ตอนที่ 25 : *Flip Love*: Chapter 23 หิมะแรก...น้ำตาแรก... (100%)
Chapter 23 หิมะแรก...น้ำตาแรก...
ฮยอกแจจ้ะ...ฮึก..
!!! แม่ฮะเป็นอะไรฮะ ร้องไห้ทำไม เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นทำเอาเพื่อน ทั้งสองคนที่เหลือหันมองด้วยท่าทางตื่นตกใจ
คุณตา...ฮึก..เสียแล้ว....ฮึก...เมื่อเช้านี้จ้ะ
คะ..คุณ...ตา... ฮยอกแจตาโตเบิกกว้าง ราวกับจะเปิดทางให้กับน้ำตาที่กำลังเริ่มก่อตัว มือไม้อ่อนแรงนำพาเอาหนังสือเรียนสองสามเล่มที่เตรียมเอาใส่กระเป๋าไปมหาวิทยาลัยร่วงลงสู่พื้นด้านล่างขาที่ราวกับยืนอยู่ไม่ไหว เท้าที่มีกองหนังสือทับอีกทีไม่รับรู้ถึงความรู้สึกใดๆ
ฮึก...ใช่จ้ะ..แม่ต้องไปเตรียมงานก่อนนะ...ฮึก..แล้วเดี๋ยวเราค่อยตามแม่มานะ เยจินพยายามเข้มแข็งไม่ปล่อยโฮใส่ลูกชาย
ฮือ..ด่ะ...ได้..ฮะ...ฮึก... ฮยอกแจเริ่มร้องไห้หนักขึ้น ร่างบางนั่งลงปล่อยน้ำตาให้หล่นไปโดยมีเพื่อนสองคนที่เริ่มเข้าใจสถานการณ์แล้วคอยโอบกอดปลอบโยน
ฮยอกแจกดวางสายผู้เป็นแม่ไปทั้งที่ยังมีเสียงสะอื้นเบาๆ
ไม่เป็นไรนะฮยอก...คุณตาไม่ทรมานแล้วนะ...คนที่เรารักก็ต้องจากเราไปอยู่ดีไม่ว่าวันใด....ก็วันนึง กระต่ายตัวอวบลูบผมสีน้ำตาลคาราเมลอย่างปลอบโยน ฮยอกแจพยักหน้ารับช้าๆ
...ฮือ..แต่ฉันกับ...คุณตา..ฮะ..ฮึก...สัญญาไว้ว่า...จะไปบ้าน...ริมทุ่งดอก..ฮึก..คาโนล่า..ด้วยกันอยู่เลย เพื่อนทั้งสองพอได้ฟังก็ยิ่งทุกข์ใจตาม แต่ก็ทำได้เพียงปลอบใจเท่านั้น
อืม...ไม่เป็นไรหรอก..ตอนที่ฮยอกสัญญา..อึก..คุณตาก็ไม่สบายอยู่แล้วนี่...ไม่เป็นไรหรอกนะ เรียวอุคกลืนเสียงสะอื้นลงคออย่างห้ามน้ำเสียงและน้ำตาที่จะปล่อยตามลงมา
เพราะฉะนั้น...เราไม่ได้ผิดสัญญากับคุณตาสักหน่อยนะ... ซองมินบอกเสริม
.......... ฮยอกแจไม่เอ่ยรับแต่พยักหน้าขึ้นลงเพื่อบอกว่ารับรู้แล้วแต่ไม่มีเสียงส่งออกมาเพราะว่ากำลังร้องไห้อย่างหนักจนหายใจแทบไม่ทัน
ฮึก...ฉันจะไปงานคุณตานะ...ฮึกๆ ฮยอกแจปวดน้ำตาออกจากหน้าลวกๆ แล้วยืนขึ้นบอก
แล้วฮยอกจะไปยังไงล่ะ
ซีวอน..ฮึก..บอกว่าจะพาไปเยี่ยมคุณตา..ฮึก..เมื่อวานน่ะ
ฮยอกแจกดโทรศัพท์หาซีวอนโดยที่ดวงหน้าหวานยังเปื้อยนหยดน้ำใส แต่ก็ไม่มีการกดรับจากปลายสาย จึงตัดสินใจย้อนกลับมาที่มหาวิทยาลัย เมื่อซองมินบอกว่าคยูฮยอนจะอยู่คุยกับซีวอนและเยซองต่อ
ฮยอกแจเดินกลับมาคนเดียวพร้อมน้ำตาที่ยังคลออยู่ตลอด โดยไร้เพื่อนร่างเล็กและร่างอวบ เพราะอากาศที่เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ ของที่ซื้อกันมาก็หนักเลยตกลงว่าจะแยกกันกลับ แม้จะไม่ยอมที่ปล่อยเพื่อนไปแต่สุดท้าย สองคนก็ต้องยอม
..
..
ทางเดินร้างผู้คนที่ทอดตัวสู่ตึกคณะบริหารในบรรยากาศบ่ายคล้อยเย็น แต่บรรยากาศขมุกขมัวไร้แสงอาทิตย์เช่นนี้ ช่างดูเหมาะกับน้ำตาหยดใสที่ยังไหลไม่ขาดจากใบหน้าใต้กรอบแว่นแก้วนั้นมากเหลือเกิน
......อยากไปหาคนคนนั้น คนที่ปลอบโยนให้คลายความทุกข์....ซีวอน
....อยากให้มือหนาลูบปลอบแล้วบอกว่า ไม่เป็นไรนะ
ฮึก...ซีวอน.... เสียงหวานพึมพำเบาๆไออากาศที่เป็นหมอกขาวๆพ่นออกจากเรียวปากบางบ่งบอกให้เห็นถึงความหนาวเหน็บในอากาศแสนเลวร้ายเช่นนี้ เรียวขาเล็กก้าวเดินด้วยความเร็วเท่าที่ตนเองจะทำได้ ฝ่าอากาศหนาวเย็นที่ลอยตัวต่ำลงมาปะทะร่างบางใต้โค๊ทตัวหนา
..
..
..
เฮ้ย ไอ้วอน ทำไมแกทำอย่างนี้ว่ะ อย่างนี้มันเหมือนกับหลอกเขาเลยน่ะห่ะ ซีวอนที่เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ทั้งคยูฮยอนและเยซองฟังจบ ก็แทบจะได้คำด่ามากมายแทบไม่หวาดไม่ไหว
ตอนแรกฉันก็ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้นี่ แต่ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าฉันรักเขาจริงๆ ฉันถึงได้มาปรึกษาพวกแกไงล่ะ
...เรื่องคงยากแล้วล่ะ นอกจากว่าฮยอกแจเขาจะไม่รู้ความจริงไปตลอดชีวิต เสียงทุ้มของคยูฮยอนเอ่ยเสริม
เออ หลอกเขาไปเลยให้ได้ตลอดชีวิตนะมึง แผนจีบไก่น้อยสอยหนังสืออะไรของมึงเนี่ย เยซองเริ่มจะโมโห เมื่อยิ่งคิดยิ่งเสียใจแทน ทั้งสามคนที่ไม่ได้รับรู้การมาถึงของคนในประเด็นที่กำลังเอ่ยถึงเลยซักนิด
กึก......
เท้าน้อยที่กำลังจะก้าวผ่านหน้าห้องหยุดกึกไว้...เมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคย....
....แผนจีบไก่น้อยสอยหนังสือ
..
..
พูดอะไรของแกอย่างนั้นว่ะ.....เฮ้อออ....ถ้ามันง่ายฉันคงไม่มานั่งถอนหายใจให้แกประชดเล่นอย่างนี้หรอก ร่างหนาปล่อยลมหายใจที่ดันออกมาด้วยความอึดอัดคับข้องใจ
แกก็ทนไปซิ หลอกเขาได้มาขนาดนี้ ทั้งพวกเรา ทั้งเพื่อนเขา เดี๋ยวแกก็หลอกบอกรัก พาไปเดท ทำให้รักมากๆเหมือนว่าเค้าได้เจอรักแท้แล้วจริงๆ หลังจากนั้นแกก็ค่อยบอกให้ฮยอกแจเลือก มิริน เป็นผู้ถูกเลือกคนต่อไป พอหลอกใช้เขาสมใจแล้ว แกก็ค่อยทิ้งเค้าไปรักกับมิรินสุดที่รักของแกเหมือนเดิมไง แบบนี้สมใจแกพอรึยัง ห๊ะ!
เยซองพูดออกมาด้วยความโกรธว่าประชดเข้าไปเต็มๆ เขาโกรธมากจริงๆอยากจะต่อยซักหมัดแรงๆให้มันสลบไปเลย ต่างกับคยูฮยอนที่ได้แต่นั่งถอนหายใจส่ายหน้า เมื่อไม่มีวิธีหรือทางออกดีๆที่ไหนเลย
ซีวอนได้แต่นั่งมองเหม่อด้วยสายตาเศร้าสร้อยนึกละอายใจและรู้สักผิดมากมายเกินบรรยาย โดยไม่ได้เอ่ยแก้ คำที่เยซองเอ่ยประชดออกมานั่น หารู้ไม่ว่า
....คนฟัง...กำลังจะขาดใจ
..
..
...เจ็บ
...เจ็บพอไหม ลีฮยอกแจ กับความโง่เขลา
เสียงทุ้มที่ดังลอดออกมาจากห้องเรียนที่ปราศจากบุคคลอื่นใดดังเข้าโสตประสาท เป็นราวกับคำตอบของคำถามที่ตนเองเฝ้าถามใจมาตลอด ขาเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงแทบจะทรุดลงตรงนั้น
ฮยอกแจค่อยๆก้าวถอยออกมาจากจุดๆนั้นนำพาร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรงของตนเองออกมา
ดั่งสวรรค์จะเข้าใจ ปุยหิมะเม็ดน้อยกลั่นตัวลอยลงปะทะแก้มนวลที่เปื้อนน้ำตา หยาดใสที่กลั่นตัวหยดลงทีละหยดหยาดดั่งหิมะเม็ดขาวระปุยฝ้ายที่โปรยปรายมาจากฟ้า
ทำไมอยู่ดีดี ซีวอนคนที่แทบจะไม่เคยได้สบตาด้วยจึงมาสนใจ
ทำไมอยู่ดีดี ซีวอนคนที่หลงรักมานานจึงมาขอคบเป็นแฟน
ทำไมอยู่ดีดี ซีวอนคนที่ทั้งชีวิตยกให้ผู้หญิงที่ชื่อ ชเวมิริน คนเดียวถึงได้ยอมมีใครเข้ามาในชีวิตได้อีก
ทำไมถึงไม่เคยคิดว่า....ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินคำว่า ....รัก
....หึ น่าสมเพช ชะมัดเลย ไม่เจียมตัวเองเลยเรา คิดได้ยังไงว่าเค้ามารักมาชอบกันจริงๆ....ดีแค่ไหนแล้วที่เค้าทำดีด้วย อ่อนโยนด้วย...
รอยยิ้มเหยียดหยันตนเองวาดขึ้นพร้อมกับหยาดน้ำตาค่อยๆไหลออกมา หลังจากที่บดบังม่านตา สร้างความเลือนลางให้กับภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ภาพแห่งความจริงที่สร้างความเจ็บปวดอันไร้เสียงแต่มันกลับดังปลาบแปลบเสียดแทงอยู่ภายใน...ภายในก้อนเนื้อที่เรียกว่า.....หัวใจ
....หัวใจ ที่คนคนนั้นไม่เคยต้องการ เราเองที่เอาไปยัดเยียดให้เค้า ทั้งที่เค้าไม่เคยต้องการมันเลย เค้าต้องการเพียงสิ่งนั้น...หนังสือเล่มนั้น...เพื่อผู้หญิงคนนนั้น คนที่ยังคงสำคัญที่สุดสำหรับเค้าเสมอเพียงคนเดียว
....ชเวมิริน
..
..
ฮยอกแจจะคบกับผมได้มั้ยครับ
...
คืนนี้อากาศหนาว นอนห่มผ้าหนาๆนะครับ
...
ฮยอกแจครับ.......ถึงเราจะรู้จักกันมานานแล้ว แต่ว่าผมไม่เคยดูแลฮยอกแจเลย แต่ว่าครั้งนี้ผมอยากจะดูแลฮยอกแจ อยากจะมีฮยอกแจอยู่เคียงข้างผม....ผมอยากให้ชีวิตในวันข้างหน้าต่อไปมีฮยอกแจอยู่ ให้โอกาสผมได้ดูแลคุณเถอะนะ
...
อืม ครับคงต้องซื้อไปง้อมิรินเขาหน่อยวันนี้ผมออกมากับฮยอกแจ เขาเลยบอกว่าต้องมีของฝากเขาไม่รู้ว่าเอาเป็นดอกไม้จะดีรึเปล่าน่ะครับ
...
เอ่อ อืม...ก็เราโตมาด้วยกันนี่นา ตั้งแต่เด็กๆแล้วไม่เคยห่างกันเลยล่ะ คุณพ่อบอกให้ดูแลมิรินเขาให้ดีๆ ผมเลยต้องตามใจเขาทุกอย่างเลยน่ะ อยากเล่นอะไร อยากได้อะไรผมก็ต้องพยายามทำเพื่อเขาให้ได้
...
ครับ ไม่มีอะไรครับมิริน เรียบร้อยทุกอย่าง ไม่ต้องกังวลหรอก
คือ...ผมอยากถามเรื่องหนังสือในตำนานน่ะ
พี่ฮีชอลคุยอะไรกับฮยอกอีกรึเปล่า หรือว่าอาจารย์ทึกกี้มาบอกอะไรคุณมั้ย
...
...
หึหึ...น่าอายจริงๆ บอกรักเค้าไปตั้งกี่ครั้งเนี่ย หึ...ฮึก... ฮึก..ฮึกๆ...ฮือ.. เสียงหัวเราะใสที่ดังขึ้นจากเจ้าของใบหน้าหวาน กับรอยยิ้มที่ยกขึ้นมาเพราะสมเพชตนเอง ใบหน้าที่ตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดหยดสีใสที่ไหลออกมาพร้อมรสชาติของความเจ็บปวด ความหนาวจากภายนอกไม่ได้เทียบเทียมความเย็นยะเยือกที่เข้าเกาะกุมจิตใจให้แข็งจนแทบจะหยุดเต้นเช่นนี้
เอาตัว...ฮึก...ไปให้เขา...ฮึก..คิดว่าได้ความ...ฮึก..รัก...จากเขา...ฮึก..รึไง...ฮึกๆ
ขาบางดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงที่ถูกดึงหมดหายไปโดยน้ำคำที่ได้ยินมา ค่อยๆอ่อนแรงลง ฮยอกแจนั่งลงอิงกายไปกับผนังหลังตึกเรียน ที่ไม่มีคนเดินผ่านไปมา
เรามันฮึก...โง่ ฮยอกแจ....ฮึก..เรามัน...ฮึก...โง่... ร่างบางเอ่ยน้ำคำตัดพ้อตัวเอง มือเล็กเรียวก็กำแน่นเหวี่ยงสร้างแรงปะทะเข้าที่อกบางตนเอง ปล่อยหยดน้ำให้ค่อยๆพรั่งพรูออกมาราวกับว่า มันกำลังชะล้างเอาความจริงออกมาปรากฏให้เด่นชัดขึ้น เรื่องราวที่เคยคิดเข้าข้างตนเอง คิดว่าเค้ารักเราจริงๆ การกระทำทุกอย่างที่เค้าทำด้วยความอ่อนโยนและความรัก ทั้งหมดทั้งสิ้นถูกล้างออกด้วยน้ำตา น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
เขาจะมา..ฮึก..สนใจ...ฮือ.....อะไรคนอย่างเรา...ฮึก...เขาไม่ได้รักเรา...ฮึก...
หัวใจดวงน้อยที่เคยพองโตเพราะความสุขเต็มล้นหัวใจ ณ ตอนนี้ถูกเข็มแท่งเล็กสะกิดเพียงปลายแหลม ก็แหลกเหลวลงคามือ...มือหนาที่เคยโอบกอดด้วยความรู้สึกที่ คิดว่า รัก...
....ที่คุณทำทุกอย่างลงไปเพียงเพื่อเธอคนนั้น ไม่ใช่เพื่อผม
คุณดีต่อผม คุณบอกรักผม เพื่อหนังสือเล่มนั้น เพื่อเธอคนนั้น....
กับดักหัวใจที่คุณสร้างไว้ วันนี้ฉันติดกับมันแล้ว...เจ็บปวดมากแค่ไหนก็ทำได้เพียงแค่รอเวลา...เวลาที่คุณจะเอาสิ่งที่ต้องการจากไป...แล้วพร้อมกับทิ้งบาดแผลไว้...แผลที่เกิดจาก....กับดักหัวใจ
คุณตาฮะ ทำไมดอกเหลืองๆเต็มทุ่งไปหมดเลยล่ะฮะ มันจะไม่เหี่ยวก่อนเราจะเก็บหมดเหรอฮะ เสียงหวานของเด็กน้อยถามคุณตาตามประสาเด็กช่วงวัยอยากรู้อยากเห็น
เราไม่ได้เอากลีบดอกมันหรอกนะ เราเอาเมล็ดที่อยู่ข้างในของมันต่างหาก เสียงทุ้มเจือความชราเล็กน้อยบอกตอบหลานชายวัยไม่ถึงสิบขวบดี
ทำไมล่ะฮะ ดอกไม้ถ้ากลีบไม่สวย ก็ไม่มีใครสนใจไม่ใช่เหรอฮะ
มันไม่ใช่ทุกอย่างเสมอไปหรอกนะฮยอกแจ ดอกไม้บางอย่างมีค่า เพราะว่ากลีบดอกที่แสนสวยงาม มีกลิ่นหอมแต่กลับทำได้แค่นั่งมองรอมันแห้งเหี่ยวไป แต่ดอกไม้บางชนิดมีค่ามากกว่าแค่ภายนอก เหมือนดอกคาโนล่านี่ไงล่ะ เราเอาเมล็ดของมันมาสกัดเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพได้มากกว่าน้ำมันหลายๆชนิดเลยล่ะ
ว้าวจริงเหรอฮะ...งั้นฮยอกโตขึ้นจะเป็นคนแบบดอกคาโนล่านะฮะ
ดีมากหลานตา...คุณค่าของเราควรอยู่ที่ภายในไม่ใช่ภายนอก เพราะมันยั่งยืนว่าสิ่งไหนนะฮยอกแจจำไว้...
..
..
คุณตาฮะ...ฮึก... ดวงตาเรียวใต้กรอบแว่นแก้วที่ยังมีน้ำหยาดใสไหลอยู่มองเหม่อออกไปในทุ่งดอกคาโนล่า นึกถึงช่วงเวลาวัยเด็กที่มาอยู่บ้านสวนกับคุณตา
ปลายนิ้วเรียวยื่นไปแตะกลีบดอกสีเหลืองตรงหน้าเบาๆ
....อยากจะทำให้ได้...อยากจะเป็นคนที่มีค่า...อยากให้คนที่รักต้องการคุณค่าจากตัวตนจริงๆ.....
ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหลไม่หยุดภาพตรงหน้าขุ่นมัว แต่ทันใดก็ได้ยินเสียงคล้ายกับฝีเท้าเหยียบลงบนเศษหญ้าแห้งบนพื้น ฮยอกแจสะดุ้งเล็กน้อยรีบหันไปหาต้นเสียง แต่ภาพที่เห็นก็ไม่ชัดเจนจนต้องถอดแว่นแก้วออกมายกแขนขาวขึ้นเช็ดหยาดน้ำตาที่ดวงแก้วใสอย่างลวกๆ
.........
ชายหนุ่มร่างสูงใบหน้านิ่งนุ่ม หยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ เมื่อดวงหน้าหวานที่หันมาสบ ด้วยดวงแก้วใสคลอหยาดน้ำ ผมนุ่มสีคาราเมล ที่รับกับผิวเนียนละเอียดสีขาวผ่อง ทำให้ ยังซึงโฮ หนุ่มเจ้าของฟาร์มองุ่นไร่ติดกันต้องชะงักนิ่ง ใจดวงแกร่งเต้นแรง
.....นี่เรียกว่ารักแรกพบ...ใช่รึเปล่า....
หนุ่มร่างสูงที่ดูแลไร่องุ่นที่สืบทอดกันมานานเป็นรุ่นที่สาม กำลังจะเดินตัดผ่านทางลัดที่เอาไว้มาหาคุณตาบ่อยๆก็ต้องหยุดเท้าที่ก้าวเข้ามาเพราะเห็นร่างบางยืนนิ่งอยู่กลางทุ่งที่มีดอกไม้สีเหลืองกระจายล้อมรอบ ยิ่งทำให้ความงดงามนั้นเพิ่มมากขึ้น
คะ...คือ... เมื่อไม่มีใครเอ่ยอะไรทำลายความเงียบ ซึงโฮจึงเริ่มพูดก่อน เพราะดูแล้วว่าร่างบางที่หยาดน้ำตาไม่ขาดสายนั้นเริ่มเหม่อมองออกไปไกลอีกครั้ง
คุณเป็นใครเหรอ ทำไมถึงมายืนอยู่ในสวนคุณตายอนซอกอย่างนี้ล่ะ
ฮยอกแจหลุดออกจากภวังค์หันมาตอบ พร้อมกับเช็ดหยาดน้ำออกจากแก้มขาวนวลเบาๆ
......ผมเป็นหลานของคุณตาน่ะฮะ...ฮึก
แววตาเศร้าสร้อยแสนปวดร้าวที่ลืมขึ้นสบ ยิ่งทำให้หัวใจดวงโตที่แกว่งอยู่นั้นรุนแรงขึ้น เสียงหวานที่เจือความเศร้าสร้อย ซึงโฮที่เข้าใจได้ว่า ร่างบางตรงหน้าคงเสียใจมากเพราะคุณตาที่จากไป แต่หารู้ไม่มันปวดร้าวเป็นสองเท่า...เพราะเหมือนเราเสียคนที่รัก...และคนที่เราคิดว่าเขารัก...จากไปพร้อมกันถึงสองคน
ผม...ชื่อยังซึงโฮ...อยู่ไร่องุ่นข้างๆครับ...เสียใจเรื่องคุณตาด้วยนะครับ... เสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยน แต่ไม่แค่นั้น เมื่อมือหนาถอดเอาหมวกผ้าแบบชาวไร่สวมบนผมกลุ่มนุ่ม จนร่างเล็กต้องเงยหน้าขึ้นมอง
ถึงจะเย็นอย่างนี้แล้ว แต่แดดก็ยังมีนะ...เรากลับเข้าบ้านกันเถอะครับ แม้ว่าทางโซลจะมีหิมะตกลงมาแล้ว แต่จังหวัดทางใต้อย่างเมืองชางวอนก็ยังมีอากาศที่อบอุ่นอยู่บ้าง อากาศที่นี่จึงไม่หนาวนัก มีแสงแดดช่วยสร้างความอบอุ่น
เอ่อ...ฮะ
..
..
อ้าว...รู้จักกันแล้วเหรอจ้ะ เยจินทักขึ้นเมื่อเห็นลูกชายร่างเล็กของตนเองเดินเคียงเข้ามากับเด็กหนุ่มหล่อข้างบ้าน
เราบังเอิญเจอกันในไร่เมื่อกี้น่ะครับคุณน้า
เราคงไม่เคยเจอกันซินะ ทั้งที่บ้านติดกันอย่างนี้น่ะ ซึงโฮจ้ะ นี่ฮยอกแจลูกคนเดียวของน้าจ้ะ ซึงโฮน่าจะอายุมากกว่า สองปีเห็นจะได้ เยจินที่เริ่มจะทำใจเรื่องผู้เป็นพ่อได้แล้วแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกันด้วยน้ำเสียงเจือความเหนื่อยอ่อน
ห่างกันแค่สองปีเองเหรอเนี่ย..ฮยอกแจดูตัวเล็กพี่ก็นึกว่าห่างกันคงจะหลายปี มือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยนแต่....ความอ่อนโยนที่เคยได้รับจากใครคนนึงมาแบบเดียวกันนี้ มันสะกิดแผลในใจให้อยากกลั่นหยาดน้ำตาออกมาอีกครั้ง
อาการของร่างเล็กที่เหมือนกำลังกล้ำกลืน ฝืนไม่ให้มันหยาดใสหล่นลงจากขอบตาทำให้ ซึงโฮแปลกใจ ทำไมคนคนนี้ถึงได้ดูเศร้าสร้อยอย่างนี้
......
เมื่อเห็นว่าสุดท้ายน้ำตาก็ประโดนแก้มใส มือหนาก็ค่อยๆแนบลงที่ข้างแก้มทั้งสอง
ร้องไห้อีกแล้วเหรอ...พี่เช็ดให้นะ... แล้วจึงใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือเช็ดออกอย่างเบามือ
...ฮึก...ขอบคุณฮะ แก้มนวลที่เปียกชื้นแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ก้มหน้าลงหนีมือหนาที่ยังแนบอยู่ หมุนตัวเดินเข้าห้องตัวเองไป ฮยอกแจเขินที่คนเพิ่งรู้จักกันมาอ่อนโยนและใกล้ชิดอย่างนี้อยู่สักหน่อย
ซึงโฮ ลูกน้าเขาขี้อายหน่อยนะจ้ะ เขาไม่ค่อยได้สนิทกับใครเท่าไหร่น่ะ
ครับ ผมว่าตอนเขาเขินดูน่ารักดีนะครับ เยจินมองซึงโฮที่ยังไม่ละสายตาจากบานประตูที่เพิ่งปิดไป พร้อมคิดว่า บางทีฮยอกอาจจะมีคนช่วยรักษาแผลก็เป็นได้
...ย้อนไปเมื่อวันที่ฮยอกแจนั่งรถมาที่บ้านสวนเองคนเดียวพร้อมน้ำตา ผู้เป็นมารดาก็เข้าใจว่า เพราะเรื่องคุณตาที่จากไปเพียงอย่างเดียว แต่คืนนั้น...ฮยอกแจก็มาเคาะประตูขอนอนด้วย...แล้วก็เริ่มเล่าทุกอย่างพร้อมน้ำตาของผู้เป็นลูก....
ซึงโฮ....น้าฝากน้องด้วยได้มั้ย เยจินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังเจือขอร้อง จนซึงโฮต้องหันมามองด้วยความแปลกใจ
ได้ครับ...ผมจะดูแลฮยอกแจให้เขาหยุดร้องไห้...และให้เขายิ้มให้...นะครับ ไม่มีคำถามถึงสาเหตุ ชายหนุ่มที่เชื่อแล้วว่า รักแรกพบ เป็นอย่างไร เขาอยากจะให้คนที่เข้ามาอยู่ในใจเขาปราศจากน้ำตาบนใบหน้านวลนั้นเสียที
....อยากจะเห็นรอยยิ้มกว้างๆอย่างสดใสดูซักครั้ง...
..
..
เยจินเอ่ยชวนซึงโฮให้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันที่บ้านชายหนุ่มแสนอ่อนโยนก็ไม่เอ่ยปฏิเสธ นั่งทานอาหารของตัวเองไปเทคแคร์ฮยอกแจไปอย่างเต็มที่ ฝ่ายร่างบางที่ไม่ชินกับการดูแลอย่างนี้ก็เกร็งจนน่าเอ็นดูไปจนจบมื้อเย็นของวันนี้
ลมเย็นจัง....
บนระเบียงบ้านไม้ริมทุ่งคาโนล่าที่ยื่นออกมานอกชายหลังคายามค่ำเช่นนี้มีร่างบางที่นั่งเหม่อมองออกไปยังดอกสีเหลืองที่บัดนี้เริ่มมีสีครึ้มของท้องฟ้าปกคลุม โยกไหวพลิ้วไปตามแรงลมพัด...แสงจากดวงจันทร์ดวงโตกลมใหญ่ส่องสว่างกระทบกลีบดอกเหล่านั้น ช่างสวยงามจนไม่อยากละสายตา
ฮยอกแจ พรุ่งนี้พี่ไปด้วยนะ ซึงโฮคุยกับเยจินเสร็จแล้วเดินออกจากตัวบ้านเพราะจะให้น้าสาวพักผ่อนเอ่ยบอกถึงวันพรุ่งนี้ที่เป็นการจัดงานศพซึ่งมีเฉพาะญาติเท่านั้นเป็นส่วนสุดท้ายก็เรียบร้อย
...ได้ฮะ เสียงนุ่มที่เอ่ยถามขึ้นเบาๆให้ฮยอกแจพยักหน้ารับและบอกคำ ร่างสูงหยุดกายลงนั่งข้างๆกับร่างบางบนม้านั่งที่ระเบียงซึ่งหันหน้าออกไปชมภาพไร่สวนในความมืด
เสียงลมหวาดหวิวปะทะโดนยอดดอกคาโลน่าให้สะบัดลู่ไปตามแรงลม
กลับวันไหนเหรอ
.....ผม....ยังไม่รู้ฮะ
....วันเข้าค่ายสองคณะก็อีกไม่กี่วัน...ยังไงก็ต้องกลับไปเผชิญความจริง...
...พี่อยากจะขออะไรได้มั้ย...ช่วงเวลาที่เหลือก่อนกลับ...พี่ขอทั้งหมดเลยนะ ซึงโฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริงจัง ทำให้ฮยอกแจได้แค่มองอย่างงงๆ
...พี่จะพาเราไปเที่ยวให้ทั่วไร่องุ่นของพี่เลยล่ะ พรุ่งนี้เตรียมตัวเลยนะครับ มือหนาคว้าเอามือบางมากำไว้แล้วลูบเบาๆ
ตะแต่...ฮยอก....
ฮยอกแจรู้สึกว่ายังไม่อยากออกไปไหน ไปทำอะไรเพราะอยากร้องไห้อยู่ตลอดเวลากลัวว่าจะร้องไห้ให้ร่างสูงเห็นเข้า
คุณน้าให้พี่ดูแลเรา...พี่ตกลงไปแล้วด้วยนะ
เอ่อ...ก็ได้ฮะ พี่ซึงโฮ แววตาใสที่ยังไร้จุดโฟกัสใดๆไม่หันมาสบคนที่กำลังเอ่ยด้วยเลยซักนิด
...ฮยอกแจ...อยากร้องไห้อยู่ใช่รึเปล่า... เสียงทุ้มที่เอ่ยอย่างราบเรียบทำเอาคนที่ยังอยู่ในโลกแห่งความเสียใจต้องหันมามอง
ถ้าหากน้ำตาที่มีอยู่...มันเกินจะเก็บไว้..ก็ปล่อยให้มันออกมาเถอะนะ มือหนาข้างหนึ่งวางนาบลงที่แก้มขาวนวล นัยน์ตาหวานสบไปที่ตาคมแกร่งเพื่อมองหาความหมายของสิ่งที่คนตรงหน้าต้องการจะสื่อ การหลอกหลวง หรือการหลอกใช้...
ฮยอกแจกลับเจอเพียงความอ่อนโยน ความจริงใจในนั้น น้ำตาที่เก็บมาไม่ถึงสามชั่วโมงก็เริ่มไหลอีกครั้ง...หยาดน้อยๆใสๆไหลออกมาที่ละหยดและหายไปทีละหยด เพราะมือมือหนาที่วางแนบแก้มทั้งสองข้างอยู่คอยเช็ดให้แห้งหายไป...
ฮึก...ฮือ.......
คิดซะว่าน้ำตาที่ไหลออกมาทุกเม็ดนั้น มันกำลังเอาความทุกข์ ความเศร้าออกจากเรา...ไปทีละหยด..ทีละหยดนะ..หื้ม..
เมื่อไม่มีวี่แววว่าหยาดน้ำใสนั้นจะหยุดลง และฮยอกแจเริ่มอ่อนแรงจากการร้องไห้มาแทบทั้งวัน มือหนาจึงจับให้ศีรษะบางวางบนไหล่หนาของตนแทน
ร้องเถอะ..พี่จะอยู่เองนะ..อยู่ตรงนี้ ร่างสูงได้รับการตอบรับมาเป็นการพยักหน้ารับน้อยจากใบหน้าหวานที่วางอยู่บนไหล่
..
ฮึก...
เสียงหวานสะอื้นห่างและน้อยลง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน พระจันทร์ที่เคยส่องแสงสว่างไสวเริ่มเคลื่อนที่ไปไกล ซึงโฮเรียกร่างบางเบาๆในลำคอ ก็ไม่การตอบรับ จนต้องค่อยๆเอนตัวออกมาก็เห็นว่าร่างบางหลับไปเสียแล้ว
มือหนายกร่างบางช้อนขึ้นอุ้ม แล้วค่อยๆพากลับเข้าไปด้านในห้องนอน แล้ววางลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือ ใบหน้าคมก้มลงต่ำชิดดวงหน้าหวานมองสำรวจใบหน้าและดวงตาที่บอบช้ำ สำรวจจนพอใจแล้วริมฝีปากหนาก้มลงกดจูบที่หน้าผากบางเพียงแผ่วเบา
...ฝันดีนะครับ ดอกคาโนล่าของพี่...
TBC.
_.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._.Flip Love._.~;*¯*;~._.~;*¯*;~._
อืม....กิ้บกำลังประสบปัญหาชีวิตค่ะ...ไม่ได้ร้ายแรงมาก...แต่เป็นคนขี้ร้อง...เลยร้องได้ทุกวันเลย T T
ส่งผลต่อการอัพฟิค เขียนฟิค....ห้องจากที่เคยอยู่คนเดียว พิมฟิคคนเดียวเงียบๆ กลายเป็น 4 คน
มีความสุขดีแต่เกือบเดินเหยียบหัวกัน(หลานมานอน[บนพื้น]ด้วย)
งานที่ทำ...ไม่มีวันหยุดเลย เริ่ม 7 โมง เลิก ห้า หกโมง เหนื่อย
กลับห้องมาก็ไม่ได้นอน เปิดคอมมากโดนแม่ว่า มากๆเข้าก็ร้องไห้อีก
เขียนไม่ได้ ฟิล ไม่มา ขอโทษนะทุกคน...เฮ้อ...
ตอนหน้า!!! ยังเป็นฮยอกแจ และพระรองของเราอยู่นะคะ ท่าทีของปลัดที่เมียหาย =="
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์นะ คะแนนโหวตให้ ทุกตอนๆเลย
..และที่เข้ามาอ่าน เข้ามาส่องกันด้วยนะ....ขอบคุณทุกคนที่ยังไม่หายไปไหนนะคะ ถ้าอีไรเตอร์คนนี้จะอัพช้าขนาดนี้น่ะคะ =="
พวกคุณเป็นหนึ่งในกำลังใจของกิ้บนะ เวลาอยากร้องไห้แวะเข้ามาหน้าฟิคตัวเองแล้วยิ้มได้ทุกที ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องดันหลังพี่อยู่
พี่วอนนี่ใครนะ
กลับไปต้องเจอซีวอน
คนที่ทำให้หัวใจเจ็บ
TT_______TT
สู้ๆ
(TT_TT) โถลูกสาวแม่ ซึงโฮไปหาคนอื่นเถอะ อย่ามาทำให้น้องหวั่นไหวเลยนะ ไปเถอะชิ่วๆ
ซึงโฮจะมาทำฮยอกหวั่นไหวไมอ๊ะ
ถึงจะเกลียดที่วอนมันมาลอกฮยอกน๊ะ
แต่วอนก้อรักฮยอกแล้วนิ รักมากด้วย
ยังไม่อยากเห็นฮยอกเสียใจเลยอ๊ะ
แพ้น้ำตาไก่ ฮือๆๆๆๆๆๆ T^T''''''
หรือ
ฮยอกผิดที่ดันไปได้ยินตอนนั้นพอดี
สงสารฮยอกมากกก
วอนเอ้ยยยยยยยย ****
เออ ดี ไปอยู่กะมิรินซะ
แล้วให้ฮยอกอยู่กะคนที่รักและรู้ใจตัวเองดีกว่า
ซึงโฮไฟทติ้งงงงง
*ชูป้ายไฟ~*
แล้วยังมารู้ความจิงเรื่องวอนอีก
พี่ซึงโฮดูอบอุ่นมากเลย วอนมีคู่แข่งแล้วไง
ไรเตอร์สุ้ๆๆนะจ้า
เชียร์เต็มที่ หมันไส้อิตาวอน =^=
ความจิงแบบนี้อีกเหมือนเสียคนรักที
เดียวสองคนเฮ้ย..แต่ดีหน่อยที่พระรอง
น่ารักหรือจะยุให้ฮยอกเลิกกะวอน(ชั่วคราว)
มาเป็นแฟนพี่ซึงโฮ
ดี ฮยอกได้เจอคนใส่ใจล่ะ เอาให้วอนคลั่งไปเลย ชิ
ถึงวอนจะรักฮยอกแล้ว แต่ก็เริ่มจากทำตามมิรินใช่ม่ะ ยังเคืองนิดๆ ทำฮยอกเสียน้ำตา
ร้องไห้ตามฮยอกแจเฉยเลย สงสารอะ
วอนมีคู่แข่งแล้ว สมน้ำหน้าถึงแม้ว่าวอนจะรักฮยอกจริงๆแล้วก็เหอะ
sadอะ