คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Rhythm 7 : Sorry, I love you
ผมล่ะอยากจะทึ้งหัวตัวเองนัก วันนี้ทั้งวันมีแต่เรื่องของไอ้บ้าซีอยู่เต็มสมอง เรียนก็เรียนไม่รู้เรื่อง แถมซ้อมก็ลุ่ยเสียจนโดนด่าเละอีกต่างหาก
“กานต์! มึงดูน้องมึงดีๆสิวะ! ไอ้วาแม่งเป่าบ้าอะไรออกมาน่ะ!”พี่อั๋นแหกปากด่า ลืมบอกไปครับ นอกจากจะมีหน้าที่เป็นหัวหน้าวง เป็นลีดเดอร์คลาริเน็ต พี่อั๋นยังเป็นคอนดักเตอร์ด้วย “เหม่อบ้าอะไรของแกน่ะ นี่เวลาซ้อมนะเว้ย!”
ทั้งวงพร้อมใจกันเงียบกริบ ไม่มีใครอาจหาญชาญชัยกล้าสอดปากพูดขัดหรือคุยแทรกสักคน ผมก้มหน้านิ่ง รู้ดีว่าตัวเองผิด แต่แล้วพี่กานต์ก็เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ
“อั๋น พอเหอะ ไว้กูจะพูดเองทีหลัง”นี่เป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของพี่กานต์ แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพี่กานต์ไม่ชอบใจเรื่องอะไรระหว่างเรื่องที่ผมทำกับเรื่องที่พี่อั๋นด่าผมกลางวง
ในความคิดของผม พี่อั๋นเขาไม่ผิดเลย เป็นผมเองที่เอาแต่เหม่อไม่สนใจการซ้อม แต่ถึงอย่างนั้นพี่กานต์ก็ยังออกตัวปกป้องผม...
บรรยากาศการซ้อมดำเนินต่อไปท่ามกลางความเครียด และพอถึงเวลาเบรกซ้อม ผมก็เข้าไปหาพี่กานต์ทันที
“พี่กานต์...วาขอโทษนะครับ”ผมพูดจากใจจริง “วาผิดเองที่เหม่อ คราวหลังพี่ไม่ต้องทำอย่างนี้หรอกครับ ต่อว่าได้เลย ไม่เป็นไร”
ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆนะ...ไม่เป็นไร...เพราะผมสติไม่อยู่กับร่องกับรอยจริงๆ
แต่น่าแปลกที่พี่กานต์กลับส่ายหน้า แล้วเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นแทน “วามีอะไรไม่สบายใจอยู่หรือเปล่า? บอกพี่มาได้นะ”
ผมเงียบ ไม่ตอบ
“หรือว่าเป็น...”อีกฝ่ายมองผมแบบไม่แน่ใจนัก “...วาคิดมากเรื่องที่พี่พูดหรือเปล่า?”
“อ๊ะ...เรื่องนั้น...คือว่าไม่...”
“พี่ไม่เร่งรัดวาหรอกนะ”พี่กานต์ตัดบทก่อนที่ผมจะพูดจบ “ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง พี่สัญญาว่าระหว่างเราจะเหมือนเดิม ดังนั้นวาไม่ต้องกังวลไป”
ผมพูดต่อไม่ออก รู้สึกซึ้งใจจริงๆที่พี่กานต์พูดแบบนี้ แต่เพราะพี่เขาดีกับผมเกินไปน่ะสิ ผมเลยยิ่งรู้สึกเสียใจที่ตัวเองเอาแต่สับสน
ผมไม่อยากทำร้ายใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นไอ้ซีหรือพี่กานต์ก็เถอะ...
“อันที่จริงแล้ว...วาก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองคิดยังไงกับพี่”ผมพูดช้าๆ “แต่ว่า...วามีคนที่ทิ้งไปไม่ได้อยู่...แล้วก็...”
ผมหยุดแบบกะทันหันเพราะประตูที่เปิดพรวดเข้ามา เก้าอี้ของตำแหน่งทรัมเป็ตอยู่ด้านหลังสุดของวงใกล้กับประตู ผมจึงหันไปมองโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นนิดๆที่เห็นว่าเป็นเอิร์ธ เพื่อนข้างห้อง(+กิ๊กพี่เน็ต) มันกระโจนเข้ามาทั้งที่ยังใส่เสื้อทีมซ้อมบาส อาจจะยังไม่เคยบอก แต่ไอ้นี่มันอยู่ชมรมบาสครับ ชมรมเดียวกับซี...
“วา! ไอ้ซีแย่แล้ว! มันบาดเจ็บเลือดไหลโชกยังกะเปิดก๊อกเลย!”
ผมเบิกตากว้าง สมองหยุดทำงานทันที “ไอ้เอิร์ธ...มึงล้อเล่น...?”
“ล้อเล่นบ้านพ่อแกสิ!!”เอิร์ธว้ากใส่ผมลั่นห้อง “หน้ากูตอนนี้มีอารมณ์ล้อเล่นมากนักรึไง!”
ผมวางทรัมเป็ตลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะรู้สึกตัวเสียอีก และพอได้สติ ขาผมก็พาตัวเองกระโจนออกมานอกห้องวงเสียแล้ว
ผมวิ่งตามไอ้เอิร์ธไปที่สนามบาส ตรงนั้นมีคนมามุงดูกันยกใหญ่ทำให้ยิ่งย้ำชัดว่าเอิร์ธมันไม่ได้ล้อเล่น ผมใจหายวาบ และพอวิ่งไปดูก็อึ้งไปนิดที่เห็นไอ้ซีนั่งอยู่บนพื้นสนามโดยที่หัวมันแตกเลือดไหลโชก
“ซี!!”ในที่สุดผมก็แหวกฝูงชนเข้าไปหามันได้สำเร็จ มันพยายามลืมตาอีกข้างที่ไม่โดนเลือดกลบขึ้นมองผม และแวบหนึ่งผมก็เห็นมันส่งยิ้มให้
“วา...”มันพึมพำแค่นี้แล้วก็หยุดไป ก่อนจะส่ายหน้านิดๆเหมือนเวียนหัว
เสียงเอะอะโหวกเหวกรอบกายจับใจความได้คร่าวๆว่ากำลังเรียกรถพยาบาลมา ผมเพิ่งสังเกตว่าข้างๆไอ้ซีมีน้องผู้หญิงที่น่าจะอยู่ประถมนั่งร้องไห้อยู่โดยมีเด็กผู้ชายม.ต้นที่น่าจะเป็นรุ่นน้องม.2 นั่งปลอบ
“เด็กมันเดินเข้ามาในสนาม จะเก็บลูกบอล”ไอ้เอิร์ธเล่าย่อๆอย่างรู้ดีว่าผมกำลังสงสัยอะไร “ชมรมกูซ้อมแข่งกันอยู่ ลูกไปทางนั้นพอดี ไอ้ซีมันอยู่ใกล้สุดเลยกระโดดเข้าไปปัดลูกออกให้เพราะน้องเขาตัวนิดเดียว โดนลูกบาสเข้าไปคงแย่ ซีมันปัดลูกได้ก็จริงแต่ดันเสือกเสียหลักไถลล้มหัวฟาดพื้น หัวเลยแตกอย่างที่เห็น”
ผมฟังวีรกรรมของไอ้เพื่อนรักแล้วก็ถึงกับยิ้มออกมา ซีเป็นคนใจดี...เรื่องนี้ผมรู้...แต่ไม่ยักรู้ว่ามันจะใจดีขนาดยอมเจ็บตัวเพื่อเด็กที่ไหนก็ไม่รู้...
“ซี...รถมาแล้ว”ผมบอกมันเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณหวออันเป็นเอกลักษณ์ดังมาจากข้างสนาม จึงเอื้อมมือไปพยุงแขนมันขึ้นมา ซึ่งมันก็ยอมลุกตามแต่โดยดีทั้งที่เดินโซเซอยู่อย่างนั้น
ผมช่วยพยุงปีกมันไปที่รถพยาบาล คนที่มุงดูแหวกออกให้เราเดิน ซีไม่ได้พูดอะไร แต่พอคิดถึงเรื่องที่มันทำ ผมก็อดภูมิใจในตัวเพื่อนคนนี้ไม่ได้
มันอาจฟังดูงี่เง่า แต่ผมก็ภูมิใจมากจริงๆนะครับ!(ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยนั่นแหละ)
อยู่ๆเงาเล็กๆร่างหนึ่งก็วิ่งมาดักข้างหน้าผม ผมจึงหยุดเดิน และเราก็ก้มมองต้นเหตุของการหยุดนั้น
เด็กผู้หญิงคนที่ซีมันช่วยไว้นั่นเอง
“ขอบคุณนะคะ...ฮึก...พี่ชาย...เจ็บมากมั้ย?”หนูน้อยร้องไห้จนหูตาแดงก่ำไปหมด แต่ก็ยังพยายามพูดขอบคุณไอ้ซี และซีก็คงเห็นความพยายามนั้น มันจึงยิ้มให้แล้วบอกว่าไม่เป็นไร ไม่เจ็บเลยสักนิด
ผมแอบทำหน้าเหม็นเบื่อ เฮอะ...ไอ้ขี้เก๊ก...
เราขึ้นไปบนรถพยาบาล บุรุษพยาบาลบนนั้นส่งผ้าสะอาดให้ผมเช็ดเลือดออกจากแผลมันและกดห้ามเลือดเอาไว้ ผมค่อยๆเช็ดอย่างระมัดระวัง คอยออมแรงไม่ให้กดหนักเกินไป ซึ่งพอเอาเลือดออกผมจึงค่อยเห็นแผลชัดขึ้น มันเป็นรอยแตกยาวประมาณหนึ่งนิ้วและเริ่มจะบวมแดงขึ้นมาแล้ว ผมเองก็ด้วยความที่ไม่รู้นึกยังไง เลยกดผ้าลงไปนิดหนึ่งจนมันร้องลั่น หันมาทำตาขวางใส่
“ทำเชี่ยอะไรของมึง!”นั่น มีการมาขู่ ผมขยับยิ้มขำๆ สภาพมันตอนนี้ตลกใช้ได้
“ทีเมื่อกี้ล่ะพูดออกไปได้ว่าไม่เจ็บ”
“ก็น้องเขาไม่ได้โรคจิตกดแผลกูเหมือนมึงนี่!”ไอ้ซีคำราม ผมเลยยิ่งหัวเราะร่า ท่าทางจะเจ็บเอามากๆจริงๆนั่นแหละ
“เออน่า ร้องไปได้ มึงอ่ะลูกผู้ชายเปล่า”ผมกัดมันเบาๆ ก่อนจะชะงักเมื่อคำบางคำผุดขึ้นมาในหัว หากคิดไปคิดมา...ผมก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดมันออกมาจะดีกว่า
ผมนึกถึงเรื่องที่ซีมันเดินหนีผมที่ห้องเรียนแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้ให้คำตอบกับมันเลย ไม่รู้มันจะคิดมากเรื่องนี้มั้ย...
“ขอเวลาให้กูอีกหน่อยนะ”ผมกระซิบบอกมัน และฝ่ายนั้นก็หันมาฟัง “รอกูอีกนิด...แล้วกูจะตอบมึง”
หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ...ความรู้สึกที่อยู่ลึกลงไปข้างใน...
สิ่งเหล่านี้ที่ผมพยายามจะปัดมันทิ้งไปจากใจ
เป็นความจริงที่ใจไม่เคยอยากรับรู้
“ตอนนี้น่ะ...มึงรู้แค่ว่าตอนที่ไอ้เอิร์ธไปหากูที่วงแล้วบอกว่ามึงบาดเจ็บ กูใจหายแทบแย่ก็พอ”
ผมนั่งรอจนไอ้ซีเดินออกมาจากห้องทำแผล ที่หน้าผากมันมีผ้ากอซแผ่นเบ้อเริ่มปิดอยู่จนดูน่าตลก ผมส่ายหน้าเมื่อฟังจากพยาบาลมาอีกทีจนรู้ว่ามันต้องเย็บทั้งสิ้นเก้าเข็ม เพราะในความคิดของผม...เก้าเข็มนั่นมันไม่น้อยเลยนะ...
“กลับบ้านเลยรึเปล่า?”ผมถาม ก่อนจะนึกอะไรได้ “อ๊ะ ไม่ได้สิ กระเป๋าอยู่ที่โรงเรียน งั้นเอางี้...เดี๋ยวกลับไปเอาให้ ส่วนมึงกลับไปนอนบ้านไป”
ซีส่ายหน้า “เดี๋ยวไปด้วย แล้วค่อยกลับพร้อมกัน”
ผมรู้สึกไม่เห็นด้วยสุดๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่คิดไปคิดมาก็ขำ ซีมันทำเหมือนบ้านผมกับบ้านมันไปทางเดียวกันทั้งที่ความจริงแล้วน่ะคนล่ะฟาก เรานั่งรถเมล์กลับโรงเรียนด้วยกัน ซึ่งพอไปถึง พวกชมรมบาสก็พากันกรูเข้ามาถามอาการด้วยความห่วงใย
ผมปล่อยให้พวกมันถามซีกันตามสบาย ส่วนผมก็ขอแยกตัวไปเอากระเป๋าโดยไม่ลืมบอกให้ซีมันรอด้วย จะได้กลับพร้อมกัน
ผมขึ้นไปที่ห้องวงโยฯเพราะเอากระเป๋าวางไว้ที่นั่น ซึ่งพอโผล่หน้าขึ้นไป พี่กานต์ก็เปิดประตูออกมาหาผมทันที(ห้องซ้อมเป็นห้องกระจกครับ)
“วา เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ? อยู่ๆก็วิ่งออกไป”สีหน้าของพี่กานต์ดูเป็นกังวล ทำให้ผมรู้สึกผิดนิดๆที่ไม่ได้บอกเขาก่อน
“ขอโทษทีครับ พอดีเอิร์ธมันมาบอกว่าเพื่อนวาบาดเจ็บ เลยรีบออกไปดู”ผมยิ้มแห้งๆ “พี่อั๋นคงโกรธน่าดู แต่เดี๋ยวผมค่อยไปขอโทษทีหลัง”
“อั๋นน่ะพี่คุยให้ได้ แต่เราน่ะไม่เป็นไรใช่ไหม?”พี่กานต์มองมาด้วยสายตาจริงจัง ทำให้ผมถึงกับทำหน้างง
“ครับ?”
“ก็...คนที่บาดเจ็บเป็นเพื่อนเราไม่ใช่หรือ”ผมชะงัก เข้าใจทันทีเลยว่าพี่กานต์ต้องการจะสื่ออะไร
ผมยิ้มให้พี่เขาบางๆ “ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอบคุณมากนะพี่ที่ถาม”แล้วผมก็ยิ้มแผล่ “แต่...จะว่าอะไรไหมอ่ะถ้าวาจะขอกลับก่อน จะไปส่งเพื่อน”
พี่กานต์ยิ้มค้าง ดูอ้ำอึ้งไปแบบกะทันหัน “...พี่ขอถามนิดสิ เพื่อนวาคนนั้นชื่ออะไรเหรอ?”
“ครับ?”ผมรู้สึกงงนิดหน่อยที่ถูกถามเช่นนี้ “หมายถึงคนที่บาดเจ็บน่ะเหรอ? มันชื่อซีครับพี่ ศิระห้องเดียวกับวา”
พี่กานต์เงียบไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆ “ไปได้เลย แล้วพี่จะบอกอั๋นให้”
ผมรีบก้มศีรษะ “ขอบคุณมากครับ!”
ผมลงมาที่สนามบาสด้านล่าง ตอนนี้ห้าโมงกว่าแล้ว น่าแปลกที่ไม่เจอซีที่สนาม ซึ่งพอถามเอิร์ธดูมันก็บอกว่าซีไปเอาของที่ห้องล็อกเกอร์
ห้องล็อกเกอร์ที่ว่านี้อยู่ข้างๆกับสนามครับ เป็นเหมือนห้องพักนักกีฬาของพวกชมรมบาส ผมจึงคิดว่าจะไปตามซีที่ห้องล็อกเกอร์
แต่พอย่างเท้าเข้าไปใกล้ประตู เสียงสนทนาบางอย่างของคนด้านในก็ดังลอดออกมาเสียก่อน
“คือ...ผมรู้สึกดีใจมากเลยล่ะครับ...ที่รุ่นพี่ช่วยน้องสาวผมเอาไว้”เสียงนั้นไม่คุ้นหูเอาเสียเลย และพอคิดได้ดังนั้นผมจึงชะโงกหน้าเข้าไปดูทางหน้าต่าง ก่อนจะพบว่าเจ้าของเสียงคือเด็กม.2 รุ่นน้องคนเดียวกับที่เคยนั่งโอ๋ปลอบเด็กผู้หญิงคนที่ซีเข้าไปช่วยนั่นเอง
ฟังจากเรื่องราวแล้วเด็กผู้หญิงนั่นก็น่าจะเป็นน้องสาวของน้องคนนี้
ซีมันยืนนิ่งๆโดยที่ในมือถือกระเป๋ากีฬาอยู่ คงจะมาเอาเสื้อกลับไปซักบ้าน และเพราะมันหันหลังผมจึงไม่อาจเห็นสีหน้าของซีได้เลย โชคดีที่ว่าหน้าต่างห้องเปิดอยู่ ผมจึงได้ยินบทสนทนาแบบชัดเจนแจ่มแจ้ง
“ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ”น้องคนนั้นก้มหัวขอบคุณด้วยท่าทีจริงจัง แต่ผมกลับรู้สึกตงิดๆชอบกลที่ใบหน้าหมอนั่นดันแดงเถือก
และแล้วประโยคไม่คาดคิดก็ลอยมากระแทกหูเข้าอย่างจัง
“ขอโทษถ้าผมพูดอะไรแปลกๆ...แต่ผม...ชอบพี่นะครับ!”
ผมอ้าปากค้าง
ไหงเป็นงี้ล่ะ!!?
ผมรู้สึกใจเต้นตึกตักขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุเมื่อคิดไปต่างๆนานาว่าซีมันจะตอบยังไง ผมรู้ อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องของผมหรอก ซีมันจะตอบยังไงก็ช่าง...
แต่...ที่ใดสักแห่งในใจก็ร้องบอกให้ซีตอบปฏิเสธไป
“ขอบคุณนะ”
ผมตัวแข็งทื่อ...ไอ้ซี?...
“พี่ดีใจที่รู้ว่ามีคนรู้สึกดีๆกับพี่อยู่”
เฮ้ย...
ใช่...ผมรู้ว่าซีมันยังไม่ได้พูดคำว่าตกลง แต่...ผมรู้สึกไม่อยากจะฟังให้ถึงตอนจบเลยว่ะ!
ไม่เอาแล้ว...ไม่ฟังต่อแล้ว!!
ลึกๆในใจกำลังสั่นไหวกรีดร้องโดยไม่ทราบสาเหตุ และกว่าจะทันได้คิดอะไร ขาก็พาผมวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นเสียแล้ว
เป็นอะไร? นี่ผมเป็นอะไร?
ไอ้ซีมันจะคบกับใครก็ช่างสิ ในเมื่อมันเป็นเพื่อนผม ผมอยากเป็นแค่เพื่อนกับมัน...แต่แรกก็ต้องการแค่นี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
ผมเดินออกมาจนจะถึงประตูโรงเรียนอยู่แล้ว ก่อนจะสบถอย่างโกรธแค้นตัวเองที่ดันลืมรองเท้าผ้าใบไว้บนห้องวงโยฯ(ช่วงงานประกวดที่ผ่านมาผมใช้รองเท้าผ้าใบซ้อมครับ เลยทิ้งไว้ที่นั่นยาว วันนี้เลยว่าจะเอากลับบ้าน)
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่...เอาวะ...กลับไปเอาก็ได้...
“เฮ้ย วา”
ผมสะดุ้งเฮือก...เสียงนี้...ไอ้ซี...แม่งตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!!
ผมหันกลับไป ทีแรกก็ว่าจะยิ้มให้มันเฉยๆเหมือนเดิม แต่พอเห็นคนข้างๆมันนี่สิ...รู้สึกเฮิร์ทขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ไอ้น้องคนนั้นอีกแล้ว!!
“อ้อ นี่น้องตะวัน เขาเป็นพี่ชายของเด็กผู้หญิงคนนั้นน่ะ”ซีมันบอกแบบอารมณ์ดีสุดๆ แถมยังกอดคอไอ้หนูนั่นเหมือนไปซี้กันมาตั้งแต่ชาติปางไหน
ผมคิ้วกระตุกไปนิด...อ้อ...ชื่อตะวันเรอะ...เสือกชื่อความหมายเหมือนกูอีกแน่ะ...
“หวัดดีครับ พี่ชื่อทิวา เรียกพี่วาก็ได้นะ”แต่ภายนอกก็ยังยิ้มให้ไอ้หนูนั่นอยู่อีก นี่ล่ะชีวิตจริงที่ไม่ใช่ละครหลังข่าว
ไอ้หนูม.2 จ้องหน้าผมตาแป๋วเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง แต่แล้วก็ยิ้มหวานส่งให้
“ครับ หวัดดีครับพี่ทิวา”
รู้สึกไหมว่าไอ้หนูตะวันนี่มันกำลังกวนตีนผมอยู่...
“จะกลับหรือยัง?”ผมถามซี เริ่มหงุดหงิดพิกล “ถ้าจะกลับก็ไปก่อนได้เลย จะไปเอาของที่ห้องวงนิดหน่อย”
“เออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวรอ”ซีมันว่าอย่างนั้น ซึ่งผมก็ไม่อยากขัดกุศล ขัดศรัทธามันนักเลยทำแค่พยักหน้าเออๆออๆ
ระหว่างนี้เราคุยกันไปเดินกันไป แล้วไม่รู้เดินอีท่าไหน ไอ้หนูตะวันถึงสะดุดอะไรสักอย่างหัวทิ่มได้ และก็คงหน้าจิ้มคอนกรีตไปแล้วถ้าไอ้ซีไม่ยื่นมือไปรับ แต่ผมที่หันไปเห็นภาพนั้นเข้าพอดีก็ดันจี๊ดขึ้นมาแบบกะทันหันเมื่อไอ้เด็กแสบหน้าซื่อมันใช้จังหวะที่ไอ้ซีไม่เห็นแอบส่งยิ้มน่ารักให้ผม
ไอ้เด็ก...กวนตีน...
นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผุดขึ้นมาในใจ!
“ขอบคุณนะครับ...พี่ซี”
ไอ้ซีพยักหน้าแบบไม่คิดอะไร แต่ผมนี่สิเฮิร์ท
ทีกูล่ะเรียกซะพี่ทิวา แล้วไหงไอ้ซีกลายเป็น ‘พี่ซี’ ไปได้วะ!
ไมไม่เรียกพี่ศิระบ้างล่ะ ไอ้เด็กบ้า!!(ศิระเป็นชื่อจริงของไอ้ซีมันครับ)
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองโมโหอะไร แต่ที่แน่ๆ...ผมล่ะรำคาญไอ้หนูตะวันนี่ชะมัด!
ผมจ้ำอ้าวเดินขึ้นห้องวงโยอีกรอบ ทั้งสบถทั้งก่นด่าในใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมว่าตัวผมนี่แหละที่เป็นบ้าหนักกว่าใครเพื่อน...บัดซบจริง...ทำไมกูต้องหงุดหงิดขนาดนี้ด้วยวะ?
“วา?”เสียงเดิมๆที่คุ้นหูของพี่กานต์ดังขึ้นข้างหลัง ขณะที่ผมกำลังหยิบรองเท้าผ้าใบออกจากชั้นวางหน้าห้องวงโย “ไหนว่าจะกลับแล้วไงล่ะ?”
ดูจากสภาพแล้วพี่กานต์ก็คงกำลังจะกลับบ้าน แปลกดีที่วันนี้วงเลิกซ้อมเร็ว “วาขึ้นมาเอารองเท้าผ้าใบน่ะครับ”แต่พอตอบออกไป ไม่รู้ปีศาจตนไหนดลใจ ผมเลยคิดอะไรบ้าๆขึ้นมาได้ “จริงสิ พี่กานต์กำลังจะกลับแล้วใช่ปะ?”
พี่กานต์พยักหน้าด้วยสีหน้าที่ติดจะงุนงงนิดๆ “ทำไมหรือ?”
ผมยิ้มออกมาได้ในที่สุด ไม่รู้สิ...แต่รู้สึกเหมือนตอนนั้นตัวเองน่าจะยิ้มร้ายแบบชิบหาย...
“ไม่มีไรหรอก...แค่...จะถามว่ากลับบ้านด้วยกันกับวาไหมครับ?”
รู้สึกเหมือนโนว์ปะ...ไอ้สองคนนี้คิดเองเออเองเก่งทั้งคู่เลย
คำเตือน : การประชดหรือลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นสิ่งไม่ดี เพราะอาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์พลิกผันแบบไม่คาดฝัน
ผลสรุปเรื่องนี้ พี่กานต์คู่กับซีละกัน ^^ (วิงหลบขวด+รองเท้า+ระเบิด+สหบาทา)
ฮา...เรื่องเก่ายังไม่ทันแก้ ก็ขนเรื่องใหม่มาให้ตัวละครปวดหัวเล่น คนแต่งเรื่องนี่จิตค่อนข้างไม่ปกติ...ดังนั้นโปรดอภัย เหอๆๆๆ
ตาซีโดนเด็กจีบ!! อยากจะบอกแหละว่าโนว์แอบปลื้มพ่อหนูตะวันอยู่เหมือนกัน...ช่างกล้า
ขนๆมาอัพให้บ่อยๆเพราะไม่รู้วันปีใหม่จะไปไหนรึเปล่า แต่ตอนนี้สถานการณ์ที่บ้านยังเงียบสงบ สรุปคือเราต้องกอบโกยโอกาส หึๆ
ตอบๆเม้นท์กันดีกว่าเน้อ
คุณ archmess - คนเข้าข้างซีเยอะเนาะ หุๆ อยากเปิดโพล แต่จะมีใครเล่นด้วยมั้ยเนี่ย? ฮ่าๆ อีกเม้นท์หนึ่ง โนว์ไม่ปล่อยให้วาได้คิดอะไรสบายๆหรอก(นังโรคจิต...)จึงต้องเพิ่มปัญหาหัวใจให้อีกอย่าง หึๆ อัพแล้วนะคะ ^^
คุณ bummi - กร๊ากกกก ตาซีคงเซ็งเลยเหมารวมว่ามันคงตกลง(แหล่งข่าวมันมีประปรายกระจายทั่วโรงเรียน แล้วพวกในวงที่เห็นภาพบางอย่างแปลกๆ....ก็ใช่จะเป็นพวกปากสว่างน้อย? ฮาๆ) คนอะไรไม่เปิดโอกาสให้อธิบาย แต่หนูวาคงปล่อยเพราะเดี๋ยวมันก็ดีกันเอง ตาซีนี่มีสารบบในสมองแปลกๆเนอะ - -" ขอบคุณสำหรับคำชมค่า ตอนนี้เอามาลงให้อ่านต่อแล้วนะ ^O^
คุณ ampakira - ฮาๆ รักเขาจะตายอยู่คนเดียวมันก็น่าสงสารน่ะแหละนะ อัพให้แล้วค่า อ่านต่อได้เลย ^^
คุณ p_infinity - เรียกน้องโนว์แหละค่า โนว์ยังไม่จบม.ปลายเล้ย งั้นโนว์เรียกพี่ปูบ้างนะคะ หุๆ หนูวาตอนนี้ก็กำลังสองจิตสองใจ แต่เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วแต่ไม่อยากทำให้อีกคนเสียใจมากกว่า คนดี...หรือคนหลายใจอย่างที่นัทมันพูดหว่า? ฮาๆ คนหนึ่งกลัวเสียใจ อีกคนก็ยื้อไว้แบบแปลกๆเพราะไม่อยากให้จาก อืมมมม เอาใครดีล่ะเนี่ย?(ได้ข่าวเอ็งคนแต่งไม่ใช่เรอะ - -)
ปล. ตอนนี้เพิ่มปัญหาใหม่เข้าไปให้หนูวาแล้ว อัพแล้วค่าาาาา ^^
คุณ BulldoG - ฮ่าๆ แจ่มเลยค่าาาา โนว์เลยเริ่มเอนเอียง ว่าจะเอาม.3 ปี.4 ออกแล้วเปลี่ยนเป็นเพลง "อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน" แทนละ เข้ากับสถานการณ์ดีด้วย เอิ๊กอ๊าก
เอ่อ.....ก็แค่โจ๊กเล่นอ่ะนะ อย่าคิดมาก = =
คุณ โอกิยะ - เนอะ โนว์ก็ชอบพี่กานต์ คนอะใจใจดีโคตรรรรร ดีแบบดีได้อีก แต่สักวันก็อยากจะลองเขียนพี่กานต์โหมดมืดดูนะ แต่คงทำลายความฝันกันน่าดู....
คุณ อายะตัน - ห้าเม้นท์รวด จากตอนแรกสุดเลยนะคะ หึๆ คนเรามันต้องมีความกล้า+ด้านค่ะ ถึงจะได้อย่างที่ต้องการ ถ้าชอบซีก็ช่วยเชียร์กันด้วยนะค้า ^O^ แต่แหม...จะให้เจ้าวาเดินไปบอกกันซะงั้นเลยเหรอ ไม่เอาล่ะ เดี๋ยวเรื่องจบก่อน เอ้ย ไม่ใช่ มันไม่ตรงพล็อต ฮ่าๆ อัพให้แล้วนะคะ ^^
คุณ Prince"Z - ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โนว์ไม่ได้บอกห้ามว่าตัวละครอยู่แล้ว คิดเห็นยังไงก็บอกกันได้ค่ะ ^^ บางส่วนที่พูดมาก็คงถูก วาอาจจะเห็นแก่ตัวจริงๆ คนหนึ่งก็พี่อีกคนก็เพื่อน ไม่อยากให้ใครเสียใจทั้งนั้น แต่เท่าที่ดูเม้นท์แล้ว....อยู่พรรคซีจินะคะ? เอิ๊กอ๊าก เดี๋ยวก็คงรู้ว่าใครจะสมหวัง แต่ก็....น่าจะอีกสักพักใหญ่ๆเลยแหละ ไม่รู้จะเบื่อเรื่องนี้ก่อนรึเปล่า = = ฮาๆ
คุณ niguel - แฮปปี้นิวเยียร์เช่นกันค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ อวยพรอะไรให้ได้อย่างนั้น
อีกหนึ่งคนที่ชอบซี แฟนซีเยอะกว่าพี่กานต์เพียบเลยแฮะ หุๆ พี่ชาย(?)หนูวาออกจะน่ารักนะ...อัพให้แล้วค่า
คุณ kiss&hugs - อุ้ย ฮ่าๆ ไม่ขว้างรองเท้าหรอกเหรอคะ(แอบผิดหวัง...ไม่ช่ายยย!!!) แหม เขิลลลลล์(กระแดะได้อีก...) โดยส่วนตัวโนว์ชอบเพลงรัก ได้ยินหรือเปล่าอ่ะ ก็เลยอยากเขียน แล้วก็อยากเขียนเกี่ยวกับเพลงมากกว่ารักที่เอามาใส่ไว้ที่หน้าเปิดด้วย เพราะถ้าฟังดีๆแล้วเนื้อมันดีทั้งสองเพลงเลย ^^ เอิ่ม ถ้าดีใจ ก็แปลว่าถึงจะนานก็จะติดตามกันต่อใช่ปะล่ะค้าาา โอยปลื้ม >< ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ วิ่งมาอัพให้แล้วนะ
คุณ อลิซหน้าโง่ :( - อย่าเพิ่งสะกดจิตโนว์คร่า!! (ก้มหลบสายตา) มันก็ต้องดูกันต่อไปนะเรื่องแบบนี้ เหอๆ ไม่ได้มาตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้เที่ยวสนุก เดินทางปลอดภัยนะคะ ^^ โนว์ไม่ได้ไปไหนหรอก อยู่เฝ้าศาล = = แต่บางทีอาจจะไปรวมญาติวันปีใหม่ สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ
คุณ Fay - พี่เฟย์มาแล้ว!!!(เรียกแบบนี้ได้มั้ยเนี่ย? เดาว่าพี่คงโตกว่าโนว์ชัวร์) อย่าเพิ่ง confuse นะคะ ฮาๆ โนว์กำลังทำให้เรื่องมันลงตัวอยู่ ปัญหามันจะค่อยๆเข้ามาทีละหลายๆอย่าง(ทีละหลายๆอย่าง? ปกติได้ข่าวว่ามันต้องทีละอย่าง = =? ) แหม แต่เสียดายนะคะที่ไม่ได้ตอบ อุตส่าห์แอบลุ้น หุๆ(ว่าจะมีใครลุ้นพี่กานต์มั่งเนี่ย....สงสารคุณพี่ชายตงิดๆ) ฮาๆ อัพแล้วค่า เชิญอ่านต่อได้เลยน้า ^o^
คุณ k_he - ห้าเม้นท์รวด มากมายมหาศาล ขอบคุณค่า ^o^ รู้สึกดีที่รู้ว่าตามอ่านทุกตอน แต่อ่านไปอ่านมาเริ่มชะงัก เหอๆ "หนูซี" เล่นเอาโนว์ฮาหน้าคอม หนูซีนี่น่ารักดีนะเนี่ย ฟังแล้วอยากเปลี่ยนมันเป็นเคะแทน (=[]=!!) คู่กับใครดีล่ะ? พี่กานต์? เอิ่ม พอเหอะ ก่อนเรื่องจะวิบัติ... เดี๋ยวก็รู้ค่ะว่าวาจะเลือกใคร ลองติดตามอ่านต่อ อัพแล้วค่า
คุณ งงปะ - ยุคประหยัดแอนด์ยุคกอบโกย ฮาๆ เห็นมีคนเชียร์ 3P เยอะ โนว์เริ่มเอนเอียง(เฮ้ย???) แต่คิดเหมือนโนว์อีกอย่างล่ะ แบ่งใจได้จริงคงดีเนอะ ถ้าเลือกแล้วใครต้องเจ็บนี่มันเลือกยาก ยิ่งสำคัญทั้งคู่ด้วย "อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน" เอิ๊กๆๆๆ ก็ลองดูกันต่อค่ะว่าสรุปแล้วเรื่องจะเป็นยังไง(แต่คง...ไม่ใช่ซีกับพี่กานต์หรอก..มั้ง)
คนที่ออกต่างจังหวัดขอให้เดินทางปลอดภัย ขอให้ทุกคนเที่ยวกันให้สนุกนะคะ เที่ยวเผื่อโนว์ด้วย หุๆ ตอนนี้เป็นหิมะเหลวๆนอนอยู่บ้าน เมืองไทยร้อนจัด! สโนว์จะละลายยยยย
มีความสุขในวันปีใหม่และปีต่อไปมากๆ ลงให้ส่งท้ายปีเก่า Happy New Year ค่ะ รักทุกคนน้า ^O^
ความคิดเห็น