฮยอนที่ในตอนนี้ชานยอลก็พาเธอมาอยู่ภายในห้องๆหนึ่งซึ่งเป็นห้องสำหรับรับรองคนที่จะมาแคสติ้งในบทต่างๆ
“ทิฟฟานี่ยังไม่มาอีกเหรอ?” ซอฮยอนพูดขึ้นพลางกวาดสายตามองหาเพื่อนร่วมคลาสเรียนอย่างทิฟฟานี่แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอ
“คงงั้น” ชานยอลตอบอย่างไม่แคร์ก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นเสียบเข้ากับหูของตนพลางเชื่อมสายหูฟังกับโทรศัพท์ต่อก่อนจะเปิดเพลงฟังเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลาย
“ชานยอลนายไม่ตื่นเต้นอะไรบ้างเหรอ?” ซอฮยอนถามชานยอลที่เหมือนจะมีท่าทางไม่ตื่นเต้นอะไรเลยสักนิดแต่เหมือนชานยอลจะไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูดซอฮยอนจึงดึงสายหูฟังข้างหนึ่งของชานยอลก่อนจะถามกลับด้วยคำถามเดิม
“นี่! ฉันถามนายว่านายไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ?”
“คนบ้าที่ไหนกันจะไม่ตื่นเต้น” ชานยอลตอบซอฮยอนเสียงเรียบ
“นี่คือนายกำลังตื่นเต้น?” ซอฮยอนถามพลางเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจทั้งที่ท่าทางของชานยอลมันดูสบายเกินกว่าจะมีความตื่นเต้นไม่เหมือนกับเธอหรอก
“ก็ใช่อ่ะดิ” ชานยอลตอบ
“ตรงไหนกันเนี่ย? ฉันดูไม่เห็นจะออกเลยสักนิด” ซอฮยอนถามเชิงเถียงจนชานยอลอดจะลงโทษโดยการเจกมะเหงกให้กับซอฮยอนไปหนึ่งที
“โอ๊ะ! นายจะมาเขกหัวฉันเพื่อ?” ซอฮยอนร้องออกมาก่อนจะเอ่ยถามพลางถลึงตาใส่
“ก็เธอถามมากนี่นาฉันกำลังจะทำสมาธิ” ชานยอลตอบพลางไหวไหล่เล็กน้อย
“ฉันผิดงั้นเหรอ?” ซอฮยอนถามซึ่งชานยอลก็พยักหน้าก่อนจะแย่งสายหูฟังข้างที่ซอฮยอนดึงออกเสียบเข้ากับหูของตนเหมือนเดิม
“ชิ! ไอชานยอลคนบ้า” ซอฮยอนจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะเปิดปากบ่นชานยอลพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดฆ่าเวลาเล่นเพราะยังเหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มการแคสติ้ง
“ทำไมพวกเธอมาแล้วไม่บอกฉันล่ะ!?” เวลาผ่านไปเพียงแค่ห้านาทีทิฟฟานี่ก็เดินทางมาถึงในห้องรับรองสำหรับคนมาแคสติ้งพอเธอย่างก้าวเข้ามาภายในห้องรับรองนี้ก็พบกับคนอื่นๆก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับซอฮยอนกับชานยอลที่นั่งอยู่ด้วยกันเธอจึงก้าวเดินฉับๆเข้าไปหาแล้วเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“อ้าว? ก็ฉันคิดว่าเธอจะมาเองนี่นาขอโทษนะ” ซอฮยอนเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ก่อนจะตอบคำถามของทิฟฟานี่
“กองไว้ตรงนั้นแหละ” ทิฟฟานี่บอกพลางเชิ่ดหน้าอย่างเย่อหยิ่งก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆซอฮยอนพลางยกขาขึ้นไขว่ห้าง
“เธอจะพูดจากับฉันดีๆบ้างไม่ได้เหรอ?” ซอฮยอนถามพลางเลิกคิ้วสูง
“มันจำเป็นด้วยหรือไงกัน? ยังไงเธอกับฉันก็ไม่ได้สนิทอะไรกันเสียหน่อย” ทิฟฟานี่บอกพลางเลิกคิ้วสูงอย่างกวนประสาท
“งั้นเรามาสนิทกันมั้ยล่ะ? J” ซอฮยอนถามพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรไปให้
“ไม่ล่ะฉันไม่ชอบพวกเฉิ่มเบ๊อะแบบเธอ” ทิฟฟานี่บอกอย่างไม่แยแสก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องสวยขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาทิ้งให้ซอฮยอนมองเธอด้วยแววตาหงอยๆเล็กน้อยก่อนจะเลิกสนใจไป
“วันนี้ถ่ายเสร็จเร็วกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะเนี่ย” เจสสิก้าพูดขึ้นในขณะที่กำลังเก็บของเนื่องจากวันนี้เริ่มการถ่ายทำเร็วกว่าทุกวันแล้วทุกคนก็ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีทำให้การถ่ายทำในวันนี้ลื่นไหล
“นั่นสิแบบนี้ฉันจะได้มีเวลาออกไปรีแลกซ์เหมือนคนอื่นๆสักที” แทยอนบอกด้วยน้ำเสียงติดดีใจเล็กน้อยในขณะที่เธอก็กำลังเก็บของเช่นกัน
“แต่ก่อนที่แกจะไปรีแลกซ์ช่วยกรุณาขับรถไปส่งฉันที่ตึก BX ด้วยนะ” เจสสิก้าบอกเชิงเตือนสติเพื่อนของตัวเอง
“ว๊า! ขี้เกียจอ่ะฉันอยากจะไปรีแลกซ์เต็มทีแล้วอ่ะดิทำไมแกไม่หัดขับรถซะบ้างนะ” แทยอนบอกอย่างเซ็งๆก่อนจะเปิดปากบ่นเพื่อนของตัวเอง
“ช่างมันเถอะน่าแต่แกพูดแบบนี้คือจะไปส่งมะ?” เจสสิก้าตอบอย่างปัดๆก่อนจะถามต่อ
“ให้มาร์คไปส่งสิ มาร์ค! นายมีคิวจะไปไหนต่อหรือเปล่า?” แทยอนตอบเจสสิก้าก่อนจะหันไปถามมาร์คที่กำลังเก็บของอยู่เช่นกัน
“ไม่มีหรอกครับ” มาร์คตอบแทยอนโดยที่มือก็ยังคงเก็บของใส่กระเป๋าเหมือนเดิม
“งั้นดีเลยช่วยไปส่งสิก้าที่ตึก BX ทีสิ” แทยอนบอกแกมสั่งมาร์คกลายๆ
“ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้องหรอกนะพี่ไม่อยากรบกวน” เจสสิก้าบอกมาร์คที่นิ่งไปครู่หนึ่ง
“งั้นฉันไปส่งให้มั้ยล่ะ?” แต่ยังไม่ทันที่มาร์คจะตอบอะไรจู่ๆเซฮุนก็เดินเข้ายืนอยู่ระหว่างแทยอนกับเจสสิก้าก่อนจะเปิดปากพูด
“ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวฉันหารถไปเองก็ได้” เจสสิก้าตอบเชิงปฏิเสธพลางส่งยิ้มบางๆไปให้
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่ายังไงทางที่ฉันจะไปก็ผ่านตึก BX อยู่แล้ว” เซฮุนบอก
“งั้นก็ตกลง” เจสสิก้าตอบพลางส่งยิ้มบางๆไปให้ก่อนจะหันไปเก็บของอย่างสุดท้ายพลางปิดกระเป๋าก่อนจะหยิบมันขึ้นมาสะพายไหล่ข้างขวาแล้วเดินตามเซฮุนออกไปโดยไม่ลืมจะโบกมือลาแทยอนกับมาร์ค
“อะไรของนายกันเนี่ย!!” เมื่อเจสสิก้าเดินออกไปพร้อมกับเซฮุนแล้วแทยอนก็รีบหันไปดุมาร์คเล็กน้อยส่งผลให้คนอายุน้อยกว่าเกิดความงุนงง
“ครับ?” มาร์คถามคนอายุมากกว่าอย่างไม่เข้าใจในความหมายที่แทยอนสื่อให้เขารู้
“ทำไมนายถึงไม่ตอบรับให้มันเร็วๆหน่อยล่ะดูสิเซฮุนได้ทำคะแนนเลยเห็นมั้ย!” แทยอนบอกแกมดุมาร์คชุดใหญ่
“พี่แทยอนกำลังพูดถึงเรื่องอะไรครับ?” มาร์คที่เหมือนจะยังไม่เข้าใจจึงเอ่ยถามแทยอนออกไปตรงๆ
“พี่รู้นะว่านายน่ะชอบเจสสิก้าพี่ก็เลยอุตส่าห์ช่วยให้นายได้ใกล้ชิดกับเจสสิก้ามากขึ้นนะเนี่ยแต่นายกลับทิ้งโอกาสไปซะงั้นอ่ะน่าหงุดหงิดเป็นบ้าเลย!” แทยอนบอกเชิงอธิบายให้คนอายุน้อยกว่าได้เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังจะสื่อเสียที
“พี่รู้งั้นเหรอ?” มาร์คถามกลับด้วยสีหน้าอึ้งๆเล็กน้อย
“ก็ใช่น่ะสิ” แทยอนตอบ
“แล้วพี่รู้หรือเปล่าว่าพี่เซฮุนก็ชอบพี่สิก้าเหมือนกัน?” มาร์คถามแทยอนต่อ
“เรื่องนั้นพี่ก็รู้แต่เซฮุนดูเย็นชาเกินไปซึ่งพี่ไม่ชอบเลยไม่อยากเชียร์อีกอย่างยัยสิก้าไม่ว้อนท์คนแบบอิตาบ้านั่นหรอก” แทยอนบอกเชิงอธิบายให้มาร์คฟัง
“ค่อยโล่งหน่อย” มาร์คบอกพลางถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยให้แทยอน
“พี่ถามนายจริงๆนะแล้วช่วยตอบออกมาตรงๆอย่างลูกผู้ชายด้วย..นายชอบเพื่อนพี่จริงๆใช่มั้ย?” แทยอนบอกเชิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครับ..ผมชอบพี่สิก้าตั้งแต่แรกแล้วล่ะ” มาร์คก็ตอบแทยอนด้วยน้ำเสียงจริงจังและจริงใจจนแทยอนรู้สึกได้
“งั้นก็ดีเรื่องนี้เดี๋ยวพี่ช่วยเอง J” แทยอนบอกพลางส่งยิ้มไปให้ก่อนจะเอื้อมมือไปตบต้นแขนของมาร์คเบาๆอันที่จริงเธอก็อยากจะตบไหล่หรอกนะแต่ด้วยความสูงที่ไม่เอื้ออำนวยเธอก็ทำได้แค่นั้นจริงๆ #น่าสงสารนางจุง 55555555
“ขอบคุณครับ...งั้นผมขอตัวไปมหา’ลัยก่อนนะครับ” มาร์คเอ่ยขอบคุณก่อนจะบอกลาแทยอนกลายๆ
“อ้าว? ไหนนายบอกว่าไม่ได้มีคิวไปไหนต่อนี่นา” แทยอนเอ่ยถามด้วยความงุนงง
“อันที่จริงผมเพิ่งนึกได้ว่าต้องไปมหา’ลัยก่อนน่ะครับ” มาร์คตอบพลางส่งยิ้มไปให้
“งั้นนายก็ขับรถดีๆแล้วกัน” แทยอนบอกด้วยความเป็นห่วง
“พี่ก็ด้วยนะครับ” มาร์คบอกแทยอนก่อนจะเดินสะพายกระเป๋าเป้ออกไปซึ่งไม่นานแทยอนก็ตามออกไปอีกคน
ทางด้านของเจสสิก้าที่ตอนนี้เซฮุนซึ่งทำหน้าที่เป็นสารถีชั่วคราวก็ขับพาเจสสิก้ามาถึงตึก BX ซึ่งเป็นตึกสำหรับการแคสติ้งที่ซอฮยอนบอกเอาไว้
“ขอบคุณนะเซฮุนที่พามาส่ง J” เมื่อมาถึงเจสสิก้าก็ปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณสารถีอย่างเซฮุนพลางส่งยิ้มไปให้
“ไม่เป็นอะไรหรอก” เซฮุนตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเดิมแต่น้ำเสียงของเขากลับดูอ่อนโยนจนเจสสิก้ารู้สึกได้
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” เจสสิก้าบอกพลางหันไปเปิดประตูแล้วออกแรงผลักก่อนจะแทรกตัวลงไปพลางจะปิดประตูรถให้กลับเป็นเหมือนเดิมแต่ก็ต้องชะงักมือเมื่อเสียงของเซฮุนดังขึ้น
“เจสสิก้า..จะให้ฉันรอมั้ย?” เซฮุนเรียกชื่อรั้งเจสสิก้าเอาไว้ก่อนจะเอ่ยถามพลางมองหน้าเจสสิก้าอย่างรอคำตอบ
“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวนายจะเบื่อเอา..ไปนะ ^_^” เจสสิก้าตอบเชิงปฏิเสธก่อนจะส่งยิ้มให้แล้วปิดประตูรถเหมือนเดิมแล้วเดินเข้าไปภายในตึก BX ทันที โดยในขณะที่เจสสิก้าเดินอยู่เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไลน์แล้วพิมพ์ข้อความก่อนจะส่งไปหาซอฮยอน
เจสสิก้าจอง : ซอฮยอนอ่า..เธออยู่ที่ชั้นไหนเหรอ?
ซอจูฮยอน : อะไรนะคะ? พี่มาถึงที่นี่แล้วเหรอ!?
เจสสิก้าจอง : อื้ม! ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นล่ะ?
ซอจูฮยอน : ฉันแค่ไม่คิดว่าพี่จะมาจริงๆนี่นา...ดีใจอ่ะ > <
เจสสิก้าจอง : พี่เคยโกหกเราด้วยเหรอ? ตกลงว่าอยู่ชั้นไหนล่ะยังไม่ตอบพี่เลย
ซอจูฮยอน : อยู่ชั้น 20 ค่ะพอพี่มาถึงเดินมาทางซ้ายมือเลยนะคะ
เจสสิก้าจอง : โอเค..แล้วนี่การแคสติ้งเริ่มหรือยัง?
ซอจูฮยอน : จะเริ่มในอีก 20 นาทีค่ะพี่รีบๆมานะฉันตื่นเต้นมากอยากได้กำลังใจ <3
เจสสิก้าจอง : ไม่ต้องอ้อนเลยเดี๋ยวพี่รีบไปแล้วกันตอนนี้พี่อยู่หน้าลิฟท์ ^_^
เมื่อสอบถามว่าชั้นสำหรับแคสติ้งอยู่ชั้นที่เท่าไหร่เจสสิก้าจึงเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งเอื้อมไปกดปุ่มสำหรับขึ้นไม่นานลิฟท์ก็มาจอดถึงชั้นที่เธออยู่พอประตูของลิฟท์เปิดออกเจสสิก้าก็ไม่รอช้าที่แทรกตัวเข้าไปทันที
“รอด้วยครับ!” ในขณะที่เจสสิก้ากำลังจะกดปิดประตูลิฟท์เสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้เธอต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปกดปุ่มเปิดลิฟท์เพื่อรอให้คนที่ส่งเสียงเมื่อครู่ได้เข้ามาร่วมโดยสารไปพร้อมกับเธอก่อนจะกดปิดมันเมื่อเขาเข้ามาอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบนี้แล้วโดยไม่ลืมจะกดเลข 20 เพื่อระบุชั้นที่จะขึ้นไป
“คุณมาแคสติ้งเหรอ?” เสียงของผู้ร่วมโดยสารในลิฟท์ตัวนี้เอ่ยถามเจสสิก้าที่ตอนนี้ยืนอยู่มุมซ้ายของลิฟท์ส่วนเขาอยู่ทางด้านขวา
“เปล่าค่ะฉันแค่มาหาคนรู้จัก” เจสสิก้าหันหน้าไปมองหน้าคนถามเล็กน้อยก่อนจะตอบแล้วหันกลับไปมองประตูลิฟต์เหมือนเดิมเธอยอบรับนะว่าคนที่ร่วมโดยสารมาหน้าตากับรูปพรรณสันฐานอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยล่ะแถมยังใส่ตุ้มหูรูปไม้กางเขนพอให้ดูเป็นผู้ชายเท่ห์ระเบิดแต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกอยากจะชื่นชมกับรูปร่างหน้าตาเท่าไหร่แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดซะมากกว่าซึ่งก็ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไรอาจจะเป็นเพราะเขาที่คอยลอบมองเธอเป็นระยะก็ได้ล่ะมั้ง
“คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ?” เจสสิก้าทำใจกล้าเอ่ยถามออกไปเพื่อไม่ให้ความสงสัยคงอยู่
“ผมแค่คุ้นหน้าคุณเฉยๆเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน” ในเมื่อเจสสิก้ายอมเปิดปากถามเขาก็ยอมที่จะตอบแต่ยังไม่ทันที่เจสสิก้าจะพูดอะไรเสียงเตือนก็ดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าตอนนี้ลิฟท์ได้มาถึงชั้นเป้าหมายของเธอแล้วทำให้เจสสิก้าเลือกจะเดินออกไปโดยไม่คิดจะพูดอะไรต่อ
ทางด้านซอฮยอนที่ตอนนี้เธอกำลังวิตกกังวลระคนตื่นเต้นเพราะอีกเพียงไม่กี่นาทีการแคสติ้งก็จะเริ่มขึ้นโดยบทที่เธอจะได้แคสนั้นคือบทนางรองส่งผลให้เธอยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
“ตื่นเต้นเนอะฉันไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้เลยจริงๆ” ซอฮยอนหันไปพูดเชิงบ่นกับชานยอลที่ตอนนี้กำลังนั่งทำสมาธิอยู่
“ทำใจสบายๆเถอะน่ามัวแต่ตื่นกลัวแบบนี้เดี๋ยวก็เล่นไม่ผ่านหรอก” ชานยอลบอกเชิงปลอบใจซอฮยอนที่ดูเหมือนจะตื่นกลัวมากเกินไปทั้งที่จริงๆแล้วความสามารถของเธอก็ไม่ได้ด้อยกว่าใครในนี้เลยด้วยซ้ำ
“ชานยอลถ้าฉันไม่ผ่านขึ้นมาทำไงอ่ะ?” ซอฮยอนพูดขึ้นพลางก้มหน้างุดด้วยความกังวลจริงๆมันการเป็นนักแสดงมันคือความฝันของเธอแต่พอได้โอกาสกลับรู้สึกกลัว..กลัวว่าจะทำออกมาไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น
“เอาเถอะถ้ายัยทิฟฟานี่ผ่านเธอก็ผ่านฉลุยแล้วล่ะ” ชานยอลเลือกจะปลอบใจซอฮยอนโดยการแอบแขวะทิฟฟานี่ที่ดูเหมือนจะไม่มีความวิตกกังวลอะไรทั้งนั้นเพราะตั้งแต่เธอย่างกายเข้ามาอยู่ภายในห้องนี้เธอก็ไม่สนอะไรนอกการนั่งจิ้มโทรศัพท์เล่นฆ่าเวลา - -
“นายกำลังดูถูกฉันอยู่ใช่มั้ย!?” ทิฟฟานี่ที่ได้ยินคำพูดแขวะนั่นของชานยอลก็อดจะหันไปตวัดสายตาค้อนๆใส่อย่างเคืองขุ่น
“มีสมองก็ลองคิดดูเอาเองแล้วกันเนอะ J” ชานยอลตอบทิฟฟานี่กลับอย่างกวนประสาทพลางส่งยิ้มไปให้
“ไปพูดอะไรแบบนั้นล่ะชานยอลขอโทษทิฟฟานี่เลยนะ” ซอฮยอนที่ได้ยินคำพูดที่ดูจะรุนแรงเกินไปในความคิดของเธอเธอจึงเปิดปาดเอ็ดชานยอลก่อนจะออกปากสั่งให้เขาขอโทษ
“เธอไม่ต้องไปบังคับอะไรคนอื่นหรอกคิดว่าทำแบบนี้ฉันจะดีกับเธอไง๊? ฝันไปเถอะ!” ทิฟฟานี่บอกแกมสั่งซอฮยอนก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางเหมือนไม่ต้องการเห็นหน้าของทั้งสองคนซึ่งดูเหมือนซอฮยอนจะเป็นห่วงแต่ก็ต้องทิ้งความรู้สึกพวกนั้นไปเมื่อชานยอลส่งสายตาดุๆไปให้
หลังจากที่เจสสิก้าออกมาจากห้องโดยสารสี่เหลี่ยมแคบนั่นเธอก็เดินไปตามทางที่ซอฮยอนบอกจนมาหยุดตรงหน้าห้องๆหนึ่งที่มีป้ายแขวนเอาไว้ว่าห้องรับรองสำหรับคนมาแคสติ้งซึ่งเจสสิก้าก็ไม่รอช้าที่จะผลักประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปโดยไม่ลืมปิดประตูแต่เพราะในห้องนี้เต็มไปด้วยความเงียบเนื่องจากหลายๆคนกำลังทำสมาธิก่อนจะเริ่มเข้าไปแคสติ้งเลยส่งผลให้เสียงการเปิดปิดประตูของเจสสิก้าได้รับความสนใจจากคนในห้องนี้เป็นอย่างมาก
“นั่นมันใช่เจสสิก้าที่เล่นเป็นนางร้ายหรือเปล่านะ” เสียงซุบซิบกันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่เจสสิก้าเข้ามาอยู่ภายในห้องนี้เพียงแค่ไม่กี่นาทีส่งผลให้ทั้งซอฮยอน ทิฟฟานี่ และชานยอลที่ไม่ได้สนใจอะไรก็ต้องหันไปมองทางด้านประตูด้วยความสงสัย
“พี่สิก้า!” เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูเป็นใครซอฮยอนก็ร้องออกมาก่อนจะลุกขึ้นพรวดพราดแล้ววิ่งเข้าไปโผกอดเจสสิก้าโดยไม่ให้เธอตั้งตัว
“อะไรของเธอกันพี่เกือบจะล้มแล้วนะ” เจสสิก้าเปิดปากเอ็ดซอฮยอนเล็กน้อยที่จู่ๆก็โผเข้ากอดเธอโดยไม่คิดจะให้เธอตั้งตัวเลยสักนิด
“ก็ซอดีใจนี่นาที่เห็นหน้าพี่ก่อนจะเข้าแคสรู้มั้ยตอนนี้ฉันกังวลมากแค่ไหน” ซอฮยอนบอกอย่างออดอ้อนในขณะที่ผละออกจากเจสสิก้าแล้ว
“เธอมัวแต่กังวลแล้วแบบนี้จะแคสผ่านมั้ยล่ะ?” เจสสิก้าบอกเชิงเอ็ดซอฮยอนเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นประเคนมะเหงกให้ซอฮยอนตรงหน้าผากไปหนึ่งที
“ฉันกลัวนี่คะ...นี่มันครั้งแรกที่ฉันจะได้แคสติ้งเลยนะ” ซอฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่าเธอก็ต้องคิดว่านี่มันความฝันของเธอถ้าเธออยากให้ฝันเป็นจริงเธอก็ต้องตั้งใจแล้วความวิตกกังวลต่างๆมันก็จะลดลงเองนั่นแหละ..ตอนพี่มาแคสติ้งครั้งแรกพี่ก็มช้วิธีนี้มันก็ได้ผลดีนะ” เจสสิก้าบอกเพื่อให้อีกคนได้ผ่อนคลายซึ่งมันก็ได้ผลซอฮยอนดูมีท่าทีที่วิตกกังวลลดน้อยลงจนเห็นได้ชัด
“เอาล่ะค่ะเราจะเริ่มการแคสติ่งแล้วนะคะหมาย 1 ถึง 5 เชิญเข้ามาก่อนเลยค่ะ” เสียงของทีมงานสำหรับการแคสติ้งดังขึ้นทำให้ผู้ที่มีหมายเลขตามที่ประกาศต่างของลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปทางด้านในตามที่ทีมงานบอก
“แล้วเราหมายเลขอะไร?” เจสสิก้าถามขึ้น
“อ๋อ! ฉันหมายเลข 30 ค่ะ” ซอฮยอนพลางส่งยิ้มบางๆไปให้
“งั้นไปนั่งทำสมาธิเถอะ...แล้วอยากได้อะไรมั้ยเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้” เจสสิก้าบอกก่อนจะเอ่ยถาม
“ฉันแค่อยากได้น้ำเปล่าก็พอแล้วค่ะ อ่อ! แป๊ปนึงนะคะชานยอลทิฟฟานี่อยากได้เครื่องดื่มอะไรมั้ย?” ซอฮยอนตอบคำถามของคนอายุมากกว่าก่อนจะหันไปถามเพื่อนของตน
“เอาเหมือนเธอนั่นแหละ” ชานยอลหันมาตอบก่อนจะรีบหันกลับไปเหมือนเดิมไม่ใช่เพราะไม่อยากเห็นหน้าของคนที่ปลื้มแต่เพราะรู้สึกเขินเกินกว่าจะทนมองหน้าของพี่สาวคนนั้นมากกว่า
“มีอะไรก็ซื้อมาเหอะขี้เกียจเรื่องมากเดี๋ยวนางร้ายจะตบเอา” ทิฟฟานี่ตอบเชิงแขวะเจสสิก้าเล็กน้อยก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
“พี่ว่าเพื่อนเราคนนี้ดูไม่ค่อยชอบพี่นะ” เจสสิก้าบอกเชิงกระซิบ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะทิฟฟานี่ก็แค่ปากร้ายแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะพี่อย่าคิดมากเลย” ซอฮยอนบอกซึ่งเจสสิก้าก็พยักหน้าอย่างเข้าใจพลางส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปเพื่อไปซื้อเครื่องดื่มมาให้กับซอฮยอนกับเพื่อนของเธอ
“ทั้งหมดเท่าไหร่คะ?” เมื่อลงลิฟท์แล้วเดินมาถึงร้านค้าที่มีอยู่ในตัวอาคารเจสสิก้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่ามาสี่ขวดก่อนจะเดินเอาไปคิดเงินกับแคชเชียร์
“1000 วอนค่ะ” เมื่อแคชเชียร์ทำการคิดเงินก็เปิดปากบอกราคาของซึ่งเจสสิก้าก็ไม่รอช้าจะควานหากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าสะพายของเธอแต่จนแล้วจนรอดเธอก็หาไม่พบ
“บ้าจริง! อย่าบอกนะว่าลืมไว้ที่กอง” เจสสิก้าสบถออกมาอย่างหงุดหงิดในความขี้ลืมของตัวเองพลางใช้มือข้างหนึ่งคลำตามกระเป๋ากางเกงดูเพื่อจะมีเงินติดตัวอยู่บ้าง..แต่ไม่เลย!
“นี่ครับ” แต่จู่ๆก็เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับที่เขายื่นเงินจำนวน 1000 วอนให้กับแคชเชียร์ทำให้เธอรีบเงยหน้าขึ้นสบกับใบหน้าของคนที่ทำหน้าจ่ายเงินให้กับเธอ
“นายมาทำอะไรที่นี่!” แต่เมื่อเห็นหน้าของคนที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเจสสิก้าก็ต้องกลืนคำขอบคุณลงไปแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำสียงตกใจเล็กน้อย
“ผมแค่มาดูความเรียบร้อยของห้องจัดงานก็เท่านั้นครับ” จินยองตอบเจสสิก้าพลางยื่นมือไปรับถุงจากแคชเชียร์ก่อนจะส่งมันต่อให้กับเจสสิก้าซึ่งเธอก็รับมันมาโดยดี
“แล้วพี่ล่ะมาทำอะไรที่นี่?” เอ่ยถามต่อด้วยความสงสัย
“มาหาคนรู้จัก..ยังไงก็ขอบคุณสำหรับค่าเครื่องดื่มนะวันหลังพี่จะเอาเงินมาคืนให้” เจสสิก้าตอบก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากร้านค้าไปโดยมีจินยองเดินตามไปด้วย
“นายจะตามพี่มาทำไม?” เจสสิก้าหยุดเท้ากะทันหันก่อนจะหมุนตัวหันไปตามคนอายุน้อยกว่าที่เดินตามหลังเธอมา
“ผมจะไปขึ้นลิฟท์ครับ” จินยองตอบก่อนจะเดินผ่านเจสสิก้าไปส่งผลให้เจสสิก้ารู้สึกหน้าแตกเล็กน้อยก่อนจะกระแอมไอเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาก่อนจะเดินไปยืนรอลิฟท์กับจินยอง
ทางด้านของคนที่มาแคสติ้งซึ่งตอนนี้ก็มีหลายคนที่ขาเข้ากับขาออกมีสีหน้าที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงซึ่งทำให้คนที่ยังไม่ถึงคิวต่างก็อดกังวลไม่ได้โดยเฉพาะซอฮยอน
“ฉันไม่รอดแน่ๆเลยอ่ะชานยอล” ซอฮยอนพูดขึ้นด้วยท่าทางวิตกกังวลจนชานยอลต้องเอื้อมมือไปจับมือของซอฮยอนก่อนจะออกแรงบีบเบาๆเพื่อให้อีกคนได้ผ่อนคลาย
“เลิกกังวลสักทีเดี๋ยวเซตต่อไปก็เป็นคิวของเธอแล้วนะ” ชานยอลบอกพลางใช้มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ยกขึ้นวางแหมะบนศีรษะมนของซอฮยอนก่อนจะออกแรงลูบมันเบาๆจนคนมองอย่างทิฟฟานี่อดอิจฉาไม่ได้
“เธอกังวลมากเกินไปป่ะ? หรือกำลังอ่อยผู้ชาย?” ทิฟฟานี่เปิดปากถามเชิงแขวะจนได้รับสายตาขุ่นเคืองจากชานยอล
“ในหัวเธอมีแต่เรื่องแบบนี้เหรอ? ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็เงียบไป” ชานยอลบอกแกมต่อว่าทิฟฟานี่เสียจนทิฟฟานี่อดจะจิ๊ปากอย่างขัดใจ ตกลงนี่ชอบเจสสิก้าหรือซอฮยอนกันแน่ปกป้องดีเหลือเกิน!!
“ต่อไปหมายเลข 25 ถึง 30 ค่ะ” ไม่นานทีมงานก็เปิดประตูออกมาพลางประกาศบอกหมายเลขซึ่งมีหมายเลขของทิฟฟานี่และซอฮยอนทำให้ทิฟฟานี่ลุกขึ้นยืนพรวดพราก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนั่นส่วนซอฮยอนก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะปล่อยมันแล้วลุกขึ้นพลางหันไปมองชานยอลซึ่งเขาก็ส่งยิ้มมาให้เป็นกำลังก่อนจะปล่อยมือของซอฮยอนแล้วเธอก็เดินเข้าไปภายในห้องนั้น
เมื่อซอฮยอนซึ่งเป็นคนสุดท้ายเข้ามาอยู่ภายในห้องแคสติ้งซึ่งมีคณะกรรมการในการคัดสรรนักแสดงให้มารับบทนางรองในละครเรื่องใหม่ของทางช่อง KBS2 โดยภายในห้องนี้เต็มไปด้วยทีมงานมากกว่า 10 ชีวิตที่มีหน้าที่แตกต่างกันไปส่งผลให้คนขี้กังวลอย่างซอฮยอนอดจะตื่นกลัวขึ้นมาไม่ได้
“โอเคค่ะสำหรับการแคสติ้งในวันนี้เราให้แต่ละคนแสดงความเป็นตัวเองออกมาให้มากที่สุดให้คณะกรรมการได้เห็นนะคะโดยเราจะให้เทสหน้ากล้องกันทีละคนตามลำดับหมายเลขส่วนคนที่เหลือให้มานั่งทางด้านนี้เลยค่ะ” เสียงของคณะกรรมการคนหนึ่งดังขึ้นเพื่ออธิบายให้คนที่มาแคสติ้งในวันนี้ได้เข้าใจก่อนจะผายมือไปทางซ้ายซึ่งมีเก้าอี้วางเรียงกันอยู่ 4 ตัวและหลังจากนั้นการแคสติ้งก็เริ่มต้นขึ้น
“อ้าว? ซอฮยอนเข้าไปแคสแล้วเหรอ?” เมื่อเจสสิก้าเดินกลับมาถึงห้องรับรองสำหรับคนมาแคสติ้งก็ปรากฏว่าไม่พบกับซอฮยอนเธอจึงร้องออกมาก่อนจะเดินเข้าไปถามชานยอลที่ยังนั่งอยู่
“ครับ เพิ่งเข้าไปไม่นานนี้เองครับ” ชานยอลตอบพลางมองหน้าเจสสิก้าเป็นระยะ
“งั้นเหรอ..อ่อ! นี่น้ำ” เจสสิก้าพูดก่อนจะยื่นขวดน้ำในถุงพลาสติกไปให้กับชานยอลซึ่งเขาก็รับมันมาเป็นอย่างดี
“ขอบคุณครับ..พี่นั่งก่อนสิครับ” ชานยอลเอ่ยขอบคุณก่อนจะเอ่ยชักชวนคนอายุมากกว่า
“ขอบคุณนะ ^^” เจสสิก้าตอบรับพลางส่งยิ้มให้ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆชานยอล
“แล้วนายแคสแล้วเหรอ?” เจสสิก้าเอ่ยถามพลางจ้องหน้าชานยอลอย่างรอคำตอบ
“ยังครับแต่อีกเดี๋ยวก็คงเรียกแล้ว” ชานยอลตอบเจสสิก้าเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อยพลางยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขิน
“งั้นก็สู้ๆนะ J” เจสสิก้าบอกชานยอลพลางส่งยิ้มให้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา
เวลาเริ่มผ่านไปชานยอลก็เข้าไปแคสติ้งและไม่นานซอฮยอนกับทิฟฟานี่ก็เดินออกมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเจสสิก้าด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวลไม่หายเจสสิก้าจึงเอ่ยถาม
“เป็นยังไงบ้าง? เจสสิก้าเอ่ยถามซอฮยอนด้วยความอยากรู้
“ตื่นเต้นมากเลยค่ะฉันว่าฉันต้องไม่ได้แน่ๆเลย” ซอฮยอนบอกพลางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เจสสิก้าจึงเอื้อมมือไปแตะบ่าของซอฮยอนก่อนจะออกแรงตบมันเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
“ไม่หรอกน่าเธอเก่งอยู่แล้ว ^_^” เจสสิก้าบอกพลางส่งยิ้มไปให้
“แล้วชานยอลล่ะคะ?” ซอฮยอนถามเมื่อลองกวาดสายตามองแต่ก็ไม่พบ
“ไปแคสติ้งอยู่น่ะไม่น่าเชื่อนะว่าเขาจะได้รับโอกาสมาแคสบทพระเอกเร็วขนาดนี้” เจสสิก้าตอบซอฮยอนเชิงชื่นชมคนที่กำลังแคสติ้งอยู่
“ชานยอลเขาเก่งมากนะคะคุณครูยังพูดเลยว่าเขาอาจจะเป็นคนแรกที่ได้เล่นละคน” ซอฮยอนบอกอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเจสสิก้า
“นี่! ฉันก็ตัวตนนะหันมาคุยหันบ้างสิ!” ทิฟฟานี่ที่นั่งฟังอยู่ก็เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มกลายเป็นธาตุอากาศเธอจึงพูดขึ้นส่งผลให้ทั้งสองคนหันไปมองทิฟฟานี่เป็นตาเดียว
“ก็เราไม่ชอบพี่ไม่ใช่เหรอ? พี่เลยคิดว่าเธอคงไม่อยากจะคุยกับพี่” เจสสิก้าบอก
“ฉันเคยพูดเหรอคะ?” ทิฟฟานี่บอกเชิงกระแทกเสียงใส่เจสสิก้า
“การกระทำของเธอมันบอก” เจสสิก้าตอบเสียงเรียบ
“ฉันก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วไม่เชื่อถามซอฮยอนสิคะ” ทิฟฟานี่บอกโบ้ยไปทางซอฮยอนซึ่งเธอก็พยักหน้าเป็นการยืนยัน
“งั้นพี่ก็ขอโทษด้วยแล้วกันถ้ามองเธอผิดไป” เจสสิก้าบอกพลางส่งยิ้มบางๆไปให้และก็เป็นจังหวะที่ชานยอลเดินออกมาพอดี
“เป็นยังไงบ้างชานยอล?” เมื่อชานยอลเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆทิฟฟานี่ซอฮยอนก็ไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามทันที
“น่าตื่นเต้นกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแถมยังมีอีกหลายคนแสดงโคตรดีสงสัยจะไม่ได้แล้วมั้ง” ชานยอลบอกพลางเอนตัวพิงพนักของเก้าอี้
“อย่างนี้แหละอย่างเพิ่งท้อเลยตอนพี่น่ากลัวกว่านี้เยอะ” เจสสิก้าบอกเชิงให้กำลังใจซึ่งทั้งชานยอลและซอฮยอนก็พยักหน้าจะมีก็แต่ทิฟฟานี่ที่นั่งเฉยๆไม่พูดหรือแสดงอาการอะไร
“แล้วนี่เขาจะประกาศเลยป่ะ?” ทิฟฟานี่ถามขึ้น
“ไม่หรอกเดี๋ยวอีก 2 วันเขาถึงจะเอามาติดประกาศ” ชานยอลตอบซึ่งทิฟฟานี่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“งั้นก็กลับกันเถอะนะฉันอยากกลับไปพักแล้ว” ซอฮยอนบอกซึ่งทั้งชานยอลและทิฟฟานี่ก็เห็นด้วย
“พี่สิก้ากลับพร้อมกันมั้ยคะ?” ซอฮยอนหันไปถามเจสสิก้า
“เรากลับกันไปก่อนเลยพี่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำก่อน J” เจสสิก้าบอกพลางส่งยิ้มให้ซึ่งซอฮยอนก็พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนทั้งสี่คนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปโดยชานยอล ทิฟฟานี่ และซอฮยอนเดินตรงไปที่ลิฟท์ด้วยกันส่วนเจสสิก้าก็เดินไปอีกทางหนึ่ง
เย้ๆๆๆ มาอัพครบแล้วนะครับ 555555555
คือตอนนี้ยังว่างเลยต้องรีบไงเพราะอีกเดี๋ยวก็จะไม่ว่างแล้ว =[ ]=
อ่านแล้วเม้นด้วยก็ดีนะคะรู้สึกน้อยใจจุง T^T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใครคู่ใครบ้างเนี่ยยยยยซอฟานี่ยังไม่มีแววของคู่เลยยยเดายากสุดๆ
มาร์คแทคู่นี้ก็น่ารักดีน่ะ นี่เราผิดคู่ป่าว?5555แต่น่ารักจริงๆน่ะระวังน่ะคิมแทช่วยเขามากๆจะชอบเอง นี่มโนเองชัดๆเลย
รอค้า
รอค่ะ
ลู่ซอมาแร้ว
ฮานซอมาแล้ว > <
เจอครั้งแรกก็หลงเสน่ห์ซอเลยอ่ะดิอาลู่
ดูโฮจะไม่ชอบลู่เอามากๆ เลย
ตอนนี้หลงแพคกับตากี้ ><' คนอะไรจะน่ารักแบบนี้ >_<
แพคเหมือนเงาตามตัวยุนอ่ะไปไหนไปด้วยจริงๆ-3-
คยูซัน โลกกลม พรมลิขิต จริงๆ
แค่เดินออกประตูยังต้องเบียดกัน -3-
รอนะคะ
ทั้งด้านการงานและความรักของลู่ดูไม่ค่อยดีนะ 5555
รอนะคะ
ลู่ดูเจ้าชู้นะเนี่ย-.-
แต่ถ้าจะยอกถ้าอาลู่จีบนุ้งซอ(เพราะมีมารขวาง-.-)
สนุกมากๆค่ะรอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ
พี่โฮกะฮานมีไรกันป่าว ?? รอนะคะ
ซูโฮหวงน้องไปนะคะ
ฮ่าๆ ฮานอึ่งกับความสวยของพี่ซอไปเลย 3 วิ >< น่ารักๆ
แทแท ระงับอารมณ์ไว้ๆ ลูกค้าคือพระเจ้า #โดนแทแทวีนใส่
แท ชวดงานไปแล้วอ่าาา
รอนะคะ
รอต่อไปค่ะ