ตอนที่ 12 : Vampire Beauty 5: แวมไพร์สาวปะทะหนุ่มน้อยแห่งรัตติกาล [Part I]
Vampire Beauty 5: แวมไพร์สาวปะทะหนุ่มน้อยแห่งรัตติกาล [Part I]
เมื่อเจ้าเด็กแก่แดดควบม้าเข้ามาในป่า ผิวหนังข้าที่ก่อนหน้านี้ทำท่าเหมือนจะแห้งกร้านกว่าเดิมเพราะแสงแดดก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที เพราะความเย็นชุ่มชื้นจากธรรมชาติที่โอบรอบกายข้าเอาไว้ ตอนนี้ดันแคนเปลี่ยนให้ข้านั่งห้อยขาไปทางเดียวแล้ว โดยที่มือหนาโอบกอดเอวข้าเอาไว้ ก็ถือว่าดีหน่อย ไม่เช่นนั้นตัวข้าอาจจะแยกเป็นสองชิ้นเพราะแรงกระแทก
“ข้าคิดว่าเจ้าจะปล่อยให้ข้าแห้งตายอยู่กลางแดดนั่นเสียแล้ว”
“โธ่คุณยาย ตอนเป็นสาวเห็นเหมือนจะขรึมพูดน้อย แก่มาแล้วขี้บ่นจังนะครับ”
“ข้าเพิ่งจะเริ่มพูด หลังจากนั่งม้ามากับเจ้าจนหลังขดหลังแข็งตั้งนานสองนาน ยังมาหาว่าข้าขี้บ่นอีก”
“ก็หูผมมันเพิ่งจะปรับความเคยชินกับความเงียบได้นี่ครับ พอคุณยายพูดขึ้นมาแบบนี้ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะจัดประโยคคำพูดของคุณยายไว้ในหมวดไหนดี จะบอกว่า ‘หมวดออกความเห็น’ มันก็ไม่ใช่ จะจัดไว้ใน ‘หมวดคำชมเชย‘ ในน้ำเสียงก็บ่งบอกว่าตำหนิเสียจนผมผิดเต็มประตู ผมเลยต้องจัดให้อยู่ใน ‘หมวดคำบ่น‘ น่ะสิครับ”
“นอกจากจะแก่แดดไม่มีมารยาทแล้ว เจ้านี่ยังเถียงคำไม่ตกฟากอีกต่างหาก ขนาดรู้ดีอยู่แก่ใจว่าข้ามีอายุมากกว่า เจ้ายังไม่ให้ความเคารพ”
“โธ่ คุณอายุมากกว่าผมเท่าไหร่เอง” เจ้าเด็กแก่แดดหัวเราะ น้ำเสียงเริงร่าของเขายิ่งทำให้ข้าหัวเสีย
“เจ้าเป็นคนบอกเองไม่ใช่รึว่าข้าแก่พอจนเรียกเจ้าว่าเหลนของเหลนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าคนปากดี”
“ฮ่าๆ คุณยายก็ คิดเป็นจริงเป็นจังไปได้ คุณยายออกจะยังสาวและสวย”
“พูดแบบนี้เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ข้าเอี้ยวตัวกลับไปมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
“ก็หมายความอย่างที่คุณได้ยินนั่นแหละ มิสซิสบิวตี้” เด็กหนุ่มขยับยิ้มที่มุมปาก พลางเหลือบตามองตอบกลับมาอย่างเจ้าเล่ห์
“ดันแคน”
“ครับมิสซิสบิวตี้”
“เจ้าเป็นคนทำให้ข้าแก่แบบนี้ใช่ไหม” ข้าขมวดคิ้วมอง
“ทำไมคุณชอบมองดูผมในแง่ร้ายจัง”
“ก็เจ้ามันตัวร้ายน่ะสิ”
“หากสิ่งที่ผมสันนิษฐานไว้เป็นความจริง เดี๋ยวคุณยายก็จะเข้าใจเองนั่นแหละครับว่าอะไรเป็นต้นเหตุทำให้คุณยายเหี่ยวได้ขนาดนี้”
แม้ริมฝีปากคนพูดจะดูสวยมีเสน่ห์ แต่วาจาที่ปล่อยออกมาฟังแล้วขัดหูข้าชะมัด มิหนำซ้ำท่าทางเจ้าเล่ห์ทะเล้น ทะลึ่งตึงตังเกินวัยนั่นยิ่งทำให้ข้ารู้สึกขัดตา จนอยากจะบีบคอเขา แล้วสิ่งที่เจ้าเด็กบ้านี่สันนิษฐานเอาไว้มันคืออะไร มันเกี่ยวข้องกับอาการแห้งเหี่ยวก่อนเวลาอันควรของข้าใช่ไหม
“เจ้ารู้วิธีทำให้ข้ากลายเป็นสาวได้รึไง แม้ว่าข้าจะหลุดเข้ามาในยุคของเจ้านี่นะ ตอนนี้อายุข้าคงสองร้อยสิบปีได้แล้ว”
“สรุปว่าวันนั้น...คุณมาจากที่อื่นจริงๆ ด้วยสินะ ว้าว ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้” เขาทำหน้าประหลาดใจหูตาแพรวพราย
ข้านี่มันโง่จริงๆ ที่ปล่อยให้ความปรารถนาอยากหลุดพ้นจากวัยชราทำให้เผลอพลั้งปากบอกในสิ่งที่ไม่ควรพูด ยิ่งเจ้าเด็กแก่แดดตรงหน้านี่ด้วยแล้ว ยิ่งไม่สมควรจะให้รู้เลย แต่ในเมื่อข้าพูดออกไปมันก็เหมือนกับว่าตัวข้าไม่มีอะไรจะต้องเสียเปรียบอีกแล้ว เพราะท่าทางฉลาดเป็นกลดรวมกับความกะล่อนของเขา ข้าคิดว่าเขาต้องหาคำตอบเองได้อย่างแน่นอน
ส่วนข้า...ข้าผู้ไม่เคยจนตรอกหรือพลั้งปากพูดสิ่งใดให้ใครได้รู้ความคิดความอ่านแม้แต่พี่ชายข้าเอง กลับต้องเผลอพูดเกี่ยวกับตนเองให้เด็กแก่แดดนี่ฟัง ซึ่งไม่เคยมีใครทำแบบนั้นได้นอกจากสามีของข้า ท่านพี่เดเมี่ยนของข้า ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน เหตุใดท่านจึงไม่ตามหาข้า แล้วนำพาข้าไปจากที่นี่
“คุณยายครับ อย่าเพิ่งหลับสิ อีกหน่อยก็ถึงเป้าหมายแล้ว”
“ข้าไม่ได้หลับ” ข้าลืมตาขึ้นมาเห็นว่าต้นกำลังเอาหัวฟุบแผ่นอกกว้างของเจ้าเด็กแก่แดด แต่ก็ยังยืนกรานเสียงแข็งใส่เขาว่าตนไม่ได้หลับไป แม้ว่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าทุกครั้งที่ข้าเริ่มต้นนึกถึงท่านพี่เดเมี่ยน ข้ามักจะคล้อยหลับไปทุกที แต่อยู่ดีๆ จะให้ข้ามาปล่อยไก่ให้เสียหน้าต่อเด็กบ้านี่ได้อย่างไรกัน
“ถ้างั้นก็แสดงว่าที่หลับตาลงเมื่อครู่นี้ เพราะคุณยายกำลังร้องไห้อย่างเดียว” มือใหญ่ลูบใบหน้าข้าอย่างอ่อนโยน
“ข้าไม่ได้ร้องไห้ เอามือของเจ้าออกไป” ข้าปัดมือออกแล้วหัวใจของข้าก็เจ็บปวดขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
“นอกจากจะขี้งอนแล้ว คุณยายยังปากแข็งเหมือนสาวๆ เลยนะครับ โชคดีที่คุณยายไม่ชอบกรีดเสียงร้องเหมือนผู้หญิงทั่วไป ไม่เช่นนั้นผมคงหูแตกตาย”
ข้าจะเอาแรงที่ไหนมากรีดเสียงร้อง แค่จะอ้าปากพะงาบๆ ยังยากลำบากเกินไปเลย แต่เจ้าเด็กนี่ทำไมชอบเอาข้าไปเปรียบกับผู้หญิงอื่นนักนะ ต่อให้ข้าเป็นสาวจริงข้าก็ไม่มีวันทำอย่างนั้นอยู่ดี
“เจ้านี่ท่าจะรู้จักผู้หญิงมากหน้าหลายตานะ สิ่งที่หลุดออกมาจากปากเจ้าในแต่ละวันถึงต้องมีเรื่องพวกเธอมาเกี่ยวข้องด้วย ข้าอยากจะขอเตือนเจ้าให้รู้ด้วยว่า ผู้หญิงไม่ได้เหมือนกันไปทั้งหมด ที่เจ้าเห็นอาจจะไร้พิษสงไม่สามารถทำให้เจ้ารู้สึกเจ็บแสบได้ แต่ยังมีผู้หญิงอีกหลายประเภทที่ทำให้เจ้ากลายเป็นไก่อ่อนได้ทันทีหากพวกเธอคิดจะแผงฤทธิ์ขึ้นมา”
“อาทิเช่น...” เขาหรี่ตาเล็กลง
“คนตรงหน้าเจ้ายังไงล่ะ เจ้าเด็กน้อย”
“คุณทำให้ผมกลัวจนขนลุกเลย มิสซิสบิวตี้” นัยน์ตาสีม่วงอมเทาฉายแววท้าทาย “เอาเถอะครับ ถึงยังไงระหว่างนี้ผมยังเหนือกว่าคุณยายอยู่ หากผมฉวยโอกาสอะไรได้ผมจะรีบฉวยไว้ก่อน คุณยายจะได้ตามมาแก้แค้นผมภายหลัง ที่สำคัญตอนนี้เราเดินทางมาถึงที่ๆ ผมอยากจะให้คุณยายชมแล้วแหละครับ”
เขาหยุดม้าอยู่ข้างริมทะเลสาปด้วยสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มันกลับมาทะเล้นตามเดิม จากนั้นเขาก็อุ้มข้าลงจากม้า
“ถึงแม้ว่าผมจะช่วยรักษาบาดแผลภายนอกให้คุณได้ แต่พิษที่กำลังแล่นอยู่ภายในผมยังไม่สามารถคิดหาวิธีรักษาให้ได้ จนกว่าคุณจะบอกกับผมเกี่ยวกับตัวคุณเองมากกว่านี้”
“เจ้าจะไม่มีวันได้รู้จักข้าไปมากกว่าเท่าที่เจ้ารู้อยู่ทุกวันนี้”
“ดื้อจัง” สายตาเอ็นดูของเด็กหนุ่มรุ่นเหลนที่ทอดมองมาทำให้หัวใจข้าหยุดเต้นไปชั่วขณะ
“เจ้าเอาอะไรมาตัดสินว่าข้าดื้อ เจ้าเด็กสามหาว”
“ตัดสินจากสิ่งที่ผมเห็นนี่แหละครับ การกระทำของคุณไง” ไม่ว่าเปล่าเจ้าตัวก็หัวเราะ “ถอดเสื้อผ้าออกเถอะ ผมจะช่วยได้ช่วยรักษาให้อาการคุณดีขึ้นได้”
“รักษาบ้าบออะไรของเจ้า ข้าถึงต้องแก้ผ้า”
“เราต้องลงไปในทะเลสาปนั่น” เขาบอกแล้วถอดเสื้อของตัวเองออก
“เจ้าคิดจะลวนลามข้าอีกล่ะสิ เจ้าเด็กทะลึ่ง”
“โธ่คุณยาย คิดว่าผมจะมีอารมณ์อยากลวนลามคนแก่หรือครับ พูดเป็นเล่นไป”
“ทีจูบเจ้ายังจูบได้ ใครจะไปรู้ว่าในหัวเจ้าคิดอะไรอยู่”
“ผมไม่ได้จะให้คุณยายแก้ผ้าจนล่อนจ้อนสักหน่อย อุตส่าห์พกชุดบิกินี่มาให้เปลี่ยน ถ้าคุณยายอายผมก็ไปเปลี่ยนชุดอยู่หลังพุ่มไม้นั่นก็ได้ ผมไม่แอบมองหรอกครับ” เขาเปิดถุงประหลาดที่ทำจากผ้าสีเขียวตองอ่อนพร้อมส่งเศษผ้าเล็กๆ สีเหลืองมาให้ข้าสองชิ้น
“อะไรของเจ้าอีก”
“เขาเรียกว่าบิกินี่ ชุดสำหรับสวมใส่เวลาว่ายน้ำน่ะ คุณยายต้องถอดชุดออกแล้วใส่มันแทน”
“ข้าใส่ไม่เป็น” ข้าดันมือเขาออกห่าง
“งั้นเดี๋ยวผมสวมให้ก็ได้”
เขาตั้งท่าจะจับข้าแก้ผ้า ข้าจึงรีบเดินหนี แต่ไม่พ้นเพราะมือใหญ่วางหมับลงบนบ่าได้ทันการพอดีตอนที่ข้าเพิ่งหันตัวหลบได้แค่ครึ่งก้าว
“เดี๋ยวผมสอนก็ได้” เขาบอกในที่สุดพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“วิธีรักษาของเจ้านี่มันมีความจำเป็นต้องแก้ผ้ารึไง” ข้าบ่นอย่างรำคาญ คราวนี้ข้ายอมรับว่าข้าบ่นจริง
“ถ้าไม่ถอดผมก็ไม่สามารถเห็นบาดแผลบนตัวคุณได้” เขาบอกอย่างจริงจัง
“เจ้าเป็นอะไรกันแน่ ถึงสามารถรักษาแผลที่ต้นคอข้าด้วยจุมพิตนั่นได้”
“ผมเป็นหนุ่มน้อยแห่งรัตติกาลผู้วิเศษ รักษาได้ทั้งแผลกายและแผลใจ หากคุณยายกำลังมีปัญหาเรื่องหัวใจ พอกลายเป็นหญิงสาวเมื่อไหร่หนุ่มน้อยคนนี้ยินดีให้บริการรักษาโรคหัวใจให้ฟรีไม่คิดค่าบริการ”
ข้าชักงงกับสิ่งที่เขาพูด จนตีสีหน้าไม่ถูก ข้าไม่ได้เป็นโรคหัวใจจะได้ต้องการใครมารักษาให้ แต่จากท่าทางและแววตาบางทีเขาอาจจะกำลังจะจีบข้าเหมือนที่จีบเฮเลน่า อย่างเมื่อครั้งที่ข้ายังเป็นหญิงสาว หูตาเจ้าเด็กแก่แดดนี่มันยิ่งแพรวพราวนัก
“ไอ้เด็กไม่เจียมตัว”
“ถึงผมจะไม่เจียมตัว แต่ก็น่ารักนะครับ”
ข้าพ่นลมออกจมูก เจ้าเด็กแก่แดดจึงเริ่มสอนวิธีการใช้ชุดประหลาดที่เขาเรียกว่าบิกินี่
“คุณต้องสอดขาลงไปในช่องนี้” เขากางชุดออกข้าจึงเห็นว่าชุดมีด้วยกันทั้งหมดสามรูใหญ่ๆ ด้วยกัน
“ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าต้องสอดขาเข้าไปในรูไหนได้บ้าง”
“คุณยายก็ลองจินตนาการดูนะครับว่ารูใหญ่ๆ นี่มันจะรัดสะโพกคุณยายอยู่ ส่วนอีกสองรูเล็กๆ จะรัดต้นขา ส่วนผ้าที่คุณยายเห็นอยู่นี้จะปกปิดส่วนลับของคุณยาย...”
โป๊ก!
บทนี้ท่าจะยาว เพราะแค่พาร์ทแรกก็ปาไปสามหน้าแล้วค่ะ 555 ยังไม่จบบทเลย เอามาอัพให้ก่อนกันหิวกระหาย >O<
:::เจ้าชายอัศวิน
เจ้าชายอัศวิน:::
ไม่ได้แต่งหลายวันแล้ว วันนี้รีบมาปั่นใหญ่เลย TOT แต่คงไม่บ่นมาก 555 นอกจากจะบอกว่าเปลี่ยนธีมใหม่ อ๊ากก Cleev Saga ขอบคุณหนูแช แม่ยกน้องดันแคนผู้หยิบยกชื่อนี้ขึ้นมา ขอเอามาใช้แลกกับการให้ยืมดันแคนไปกอด 1 อาทิตย์ (ไม่ค่อยเลย) 555
ขอ โทษแฟนนิยายทุกท่านที่มาอัพช้าค่ะ งานหล่นทับ มีเรื่องที่โรงเรียนเยอะด้วย เมื่อวานไปเดินเล่นในป่ามาโดนเห็บกัดอีก เห็บเยอรมันอันตรายมาก TOT พิการทางสมองได้หากเจอเชื้อ น่ากลัว
ถ่ายรูปโคลเวอร์มาด้วย อื่นๆ (ต้นเหตุทำให้นาตเดินเข้าดงเห็บ 555) ถ่ายรูปนี่เอง เอาไว้จะอัพในไดอารี่แล้วจะประกาศบอกนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่รอคอยอย่างใจจดจ่อและพยายาม
ปล. สปอยล์ ดันแคนน่ารักมาก กร๊ากกก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขออนุญาตเอาเม้นท์เก่ามาเล่าใหม่อีกที เม้นท์ที่ 247
กร๊ากกกกกก
น้องดั้นของเจ้ ทะลึ่งตึงตังเหลือเกินนะลูก คนสาวในคราบคนแก่ หนูก็ไม่เว้น
และที่สำคัญ หนูเห็นเจ้คาเมรอนในสภาพสาวสวยวัยยี่สิบเอ็ดแบบทั้งวันทั้งคืนคนเดียวอีกต่างหาก
ส่วนคนอื่น ๆ จะเห็นเป็นยายแก่ชนิดหง่อมมาเชียว
ทำม๊ายยพิษของศัตรูถึงได้รุนแรงปานนั้นน้อ
ถึงขนาดสร้างภาพลวงตาให้เจ้าของร่างกับคนอื่น ๆ ได้เห็นเป็นวัน ๆ เชียว
ขำ สอนกันใส่บิกินี่นี่แหละ555
ยายโดนเด็กหลอกแล้ว O_o
ผมยัไม่สามารถคิดหาวิธี >> ยังไม่
อืม... ไม่รู้ว่าพี่นาตจะได้อ่านเม้นอะป่าว คิ้มบอกคำผิดไว้ให้นะค่ะ ถ้าได้อ่านก้ออย่าลืมแก้น้า....
ขนาดคนแก่ยังไม่เว้น
ยังไงก้อมาอัพต่อนะคะ
สู้ๆ^^
สู้ๆคร้าไรเตอร์
หนุกมากมายค่าา
มาอัพต่อเร็วๆน้าา
ดันแคนนี่ทะลึ่งไดใจจริงๆ
กระทั่งคุณยายยังไม่เว้นเลย
เขินแทนคุณยายอ่ะคะ
ตอนนี้รู้สึกดันแคนจะหื่นจัดยังไงก็ไม่รู้
พี่นาตค่ะ
ดันแคน เอิ่ม.....พูดไม่ออกบอกไม่ถูกถึงความเจ้าเล่ห์เลยอ่ะ
นี่ขนาดคนแก่นะ ยังไม่ละเว้นเลยอ่ะ
จอมเจ้าชู้ทั้งหลายคงต้องมาขอเป็นลูกศิษย์ของดันแคนแล้วล่ะ
ลื่นไหลได้ตลอดเลยจริงๆ
พี่ไม่รู้จัก 5555
มาขยายความด่วนเลย
ติดเรท "ฉ" เลยนะพี่ตอนนี้อ่ะ กร๊ากกกกกก
ดันแคนบลามกอ่ะ ไม่ใช่ทะลึ่งนะ ลามกเลยอ่ะ =.,=
แม้แต่คนแก่มันยังไม่เว้นเลย แล้วถ้ามิสซิสบิวตี้กลายเป็นสาวขึ้นมาจะเหลือไหมเนี่ย = =
ปล.ตอนนี้ปะทะคารมกันมันมากค่ะ ชอบคำนี้มากเลย "อ้ายเด็กไม่เจียมตัว" กร๊ากกกกก
ง่ะ
ดัลแคน
ทำไมเป็นคนแบบเน้
สู้ๆฮับ
คนหนึ่งได้อ่ะที่เดินเล่นชาดหาดแล้วมีคนถ่ายภาพโพสลงเน็ตด้วยอ่ะ
แบบว่าหนังหุ้มกระดูกอ่ะ....เจ้าปะคุนกลับมาสาวเร็วๆๆเถอะ
เอ่อ น้องดั้นจ๊ะ คนแก่หนูก็ไม่เว้นนะลูก ยังจะชีกอใส่ได้อีก นับถือจริง ๆ
คิดว่าสาเหตุที่บิวตี้กลายเป็นคนแก่น่าจะมาจากพิษที่บิวตี้ได้รับ
ข้อสันนิษฐานนี้ถูกมั้ยคะพี่นาต
คิดภาพคนแก่ใส่บิกินี่แล้ว อึ๊ยย..เหอๆๆ โผล่แว๊บเข้ามาในหัวเลยอ่ะ
(อยากบอกว่าเจ๊แกคิดพล็อตได้สุดยอดมากค่า..งือๆๆ คาเมรอนคนงามของช้านน หลงกล