ตอนที่ 11 : TIME 2 LOVE :: P9**
T I M E 2 L O V E
-9-
อะไรมันจะน่าหงุดหงิดเท่ากับการที่ได้มาโรงพยาบาลอีกครั้งจงฮยอนนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วเมื่อมองดูข้อมือของตัวเองที่ถูกพันผ้าเอาไว้หลังจากที่เพิ่งจะแกะมันออกเมื่อไม่นานมานี้
มันเป็นเพราะไอ้โย่งมินโฮนั้นไงละ ที่ถีบเขาตกเตียงจนมันไปโดนรอยเดิมที่เพิ่งจะหายมาหมาดๆ ถ้าเจอกันอีกคราวหน้าเขาจะซัดมันให้นวมสมกับแผลที่มันฝากเอาไว้เลย เจ็บใจนัก
“ถ้าเจออีกฉันจะต่อยให้หน้านายถึงกับทำงานไม่ได้เลยคอยดู”จงฮยอนสบถไปพร้อมกับมองมือตัวเองอย่างหัวเสีย
“คุณอีแทมินรับยาด้วยคะ” ชื่อของคนๆ นึงที่จงฮยอนคุ้นเคยดีถูกเอยออกขึ้นมาจากนางพยาบาลคนสวยพร้อมๆ กับรุ่นพี่ที่เขาจำหน้าได้ดี….รุ่นพี่จินกิ
จงฮยอนมองไปตามทางที่เขาเดินออกมาก่อนจะเห็นแทมินที่นั่งออยู่ข้างหน้าตัวเองซึ่งห่างกันไม่มากนัก เขากำลังนั่งมองพี่ชายตัวเองที่เพิ่งเดินออกไป แทมินเอาแต่มองไปข้างหน้าโดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังจ้องอยู่
“ทามามะของฉันยังอยู่ดีหรือเปล่านะ ^^”จงฮยอนเอ่ยขึ้นเรียกความสนใจให้แทมินหันมามองเขา ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นจงฮยอน
“ไง”^^
“….”แทมินไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่เพียงแค่ก้มหัวให้เขาเป็นการทักทายตามมารยาทเท่านั้น
“ไม่สบายเหรอ”จงฮยอนถามกลับ
“….”แทมินพยักหน้าตอบ
“เป็นอะไร”
“….”แทมินไม่ตอบแต่กลับมองตาแป๋วมาทางเขาแทน นายก็ไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้วด้วยอะนะ ฉันก็ลืมไป = =;;
“เอิ่ม ช่างแถอะ”
“…..พี่…ละครับ”เสียงเล็กเล็ดลอดออกมาพอที่จงฮยอนจะได้ยิน แต่สีหน้าของร่างตรงหน้ากับแดงจนเขาเองสังเกตได้ สงสัยจะเป็นหวัดหรือเปล่าหน้าแดงเชียว
“ฉันน่ะเหรอ”^^ จงฮยอนชูข้อมือที่พันผ้าเอาไว้ให้ร่างบางดูก่อนจะส่งยิ้มไปให้
“ต้องให้คุณแทมินพยายามพูดคุยบ่อยนะคะ อาการขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจท่าไม่ไหวก็ลองให้หยุดพักก่อนแต่โดยรวมเท่าที่คุณบอกมา ถือว่าอาการของคุณแทมินดีขึ้นนะคะต้องขอบคุณเขาคนนั้นที่ทำให้น้องชายของคุณดีขึ้นนะ”
จงฮยอนหันไปตามเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะพบว่าเป็นหมอผู้หญิงคนนึงที่กำลังยืนคุยกับรุ่นพี่จินกิอยู่
“นายมีอาการแปลกๆอีกแล้วเหรอ”
“…”แทมินไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าแทน เป็นอีกแล้วซินะ นายมาหาทุกครั้งที่เป็นเลยหรือยังไง
“อยากไปเที่ยวไหม?”จงฮยอนเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้มบางให้ แทมินเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมาเช่นเคย
“ฉันจะไปรอที่หน้าโรงพยาบาลตกลงไหม?”^^
“ครับ?”แทมินเอียงหน้าสงสัยเล็กน้อยกับคำพูดที่จงฮยอนเอ่ยออกมา มันอาจจะมัดมือชกไปหน่อยแต่ก็แกล้งเล่นซักนิดก็สนุกดีเหมือนกัน ร่างบางตรงหน้ามองหน้าจงฮยอนสลับกับพี่ชายของตัวเองและมองมาที่จงฮยอนอีกครั้ง ก็เดินลับหายไปจากหน้าประตูโรงพยาบาลซะแล้ว
“…..เฮ้อ”ร่างบางถอนหายใจกับรุ่นพี่ของตัวเองก่อนจะมองไปที่จินกิเพื่อที่จะใช้ความคิด
พี่เขาเป็นผู้ชาย ถ้าขอไปด้วยก็คงโดนห้ามแน่ๆ แล้วจะทำยังไงละ…
“เสร็จแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”จินกิที่เพิ่งเดินเข้ามาบอกแทมินที่นั่งรอเขาอยู่แต่ร่างบางกลับไม่ลุกขึ้นตามคำเรียกของพี่ชายอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย
“แทมิน แทมิน อีแทมิน!!!”
“คะ ครับ!!”แทมินขานรับและลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอย่างตกใจก่อนจะมองมาที่จินกิ
“เป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”จินกิเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงก่อนจะก้มมองหน้าดูน้องชายของตัวเองแทมินส่ายหัวไปมาเป็นคำตอบก่อนที่จะ
เขายังมีทางเลือกอีกทางนี้น่า….
“พี่อนยู...”เสียงหวานเอ่ยออกมาเบามากจนคนตรงหน้าแทบจะไม่ได้ยิน แต่คนอย่างจินกิหรอที่จะไม่รู้ว่าปากของร่างบางเอ่ยออกมาว่าอะไร
“เรียกพี่เหรอ”จินกิถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งเพราะว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเบามาก เบายิ่งกว่าเสียงแอร์ในโรงพยาบาลซะอีก
แทมินพยักหน้ารับก่อนที่จะพยายามเอื้อมมือเข้าไปจับมือหนาของพี่ชายแต่ก็กลับชะงัก
“ไม่สบายก็บอกพี่นะ”จินกิชักมือล้วงกระเป๋าก่อนที่จะส่งยิ้มบางมาให้นั้นเพราะเขากลัวว่าอาการของแทมินจะกำเริบมากกว่า
“พี่อนยู..”แทมินเงยหน้ามองพี่ชายตัวเองด้วยสายตาที่แปลกออกไป นั้นทำให้จินกิเองก็แปลกใจที่แทมินมีสายตาอ้อนวอนแบบนั้น
“เป็นไปได้ก็อย่า…แทมิน!”
“ฮยอนอา”ทันทีที่แทมินคว้ามือของพี่ชายมาจับได้นั้นก็ทำให้จินกิตาโตขึ้น แต่ไม่ใช่แค่นั้นแทมินยังจับมือเขาแน่นเพื่อที่จะพูดบางอย่างออกมาแต่นั้น มันก็ทำให้เขารู้ว่ามือของร่างบางเต็มไปด้วยเหงื่อและสั่นเทาจนเขาเองก็รู้สึกได้
“ผมขอไปเที่ยวกับฮยอนอาได้ไหม?”แทมินเอ่ยด้วยเสียงที่เขาเองไม่เคยได้ยินและมาตลอดหลายปี และนั้นมันดังและชัดเจนมากจนเขาเองก็เผลอผยักหน้าตอบออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“มะ ไม่ต้องครับ ฮยอนอามารับแล้ว”
“หืม?”
“ไว้เจอกันที่บ้านนะครับ”แทมินรีบชักมือออกและบอกลาจินกิที่ยืนมึนอยู่กับคำพูดของตัวเอง ก่อนที่จะรีบเดินออกไปที่หน้าประตูโรงพยาบาลที่มีอีกร่างยืนคอยอยู่ อีกร่างที่เขาพยายามโกหกเพื่อที่จะได้ไปกับคนๆนั้น คิมจงฮยอน
จงฮยอนที่นั่งรออยู่ที่โรงรถเผยยิ้มออกมาก่อนที่จะวางโทรศัพท์ที่เพิ่งตัดสายจากร่างบางอะไรกันที่ทำให้ร่างบางออกมาเพื่อที่จะไปเที่ยวกับคนอย่างเขาได้นะ ปกติแล้วดูเหมือนรุ่นพี่จินกิเองจะหวงน้องชายคนนี้มากเลยก็ว่าได้แล้วอะไรที่ทำให้อีแทมินเด็กผู้ชายที่มีอาการแปลกๆ คนนี้มายืนตรงหน้าเขาได้กันละ มันน่าแปลกใจในเมื่อเขาคิดไว้แล้วว่าคงไม่ได้แน่ๆ แต่กลับมาซะได้
“คะ..ครับ”แทมินก้มหน้าลงเพื่อที่จะซ่อนความร้อนของหน้าตัวเองให้พ้นจากสายตาของจงฮยอน แต่นั้นก็ยิ่งทำให้จงฮยอนก้มลงมาเพื่อที่จะเห็นหน้าของร่างบางชัดๆ
“ไม่สบายก็กลับบ้านก็ได้นะฉันไปคนเดียวได้”จงฮยอนเอ่ยอย่างที่ไม่รู้อะไรเลยซักนิด และที่พูดแบบนั้น แทมินมักจะมีอาการหน้าแดงแบบนี้เสมอ ก็แค่กลัวว่าจะไม่สบายก็เท่านั้น
“ไม่ฮะ ผมสบายดี”ทันทีที่จงฮยอนเอ่ยจบแทมินก็สวนกลับขึ้นมาอย่างไม่คิดอะไรพร้อมกับสบเข้ากับดวงตาคมที่มองเขามาอย่างแปลกใจก่อนที่ร่างบางเองที่จะเป็นคนหลบสายตาคู่นั้น
“จริงเหรอ?” จงฮยอนถามอีกครั้งแล้วแทมินก็พยักหน้าให้เขาเหมือนเคย
“ถ้าเกิดอาการแปลกๆ ก็บอกฉันก่อนนะจะได้เตรียมตัวถูก ถ้าเป็นแบบคราวนั้นก็ละฉันไม่รับผิดชอบนะ”จงฮยอนบอกคนตรงหน้าแต่จริงๆ แล้ว ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นเขาก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วละ ก็เด็กนี้ดูท่าทางไม่น่าไว้วางใจซักเท่าไหร่กับการที่ต้องมาเจอเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนี้
“งั้นไปกันเถอะ”จงฮยอนเดินนำไป ยังรถที่จอดอยู่ด้านในไม่ลึกเท่าไหร่มันเป็นที่สำหรับจอดรถมอเตอร์ไซด์ของคนที่ไม่มีรถคันใหญ่หรูอย่างเขายังไงละ
“คันนี้เหรอครับ”แทมินมมองรถมอเตอร์ไซด์ฟีโน่สีฟ้าคันตรงหน้าที่จงฮยอนนั่งคาบไปแล้วก่อนที่ตัวเองจะยืนมองอยู่อย่างนั้นไม่ก้าวขึ้นไปตาม
“อือ คันนี้แหละรังเกลียดเหรอ?”จงฮยอนหันมาตอบก่อนที่จะหยิบเสื้อหนังแท้สีดำขึ้นมาใส่
“คือว่า…”
“ว่า…”
“….”แทมินไม่พูดอะไรนอกจากก้มหน้าอยู่อย่างนั้นจงฮยอนเองก็มองลุ้นอยู่ว่าร่างบางตรงหน้าจะพูดอะไรแต่นั้นมันยิ่งทำให้เขาเสียเวลาเพิ่มไปอีกเท่าตัว แทมินไม่มีทางที่จะพูดอะไรมากไปกว่านี้แน่ๆ
“เฮ้อ…รู้แล้วๆ”ทันทีที่ถอนหายใจเสร็จ จงฮยอนก็ถอดเสื้อของตัวเองแล้วก็ยื่นหมวกกันน็อคให้กับร่างบางไปก่อนที่แทมินจะรีบรับมันเพราะกลัวว่ามันจะหล่นลงพื้นมากกว่าที่จะลงมาอยู่บนมือเขา
“ครับ?”
“เสื้อเกราะ ฉันให้ยืม”จงฮยอนบอกพร้อมกับสตาร์ทรถ
“คะ ครับ?”คำพูดนั้นยิ่งทำให้แทมินเองก็ไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่
“ฉันไม่รู้ว่านายเป็นอะไร เพราะฉะนั้นใส่เจ้านี้ไว้เวลาที่ฉันขับรถนายจะได้ไม่ต้องกลัวเวลากอดฉัน มอเตอร์ไซด์คันนี้มันอาจไม่หรูเหมือนรถที่นายนั่งแล้วก็แอร์เย็นฉ่ำเหมือนเวลาที่นายเปิดเครื่องยนต์หรอกนะ เพราะคันนี้มันมีแต่แอร์ธรรมชาติแล้วก็เข็มขัดนิรภัยอัตโนมือของนายเท่านั้นที่มันจะอยู่บนรถคันนี้ได้”
“….”
“อะ นี้ด้วยใส่นี้ไว้นายจะได้ไม่ต้องรู้สึกว่านายกอดฉันอยู่ หรือไม่ก็มองว่าฉันเป็นยัยเด็กฮยอนอาปากเสียเพื่อนของนายก็พอเข้าใจไหม?”จงฮยอนบอกพร้อมกับยื่นถุงมือเมื่อแทมินใส่เสื้อและหมวกที่เขาให้เสร็จหมดแล้ว บางทีการที่เขาอธิบายหรือพูดอะไรคนเดียวแบบนี้มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ
“มันไม่เข้ากันซักนิดเลย”
“หืมอะไรนะ?”
“….”แทมินมองคนตรงหน้าตาแป๋วโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา ทั้งที่เมื่อกี้เขาเองก็พูดเบาแล้วนะ ทำไมคนตรงหน้าถึงยังจะได้ยินอีก
“ยืนทำอะไรอยู่ ขึ้นมาซิ”จงฮยอนหันไปหาแทมินอีกครั้งก่อนที่ร่างบางจะรีบขึ้นรถมาโดยทันที แทมินใช้มือทั้งสองข้างของเข้าจับที่ท้ายรถมากกว่าที่จะกอดเอวของคนตรงหน้ามากกว่า เห็นอย่างนั้นจงฮยอนเองก็อยากจะแกล้งขึ้นมาซะดื้อๆ โดยการที่บิดแฮดก่อนที่จะปล่อยให้รถมันกระตุกจนคนข้างหลังต้องปล่อยมือออกมา เกาะไหล่เอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ฮึๆ ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าให้กอดเอวฉันไว้ ถึงมันจะเป็นรถมอเตอร์ไซด์ธรรมดาก็อย่าดูถูกความเร็วมันนะ”จงฮยอนเอ่ยพร้อมกับอมยิ้มกับท่าทางของร่างบางที่ดูจะตกใจก่อนที่จะรีบปล่อยมือออกจากไหล่ของเขาและก็เป็นเขาเองที่จับมือของแทมินให้มาเกาะที่เอว
“จับมันไว้ตรงนี้ต่อไปนี้ที่ตรงนี้คือที่ปลอดภัยของนายแล้วเข้าใจไหม?”จงฮยอนหันไปบอกแทมินอีกครั้งก่อนที่จะส่ายหัวกับท่าทางไร้เดียงสาของร่างบาง แต่เขาจะรู้ไหมว่าถึงมันจะเป็นช่วงเวลาแค่สั้นๆ ที่มือของเขาสัมผัสกับมือของแทมิน แค่นั้นก็ทำให้ร่างบางหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว
เจ้าสองล้อสีฟ้าขับเคลื่อนออกไป ด้วยความเร็วไม่มากเท่าไหร่นักลมเย็นๆ ก็ถูกพัดมาตามแรงที่สวนทางของรถมอเตอร์ไซด์ที่เขานั่งแทมินมองไปตามทางที่รถเคลื่อนออกไป มันทำให้เขาคิดถึงช่วงเวลาเด็กๆ ของตัวเองอีกครั้งพร้อมกับที่มือของเอวร่างสูงกอดแน่นขึ้นและใบหน้าที่ซบลงบนไหล่กว้างของจงฮยอน
ตลอดทางทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยซักนิดไม่ใช่ว่าจงฮยอนไม่มีเรื่องคุย แต่จากการที่เขามองแทมินผ่านกระจกรถแล้วเขาไม่อยากจะกวนร่างบางซะมากกว่า ก็เพราะตอนนี้แทมินกำลังยิ้มออกมาใบหน้าที่เขาไม่เคยเห็นต่างหากที่ไม่อยากจะเข้าไปทำลายจนเขาเองกลัวจะไม่ได้เห็นมันอีกซะมากกว่า
“ปี๊ดดดดด”
“เฮ้ย!!”
“ไอ้เด็กนี้ ขับรถมองทางหน่อยซิวะ”
“ขอโทษครับๆ”จงฮยอนก้มหัวให้กับคนขับรถบรรทุกที่เขาเกือบจะโดนเหยียบเพราะเอาแต่มองร่างบางผ่านกระจกซะมากกว่า นี้เขามองแทมินจนไม่ได้สติเลยเหรอเนี่ย
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า”จงฮยอนหันไปถามร่างบางที่กอดเอวเขาแน่นพร้อมกับซุกหน้าลงบนหลังของเขา
“….พี่เป็นอะไรไหม?”แทมินส่ายหัวก่อนก่อนที่จะถามคนตรงหน้าอย่าเป็นห่วงเช่นกัน
“ไม่หรอก ขอโทษทีนะทำนายตกใจหมดเลย”
“…ไม่หรอกครับ”^^ แทมินตอบพร้อมกับส่งยิ้มบางไปให้ทั้งที่เขาเองก็ยังไม่รู้ตัว จงฮยอนก็รีบหันหน้าหนีไปซะก่อน เจ้านี้รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังยิ้มให้เขาอยู่ จะทำตัวน่ารักไม่รู้ตัวแบบนี้ไม่ถึงเมื่อไหร่กัน เขาเองก็ตั้งตัวไม่ถูกเหมือนกันนะ
“ไปต่อกันเถอะ”พูดจบจงฮยอนก็บิดรถออกไปด้วยอาการแปลกไปกว่าทุกที อาการร้อนๆ หนาวๆแบบนี้หรือเพราะว่าเขากำลังจะไม่สบายแทนร่างบางที่กอดเอวเขาอยู่กันแน่นะ ไม่หรอกมั่ง ก็แค่กอดเอวมันจะติดหวัดกันได้ไง…..
T I M E 2 L O V E
รถมอเตอร์ไซด์คันโปรดจอดลงที่ริมชาดหาดที่ไม่ค่อยเงียบสงบซักนิด เพราะมันเป็นเพียงทะเลที่อยู่ห่างจากโซลไม่ไกลเท่าไหร่นัก มันมีไว้สำหรับคนที่มีเวลาน้อยอย่างเขาเท่านั้นที่จะมาได้มันเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากออกไปไหนไกลๆ แบบเขาซะมากกว่า
“หิวไหม?”ทันทีที่จอดรถจงฮยอนก็หันไปถามร่างบางที่กำลังถอดหมวกกันน็อคออกอย่างทุลักทุเล ริมฝีปากหนาเผลอยิ้มออกกมาก่อนที่จะเข้าไปช่วยร่างบางตรงหน้าถอดมันออกพร้อมกับที่แทมินเองก็มองหน้าขึ้นสีอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ผะ ผมถอดเองได้ฮะ”แทมินจับหมวกกันน็อคที่จงฮยอนกำลังแกะสายที่รัดคอของเขาอยู่
“อยากถอดเอง?”จงฮยอนหยุดและมองหน้าแทมินอีกครั้งเป็นเชิงถาม
“….”แต่แทมินก็กลับเงียบเหมือนเดิม
“ฉันถอดให้น่ะดีแล้ว นายมันเด็กน้อยต้องมีคนค่อยช่วยดูแลตลอดนั้นแหละ”
“ครับ?”อีกครั้งที่แทมินพยายามที่จะเข้าใจความหมายที่จงฮยอนพยายามที่จะพูดกับเขาแต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีคำตอบกลับจากคนตรงหน้าซักนิด
“ให้ฉันถอดเสื้อให้ด้วยไหม? อาการมันร้อนนะหน้านายเริ่มแดงอีกแล้ว”จงฮยอนถามคนตรงหน้าพร้อมกับอมยิ้มไปด้วยมองที่ไรก็อดที่จะละสายตาไม่ได้ แก้มขาวเนียนที่ขึ้นสีระเรื่อตอนนี้เขาก็ไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วแทมินหน้าแดงเพราะพิษไข้ หรือเป็นเพราะอากาศมันร้อนกันแน่ หรืออย่างที่สาม…..มันก็คงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอกนะ
“ผะ ผม ถอดเองฮะ!!”ทันทีที่แทมินได้ยินว่าร่างสูงตรงหน้าจะถอดเสื้อให้เขาเองที่เป็นคนประหม่าอยู่ แล้วถึงกับต้องรีบถอดเสื้อหนังที่มันไม่เข้ากับรถยี่ห้อถูกๆ แบบคันนี้เอาไป วางไว้บนเบาะรถพร้อมกับถุงมือ
“ไม่อยากให้ฉันถอดให้ขนาดถึงกับถอดเร็วภายในห้าวินาทีเลยนะนาย”จงฮยอนเก็บของที่แทมินวางไว้พร้อมกับมองหน้าร่างบางก็อดขำไม่ได้
“เปล่าซักหน่อย”แทมินตอบอ่อมแอ้มก่อนที่จะแสร้งมองไปทางอื่นอีกครั้ง
“ไปกันเหอะ ไปหาอะไรกินกัน”จงฮยอนเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่เดินนำไปเรื่อยๆ โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก
จงฮยอนเอาแต่เดินเข้าร้านนั้น ร้านนี้โดยที่ไม่ได้สนใจแทมินเท่าไหร่หยิบโน้นที่นี่ที่หรือไม่ก็เอาแต่เหม่อมองออกไปด้านนอกร้าน ปล่อยให้แทมินสำรวจร้านเองซะมากกว่า อาจเป็นเพราะเรื่องเมื่อเช้าที่มันทำให้เขาอยากมาที่สงบๆแบบนี้ น้ำเสียงและสีหน้านั้นเขายังจำได้ดีพี่ซูยอนคงจะลำบากใจที่เขาพูดแบบนั้นออกไป แต่ว่า…มันคือความรู้สึกที่แท้จริงของเขา ซึ่งมันคงจะไปไม่ถึงพี่เขาเลยซิซักนิด
ต่างจากแทมินที่เดินตามร่างสูงนั้นโดยที่เขาเองก็คอยที่จะลอบมองสังเกตคนที่พาเขามาที่นี้ วันนี้ดูจะแปลกไปกว่าทุกทีเพราะปกติจงฮยอนจะเป็นคนชวนเขาคุยซะมากกว่าแต่วันนี้ไม่ใช่เลย
“พี่ครับ”แทมินเอ่ยขึ้นหวังให้คนตรงได้ยิน แต่จงฮยอนเอาแต่เดินล้วงกระเป๋าไม่สนใจเขาที่เดินตามหลังมาเลยซักนิด
“พะ….พี่…จงฮยอน”แทมินเปล่งเสียงอีกครั้ง นั้นเพราะเขาพยายามทำให้มันดังขึ้นและจงฮยอนก็หันมา
“หืม เรียกฉันเหรอ?”จงฮยอนหันกลับมาอีกครั้งก่อนจะมองหน้าแทมินอย่างแปลกใจ หน้าแดงอีกแล้ว
“…..”
“ขะ ขอโทษทีฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย นายไหวหรือเปล่า?”จงฮยอนมีท่าทางตกใจเมื่อแทมินหน้าแดงขึ้น แถมยังมีเหงื่อออกเยอะอีกต่างหาก ที่สำคัญเขาเป็นคนลากเด็กนี้มาแต่กลับไม่ได้ดูแลเลยซักนิด เอาแต่เหม่อคิดอะไรไปเรื่อยจนลืมไปว่ามากับแทมินซะได้
“คะ ครับ”^^ แทมินส่งยิ้มบางมาให้จงฮยอนโดยที่ไม่รู้ตัวอีกครั้ง และนั้นก็ทำให้ร่างสูงรู้สึกประหม่าอย่างน่าแปลกใจ รอยยิ้มนี้กำลังมีอิทธิพลต่อจงฮยอนซะแล้ว
“อะ เอ่อ นายคงเหนื่อยเดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้ รออยู่ตรงนี้นะ”จงฮยอนพูดออกมาโดยที่ไม่มองหน้าร่างบางซักนิด นั้นเพราะยิ่งมองตัวเองก็แปลก แทมินมีแรงดึงดูดเยอะเกินไป รอยยิ้มนั้น ใบหน้าแบบนั้น ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว….
จงฮยอนหันหลังวิ่งจากไปทันทีที่ พูดจบและสั่งให้แทมินรอเขาอยู่ตรงนั้น แทมินดูจะน้อยใจไม่น้อยที่ดูเหมือนวันนี้จงฮยอนจะไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้หรือสนใจเขาเท่าไร่ เพราะเขาเป็นแบบนี้ซินะ แทมินก้มหน้าลงเมื่อจงฮยอนลับสายตาไป ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งแล้วออกเดินไปตามทางของร่างสูงโดยที่สายตานั้นไม่ลดละจากเส้นทางนั้นเลย
เขาไม่อยากอยู่ห่างจากคนนี้เลยซักนิด อาจเป็นเพราะแรงดึงดูดจากเสียงหัวเราะของเขาคนนั้น….
แทมินเดินไปเรื่องๆ จนสายตาไป หยุดอยู่ที่จงฮยอนที่ยืนอยู่ที่หน้าซุ่มขายน้ำใกล้ๆ ดวงตาเล็กมองร่างสูงนั้นอีกครั้งพร้อมกับก้าวเข้าไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่า ร่างสูงนั้นจะเห็นเขาหรือเปล่า
“ป้าครับซื้อน้ำหน่อยครับ”จงฮยอนเอ่ยบอกป้าที่ยืนคิดเงินให้กับลูกค้าที่มาก่อนเขา
“จ้า เอาน้ำอะไรดี”
“เอ๋ นั้นซิเด็กนั้นกินน้ำอะไร”แทมินมองหน้าร่างสูงที่ไม่สังเกตเลยซักนิดว่าเขาเดินเข้ามาก่อนที่มือเล็กนั้นก่อนที่จะเข้าไปจับชายเสื้อของร่างสูงที่หันกลับมามองพอดี
“แทมินอา ฉันบอกให้นายรออยู่ที่เดิมไง”จงฮยอนหันมามองก่อนที่จะเข้าไปจับตัวแต่ก็ต้องชะงักมือเอาไว้ ลืมไปว่าคนๆ นี้โดนตัวไม่ได้
“เอ๋ แฟนสาวเหรอน่าตาหน้ารักนะเนี่ย”ป้าขายน้ำเอ่ยขึ้นก่อนที่จะส่งยิ้มไปให้
“เอ๋ อ่อ ไม่ใช่หรอกครับ ป้าครับ ผมขอน้ำเย็นขวดหนึ่งแล้วกันนะครับ”จงฮยอนหันไปเอ่ยก่อนที่จะก้มมองแทมินที่ก้มหน้าตั้งแต่มาถึง
“ไหวหรือเปล่า กลับบ้านเอาไหม?”จงฮยอนถามร่างบางอีกครั้งแต่แทมินก็เอาแต่ก้มหน้าแถมยังส่ายหน้าให้เขาลูกเดียว
“ดูเหมือนเขาจะงอนนะ ผู้หญิงก็เข้าใจยากแบบนี้แหละ”
“ไม่ใช่ครับป้า”จงฮยอนหันไปบอกป้าที่ขายน้ำอีกครั้งก่อนที่จะจ่ายเงินแล้วเอาขวดน้ำแตะหน้าแทมินแทน
“กินก่อนซิ มันจะได้ดีขึ้น”จงฮยอนบอกคนตรงหน้า แต่แทมินเงยหน้ามองจงฮยอนเพียงนิดเดียวแล้วกลับเข้าไปใกล้ร่างสูงอีกครั้ง พร้อมกับที่ดึงเสื้อของจงฮยอนให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
“นี้ แทมิน….”จงฮยอนยังคงไม่เลิกที่จะยื่นน้ำให้ร่างบางพร้อมๆ กับที่เขาขยับไปตามแรงที่ร่างบางดึงเขา
“ไม่สบายขึ้นมาเดี๋ยวพี่จินกิก็…!!”ยังพูดไม่ทันจบ แทมินก็ดึงจงฮยอนเข้ามากอดแน่น
“อยากอ้อนเองหรอกเหรอ”ป้าที่ขายน้ำยังเอยต่อ
“บอกว่าไม่ใช่ไงเล่าป้า!!”จงฮยอนหันไปบอกอีกครั้งก่อนที่จะหันมาสนใจแทมินที่ยังกอดเขาอยู่
“ทะ แทมิน นายไหวหรือเปล่า”จงฮยอนถามอีกครั้งมือไม้ก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน กลัวแต่ร่างบางจะอาการกำเริบ จงฮยอนเองก็เริ่มทำอะไรไม่ถูกแล้วเหมือนกัน….
“แทมินนายเป็นอะไร”
“ถามแต่ผมพี่ถามตัวเองก่อนไหม?”
“เอ๋?”
“พี่เป็นอะไร ไม่พูดกับผมเลย”
“....”
“ไม่สนใจผมเลยซักนิด เอาแต่เดินเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น”
“….”
“ผมเป็นห่วงเหมือนกันนะ”ตาคมหลุบต่ำลงก่อนที่มือหนาจะวางแล้วลูบเบาๆ บนกลุ่มผมนิ่มของคนตัวเล็กกว่าเป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอเขาผิดจริงๆ ซินะ ทั้งที่เป็นคนชวนมาแท้ๆ แต่กลับไม่สนใจร่างบางเลยซักนิด จนเด็กนี้สังเกตออกขนาดนั้น
ก็แค่คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าเฉยๆก็เท่านั้น……
“พี่ขอโทษนะแทมิน”จงฮยอนซบลงที่ไหล่บาง เขารู้สึกได้ว่าเสื้อเขาตอนนี้กำลังเปียกไปด้วยน้ำตาของคนที่กอดเขาอยู่ ‘เป็นห่วงมากขนาดนี้เลยเหรอ’
“เห็นไหม ป้าบอกแล้วว่างอนชัวร์ เด็กสาวก็แบบนี้แหละพ่อหนุ่ม ฮ่าๆ”
“พอเหอะป้า ผมขี้เกียจพูดแล้ว” = =;; จงฮยอนบ่นกับตัวเองก่อนที่จะหันมามองร่างบางที่คล้ายกอดลง แต่ก็ยังคงก็ก้มหน้าเหมือนเดิม ที่ป้าแกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงเพราะแทมินเอาแต่ก้มหน้า แถมผมของเขาก็ยาวระต้นคอลงมาบวกกับโคลงหน้าหวานใครๆ ก็คิดว่าแทมินเป็นผู้หญิงกันไปหมด
“ไหวหรือเปล่า”
“คะ ครับ? อะ เอ่อ ไหวฮะ”แทมินเงยหน้ามองจงฮยอนอย่างประหม่า เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป ร้องไห้เหรอ กอดคนตรงหน้าเหรอ พูดอะไรไปบ้างอย่างนั้นเหรอเขาจำไม่ได้ นายต้องบ้าไปแล้วจริงๆ อีแทมิน
“ร้องไห้แบบนี้พี่จินกิต้องว่าฉันแน่ๆ ว่าแกล้งนาย”จงฮยอนเอ่ยด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาให้ร่างบางที่มองหน้าเขาอยู่
“เอ่อ เพี๊ยะ!!!”O_O!!! แทมินยกมือปัดมือหนาที่เช็ดคาบน้ำตาออกอย่างแรงก่อนที่จะเห็นว่าสีหน้าของจงฮยอนเปลี่ยนไป
“…..”
“เอ่อขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจแค่ตกใจเฉยๆ”แทมินมองหน้าร่างสูงที่ดูจะตกใจกับการที่เขาปัดมือหน้านั้นออก ก่อนที่จะก้มหน้าลงอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร เมื่อกี้นายก็คงไม่ได้ตั้งใจเหมือนกันซินะ”จงฮยอนพูดไปถึงเรื่องที่แทมินกอดเขาร่างบางเงยหน้ามองร่างสูง เขามองเห็นสายตาตัดพ้อมาจากดวงตาคมนั้นก็ทำเอาแทมินสะหัวเป็นระวิงอีกครั้ง
“ไม่ใช่”แทมินเอ่ยเสียงเบาแต่ก็ไม่รู้ว่าจงฮยอนได้ยินที่เขาพูดหรือเปล่าแต่จงฮยอนไม่พูดอะไรเลยซักนิด
“ผมกำลังพยายามอยู่”แทมินมองดวงตาคมนั้นอย่างมีความหวัง หวังว่าเขาจะเข้าใจหวังว่าเขาจะไม่เป็นเหมือนคนอื่นหวังว่าจะไม่เข้าใจเขาผิด
“ผมขอโทษ”แทมินจับมือของจงฮยอนที่พันผ้าเอาไว้ก่อนที่จะก้มหน้าอีกครั้ง ดวงตาเล็กมองไปยังมืออีกข้างที่เขาเพิ่งปัดมันออก เขารับรู้ได้ว่ามันสากแต่ก็อบอุ่นจนเขาเองอธิบายไม่ได้อยากสัมผัสแต่กลับไม่กล้าพอ
“รู้แล้ว งั้นมาพยายามด้วยกันเถอะ”จงฮยอนไม่ถามอะไรต่อแต่กลับดึงมือแทมินให้เดินไปตามแรงของเขาแทน
จงฮยอนเดินมาเรื่อยจนมาหยุดอยู่ ย่านขายเสื้อผ้าที่เปิดเรียงขายให้สำหรับนักท่องเที่ยว จงฮยอนฉุดร่างบางให้เดินตามเขาไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่พูดอะไรซักคำก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ร้านหนึ่งที่เจอเสื้อที่เขาสะดุดตา
“ชุดนี้น่าจะเหมาะกับนายนะ”จงฮยอนเดินเขาไปยังหุ่นตัวหนึ่งที่วางอยู่ในร้าน มันเป็นชุดเสื้อกล้ามสีฟ้าลายทางเหมาะกับแทมินที่ดูสดใสเป็นพิเศษสำหรับวันนี้
“หืม? พี่จะให้ผมใส่เหรอ?”แทมินมองหน้าจงฮยอนอย่างแปลกใจ
“ใช่ พี่ครับผมขอดูตัวนี้หน่อย”จงฮยอนตอบกลับมาก่อนที่จะบอกให้คนขายหยิบเสื้อที่ลายเหมือนกันเอามาให้
“มีตัวใหญ่กว่านี้ไหมครับ”จงฮยอนหันไปถามพ่อค้าอีกครั้ง เพราะตัวที่เขาเอามาให้แทมินนั้นมันพอดีตัวเกินไป เขาอยากได้ตัวที่มันยากว่านี้อีกหน่อย
“ไม่เอา”แทมินเอ่ยเสียงเบาพอที่จงฮยอนจะได้ยินก่อนจะหันกลับมา
“ทำไมละฉันจะซื้อให้นายนะ”
ถ้าใส่เสื้อกล้ามก็ต้องโดนตัวคนอื่นนะซิ เขาก็แค่กลัวที่จะมามีอะไรแปลกตามที่สาธารณะแบบนี้ ผู้หญิงไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าเกิดเป็นผู้ชายขึ้นมาละ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า อยู่กับฉันทั้งคนเดี๋ยววันนี้เป็นบอดี้การ์ดให้นายพิเศษเลย”^^จงฮยอนส่งยิ้มไปให้แทมินอีกครั้ง
“นี้เลย นี้เลย ตัวนี้ใช่ได้หรือยัง?”พ่อค้าคนเดิมยื่นเสื้อตัวที่ใหญ่กว่าเดิมเอามาให้ จงฮยอนรับมันมาก่อนที่จะหันไปทาบกับตัวแทมิน
“เอาตัวนี้แหละครับ”จงฮยอนบอกพ่อค้าเมื่อมันโอเคสำหรับเขา
“เอาอีกตัวไหมครับตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อคู่ลดราคาเป็นเป็นพิเศษสำหรับคู่รักเลยนะครับ”พ่อค้าคนเดิมหันมาบอกจงฮยอนที่ยื่นเสื้อให้พอดี
“ครับ? เอ่อ ไม่ดีกว่าฮะ”จงฮยอนปฏิเสธตะกุกตะกักก่อนที่จะหันไปมองแทมินทีพ่อค้าที
“เอาน่า เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยเองก็ได้แล้ว”พ่อค้ายังพูดต่อแต่จงฮยอนเริ่มจะทำหน้าไม่พอใจเข้าซะแล้ว
อยากขายก็พูดมาซิวะจะมาหลอกขายให้เขาน่ะยากหน่อยนะ
“ซื้อครับ”แทมินเอ่ยหน้าตายไปทางพ่อค้าก่อนที่จะหันมามองจงฮยอน
“ไม่ต้อง”จงฮยอนหันมาห้ามแทมินทันทีที่ได้ยินคำนั้น
“ใส่เป็นเพื่อนผมหน่อยนะ”แทมินหันมาบอกจงฮยอนด้วยสายตาอ้อน? อ้อนเหรอ? เด็กนี้มีสายตาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“สรุปว่า?”พ่อค้ายังถามต่อ
“ซื้อครับ”แทมินหันไปบอกพ่อค้าอีกครั้งก่อนที่จะหันมามองจงฮยอนแล้วส่งยิ้มบางมาให้ ยิ้มอีกแล้ววันนี้นายยิ้มบ่อยไปนะแทมิน จงฮยอนรีบหันหน้าหนีทันทีที่เห็น ใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว
“ได้แล้ว ทั้งหมด 15000 วอน ถ้วนครับผม”
“ครับ”แทมินตอบรับก่อนที่จะควักกระเป๋าเงินออกมาแต่ก็ต้องหยุดหาเพราะมีคนจ่ายให้เขาแทน
“นี้ครับ”จงฮยอนยื่นเงินไปให้พ่อค้าพร้อมกับรับถุงเสื้อมาก่อนที่จะหันมามองแทมินที่ยืนมองเขาอยู่
“ให้เป็นของขอบคุณแล้วกันถือซะว่าวันนี้นายมาเป็นเพื่อนเที่ยวฉัน อีกอย่างเพราะวันนี้นายน่ารักมากฉันจะใส่เป็นเพื่อนนายก็แล้วกัน”พูดจบจงฮยอนก็เดินนำออกจากร้านโดยที่ไม่มองหน้าร่างบางเลยซักนิดแต่มือหนานั้นก็ยังดึงมือเล็กให้เดินตามเขาไปด้วย
เพราะผมน่ารัก น่ารักเหรอ พี่พูดถึงผมใช่ไหม?....ความคิดหนึ่งของแทมินที่ดังก้องอยู่ในหัว คำพูดของจงฮยอนทำเอาร่างบางแทบตัวร้อนผ่าวจนหยุดไม่อยู่ จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้แย่ในสายตาของผู้ชายคนนี้ซักหน่อย
ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จแล้วจงฮยอนใส่เสื้อกล้ามสีฟ้าที่ตอนแรกเขากะว่าจะให้แทมินใส่ แต่พอมาเห็นเสื้อสีส้มที่แทมินเลือกให้เขา เขาก็ขอใส่เสื้อสีฟ้าที่ตัวเองเลือกให้ร่างบางดีกว่า
“ สีส้มไม่เหมาะกับฉันหรอก ให้นายใส่จะดีกว่า”นั้นคือคำพูดของจงฮยอนที่ดึงเสื้อสีฟ้าออกจากมือของแทมินไปแล้ว
“แต่ว่าตัวนั้นพี่ซื้อให้ผมไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ยืมก่อนละกัน ตัวนั้นนายก็ใส่ไป โอเค๊?”
“คะ ครับ”
“ซ่า῀”
“อะ!!!”แทมินตื่นมาจากภวังค์ทันทีเมื่อโดนน้ำเย็นของทะเลสาดเข้าตรงใบหน้าด้วยฝีมือของร่างสูง
“เป็นอะไร เหม่อตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว? ฮ่าๆ”ถึงแม้ว่าจงฮยอนจะถามอย่างเป็นห่วงแต่แทมินก็ส่ายหน้าเหมือนอย่างเคย
“เอาน่าๆ เดี๋ยวฉันก็พากลับบ้านแล้ว”จงฮยอนยังเอ่ยต่อ
ไม่ได้อยากกลับบ้านซะหน่อย มันเป็นเพราะพี่นั้นแหละที่ไม่ยอมใส่เสื้อที่ผมเลือกให้ต่างหาก แทมินคิดในใจ
“ย๊า ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้วมาเที่ยวก็ทำหน้าให้มันสนุกหน่อยซิ นะๆ นะๆนะๆ น้า”
“อะ!!!” จงฮยอนยื่นหน้าไปใกล้เป็นการอ้อนแทมินจนร่างบางขยับหน้าหนีก่อนที่เขาล้มลงไปกองกับพื้น
“ฮ่าๆ เด็กน้อยเอ้ย!!”จงฮยอนยังพูดต่ออย่างชอบใจ ก่อนที่จะยื่นมือเข้าไปเพื่อที่จะช่วยร่างบางให้ลุกขึ้น แทมินมองที่มือหนานั้นก่อนที่จะมองไปที่จงฮยอนสลับกัน อยากจับแต่ไม่กล้า…..มือที่ไม่มีผ้าพันเอาไว้
“ฉันอยากรู้เรื่องของนายจะได้ไหม?จงฮยอนเอ่ยคำนั้นก่อนที่จะเปลี่ยนมานั่งย่อเข่าเพื่อที่จะได้คุยกันถนัด
“แลกกับเรื่องของฉันเราจะรู้กันแค่สองคนดีหรือเปล่า”จงฮยอนยังเอ่ยต่อพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ เหมือนเคย แทมินนิ่งเงียบมองหน้าคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ
เรื่องของเขากับเรื่องของพี่จงฮยอนอย่างนั้นเหรอ รู้กันแค่สองคน?
“ว่าไง ถ้านายตกลงฉันจะเล่าฟัง”
“…..”
“หืม?”จงฮยอนยังรอคำตอบของแทมินอยู่
“แค่หลับตาผมก็เห็นแล้วครับ ผมทำไม่ได้หรอก”แทมินเอ่ยเสียงเบาก่อนที่จะเบนหน้าหนี
“เอ๋?”
“ผมมันไม่ได้ดีอย่างที่พี่คิด ไม่รู้ยังจะดีกว่า”แทมินเอ่ยเสียงสั่นก่อนที่จะจับที่หน้าอกของตัวเองแน่น ภาพวันเก่าๆ มันกำลังไหลเข้ามา วันฝนตก เสียงปืน เลือด…..
“แทมิน…”
“ผมไม่รู้จะทำยังไงถึงจะหนีจากมันได้ ผมทำได้ก็แค่ร้องออกมา”
‘แทมิน หนีไป...’
“แทมิน แทมินอา”
‘ไม่ ฮึก ไม่ ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย’
“อีแทมิน!!!!”
จงฮยอนตะโกนเสียงดังเพื่อเรียก สติของร่างบางที่ตอนนี้น้ำตาไหลออกมาจนเขาเองก็ทำอะไรไม่ถูก แทมินมองหน้าจงฮยอนก่อนที่จะร้องหนักยิ่งกว่าเดิม
“ช่วยผมด้วยพี่ครับ ฮึก ช่วยผมด้วย”คำพูดซ้ำๆ ที่แทมินเอ่ยออกมา จงฮยอนจับมือทั้งสองข้างของแทมินที่ปิดหูของตัวเองไว้จับแน่น
“มองหน้าฉัน อีแทมิน มองหน้าฉัน!!!”จงฮยอนพูดเสียงแข็งพร้อมกับมองดวงตาของร่างบางที่ตอนนี้เปื้อนไปด้วยน้ำตา
เขาไปกระตุกต่อมที่ไม่ควรถามเข้าแล้วใช่ไหม อะไรที่ทำให้เด็กตัวแค่นี้เป็นได้ถึงขนาดนี้ แค่นึกถึงก็ยังเป็นขนาดนี้แล้วใครกันที่ทำให้เด็กผู้ชายดูไม่มีพิษภัยกลายเป็นเด็กที่ขังตัวเองอยู่ในความทรงจำมืดๆ แบบนี้นะ ทำไมถึงทำมันได้ลงคอ เขาเองก็ไม่น่าถามเรื่องนี้เลย
“มองแค่ฉัน ลืมมันไปซะ”จงฮยอนเบาเสียงลงเพื่อปลอบประโลมคนตรงหน้าที่ตอนนี้ยังสะอื้นอยู่
“เมื่อไหร่ที่คิดถึงมัน นายแค่ลบมันออกแล้วมองหน้าฉันไว้นายไม่เป็นอะไร ไม่เคยเป็นอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม?”จงฮยอนบอกแทมินที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด ร่างบางทำได้แค่ส่ายหัวไปมาพร้อมกับสะอื้นหนักเข้าไปใหญ่
“ฟังฉันแทมิน ลบมันไปด้วยภาพของเราวันนี้ซิ นายมีความสุขมากเลยนะ นายไม่รู้ตัวเหรอ นายยิ้ม นายพูด อะไรที่มันทำให้นายมีความสุขนึกถึงมันเข้าไว้ซิ”
“ผมทำไม่ได้หรอก ฮึก ผมทำมันไม่ได้ อุ๊ป” O_O ยัง ไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบ จงฮยอนก็เข้าไปปิดปากของร่างบางด้วยริมฝีปากหนาของเขา ถ้ามันทำให้ร่างบางหยุดร้องไห้ด้วยวิธีนี้เขาก็จะทำ ถ้าหากมันช่วยได้
ลิ้นร้อนตวัดชิมความหวานภายใน โพรงปากอันอ่อนหวาน จงฮยอนไล่ลิ้นไปไปในโพล่งปากก่อนที่จะจับหน้าของร่างบางไว้เพื่อที่ประคอง ให้แทมินไม่หลบจากการลุกลามของเขา มือบางเริ่มรู้สึกได้ถึงความอ่อนแรงก่อนที่จะจับไหล่ของจงฮยอนเป็นการช่วยพยุง แทมินหลับตาสนิทตัวแข็งทื่อ ผิดกับจงฮยอนที่ดูจะชำนาญกับบทเพลงรักในปากของเขาซะเหลือเกิน ไม่นานจงฮยอนก็ละริมฝีปากออกมา
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยู่ตรงนี้นายจะไม่เป็นไร”จงฮยอนใช้นิ้วเกลี่ยใบหน้าที่เหลือเพียงคราบน้ำตาออกก่อนที่ จะเข้าไปสัมผัสริมฝีปากอมชมพูนั้นอย่างบางเบามืออีกครั้ง
“ต่อไปนี้มันจะมีแค่ภาพของฉัน เท่านั้นเข้าใจไหม”จงฮยอนเอ่ยพร้อมกับมองตากลมโตนั้น ไม่รู้เพราะอะไรนักหนาวันนี้แทมินช่างเป็นแม่เหล็กที่ทำให้เขาอยากจะเข้าหาซะเหลือเกิน
ไม่อยากเห็นเด็กนี้ต้องร้องไห้เขาแค่ต้องการเห็นเพียงรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของร่างบางเท่านั้น รอยยิ้มที่มันหายไปที่ไม่รู้ว่ามันหายไปนานเท่าไหร่แล้ว มือหนาเปลี่ยนจากการเกลี่ยคลาบน้ำตามาเป็นกระชับเด็กน้อยเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง
มือบางชะงักกลางกากาศก่อนที่ใบหน้าหวานจะปล่อยโฮอีกครั้ง มือบางทุ่มร่างสูงในอ้อมกอดไปมา ไม่ใช้เรื่องง่ายที่ภาพในหัวมันจะหายไปง่ายๆ เขาใช้เวลาหลายปีในการรักษาแต่มันก็เหมือนเดิมวันนี้ก็เช่นกันเขาไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย เขาไม่ได้อยากจะทำร้ายพี่จงฮยอน เขาไม่ได้อยากให้คนรอบข้างเป็นห่วงเขาแบบนี้ แต่มันก็ทำไม่ได้ทั่งที่พยายามแล้วก็ตาม…
มันต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่กันนะ ถึงจะลืมมันได้ซักที
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คีย์หวงพี่สาวมากเลย ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ด้วย