ตอนที่ 9 : ตอนที่ 8
WGM 08
หลังจากเข้าไปป่วนครัวที่ตอนนี้แทคอุนเริ่มจัดการเก็บของทีละอย่าง ฮงบินที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้ตัวสูงก็เริ่มมองตามือใหญ่ๆ ที่ถือจานพาสต้าทะเลเดินไปมาจนตาโตๆ เบิกกว้างเท่าที่จะทำได้
กึก
“กินก่อนเดี๋ยวจะดูแผลให้”
ร่างสูงใหญ่ของพ่อครัวจำเป็นเอื้อมมือมาวางจานทั้งสองใบลงบนเคาเตอร์ที่ฮงบินนั่งอยู่อีกด้าน เสียงทุ้มพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ที่มักจะใช้ประจำ
“โห น่ากินนะเนี่ย นายนี่สุดยอดจริงๆ”
ฮงบินชมพ่อครัวจำเป็นที่ตอนนี้ยืนเท้ามือกับเคาเตอร์เพื่อจัดการกับอาหารของตัวเองแทนที่จะนั่งบนเก้าอี้ มือใหญ่อีกข้างก็จัดการยัดส้อมใส่มือฮงบิน
“กินได้แล้ว”
เสียงของพ่อครัวจำเป็นสั่งฮงบินเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังจะดุเด็ก แทนที่จะขอบคุณหรือดีใจที่มีคนมาชมเรื่องอาหาร ใบหน้าหล่อเรียบนิ่งไม่แสดงท่าทีอะไรจนฮงบินนึกโวยวายในใจ
ก็รู้ว่าตัวเองดูดีไง แต่จะต้องมาเก๊กออกกล้องคอนโดด้วยเหรอ คนอุตส่าห์ชมนะ!
ความคิดโวยวายของร่างบางที่นั่งเอาส้อมเขี่ยเส้นพาสต้าในจานไปมา ดวงตากลมโตมองท่าทางของร่างสูงในเสื้อผ้าธรรมดาที่มันกลับดูดีเมื่ออยู่บนร่างสูงใหญ่แบบนั้น และผ้ากันเปื้อนสีเข้มที่คาดเอวเอาไว้ยิ่งขับให้เห็นเอวสอบชัดเจน จนฮงบินเผลอเอามือมาจับเอวที่เล็กจนน่ากลัวว่าจะหักของตัวเองเอาไว้ มือใหญ่ข้างหนึ่งที่เท้ากับพื้นหินอ่อนของเคาเตอร์ก็เห็นกล้ามเนื้อบนแขนแกร่งชัดเจนดูเป็นภาพที่ลงตัวราวกับนายแบบมืออาชีพกำลังโพสท่าถ่ายรูป
แต่แทคอุนเอวใหญ่ หรือเขาเอวเล็กไปกันแน่เนี่ย เอวเขาจะถึงครึ่งหนึ่งของเอวที่คาดผ้ากันเปื้อนนั่นไหม
“จับไม่ถนัดเหรอ”
เสียงทุ้มถามขึ้นเบาๆ เมื่อหันมาเห็นฮงบินที่กำลังใช้ส้อมเขี่ยเส้นพาสต้าไปมา ดวงตาคู่คมสำรวจท่าทางของคนตรงหน้าเพื่อหาอาการผิดปกติ
“เปล่าๆ ฉันโดนมือซ้ายนะ อ่อ นายถนัดซ้ายนิฉันอ่านมาแล้ว”
ฮงบินพูดอย่างโอ่ๆ เพราะช่วงเวลาที่หยุดถ่ายไปตัวเองก็ได้ไปหาข้อมูลของแทคอุนมาอ่านบ้างเพื่อที่จะได้ดำเนินรายการได้ดีขึ้น
ปึก
“ผิดแล้ว ฉันถนัดทั้งสองมือ”
มือใหญ่ทั้งสองข้างเท้าลงบนเคาเตอร์ ใบหน้าเรียบนิ่งขยับเข้าไปใกล้กับคนขี้โอ่ที่กำลังยิ้มอย่างภูมิใจ เสียงทุ้มจงใจพูดใกล้กับคนตรงหน้าอย่างนึกสนุก ก่อนจะผละออกมาใช้มือขวาหมุนส้อมเพื่อจัดการกับพาสต้าตรงหน้า
หน้างอนๆ ยังเหมือนกระต่ายเลย
“มานั่งนี่”
หลังจากจัดการอาหารมื้อกลางวันเรียบร้อย เสียงทุ้มของแทคอุนก็ดังแทรกเสียงรายการโทรทัศน์ที่ฮงบินนั่งดูจากโซฟาตัวเล็กที่ร่างบางๆ แทบจะขดตัวเป็นกลุ่มก้อนกลมๆ บนนั้น แต่มือใหญ่ตบพื้นที่ข้างตัวบนโซฟาตัวยาวก็ทำให้ฮงบินยอมขยับไปหา
ที่ยอมเพราะกลัวโดนดุหรอกนะ ไม่ได้อยากนั่งด้วยสักนิดเลย
หมับ
“ดีนะที่มันไม่ลึก ทำไมต้องซนขนาดนี้”
มือใหญ่จับข้อมือเล็กด้านซ้ายขึ้นมาในระดับสายตาเพื่อสำรวจรอยแผลจากที่ฮงบินไปเล่นซนในครัวมา เสียงทุ้มตำหนิเบาๆ จนฮงบินเริ่มก้มหน้าหลบสายตาดุๆ ที่มองมาหลายครั้ง
“ขอโทษนะ ก็ไม่คิดว่ามันจะบาดนี่”
เสียงหวานตอบเสียงเบาในลำคอเหมือนกำลังจะแก้ตัวกันคนตรงหน้า แต่ดวงตาคมดุ และใบหน้าหล่อที่เรียบเฉย ก็ทำเอาฮงบินเริ่มกลัว
งื้อ ก็ไม่ได้ตั้งใจนี่ ทำไมต้องดุด้วยเล่า
ร่างบางโวยวายในใจเหมือนเด็กที่พยายามจะเถียงผู้ใหญ่ แตกต่างที่คนตรงหน้าก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแต่แทคอุนก็ดุจนเขาเริ่มกลัวเหมือนกัน
“คราวหลังก็อย่าซน เข้าใจไหมเจ้ากระต่าย”
มือใหญ่วางลงบนมือเล็กเบาๆ ก่อนจะลูบมือนุ่มอย่างเผลอตัว เสียงทุ้มพูดออกมายาวเหยียดจนคนฟังอย่างฮงบินเริ่มหน้าแดงทีละนิดอย่างห้ามไม่ได้
ทำไมชอบมาพูดแปลกๆนักนะ จอง แทคอุน หัวใจบ้าก็เต้นจังเลย เป็นอะไรเนี่ย
“ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เราไม่ได้หยุดแล้วนะ”
หลังจากวันหยุดที่ดูยุ่งยากของแทคอุนผ่านพ้นมาถึงช่วงดึกดื่น คนที่เป็นตัววุ่นวายกลับไม่ยอมไปนอนแม้ตาโตๆ นั่นจะเริ่มปิดลงทีละนิด จนเสียงทุ้มต้องเอ่ยปากไล่
“ไม่เอา นายยังแต่งเพลงอยู่เลย ฉันจะนั่งอยู่ด้วย”
เสียงหวานตอบกลับอย่างมั่นใจแม้ว่าจะพยายามลูบหน้าตัวเองหลายครั้งเพื่อให้สดชื่น กลุ่มผมสีน้ำตาลทองสะบัดไปมาตามแรงขยับของเจ้าของที่ฟุบลงบนโต๊ะไปเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าหวานยังหันไปมองมือใหญ่ๆ ที่ขีดเขียนลงบนกระดาษที่ดูยับๆ ใบเดิมที่เขาเห็นเมื่อไม่กี่คืนก่อน
แต่งเพลงนี่มันยากขนาดนี้เลยเหรอ
ป๊อก
“งื้อ!”
“แล้วจะมานั่งทำไม ถ้านี่เป็นเพลงวงฉันล่ะ”
มือใหญ่เคาะดินสอลงบนกลุ่มผมนุ่มนั่นเบาๆ จนคนที่กำลังจะหลับส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ เสียงทุ้มไล่อีกคนเป็นครั้งที่สอง แต่กลับเห็นเพียงท่าทางงอแงของคนตรงหน้า
หรือว่าลูกกระต่ายยิ่งง่วง จะยิ่งงอแงนะ
“แต่นี่มันเพลงรายการนี้นะ”
“ฉันบอกตอนไหน”
ทันทีที่ฮงบินพูดจบแทคอุนก็ตอบกลับเสียงเรียบจนคนฟังมุ่ยหน้าลงที่แทคอุนนอกจากจะดุและยังเลิกสนใจเขา
และแทนที่จะสนใจแทคอุนกลับหันไปเขียนและลบเนื้อเพลงที่ฟังอยู่ในหัวอีกครั้ง มือใหญ่เคาะเบาๆ ตามจังหวะสบายๆ ของดนตรี แต่ดวงตาคู่คมก็แอบมองคนที่ซบกับพื้นโต๊ะแต่ดวงตากลมโตหันมามองทางเขาด้วยท่าทางสนใจ
สงสัยคืนนี้ ต้องเหนื่อยอุ้มไปอีกแล้ว
©©©©©©©We Got Married©©©©©©
ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง
เสียงสัญญาณจากหน้าประตูในเช้าวันใหม่เรียกให้ร่างของคนบนเตียงเริ่มรู้สึกตัว มือเล็กขยี้ตาตัวเองเบาๆ ก่อนจะหาวจนน้ำตาไหลซึมหางตา
“แทคอุน ไปเปิดให้หน่อย”
มือเล็กหันไปเขย่าคนตัวสูงที่นอนเตียงอีกด้าน จนแทคอุนตื่นขึ้นมามองอย่างสงสัย ดวงตาคู่คมมองนาฬิกาที่ผนังห้องก่อนจะลุกขึ้นมาบิดไล่ความขี้เกียจเมื่อถึงเวลาที่ทีมงานจะเริ่มมา
“เดี๋ยวฉันไปเปิดเอง นายอาบน้ำก่อน ใส่ชุดหนาๆ ด้วย ออกข้างนอกเผื่ออากาศเย็น”
เสียงทุ้มของร่างสูงที่กำลังเดินไปหน้าประตูห้องนอนหันมาสั่งคนที่กำลังนั่งเหม่อบนเตียงยาวกว่าปกติ มือใหญ่ขยี้ผมตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปนอกห้องนอนเพื่อเปิดประตูให้ทีมงานตามที่ทำประจำ
ก็ฮงบินตื่นมาสภาพดูไม่ได้ทุกวัน เขาก็ต้องอาสามาเปิดรับทีมงานแทนก็แค่นั้น
“อาบน้ำ”
ด้านคนที่โดนปล่อยทิ้งไว้ในห้องนอนก็เริ่มขยับตัวจากอาการนั่งเหม่อเมื่อครู่ เสียงหวานพูดทวนเบาๆ เหมือนย้ำตัวเอง มือเล็กขยี้ผมตัวเองหลายครั้งก่อนจะเริ่มบิดตัวไล่ความง่วงงุน
“ทำงาน”
มือเล็กตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ ขาเล็กก้าวไปทางห้องน้ำกว้าง มือเล็กดึงผ้าขนหนูออกจากที่แขวนก่อนจะหยุดชะงักนิดๆ เมื่อเริ่มตื่นเต็มตา
“เดี๋ยวนะ เมื่อคืนมานอนยังไง”
เสียงหวานบ่นเบาๆ อย่างสงสัยเพราะนี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ฮงบินจำได้ว่าตัวเองไม่ได้เดินกลับมานอนที่เตียง แต่ใบหน้าหวานก็เริ่มแดงระเรื่อน้อยๆ เมื่อคิดได้ว่าคงเป็นฝีมือใครอีกคน แต่วิธีไหนนั้น ฮงบินไม่กล้าคิด และไม่กล้าถามแทคอุนจริงๆ
แค่คิดว่านายนั่นอุ้มเขาแบบเจ้าสาวเข้ามา ฮือ ไม่หรอก ผู้ชายที่ไหนจะมาอุ้มกันแบบนั้นเล่า
ความคิดของคนที่หน้าขาวๆ ที่แดงระเรื่อเริ่มแดงก่ำจนถึงใบหูเล็ก ขาเล็กรีบก้าวเข้าห้องน้ำเร็วๆ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนจากด้านนอกเพราะกลัวคนมาใหม่จะเข้ามาถามถ้าเห็นอาการแปลกๆ ของเขา
จอง แทคอุน นายจะรบกวนฉันเกินไปแล้วนะ
“บอกให้ใส่หนาๆ”
แทคอุนบ่นทันทีที่เห็นว่าร่างบางอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่มันก็ไม่ได้บางกว่าปกติสักนิด แต่สำหรับคนที่บังคับให้ฮงบินใส่สเวตเตอร์มาได้หลายวันเริ่มมองว่ามันบางเกินไป
“ไม่เป็นอะไรหรอก ถ้านายกลัวโดนอากาศเย็นแล้วฉันจะป่วยก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ตอนนี้ฉันหายสนิทเลย”
เสียงหวานของคนที่นั่งลงเบาะข้างๆ เขาในรถตู้ของรายการหันมาพูดเพื่อให้หายห่วง ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างจนตาเล็กหยิบหยีและเห็นลักยิ้มสวยจนแทคอุนนั่งลงเงียบๆ
แทคอุนคงกลัวเขาไม่สบายน่ะสิ แต่ตอนนี้เขาหายสนิทแล้ว
“เอานี่”
เสียงทุ้มของคนที่ยอมนั่งเงียบๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้งพรอ้มๆ กับมือใหญ่ที่ส่งเสื้อคลุมตัวใหญ่มาให้ ใบหน้าหล่อเรียบเฉยราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร ดวงตาคู่คมมองด้านนอกหน้าต่างของรถยนต์ที่มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามการขับเคลื่อนของรถยนต์คันใหญ่ คิ้วเข้มที่ขมวดนิดๆ คลายลงเล็กน้อยที่เห็นฮงบินยอมคลี่เสื้อคลุมมาสวมทับ
ไม่ใช้แค่ป่วย แต่ฮงบินไม่เคยห่วงตัวเองเลย เสื้อมันบางมากไปจริงๆ
“ฮยอกตี้!”
เสียงหวานของร่าบางที่วิ่งลงจากรถตู่คันโตดังขึ้นทันทีที่เห็นใครยืนรออยู่ด้านในโรงยิมที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ ดวงตากลมโตเป็นประกายสดใสเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ตื่นเต้นเต็มที่
หมับ!
แต่ยังไม่ทันที่ฮงบินจะได้วิ่งไปไหนไกล แรงดึงจากทางคอเสื้อก็ทำเอาใบหน้าหวานหันไปมองอย่างไม่พอใจ ดวงตากลมโตมองมือใหญ่ๆ ที่ดึงคอเสื้อเขาเอาไว้อย่างไม่สบอารมณ์
“ปล่อยเลยนะ นายจะดึงทำไม”
ฮงบินโวยวายทันทีที่เห็นว่าหน้าของคนที่แกล้งเขายังเรียบนิ่งอยู่แบบนั้น ร่างบางพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากมือใหญ่ๆ หลายครั้ง แต่เพราะเสื้อคลุมสีเขียวเข้มตัวใหญ่มันเป็นของแทคอุนเลยทำให้ฮงบินไม่กล้าจะดิ้นหนีแรงมากนัก
ก็ถ้ามันขาดขึ้นมา ผมรับรองครับตัวนี้ไม่ต่ำกว่าสองแสนวอน หลุดมากจากนิตยสารขนาดนี้
“ก็เดินไปดีๆ นายเพิ่งหายไข้นะ ซังฮยอกก็ยืนรอได้”
เสียงทุ้มบ่นเบาๆ อีกรอบก่อนจะเปลี่ยนเป็นจับข้อมือของคนที่ทำท่าจะวิ่งซนไปทั่วเหมือนลูกกระต่ายแบบที่เขาชอบเรียก ขายาวก้าวช้าๆ ไปหาซังฮยอกที่ยืนอยู่ตรงจุดถ่ายทำพร้อมกับฮงบินที่ยังทำท่าจะวิ่งออกไปแทบตลอดเวลาแต่ติดที่เขาดึงเอาไว้
“ฮงบิน”
เสียงของฮัคยอน และแจฮวานที่เพิ่งตามมาถึงเรียกขึ้นจากทางด้านหลังจนฮงบินหันไปมองอย่างตื่นเต้น ร่างของคนทั้งสามคนวิ่งมากอดกันจนเป็นก้นกลมๆ โดยครั้งนี้แทคอุนกลับยอมปล่อยฮงบินไปง่ายๆ
“มาทำอะไรกัน จะถ่ายอะไรๆๆๆ”
ฮงบินถามย้ำๆ อย่างตื่นเต้น ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยวี่แววของความสนุกเมื่อเจอคนในวงครบหน้า ร่างบางกระโดดไปมาอย่างดีใจ
“นี่ทางนั้นครับ ผมก็มานะ”
เสียงทุ้มเข้มของคนมาใหม่เรียกให้คนทั้งสถานที่ถ่ายทำหันไปมอง วอนชิกในชุดเสื้อแขนกุดสัดำทรงสวยที่เผยให้เหนกล้ามเนื้อตามแขน และลายสักลายสวยถือสคริปสำหรับพิธีกรเข้ามา ก่อนจะตรงไปส่งอันหนึ่งให้ฮัคยอนที่ยืนรออยู่
“วันนี้มาก่อกวนไง”
วอนชิกหันไปพูดกับแทคอุนที่ยืนมองทุกคนอยู่เงียบๆ มือใหญ่ตบไหล่เพื่อนสนิทที่กำลังยืนนิ่งตามนิสัยเจ้าตัวอย่างนึกสนุก
วันนี้ตายแน่ไอ้แทคอุน
“โหยพี่ ผมไม่เล่นแล้ว!”
หลังจากการถ่ายทำดำเนินมาได้เกือบๆ หนึ่งชั่วโมง เสียงใสๆ ของหนึ่งในคู่แต่งงานก็โวยวายขึ้นอย่างเบื่อหน่าย ร่างบางที่นั่งบนเก้าอี้ทรงสูงเริ่มเบะปากอย่างไม่พอใจ มือเล็กเกาะกระดานที่ใช้เขียนคำตอบเอาไว้บนตักตัวเอง
“ทำไมล่ะ คู่แจฮวานกับฮยอกเล่นแล้วนะ”
ฮัคยอนที่เริ่มเห็นว่าคนของตัวเองเป็นฝ่ายงอแงก็เข้าไปถามอย่างเป็นห่วง มือเรียวลูบกลุ่มผมนุ่มมือของคนที่ทำท่าทางไม่พอใจหลายครั้งเพื่อปลอบใจ
“ก็ดูสิ แทคอุนตอบไม่ถูก ผมไม่เล่นแล้ว”
ฮงบินหันไปชี้คนที่นั่งอยู่ข้างตัวอย่างไม่พอใจ กระดานที่มีรอยขีดเขียนของคนทั้งคู่ก็บอกได้ดีว่าคำตอบในกระดานที่ในเกมส์ทายใจแบบนี้มันควรจะตรงกัน แต่ตอนนี้ไม่ตรงกันสักนิด
เกมส์ทายใจอะไรกัน น่าอายขนาดนี้ ถึงจะผิดไม่กี่ข้อก็เถอะ
“แต่ก็ถูกมากกว่าพวกแจฮวานนะ เราเปลี่ยนเกมส์ก็ได้ ได้ไหม”
ฮัคยอนยอมเปลี่ยนเกมส์ที่เล่นอยู่ตามท่าทางออดอ้อนของคนตรงหน้า ทั้งๆ ที่แทคอุนกับฮงบินตอบถูกเหมือนกันมาหลายข้อแล้ว แต่เหมือนการผิดติดต่อกันสามข้อหลังจะทำให้ฮงบินไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ร่างบางขอพี่ใหญ่หันไปถามวอนชิกและแทคอุนที่รออยู่ก่อนจะได้รับการตอบกลับเป็นการพยักหน้านิ่งๆ ของแทคอุน โดยที่วอนชิกเองก็ไม่ค้านอะไร
เวลาเจอพวกพี่ๆ นี่ฮงบินกลายร่างเป็นน้องเล็กตลอดเลย
“โอ่ะ พี่ฮงบิน”
เสียงซังฮยอกที่แอบมายืนดูสคริปของฮัคยอนส่งเสียงขึ้นอย่างนึกสนุก มือใหญ่รีบดึงแจฮวานที่ทำท่าจะเดินหลบฉากเอาไว้ เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องจับคู่ด้วยกัน
“รอบนี้เกมส์เปเปอร์คิส ภายในสามสิบวินาที คู่ไหนส่งได้มากที่สุดชนะ”
วอนชิกหันไปอ่านกติกาให้ทุกคนฟังพร้อมกับหันมองทางกล้องที่ถ่ายทำอย่างมืออาชีพ โดยที่ฮัคยอนก็เป็นคนจัดอุปกรณ์ให้เข้าที่ โดยชุดหนึ่งอยู่หน้าคู่ของแจฮวานกับซังฮยอก อีกชุดก็ถูกวางลงตรงหน้าของคู่แต่งงานประจำรายการ
“นายเล่นดีๆ นะ”
ฮงบินหันไปกระซิบบอกแทคอุนที่นั่งอยู่ข้างกันเพราะเขาก็เล่นเกมส์นี้มาหลายครั้งแล้ว แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่มาเล่นกับคนนอกวงแบบนี้
“เอานะ...เริ่ม!”
เสียงของฮัคยอนที่ส่งสัญญาณการเริ่มเกมส์ออกมาทำให้ฮงบินรีบหันไปหยิบกระดาษจากด้านข้างขึ้นมาแปะไว้บนปาก มือเล็กหันไปดึงแทคอุนที่นั่งข้างกันให้หันมารับมันไป
“นี่ เอาใหม่นะ”
เสียงหวานส่งเสียงไม่พอใจทันทีที่แทคอุนเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ แต่แทนที่จะก้มลงมารับกระดาษแผ่นเล็ก ร่างสูงกลับถอนหายใจออกมาเสียงดังจนมันร่วงลงไปบนพื้น ระยะเวลาที่เดินมาเกือบครึ่งหนึ่งเริ่มทำให้ใบหน้าน่ารักเริ่มมองอย่างไม่พอใจ
“เกมส์อะไร”
เสียงทุ้มบ่นเบาๆ แต่ไม่มีท่าทีว่าจะให้ความร่วมมือกับฮงบินที่หันมาอีกครั้งด้วยซ้ำ ใบหน้าหล่อที่พอโน้มเข้าไปใกล้ก็ถอนหายใจแรงๆ จนกระดาษมันร่วงหล่นเป็นครั้งที่สองทำเอาดวงตากลมโตนั่นเริ่มฉายแววไม่พอใจ
เกมส์บ้าอะไร ให้ผู้ชายมาเล่นกันแบบนี้
ห้องสัมภาษณ์
Q : ภารกิจยากไหม
ฮงบิน : มันยาวนานมากครับ เขาดูไม่พอใจคนสั่งมาก
[ตัดฉาก]
“นายต้องรับ!”
ฮงบินที่กระดาษร่วงลงไปเป็นแผ่นที่สองเริ่มสั่งคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ ดวงตากลมโตมองคนที่ทำเขาแพ้เกมส์อีกครั้ง ก่อนจะยื่นปากน้อยๆ ใส่คู่แต่งงานตัวเอง
จอง แทคอุนไม่ให้ความร่วมมือเลย
“ห้า สี่...”
เสียงนับถอยหลังในห้าวินาทีสุดท้ายทำให้แจฮวานและซังฮยอกที่ทำไปได้หลายแผ่นเริ่มหันไปมองคู่ตรงข้าม สายตาของทั้งสี่คนจับจ้องไปยังคู่หลักของรายการที่ทำท่าจะล่มในเกมส์นี้
เพี๊ยะ
มือเล็กของฮงบินตีบนอกกว้างเบาๆ ทันทีที่แทคอุนโน้มหน้าลงมา แต่กลับลังเลที่จะรับกระดาษจากเขาไป ดวงตากลมโตมองท่าทางของคนที่สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะตีอีกหลายครั้งเมื่อรู้สึกว่ากระดาษมันกำลังจะร่วงลงอีกรอบ
พรึ่บ
ริมฝีปากได้รูปกดทับริมฝีปากของฮงบินแรงๆ ใบหน้าหล่อเอียงข้างเล็กน้อยเพื่อจัดการกระดาษให้เข้าที่มากขึ้น ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาพร้อมกระดาษแผ่นเล็ก และแทบจะโยนมันลงพื้นในวินาทีนั้น
“หมดเวลา”
เสียงของพิธีกรจำเป็นทั้งสองคนดังขึ้นอีกครั้งเพื่อบอกทุกคน แต่ตอนนี้มันกลับไม่ได้รับความสนใจจากฮงบินสักนิด มือเล็กแอบยกขึ้นแตะริมฝีปากสีสวยของตัวเองเบาๆ ใบหน้าหวานของคนที่อยากเอาชนะคู่ของแจฮวานและซังฮยอกแดงระเรื่อน้อยๆ ในแบบที่เจ้าตัวกำลังควบคุมไม่ได้ จังหวะหัวใจเต้นถี่รัวจนฮงบินเม้มปากเบาๆ
แต่ตอนเอากระดาษออกไป โดนจริงๆ ปากแทคอุนโดนเขาจริงๆ นะ เขารู้สึกได้ งื้อ
ห้องสัมภาษณ์
Q : จอง แทคอุน คือ?
ฮงบิน : ยังเป็นสิงโตเหมือนเดิมครับ แต่น่ากลัวน้อยลงนิดหน่อย
[ตัดฉาก]
Q : ฮงบิน คือ?
แทคอุน : ยังเป็นลูกกระต่ายครับ
ลูกกระต่ายป่วยง่ายด้วย
[ตัดฉาก]
©©©©©©©We Got Married©©©©©©
แท็กๆๆๆๆ
#wegotเลบิน
Talk: 18/06/16
กลับมาแล้วค่ะสำหรับภารกิจสุดท้ายของอิพีนี้ที่พลอ.ดูไม่ค่อยให้ความร่วมมือเลยเนอะ ตอนนี้เหมือนจะเป็นตอนที่ไม่ค่อยมีอะไรที่สุดเลยอ่า ช่วยรอตอนหน้ากันด้วยน้า><
สุดท้ายใครคิดเห็นยังไงบอกไว้บ้างนะ หรือแท็กทางทวีตเอาก็ได้ รักทุกเม้น ทุกวิว ทุกโหวต ทุกแฟนคลับคะ
ตอบเม้น
Pudding1a_BB (@Pudding1a_BB) เรามาต่ออีกแล้ววววววววววววววววววว
ท่านขุนใจดำบินทะลุแหวน (@saranghaeexo12) เป็นกระต่ายขนฟู พี่แทคยังไม่ขย้ำกระต่ายหรอก พี่เขาใจดีน้า55555
183s (@183s) เราก็ว่าบีนตอนโดนแกล้งน่าเอ็นดูมาเลยอ่า จะมาบ่อยๆนะคะ^^
Racord (@dongdank) เราว่าบินซนก็น่ารักดีน้า พี่แทคอ่ะแหละเอะอะก็จะแกล้งน่าตีจริงเลย ดีนะยังดูแลน้องดี มาอ่านต่อน้า
DAYORY (@DYORY) เพราะพลอ.ดุบีนตั้งแต่ต้นน้องเลยกลัว ขอบคุณเหมือนกันนะคะที่รอ ฮืออ จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ
Aumua H'zt (@taotaotaro) ภารกิจต่อไปมาแล้วน้า มาอ่านเร็ววววววววว
ff-nolimited (@ff-nolimited) พี่แทคน่ารักน้ออออ เราอยากเป็นบีนเลยง่า แง้ น่ารักกกกก
SS_nightmare34 (@SS_nightmare34) ยัยหนูซนมากอ่ะแต่น่ารักกกก งื้ออออ มาอ่านต่อเร็วๆๆๆ
Cin Sister (@-1cin1-) ก็ยัยบีนเป็นลูกกระต่ายขนฟูของพี่แทค ที่พี่แทคเรียกได้คนเดียวแน่ๆ อ่ะงานนี้
pearl lotus (@kim-yunghwa) แง้ เม้นรัวมากเราเขินด้วย ตอบไม่ถูกด้วย แต่ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ งื้ออออ พี่แทคอบอุ่นเนอะ บีนซนมากเลยลูกกระต่ายขนฟูๆ งื้อออ มาอ่านต่อน้าๆ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นานสองนานไม่รับกระดาษ พอรับทีไม่โดนกระดาษโดนปากแทนเลยค่าาาา >0<
ลูกกระต่ายป่วยง่าย~ เรียกซะน่ารักเชียววว โอ๊ยดีต่อใจ 5555
กะตุ่ยของพลอน่ารักเกินไปปปปป ตอนเล่นเกมเขินละสิแล้วทำเป็นถอนหายใจทำเป็นหงุดหงิด ว้ายๆรู้แหละ 55555