ตอนที่ 9 : *Flip Love*: Chapter 08 เพื่อนสนิทที่ไม่อยากเป็น***
Chapter 08 เพื่อนสนิทที่ไม่อยากเป็น
ในสถานบันเทิงย่านคังนัมยามค่ำคืนแสงไฟหลายสีกำลังส่องแสงช่วยให้ท้องฟ้าสีมืดสวยขึ้น และคืนนี้คงไม่มีใครดีใจได้เท่ากับเจ้าของผับแห่งนี้ที่ปลาบปลื้มเป็นพิเศษที่ได้ลูกค้ารูปงามในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมลงมาให้เห็นแผงอกแกร่งพอรำไร คิบอมเข้ามานั่งจิบน้ำสีอำพันในแก้วทรงเตี้ยอยู่ตรงมุมห้องซึ่งจัดเป็นพิเศษไว้ให้ แม้จะเป็นมุมห้องแต่สายตาแทบจะทุกคู่กลับพยายามจ้องสบในตาคมนั้นอย่างบ่งบอกความหมาย ร่างหนาที่นั่งดื่มมานานเริ่มเบื่อกับพฤติกรรมซ้ำๆที่เขาเห็นแทบจะทุกคืนที่ออกมา
“หึ แต่ล่ะคน ไม่เขียนป้ายไว้เลยล่ะ ว่าหิ้วฉันกลับไปด้วยน่ะ” สบถออกมาเบาๆกับตัวเองอย่างเบื่อหน่าย แล้วกระดกของเหลวในแก้วลงคอจนหมด แต่ก็น้ะคงไม่มีใครไม่รู้ว่า คิมคิบอมมาเที่ยวคืนไหนไม่มีหรอกที่จะไม่ได้ใครกลับบ้านไป
เสียงเพลงที่เปิดดังก้องไปทั่วทั้งห้อง กลุ่มคนกำลังขยับร่างกายไปตามจังหวะดนตรี มีทั้งหญิงสาวและหนุ่มน้อยที่แต่งตัวเซ็กซี่เต้นออกท่าทางยั่วยวนคลอเคล้าไปกับเสียงดนตรีทั้งส่งสายตามาทางคิบอม เป็นอาหารตาอย่างดีแก่ร่างหนาที่เริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“วันนี้ยังไม่ถูกใจใครรึไงน่ะ” เสียงหวานดังขึ้นไม่ไกลจากหูข้างขวานัก คิบอมที่กำลังเพลินไปกับภาพยั่วยวนเหล่านั้นก็พลันต้องละสายตาออกมาหาต้นเสียง แต่กลับทำให้เสียงเข้มหายไปเสียเอง
ร่างบางในชุดเสื้อคอกว้างสีขาวที่กว้างเสียจนเกือบตกมาที่ไหล่มน สร้อยคอเส้นยาวคล้องทับไว้อีกที กับกางเกงพอดีเรียวขาเล็กสีเข้ม เรียบๆแต่สะกดใจคนมองเสียเหลือเกิน
“.....ดงเฮ” เจ้าของชื่อไม่สนคำเรียก นั่งลงพร้อมยกแก้วขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีคุ้นเคย
“ว่าไง วันนี้เล็งใครไว้รึยังล่ะ” เสียงหวานเอ่ยถามไม่สบตา แต่กลับมองไปยังฟลอร์เต้นรำกลางผับที่ร่างเล็กหลายคนยังเต้นยั่วยวนอยู่เช่นเดิม
“หึ...ยังเลย ไม่ถูกใจสักคน”
“แปลกจริง วันนี้นายไม่สบายรึเปล่าเนี่ย” เสียงหวานดังขึ้นเล็กน้อย ดงเฮยกมือเรียวขึ้นแนบหน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ
“ตัวก็ไม่ร้อน วันนี้เดินชนเตาอบ หรือหัวกระแทกกับเคาน์เตอร์ที่ร้านมารึไงน่ะ”
“หึ ที่ร้านน่ะเหรอ หัวไม่โดนกระแทกหรอก แต่เป็นใจต่างหากล่ะที่โดนกระแทกแทน” ยกยิ้มมุมปากเล็กๆเมื่อนึกถึงเพื่อนสุดน่ารักของลูกชายเจ้านายวันนี้ ช่างน่ารักจริงๆ แถมยังใสซะขนาดนั้นท่าทางจะยังไม่เคยแน่นอน ดีไม่ดีคงไม่เคยมาที่แบบนี้ ไม่เหมือนพวกที่เต้นอยู่ตรงนั้นเลยซักนิด
“.....” เรียวปากบางอ้าค้าง คิบอมน่ะเหรอจะหวั่นไหวกับใครขึ้นมา
ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนความรู้สึกจากคำว่าเพื่อนสนิทกลายเป็นความรักไปโดยไม่รู้ตัว ลีดงเฮและคิมคิบอมที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม พอเข้ามหาวิทยาลัยคิบอมที่ประกาศตัวชัดเจนว่าจะเป็นพาทิซิเย่ให้ได้ ตัวดงเฮเองเลยต้องแอบเลือกคณะการจัดการ ที่พอจะเรียนได้ในมหาลัยแห่งนั้น แม้ความจริงจะอยากเรียนด้านแฟชั่นก็ตาม ตอนนี้เลยต้องทำงานด้านออแกนไนซ์ จัดงานอีเวนท์ก็สนุกดี
ความกลัวมันมากกว่าความกล้า กลัวที่จะเสียเพื่อน กลัวว่าคิบอมจะไม่ได้คิดเหมือนกัน กล้วว่าคิบอมจะหยุดที่ใครที่ไม่ใช่ตัวเค้าเอง ความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับคิบอมมันมากกว่าคำว่าเพื่อน ก็ตรงที่ว่า การเผลอไผลในครั้งนั้น นั่งดื่มกันตามประสาเพื่อน คิบอมเมาแต่ตัวดงเฮเองไม่ได้ถึงกับเมายังรู้สึกตัวเองดี แต่กลับยอมให้เพื่อนสนิทพากันก้วข้ามคำว่าเพื่อนไป หลังจากนั้นก็มีความสัมพันธ์กันเรื่อยมา ในใจแม้จะแอบดีใจ แต่ก็ไม่วายรู้สึกถึงความเจ็บปวดของเซ็กซ์ที่มีความรักเพียงแค่ด้านดียวไม่ได้
และวันนี้ก็เช่นเดียวกันดงเฮที่พยายามหาโอกาสขัดขวางการหิ้วเด็กใหม่ๆกลับคอนโดของคิบอมอีกครั้ง เค้ายอมเจ็บเองดีกว่า ให้คิบอมมีใคร แต่ว่าทำไมวันนี้คิบอมถึงพูดเหมือนกำลังสนใจใครเป็นพิเศษขึ้นมาอย่างนั้นแหละ
“...นายว่าใจนายโดนกระแทกงั้นเหรอ หมายความว่าไงน่ะ”
“ก็...แค่ถูกใจเด็กน้อยน่ารักคนนึงที่ร้านวันนี้น่ะ น่ารักชะมัด เนื้อตัวดูนุ่มนิ่มไปหมด ดูแล้วอยากจับมาฟัดเล่นให้ตายเหอะ”
“.........”
“หระ เหรอ” ร่างบางก้มหน้ามองน้ำแข็งก้อนใสในแก้ว เรียวปากบางเม้มเป็นเส้นตรง มือเรียวกำแน่น
“แต่เล่นไม่ได้หรอกของคุณชายเขา เสียดายชะมัด” ทันทีที่คิบอมเอ่ยจบ ดวงหน้าหวานจึงเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย อย่างน้อยก็หมดห่วงไปได้บ้าง เพราะงั้นวันนี้เค้าต้องกันไม่ให้คิบอมหิ้วใครกลับไปให้ได้เลย ร่างบางฮึดสู้เริ่มแผนการยั่วแบบเบาๆ
.
.
“นี่ ทำไมวันนี้มันร้อนล่ะเนี่ย อากาศร้อนหรือว่าเหล้าแรงไปน้ะ” มือเล็กคว้าคอเสื้อสีขาวตัวบางที่กว้างอยู่แล้วกระพือขึ้นลงบอกให้รู้ว่าร้อน แต่นั่นกลับทำให้ร่างหนาอีกร่างร้อนขึ้นกว่าเดิม เพราะเห็นแผ่นอกบางขาวนวลลอยเด่นอยู่ ไม่ต้องรอให้ยั่วซ้ำคาสโนว่าหนุ่มไม่รอช้าออกลวดลายติดกับอีกฝ่ายทันที
“งั้น...ไปแช่แอร์เย็นๆที่คอนโดฉันมั้ยล่ะคืนนี้” หน้าคมของคิบอมเลื่อนเข้าใกล้ เอ่ยเสียงทุ้มเชิญชวน และได้คำตอบกลับมาเป็นรอยยิ้มบางๆ
------ Flip Love Nc 129 ------
เจ้าบ้า...แค่กับเราเท่านั้นเหรอ...เราจะคิดเข้าข้างตัวเองได้บ้างมั้ยน้ะ...
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
60%
ฟึ่บ...
เสียงปลายนิ้วเรียวกรีดกระดาษใบบางของหนังสือในมือเพื่อเตรียมพลิกหน้าต่อไปเมื่ออ่านมาถึงบรรทัดล่างของหน้ากระดาษ ดวงตากลมใสมองตัวอักษรที่เรียบเรียงเรื่องราวผ่านกระจกแก้ว
ฮยอกแจนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่หอสมุดมหาวิทยาลัยตั้งแต่ช่วงบ่ายคนเดียวเช่นเคย ถ้าหากเพื่อนตัวอวบมาด้วยคงไม่วาย มาทำให้หนังสือหอสมุดเปื้อนน้ำลายเป็นวงอีกแน่
หนังสือที่เลือกอ่านวันนี้มีข้อคิดมากมายให้ได้ขบคิดเล่น ฮยอกแจอ่านหนังสือได้แทบทุกประเภท
‘ใช้ชีวิตครบรส บางครั้งสุขด้วยรสหวานของรัก
บางทีขมด้วยความผิดหวัง
เค็มด้วยหยาดเหงื่อของความอดทน
เผ็ดด้วยการทดลองทำสิ่งที่ไม่เคยกล้าทำมาก่อน’
วินทร์ เลียววาริณ
จากเรื่อง เบื้องบนยังมีแสงดาว
‘รสชาติของชีวิต’ บทความไม่กี่ประโยคแต่สร้างรอยยิ้มน้อยๆให้ฮยอกแจได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่เด็กๆ เค้าเองก็ต้องอยู่กับผู้เป็นมารดาที่ประกอบอาชีพเป็นนักเขียน โลกใบน้อยของเด็กตัวเล็กจึงเต็มไปด้วยกองหนังสือมากมาย และหลากหลายประเภท แต่หากจะนึกถึงจริงๆคงเป็นคุณตาที่ชอบอ่านหนังสือพาลทำให้แม่เยจินของเค้ากลายเป็นนักเขียนไปโดยปริยาย
“คิดถึงคุณตาจัง” ฮยอกแจนึกเรื่องราวไปเรื่อยๆจนนึกได้ว่าตั้งแต่ตัวเองยุ่งๆวุ่นเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยจากตอน มอปลาย จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ไปหาคุณตาที่บ้านสวนเลย มีเพียงแต่โทรหาบ้างเท่านั้น แต่แล้วคนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดก็ต้องสะดุ้ง เมื่ออยู่ดีดีรอบคอของตนเองก็มีผ้าพันคอสีส้มอ่อนนวลตามาพาดพันไว้ ฮยอกแจมองไล่สายตาขึ้นไปก็เจอกับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เค้าแอบมองมานาน
“อากาศเริ่มหนาวแล้วน้ะ”
“ซีวอน” น้ำเสียงอบอุ่นกับคำพูดห่วงหาก็ทำให้รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าได้ไม่ยาก มือหนาช่วยขยับผ้านุ่มให้เข้าที่อีกสองสามที แล้วจึงย่อตัวลงนั่งข้างคนที่มีหนังสือในมือเรียวหนึ่งเล่ม กองอยู่ตรงหน้าอีกกอง ก็ต้องยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
“อ่านหมดรึไงเนี่ย” ซีวอนยกมือขึ้นวางบนกลุ่มผมนุ่มส่องสายตาเข้าไปสบอย่างอ่อนโยน
“อ่านไม่หมดหรอก แต่ว่าน่าอ่าน เลยว่าจะยืมกลับบ้านน่ะ” ดวงหน้าหวานหลบสายตานั้นไปมองยังกองหนังสือแทน หลังจากวันนั้น วันที่ให้คำตอบร่างสูงไป ซีวอนก็คอยดูแลเค้าอย่างดี ไม่ได้ดูพยายามจนโอเวอร์มากเกินไป แต่คอยตามเทคแคร์อย่างอบอุ่น อ่อนโยนจนใจดวงน้อยแทบจะละลายไปทุกที
“แล้วนี่ ฮยอกแจจะไปร้านพี่ชินดงใช่มั้ย”
“อืม ใช่ วันนี้ต้องรีบไปด้วยเพราะมีหนังสือมาลงใหม่น่ะ”
“ไปกันเลยมั้ย ผมไปส่งน้ะ” เมื่อคำถามในส่วนแรกได้คำตอบเป็นการพยักใบหน้าเรียวขึ้นลง ซีวอนจึงรวบกองหนังสือ แล้วตามด้วยคำบอกแกมบังคับไม่ให้คนที่ปกติเดินไปทำงานต้องปฏิเสธ
.
.
อากาศหนาวพัดเอาลมที่เย็นสะท้านปะทะสองร่างที่กำลังลงมาจากรถสีดำคันหรูของซีวอน เครื่องยนต์ที่ดับลงเมื่อได้ที่จอดรถใกล้ร้าน ReadMe ของพี่ชินดง
“เอ่อ ซีวอนจะกลับก่อนก็ได้น้ะ ไม่ต้องอยู่ช่วยหรอก”
“ไม่เป็นไรผมอยากอยู่ช่วยน่ะ”
“แล้ว...เอ่อ...”
“มิรินน่ะเหรอ” ไม่ปล่อยให้ร่างเล็กอ้ำอึ้งนาน ซีวอนก็เดาใจออก ฮยอกแจยังคงไม่มั่นใจในตัวเขาคงไม่พ้นเป็นเรื่องนี้ เรียวตาหวานเบิกกว้างเล็กน้อยแล้วเสหลบตา แต่ก็พยักหน้ารับอย่างคนถูกจับทางได้
“เขาไม่เกี่ยวอะไรหรอก เราเข้าใจกันน่ะ ฮยอกแจ อย่าคิดมากเลยน้ะครับ”
“อะ อืม” ร่างเล็กครางรับในลำคอเบาๆ
อีกแล้ว อ่อนโยนอย่างนี้อีกแล้ว จะไหวมั้ยเนี่ยใจเรา ~
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
“มาแล้วฮะ พี่ชินดง”
เพียงแค่คุณเปิดประตูกระจกใสเข้าสู่ร้านหนังสือร้านที่ไม่ใหญ่มากนี้ จะพบกับภายในที่เป็นโทนสีน้ำตาลเหลืองสว่างนวลตาเหมาะแก่การอ่านหนังสือ ผนังด้านข้างของร้านเป็นลายไม้สีครีมอ่อนดูอบอุ่น ชั้นวางหนังสือสูงถึงเพดานที่ค่อนข้างต่ำของร้าน เป็นไม้เนื้อหนาสีน้ำตาลไม้โอ๊ค เรียงตัวทอดยาวตรงเข้าสู่ด้านในร้าน และสิ่งที่เรียกลูกค้าได้ดีคือ จุดนั่งอ่านหนังสือ ที่มีทั้งแบบโซฟาตัวนิ่มสีเอิร์ทโทนเข้ากับร้าน หรือเป็นเก้าอี้และโต๊ะเดี่ยวเข้าชุดกันให้เลือกนั่งตามสบาย
เจ้าของร้านหรือ พี่ชินดงของฮยอกแจที่ได้รู้จักกันเพราะเคยแย่งหนังสือเล่มเดียวกันที่ร้านหนังสือมือสองเมื่อปีก่อน จึงรู้จักพูดคุยตามประสาคนรักการอ่านเหมือนกัน แถมยังได้รู้อีกว่าชินดงเป็นอดีตรุ่นพี่ที่เรียนจบคณะอักษรของฮยอกแจ และเรียนรุ่นเดียวกับอาจารย์ทึกกี้อีกด้วย แล้วจนสุดท้ายสนิทกันก็ต้องมาเป็นลูกน้องให้พี่ชินดงจนได้
“โอ้ วันนี้มาเร็วน้ะเรา” เจ้าของร้านร่งท่วมนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ทักลูกน้องร่างเล็ก
“ก็ผมจำได้ว่ามีของมาลงใหม่นี่ฮะ” ฉีกยิ้มหวานให้พี่ชายคนสนิททันทีที่เหมือนได้รับคำชมกลายๆ
“อืม ดีมากๆ ว่าแต่วันนี้พกใครมาด้วยล่ะนั่น”
“เอ่อ เพื่อนครับ ซีวอนนี่พี่ชินดง เจ้าของร้านน่ะ” ร่างเล็กผายมือแนะนำชินดงให้ร่างสูงรู้จัก ซีวอนโค้งรับทักทายอย่างสุภาพ แม้ว่าช่วงนี้จะมาส่งฮยอกแจหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เข้ามาสักที
“สวัสดีครับพี่ชินดง ผม ชเวซีวอนครับ”
“หน้าตาหล่อมากเลยน่ะเรา แล้วนี่แค่เพื่อนรึว่าแฟนล่ะหือ??”
“ไม่ใช่น้ะครับ / กำลังจะเป็นครับ”
หนึ่งเสียงทุ้มที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวานแต่ความหมายไม่ได้ไปด้วยกันเลย ฮยอกแจที่ตกใจกับปฏิกิริยาของซีวอน มือเรียวที่ยกประกอบการปฏิเสธเมื่อสักครู่ค้างไว้ แต่ใบหน้าหวานหันไปหาร่างสูงทันที ซีวอนกลับยิ้มรับด้วยท่าทางที่เค้าไม่เคยเห็น ยกยิ้มหล่อไม่แปลกแต่ยักคิ้วเข้มใส่เค้านี่ซิ....
ซีวอนมีมุมนี้ด้วยเหรอเนี่ย...
“ฮ่าๆๆๆ” เจ้าของร้านตัวหนาหัวเราะลั่นอย่างพอใจกับปฏิกิริยาของรุ่นน้องทั้งสองคน
“ท่าทางว่าลูกน้องที่ร้านฉันจะมีคู่แล้วล่ะซิเนี่ย ฮ่าๆๆๆ” เสียงใหญ่พูดล้อลูกน้องตัวเองที่ใบหน้าขึ้นสีให้เห็นแล้ว แถมด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นปิดท้ายอีกครั้ง
“พี่อ่ะ ผมไปจัดของหลังร้านดีกว่า” คนงอนยู่ปากเล็กๆแล้วเดินหนีเข้าหลังร้านทันที พาลให้คนจีบต้องรีบตาม
“ฮยอกแจครับ ผมช่วยน้ะ” ตะโกนตามเสียงนุ่ม หันมายิ้มให้ชินดงแล้วเดินตามเสียงหวานที่ตอบอู้อี้ได้ความว่า ไม่ต้องเลย แต่ใครจะสนล่ะ
.
.
“พอก่อน ซีวอนไม่ต้องหรอก กลับบ้านก่อนก็ได้น้ะ”
“ไม่เป็นไร ผมอยากช่วยน้ะ จะเสร็จแล้วด้วยไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้านน้ะ”
สองคนขยันขันแข็งยกลังหนังสือมาใหม่ลงเรียงและจัดให้เป็นระเบียบ ของล็อตนี้ไม่มากนัก แถมยังมีผู้ช่วยกิตติมาศักดิ์รูปหล่ออีก ยกทีอย่างกับลังจะปลิว ไม่นานก็ใกล้เสร็จ แต่คนตัวเล็กก็ไม่วายออกอาการเกรงใจอยู่เป็นระยะตั้งแต่เริ่ม ซีวอนจึงต้องรวบรัดตัดความเบ็ดเสร็จไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องอยู่รอพาฮยอกแจไปส่งที่บ้านอยู่ดี
“แต่...”
Rrrrr Rrrrr
เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋ากางเกงสีเข้มของฮยอกแจก็แผดเสียงเรียกเจ้าของให้กดรับก่อนที่จะได้เอ่ยต่อ หน้าจออิเล็กทรอนิกซ์ขึ้นโชว์ให้ทราบว่าเป็น เพื่อนกระต่ายโทรมา
“ฮัลโหล ว่าไงซองมิน...อ่อ..งั้นเหรอ...น่าจะได้...อืม เดี๋ยวฮยอกโทรบอกแม่ก่อนน้ะ..อือ..บาย”
ซีวอนที่ยกลังสุดท้ายมาวางไว้ แล้วยืดตัวขึ้นตรงมองยังร่างเล็กที่เพิ่งวางสายไป
“ซีวอน เดี๋ยวฉันจะหาซองมินต่อน่ะ นายกลับก่อนก็ได้น้ะ”
“แล้วจะอยู่คุยกับซองมินนานมั้ย”
“ฉันจะนอนค้างกับซองมินน่ะ รายนั้นไม่รู้มีเรื่องอะไรโทรมาบังคับว่าให้ไปนอนค้างด้วย” ผมสีอ่อนพลิ้วกระจายเพราะเจ้าของสะบัดหน้าปฏิเสธเป็นสัญลักษณ์ของคำตอบ
“งั้นผมไปส่งคุณที่บ้านซองมินก็แล้วกันน้ะ” โดยไม่รอคำตอบอีกแล้ว เดินหนีไปยืนรอฮยอกแจที่หน้าร้านทันที
.
.
“บ้านน่ารักจัง” บ้านโพรงกระต่ายที่ซองมินชอบเรียก สามารถเรียกคำชมจากทุกคนได้เช่นกัน รถคันหรูแล่นมาจอดริมทางข้างรั้วสีขาวนั้น คนขับรูปงามเกาะพวงมาลัยชะเง้อคอออกดูบ้านทั้งหลังให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“เอ่อ ขอบคุณน้ะซีวอน” เสียงขอบคุณหวานทำเอาสายตาที่กำลังมองบ้านหลังเล็กผ่านแสงไฟ ต้องกลับมามอง ร่างสูงยิ้มรับและกระชับผ้าพันคอบนร่างบางอีกครั้งด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วเอ่ยน้ำเสียงทุ้มกระตุกหัวใจคนฟังให้เต้นซ้ำแล้วอีกครั้งของวันนี้
“คืนนี้อากาศหนาว นอนห่มผ้าหนาๆน้ะครับ”
“อืม ฉันไปน้ะ” ฮยอกแจหอบเอาหน้าแดงก่ำร้อนผิดกับอากาศด้านนอกเข้าบ้านหลังน้อยที่มีเจ้าของตัวกลมออกมาเปิดประตูให้แล้วเพราะได้ยินเสียงรถ ซีวอนที่ยังคงไม่ออกรถ รอให้ฮยอกแจเข้าบ้านเรียบร้อยแล้วจึงกลับบ้านของตนเองบ้าง
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
“ฮยอก...หลับรึยังน่ะ”
“ลี ซอง มิน...นายถามฉันแบบนี้มาหกรอบแล้วน้ะ เรียกฉันแล้วก็เงียบเนี่ย อุตส่าห์มานอนเป็นเพื่อนเพราะมีเรื่องจะปรึกษาไม่ใช่เหรอ”
ร่างเล็กของฮยอกแจที่อยู่ในชุดนอนสีหวานของซองมินเป็นกางเกงผ้านุ่มขายาวลายตารางสีชมพูฟ้าที่ดูติดจะหลวมหน่อยๆ ต่างกับเจ้าของร่างอวบที่อยู่ในชุดนอนตัวยาวสีชมพูลายการ์ตูนที่รักนักหนาตัวเก่ง นอนมองเพดานห้องอยู่ใต้กองผ้าห่มที่คุณพ่อซองโฮขนมาให้ได้นอนอุ่นกันในคืนหนาวๆเช่นนี้
“ก็....ฉันไม่รู้จะเริ่มยังไงนี่นา ฮยอกอ่า ~”
“คิดประโยคอะไรอยู่ในใจก็บอกอันนั้นแหละ ไม่งั้นฉันจะนอนแล้วน้ะ”
“งือ ~ ก็ได้ คือ...คือฉันหัวใจเต้นแรงเวลาอยู่กับคยูอ่ะ หรือเพราะว่าชั้นได้กลิ่นขนมจากนายนั่นอ่ะ”
เสียงหวานพูดรัวรวดเดียวจบทำเอาเพื่อนตัวเล็กกระเด้งตัวลุกขึ้นมามองหน้าเพื่อนผ่านเสียงสีส้มของโคมไฟหัวเตียง
“!!! ซองมิน นี่นายยังไม่รู้อีกเหรอเนี่ย”
“รู้อะไรอ่า” ตากลมแบ๊วสบตาเพื่อนที่นั่งมองอยู่อย่างตะลึงไม่เบา
“เดี๋ยวน้ะ นายจูบกับคยูไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ไม่ใช่แค่คนถูกจูบเมื่คราวนั้นหรอกที่หน้าแดงคนถามตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน เอ่ยถามเสียงเบาอย่างอายๆ
“กะ ก็ใช่น่ะสิ >////<”
“แล้วนายยังไม่รู้อีกเหรอว่า นายใจเต้นกับคยูเพราะอะไร”
“กะ ก็เหมือนจะรู้แต่ไม่แน่ใจอ่ะ คยูก็ทำเหมือนปกตินี่นา ฉันแค่อยากจะรู้ว่าที่ฉันคิดมันถูกรึเปล่าน่ะ” มือกลมสองข้างจับเข้าหาด้วยกันอย่างที่ชอบเผลอทำเวลาคิดอะไรไม่ออก ดวงตากลมโตผลุบลงมองอย่างไม่แน่ใจ
“....ซองมิน ลองคิดดูน้ะนายใจเต้นเวลาที่เห็นของกินหรือได้กลิ่นหอมๆน่ะเหมือนกับเวลาที่นายอยู่ใกล้คยูฮยอนเค้ามั้ย”
ฮยอกแจยกมือกลมมารวบไว้ราวกับแบ่งปันความเข้าใจระหว่างเพื่อนไปให้ แล้วเอ่ยต่อ
“เวลาฉันเห็นซีวอนทุกครั้งไม่ว่าเมื่อไหร่ หัวใจมันจะเต้นแรงเสมอ แค่นี้ชัดเจนพอมั้ย ว่าของนายใช่ความรักรึเปล่า ลองคิดดูดีๆ” ดวงแก้วใสยังสั่นไหวไปมา ฮยอกแจไม่รู้ว่านั่นคือการสั่นไหวด้วยเหตุผลใด ซองมินอาจจะสับสน หรืออาจจะรู้แล้วถึงคำตอบแต่ก็อยากให้แน่ใจอีกก็เป็นได้
“เอาเป็นว่านายค่อยๆคิด เรื่องอย่างนี้มันรู้ได้แค่ตัวนายเองเท่านั้นน้ะ”
“อืม...ฉันต้องคิดเองซิน้ะ”
“นอนเถอะ อย่าคิดมาก ..หาวววว ~ ฉันง่วงแล้วอ่ะ ฝันดีน้ะ” ว่าจบก็ล้มตัวหันหลังหนีให้เพื่อนทันที
“เดี๋ยวซิฮยอก ~ แล้วถ้าฉัน...#$+&^%$#........” คำถามมากมายยังคงส่งมาไม่หยุดมือกลมก็เขย่าร่างเล็กของเพื่อนไปด้วย จนคนง่วงนอนต้องกลอกตาขึ้นฟ้า
วันนี้จะได้นอนมั้ยเนี่ย... -*-
TBC…
_.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._.Flip Love._.~;*’¯’*;~._.~;*’¯’*;~._
*************************************************************
ประกาศ ตัวไม่โต หุหุ ส่วนที่เหลือเป็น เอ็นซี น้ะคะ แต่ไม่ได้ลงที่นี่ ใครไม่ทราบว่าต้องตามไปที่ไหน
กดอ่านที่ตอนที่ 1 เลยค่ะ กฏการอ่านฉากที่ไม่มี
แบ่งปันให้ทุกคนได้อ่าน เอล์ฟคนไหนอายุน้อยกว่ากำหนดกรุณามีเอล์ฟที่แก่กว่าควบคุม หุหุ
คอมเม้นต์ไม่กระดิกเลย เราเขียนไม่สนุกใช่ป่ะ ทั้งที่ยอดวิว สองพันไปแล้วอ่ะ T^T
""""
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ซองมินสับสนแบบนี้คยูคือคนแรกสินะ
จะร้อนแรงไปถึงไหนก็ไม่ทราบคู่นี้อ่ะ ><
คิเฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
วอน ตกลงเธอจะเอายังไงกับฮยอกฮะ!!!
วอน นายจริงใจกับฮยอกรึป่าว
แล้วมินจ๋ารู้ช้าพอๆกะคยูเลยเชียวนะ คู่กันจริงๆ
ส่วนบอมเทอไม่ได้รักหมวยเหรอแต่เทอมีไรกะหมวยตลอดอ่ะ
หรือรักแต่ไม่รู้ตัวหว่าจนกว่าจะสูญเสียแบบนั้นหรือป่าวอ่ะ แต่หมวยเพราะรักถึงยอมอ่ะ
ฮยอกเริ่มใจออนให้วอนแล้ว
ชีวอนฉันขอเซงให้แกรักฮยอกจนโงหัวไม่ขึ้น
ถ้าแกทำร้ายฮยอกแกจะต้องเจ็บกว่าฮยอกเป็นพันเท่า ล้านเท่า
มินนี่จร้าาาาา ไม่ต้องคิดมากหรอก คยู่ก้อรักมินนี่น่าาาาาา
สงสารฮยอกกับการทำดีเพื่อหวังผลของซีวอน
คิเฮ พวกคุณทำให้เราอยากเป็นเตียงในห้องคิบอม .///.
มิน กว่าจะรู้ตัว 555
มินจ้ารักแล้วล่ะจ๊ะ
คิบวม=หื่น
แรงสมคำโฆษณา5555
.
.
วอนฮยอกจะต้วมเตี้ยมไปไหน!!!
มินนี่ยังไม่รู้หัวใจตัวเองทีเหรอ
อิวอนชั้นเกลียดแก ที่แกทำแบบนี้เพราะหวังผลประโยชนื์สินะ เหอะ!!
วอนเองก็ะหอะที่อ่อนโยนขนาดนี้เพราะหวังผลใช่ไหม วอนแย่อ่ะ
ถ้าฮยอกเสียใจนะเค้าจะแย่งมา =^=
ไม่รู้ทำไมนะ ถึงวอนจะดีกับฮยอกมาก
แต่มันก็มีอย่างอื่นแอบแฝงไง
เลย ทำใจให้ปลื้มวอนไม่ได้ T^T