คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Chapter23 : ความรักและศัตรู (NC KiHae)
Chapter23 : ความรักและศัตรู (NC KiHae)
ซองมินขับรถกลับมาถึงบ้านพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าพอดี ภายในบ้านตอนนี้เงียบสนิท ไฟด้านหน้าที่ควรจะเปิดเพื่อให้แสงสว่างกลับปิดสนิทอย่างกับว่าไม่มีคนอยู่ในบ้านเสียอย่างนั้น แต่เมื่อเดินเข้ามาประตูบ้านกลับถูกเปิดเอาไว้ทั้งที่ไฟในบ้านยังปิดอยู่
สวิทไฟถูกเปิดขึ้นเมื่อซองมินก้าวเข้ามาภายในตัวบ้าน ดวงตากลมโตกวาดไปมองรอบๆก่อนจะพบกับคังอินซึ่งนั่งอยู่ที่บันไดขั้นแรก มีเลือดจำนวนหนึ่งไหลนองอยู่ที่พื้น มือของคังอินทั้งสองข้างบีบต้นขาของตนเองเอาไว้ สีหน้านั้นเรียบเฉยหากแต่มันกำลังแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
“พี่คังอิน” ร้องออกมาอย่างตกใจก่อนจะรีบถลาเข้าไปหาพี่เขยทันที ซองมินพยุงให้คังอินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะรีบวิ่งไปหาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลโดยไม่ถามซักคำว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์ทำแผลได้ซองมินก็เริ่มลงมือทำทันที ไม่รู้ว่าคังอินเสียเลือดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่มีใครอยู่บ้านเลยหรือไงคังอินถึงได้มีสภาพเป็นแบบนี้ได้ ฮีชอลหายไปไหนกัน
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วบริเวณเมื่อซองมินกรีดแผลเพื่อนำกระสุนที่ฝังอยู่ข้างในออก คังอินกัดฟันแน่น เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาบนใบหน้า หอบหายใจถี่เมื่อซองมินนำลูกกระสุนออกมาได้
“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันครับเนี่ย” หลังจากทำแผลให้คังอินเสร็จซองมินถึงได้เริ่มถาม โดนยิงแบบนี้เขาคงไม่คิดว่าคังอินทำปืนลั่นจนยิงโดนตัวเองเข้าอยู่แล้ว
“ซีวอนมันบุกมาที่นี่ แล้วพาตัวฮีชอลไป มันคงรู้เรื่องทั้งหมดแล้วถึงกล้าบุกเดี่ยวมาแบบนี้” คังอินหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตอบออกมา โชคดีที่ซองมินมา ไม่งั้นเขาคงต้องนอนรอความช่วยเหลือที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ เพราะฮโยริเองเขาก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่เช่นกัน กันโดนยิงในระยะประชิดแบบนี้มันสร้างความเจ็บปวดได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว ยังดีที่กระสุนไม่เจาะทะลุขาของเขาไป
“มันจะพาพี่ฮีชอลไปไหน” ถามออกมาเสียงเครียด ซีวอนปกติไม่ค่อยได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับโจกรุ๊ปเลย พอโผล่เข้ามาทีพวกเขาเลยไม่สามารถเดาได้เลยว่าคนๆนี้กำลังคิดจะทำอะไร
“พี่ก็ไม่รู้ หวังว่ามันคงไม่ทำอะไรฮีชอลหรอกนะ” ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง
“ผมคิดว่าซีวอนคงไม่กล้าทำอะไรพี่ฮีชอลหรอก” บอกอย่างมั่นใจ ถึงเขาจะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้อยู่ในระดับไหน แต่เขารู้ดีว่าซีวอนนั้นกำลังหลงฮีชอลอยู่
คังอินไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเพียงแค่พยักหน้าเข้าใจเท่านั้น ซองมินจึงนำอุปกรณ์ทำแผลต่างๆไปเก็บที่เดิม ก่อนจะกลับมานั่งที่โซฟาตัวตรงข้ามกับคังอิน
“พี่ครับ ผมคิดว่าตอนนี้เราควรจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับฮยอนจินซักที เพราะพวกมันเองก็กำลังวางแผนจะจัดการเราเช่นกัน” ซองมินบอกสีหน้าเครียด สิ่งที่เขาได้ยินมาวันนี้มันกระตุ้นให้เขาต้องเริ่มเอาจริงมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่เล่นกับพวกชั้นต่ำเท่านั้น
“พี่เองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ดีไม่ดีไอ้ซีวอนมันอาจจะกลับเข้ามาช่วยโจกรุ๊ปก็เป็นได้” จากเหตุการณ์ที่ซีวอนบุกมาหมายจะฆ่าเขาถึงบ้านวันนี้ มันคงบอกได้อย่างดีว่าซีวอนกำลังจะหวนกลับเข้ามาเป็นหนึ่งในโจกรุ๊ป แม่โดนทำร้ายขนาดนั้นคนเป็นลูกคนทนอยู่เฉยๆไม่ได้อยู่แล้ว
“เอาเป็นว่าน้าฮโยริกลับมาเมื่อไหร่เราคงต้องมาวางแผนกันอีกรอบ” เมื่อสรุปกันได้ซองมินจึงช่วยพยุงคังอินขึ้นไปพักบนห้อง ก่อนจะลงมาเตรียมอาหารและยาขึ้นไปให้
เนื่องจากฉากนี้มีเนื้อหาไม่เหมาะสม
เพราะฉะนั้นให้หาลิงค์อ่านบนShoutBoxจ้า
แสงแดดอ่อนๆสาดส่องเข้ามาภายในห้องพักของโรงพยาบาลบ่งบอกว่าเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่แล้ว คนตัวเล็กที่เผลอหลับไปลืมตาขึ้นมาช้าๆ ก้มลงมองนาฬิกาก่อนจะเงยขึ้นไปมองบุคคลที่นอนอยู่บนเตียง รอยยิ้มบางเผยออกมาเมื่อเห็นว่าเยซองยังคงหลับสบายดี ก่อนที่เรียวอุกจะลุกเดินไปปิดผ้าม่านกันแสงแดดที่ส่องเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอ” แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวกลับมาถึงเตียงเสียงของคนที่แสนเป็นห่วงก็ดังขึ้นมา เรียวอุกชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรีบจ้ำไปที่ข้างเตียงก็พบกับเยซองนอนทำหน้านิ่งอยู่ คนตัวเล็กยิ้มด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด
“พี่ฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ให้ผมเรียกหมอมั้ย” คำถามถูกรัวออกมาจนเยซองไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดีเลยเลือกที่จะไม่พูดอะไรซะ
ความจริงแล้วเยซองตื่นก่อนเรียวอุกได้ซักพักแล้วแต่เห็นคนตัวเล็กยังหลับอยู่เลยไม่อยากกวน จึงใช้เวลาช่วงเช้าที่แสนสงบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สงสัยพระเจ้าคงไม่อยากรับเขาไปอยู่ด้วยถึงยังปล่อยให้เขามีชีวิตรอดแบบนี้ ทั้งที่คิดว่าไม่น่าจะมีใครเข้ามาช่วยเขาได้ทัน แต่คงเป็นเรียวอุกนี่สินะที่พาเขามาส่งโรงพยาบาล
“ทำไมไม่ตอบล่ะครับ พี่เป็นอะไรมากหรือเปล่า” จากท่าทางรนๆในทีแรกเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูเป็นห่วงอย่างมาก
“เปล่าหรอก พี่ไม่เป็นไร” ตอบกลับไปแบบนั้นเพราะไม่อยากเห็นเรียวอุกแสดงท่าทางเป็นห่วงตนเองขนาดนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วตอนนี้เขารู้สึกปวดแผลที่ข้อมือเป็นอย่างมาก คำพูดที่เยซองใช้นั้นกลับมาเหมือนช่วงแรกที่ทั้งสองได้เจอกัน คำว่าพี่ที่เยซองใช้แทนตัวเองนานเท่าไหร่แล้วที่เรียวอุกไม่ได้ยินมัน
“เรียกหมอมั้ยครับ” แต่ถึงอย่างนั้นเรียวอุกก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดี แต่เยซองกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ต้องหรอก” เมื่อเยซองบอกแบบนี้เรียวอุกจึงนั่งลงที่ข้างเตียงดังเดิม
“ผมดีใจมากเลยนะครับที่พี่ปลอดภัย” เงียบไปได้ซักพักเรียวอุกจึงเริ่มชวนคุยเพราะไม่อยากให้บรรยากาศมันดูน่าอึดอัดจนเกินไป อยากให้เยซองกลับมาคุยกับเขาเหมือนเดิม
เยซองไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่เรียวอุกก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ไม่ด่าว่าเขา แค่เยซองยอมรับฟังคำพูดของเขาก็เพียงพอแล้ว
“จะเป็นอะไรมั้ยครับ ถ้าผมจะบอกว่า ผมรักพี่” คำสารภาพแบบดื้อๆของเรียวอุกทำเอาเยซองหันขวับมามองแทบจะในทันที และก็พบกับรอยยิ้มของคนตัวเล็กที่มอบให้เขาอย่างจริงใจ เรียวอุกไม่ได้ต้องการให้เยซองตอบตกลงความรู้สึกของเขา แค่อยากให้เยซองรับรู้ไว้เท่านั้น
“ทุกอย่างที่ผมปฏิบัติกับพี่ มันไม่ใช่ความสงสาร แต่มันคือความเป็นห่วง ผมทำเพราะผมต้องการจะทำ ไม่ใช่เพราะหน้าที่ที่ต้องดูแล”
“หยุดพูดเถอะ” ความจริงแล้วเยซองนั้นต้องการจะตะคอกใส่แต่คงเป็นเพราะร่างกายที่อ่อนแอทำให้คำพูดนั้นเหมือนเป็นการขอร้องเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ได้ผล เรียวอุกหยุดพูดไปในทันที สีหน้าของคนตัวเล็กดูสลดลงไม่มีความมั่นใจเหมือนก่อนหน้านี้
“ผมไม่ขอให้พี่มารักผมตอบหรอกครับ ผมแค่อยากให้พี่ได้รับรู้ความรู้สึกของผมเท่านั้น อยากให้รู้ว่าผมไม่อยากจะทำเรื่องบ้าๆแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ผมไม่อยากจะยุ่งกับครอบครัวลีอีกต่อไปแล้ว” เรียวอุกพูดออกมาเสียงอ่อย คำพูดที่เหมือนคนที่กำลังจะทรยศผู้มีพระคุณ ทั้งๆที่ครอบครัวลีรับอุปการะเขามาเลี้ยงดู แต่เพราะเขาไม่อยากทนอยู่กับครอบครัวที่มีแต่ความแค้นแบบนี้ มันไม่มีความสุขเลยซักนิด
ถึงจะพูดอะไรออกมาเยซองก็ยังคงนิ่งเฉย เขาไม่อยากออกความเห็นใดๆทั้งสิ้น ถึงจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเรียวอุกที่พูดแบบนี้ออกมา แต่ถ้าเป็นตัวเขาเอง อยู่แล้วไม่มีความสุขเขาก็คงไม่ทนอยู่ที่นั่น
“ผมสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับครอบครัวลีอีกแล้ว” พูดออกมาด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย ถึงจะเป็นคนทรยศเขาก็จะยอม
“มาพูดกับพี่มันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก” จริงอย่างที่เยซองว่า ถึงเรียวอุกจะพร่ำเพ้อให้ตายเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี
“พี่ครับ เราหนีไปอยู่ด้วยกันเถอะครับ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ จะได้ไม่ต้องมาเจอกับเรื่องบ้าๆนี่อีก” เหมือนจะหมดหนทางเรียวอุกจึงเสนอทางนี้ออกมา หนี คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“ถ้านายจะหนีพี่คงไปกับนายไม่ได้” เยซองปฏิเสธออกมาทันทีไม่ต้องคิดให้เสียเวลา คงเพราะเรียวอุกยังเด็กจึงคิดที่จะหนีปัญหาแบบนี้ แต่เขาคงจะทิ้งโจกรุ๊ปไปไม่ได้
“ทำไมล่ะครับ” ถามออกมาเสียงสั่น ทั้งที่คิดว่าทางนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว แต่ทำไมเยซองถึงเลือกที่จะอยู่เผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อแต่กลับต้องมารับชะตากรรมแทน ทั้งที่โดนครอบครัวลีทำขนาดนี้ยังเลือกที่จะอยู่กับโจกรุ๊ปอีกงั้นเหรอ
“ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหนี” คำตอบของเยซองทำเอาเรียวอุกนิ่งอึ้งไป ใบหน้าของคนตัวเล็กตอนนี้ดูแย่เต็มทีเมื่อต้องพบกับความผิดหวัง
“แล้วผมควรจะทำยังไง” เอ่ยถามออกมาเสียงสั่น เรียวอุกตัดสินใจไม่ถูกอีกแล้วว่าควรจะทำอะไรดีต่อจากนี้
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น กลับไปที่ของนายซะเรียวอุก” อีกครั้งที่คำตอบของเยซองทำให้เรียวอุกผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่เขาก็คงโทษใครไม่ได้ น้ำตารื้นขึ้นมาทันทีเมื่อเยซองพูดจบ กลับไปที่ของเขางั้นเหรอ กลับไปในที่ที่เขาไม่มีความสุขเลยตั้งแต่ที่การแก้แค้นบ้าๆนี่เริ่มขึ้น
“ก็ได้ครับ แล้วผมจะทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบเอง” บอกอย่างเข้าใจก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาคงต้องออกไปทำใจเรื่องนี้ซักพัก ส่วนที่บอกจะว่าทำให้เรื่องจบนั้นเขาทำได้แน่
เรียวอุกลุกขึ้นเดินไปที่ประตูทันทีเมื่อพูดจบ เยซองเองก็ไม่ได้รั้งหรือเรียกร้องอะไรไว้ เขาคงต้องปล่อยให้เรียวอุกได้กลับไปใช้ความคิด เขารู้ว่าเด็กคนนี้เป็นคนฉลาด ต้องหาทางออกของเรื่องได้ดีกว่านี้แน่
ยังไม่ทันที่เรียวอุกจะได้เอื้อมมือไปจับลูกบิด แต่ประตูห้องกลับถูกออกเสียก่อน คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองผู้มาเยือนก่อนจะต้องเบิกตากว้าง คนที่รู้ว่าเยซองพักอยู่ที่ห้องนี้และควรมาเยี่ยมได้ควรจะเป็นซองมินนี่นา แต่นี่มัน
“คยูฮยอน!” เรียวอุกและเยซองพุดขึ้นมาพร้อมกัน ด้านคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่เองก็ดูจะแปลกใจไม่น้อยเลยที่เห็นเยซองนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
“พี่เยซอง” เรียกชื่อของคนที่เขาไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ได้ออกมา คยูฮยอนเผยยิ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อรู้ว่าเรื่องที่เขาได้ยินพยาบาลคุยกันนั้นเป็นเรื่องจริง เรื่องที่มีคนไข้หนุ่มหล่อนามว่าคิมจองอุนพักอยู่ที่ห้องนี้ เขาเองก็ไม่คิดว่าจะใช่เยซอง เพราะชื่อคนในเกาหลีมีซ้ำกันเป็นร้อยเป็นพันคน แต่เขาก็เลือกที่จะลองเข้ามาดูให้รู้ว่าใช่เยซองจริงมั้ย
จากที่คิดว่าจะออกไปข้างนอกเรียวอุกกลับต้องเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งด้วยท่าทางที่ดูเกร็งไม่น้อย เพราะตอนนี้โจกรุ๊ปคงรู้หมดแล้วว่าคนในครอบครัวลีมีใครบ้าง ทำให้เขาไม่แน่ใจว่าคยูฮยอนจะจำเขาได้มั้ย
“พี่มาอยู่ที่นี่ได้ไงครับ แล้วเป็นยังไงบ้าง” คยูฮยอนเข้าไปหาเยซองที่ข้างเตียงเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ดีใจไม่น้อยเลยที่เยซองหนีรอดออกมาได้และยังปลอดภัยดี
“ผมหนีออกมาครับ หลังจากที่ช่วยพี่อีทึกหนีออกมาได้” เยซองโกหกออกไปเพราะไม่อยากให้คยูอยอนต้องเป็นกังวลมากนัก ถ้าบอกไปว่าเขากรีดข้อมือตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายแล้วโดนหามมาส่งโรงพยาบาลแบบนี้คงโดนบ่นหูชาเป็นแน่
“แล้วผู้ชายคนนี้ล่ะครับ” เพยิดหน้าไปทางเรียวอุกที่ยืนอยู่ คนตัวเล็กก้มหน้านิ่งเพราะไม่อยากให้คยูฮยอนเห็นหน้าชัดๆ
“เขาเป็นคนพาผมมาส่งโรงพยาบาลน่ะครับ” เยซองโกหกออกไปอีกครั้ง เมื่อเรียวอุกได้ฟังแบบนี้จึงเงยหน้าขึ้นมามองทันที เขาจำได้ว่าวันนั้นที่โจกรุ๊ปบุกไปที่บ้านลี คยูฮยอนไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย และคยูฮยอนเองก็คงยังไม่เคยเจอเรียวอุกแน่ เพราะตัวเขาก็ยังถ่ายรูปคนตัวเล็กนี่ไม่ได้
“งั้นเหรอครับ....ขอบคุณมากเลยนะครับ” คยูฮยอนหันไปก้มหัวให้เรียวอุกจนอีกคนแทบจะตั้งตัวไม่ทันแล้วก้มหัวให้
เรียวอุกหันไปมองเยซองด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเข้าใจนักแต่ในใจกลับรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก อย่างกับว่าเยซองอยากจะปกป้องเขา ถึงแม้จะคิดไปเองคนเดียวก็เถอะ
“พี่อยากจะคุยธุระซักหน่อย นายช่วย....”
“ครับ” ยังไม่ทันที่เยซองจะได้พูดจบประโยค เรียวอุกก็เข้าใจและเดินออกจากห้องไปทันที
เมื่อเรียวอุกออกไปแล้วคยูฮยอนจึงนั่งลงที่ข้างเตียงเยซอง พยุงให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วเรื่องราวระหว่างที่เยซองหายตัวไปถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด ทั้งเรื่องที่อีทึกโดนข่มขืนนั้นเยซองเองก็ไม่ได้รับรู้ เพราะรู้เพียงแค่ว่าโดนจับตัวมาเหมือนกันเท่านั้น และเรื่องที่เยจินถูกลอบยิง
“พวกมันทำกันเกินไปแล้วจริงๆ” กำหมัดแน่นด้วยความแค้น เจ็บใจที่ตัวเองโดนจับไปแบบนั้นจนช่วยเหลืออะไรโจกรุ๊ปไม่ได้เลย
“เพราะแบบนี้พ่อผมถึงสั่งให้จัดการฆ่าคนในครอบครัวลีซะ ก่อนที่เราจะโดนฆ่าอีก แต่ผม....” พูดได้เพียงเท่านี้คยูฮยอนก็ออกอาการอ้ำอึ้งกระอึกกระอัก บอกตรงๆเลยว่าเขาไม่อยากทำ แต่เพื่อครอบครัวแล้วเขาจำเป็นต้องทำ
“เพราะซองมินใช่มั้ย คุณคยูฮยอนรักเขาใช่มั้ย” ถามสวนออกมาตามที่ตัวเองคิด เขาไม่รู้หรอกว่าคยูฮยอนจะรักซองมินจริงๆหรือเปล่า แต่จากการกระทำของทั้งคู่ที่เขาเคยเห็นมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคยูฮยอนมีใจให้ซองมินแน่
-----------------------
kr...talk
สำหรับตอนนี้ก็มีเอ็นซีอีกแล้ว ไม่รู้จะรอดพ้นหรือเปล่า
ส่วนตอนที่แล้วแจ้งปลดแบนไปแล้วนะคะ ที่เหลือก็รอ
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
ตอนต่อไปจะไม่ให้นานเกินรอ
13/04/54 อีดิทเอ็นซี
ความคิดเห็น