ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Target [yaoi] -จบแล้ว-

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.18K
      94
      15 เม.ย. 59


    ตอนที่ 8

     

    เจมเข้าไปพบอาจารย์ธีทัตทั้งที่ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง

    พอนั่งลงตรงเก้าอี้ด้านตรงข้ามโต๊ะทำงาน อาจารย์หนุ่มก็หยิบซองสีขาวมาวางบนโต๊ะ

    "นี่เงินของคุณใช่ไหม"

    เจมพยายามปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้

    "เงินอะไรเหรอครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่อง"

    ...ไม่จริงครับ กูโกหก

    เจมอยากจะเอานิ้วมาไขว้กันเสียเต็มประดา

    หลังจากอาจารย์ปฏิเสธจะรับเงิน เจมก็อาศัยวิชานินจา หาทางเอาเงินใส่ซองไปซุกไว้ในแฟ้มเอกสารของอาจารย์จนได้ โดยอาศัยจังหวะที่ธีทัตไม่อยู่ในห้องพัก

    เมื่อนั้นเขาถึงรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ หลับสนิทตลอดคืน ทอเต็มผืนหลับเต็มตื่น...เดี๋ยว นี่มันใช่เวลาไหม

    "ในนี้มีเงินจำนวนสามพันบาท ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่คุณเสนอคืนให้ผมวันก่อน"

    "ผมก็เอาเงินคืนไปแล้วนี่ครับ" เจมบอกหน้าตาย

    "คุณแอบเอามาให้ผมทีหลังใช่ไหม" เทมส์คาดคั้น

    ...คั้นได้คั้นไป คั้นเป็นน้ำกะทิก็ไม่ยอบรับหรอกครับ'จารย์

    แถวนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด พิสูจน์ไม่ได้ด้วยว่าใครเอามาวาง หึ!

    "ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ นะครับ เป็นเงินของอาจารย์ที่ลืมไว้หรือเปล่า"

    ...ครับ เรื่องตอแหลขอให้บอก ไอ้เจมฝึกมาดีครับ

    "คุณคณาธิป"

    อาจารย์เทมส์คงอยากจะพูดว่า 'ผมไม่ใช่เพื่อนเล่น'

    ...ถูกครับ ไม่ใช่เพื่อนเล่น แต่เป็นอาจารย์ประจำวิชากูไงครับ

    "ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ครับอาจารย์ จะพาผมไปสาบานที่ไหนก็ได้"

    ...เล่นใหญ่รัชดาลัยมากกู

    ธีทัตนิ่งไป คณาธิปได้ทีจึงพูดขึ้นอีก

    "ถ้าอาจารย์เรียกผมมาถามแค่เรื่องเงิน ผมก็ขอยืนยันเลยว่าผมไม่รู้เรื่อง ถ้าไง...ผมขอตัวไปกินข้าวเที่ยงก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนบ่ายมีเรียน"

    เจมยกมือไหว้แล้วรีบเปิดประตูห้องออกมาแบบไม่เหลียวหลัง

    ไม่ชิ่งตอนนี้แล้วจะชิ่งตอนไหน

    พอเดินห่างจากโซนห้องพักอาจารย์มาได้เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

    "เจม มีเรื่องอะไรหรือเปล่า อาจารย์เทมส์เรียกเจมเข้าไปทำไม" นนท์เข้ามาขวางหน้า

    "พี่นนท์" เจมสะดุ้ง

    ตกใจหมด โผล่ออกมาดักหน้าอย่างกับเล่นผีหลอก

    "ไม่มีอะไรหรอกครับ"

    "แน่นะ"

    เจมงงๆ ว่าทำไมต้องทำท่าทีเป็นห่วงขนาดนั้น

    "ไม่มีอะไรจริงๆ ครับ"

    ระหว่างนั้นเสียงเต้ก็ดังขึ้น

    "ไอ้เจม พบอาจารย์เสร็จแล้วใช่ป่ะ ไปกินข้าวกัน กูรอนานแล้วเนี่ย"

    "เออๆ" เจมพยักหน้าแล้วหันไปบอกพี่นนท์ "ผมไปก่อนนะพี่"

    เต้เหลือบมองพี่นนท์ด้วยสายตาประมาณว่าเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อครู่ ก่อนจะถามเจมขณะก้าวไปตามทางเดิน

    "อาจารย์เรียกแกไปทำไมวะ"

    "เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังทีหลัง ไปกินข้าวก่อน กูหิว"

    "เออๆ"

     

    "แล้วมึงมีเงินใช้ปะเนี่ย เสือกทำฮีโร่ไม่เข้าเรื่อง จะยืมกูไหม" เต้ถามหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ ขณะนั่งทานข้าวในโรงอาหารกลาง

    "น่าจะพออยู่นะ อีกไม่ถึงสองอาทิตย์ก็จะสิ้นเดือนละ เดี๋ยวพ่อกูก็โอนของเดือนหน้ามาให้เองแหละ"

    ถึงจะตอบไปอย่างนั้นแต่เจมก็ยังไม่แน่ใจว่าจะพอใช้ไปถึงสิ้นเดือนหรือไม่

    ปกติเขาได้เงินจากที่บ้านเดือนละห้าพัน แต่พอเอาเงินชดใช้ให้อาจารย์ไปสามพัน ถ้านับเฉพาะเงินจากพ่อแม่อย่างเดียวก็คงหมดไปแล้ว เจมไม่อยากรบกวนที่บ้านอีกจึงไม่ได้ขอเงินเพิ่ม และไม่อยากรบกวนเต้ด้วยถึงแม้จะสนิทกันแค่ไหนก็ตาม เพราะเต้ก็ยังต้องขอเงินพ่อแม่เหมือนกัน

    ยังดีที่เจมมีเงินเก็บของตัวเองอีกนิดหน่อยก็เลยพอนำมาใช้จ่ายได้หากคำนวนให้รัดกุม

    "ถ้าไม่พอก็ขอได้นะเว้ย" เต้บอกแล้วคีบก๋วยเตี๋ยวกินต่อ จากนั้นก็เริ่มเปิดประเด็นใหม่

    "มึง ฟังกู"

    "เออ ว่ามา" เจมใช้ช้อนตักน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มยำขึ้นซด

    "กูว่าพี่นนท์ชอบมึงว่ะ"

    แค่กๆๆๆ!

    เจมสำลักน้ำก๋วยเตี๋ยวจนน้ำหูน้ำตาไหล

    "พูดอะไรของมึงวะไอ้เต้" เขาถามพลางยกขวดน้ำดื่มอึกใหญ่

    "จริงๆ นะเว้ย กูสังเกตมาหลายทีละ พี่นนท์มองมึงตลอดเลย แล้วเมือกี้ไม่เห็นเหรอ เป็นห่วงว่ามึงจะโดนอาจารย์เทมส์เรียกไปทำอะไร ก็เลยมาดักรอถามนั่นไง"

    เจมส่ายหน้า "กูว่ามึงเพ้อเจอ กูเจอพี่นนท์ที่ห้องทุกวันยังไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย พี่นนท์เค้าดูเฟรนด์ลี่กับทุกคนเหมือนมึงอะแหละ ไม่ใช่เฉพาะกูหรอก"

    "มึงไม่รู้สึกหรือไม่เคยสังเกตุจึงไม่รู้สึก หา ไอ้เจม ไม่ใช่ว่ากลับห้องไปก็เอาแต่ก้มหน้าทำการบ้าน อ่านหนังสือ เล่นมือถือแล้วเข้านอนนะเว้ย"

    ...รู้ได้ไงวะแม่ง

    มึงปลอมตัวเป็นจิ้งจกในห้องเหรอไอ้เต้

    เจมนึกสะพรึงในญาณพิเศษของเพื่อนที่ดันรู้กิจวัตรประจำหัวค่ำของเขายามเมื่ออยู่ที่หอทุกประการ

    "เงียบ แสดงว่ากูพูดถูกใช่ป่ะ ...แม่งอยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ เป็นกูนี่พาไปสวรรค์ตั้งนานแล้ว"

    "สวรรค์ห่าอะไรของมึง ทะลึ่งละๆ"

    "มึงยังไม่เชื่อชะ? งั้นมึงลองสังเกตุเอาเองเลย แต่กูฟันเฟิร์ม 100% ว่าพี่เขาชอบมึง"

    "มึงรีบๆ กินไป ไม่ต้องมามองหน้ากูเลย"

    เจมพยายามไม่คิดเรื่องนี้อีก แต่นั่นทำให้ใบหน้าของรุ่นพี่ลอยวนเวียนในห้วงคิดตลอดเวลา พาลให้ด่าไปถึงเพื่อนสนิท

    ...ไอ้เต้นะไอ้เต้ จะเปิดประเด็นทำไมเนี่ย กูฟุ้งซ่านเลยเห็นไหม!

    จากเดิมที่พยายามจะไม่คิด ไม่เข้าข้างตัวเองแท้ๆ...

     

    "พี่ณัท ผมกลับแล้วนะครับ"

    เจมหยิบกระเป๋าเป้มาสะพาย หลังจากช่วยเจ้าของร้านกาแฟเก็บร้านเสร็จ เนื่องจากวันนี้เขาทำงานกะสุดท้าย จึงออกงานเวลาเดียวกับร้านปิดพอดี

    "เดี๋ยวเจม เอานี้ไปด้วย" ศตคุณยื่นถุงพลาสติกที่บรรจุขนมปังหลากชนิดให้

    ปกติณัทมักจะนำขนมปังที่จะหมดอายุในวันนั้นๆ ยกให้เด็กที่มาทำงานพิเศษ เพราะเก็บไว้ข้ามคืนก็นำขายในอีกวันไม่ได้อีก หากจะเก็บไว้กินเองก็กินไม่หมด

    "ขอบคุณครับ" เจมนำถุงขนมปังใส่เป้ แล้วมุ่งหน้ากลับหอพัก

    ตั้งแต่แอบนำเงินไปให้อาจารย์เทมส์ เจมก็ต้องงัดมาตรการรัดเข็มขัดมาใช้กับตนเอง ตอนนี้ยิ่งต้องรัดติ้วจนแทบหายใจไม่ออก เพราะเขาลองคำนวนแล้วพบว่า เงินที่เหลืออยู่ไปจนถึงสิ้นเดือนมีไม่เพียงพอกับการทานข้าวครบสามมื้อ

    ดังนั้นเจมจึงวางนโยบายไว้ดังนี้

    มือเช้าซื้อขนมปังไม่เกินสิบบาทกับนมหนึ่งกล่อง เขาจะไม่ยอมอดมื้อเช้า ไม่งั้นเรียนไม่รู้เรื่องแน่

    มื้อเที่ยงซื้อทานตามปกติแต่ห้ามเกินห้าสิบบาท เพื่อเป็นแหล่งพลังงานในช่างครึ่งวันที่เหลือ

    ส่วนมื้อเย็น ถ้าไม่ได้ขนมปังเหลือจากร้านของพี่ณัทกินแทนข้าวเย็น ก็ต้องถือศีลอด...

    ระหว่างทางเดินกลับหอ เจมก็หยิบขนมปังขึ้นมาทานไปพลาง เนื่องจากร้านกาแฟเลิกหนึ่งทุ่ม ตอนนี้จึงเวลาทานมื้อที่สามพอดี

    เจมกลับขึ้นห้องก็เห็นพี่นนท์ทำท่าวิดพื้นอยู่กลางห้อง

    นี่ไม่ใช่ภาพแปลกใหม่สำหรับเจม พี่นนท์มักออกกำลังกายในห้องทุกเย็นอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมพี่เขาถึงมีกล้ามกับซิกแพคคงกระพันขนาดนี้

    "เจม อีกเดี๋ยวไปกินข้าวเย็นด้วยกันไหม" จิรานนท์ถามหลังวิดพื้นเสร็จ

    พี่นนท์มักออกกำลังก่อนไปทานข้าว แต่ก็ต้องทิ้งช่วงสักสี่สิบห้านาทีเพื่อให้เหงื่อแห้ง

    "ไม่ดีกว่าครับ ผมกินขนมปังจะอิ่มแล้ว" ในมือเจมมีก้อนขนมปังที่กำลังกัดกรวมๆ พอดี จึงนำมาเป็นข้ออ้างได้แบบไม่เสียมารยาท

    ...จะให้บอกว่าไม่มีเงินไปกินข้าวก็ดูอนาถตัวเองว่ะ

    เจมคิดในใจขณะนั่งย่อตัวนั่งตรงขอบเตียง

    ไม่นานก็มีเสียงเด้งเตือนจากมือถือ บ่งบอกว่ามีใครส่งข้อความจากแอพพลิเคชั่นเมสเสจเฟสบุ๊คให้เขา

    ...หืม? มีใครแอดกูมาวะ

    ผู้หญิงซะด้วย

    เจมกดรับโดยที่คิดว่าอาจเป็นเพื่อนร่วมรุ่น จากนั้นก็กดดูว่าใครส่งเมสเสจมา เห็นชื่อกับรูปโปรไฟล์เป็นคนเดียวกับคนที่เพิ่งแอดเขาเมื่อครู่

     

    Jindarat Soontronsake

    ดีจ้า

    เราชื่อเจนนะ

    ขอแอดได้ป่าว

    *สติ๊กเกอร์ทำตาวิ้งๆ*

     

    เจมอ่านแล้วคิดว่าคนชื่อเจนคงเมสเสจมาตอนส่งคำร้องขอแอด จึงพิมพ์ตอบไป

     

    Kanatip Chaikasem

    รับแอดแล้ว

    *สติ๊กเกอร์หน้ายิ้ม*

     

    เจมนึกสงสัยว่าเป็นใคร หน้าไม่เหมือนเพื่อนร่วมรุ่นสักคน

    ...ใครวะ

    อย่าบอกนะว่าแอดมาจีบกู!

    เจมเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาขณะกินขนมปังคำสุดท้าย แล้วนั่งรอเมสเสจตอบรับอย่างใจจดใจจ่อ

    โดยมีนนท์มองดูอากัปกิริยาเงียบๆ

     

    ติ๊ง!

    เสียงแอพฯเมสเสจดังขึ้น เจมเปิดดูทันที

     

    Jindarat Soontronsake

    ตอบคุณที่รับแอดน้า

     

    Kanatip Chaikasem

    ไม่เป็นไร

    *ส่งสติ๊กเกอร์หน้าเขิน*

     

    Jindarat Soontronsake

    เข้าเรื่องเลยละกัน

    เราอยากจีบพี่นนท์อะ

    เจมเป็นเมทพี่เค้าใช่ปะ

     

    พออ่านข้อความจบเจมก็ทำหน้าเซ็งเล็กน้อยถึงปานกลาง

    ...เชี่ย นึกว่าจะมาจีบกู

    สรุปจะใช้กูเป็นสะพานใช่ปะ

    ผู้หญิงสมัยนี้ทำไมกล้าจังวะ

    เจมเหลือบมองรุ่นพี่ร่วมห้องแวบหนึ่งก่อนพิมพ์ตอบ

     

    Kanatip Chaikasem

    ใช่ เราเป็นเมทพี่นนท์

    มีไรให้ช่วยก็บอกนะ

     

    ...เสือกเป็นคนดีอีกกู

    แต่เอาเถอะ ถือซะว่าทำบุญ เผื่ออานิสงจะตกถึงตัวบ้าง

     

    Jindarat Soontronsake

    งั้นถามหน่อยน้า

    พี่เค้ามีแฟนยัง

     

    เจมนิ่งไปครู่หนึ่ง

    ...เออว่ะ พี่นนท์มีแฟนหรือยังวะ?

     

    Kanatip Chaikasem

    เดี๋ยวเราลองถามดูก่อนนะ

     

    Jindarat Soontronsake

    อย่าให้รู้ว่าเราแอบถามน้า >_<

     

    Kanatip Chaikasem

    เคๆ

     

    ...ทีตอนนี้ทำอาย

    ตอนแอดกูเพื่อหลอกจีบผู้ชายนี่ไม่อายเลยนะครัช แหม่

     

    "พี่นนท์ ผมถามไรหน่อยดิ"

    "อืมว่าไง" พี่นนท์เงยหน้าจากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค

    "พี่มีแฟนยังอะ?"

    จิรานนท์เลิกคิ้ว พลางเหลือบมองมือถือของเจม แล้วทำหน้าเหมือนคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายถูกไหว้วานมาให้ถามอีกที จึงตอบไปว่า...

    "มีแล้ว"

    "มีแล้ว?" คราวนี้เจมเป็นฝ่ายเลิกคิ้วบ้าง

    ...มีตอนไหนวะ ทุกทีตอนเย็นถ้าไม่ไปกับเพื่อนก็อยู่แต่ในห้อง

    "ใครเหรอครับ ไม่ยักเห็นแฟนพี่มาหาที่หอ"

    ...โรคเสือกนี่แก้ไม่หายจริงๆ กู เผลอถามออกไปซะได้

    "แถวนี้แหละ" นนท์ตอบยิ้มๆ

    เจมก็พยักหน้าหงึกหงัก

    ...สงสัยเรียนม.นี้เหมือนกัน

    แล้วทำไมกูต้องรู้สึกโหวงๆ ด้วยเนี่ย

    เจมจิ้มมือถือพิมพ์ต่อ

     

    Kanatip Chaikasem

    พี่เค้าบอกว่ามีแฟนแล้วอะ

     

    Jindarat Soontronsake

    จริงดิ

    แต่เราไม่เคยเห็นพี่เค้าเดินกะผู้หญิงเลยนะ

     

    Kanatip Chaikasem

    ไม่รู้อะ

    เราก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน

     

    Jindarat Soontronsake

    *ส่งสติ๊กเกอร์ร้องไห้*

    งื้ออออ

     

    Kanatip Chaikasem

    ...

     

    Jindarat Soontronsake

    เราขอเบอร์พี่เค้าได้มั้ย

     

    Kanatip Chaikasem

    จะดีเหรอ ="=

     

    Jindarat Soontronsake

    น้าๆๆ

     

    Kanatip Chaikasem

    เราไม่กล้าให้อะ

    เจนไปขอจากคนอื่นเหอะ

     

    Jindarat Soontronsake

    *ส่งสติ๊กเกอร์ร้องไห้*

    เคจ้า

    งั้นเราไม่กวนละ

    อย่าบอกพี่เค้าว่าเรามาถามน้า

     

    Kanatip Chaikasem

    โอเคๆ

     

    Jindarat Soontronsake

    ขอบใจจ้า

    *ส่งสติ๊กเกอร์โบกมือลา*

     

    ...ไรวะแม่ง

    พอหมดประโยชน์ก็ถีบส่งกูเลยนะ

    เจมกดเข้าไปดูข้อมูลของเจน เห็นว่าเรียนอยู่นิเทศน์ ชั้นปีหนึ่งเหมือนกัน

    จากนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเจนอีก ฉับพลันหางตาก็เห็นความเคลื่อนไหวแวบๆ จึงหันมอง เห็นพี่นนท์กำลังเดินมาเก็บผ้าขนหนูของเขา มันร่วงหล่นจากราวปลายเตียงกองอยู่บนพื้น

    "ขอบคุณครับพี่"

    เจมเอ่ยหลังจากพี่นนท์เก็บมาพาดไว้ให้ที่เดิม

    "ไม่เป็นไร"

    พี่นนท์ไม่พูดเปล่า ขยับเอื้อมมือมาขยี้ผมของเจมอย่างเบามือด้วย

    เจมนิ่งอึ้ง ยกมือลูบผมหลังจากพี่นนท์ผละมือออก

    ...เชี่ย โมเม้นท์ซีรี่ส์เกาหลีเมื่อกี้มันอะไรวะ

    เหมือนพระเอกนางเอกมุ้งมิ้งใส่กันอย่างนั้นแหละ

    'กูว่าพี่นนท์ชอบมึง'

    คำกล่าวของเต้ดังขึ้นในหัว

    เจมสะบัดศีรษะ

    ...ทำไมกูต้องเขินกับคำเพ้อเจ้อของไอ้เต้ด้วยเนี่ย

    เมื่อกี้รุ่นพี่ก็บอกอยู่ว่ามีแฟนแล้ว แล้วจะสนกูอีกทำไม

    "เมื่อกี้ที่ถามพี่เรื่องแฟน..." นนท์เดินกลับไปนั่งเตียงตัวเอง "พี่ขอถามเจมคืนบ้างสิ"

    "ได้ครับ"

    "มีแฟนหรือยัง"

    "..."

    ...นั่นปะไร พี่นนท์ทำให้กูคิดมากอีกละ

    แต่มันอาจจะเป็นการถามแบบธรรมดาก็ได้นี่หว่า

    "จะเอาเวลาที่ไหนไปคิดเรื่องแฟนล่ะครับพี่ คาบว่างก็ไปทำงานร้านกาแฟ พอไม่ได้ทำงานก็ต้องมานั่งปั่นงานส่งอาจารย์"

    "นึกอยู่แล้วว่าไม่มี" นนท์ยิ้มเหมือนได้ยินคำตอบที่พึงพอใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน "พี่ลงไปกินข้าวใต้หอนะ"

    "ครับ..."

    ...หือ? แค่นี้เหรอ อะไรวะ

    อาการอย่างนี้เหรอที่ไอ้เต้บอกว่าชอบกู ไม่ใช่แล้วล่ะ

    ถ้าชอบก็คงขอจีบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว โอกาสเหมาะจะตาย

    แต่นี่ตัดบทเฉย สงสัยไม่ใช่ ไอ้เต้แม่งมั่วสัส



    ________________________________________



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×