คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : Special Da Capo : Side Story 13 I'm not his brother!
(Special Part : วีเจ้าเก่าคร้าบบบ)
ผมเอื้อมมือไปตะครุบนาฬิกาปลุกตัวปัญหา นี่ก็ยังคงเป็นเช้าวันธรรมดาที่น่าเบื่อสำหรับผม ชีวิตมันจะมีอะไรมากไปกว่าการตื่นเช้า อาบน้ำแต่งตัว กินข้าว ไปโรงเรียน...
“วี! แม่กำลังจะไปเรียกพอดีเลย ทำไมวันนี้ช้าจังลูก พี่เขามารอเรานานแล้วนะ”ทันทีที่ผมเดินลงไปข้างล่างแม่ก็โผล่มาที่หัวบันไดพอดี ผมกลอกตามองเพดาน...นี่ไงความเปลี่ยนแปลงและความวิบัติที่เพิ่งจะเข้ามาสิงสถิตในชีวิตผม
ผมเดินลงไป ปรายหางตามองร่างสูงที่ทำเนียนมานั่งกินข้าวบ้านผมแทบทุกวันแวบหนึ่งแล้วก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น เดินเลี่ยงไปใส่ถุงเท้าที่ตู้เก็บใกล้ประตูแทน พร้อมกันนั้นก็ได้ยินเสียงแม่บ่นไล่หลังมาแว่วๆ
“จริงๆเลย พี่เขาอุตส่าห์มารับก็ยังไม่รู้จักทักทาย เด็กคนนี้นี่มารยาทแย่!”
ผมพรูลมหายใจยาว...ใครใช้ให้มันมาล่ะ...แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะบ่นไปไอ้พี่เนมก็ใช่จะฟัง ผมไม่ค่อยพูดกับเขาแต่เขาก็ยังทนทู่ซี้มาหาที่บ้านทุกเช้า มาบ่อยจนผมเซ็งเกินจะต่อว่า เฮียวาก็ช่างแสนดี นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังสนับสนุนให้พี่เนมลากผมไป
ตอนที่เดินกลับเข้าไปในครัวเฮียวากำลังซัดข้าวไปคุยกับพี่เนมไป ผมทำเป็นไม่สนแต่หูก็แอบกระดิกฟัง รู้สึกจะเป็นเรื่องประกวดวงดนตรีอะไรทำนองนั้น...
“เออวี วันที่มีประกวดก็วันเดียวกับที่แกมาแข่งบาสโรงเรียนเฮียนี่ อย่าลืมมาดูด้วยล่ะ”ผมแทบจะสะดุดหัวแม่เท้าตัวเองหน้าทิ่ม เฮียวา! ถึงเฮียไม่อ้าปากพูดก็ไม่มีใครด่าเป็นใบ้หรอกเว้ย!
ผมแทบจะหลบสายตาของคนหน้านิ่งที่กำลังมองมาทางนี้ไม่ทัน “ก็...ถ้ามาทันก็จะไป...”
“อย่ามา วงเฮียประกวดตั้งบ่าย โรงเรียนเอ็งมากันแต่เช้า อย่านึกนะว่าเฮียไม่รู้”
โห...จุกเลย...ถ้าจะแฉกันงี้นะฆ่าผมให้ตายเหอะ อุตส่าห์จะเอามาเป็นข้ออ้างไม่ไปดู...
“เนมก็อยู่วงเดียวกับเฮียนะ”เฮียวายังพูดต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่สนใจว่าจะมีใครโต้ตอบด้วยหรือไม่ นี่ล่ะพี่ชายผม พูดมากแสรด แต่ไหนแต่ไรผมนึกชื่นชมข้อดีตรงนี้ของเฮียมาตลอดเพราะมันทำให้เฮียเป็นคนปรับตัวเก่งและเข้ากับใครๆได้ง่ายโคตร แต่วันนี้แหละผมจะด่าเพราะแต่ละอย่างที่เฮียยกมาพูดน่ะมัน...ฮึ่ย!!
“เฮียจะประกวดกับใครก็ช่างเถอะ”ผมตัดบท บอกอ้อมๆว่าไม่อยากคุยเรื่องอะไรก็ตามที่มีคนข้างๆเฮียเกี่ยวข้องด้วย
เฮียวาเงียบไปเล็กน้อย ผมเดินไปรินนมในตู้เย็นมาดื่มอย่างไม่ใส่ใจ ใช่จะอยากทำแบบนี้ใส่เฮีย แต่ผมไม่อยากคุยเรื่องเพื่อนเฮีย ‘คนนี้’ นี่หว่า - -
“กูอิ่มแล้ว ไปนะ”ผมเหลือบมองร่างสูงที่ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ และเฮียวาก็เลิกคิ้วขึ้น
“คนเดียว?”
พี่เนมมองสบตาพี่ชายผม แล้วขยับยิ้มมุมปากที่ทำเอาผมเสียวสันหลังวาบ
“ไม่มีทาง”
มัจจุราชก้าวพรวดๆเข้ามาหาผม ผมเกือบสำลักนมที่กำลังดื่มอยู่ และพอมองสบตาพี่เนม สายตาเขาก็อ่านได้ว่า
‘รีบๆแดร๊กซะ...จะได้ไปโรงเรียน’
ผมหรี่ตา ถ้ายอมทำตามง่ายๆก็ไม่ใช่ไอ้วีสิครับ
ผมมองตอบ ‘อยากไปก็ไปคนเดียวสิเว้ย’
มองปุ๊บผมก็หันหน้าหนีไปอีกทางแล้วดื่มนมต่อเรื่อยๆแบบไม่สนใจอะไร ได้ยินเสียงเฮียวาหลุดขำมาแต่ไกล เฮียแม่งไม่เคยจะเนียน วีได้ยินนะเว้ยเฮ้ย...
“วา แม่ฝากล็อคบ้านด้วยนะ เดี๋ยวแม่จะออกไปตลาดหน่อย”แม่ผมโผล่กลับเข้ามาในห้องครัวหยุดสถานการณ์อันน่าอึดอัด(สำหรับผม)เอาไว้ได้พอดี
“เจ้ศาก็อยู่นี่แม่”
“พูดอะไรน่ะ เจ้แกป่านนี้ยังไม่ตื่นบรรทมหรอก”แม่ส่ายหน้าเหมือนจะบอกว่าเฮียพูดเพ้อเจ้อ แต่ผมก็ว่างั้นแหละ คนอย่างเจ้ศาน่ะเหรอจะตื่นแต่เช้าเพื่อลงมาล็อคประตูบ้าน ไม่มีทาง ผมเห็นห้องยัยเจ้ไฟดับตอนผมตื่น ซึ่งนั่นเท่ากับตีห้า - -
“โอเคนะ แม่ไปล่ะ ส่วนวีไปกับพี่เนมเขาใช่ไหม ทำตัวดีๆด้วยล่ะ หน้าบึ้งแต่เช้าเลยนะเรา”แม่หันมาพูดกับผมก่อนหันไปหาพี่เนมต่อ “เนม แม่ฝากน้องด้วยนะจ๊ะ”
“ครับ”
หนอย ทีงี้ล่ะรับคำซะดิบดี ผมหันไปทำหน้าเบ้ใส่กำแพง ดีที่ทุกคนกำลังสนใจแม่เลยไม่มีใครสังเกตเห็น
แม่ออกไปแล้ว และเฮียก็ลุกตาม “อาวละ...ขอไปแปรงฟันก่อน วี แกจะไปก่อนเลยก็ได้นะ ไม่ต้องรอ ยังไงก็คนละทางกันอยู่แล้ว”
“ใครบอกวะว่าจะรอมึง?”
“ไอ้เนม ออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้เลยนะ - -“
“ออกแน่”ผมไม่ได้หันไปมอง แต่ฟังจากน้ำเสียง ผมว่าไอ้พี่เนมคงต้องกำลังยิ้มชั่วอยู่แหง... “แต่ต้องหลังจากลากเมียกูออกไปด้วยนะ”
พรวด! ผมสำลักนมโดยไม่ตั้งใจ ไม่น่ารินแก้วที่สองเลยว่ะ ไม่งั้นก็กินหมดตั้งนานแล้ว ผมไอค่อกแค่ก เสียดหูกับสรรพนามนั้นจนอดหันไปจิกสายตาใส่ไอ้พี่ห่าหน้าด้านไม่ได้
“โอ๊ย ไอ้บรรลัย เรียกซะน้องกูเสีย”เฮียบ่นพึมพำ สีหน้าดูไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ขัด แล้วเฮียก็เดินออกไป “เอาเหอะ ไงก็ดูแลน้องกูดีๆหน่อยละกัน”
ไม่ต้องการเฟ้ย!!
ผมเช็ดปากลวกๆ ทำไมใครต่อใครถึงต้องยัดเยียดผมให้ไอ้พี่เนมนักนะ แม่ก็คน เฮียก็อีกคน แม่น่ะไม่เท่าไหร่เพราะแม่ไม่รู้ความจริง ก็ต่อหน้าแม่อ่ะไอ้พี่เนมมันโคตรจะเป็นเด็กดี แต่เฮียไม่ใช่ไง ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเคยทำอะไรผมเฮียก็ยังไม่ช่วยกันมันออกไปห่างๆเลย เซ็ง!
ผมมองแก้วที่มีนมเหลือไม่ถึงครึ่ง ห้องครัวเงียบลงมากเพราะเฮียไปแปรงฟันแล้ว เหลือแต่คนที่ไม่พูดกันแค่สองคน ทายซิใครเอ่ย? อ้าว...ไม่ตลกเหรอมุกนี้ - -
“เสร็จยัง?”คำพูดแรกที่เราคุยกันในเช้านี้ไม่ใช่คำทักทายครับ ไม่แปลกๆ ลองได้พูดอะไรเพราะๆขึ้นมาสิฟ้าจะถล่มเอา “เร็วๆ พี่รีบ”
“รีบก็ไปก่อนเดะ”ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ นมที่เหลือทีแรกก็ว่าจะเททิ้ง แต่เปลี่ยนใจละ...กินต่อกวนตีนไอ้พี่เนมอีกนิดละกัน
ผมค่อยๆยืนละเลียดนมที่เหลืออยู่ข้างซิงค์ล้างจาน หางตาเหลือบมองพี่เนมที่เริ่มยกมือขึ้นกอดอกเป็นสัญญาณว่าเขาเริ่มจะใกล้ถึงจุดเดือด...แต่ก็ช่างสิ ผมไม่สนหรอก ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว มันจะทำอะไรผมอีกล่ะ หึๆ...
อยู่ๆแก้วนมก็ถูกฉวยไปจากมือ มันกระฉอกเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับหกเพราะเหลือไม่มากแล้ว ผมหันขวับไปมองคนที่แย่งแก้วไปจากผมหน้าตาเฉยอย่างโกรธๆ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรพี่เนมก็กระดกนมที่เหลืออยู่ไม่มากเข้าปาก มืออีกข้างที่ว่างอยู่กระชากแขนผมอย่างกะทันหัน ผมที่กำลังตกใจอยู่เลยเซเข้าไปใกล้ แล้วเขาก็ประกบปากลงมา
รสชาติหวานอ่อนๆของนมกระจายไปทั่วปาก หวานติดปลายลิ้นแปลกๆไม่เหมือนกับที่กินเองทั้งที่มันก็มาจากแก้วใบเดียวกัน ผมอึ้งจนเกือบสำลัก แต่พี่เนมก็ยังไม่ยอมถอนปากออกจนผมเผลอกลืนที่เขาป้อนให้เข้าคอไปจนหมด
“แค่ก! แค่ก!”ผมผลักอกหนาออกเบาๆ บ้าบัดซบ...หกเลอะเทอะไปหมดเลย “ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย!?”
“เห็นกินช้า พี่ก็เลยช่วยให้เร็วขึ้น”
ตอบได้หน้าตายมาก น่าฆ่าให้ตายด้วย!!
ผมทำหน้าบึ้ง เมื่อกี้พี่เนมเล่นกระดกรวดเดียวหมดแก้วผมเลยไม่มีอะไรจะแกล้งกวนตีนมันต่อ ผมเปิดก๊อกบ้วนปาก และในใจก็คิดว่าดี...จะได้ล้างจูบไอ้คนบ้านี่ออกไปด้วย
“เร็วๆ”เร่งสั้นๆแค่นี้แล้วเขาก็ลากแขนผมให้เดินตาม ผมเลยต้องรีบลนลานปิดก๊อกก่อนที่จะโดนลากไปไกลเกินจนปิดไม่ถึง เฮ้ย ผมไม่ได้อ่อนแอบอบบางอะไรเลยนะ แต่ไอ้พี่เนมต่างหากที่ถึก แก้วก็ยังไม่ได้ล้าง มันจะรีบไปตายที่ไหนวะเนี่ยยยยยย!!?
ผมส่งหมวกกันน็อคคืนให้คนที่อุตส่าห์มาส่ง ยังหงุดหงิดไม่หายทั้งเรื่องที่มันทำผมอายต่อหน้าเฮีย เรื่องที่มันขโมยจูบผมแต่เช้า แล้วก็เรื่องที่มันลากผมออกจากบ้านแต่ไก่โห่
โห่ไม่โห่ล่ะ พี่เนมแม่งตีนผี...ซิ่งรวดเดียวถึงโรงเรียนผมตั้งแต่หกโมงครึ่ง น่าหงุดหงิดที่สุด!
“ขอบคุณ”ผมพูดห้วนๆ ไม่มองหน้าคนมาส่ง หมั่นไส้ก็จริงอยู่แต่เขาอุตส่าห์เปลืองน้ำมันขับมา จะไม่ขอบคุณเลยก็กระไร(แต่ผมไม่ได้ขอไง!!)
พี่เนมพยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไร เขาทำท่าจะขับรถออกไป แต่แล้วมือถือผมก็ดังขึ้นมา ไอ้ที่จะขับออกไปเลยพลอยหยุดด้วย ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้า และพอเห็นชื่อ...ผมก็เผลอเหลือบมองคนตรงหน้าแวบหนึ่ง
ง่า...พี่โซอีกแล้วว่ะ...
จำพี่โซได้มั้ยครับ รุ่นพี่ที่แต่ก่อนเคยมารับผมที่บ้านตอนเช้าบ่อยๆไง แล้วก็ไอ้คนที่เคยโทรมาตอนผมกับพี่เนมอยู่ในแม็คและก็ทำผมซวยโดนโยนซิมลงน้ำด้วยฝีมือไอ้คนขี้โมโหตรงหน้า(แม่งกว่าจะไปกู้ข้อมูลกลับมาได้ผมลำบากแทบตาย ฟัคแดมไอ้พี่เนม - - ) ช่วงนี้เขาเงียบหายไปเพราะผมออกจากบ้านเร็วกว่าเขาตลอด(เพราะพี่เนมลากออกมา) แถมม.4 ก็ยุ่งๆเรื่องงานกันอยู่ เขาเลยเลิกมาวอแวกับผมชั่วคราว
แต่ตอนนี้...มันกลับมาแล้ววววววว และก็มีลางว่าจะเอาความซวยมาให้ผมซะด้วยสิ...
“ใคร”คำถามสั้นๆ แต่มองหน้าคนถามแล้วรู้เลยว่าถ้าตอบไม่สวย ซิมมือถือผมคงไม่ใช่แค่ลงน้ำเหมือนวันนั้น แต่คงเป็นลงไปบนถนนให้สิบล้อบี้แน่
“พี่โซ”กล้าถามผมก็กล้าตอบ ตอบตรงๆดีกว่าโกหกเพราะถ้าไอ้พี่เนมเกิดฉลาดจับได้ทีหลังงานนี้ล่ะเป็นตายเท่ากัน
ผิดคาดไปโขที่ไอ้พี่เนมแบมือเป็นเชิงขอโทรศัพท์ ทั้งที่ผมนึกว่าปฏิกิริยาแรกจะเป็นอาการโมโหแล้วบอกให้ผมตัดสายเหมือนทุกทีซะอีก
ผมชั่งใจมองหน้าคนขอ ไม่ใช่ว่ามันจะเอาไปโยนลงถนนทั้งเครื่องนะ(ยังระแวงไม่เลิก)
“ขอคุยหน่อย แค่คุย”
ผมมองสบตาพี่เนม พยายามอ่านแววตาเขา “แน่นะ?”
ปากถามแค่พอเป็นพิธีเพราะมือดันยื่นส่งไปให้แล้ว ไม่อยากขัดใจไอ้พี่เนมเท่าไหร่ ไม่ได้กลัวนะ เปล่า! แค่ขี้เกียจมีเรื่อง...
“อย่าไปหาเรื่องเขาล่ะ”ผมกำชับ และพี่เนมก็เลิกคิ้วตอบด้วยสีหน้าที่...แลดูกวนตีนพิลึก
“แค่ทักทายเฉยๆ”
ผมมองคนที่บอกว่าแค่จะทักทายด้วยความรู้สึกไม่ค่อยเชื่อถือนัก แต่คิดอีกทีก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ยังไงพี่เนมกับพี่โซก็เคยเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน...
“ยุ่งกับเมียชาวบ้านอยู่ได้ ไม่มีปัญญาหาเอาเองรึไง”
ผมแทบตาถลน ไอ้คำพูดแบบนี้ที่บ้านพี่เรียกทักทายเหรอฟระ!!! “พี่เนม...!”
ผมพูดไปได้สองคำดวงตาคมกริบที่ตวัดฉับมาก็เขียนชัดว่าถ้าไม่หุบปากหลังวางหูเราได้มีเรื่องกันแน่ ผมกัดฟันกรอด ไม่ได้กลัวไอ้พี่บ้านี่นะ ไม่เลยสักกะนิด บอกแล้วไงว่าแค่ไม่อยากมีเรื่อง!
“เออ กูเนม”
“...”
“ช่างหัวมึงเถอะ”
“...”
“แล้วไง”
“...”
“เสือก แล้วถ้ามึงยังยุ่งอีกนะ...”
“...”
“กูทำได้มากกว่าที่มึงพูดอีก จำเอาไว้”
จบ จบจริงๆ พี่เนมพูดอยู่แค่ไม่กี่คำก็วาง แถมแต่ละคำนี่ตาพี่เนมก็พูดได้อย่างหน้าตาเฉย เฉยมากถึงมากที่สุด ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเขาคุยอะไรและปลายสายตอบอะไรกลับมา แต่เท่าที่ฟังดู...เอ่อ...ไม่น่าใช่เรื่องดีว่ะ
พี่เนมส่งโทรศัพท์คืนผม สีหน้าเป็นปรกติเหมือนเมื่อกี้ตัวเองไม่ได้ขู่ฆ่าใครอย่างที่ผมได้ยิน
“คุยอะไรกัน?”ผมลองถามดู แต่ไม่คิดว่าจะได้คำตอบหรอก
“เข้าโรงเรียนไป”แล้วก็ไม่ได้จริงๆซะด้วย มิน่าช่วงนี้ฝันให้เลขแม่ไม่ค่อยแม่น มาแม่นกับไอ้เรื่องพรรค์นี้แทน(ไม่เกี่ยว) “เย็นนี้พี่จะมารับนะ”
ผมนิ่ง ไม่ทันได้พยักหน้าหรือตอบรับอีกฝ่ายก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปแล้ว ผมกลอกตามองฟ้า ตอบกับไม่ตอบก็มีค่าเท่ากันเพราะยังไงผลก็คือผมต้องรอ ไม่งั้นได้มีเฮอร์ริเคนตามไปถล่มถึงที่แน่(บอกอีกรอบก็ได้ว่าผมไม่ได้กลัว ผมแค่ไม่อยากมีเรื่องงงงงง)
ผมเดินเข้าโรงเรียนและไปสนามบาสตามปกติ น้องม.1ม.2 ที่เห็นผมก็พากันยกมือไหว้ ผมรับไหว้น้องแต่ละคนและไหว้พวกม.ปลายที่เดินผ่านไปด้วย มันติดเป็นนิสัยอ่ะ แต่พอเข้าไปในห้องชมรม ยังไม่ทันเปลี่ยนเสื้อพี่โซก็พุ่งมาหา
“น้องวี!”หน้าตาเขาตื่นมากเหมือนเพิ่งไปเจอผีมาหมาดๆ...แต่ผมว่าไม่ได้เจอตรงๆหรอก คงเป็นเจอทางโทรศัพท์มากกว่า เหอๆ “เมื่อกี้พี่โทรหาน้องวี...”
เออ รู้แล้วครับ ก็ยืนฟังอยู่ข้างๆ...ข้างผีที่พี่คุยด้วยอ่ะแหละ “ครับ?”
“แล้ว...เอ่อ...”พี่โซดูอึกอักเหมือนเกรงใจที่จะถามต่อ “...ใคร...รับเหรอครับ...”
ผมกลอกตามองเพดานห้องชมรมแล้วระบายลมหายใจแบบเซ็งโลก...สาบาน วันหลังผมจะไม่ให้ไอ้พี่เนมรับโทรศัพท์ผมอีกแล้ว แม่งเชื่อไม่ได้ ปากบอกทักทายแต่เสือกไปหาเรื่องเขาซะงั้น
“เนมใช่ไหม?”ผมยังไม่ทันตอบไอ้พี่โซก็ตอบเองเสร็จสรรพ ผมเลยมองตอบเป็นเชิงถามว่า...ถ้ารู้แล้วจะถามเพื่อ? “น้องวีคบอยู่กับเนมเหรอ เนมคนนั้นใช่มั้ย”
ก็มีอยู่เนมเดียวแหละคร้าบ เกิดชีวิตนี้เจอคนชื่อเนมบ่อยๆผมก็ได้หัวใจวายตายวันละร้อยแปดรอบพอดี ทุกวันนี้แค่เนมนี้เนมเดียวก็ทำเอาปวดหัวจี๊ดแล้ว
“น้องวี ไอ้เนมมันทำอะไรน้องวีรึเปล่า เป็นอะไรตรงไหนมั้ย”อยู่ๆพี่โซก็ถามแปลก ผมเลยได้แต่ทำหน้างง
“อะไร ทำอะไรเหรอครับ”
“ก็...”เขาดูอึกอักไป “ไอ้เนมมันบอกว่า...เอ่อ...คือ...คือพี่เป็นฝ่ายไปถามมันก่อนอ่ะว่ามันบังคับอะไรวีหรือเปล่า”
ผมตาโต เรื่องนี้รึเปล่าวะที่ผมได้ยินไอ้พี่เนมมันตอบว่า ‘กูทำได้มากกว่าที่มึงพูดอีก’ ซึ่งถ้าใช่ก็...บรรลัยแล้วไง!!
พี่โซถามผมแล้วก็หน้าแดงเอง ผมมองอาการนั้นแล้วก็รู้ทันทีเลยว่าไอ้ ‘บังคับ’ ของพี่โซน่ะหมายถึงเรื่องไหนเพราะผมเองก็ใช่ว่าจะใสซื่อบริสุทธิ์อะไรขนาดนั้น เคยรึก็เคยแล้ว แต่ไอ้ครั้นจะมา...เอ่อ...ป่าวประกาศ...มันก็...
“น้องวี...จริงรึเปล่าที่ไอ้เนมมันบอกว่าน้องวีเป็น...เอ่อ...เป็น...”
ผมกุมขมับ ถึงพี่โซไม่พูดออกมาผมก็รู้ว่าคำที่เขาเซ็นเซอร์เอาไว้คืออะไร โอ๊ยแม่งบรรลัยตายห่าจริง ผมล่ะอยากมุดเข้าไปในล็อกเกอร์เก็บของ จะได้ไม่ต้องออกมาเจอหน้าใครในโลกอีก
“เอ่อ...ผมว่าเรารีบไปซ้อมกันดีกว่านะครับ”ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าใครเป็นผัวใครเมียใคร โดยเฉพาะเรื่องที่ใกล้ตัวและเข้าตัวโคตรนี่ยิ่งต้องเก็บ!!
อีกฝ่ายไม่ได้ว่าอะไรหรือไม่ก็ไม่ทันคิดคำพูดต่อก็ไม่รู้ ผมรีบชิ่งไปเปลี่ยนเสื้อเตรียมซ้อม พอดีกับที่น้องม.1 ที่เพิ่งเข้ามาในห้องมายกมือไหว้พอดี
“หวัดดีครับพี่วี”
ผมยิ้มตอบและรับไหว้น้องเป้ น้องตัวเล็กๆคนนี้เพิ่งจะมาเข้าชมรมตอนต้นปี แล้วก็เป็นคนเดียวกับที่ผมเอาเสื้อฟอร์มเก่าของพี่เนมไปให้ สงสัยน้องเขาคงซาบซึ้งเลยติดผมแจ แถมผมยังเป็นพี่เลี้ยงให้เป้ด้วยเราเลยค่อนข้างสนิทกัน
“เป็นไงเป้ ซ้อมชู้ตถึงไหนแล้ว”เป้มันเก่งพอตัว ถึงจะตัวเล็กแต่ก็เร็วมากแถมยังชู้ตค่อนข้างโอเค จากปากคำของเฮียโอ๊ตกัปตันทีมปัจจุบัน...นี่ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่เขาบอกว่าเป้คล้ายผมตอนมาเข้าชมรมใหม่ๆมาก
“ดีครับ พี่ๆหลายคนก็ช่วยสอนเป้ เป้เองก็กำลังพยายามอยู่ นี่ก็กลับไปเล่นกับพี่ที่บ้านด้วยนะ”
ผมฟังน้องเล่าด้วยความรู้สึกสบายใจขึ้น ต้องนับว่าเป้ช่วยชีวิตผม เพราะมันเข้ามาชวนคุยพี่โซเลยต้องถอยออกไปตามระเบียบ เพราะถึงจะอยากรู้แค่ไหนแต่พี่แกก็คงไม่บ้าเหมือนตาพี่เนมแล้วเข้ามาถามเรื่องนี้ให้น้องมันมองผมแปลกๆหรอก
“เอ๊ะพี่วี ที่คอพี่วีมีรอยอะไรอ่ะ?”อยู่ๆเป้ก็ถามแล้วชี้ที่คอตัวเอง ทำเอาผมสะดุ้งเผลอยกมือขึ้นคลำ คือเสื้อทีมบาสมันเป็นเสื้อแขนกุดแถมคอก็กว้างไง ตายห่าแล้ว รอยสมัยไหนเนี่ย! “ที่ไหล่กะที่ไหปลาร้าก็ด้วย...พี่วีนอนกะแฟนมาเหรอ?”
เฮ้ยยยยยย มาถามอะไรเรทสิบแปดแถวนี้วะน้อง แถมถามได้หน้าตาเฉยจนน่าจับไปแท็กทีมกับไอ้พี่เนมเมื่อเช้าจริงๆ เห็นน้องเป้แม่งหน้าซื่อๆตาใสๆไม่นึกว่าจะพูดอะไรได้หน้าตายขนาดนี้ โอ๊ยยยยย ฟังแล้วอายแทนเด็กมันว่ะ
“พี่วีๆ ตอนมีอะไรกะแฟนรู้สึกยังไงอ่ะ มันเจ็บมั้ย เห็นเขาบอกว่าเจ็บ เจ็บจริงรึเปล่า”
ผมเริ่มเปลี่ยนใจเป็นอยากวิ่งหนีไอ้น้องเป้ขึ้นมาแล้ว เพิ่งจะขอบคุณไปหยกๆดันเสือกมาก่อกวนชีวิตผมด้วยคำถามห่าอะไรเนี่ย อายเว้ยยยยยย!!
“พี่วี แล้วตอนใส่เข้าไปมันเจ็บรึเปล่า...”
“โว้ยยยยยยยย ไม่รู้!!”
ฮืออออออ ไอ้พี่เนมบ้า ไอ้ห่าพี่เนม ไอ้พี่เล๊วววววววว!!
ผมทำหน้าเซ็ง สงสัยจะอยู่ใกล้ไอ้น้องเป้นานเกินไม่ได้แล้ว เห็นซื่อๆไม่คิดว่ามันจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องพรรค์นี้ ผมน่ะไม่เคยอยากรู้หรอกนะ แต่ดันถูกยัดเยียดให้รู้!!(หัวเราะเสียดสีตัวเอง)
รอไม่นานหลังชมรมเลิกไอ้คนที่บอกจะมาก็มาได้ตรงเวลาเป๊ะ ผมถึงกับพูดไม่ออกตอนที่มอเตอร์ไซค์ของพี่เนมมาจอดตรงหน้าและรุ่นพี่รุ่นน้องที่ยังกลับไม่หมดก็เห็นกันครึ่งค่อนชมรม นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เนมมารับผมหรอก แต่เขามักจะใส่หมวกกันน็อคคนอื่นๆก็เลยไม่เห็นหน้า ทุกครั้งเวลามีคนถามผมก็เลยโมเมไปว่านั่นพี่ชาย
ไม่ถึงกับโมเมมากนะเพราะผมก็มีพี่ชายจริงๆ เพียงแต่เฮียวาขี่มอไซค์ไม่เป็นก็เท่านั้นเอ๊งงง
แต่วันนี้ผมคงดวงตกว่ะ...
“อ๊ะ คุณพี่ชายของพี่วีมารับแล้วล่ะ”ไอ้น้องเป้ จะเสียงดังหาสวรรค์เหรอวะ เสียงมันแม้จะไม่ได้ดังเว่อร์แต่สนามที่ค่อนข้างโล่งเพราะฝั่งนี้มีแต่ชมรมบาสก็ทำให้เสียงมันดังพอควร
ผมไม่ได้หันไปมองสีหน้าของ ‘พี่ชาย’ หรือเอาตรงๆก็คือ...ไม่กล้าหัน
“พี่ไปเป็นพี่ชายวีตั้งแต่เมื่อไหร่?”ผมถึงกับสะดุ้งที่ได้ยินเสียงถามเรียบเย็นอันคุ้นเคย พี่เนมอุตส่าห์ลงทุนลงมาจากมอไซค์อย่างที่นานปีมีหนจะทำ ผมเหลือบมอง...ถอดหมวกออกแบบนี้ผมก็ยิ่งเห็นชัดเดะว่าหน้าพี่ตอนนี้อย่างบูดอ่ะ...ตายห่า...ผมตายแน่เลยว่ะ ตายๆๆ
“หวัดดีครับคุณพี่ชายพี่วี ผมรุ่นน้องชื่อเป้ฮะ”ไอ้ห่าเป้วิ่งมาไหว้พี่เนมอย่างนอบน้อม เอ่อ...อยากจะแก้ข่าวตอนนี้แต่ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ
พี่เนมกระตุกยิ้มเย็น เชื่อได้เลยว่านั่นไม่ใช่สัญญาณที่ดี เขาปรายตามองผมแวบหนึ่งแต่เป็นที่รู้กันว่านั่นคือเขากำลังหงุดหงิด ก็น่าอยู่...โดนบอกว่าเป็นพี่ชายทั้งที่ไม่ใช่ เป็นใครใครจะชอบ
“อืม”พี่เนมตอบรับในลำคอ มองไอ้น้องเป้แล้วมองผมต่อคล้ายกับจะถาม
ผมพยายามแก้ลำ “วีเป็นพี่เลี้ยงไอ้เป้มันน่ะ เฮียโอ๊ตยังบอกเลยว่าคล้ายวีสมัยเข้าชมรมใหม่ๆ”
ก็ชวนคุยเปลี่ยนเรื่องไปงั้น...ใครจะไปนึกล่ะว่าพี่เนมแกจะกระตุกยิ้มชวนสยองพร้อมเสียง ‘หืม’ ยาวๆในลำคอเหมือนเวลากำลังคิดอะไรชั่วๆ
“แต่เรื่องมันคงไม่เหมือนกันหรอกมั้ง”พี่เนมเปรยขึ้นมา ผมเลยสะดุ้งเพราะเข้าใจแต่ไอ้เป้ดันทำหน้างง
“อะไรอ่ะพี่วี?”
เอ่อ...ไม่กล้าบอกมันว่ะว่าผลสรุปเรื่องของผมสมัยม.1เข้าใหม่กับ ‘พี่เลี้ยง’ ของผมสุดท้ายมันลงเอยยังไง ง่า...
“ก็บอกน้องเขาไปสิ...ว่าตอนม.1วีโดนพี่เลี้ยงจีบ”พี่เนมบอกหน้าตาเฉย ไอ้น้องเป้เลยทำตาโต
“ฮ้า! จริงปะเนี่ย!”มันอึ้งได้ไม่นานก็หันมาขมวดคิ้วใส่ “ว่าแต่ คนเดียวกันหรือคนละคนกับที่พี่วีคบตอนนี้อ่ะครับ?”
เฮ้ย คำนามมันเพอร์โซนัลเกินรึเปล่าวะ ผมเริ่มนึกอยากโบกกบาลไอ้น้องเหี้ยนี่ขึ้นมาตงิดๆ กลัวคำถามมันจะทำผมซวยพิลึก
พี่เนมหันมามองเหมือนอยากรู้เช่นกันว่าผมจะตอบยังไง ไอ้กระผมรึก็ไม่อยากเสียหน้าต่อหน้ารุ่นน้องและก็ไม่อยากประกาศให้ใครๆรู้ด้วยว่าหมอนี่แท้จริงแล้วไม่ใช่พี่ชายผม ดีนะที่พี่เนมจบจากที่นี่ไปแล้วและเขาก็ออกจากชมรมไปนานแล้วด้วย ที่นี่มีแค่รุ่นเก่าๆสองสามรุ่นเท่านั้นที่รู้จักพี่เนม แต่จะให้ทู่ซี้ตอบว่าเป็นพี่ชาย...ถ้าพรุ่งนี้ศพผมไม่ไปลอยอืดอยู่ที่คลองหน้าปากซอย ผมก็คงโดนจับฆ่าหมกส้วมอยู่ในบ้านตัวเองชัวร์
“อ่า...แบบว่า...คนเดียวกัน...”ผมตอบแบบระมัดระวังสุดๆ เอาน่า ไอ้น้องเป้คงไม่รู้หรอกว่าสมัยม.1ใครเป็นพี่เลี้ยงผม...
“เหรอครับ แหม ผมล่ะอยากเจอพี่เนมคนนั้นจริง”
ไม่ต้องอยากหรอกน้อง มันยืนหัวโด่อยู่นี่....เอ๊ะ...เฮ้ยยยยยยยยยย ทำไมน้องมันรู้!!?
“ง่ะ เป้ แก”ผมพูดได้แค่นี้ก็ต้องเงียบ ถามไม่ถูก ไปไม่เป็นเลยทีเดียว
ไอ้น้องหน้าซื่อไม่เข้ากะนิสัยหัวเราะร่า “รู้ได้ไงอ่ะเหรอ ก็ถามพวกพี่ๆเอา เห็นเขาอยากเล่าเป้เลยไปนั่งฟัง ฮ่าๆๆ”
ผมกุมขมับ หมดกันชีวิตนี้...ยังดีนะที่เป้มันไม่รู้จักหน้าพี่เนมที่ว่า ไม่งั้นผมคงหมดอนาคต
“เอ่อ...เป้...พี่รีบ งั้นพี่กลับเลยละกันนะ”ผมรีบออกตัว ชิ่งดีกว่า ก่อนที่งานจะงอกมากไปกว่านี้ แค่นี้ผมก็เซ็งจนจะตายอยู่แล้ว
“ครับ งั้นพี่วี หวัดดีครับ แล้วก็พี่ชายพี่วี...”
“บอกเมื่อไหร่ว่าเป็นพี่?”อยู่ๆพี่เนมก็ถามขัดขึ้นมา ไอ้น้องเป้เลยชะงักแล้วทำหน้างง
“เอ๋...?”
“ไม่ได้เป็นพี่ แก้ไขความเข้าใจซะ”
ผมเริ่มหันซ้ายหันขวา เอาแล้วไง ไอ้พี่เนมจะทำอะไรอีก เสียวสันหลังนะเว้ยเฮ้ยยยยย
“แล้ว...แล้วถ้าไม่ใช่พี่พี่เป็นอะไรอ่ะฮะ”ไอ้น้องเป้ถามงงๆ มันไม่ได้กวนตีนแต่คงแค่อยากรู้ และไอ้พี่เนมก็เสือกกระตุกยิ้มเหี้ย(ม)...ยิ้มแบบที่ผมไม่เคยยินดีที่จะเห็นและไม่คาดหวังอยากเห็น!
“ไม่ใช่พี่...แต่เป็นสามี”
ผมอ้าปากค้าง ไอ้น้องเป้ก็อ้าปากค้าง และท่ามกลางความเงียบ อึ้ง งง ตกใจ ไอ้พี่เนมก็ฉุดแขนผมไปทางมอเตอร์ไซค์แล้วยัดหมวกกันน็อคใส่มือ ผมเลยขึ้นไปนั่งแบบมึนๆ ก่อนที่เขาจะขับฉิวออกไปทันที
กว่าผมจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เกือบถึงบ้านนั่นแหละ และที่รู้ก็คือ...ผมดันเสือกขึ้นมอไซค์ไอ้พี่เนมมาเหมือนจะยอมรับกลายๆว่าที่เขาพูดมันเป็นเรื่องจริง
บอกแล้วววววว ไอ้พี่เนมยิ้มแบบนั้นทีไรไม่เคยมีเรื่องดีๆในชีวิตผม โอ๊ย ผมเกลียดหมอนี่จริงๆเลย ทำไมฟ้าถึงต้องส่งไอ้พี่เนมกลับมาด้วยนะ!
คอยดูนะ สักวัน ฮึ่ย สักวันเหอะ...
สักวันผมจะไปทำบุญเก้าวัดล้างซวย!!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อย่าถามโนว์นะว่าทำไม side story 14 ถึงมาก่อน 13 5555+ แบบว่ามันเป็นอะไรที่อยู่ๆก็คิดถึงคู่นี้ รักกันดุเดือดเป็นปกติ โนว์ยังคุ้ยตอนธรรมดามาไม่ได้เลยเอาตอนพิเศษมาโปะกู้หน้าก่อน หวังว่าคงพอจะชดเชยให้ได้นะคะ :) (แต่ถ้าไม่ได้....นู๋ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วววววว TT^TT )
โนว์ว่าตอนนี้สบายๆกว่า side story 14 เยอะเลย แบบว่าเฮฮานิดนึงเหมือนน้องวีแกปลง ไม่ได้ดาร์กไซต์มาเอง 5555
ความคิดเห็น