ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 2 เสียงปริศนา [4]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 723
      8
      11 พ.ย. 60







    ชายหนุ่มเดินนำหน้าหญิงสาว แล้วทรุดตัวนั่งลงบนม้านั่งไม้ใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในจัตุรัส แม้อากาศจะร้อนแต่ก็ยังพอมีลมพัดผ่านทำให้หญิงสาวรู้สึกสดชื่นได้บ้าง หญิงสาวมองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา การแต่งกายสีสันฉูดฉาดของชาวพื้นเมือง แดดที่แสนร้อนแรงทำให้สาวๆ ในเมืองนี้เป็นกระเล็กๆ ที่ใบหน้า เมื่อเธอหันกลับมามองผู้ชายตัวโตข้างๆ อย่างสังเกต เธอก็เห็นกระสีน้ำตาลอ่อนขึ้นจางๆ ไม่ชัดนัก อาจเป็นเพราะผิวสีแทนของเขาทำให้มองไม่เห็นรอยกระก็เป็นได้


    “ตามตำนานเล่าว่า องค์สุริยเทพทรงพิจารณาว่า มนุษย์บนโลกดำรงชีวิตคล้ายสัตว์ป่าช่างน่าเวทนา ทรงเห็นดังนั้นจึงส่งผู้นำซึ่งก็คือพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ลงไปช่วยเหลือมนุษย์ พระโอรสมีพระนามว่า เจ้าชายแมนโค คาแพ็ค ส่วนพระธิดามีพระนามว่า มามา อ็อคโล องค์สุริยเทพทรงให้ไม้เท้าทองคำแก่พระโอรส แล้วรับสั่งว่าที่ใดที่หยุดบรรทมหรือเสวยพระกระยาหารก็ให้ใช้ไม้เท้านี้ปักลงไปบนดิน หากบริเวณใดไม้เท้าทองคำจมลงไปในดินลึกก็ให้สร้างบ้านแปลงเมืองที่นั่น อีกทั้งองค์สุริยเทพยังแนะนำให้พระโอรสของพระองค์สอนการดำรงชีพให้แก่มนุษย์อีกด้วย จนในที่สุดที่นี่ก็กลายเป็นอาณาจักรอินคา และนครกุสโก มีความหมายว่า นครแห่งความมั่นคงนั่นเอง”


    “พระอาทิตย์ช่างมีผลกับชาวอินคาจริงๆ เลยนะคะ ดูอย่างพ่อของรี ก็ให้สร้อยพระอาทิตย์กับรีไว้ค่ะ ท่านบอกให้ใส่ติดตัวเอาไว้ ห้ามถอด เห็นท่านบอกว่าได้มาจากคุณปู่อีกทีหนึ่งค่ะ” หญิงสาวดึงสร้อยออกมาจากคอเสื้อชูให้โซลาโน่ดู


    อาจารย์หนุ่มถึงกับผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นจี้พระอาทิตย์ของหญิงสาว แต่เขาก็เก็บอาการเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วจนยาบารีไม่ทันสังเกต

     

    เดี๋ยวเราจะไปโกริกันฉะนะครับคุณรีชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อหญิงสาวเก็บสร้อยพระอาทิตย์กลับเข้าไปในเสื้อ

     

    โกริกันฉะ คือที่ไหนเหรอคะอาจารย์ แววตามีประกายความใคร่รู้ น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นก็ฉายชัดว่าตื่นเต้นที่จะได้พบเห็นบ้านเมืองของชาวอินคา แม้ว่าโบราณสถานเกือบทุกแห่งจะถูกดัดแปลง หรือไม่ก็สร้างโบสถ์ทับจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมก็ตามที

     

    วิหารพระอาทิตย์อย่างไรล่ะครับ ผมจะพาคุณไปที่นั่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความรุ่งเรืองของชาวอินคา แต่บัดนี้แทบไม่เหลือความภูมิใจที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ขึ้นมา

     

    วิหารพระอาทิตย์นี่เอง รีเคยอ่านประวัติของที่นี่ค่ะ เห็นว่าเมื่อก่อนพื้นและกำแพงของวิหารพระอาทิตย์ทำจากทองคำทั้งหมดเลยหรือคะอาจารย์หญิงสาวจินตนาการภาพตามแทบไม่ออก ว่าตัววิหารที่ทำจากทองคำจะงดงามสักเพียงไร เพราะอาณาจักรอินคานั้นมีชื่อเรื่องทองคำจำนวนมากมายมหาศาล และทองคำอีกนั่นแหละที่เป็นชนวนทำให้อาณาจักรอินคาต้องล่มสลาย

     

    ใช่ครับ โกริกันฉะ เป็นภาษาเกชัวซึ่งก็คือภาษาพื้นเมืองของชาวอินคานั่นเอง ความหมายของมันก็คือห้อมล้อมด้วยทองคำ แต่ก็ถูกชาวสเปนเอาทองออกไปจนหมดเหลือแต่เพียงโครงสร้างหิน จากนั้นชาวสเปนก็สร้างโบสถ์คริสต์ครอบวิหารพระอาทิตย์เอาไว้

     

    ในน้ำเสียงฉายชัดว่าชายหนุ่มภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชนชาติตนเองมากเพียงไร ทว่าท้ายของประโยคนั้นน้ำเสียงกลับแปรเปลี่ยน สำหรับอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ แน่นอนว่ายิ่งรู้ประวัติศาสตร์เชิงลึกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บช้ำราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ความเจ็บช้ำนี้มีมากกว่าคนรุ่นหลังที่ไม่สนใจอดีตที่ผ่านไปแล้ว

     

    ข้อนี้ยาบารีเข้าใจความรู้สึกของเขาดีทีเดียว จึงอดคิดไปถึงประเทศของตนเองไม่ได้ สมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ประเทศไทยก็พบกับความสูญเสียมากมายไม่ต่างจากชาวอินคา พม่าได้หลอมเอาทองไปจนหมด เหลือแต่ซากปรักหักพังให้ลูกหลานระลึกถึงประวัติศาสตร์ของชาติ ไม่ว่าชาติไหนๆ หากแตกความสามัคคี คงหนีไม่พ้นความย่อยยับอับสูญไปได้

     

    อยากเห็นตอนที่ยังมีทองอยู่จังค่ะ ไม่รู้ว่าจะสวยงามสักแค่ไหน

     

    ไม่แน่คุณรีอาจจะได้เห็นมันก็ได้นะครับ

     

    “...” ยาบารีเอียงศีรษะเล็กน้อย อย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด แต่ก็ไม่ได้ติดใจซักถามแต่อย่างใด

     

    ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่หน้าวิหารพระอาทิตย์ เทวสถานที่สำคัญที่สุดของชาวอินคา ซึ่งบัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นโบสถ์ซานโต โดมิงโก ซึ่งโบสถ์หลายๆ แห่งที่สร้างทับเทวสถานต่างๆ ได้สร้างขึ้นอย่างสวยงาม แต่กระนั้นหญิงสาวเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนที่มีโอกาสได้มาที่นี่ ล้วนอยากเห็นวิหารพระอาทิตย์มากกว่าโบสถ์หรูหราอย่างแน่นอน ทางเข้าโบสถ์เป็นประตูขนาดใหญ่ทำจากเหล็ก ผนังสูงเป็นสีกะปิค่อนไปทางน้ำตาล ทว่าโครงสร้างภายในนั้นยังคงเป็นหินก้อนใหญ่ซ้อนทับกันได้อย่างน่าอัศจรรย์

     

    โบสถ์ถูกสร้างทับเอาไว้แต่เพียงภายนอกเท่านั้น

     

    ยาบารีเดินตามโซลาโน่เข้าไปด้านใน จู่ๆ ขนอ่อนที่ต้นคอและแขนก็ลุกชัน เธอยกมือขึ้นลูบแขนก่อนจะเหลียวมองไปรอบๆ รู้สึกราวกับว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมายังเธอ

     

    เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณรี โซลาโน่เดินย้อนกลับมาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวหยุดยืนอยู่ที่เดิมราวกับโดนมนตร์สะกดให้หยุดนิ่ง










    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×