ตอนที่ 12 : TIME 2 LOVE :: P10**
T I M E 2 L O V E
-10-
10.00 น.
สองชั่วโมงที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า คีย์ยังคงนอนอยู่บนเตียงอย่างเดิมพร้อมกับแขนหนักๆ ที่กอดเขาแน่นไม่ปล่อยเช่นกัน มินโฮยังคงหลับสนิทแต่เพราะอะไรที่ทำให้การแกะมือของร่างหนาคนนี้ช่างยากลำบากเหลือเกิน คีย์พยายามจนสุดท้ายก็ทำได้แค่นอนปล่อยให้ร่างหนากอดอยู่อย่างนั้นมาสอง ชั่วโมงเต็มๆ เขาเบื่อแล้ว
“มินโฮ…. มินโฮ”เสียงหวานและมือบางที่พยายามปลุกร่างหนาที่ซบหน้าลงที่ซอกคอของเขา อยู่ให้รู้สึกตัวซักที ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกร้อนและอีกอย่างรู้สึกถึงความแฉะของน้ำลาย… = =;;;
“อือ…”เสียงครางออกมาเบาๆ กับการคลายมือที่กอดเขาแน่นออกช้าๆ พร้อมๆ กับที่เขาพลิกตัวไปอีกด้าน
“ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนกันเนี่ย”คีย์ดันตัวขึ้นก่อนที่จะชะโงกหน้าเพื่อดูร่างสูงที่นอนหลับไม่รู้สึกตัว
“ครืดดดด ครืดดดด~”
คีย์เงยหน้าขึ้นไปมองหาต้นเสียง ดวงตาเรียวสวยเห็นว่าโทรศัพท์ของมินโฮสั่นจนแทบจะตกจากโต๊ะข้างเตียง มือบางเอื้อมไปหยิบมันก่อนจะเห็นชื่อที่ขึ้นมาว่าเป็นพี่ซูยองของเขา
“ครับ ว่า”คีย์เอ่ยเสียงลงไปโทรศัพท์ทันทีที่กดรับ ปกติเขาก็ไม่ใช่คนเสียมารยาทที่จะมารับโทรศัพท์ของคนอื่นมั่วซั้วแบบนี้หรอกแต่ที่รับเพราะว่าเห็นว่าเป็นพี่ซูยองของเขาต่างหากละ
“หืม….คีย์เหรอ?”แต่เสียงที่ขานตอบกลับมาเนี่ยซิ มันไม่ใช่พี่สาวเขาซักนิดเลย
“ชเวมินจุน?” - -“
“จำชื่อพี่เขยได้ด้วยแฮะ”เสียงปลายสายเอ่ยออกมาอย่างกวนอารมณ์
“ตลก”
“ฮ่าๆ มินโฮละ อยู่ไหน”
“นอนอยู่”
“หืม ไปไวกันขนาดนั้นเลย? เป็นสาวเป็นนางไม่รักนวลสงวนตัวเลยนะน้องสะใภ้”ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าปลายสาย กำลังคิดอะไรและสีหน้าแบบไหน คีย์กำลังจะระเบิด
“ไม่ใช่โว้ย!!”
“ฮ่าๆ แต่มินโฮบอกว่า น้องของซูยองเป็นทอมนะ”
“ไม่ได้เป็นทั้งทอมแล้วก็ผู้หญิงนั้นแหละฉันเป็นผู้ชาย!!”พูดเสร็จก็หันไปคาดโทษคนที่กำลังนอนอยู่พร้อมกับถีบเต็มแรงจนร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงถึงกับตกลงไป
“อะ!!”มินโฮสลึมสลือโผล่หัวขึ้นมา ก่อนจะเห็นร่างบางปาโทรศัพท์ใส่เขาอย่างไม่ทันตั้งตัว นี้มันโทรศัพท์เครื่องใหม่เพิ่งจะถอยออกมาได้แค่ไม่กี่วันเองนะ เกือบไปซะแล้ว
“กวนประสาททั้งพี่ทั้งน้องเลย!!”บ่นเสร็จก็ลุกขึ้นจากเตียงออกจากห้องโดยที่ไม่สนใจร่างสูงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยซักนิด เมนส์ไม่มาไงวะ
มินโฮก้มมองโทรศัพท์ตัวเองก่อนที่จะเห็นว่าคนในสายยังไม่ว่างแล้วคีย์หงุดหงิดอะไร
“ฮัลโหลครับ”
“ไง น้องชายกินไปหรือยัง”
“มีอะไร”ทันทีที่รู้ว่าใครเป็นคนโทรมาก็รู้สาเหตุทันทีที่คีย์โมโหจนตัวเขาเองต้องมาตกเตียงแบบนี้
“ เที่ยงนี้มีนัดเซ็นสัญญาโฆษณาตัวใหม่อย่าลืมซะละ”
“ถ้าไม่มีอะไรผมจะวางแล้วนะ”
“ปกติฉันก็ไม่โทรหานายอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าซูยองให้โทรมาหาคีย์”
“ไม่ต้องเป็นห่วง รายนั้นผมดูแลอย่างดี”มินโฮเอ่ยเสียงนิ่ง
“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน ถ้าคีย์เป็นอะไรขึ้นมาคนแรกที่โดนก็คือนาย”ปลายสายเองก็เสียงแข็งขึ้น ไม่ใช่ว่ามินโฮจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร มินจุนรักพี่ซูยองมาก แล้วเขาเองก็ไม่ต้องการให้คนรอบข้างคนที่เขารักเสียใจ นั้นหมายถึงคีย์ด้วย
“ผมดูแลเขาได้ พี่ไม่ต้องมายุ่ง”
“ขอโทษทีแต่คนนี้ไม่ยุ่งไม่ได้”มันเป็นเพราะมินโฮเสือผู้หญิงเกินไป ถึงคีย์จะเป็นผู้ชายแต่ถ้าลงมือทำอะไรไปแล้วมันก็ไม่ต่างกัน
“จะเอายังไงวะ!!”มินโฮเริ่มฉุนเมื่อคนปลายสายเริ่มที่จะยั่วโมโหเขา
“ดูแลให้ดีอย่างที่พูดก็พอ”
“ไม่ต้องมาย้ำ!!”พูดจบก็กดตัดสายทันที อะไรมันจะเป็นห่วงเกินหน้าเกินตาขนาดนั้นก็บอกแล้วว่าคนนี้เขาดูแลได้ก็ต้องทำได้มินโฮไม่เคยผิดสัญญากับใครอยู่แล้ว เขารู้ตัวเองดีว่าเขานะเพลย์บอย แต่กับคีย์แล้วมันไม่เหมือนผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาให้เขาถึงที่แต่คนนี้เขาต้องเป็นคนไปหาเองซะมากกว่ามันต่างกัน…
บริษัท K…
“ทำไมฉันต้องมากับนายด้วยก็ไม่รู้”คีย์ที่เดินขนาบข้างกับมินโฮเอ่ยขึ้นพร้อมกับที่เขาเองก็ไม่ค่อยจะชอบมาเท่าไหร่ เบื่อที่จะต้องมารับไหว้พวกผู้ใหญ่ออเซาะ ถึงจะมาช่วยงานบ่อยแต่มันก็ไม่ชินซักที
คีย์ผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของพี่สาวตัวเองอย่างเคยชินพร้อมกับมินโฮที่เดินตามเขาเข้ามาทีหลัง โต๊ะกลางห้องมีลุงคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นหน้า ชเวมินจุน แล้วก็พี่ซูยอน
คีย์โค้งให้กับลุงคนนั้นตามมารยาทเพราะเขาเองก็ไม่เคยเห็นหน้าและไม่รู้จัก ซึ่งนั้นอาจจะเป็นลูกค้าของพี่ซูยอนก็ได้ อีกอย่างเขาเองก็ไม่ได้เป็นคนไม่มีมารยาทขนาดนั้น มินโฮเองที่เดินตามหลังเข้ามาสิ่งที่เขาเห็นสิ่งแรกนั้นคงไม่พ้นสายตาที่คาดเดาไม่ออกของชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างพ่อของเขา มาทำไม?
“มากันแล้วเหรอมาช้ากันจังนะ มั่วทำอะไรกันอยู่”สายตามุ้งมิ้งกวนบาทาส่งมาจากมินจุน ผู้ชายที่คีย์คิดว่าช่างเป็นคนที่สามารถกวนประสาทเขาได้ตลอดเวลาและทุกครั้งที่ได้เจอกัน อยากจะถีบให้ตกจากโซฟาจริงๆ
“อ้าว คีย์ไม่ได้ไปเรียนเหรอ”ซูยอนถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นน้องชายตัวเองอยู่ที่นี้
“ถามผม? ถามมินโฮดีกว่าไหมว่าทำไม”เหวี่ยงใส่พี่สาวเสร็จก็ทิ้งตัวลงที่โต๊ะผู้บริหารอย่างเคยชินก่อนที่จะกอดอกตัวเองหันหน้าหนีทุกคนที่มองมาทางเขา หงุดหงิดจริงๆ
“เอ่อ….มาคุยเรื่องสัญญาดีกว่าครับ”มินโฮไม่ตอบพร้อมกับการเลี่ยงคำถามที่ซูยอนถามคีย์แล้วเดินมานั่งลงข้างๆ มินจุนแทน
ซูยอนมองมินโฮและน้องชายของตัวเองสลับกันไปมาก่อนที่จะอมยิ้มไปตามความคิดของตัวเองก่อน ที่เธอเองก็จะมาสนใจงานตรงหน้าพร้อมกับยื่นสัญญาโฆษณาตัวใหม่ให้กับมินโฮ
ตาคมไล่ตาไปตามตัวหนังสือในใบที่หญิงสาวส่งมาให้ กวาดตาอ่านคราวๆ ก็พอจะรู้ว่าสัญญาที่เคยตกลงกันปากเปล่าซูยอนได้ทำให้ตนเองทุกอย่าง งานทุกชิ้นของมินโฮกับบริษัทใหม่จะไม่กระทบกับการเรียนของเขา จะมีก็แต่ผู้จัดการส่วนตัวเท่านั้นที่ยังไม่ลงตัว….
“เอาเป็นว่าผมตกลงก็แล้วกันครับ แล้วเรื่องผู้จัดการส่วนตัวละครับ”
“ฉันหาไว้ให้แล้ว”เสียงของชายกลางคนเอ่ยขึ้น มินโฮทำเพียงกลอกลูกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนที่จะวางสัญญาลง
“ไม่ต้องการคนของพ่อ”
“ไม่ได้ ฉันตกลงกับคุณคิมไว้แล้ว อย่าทำให้เรื่องมันเยอะไปเลยมินโฮ”
“ถ้าผมไม่เอาก็คือไม่เอาครับ”ดวงตาแข็งกร้าวจ้องไปยังดวงตาสีน้ำตาลที่บ่งบอกของอารมณ์ขุ่นมั่วไม่ ต่างกัน การที่คุณชเวต้องการให้ผู้จัดการหรือคนที่เขาหามาให้นั้นก็เพื่อที่จะระงับพฤติกรรมการลงข่าวหน้าหนึ่งเปลี่ยนผู้หญิงไม่เว้นวันของลูกชายคนเล็กอย่างมินโฮ เขาเองก็พอจะรู้ว่ามินโฮนะไม่ต่างอะไรจากเขาสมัยหนุ่มๆนัก แต่การที่เขาลงข่าวหน้าหนึ่งแบบนี้มันก็ไม่ดีเหมือนกันกับผลที่จะตามมาทีหลัง ทายาทตระกูลชเวจะต้องไม่มีข่าวเสื่อมเสียก่อนที่จะได้รับมรดกทุกอย่าง….
“ชเวมินโฮ!!”
“พ่อไม่ต้องกลัวว่าผมจะทำให้พ่อเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจหรอกครับ เรื่องงานผมนะเต็มที่อยู่แล้ว”
“แต่เรื่องผู้หญิงแกก็ปล่อยปะละเลยเหมือนกันนั้นแหละ”
“….”
“เอ่อ….ค่อยๆ พูดกันดีไหมครับ ที่นี้มันบริษัทนะครับพ่อ” มินจุนขัดขึ้นก่อนที่จะมีการพูดคุยที่รุนแรงไปมากกว่านี้ ถ้าเป็นปกติที่บ้านเขาเองก็พอจะรู้ถึงสถานการณ์อยู่วามันจะเป็นไปในทางไหน เขาเองก็คงไม่เข้ามาเกี่ยวข้องหรือเข้ามายุ่งด้วยซ้ำแต่นี้มันบริษัท แล้วเราก็ไม่ได้อยู่บริษัทตัวเองด้วย แต่นี้มันบริษัทของเพื่อนสนิท (ที่เขาคิดไม่ซื่อ) อย่างซูยอน แล้วการทะเลาะของพ่อลูกในเรื่องครอบครัวมันดูจะไม่เหมาะเอาซะเลย
“จะเอายังไงก็ว่ามา”คุณชเวข่มเสียงให้เย็นลงพร้อมกับมองหน้าลูกชายของตัวเองอย่างเสียไม่ได้ การที่เขาเองปล่อยให้มินโฮออกมาอยู่ข้างนอกหาเลี้ยงตัวเองแค่นี้เขาก็รู้สึกแย่พอแล้ว ทั้งที่เขาเป็นพ่อแต่กลับไม่ได้ดูแลลูกชายคนนี้ของเขาเอาซะเลยอีกทั้ง เขาเองก็ทำผิดกับเด็กคนนี้ไว้ซะเยอะจนตอนนี้มันกลายเป็นว่าเขาเองจะยอมทำตามเพื่อลูกขายคนนี้ไปซะทุกอย่าง จนบางทีมินโฮก็นิสัยเสียไปซะแล้ว
“ผมจะเอาคนของผม ไว้ผมจะหามาเอง”
“ไม่ได้!!”
“!!!”
“คนของแกมีแต่คนไม่ได้เรื่อง”
“พ่อเอาอะไรมาตัดสิน”มินโฮโพล่งขึ้น พร้อมกับมองไปยังพ่อของตนอย่างไม่เกรงกลัวซักนิด มันหมดเวลาที่เขาจะต้องมานั่งฟังคำสั่งของพ่อแล้วเขาคิดได้แล้ว ทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้แล้วไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาคนๆ นี่ที่ทอดทิ้งเขาแล้วก็แม่ไป
“เอ่อ คือใจเย็นๆ ก่อนดีไหมคะ”ซูยอนเอ่ยขึ้นเมื่อเรื่องเริ่มจะไปกันใหญ่
“ในเมื่อคุณมินโฮไม่ต้องการคนจากคุณชเวงั้นเอาเด็กของทางเราดีไหมคะ เดี๋ยวเราจะจัดหาคนที่สามารถดูแลคุณมินโฮได้คนเดียวโดยเฉพาะแบบผู้จัดการส่วนตัว แบบว่าจะไม่มีข่าวเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงานเลยละคะ ดีไหมคะ”ซูยอนส่งยิ้มไปให้คุณชเวที่ไม่รู้ลูกค้ารายนี้จะเห็นด้วยไหม ตอนแรกที่ชวนเข้าสังกัดก็ไม่คิดว่า มินโฮจะเป็นลูกคนใหญ่คนโตขนาดนี้ มินจุนเองก็ไม่เคยจะบอกเรื่องครอบครัวของตัวเองเท่าไหร่ รู้จักกันมาก็หลายปีแต่พอมาทำงานร่วมกันจริงๆ คนพวกนี้ช่างลึกลับเสียเหลือเกิน
“….”
“เอ่อ…มีอะไรจะแนะนำไหมคะ แฮะๆ”ซูยอนที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เพราะว่าผู้สนทนาทั้งคู่เอาแต่เงียบไม่ตอบเธอเลยซักคำ เธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไงตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็เพียงแค่ส่งสายตางความช่วยเหลือจาก มินจุนเท่านั้น
“อ่า… ก็ดีนะครับพ่อ จริงๆ ตรงนี้ก็มีอยู่คนหนึ่งที่พอจะควบคุมมินโฮได้ ผมว่าเขาใช้ได้เลยละฮะ”มินจุนเหล่สายตาไปทางคีย์ที่มองสถานการณ์ทุกอย่างไม่กระพริบตา ตาเรียวสวยนั้นถึงกับหม่นคิ้วขมวดเป็นปมขึ้น
“ใครงั้นเหรอ?”ผู้เป็นพ่อเปรยตามองลูกชายคนโตอย่างสงสัย
“คุณคิมคิบอมครับ เขาเป็นน้องชายของคุณซูยอนเองครับ อีกเดี๋ยวก็ขึ้นแท่นผู้บริหารเหมือนกันตอนนี้ถึงจะเด็กแล้วก็เรียนอยู่แต่ขอบอกว่า คุณคิมคนนี้ทำงานเก่งมากเลยนะครับพ่อ”
“เอ๋?”เพียงเสียววินาทีที่มินจุนพูดจบคีย์เอาแต่คิดตามว่าร่างสูงตรงหน้าหมายถึงเขาหรือเปล่าและนั้นก็คือเสียงตอบ รับจากความสงสัยคีย์ชี้หน้าตัวเองพร้อมกับมองพี่สาวของตนที่สีหน้าเหมือนจะร้องไห้เข้าไป ทุกที นี้เขาเกี่ยวอะไรด้วยวะ
ชายวัยกลางคนหันมามองคีย์ที่นั่งอยู่ด้านหลังของตนอย่างพิจารณาก่อนที่จะมองไปที่ซูยอนหญิงสาวร่างสูงผอม เพรียวที่ดูยังไงก็เด็กสาวธรรมดาที่ตอนแรกเขาคิดเองว่าคงทำงานแบบนี้ไม่ได้ซะอีก แต่ในเมื่อเธอขึ้นแท่นบริหารได้ก็แปลว่าน้องชายของเธอเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน อีกทั้งเจ้าลูกชายคนโตที่ดูจะสนับสนุนให้เขาเข้าร่วมทำงานกับบริษัทนี้อีก สิ่งที่มันคาดหวังคงไม่ใช่อะไรถ้าหากไม่ใช่เด็กสาวตรงหน้า
“อืม”คุณชเวพยักหน้ารับคำก่อนที่จะหันมามองเจ้าลูกชายคนโตที่สีหน้าเริ่มดีขึ้นต่างจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง
“เมื่อลูกชายคนโตของผมรับประกันผมก็ตกลง แต่ถ้าหากคุณทำไม่ได้อย่างที่พูดละก็สัญญาทุกอย่างผมจะยกเลิกโดยทันที”
“คะ รับประกันได้เลยคะคุณมินโฮไม่นอกลู่นอกทางแน่นอนคะ”^^ ซูยอนทำได้เพียงส่งยิ้มไปให้ชายวัยกลางคนตรงหน้า ที่เป็นทั้งลูกค้าและหุ้นส่วนสำคัญสำหรับงานชิ้นใหญ่ของเธอครั้งนี้ ถ้าพลาดไปนิดเดียวก็ถือว่างานของเธอและบริษัทก็ดูไม่น่าเชื่อถือเลยก็ได้ ก็ตระกูลนี้เขาใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของเกาหลี การที่มาจ้างบริษัทเล็กๆ ของเธอทำงานมันก็ดูจะเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายแล้ว
“อืม งั้นก็ดีผมหวังว่างานของคุณจะไปได้ดีเช่นกัน”พูดจบคุณชเวก็เดินตรงออกไปทันที ในห้องตอนนี้ก็มีเพียง ซูยอน มินจุน มินโฮ และคีย์ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรนี้ด้วยเลย
“เดี๋ยวพี่ซูยอน ผมขอถามอะไรอย่าง ผมไม่ต้องไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวของหมอนี้ตามที่พี่พูดกับตาลุงคนนั้นใช่ไหม?”คีย์เอ่ยขึ้นทันทีพร้อมกับชี้ไปที่มินโฮและเอ่ยถึงพ่อของเขา จนซูยอนเงื้อมือขึ้นมาตบปากน้องชายของเธอเองที่เดี๋ยวนี้พุดจาไม่เพราะซะเหลือเกิน
“ชู่วว ทำไมนิสัยเสียแบบนี้หืมเรา นั้นมันลูกค้าคนสำคัญของเราเลยนะไปเรียกคุณชเวเขาแบบนั้นได้ยังไง”ซูยอนหันไปยิ้มแห้งให้มินจุน ก่อนที่จะหันมาหยิกน้องชายตัวเองเพื่อสั่งสอนต่อ
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมต้องทำงานนี้ด้วยเหรอไงคนอื่นในบริษัทของเราก็มี พี่ก็จัดให้ใครซักคนมาดูแลเขาซักคนไม่ได้เหรอไง”
“ไม่ได้หรอกอย่างพ่อของฉันนะ ถ้าเลือกแล้วก็ต้องคนนั้นตลอด จะมาเปลี่ยนคำพูดอะไรตอนนี้ก็สายไปซะแล้วละ”มินจุนเอ่ยขัดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่เปรยออกมาอย่างกวนอารมณ์
“อะไรก็ช่าง แต่พวกพี่เป็นคนพูดออกไปเองนะ ผมไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วยเลยซักหน่อย”
“คิบอมอ่า พี่ขอร้องละนะช่วยพี่ซักเรื่องเถอะนะ นะ นะๆ”เสียงออดอ้อนจากพี่สาวตรงหน้าที่ไม่เคยขออะไรเขาเลยเอ่ยขึ้นอย่างเห็นใจ คีย์มองพี่สาวของตนเองตรงหน้าแล้วก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้ปกติเขาเองก็ไม่ใช่คนใจอ่อนหรอก แต่นี้มันเป็นเรื่องของบริษัทแล้วถ้าไม่สำคัญจริงๆ พี่สาวของเขาคงไม่ลงทุนขนาดขอร้องเขาขนาดนี้ แต่มันติดอยู่ที่ว่า ทำไมต้องเป็นเขา ทำไมจะต้องเป็นมินโฮ ทำไมจะต้องเป็นครอบครัวนี้ ตลอดเลย
T I M E 2 L O V E
“ตัวนี้ดีไหมนะ ตัวนี้น่าจะดีกว่า ฮึบบๆ”ในขณะที่พี่สาวแสนสวยกำลังจัดกระเป๋า คีย์ก็เอาแต่มองร่างบางจากด้านหลังอย่างปลงๆ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ ทำไม ทำไม ทำม่ายยยยย อยากจะทึ้งหัวตัวเองร้อยรอบเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อกลางวันที่ผ่านมาเขาไม่น่าไปกับมินโฮเลย ไม่น่าเลย….
“ไม่ต้องไปอยู่กับหมอนั้นไม่ได้เหรอ ไปๆ มาๆ ได้ไหมครับ ผมไม่อยากไปนอนห้องเดียวกับหมอนั้นเลย”
“ไม่ได้หรอกจ๊ะ เราทำงานนี้แล้วนะเรื่องของศิลปินต้องมาที่หนึ่งนะ จะมาทำตัวเลาะแหละเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว” ซูยอนตอบกลับมาพร้อมๆ กับที่ยังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้น้องชายคนเดียวของเธอไปด้วย
“นั้นมันเพราะพี่บังคับผมไม่ใช่เหรอไง” -3-
“….”
“ผมไม่อยากไปจริงๆ แค่ออกไปทำงานแล้วกลับบ้านมาตอนเย็นแบบพี่ไม่ได้เหรอ?”
“ก็ไหนเราเคยบอกว่าจะช่วยพี่ทำงานไม่ใช่เหรอ แล้วการที่เราเริ่มทำงานนี้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่งานที่เราชอบ แต่ก่อนที่จะเป็นหัวหน้าแล้วดูแลลูกน้องนับพันคนได้ก็ต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปก่อนนะคิบอม ก็ถือซะว่าเราฝึกงานไปในตัวเลยแล้วกันนะ”^^ ซูยอนลุกขึ้นก่อนจะตรงมาที่น้องชายสุดที่รักขยี้ผมกลุ่มผมนุ่มๆก่อนที่จะจรดปากเรียวยอมชมพูลงไปบนหน้าผากกว้างของน้องชาย
“ถือว่าช่วยพี่ซักครั้งนะ คิบอมอ่า”
“แต่ผมไม่อยากไปอยู่กับมินโฮหมอนั้นมือเร็วจะตาย พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบผู้ชายแบบนั้นไม่ซิทั้งพี่ทั้งน้องเลยต่างหาก มินจุนอะไรนั้นก็ด้วย” คีย์ทำแก้มป่องใส่พี่สาวตรงหน้าพร้อมกับจ้องตาเขม่ง ยกเหตุผลที่ตนเองไม่ชอบขึ้นมาเพื่อที่จะให้พี่สาวเห็นใจ
“มินโฮอาจจะเป็นเสือผู้หญิง แต่ถ้าเป็นน้องชายของพี่แล้วพี่เชื่อว่าเราต้องจัดการได้แน่ คนเราจะวิ่งหนีตลอดไปไม่ได้หรอกนะ มันต้องเผชิญกับปัญหาที่เราเป็นคนทำเองแล้วก็คนอื่นก่อมาให้ด้วยนั้นแหละ อีกอย่างคุณมินโฮเองก็ดูจะชอบเราจะตาย พี่ว่าเขาไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า”ซูยอนอดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ ต่างๆ ที่มินโฮจะทำให้น้องชายของเขาโมโหแล้วสุดท้ายก็ลงท้ายด้วยการที่มินโฮเองก็เจ็บตัวเหมือนกับความรักกำลังก่อตัวขึ้นอย่างที่ทั้งคู่นั้นไม่รู้ตัวนั้นแหละ แต่จริงๆ ที่ไม่รู้ก็เห็นจะมีแต่น้องชายเจ้าอารมณ์ของเธอนี้แหละ
“พี่ซูยอนอ่า”คีย์เริ่มงอแงเมื่อคำพูดของเขาไม่ไปเป็นตามที่ต้องการก่อนที่พี่สาวจะลุกแล้วเดินออกจาก ห้องด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับหันกลับมาก่อนที่จะพูดคำๆนึง
“ฝันดีนะเจ้าเด็กดื้อ”
“คุณมินโฮครับ ขยับเข้าไปอีกนิดนะครับ ส่วนคุณคริสตัลเชิดหน้าขึ้นอีกนะครับ ครับ โอเค ครับ”
‘แชะ แชะ แชะ’
“อีกทีนะครับ โพสท่าต่อไปเลยครับ ครับ ดีครับ”
‘แชะ แชะ แชะ’
“คุณคิบอมเหนื่อยไหมคะ นี่น้ำคะ”ผมรับน้ำจากเด็กฝึกงานก่อนจะมองไปยังสองคนที่โพสท่าถ่ายรูปคู่กับสินค้าตัวใหม่ของบริษัทอีกชิ้น คราวนี้เป็นสินค้ามันคือโทรศัพท์อีกรุ่นที่ผมเห็นมาว่ามินโฮก็ใช่อยู่ก่อน แล้ว แต่ว่าเพิ่งจะเปิดตัว ก็แน่ละพ่อเขาเป็นเจ้าของบริษัทไฮเทคโนโลยีนี่ จะออกมาใหม่ซักกี่ตัวเขาก็ใช่มาหมดแล้ว
“เฮ้อ~ อยากกลับไปนอนเตียงนุ่มๆที่บ้านจัง” = =
“คุณคิบอม ของว่างคะ”อีกครั้งกับเด็กเสริฟน้องใหม่ ผมมองไปยังคนที่ส่งจานของว่างมาให้ ได้ยินมาว่าเป็นพี่ผมหนึ่งปีตอนนี้เพิงจะจบแล้วก็ฝึกงานอยู่กับบริษัทของผม อยู่แต่ดูเหมือนว่าการรับน้องใหม่ของที่นี้มันคือการเสริฟน้ำเป็นบ๋อยหรือไงกัน ทำไมไม่ไปทำงานที่ตัวเองจบมานะ
“ชื่ออะไรเหรอครับ?”
“จีอึนคะ จองจีอึน”เธอส่งยิ้มมาให้ผมอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่ผมจะพยักหน้าแล้วมองไปยังคนที่ยื่นโพสท่าทั้งสองคนนั้นต่อ
ครืด~ ครืด~
“ว่าไง”
“ย๊า῀ คิมจงฮยอน นายจะมากไปแล้วนะ ฉันโทรไปสิบๆ รอบทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ห๊ะ!!”คริสตัลที่ไม่รู้วิ่งมาตั้งแต่ตอนไหนเข้ามาแย่งโทรศัพท์ในมือของผมไปก่อนที่จะกรอกเสียงแหลมนั้นลงไปยังมือถือของผม
“นี้ๆ ช่วยมีมารยาทกับเจ้านายของเธอหน่อยซิ”มินจุนที่โผล่มาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้แย่งโทรศัพท์ออกมาจากมือ บางนั้นก่อนที่จะยื่นมันคืนมาให้กับคีย์
“แล้วนายเป็นใครยะ”คริสตัลวีนขึ้นเมื่อมีคนขัดใจเธอ
“ฮึ ฉันเป็นคนจ้างเธอทำงานโฆษณาชิ้นนี้แล้วก็เป็นคนถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทซะด้วย ระวังนะไอ้นิสัยปากเสียเอาแต่ใจของเธอมันจะทำให้เธอไม่มีงานเข้าซะแม่สาวน้อย”มินจุนพูดไปพร้อมๆ กับยื่นมือหนาสัมผัสเคล้าโคล่งหน้าของหญิงสาว ตรงหน้าอย่างเชื่องช้า…..
“ไอ้ท่าทางแบบนั่นนั้นมันอะไรของนาย”คีย์มองไปยังร่างสูงที่ทำท่าโลมเลียคริสตัลซะจนเขาเองเห็นแล้วก็มันช่างทุเรศสิ้นดีในความคิดของเขา นี้เหรอคนที่จะเข้ามาในชีวิตของพี่สาวเขา
“ฮึๆ สวัสดีน้องสะใภ้ ของทุกอย่างฉันเตรียมไว้ในห้องมินโฮให้หมดแล้ว อ่อ แล้วฉันก็จะเป็นคนช่วยนายจัดการเรื่องเรียนแล้วก็ทำงานด้วยตั้งแต่บัดนี้”^^
“ก็ถ้ามีนายเป็นผู้จัดการอีกคนแล้วทำไมไม่ไปทำคนเดียวซะละ”
“ก็เพราะว่าฉันไม่ได้มีเวลามานั่งเฝ้าพฤติกรรมเด็กมีปัญหาอย่างเจ้านี้นะซิ”มินจุนดึงมินโฮมาล็อคคอแน่น พร้อมกับส่งยิ้มมาทางคีย์อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ว่าไงนะ!”
“นายก็คงจะรู้นะวิธีกำหลาบหมอนี้”^^รอยยิ้มนั้นเป็นเหมือนการส่งซิก คีย์มองคนตรงหน้าทั้งคู่ก่อนที่จะส่งยิ้มตอบกลับไป
“อ่า ก็พอจะรู้แล้วละ”
“เดี๋ยว อะไรของพวกนายสองคนวะ”
“ได้เวลาเปลี่ยนชุดไปเรียนแล้วละ จงฮยอนโทรมาตามแล้วนายก็ควรที่จะเปลี่ยนตัวเองก่อนที่จะโดนแย่งไปนะ”มินจุนกระซิบที่ข้างหูของน้องชายอย่างได้ทีก่อนที่จะปล่อยตัวมินโฮแล้วผลักไปที่หน้าประตู
“หา?”
“เร็วเข้าละ ฉันจะรอที่ลานจอดรถนะ”
ซีดานคันงานจอดลงหน้าตึกคณะบริหาร มินโฮและคีย์ลงมาจากรถก่อนที่จะมองมาที่พวกเขาทั่งคู่เป็นตาเดียว แน่ละมินโฮเป็นถึงนายแบบที่กำลังพูดถึงขณะนี้อีกอย่างยังเป็นข่าวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาด้วย ดีแค่ไหนแล้วที่ตอนนี้มันเงียบลงแถมพวกนักข่าวก็เอาแต่โทรมาถามคนในบริษัทว่ามินโฮย้ายค่ายจริงเหรอจนพี่ซูยอนปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ยังดีที่มินโฮทำตัวดีขึ้นมาบ้างไม่ทำตัวเป็นข่าวให้ตามแก้เหมือนบริษัทเก่า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน เสือมันไม่ทิ้งลายตัวเองหรอก คีย์รู้ดี
“เฮ้~ คิบอมอ่ามีคนมารอรับถึงที่เลยนะนายเนี่ย”มินจุนเอ่ยขึ้นเมื่อมองไปที่หน้าตึกคณะที่กำลังมีคนยืนมองมาทางพวกเขา
“ตารางงานของมินโฮฉันใส่ไว้ในกระเป้ของนายแล้วเพราะฉะนั้นตรวจทานแล้วก็ดูรายละเอียดให้ดีละ”
“อืม…เดี๋ยวเมื่อกี้นายบอกว่าใส่ไว้ในกระเของฉันงั้นเหรอ”คีย์พยักหน้ารับก่อนจะนึกได้ว่ามินจุนเปิดกระเป๋าของเขา? คีย์ทวนคำพูดของมินจุนอีกทีก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างออก
“ใช่”^^
“งั้นก็หมายความว่า”
“ฉันค้นกระเป๋านายไง”^^มินจุนตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะถอยรถออกไปโดยที่ไม่รอว่าผลมันจะเป็นอย่างไรมันก็คาดเดาไม่ยากเท่าไหร่หรอกอารมณ์ร้อนๆ อย่างคีย์น่ะ
คีย์เดินหน้ามุ่ยตรงเข้ามาหาจงฮยอนที่ยืนรออยู่ มินโฮเองก็เดินตามหลังมาด้วย พร้อมกับคริสตัลที่มาถึงก่อนเขา(ได้ไง?) เร็วปานสายฟ้าแลบไม่แพ้ยัยนี้จริงๆ
“มาทำไม”จงฮยอนมองคนที่เดินตามเพื่อนสนิทอย่างคีย์มาด้วยความไม่พอใจ ตอนแรกที่เห็นว่าคีย์ลงมาจากรถคันเดียวกันก็ไม่ชอบแล้ว แล้วยิ่งเดินมาให้เขาเห็นหน้าอีกยิ่งเกิดอาการอยากจะอัดไอ้คนตรงหน้าซะให้ได้ มินโฮไม่ตอบเพียงแต่หยักไหล่พร้อมเมิน จงฮยอนไม่สนใจแต่หันมาหาคีย์แทน
“เย็นนี้เดี๋ยวฉันมารับ รอที่ห้องละ”มินโฮส่งวิ้งอายเป็นการตบท้ายให้ร่างบางก่อนที่จะเดินยกมุมปาก มาที่จงฮยอนให้ดูหน้าหมั่นไส้เข้าไปอีก
“อะไรของเขานะ”คีย์ส่ายหัวอย่างเอื้อมละอาพร้อมกับที่เขาเองมองไปทางคริสตัล
“เธอมาทำอะไร”
“…”คริสตัลไม่ตอบแต่ทำเพียงหยักไหล่แล้วกอดแขนของจงฮยอนเอาไว้ซบที่ไหล่หนาที่เธอชอบ คีย์เบะปากทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า
“กลัวหายหรือไงตามไปซะทุกที่เลย”คีย์บ่นไปพร้อมกับเดินตรงไปยังห้องเรียนคาบเช้าของตนเองอย่างไม่สนใจคนทั้งคู่อีกต่อไป
ขาเรียวเดินตรงไปยังโต๊ะประจำของพวกเขาทั้งคู่ซึ่งตอนนี้เหลือที่ว่างเพียงแค่สองตัวเท่านั้นเหมือนคนในคลาสจะมีที่ประจำกันหมดแล้ว แล้วโต๊ะของพวกเขาเองก็อยู่ด้านในริมซ้ายมือของห้องซะด้วย
“จงฮยอนรอด้วยซิ”เสียงและสีหน้าขุ่นของคริสตัลบ่งบอกได้ดีว่าเธอมาที่นี้เพราะใคร ตั้งแต่ที่จงฮยอนกลับมาจากทะเลเมื่อวานคริสตัลก็ค่อยแต่โทรหาเขาเป็นร้อยๆ สายทั้งที่คิดว่าวันนี้จะไม่ได้เจอหล่อนแต่เช้าเพราะคีย์โทรมาบอกว่าต้องไปช่วยพี่ซูยอนทำงานซึ่งคริสตัลอยู่ในนั้นด้วยแท้ๆ แต่ทำไมตกบ่ายมาตอนนี้แทนที่จะเอาเวลาไปพักกลับมาตามเขาเหมือนเดิมซะได้ ดาราสมัยนี้เขาว่างกันนักหรือไงถึงมีเวลามาตามเขาได้ตลอดเวลาแบบนี้
“เธอจะตามฉันมาทำไม ฉันมาเรียนนะ”จงฮยอนหันไปแกะมือปลาหมึกของคริสตัลออกพร้อมกับพูดปรามเธอเอาไว้
“ก็มาเรียนด้วยนะซิ”เธอเอ่ยก่อนที่จะเชิดหน้าอีกครั้ง จงฮยอนส่ายหัวอย่างระอาไม่รู้ว่าวันนี้กี่รอบแล้วตั้งแต่เดินเข้ามหาลัยมา ร่างสูงหันกลับเดินเข้ามาในห้องอีกครั้งแล้วเดินไปยังโต๊ะของตัวเอง
“แล้วฉันนั่งไหนละ”คริสตัลเอ่ยถามทันทีที่จงฮยอนนั่งลงข้างๆ คีย์ ซึ่งไม่มีที่ว่างให้สำหรับเธอเลย
“หาเอาเองซิ”คีย์ตอบโดยไม่ใส่ใจเลยซักนิดมาได้ก็หาเองได้
“นี้ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”คริสตัลจ้องเขม่งไปทางคีย์อย่างเอาเรื่อง
“แล้วรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”คีย์ย้อนถามกลับด้วยคำถามเดิม แน่นอนว่าเขาต้องใหญ่กว่าไม่งั้นเขาจะพูดได้ยังไงผู้จัดการพ่วงด้วยตำแหน่งทายาทบริษัทโฆษณา K ที่พี่เขาเป็นคนจ้างยัยกากเพรชนี้มาทำงานไงละ
“….”
“รู้แล้วก็ไปหาที่เอาเอง นี้มันมหาลัยถ้าจะมาเรียนก็พึ่งตัวเองได้แล้วคนอื่นเขาจะได้เรียนกันซักที”คีย์พยักพเยิดหน้าให้คริสตัลไปหาที่นั่งเอาเอง
“เอาละนักศึกษาทุกคนเปิดไปหน้า 217 เราจะเริ่มเรียนเรื่องต่อไปกันวันนี้นะ”ยังไม่ทันที่คริสตัลจะได้โต้แย้งต่ออาจารย์ผู้สอนก็เข้ามาพร้อมกับที่เขาไล่ให้เธอไปหาที่นั่งแล้วเริ่มเรียนในคลาส
“น่ารำคาญโคตรๆ อะ”จงฮยอนหันมาบ่นกับคีย์
“เรียนจบคาบนี้ชิงเลย พี่ชีวอนโทรมาให้ไปหาที่ชมรม”คีย์หันไปบอกจงฮยอน พร้อมกับที่จงฮยอนทำมือตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด
สองชั่วโมงผ่านไป………
“ไปกันเหอะ”คีย์ลุกขึ้นคนแรกใน บรรดาของคนในห้องตามมาด้วยจงฮยอนที่เร่งฝีเท้าเดินตรงไปทางหน้าประตู แน่นอนว่าคนในห้องก็พากันทยอยออกมาจากห้องกันอย่างชุลมุน และแน่นอนว่าคริสตัลตามพวกเขามาไม่ทันแน่
“นี่ พวกนายรอฉันด้วยซิ”เสียงแหลมของคริสตัลตะโกนฝ่าฝูงชนออกมา แต่มีหรือที่พวกเขาจะหยุดนาทีนี้วิ่งอย่างเดียว
สองเท้าของคนทั้งคู่พากันรีบวิ่งออกมาจากห้องเรียนตรงมาที่ชมรมดนตรีของพวกเขารุ่นพี่หน้าหม้ออย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อยหอบ ก่อนที่จงฮยอนจะพยายามมองไปทางด้านหลังประตูว่าคริสตัลยังตามมาอยู่หรือเปล่า
“ทันไหม?”คีย์ถามจงฮยอนที่ยื่นมองออกไปทางหน้ากระจกประตูด้วยความเสียงที่ขาดเป็นห้วงๆ
“ไม่เห็นแล้วละ”จงฮยอนตอบ
“เล่นเอาเหนื่อยเลยนะเนี่ย”คีย์เขย่าคอเสื้อของตัวเองขึ้นลงเพื่อให้ลมเข้าเผยให้เห็นรอยแดงที่จงฮยอนเองก็เพิ่งจะสังเกตเห็น
“คีย์…”
“ห๊ะ?”
“คอมึงไปโดนอะไรมา”จงฮยอนถามเสียงเย็น เขามั่นใจว่าเมื่อวานเขาไม่เห็นรอยนั้น และเขาเองก็มั่นใจว่ามันมีคนทำเพราะเขาเองก็เคยทำแบบนั้นกับผู้หญิงมาบ้าง แต่การที่จะมาอยู่บนคอของคนที่มันยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอย่างคีย์มันเป็นไปไม่ได้
“คะ คอเหรอ”คีย์ตะปบคอตัวเองแน่นเมื่อนึกได้ว่ารอยที่มินโฮทำเมื่อวานมันยังไม่หายไปไหนและมันก็ยังเด่นอยู่บนตัวเขาสองสามจุด
“ปะ เปล่านี้ ไม่มีอะไร”คีย์ยืนขึ้นเต็มความสูงอย่างตกใจ เห็นได้ไงวะ
“เอามาดูดิ”จงฮยอนตรงเข้าไปแกะมือที่คอของคีย์เพื่อที่จะได้เห็นรอยนั้นชัดๆ แต่คีย์เองก็ไม่ยอมเปิดให้ดู
“เฮ้ พวกเรามาแล้ว”คยูฮยอนตะโกนลั่นห้องเมื่อมาถึง แต่กลับไม่มีใครซักคนที่สนใจเขาทั้ง คีย์ และจงฮยอนเอาแต่เล่นกันอยู่สองคน (เล่นเหรอ?)
“ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่มีๆ”คีย์จับเสื้อตัวเองแน่นเมื่อจงฮยอนพยายามจะเปิดเสื้อเขาให้ได้
“ไม่มีอะไรก็เอามาดูดิวะ”จงฮยอนยังพยายามยื้อต่อ
“เฮ้ย มินโฮ!!”คีย์ ชี้ไปที่หน้าประตู ทุกคนหันไปมองตามเสียงนั้น ทันทีที่จงฮยอนเผลอคีย์ก็ผลักเพื่อนร่างสั้น(?)ออกพร้อมกับที่เขาวิ่งออกจากห้องโดยเร็ว
“หน่อยแน่ะ ไอ้คีย์ หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย”จงฮยอนที่ตั้งสติทันก็วิ่งตามออกไปทันทีปล่อยให้รุ่นพี่อีกสองคนยืนมองพวกเขาอย่างสงสัย
“เดี๋ยว จะรีบไปไหน”เสียงเข้มที่คุ้นเคยดีดึงคีย์ที่วิ่งอุดตะหลุดให้หันมาทางนายแบบชื่อดัง
“มินโฮ”คีย์จับแขนร่างสูงแน่นพร้อมกับการหายใจถี่ขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่จับเขาไว้เป็นใคร วิ่งแค่นี้ทำไมเหนื่อยจังวะ
“คิบอม หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”จงฮยอนตะโกนเสียงดังเข้ามาใกล้พร้อมกับอาการตื่นของคีย์อีกครั้ง
“มินโฮวิ่ง”ทันทีที่คีย์ได้ยินเสียงนั้นก็รีบดึงมินโฮให้ออกตัวทันที ถ้าจะให้เล่าอะไรตอนนี้ขอเป็นตอนที่จงฮยอนสงบสติอารมณ์ให้เย็นกว่านี้ก่อน แล้วกันแล้วทำไมทั้งที่ตอนแรกวิ่งหนีคริสตัล แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงได้มาวิ่งหนีจงฮยอนแทนวะ
มันจะมีอะไรแย่ไปมากกว่านี้อีก…คิมคิบอมมมมมมมมมม!!!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ซีวอนขนหน้าแข่งไม่ร่วงหรอกนะ (--' )
คยูจ้ะ ระวังซองมินไม่ให้เข้าห้องนะ -,,-