ตอนที่ 17 : ตอน ผู้หญิงคนนี้จะถูก (แปลงโฉม) 100%
คุณเคยฟังนิทานเรื่อง หมาป่าหลงรักลูกเป็ดขี้เหร่ บ้างรึเปล่า...?
[Hannah’s Part]
วันนี้ก็เหมือนกับทุกๆวันนี้ ตื่นเช้า ให้อาหารโอเลี้ยงเสร็จก็รีบมาห้องเรียน
แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้มันแตกต่างกันแน่นะ?
ราวกับว่าสายตาของคนรอบๆตัวจะพากันมองมาที่ฉันเป็นจุดๆเดียว
รึจะเป็น...เรื่องที่ไอ้บ้านั้นทำที่โรงอาหาร!?
เสียงกระซิบกระซาบของผู้คนชายหญิงที่เริ่มเดินมาออกันเป็นกลุ่มก้อนก่อนจะมองมาทางฉันด้วยสีหน้าที่เบ้จนปากคว่ำพลางมองหางตาแบบจิกๆเต็มไปหมด แก็งค์สาวของฉันรวมทั้งเด็กหอบลูอีเกลคนอื่นๆต่างนั่งเงียบ ไม่มีทีท่าอยากจะเข้ามายุ่งด้วย ขณะที่ฉันวางเป้ลงที่นั่งเดิมๆของตนเองเหมือนกับทุกๆครั้ง น่าแปลกที่ฉันกลับสัมผัสได้ถึงความอึดอัดบางอย่างที่ก่อให้เกิดสงครามแห่งความเงียบ
ริมฝีปากบางยกยิ้มที่มุมปากอย่างเจื่อนเพื่อพยายามซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ภายใต้กรอบแว่น อาจารย์ประจำคลาสเริ่มบทเรียนเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตาจดเอกสาร ไม่ว่าจะมีกระดาษที่ปั้นเป็นลูกบอลขนาดย่อมโยนมากระแทกหัวฉันแบบแนบเนียนสักกี่ลูก ดูเหมือนว่าเด็กหอสีน้ำเงินแห่งนี้ก็ทำผ่านเลยคล้ายกับปิดหูปิดตา อีริกเองก็เพ่งความสนใจไปที่กระดานไม่ได้คัดค้านการกระทำเหล่านี้แต่อย่างใด
ทำไมนะ...มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วนี้
เราเข้ามาที่นี่เพราะต้องการคบหาเด็กหัวกะทิ เรียนดี มีวินัยด้วยตนเองแท้ๆ
แต่ทำไมนะ...ฉันกลับรู้สึกปวดหนึบที่อกเมื่อได้รู้ซึ้งของมิตรภาพที่แท้จริงของตนเอง
พรึ่บบบบบ! โป๊ะ!!!
เสียงของน้ำหนักเบากระแทกเข้าที่ข้างหูของฉันเต็มๆอีกครั้ง แม้จะหันขวับกลับไปหาต้นตอแค่ไหนสุดท้ายก็ไร้เบาะแส ร่างบางหยิบลูกบอลกระดาษของพวกคนพาลขึ้นมาก่อนจะตัดสินใจคลี่มันออก มีข้อความหยาบโลนมากมายแนบมาด้านในเต็มไปหมด
‘ หน้าด้าน!!!!! ’
‘ อัปลักษณ์! ’
‘ ยัยยาจก! ’
แม้ข้อความเหล่านี้จะไม่ส่งผลกับชีวิตหรือว่าการจบการศึกษาของฉันเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความที่ฉันมีหลักประกันคล้ายกับโซ่ตรวนที่คล้องอยู่ที่ลำคอหนาแน่นเสียขนาดนี้ โต้ตอบไปก็ไม่ได้อะไร ทำเพียงแค่ทำเป็นไม่สนใจแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้มันจบๆ เรื่องตลกร้ายมันแค่เพิ่งจะเริ่มต้น แต่ที่ตลกยิ่งไปกว่านั้นก็คือเหล่าเพื่อนมากมายที่ฉันรู้จักในหอพักนี้ทุกคนต่างสนใจแต่เรื่องของตนเองทั้งสิ้น
จะคาดหวังอะไรเหล่าฮันน่า....
ก็นี้คือแก่นแท้ของบลูอีเกล เธอเองก็รู้
ในขณะที่ฉันได้แต่ปลอบใจตนเองให้ผ่านพ้นเรื่องราวแย่ๆในวันนี้ให้ได้นั้น ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ทอดทิ้งฉันไว้เผชิญโลกอันมืดมิดนี้เพียงลำพัง กลับมีใครบางคนกล้าที่ก้าวเข้ามาหาฉันโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว ร่างสูงผมสีเอกลักษณ์ฝ่าวงขาเม้าท์จนกลุ่มก้อนนั้นทลายสิ้น เสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาหาอย่างมั่นคงโดยไม่หวั่นเลยว่านี้คือคลาสของเหล่านักเรียนที่ชั้นปีแก่ที่สุด สีหน้าคมคายหันมามองฉันก่อนจะยกยิ้มแล้วก็พยักหน้าเชิงให้ไปด้วยกันแบบเปิดเผย
“ เฮ้....ไปกินข้าวด้วยกันไหม ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบ ทำให้ฉฉันเงยหน้าขึ้นไปมองแบบตั้งใจเป็นครั้งแรก ใบหน้าคมได้รูปมีรอยแดงคล้ายฝ่ามือที่ยังคงบวมนิดๆอยู่ที่สากแก้ม
รอยที่ถูกเราตบไปนี้หน่า ยังไม่หายอีกรึไง?
แต่ว่าทำไมกันนะฉันอุตส่าห์จะอยู่ให้ได้ด้วยตัวคนเดียวแท้ๆ
แต่พอเจ้าเด็กบ้านี้เอ่ยปากชวนเท่านั้น...ใจฉันกลับขานรับโดยไม่ยั้งคิดสะแล้ว
“…………………” เมื่อเห็นว่าร่างบางได้แต่ยืนนิ่ง แต่สีหน้ากลับคล้ายจะเบะปากร้องโฮออกมาเสียเต็มกลืน
หมับ...!
“ ไปเหอะหน่า....” ว่าแล้วฝ่ามือหนาก็คว้าหมับมากึ่งจูงกึ่งลากฉันให้ออกไปจากความอึดอัดนี้โดยไม่เกรงกลัวท่ามกลางสายตาคนเกือบร้อยที่นั่งอยู่ในคลาส มีพวกแบล็ควูฟยืนอออยู่หน้าห้องแล้วก็ส่งเสียงวี๊ดว๊ายโฮร้องเชิงชอบใจในความบ้าบิ่นของประธานตัวเอง น่าแปลกที่ฉันกลับรู้สึกว่าพวกเขาเป็นมิตรผิดไปจากความคิดเดิมๆ....เสียงโห่แซวให้หนวกหูทั้งหลายเหล่านี้กลับดูจริงใจและสนุกสนานอย่างที่ฉันคนนี้ไม่เคยคิดว่าหอสีดำจะมีบรรยากาศแบบนี้เลย
ทำไมล่ะ...ทำไมถึงเป็นนายอีกแล้ว?
แม้แต่เพื่อนของฉันยังไม่กล้าหาเรื่องใส่ตัวด้วยการเข้ามาพูดคุยกับฉันเลยสักคนด้วยซ้ำ
แต่ทำไม...หมอนี้ถึงได้....
เขาเข้ามาทำให้เรื่องราวของฉันมันวุ่นวายเต็มไปหมด แต่ทว่าวันที่ฉันต้องการใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วย ทำไมหมอนี้ถึงได้เข้ามาตอนนั้นในทุกๆครั้ง มีเพียงแผ่นหลังกว้างที่เป็นภาพเดียวที่ฉันยังคงมองอยู่ ไม่รู้ทำไมฉันถึงยอมปล่อยให้เขาจับมือแล้วเดินนำหน้าไปโดยไม่คิดจะคัดค้าน มีเพียงเสียงหัวเราะเฮฮาที่ยังคงดังกรอกหูไม่รู้จักหยุดหย่อน ฉันตัดสินใจปิดเปลือกตาไม่รับรู้ ความอบอุ่นที่ยังคงจับมือฉันเอาไว้ไม่ปล่อยทั้งๆที่ครั้งล่าสุดฉันเพิ่งจะตบเขาไปตั้งหนึ่งฉากแท้ๆ
ทำไมถึงมาปกป้องฉันอีกล่ะ
เอาเถอะคนแบบนี้คิดหลายตลบไปก็ไม่มีประโยชน์...
ปล่อยเลยตามเลยสักหนคงไม่เป็นอะไร
“ ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกิน...รึถ้าจะรอเพื่อนก็รออยู่นี้แล้วกัน ” คำพูดเบาๆเอ่ยขึ้นหลังจากที่ถือวิสาสะกึ่งลากกึ่งจูงฉันมายังที่โต๊ะไม้แห่งหนึ่งในโรงอาหารใหญ่ เหล่านักเรียนชายขี้เล่นพากันส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวโห่แซวอะไรกันไม่รู้จนฉันเห็นรอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้าชายขี้เก๊กจอมเอาแต่ใจอย่างคาร์ดอสเป็นครั้งแรก พวกเขาผลักอกกันบ้าง หยีเส้นผมจนยุ่งเหยิงแล้วก็หัวเราะและก็หัวเราะ รอบตัวฉันตอนนี้มีเพียงฉันคนเดียวที่นั่งจับจองพร้อมกับเป้สะพายข้างที่วางเป็นเพื่อนคู่ใจ มีเพียงเมมเบอร์สาวหน้าตาดุชื่อไดน่าอะไรสักอย่างที่มองตาขวางแต่ก็ไม่ได้พูดะไรแย่ๆใส่เหมือนครั้งล่าสุดที่เจอกัน
เสียงเอะโวยวายเริ่มดังกระฮึ่มเมื่อเหล่านักเรียนจากหลากหลายชั้นปีเริ่มเลิกคลาสเรียแล้วบึ่งมาหาที่นั่งจับจองเป็นของตนเอง นาเดียกับโอเว่นเซย์ไฮอยู่ไกลๆเพราะพึ่งเสร็จจากรายวิชาเสริมที่ฉันไม่ได้ลงตารางเดียวกับพวกเธอทันตอนช่วงปิดเทอม ฉันโบกมือกลับพร้อมยิ้มแห้งๆ โอเว่นเดินบ่นเรื่องราวมากมายที่เจอในชั้นเรียนก่อนจะทรุดกายวางกระเป๋าลง พร้อมกับนาเดียที่วางหนังสือแล้วเริ่มหันมาถาม
“ ฮันน่าหิวยัง....ไปหาอะไรกินกันป่ะ ” เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มอ่อนมาให้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเพียงแค่ได้เห็นเพื่อนซี้ยังมีทีท่าเหมือนเดิมแตกต่างจากพวกบลูอีเกลคนอื่นๆน้ำตาฉันมันก็เอ่อล้นขึ้นมา....
“ เฮ้ย!! ผีบ้า ร้องไห้ทำไมยะ!!! ” เสียงแว๊ดของสาวสองดังขึ้นพร้อมกับดึงฉันมาปลอบ
“ แกพูดอะไรห๊ะนาเดีย!! // ฉันยังไมได้ทำอะไรเลย! ” นาเดียยักไหล่ไม่รู้เมื่อเห็นว่าโอเว่นหันมาต่อว่าเธอที่เป็นต้นเหตุให้ฉันเสียน้ำตาให้เห็นเป็นครั้งแรก
ในขณะที่ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาขึ้นมาลวกๆก่อนจะหัวเราะแห้งๆแล้วบอกว่าไม่มีอะไร ดูเหมือนความทุกข์ใจที่เคยฝังอยู่ข้างในก็พลันมลายสิ้น ไม่รู้เพราะอะไรแต่การที่มีเพื่อนที่ดีแบบนี้มันทำให้ฉัน....รู้สึกดีใจ...ดีใจมากจริงๆ แต่แล้วพวกเรายังไม่ทันได้ออกไปหาของกินมาลงท้องดูเหมือนว่าเหล่าหมาป่าก็กำลังเดินกลับมาที่โต๊ะกันสะแล้ว ร่างสูงผมบลอนต์สีทองเด่นเป็นประกายเดินกลับเข้ามา เขาเอียงคอเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฉันมีเพื่อนเข้ามาดูแลแล้ว เราสบตากันแต่ไมได้พูดอะไร เขาและเดอะแก็งค์ที่เป็นฮีโร่ช่วยฉันในวันนี้ยกยิ้มที่ริมฝีปาก ก่อนจะกระแทกไหล่ใส่เจ้าตัวที่เดินนำหน้ามาและจบลงด้วยการที่เมมเบอร์และ P4 ของแบล็ควูฟนั่งกินข้าวลงข้างโต๊ะของพวกเราที่อยู่ติดกันเฉยเลย!?
“ แก...คือ คือว่าทำไมพวกแบล็คถึงนั่งแถวนี้กันหมดเลยล่ะ ” โอเว่นเริ่มหน้าถอดสีเพราะถ้าสังเกตดีๆมีแต่ชุดยูนิฟอร์มคลุมทับด้วยสีดำนั่งรายล้อมโต๊ะพวกเราที่ใส่ยูนิฟอร์มสีน้ำเงินทั่วสารทิศ
“ ไม่มีอะไรหรอก ไปหาไรกินเหอะ ” ฉันบอกปัดก่อนจะดันหลังให้โอเว่นเลิกงอแงแล้วไปหาอะไรยัดลงท้องกันดีกว่า
“ เออๆ...ไม่มีก็ไม่มี ” นางเออออก่อนจะรีบจูงมือนาเดียสาวเท้าเดินไวๆเพื่อจะได้รีบกินรีบไปดีกว่าด้วยสีหน้าตาตื่น ฉันตัดสินใจเดินอยู่รั้งท้ายก่อนที่จะหยุดยืนแล้วหันกลับไปมอง
แผ่นหลังกว้างที่หันหลังอยู่กับวงสนทนาของเพื่อนตนเองอยู่กำลังเริงร่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นมีผู้ชายขี้โวยวายที่ชื่อกรีเซลหรืออะไรสักอย่างลุกขึ้นมาขยี้หัวจนเจ้าตัวออกปาก ฉันหลุดยิ้มกับทีท่าที่ดูเป็นกันเองและรู้สึกได้ว่านี้คือ ความจริงใจ ที่พวกเขามีให้กันและกันมากกว่าทุกๆรุ่นที่ฉันเคยเห็นๆมา ไม่รู้ว่าเพราะชายที่กำลังหันหลังให้ฉันอยู่ตอนนี้ที่เป็นคนเปลี่ยนมัน หรือเป็นเพราะบรรยากาศวงหยอกล้อที่ฉันเพิ่งเคยได้เจอและได้ยินเป็นหนแรกกันแน่
ใช่ นี่เป็นครั้งแรก...
ที่ฉันคิดว่า แบล็ควูฟ ดูน่าอยู่....มากกว่าที่คิด
“ เห้ยๆ ยัยสี่ตาแฟนแกเมื่อกี้มองมาทางนี้ด้วยว่ะ! ” กรีเซลชายปากปีจอเอ่ยพร้อมกับส่งเสียงกระเซ้าเหย้าแหย่ใส่เพื่อนชาย ที่นั่งยิ้มแป้นแล้นไม่พูดไม่จา
“ รุ่นพี่ ไอ้สัส....เรียกพี่หน่อยก็ดี ” ร่างแกร่งเอ่ยสวนก่อนจะหยิบกล่องนมรสกล้วยหอมขึ้นมาดื่มแก้ต่าง
“ วิ้วๆๆๆ คิดจะปีนเกลียวก็บอกเถอะว่ะ เมื่อกลางวันเห็นป่ะๆ!!.....ไปกินข้าวด้วยกันไหม? หือโถ่ ทำเป็นเนียนชวนเขาออกเดท!!!! ” กรีเซลทำท่ายกขวดขึ้นมาคว้ากับกำลังจับไมค์แล้วเก๊กประโยคสุดท้ายเพื่อล้เลียนเพื่อนชายที่กำลังหลุดสีหน้ายิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงหูด้วยความเขิน
โป๊กกกกกก!!
“ พูดมากไอ้สัส.....พูดมาก! ” เสียงด่ากราดผสมคำหยาบเริ่มเล็ดลอดออกมาจากปากผู้ชายปากแข็งพร้อมกับใบหูที่เริ่มขึ้นสีจัดขึ้นเรื่อยๆ
“ โหหหห เอาขวดน้ำตีขนาดนี้ กูก็เจ็บเป็นนะครับคุณเพื่อน....” กรีเซลบ่นโอดก่อนจะแสยะยิ้มด้วยความชอบอกชอบใจที่เห็นปฏิกิริยาดังกล่าวและแล้วแม้แต่ราฟเองก็ยังอดขำในทีท่าของประธานไม่ได้ว่าวันนี้เผลอหลุดอาการเคอะเขินออกมาให้เห็นจนใครๆก็สังเกตเห็นได้ง่ายมาก
“ รู้สึกเวลานายน้อยยิ่งเขิน...คำหยาบจะยิ่งเพิ่มขึ้นนะครับ ” ชาลเริ่มผสมโรงเอาอีกคน
“ ชาล...เดี๋ยวเถอะมึง !!! ” เสียงด่ากันวงในยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุดลงในขณะที่เมมเบอร์สาวคนเดียวในวงสนทนาได้แต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรและมองคาร์ดอสที่หลุดอากัปกิริยาดังกล่าวให้เห็นทีละนิดขึ้นทุกวัน
ตึกตึ่ก ตึกตึ่ก ตึกตึ่ก
ว่าแล้วเสียงหัวเราะสุดเฮฮาก็จำต้องจบลงเมื่อเหล่าแบล็ควูฟที่นั่งล้อมวงกินข้าวอยู่ลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะทันทีที่เห็นยูนิฟอร์มสีแดงชาดโผล่พรวดเข้ามากลางวงชนิดที่ไม่มีใครตั้งตัว เสียงฝีเท้าหนักๆเดินฝ่าวงของเหล่านักเรียนสายบู๊ด้วยสีหน้าเริงระรื่นก่อนจะยกมือยกไม้เอ่ยทักทายเหล่านักเรียนหลากหลายชั้นปีที่นั่งกินข้าวอยู่เป็นหมวดหมู่แถวนี้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เรือนผมสีม่วงของลูกพลัมเด่นโดดสะท้อนแสงเจิดจ้าไปทั่วทุกอณู สีหน้าคมที่มักจะเปื้อนด้วยรอยยิ้มที่ริมฝีปากทำให้ร่างสูงที่กำลังสนุกเฮฮาหยุดชะงักลงแล้วหันขวับกลับมามอง เหล่านักเรียนเกรดสิบที่นั่งออกันอยู่ที่นี้มองเหล่าเมมเบอร์และประธานจากหอเรดฟอกซ์ที่อยู่เกรดสิบสองกันเป็นตาเดียว ไม่นานนักฝ่ายก็เป็นคนเอ่ยปากทักทายก่อน
“ สวัสดีเทอร์เนอร์.... ” เสียงทะเล้นติดอารมณ์ดีเอ่ยขึ้นก่อนจะฉีกยิ้มด้วยความเป็นมิตร
“ มีอะไรกับผมรึเปล่า รุ่นพี่ดัชเชรด ” คาร์ดอสกดเสียงต่ำเมื่อเห็นว่าการยกโขยงของอีกฝ่ายที่เดินฝ่าวงมาแบบนี้ดูผิดสังเกตอย่างไงชอบกล
“ โห เรียกว่า พี่วิลหรือวิลเลียมก็ได้....เรียกสะเต็มเชียว ” เสียงกลั๊วหัวเราะดังขึ้นก่อนจะเอามือล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงของตนเองด้วยท่าทางสบายๆ
“ งั้นเรียกผมแค่ คาร์ดอสหรือคาร์ก็พอครับ.....ว่าแต่ ? ” เสียงทิ้งท้ายเอ่ยเว้นวรรคเพื่อให้อีกฝ่ายพูดธุระของตนเองมาอย่างตรงไปตรงมา ทำให้นัยน์ตาที่ยกยิ้มอยู่เมื่อครู่แววระยับ
หมับบบบบ!!!
“ แค่มาชวนไปกินข้าว.....ซีเรียสไปได้ ” ก่อนจะเดินเข้ามาคล้องคอแบบประชิดตัวกับประธานแบล็ควูฟโดยที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว!! น้ำเสียงที่ดูเหมือนจะติดตลกแต่ทว่าแววตาที่จ้องเข้ายังเขาที่ยืนอยู่ในระยะเผาขน ทำให้ร่างสูงรับรู้ถึงอารมณ์คุกรุ่นของผู้ชายที่มีใบหน้าเคลือบไปด้วยรอยยิ้มทันที
“ ...................... ” นัยน์ตาของคนทั้งคู่จดจ้องกันไปมาราวกับเข้าใจความหมายที่แอบแฝงในประโยคเมื่อครู่ ริมฝีปากของชายผมบลอนต์แสยะยกยิ้มขึ้นอย่างร้ายกาจก่อนจะตอบตกลง
“ ได้ซิครับ....พี่วิลเลียมอุตส่าห์มา ชวน ด้วยตัวเองเลยนี้ ” เสียงเน้นหนักในประโยคขานรับทำให้เมมเบอร์ของคาร์ดอสรับรู้ถึงจุดประสงค์ของการเอ่ยปากเชิญชวนทันที นัยน์ตากร้าวของคนของทั้งสองฝ่ายสอดประสานคล้ายกับมีเสียงไฟถูกจุดฉนวนจนดังเปรี๊ยะๆอยู่กลายๆ
“ ยังงี้ค่อยว่ากันง่ายหน่อย.... ” วิลเลียมประธานหอเรดฟอกซ์เอ่ยพร้อมกับเสียงติดหัวเราะ สายตาสอดประสานราวกับสัตว์ร้ายที่ไม่ถูกกันกำลังป่าวประกาศสงคราม คนหนึ่งคือตัวแทนของสุนัขจิ้งจอกมากเล่ห์ที่ชอบใช้อุบายเพื่อหลอกล่อ อีกคนคือตัวแทนของหมาป่าที่พร้อมจะกางกรงเล็บขย้ำ สงครามเย็นของทั้งสองหอพักกำลังจะถูกจุดฉนวนขึ้น? หรือว่าแท้จริงแล้วการมาเยือนของเรดฟอกซ์ในวันนี้มีจุดประสงค์อื่นอะไรแอบแฝงไว้กันแน่?
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

20 ความคิดเห็น
-
#20 wawawow555 (จากตอนที่ 17)วันที่ 29 มิถุนายน 2561 / 20:25ไปค่ะเอาไปโม่ด่วน รอจ้า#200