ตอนที่ 5 : บทที่ 2 - ชีวิตของดาวมหา'ลัย ( 100% )
ชีวิตของดาวมหา'ลัย ( 100% )
พักกลางวัน… ณ โรงอาหาร คณะนิเทศศาสตร์
ซุบซิบ
ซุบซิบ
พักกลางวันนี้ฉันต้องนั่งกินข้าวคนเดียว เนื่องจากว่าน้ำใสติดธุระสำคัญที่บ้านวันนี้เลยไม่ได้มาเรียนด้วย เซ็งที่สุด ทำไมยัยนั่นต้องมาติดธุระในวันที่ฉันเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้ด้วยนะ เฮ้อ…
“ นั่งด้วยคนนะครับ “ เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นหลังจากที่ฉันเพิ่งตักข้าวคำแรกเข้าปากไป ผู้ชาย ( อีกแล้ว ) อะไรอีกเนี่ย อย่าบอกนะว่าฉันจะไม่มีทางได้อยู่เป็นสุขเลยแม้แต่วินาทีเดียว ฮอตเกิ้นผู้หญิงคนนี้ !
“ เชิญค่ะ “ ฉันตอบกลับโดยไม่สบตากับเขา ยังคงนั่งกินข้าวมันไก่แสนอร่อยของตัวเองไปแบบไม่สนใจโลก แต่หางตาก็แอบเห็นว่าผู้ชายคนนั้นวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ และตามด้วยชามเกี๋ยวเตี๋ยวขนาดใหญ่
เหอะ แปลกเนอะ ถ้าเดาจากน้ำเสียงฉันเขาก็น่าจะรู้นะว่าฉันไม่ได้อยากให้นั่งด้วย
“ ชอบทานข้าวมันไก่หรือครับ ? “
นั่งปุ๊บก็ถามปั๊บ ! เนี่ยแหละ สไตล์ของบรรดาผู้ชายที่เข้ามาจีบฉัน
“ ก็ทานได้ค่ะ ไม่จำเป็นว่าต้องชอบ “ ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วกินต่อ นี่ฉันหิวจริงอะไรจริงนะเนี่ย อยากกินอย่างมีความสุขน่ะ อยากกินคนเดียว ไม่ได้อยากมีเพื่อนนั่งกินด้วย รำคาน !
“ ทานเก่งจังเลยนะครับ ดูท่าน่าจะสั่งพิเศษ “ พูดเสียงขันๆ
อะไร ? ตลกอะไร ? ฉันกินข้าวมันไก่เก่งนี่มันน่าตลกมากเหรอ ?
ถึงจะไม่ค่อยชอบใจกับคำพูดของบุคคลปริศนาตรงหน้า แต่ฉันก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดแล้วตั้งหน้าตั้งตากินต่อ จนกระทั่ง…
ปัง !
“ ว๊าย ! ตาเถร ! “
“ เอ่อ… ขอโทษนะครับ ผม… “
“ ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย ! แค่ฉันไม่สนใจจะคุยด้วยถึงกับต้องตบโต๊ะให้จานข้าวฉันมันกระเด็นเลยเหรอ เรียกร้องความสนใจมากเกินไปหรือเปล่า ?! “
ฉันขึ้นเสียงใส่ผู้ชายที่นั่งทำหน้าเหวอไม่รับประทานอย่างอารมณ์เสียสุดๆ ให้ตายเถอะ แค่ฉันไม่คุยด้วยอีตานี่ถึงกับลงทุนตบโต๊ะกินข้าวซะเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด ทำเอาฉันกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในโรงอาหารทันที ดีๆ ! ชีวิตนี้ ยัยไอรีนทำอะไรก็ตกเป็นเป้าสายตาไปซะหมด น่าภูมิใจจริงๆ
“ ผมไม่ได้เรียกร้องความสนใจนะครับ แต่ว่าผมเห็นยุงตัวเบอเร่อมันกำลังดูดเลือดคุณอยู่ก็เลยตบโต๊ะเพื่อให้มันตกใจ “ น้ำเสียงเข้มตอกกลับอย่างคนไม่พอใจ ( เช่นกัน )
ยุงเหรอ ? ยุงที่ไหนกัน ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย ข้ออ้างหรือเปล่า ?
“ และผมก็ไมได้โกหกนะครับ ในเมื่อหลักฐานมันอยู่ตรงนี้ “ เขาว่าพลางกับยื่นฝ่ามือมาตรงหน้าฉัน
ชัดเจน… มันมีเจ้ายุงลายตัวหนึ่งได้นอนสิ้นชีพอยู่บนฝ่ามือใหญ่ของเขา ด้วยสภาพเลือดท่วม เอ… นั่นเลือดฉันหรือเปล่าน่ะ
“ ผมตบมันได้หลังจากที่มันตกใจเสียงตบโต๊ะของผม “ เขาบรรยายเสร็จสรรพ ก่อนจะพูดต่อ “ ยุงตัวใหญ่กัดคุณอยู่ขนาดนั้นคุณไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือครับ ? “ ใบหน้าหล่อใสเอียงคอถาม
ใบหน้าหล่อใส เหรอ ? นั่นสินะ… ฉันก็เพิ่งสังเกตใบหน้าของเขาชัดๆ ก็คราวนี้แหละ ใบหน้าหล่อเนียนใสเรียวยาว ดวงตาคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางน่าจุ๊บ องค์ประกอบโดยรวมแล้วเขาช่าง…
“ คุณครับ ? ผมถามคุณอยู่นะครับ “ เสียงของเขาดังขึ้นทำลายความฟินของฉันทั้งหมด
“ เรื่องของฉันเหอะ ! นายนี่มันช่างยุ่งวุ่นวายจริงๆ อารมณ์เสีย “ ฉันลุกขึ้นจากโต๊ะทันที ไม่กงไม่กินมันแล้ว หมดอารมณ์ วันๆ เจอแต่เรื่อง
ซุบซิบ
เหอะ นี่ก็เหมือนกัน เป็นอะไรหนักหนาถึงได้ชอบจ้องชอบเมาส์ฉันกันนัก หงุดหงิดที่สุด !
“ เดี๋ยวสิคุณ ! “ เสียงร้องเรียกตะโกนมาจากทางด้านหลัง ตายๆๆๆ เดินหนีออกมาขนาดนี้แล้วยังจะมีหน้ามาเดินตามฉันอีกเหรอ บ้าหรือเปล่า ?
“ หยุดก่อนครับ หยุดก่อน ! “ เสียงเรียกยังคงดังต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้นฉันก็ไม่หยุด เรื่องอะไรจะต้องมาหยุดคุยกับนายคนนั้นอีก คนอะไร เจอกันครั้งแรกก็ทำเอาฉันฟิวส์ขาดได้ขนาดนี้
“ คุณครับ หยุดก่อน ! “
ฝันเหรอยะ ? ตะโกนเรียกให้คอแตกตายฉันก็ไม่หยุดหรอกย่ะ
หมับ !
“ จับได้แล้ว “ คนพูดว่าพลางกับยิ้มตาพราว
“ ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้นะ ! “
อยากจะบ้า ! นายคนนี้กล้าดียังไงถึงมาแตะเนื้อต้องตัวฉัน ขนาดพวกผู้ชายที่คลั่งไคล้ฉันยังไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวฉันแบบนี้เลย แล้วอีตานี่เป็นใคร มากไปแล้วนะ มากไปแล้ว
“ ผมไม่ปล่อย ปล่อยไปคุณก็เดินหนีผมอีก ไม่ต้องได้คุยกันพอดี “ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเอือมระอา
“ ก็ฉันไม่อยากคุยกับนายไง ! ไม่เข้าใจเหรอ ปล่อย ! “ ฉันพยายามจะบิดแขนตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ก็นะ แรงผู้ชายยังไงซะมันก็มีพละกำลังมากกว่าแรงผู้หญิง แถมนายคนนี้ยังกำแขนฉันแน่นอีกต่างหาก
“ แต่ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณจริงๆ นะครับ คือว่าผม… “
“ ไม่ชอบ ! “ ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคฉันก็รีบแทรกขึ้นมาก่อน
“ อะไร ? ไม่ชอบอะไรของคุณ นี่ผมงงไปหมดแล้ว คุณรู้เหรอว่าผมจะพูดว่าอะไร ? “ เขาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนี้ท่าจะหนักเอาการแฮะ
“ เหอะ ดูก็รู้ว่านายจะพูดว่าอะไร อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ! “ ฉันเบ้ปากใส่
“ อ่ะ ไหนลองบอกมาสิว่าผมจะพูดว่าอะไร ? “ เขาถามกลับ
“ นายกำลังจะบอกว่าชอบฉัน เลยอยากจะขอออกเดตด้วย ใช่ไหมล่ะ “ ฉันยิ้มหยัน
พวกผู้ชายที่เข้าหาฉันมันจะมีใครคิดเป็นอย่างอื่นบ้าง นอกจากเรื่องอย่างว่า !
“ ผิดเลยครับ ! “ เขาเฉลยเสียงเข้มชัดเจน จนคนฟังถึงกับหลุดเหวอ แต่ก็เพียงเสี้ยววินาทีที่เขาได้เห็นสีหน้าตกใจปนไม่อยากจะเชื่อของหญิงสาว เพราะไม่นานร่างบางตรงหน้าก็กลับมามีสีหน้าที่อวดเก่งเหมือนเดิม
“ โกหก ! อย่ามาฟอร์มหน่อยเลย ฉันรู้นะว่านายชอบฉัน “
ผู้ชายบ้า ? กล้าโกหกเพื่อรักษาหน้าของตัวเอง โธ่ กลัวหน้าแตกล่ะสิที่ฉันจับไต๋ได้ เชอะ !
“ นี่ครับ นามบัตรผม “ เขาใช้มืออีกข้างหยิบเอานามบัตรสีทองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วยื่นมันส่งให้กับฉัน “ ผมมาจากบริษัท Hi Magazine ครับ “ คนตรงหน้ายิ้มสุภาพ
Hi Magazine คุ้นๆ นะ เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหน…
อ้อ ! นึกออกแล้ว บริษัทที่รวบรวมอุตสาหกรรมของวงการบันเทิงไว้ทั่วทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น ดารา นักร้อง โมเดล หรือแม้แต่พวกบรรดาเบื้องหลังทั้งหลายก็อยู่ในบริษัทแห่งนี้ทั้งสิ้น ถ้าจะให้พูดแบบเข้าใจง่ายไม่อ้อมค้อมนั่นก็คือ บริษัทที่นายคนนี้อ้างตัวนั้นคือบริษัทที่ปั้นดารานักร้องของบ้านเรานั่นเอง
อันดับหนึ่งของเมืองไทยเชียวล่ะ !
“ แล้วไง ? นายให้ฉันทำไม “ ฉันถามพลางหรี่ตามองเขา
เพิ่งสังเกต นายคนนี้ไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาของทางมหา'ลัยของเรานี่ ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมกับกางเกงยีนส์ขายาวได้รูปที่มองแวบเดียวก็รู้ว่ามันเป็นเบรนยี่ห้อดัง
“ คุณจ้องผมแบบนี้… “ ชายหนุ่มก็หรี่ตามองเธอเช่นกัน
“ นายไม่ได้เป็นนักศึกษาของที่นี่เหรอ ? “ ฉันถาม ซึ่งเขาก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ “ แล้วนายเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ และมาตามวอแวฉันทำไม ? “ ฉันเลยถือโอกาสถามต่อในสิ่งที่ค้างคาใจ
“ ผมเป็นแมวมองครับ “ ชายตรงหน้ายิ้มละมุน
แมวมอง ? พวกที่มีหน้าที่เฟ้นหาคนที่จะเข้าไปในวงการน่ะเหรอ ฉันเข้าใจถูกไหม ?
“ ผมมาที่นี่ก็เพื่อต้องการมาหาผู้หญิงที่ชื่อไอรีน… “ เขาหยุดพูดแล้วมองหน้าฉันจริงจัง “ คนที่เป็นดาวมหา’ลัย ของที่นี่… คุณพอจะรู้จักเธอคนนั้นหรือเปล่าครับ ? “ ชายหนุ่มถามหญิงสาว
“ หะ ? นี่นายกำลังจะบอกฉันว่า นายมาตามหาผู้หญิงที่ชื่อไอรีนโดยไม่เคยรู้จัก หรือว่าเคยเห็นหน้าเขามาก่อนเนี่ยนะ “ ฉันถามเสียงสูงแบบคนไม่เชื่อ ก็มันน่าเชื่อที่ไหนกัน อีตานี่บอกว่ามาตามหาฉันแต่กลับมาถามฉันว่าฉันเป็นใคร
ถามฉันว่ารู้จักตัวเองไหมเนี่ยนะ ? ตลกสิ้นดี
“ ครับ ทำไมเหรอ ? ผมไม่รู้จักไอรีนนี่มันผิดมากหรือครับ “ คนตรงหน้าถามเสียงอ่อย ไอรีนถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย จากน้ำเสียงที่เธอได้ยินก็รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มนั้นคงจะไม่รู้จักเธอจริงๆ อย่างที่ว่า
“ แล้วมาหาไอรีนทำไมเหรอ ? “ ฉันเลยถือโอกาสที่เขาไม่รู้ว่าฉันคือใครถามเอาซะเลย
จะว่าไปก็แอบตกใจไม่น้อยนะ ที่อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายมาตามหาและบอกว่าตัวเองเป็นแมวมองของทางบริษัทจำพวกปลุกปั้นดาราอะไรเทือกพวกนั้น แต่… ทุกคนอย่าเข้าใจผิดและคิดว่าฉันจะดีด๊าแต่อย่างใด เพราะวงการบันเทิงสำหรับฉันไม่เคยอยู่ในหัวสมองเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่เคยมีภาพของตัวเองที่ปรากฏอยู่ในหน้าจอทีวีเลยสักนิด
เสี้ยวความคิดเล็กๆ ก็ไม่มี !
“ คือว่า… มีคนๆ หนึ่งเขาอยากให้ผมมาทาบทามคุณไอรีนให้ไปถ่ายโฆษณาของทางบริษัทน่ะครับ แล้วเขาก็บอกว่าเธออยู่ที่นี่เลยให้ผมมาตามหา “ ร่างสูงสาธยาย
“ ถ่ายโฆษณา ? “ ฉันทำหน้าเหวอ
“ ครับ “
“ แล้วทำไมต้องให้ฉะ เอ่อ ไอรีนไปถ่ายโฆษณาที่บริษัทของนายด้วยล่ะ “ นั่นน่ะสิ ทำไม…
“ เจ้านายของผมเขาบอกว่าชอบคุณมากครับ เลยอยากจะชักชวนคุณให้มาร่วมงานกับทางเรา “
ชอบฉัน แล้วเจ้านายของอีตานี่เขาไปเจอฉันจากช่องทางไหนกัน เรื่องอะไรเนี่ย ฉันงงจนเป็นไก่ตาแตกไปหมดแล้ว
“ เอ่อ… แล้วนี่ผมจะมาบอกเล่าอะไรให้คุณฟังตั้งมากมาย ในเมื่อคุณเองก็ไม่ใช่คุณไอรีนสักหน่อย “ อยู่ดีๆ ชายหนุ่มก็บ่นอุบอิบขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ เหอะ ! “ ฉันทำเสียงขึ้นจมูกอย่างคนไม่พอใจ
พูดมาได้ว่าฉันไม่ใช่ไอรีน
“ คุณรู้จักไอรีนหรือเปล่าครับ บอกผมได้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนและเป็นใคร “ น้ำเสียงกระตือรือร้นถามหญิงสาว หากวันนี้เขาไม่ได้คำตอบจากผู้หญิงที่ชื่อไอรีนกลับไปให้เจ้านาย เขาต้องโดนฆ่าหมกส้วมอย่างแน่นอน
เอาแล้วไง ? ฉันจะบอกเขาดีไหมนะ ถ้าบอก… ก็ต้องมานั่งตัดสินใจว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี แต่ถ้าไม่บอกแล้วทำเฉยๆ ไปเลย ฉันก็ไม่ต้องมานั่งตัดสินใจ และก็ไม่ต้องมานั่งตอบคำถามใครด้วย ชิวๆ งั้นเอาเป็นว่าครั้งนี้ฉันจะขอหลอกตัวเองสักครั้งแล้วกัน
ไม่บอกดีกว่า…
“ เอ้า ไอรีน ! วันนี้น้ำใสไม่มาเรียนเหรอ นานๆ ทีจะเห็นดาวมหา’ลัยเดินคนเดียวขาดเพื่อนสาวคู่ใจนะเธอ “
เสียงหนึ่งๆ ทักขึ้นก่อนที่ฉันจะทันได้ปฎิเสธอะไรออกไป พอทัก ( พร้อมกับทิ้งระเบิดไว้ให้กับฉัน ) เสร็จ พวกนางทั้งกลุ่มก็เดินจากไปทันที ไปแบบไม่หันกลับมามองข้างหลังเลย
“ อะ ไอรีน… “ ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยอย่างตกใจ มือที่จับแขนเรียวของเธอค่อยๆ ปล่อยลงอย่างช้าๆ
“ ฉันเกลียดการเป็นดาวมหา’ลัยที่สุด !!! “
คุยกันหน่อยนะคะ ^^
มาอีก 1 ตอนแล้วนะคะ ครบ 100% แล้ว เช่นเดิมนะคะ คอมเม้นให้กันด้วยนะคะ แงๆๆๆ เพื่อนแพงพยายามแก้ไขโค๊ตอยู่ค่ะ เรื่องที่คอมเม้นไม่ยอมขึ้นให้ในหน้าหลักนิยาย แต่ขึ้นให้แค่ในตอนๆ นั้นๆ ของนิยาย ถ้าใครเม้นในตอนนั้นๆ ที่อ่านเลย เพื่อนแพงก็จะสามารถอ่านคอมเม้นของทุกคนได้ค่ะ แต่ถ้าใครอ่่านแล้ว มาเม้นในหน้าหลักนิยาย มันไม่ขึ้นให้เพื่อนแพงนะคะ เพื่อนแพงเห็นแต่มีคนมาคอมเม้นแต่ไม่ขึ้นเนื้อหาให้ค่ะ เอาเป็นว่ามาเม้นกันในตอนนั้นๆ ที่อ่านเลยดีกว่าเนอะ เพื่อนแพงจะได้มีโอกาสอ่านความคิดเห็นของทุกคนด้วย ถ้าแก้ไขได้แล้วจะรีบแจ้งนะคะ ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยค่ะ ยังไงก็ฝากทุกคนที่ติดตามช่วยคอมเม้นให้กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สู้ๆนะค่ะไรท์