ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #10 : Rhythm 8 : You are mine

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.18K
      10
      3 ม.ค. 53

     Rhythm 8 : You are mine

     

     

                บรรยากาศตอนกลับบ้านเป็นอะไรที่สนุกสนานสุดๆเมื่อผมเกิดบ้าเลือดไปลากพี่กานต์มาเอนจอยด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นตัวเองคิดอะไรอยู่ แต่...ผมรู้สึกหมั่นไส้แฮะ คิดว่าถ้าไม่ทำแบบนี้ผมคงต้องประสาทเสียตายเพราะไอ้เด็กตะวันนั่นแน่

                อะไรของไอ้เด็กบ้านั่นก็ไม่รู้ แถม...ไม่รู้ว่าซีมันบ้าตอบตกลงไปหรือเปล่า ให้ตายสิ!

                นายชื่อซีสินะ?พี่กานต์ยังยิ้มแย้มเป็นมิตรได้ทั้งที่ไอ้ซีสาดรังสีแปลกๆใส่พี่เขาแบบเต็มที่ ผมรู้ครับว่าซีมันติดจะหมั่นไส้พี่กานต์อยู่ไม่น้อยเพราะมันก็พอจะรู้ว่าพวกในวงชอบแซวผมกับพี่เขาเหมือนที่พวกเพื่อนแซวผมกับมันเด๊ะเลย เห็นว่าอยู่ชมรมบาส ก็ดีนะ...แต่เสียตรงที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง

                เอ่อ...ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่านะว่าพี่กานต์กำลังกัดไอ้ซีอยู่ พอลองคิดดูแล้ว ระหว่างสองคนนี้พี่กานต์มีข้อได้เปรียบมากกว่าตรงที่อยู่วงโยฯเพราะผมน่ะอยู่ห้องซ้อมมากกว่าห้องเรียนซะอีกทำให้แม้จะอยู่ห้องเดียวกันก็แทบไม่มีผลเลย

                ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ซีมันจะทำหน้าเซ็ง...

                พี่ซีครับ บ้านพี่ซีอยู่แถวไหนเหรอ?ตะวันถามขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังรอรถกันอยู่ ผมกับซีไปรถคันเดียวกันครับ แต่ซีมันลงก่อนผมหลายป้ายแล้วต้องแยกต่อรถไปอีกทาง

                ซีบอกทาง เมื่อได้ยินดังนั้นไอ้หนูตะวันเลยยิ้มร่า

                ดีจัง ทางเดียวกับผมเลย

                ผมล่ะคิ้วกระตุกยิกๆ รู้สึกคันตีนอยากถีบคนเหลือเกิน...

                สาบานว่านี่ไม่ใช่อาการที่แถวบ้านเขาเรียก หึงแต่ผมแค่หงุดหงิดครับ!!!

                พวกเราขึ้นรถไปด้วยกัน โชคดีที่วันนี้คนน้อย ที่นั่งว่างเยอะ ซีกับตะวันก้าวขึ้นไปก่อนตามด้วยผมกับพี่กานต์ แต่พอจะนั่ง ไอ้ซีก็กระชากผมไปนั่งด้วยจนไอ้น้องตะวันของมันได้แต่ยืนกะพริบตาปริบๆด้วยความงุนงง

                มันกระซิบเสียงดุ มานั่งกับกูนี่ ไอ้วา

                เออ กูก็กำลังอยากคุยกับมึงอยู่พอดีผมกระซิบโต้ ไม่ยอมแพ้ ทำให้ลงท้ายพี่กานต์เลยต้องนั่งกับไอ้หนูตะวันไปโดยปริยาย

                ผมนั่งติดฝั่งหน้าต่าง ในขณะที่ซีนั่งฝั่งทางเดิน เรานั่งเงียบกันอยู่สักพัก จนในที่สุดไอ้บ้าซีก็หันขวับมาจ้องหน้าผม

                เอ่อ...จ้องน่ะไม่ว่าหรอก...แต่มึงช่วยจ้องแล้วพูดอะไรหน่อยสิ ไม่ใช่จ้องแล้วเงียบ...ตัวกูจะพรุนเพราะเลเซอร์อันตรายจากมึงแล้วนะ ไอ้บ้า...

                “...มีไรก็พูดมาดิ มองอยู่ได้ผมถอนหายใจ ยอมตัดใจเป็นฝ่ายถามมันก่อน

                ไอ้ซีไม่ตอบ ทำเอาผมเซ็ง นี่ล่ะนิสัยหมาๆของมัน ไอ้ที่มีอะไรแล้วไม่ยอมพูดเนี่ยมันน่าอึดอัดเป็นบ้า

                เออ กูงี่เง่าเอง กูเป็นฝ่ายผิด พอใจยัง?ผมตัดสินใจโยนความผิดใส่ตัวเอาดื้อๆทั้งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร ผมหลับตาลง คิดจะเลิกคุยกับมันอยู่แล้วถ้าหากมันไม่เรียกเอาไว้เสียก่อน

                เดี๋ยว วาผมจำต้องลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ มึงนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเอาแต่อ้ำอึ้ง

                ผมกะพริบตาปริบๆงุนงง ตรงไหนวะ?

                เฮ้ยๆๆ...ไม่ได้จะกวนตีนหรืออะไรนะครับ แต่ผมรู้สึกข้องจริงๆ ผมไปทำเรื่องพรรค์นั้นตอนไหนกันแน่ ไม่เห็นจะเคยรู้สึกตัว...

                ไอ้ซีถอนหายใจ ส่ายหน้าไปมาแล้วก็เงียบตามเดิม ผมเลยอดจะหงุดหงิดไม่ได้

                มึงกับกูจะคุยกันดีๆสักหน่อยไม่ได้เลยเรอะ?ผมถามมันถ้วยความข้องใจสุดชีวิต และไอ้ซีก็หันขวับมา

                มึงนั่นแหละที่รวนกูก่อน แล้วยังจะมาทำเป็นพูดดี

                อุ้ย...ฉึก...แทงใจดำ...ไม่ค่อยอยากยอมรับนัก แต่ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าผมเป็นฝ่ายตีรวนมันก่อน

                งั้นก็ได้...ผมปล่อยลมหายใจออกมาอีกเฮือก จำไม่ได้แล้วด้วยว่าเฮือกที่เท่าไหร่ กูได้ยินที่มึงกับไอ้น้องตะวันนั่นคุยกัน ทำไม? มึงตอบตกลงน้องเขาไปงั้นหรือ?

                ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรน่าขำ พอสิ้นสุดประโยคนั้น ใบหน้าของไอ้ซีก็ปรากฏรอยยิ้มทันที

                ผมผงะไปนิด แต่ความอยากรู้ก็ยังมีมากกว่า ว่าไงล่ะ?

                มึงน่ะ...ไอ้เชี่ยซีแสยะยิ้มชั่วร้าย

     

     ...พูดเหมือนหึงกูยังไงยังงั้น

     

    บ้านเตี่ยเอ็งดิ!”ผมโวยกรอกหูมัน รู้สึกหน้าร้อนๆพิลึก หึงมัน? ไม่มีทางเสียล่ะ...!!

                แต่กูเป็นนะ...อยู่ๆไอ้ซีก็กระซิบข้างหู ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะระยะห่างหรือเพราะคำพูดของมัน ผมเลยรู้สึกนั่งไม่ติดที่พิกล

     

                กูไม่พอใจที่เห็นมึงอยู่กับรุ่นพี่คนนั้น

               

                ผมอึ้งไปนิดที่มันบทจะตรงก็ตรงขนาดนี้ ก่อนจะตอบเบาๆ ...เขาเป็นรุ่นพี่ที่ดีสำหรับกู

                กูรู้ไอ้ซีตัดบท และมันก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

                หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งกันเงียบๆ รอคอยให้ถึงจุดหมาย ทิวทัศน์มากมายเคลื่อนผ่านคลองสายตาไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือมือคู่ใหญ่ที่ยื่นมาเกาะเกี่ยวมือของผมเอาไว้

                ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร แต่หัวใจก็สั่งให้ผมกำมือนั้นตอบ

     

     

     

                เวลาชีวิตของผมเริ่มกลับมาเดินตามปกติ แต่ดีใจอยู่ได้ไม่นาน มันก็ต้องมีสิ่งหนึ่งเข้ามาระรานจนได้

                ช่วงเวลาปลายปีของเด็กม.3 จะไปมีอะไรสำคัญไปกว่าการเลือกสายการเรียนล่ะครับ!

                ไอ้วา มึงจะเข้าสายอะไรนัทถามขึ้นในเช้าวันหนึ่งหลังจากที่แผนกธุรการประกาศเรื่องเตรียมมอบตัวขึ้น ม.ปลาย วิทย์?

                ผมกลอกตา ไม่รู้ว่ะ ยังไม่ได้คิด

                ไอ้ห่านจิกนี่ไอ้เชี่ยนัทตบกะโหลกผมป้าบ จะจบม.3 อยู่แล้วยังไม่คิด แล้วงี้มึงจะไปทำอะไรกินวะ

                ผมลูบหัวป้อยๆ สบถด่ามันกลับพอเป็นพิธีแล้วจึงถามกลับ มึงล่ะ?

                แน่นอน วิทย์ดิไอ้นัทตอบแบบมั่นอกมั่นใจสุดๆ กูอยากเป็นวิศวะ

                ผมทำหน้าเบ้ โง่ๆแบบมึงเนี่ยนะ? โอ๊ย! ไอ้เชี่ยกูเจ็บ!!”

                สมน้ำหน้า!”ไอ้นัทสะบัดมือที่ตบลงมาบนหัวผมเต็มแรง ผมถลึงตาใส่มัน ไอ้ห่านี่ล้อเล่นนิดล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้ ผมรู้ครับว่านัทมันก็เรียนเก่ง ผลการเรียนของมันก็พอๆกับผมนั่นแหละ

                แต่ในหมู่พวกเรา คนที่ฉลาดสุดคือไอ้บ้าซีอยู่ดี...เซ็งเป็ด

                ซี แล้วมึงล่ะจะเข้าไร?ไอ้นัทหันไปหาเหยื่อรายต่อไป

                ซีดึงไอพอดออกจากหู หันกลับมามองพวกเรานิดๆ ก่อนจะยิ้ม

                ไม่รู้สินะ

                พอฟังคำตอบแบบนี้ เชี่ยนัทก็ถึงกับส่ายหน้า

                สะเปะสะปะพอกันทั้งผัวทั้งเมียเลยนะพวกมึงนี่...

                ป้าบ!! ได้ทีผมโบกกบาลไอ้นัทบ้าง มันแหกปากร้องลั่นห้องจนไอ้แว่นที่นั่งเล่น PSP อยู่สะดุ้งตกใจจนถึงกับปล่อยเกมของมันเองตกพื้น

                ไอ้ซีหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่ไอ้ห่านัทพูดแต่อย่างใดจนผมอดที่จะเหนื่อยหน่ายใจนิดๆไม่ได้

                ตั้งแต่เหตุการณ์บนรถเมล์นั่นก็ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้วครับ เราเหลือเวลาแห่งการเป็นเด็ก ม.ต้นอีกไม่ถึงสองเดือน แต่ผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบใครสักคน

                (รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเอกที่เฮงซวย ชอบเล่นตัวสุดๆยังไงก็ไม่รู้ว่ะ...)

                วาซีเรียกผมเบาๆจนไอ้นัทที่มัวแต่เล่น PSP ของไอ้แว่น(ที่เพิ่งจิ๊กมาได้)ไม่ทันได้ยิน เย็นนี้มีซ้อมปะ?

                ผมขมวดคิ้ว ไอ้นี่จะมาไม้ไหน? มีสิ กูก็ซ้อมอยู่ทุกวัน ยังจะมาถาม

                ซียิ้มให้ แต่เป็นยิ้มที่ร้ายเสียจนผมยังถึงกับสะดุ้ง โดดได้มะ?

                เฮ้ย!”ผมร้อง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอเสียงดังเกิน จึงรีบลดเสียงลงทันควัน ขืนโดดพี่อั๋นหัวหน้าวงกูก็ได้เอารองเท้าปาหัวสิวะแต่พอพูดไป ผมก็ชะงักไปนิดเพราะสะดุดใจบางอย่าง ว่าแต่...มีอะไรหรือเปล่า?

                ปกติซีมันไม่เคยจะบอกให้ผมโดดซ้อมเลยสักครั้ง ช่วงแรกๆที่เข้าวง ผมกับพวกไอ้นัทไม่มีเวลาแม้แต่จะไปกินข้าวไปพักตอนเที่ยงกับมันด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่เคยบอกให้ผมหยุดซ้อมเพื่อมาอยู่กับมัน ตรงกันข้าม...มันมักจะพูดอยู่เสมอว่าไปซะทีสิ เดี๋ยวคนที่วงก็รอหรอก...

                มันไม่เคย...ร้องขออะไรจากผมเลยแม้แต่อย่างเดียว

                ไม่มีอะไรหรอก

                ผมรู้อยู่แล้วล่ะ...ว่าซีมันจะต้องตอบปฏิเสธ

                แต่ใครจะยอมฟังมันล่ะครับ!

                ได้ กูจะโดดผมยิ้มกว้างอย่างมั่นอกมั่นใจ แล้วเอื้อมมือไปกอดคอมันหมับ ไม่ว่าจะให้กูไปไหนก็ตามเดี๋ยวกูจะไปกับมึงด้วย แล้วก็ห้ามมาแถงี่เง่าบอกไม่เอาเชียวล่ะ!” 

                ไอ้ซีไม่ได้พูดอะไร แต่รอยยิ้มของมันที่ยิ้มตอบมาเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผมเห็นในรอบสัปดาห์นี้เลย

     

     

     

                หลังเลิกเรียนพวกเรานั่งรถไฟฟ้าไปลงสยามด้วยกัน ไอ้ซีไม่ได้พูดถึงจุดประสงค์ที่พาผมมา เราเพียงแต่เดินเล่นด้วยกันไปเรื่อยๆ แล้วมันก็ลากผมเข้าโรงหนัง ก่อนที่ผมจะแทบสบถเมื่อมันพาเข้ามาดู รักแห่งสยาม

                ไอ้เชี่ยนี่...พามาดูอะไรไม่ดู...ดันดูเรื่อง...แบบนี้

                ไอ้บ้าซีหัวเราะหึๆเมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของผม ซึ่งผมแม้จะหมั่นไส้แต่วันนี้กลับรู้สึกอยากตามใจมัน เลยยอมปล่อยเลยตามเลยเข้ามาดูด้วย

                อันที่จริงหนังเรื่องนี้ก็สนุกใช้ได้นะครับ...ถ้าไม่นับฉากจูบซูมประชิดนั่น เห็นแล้วรู้สึกจั๊กกะเดียมพิลึก(หัวเราะ)

                แต่เรื่องน่าหวาดหวั่นตอนดูหนังอยู่ก็มีนะ...

                วาไอ้บ้าซีเริ่มเลื้อยมือขึ้นมาจับมือผม ทำเอาผมส่ายหน้า ก็รู้อยู่ว่ามันคิดยังไงกับผม แต่...เฮ้อ...ผมชักจะหน่ายใจตัวเองตงิดๆแล้วสิที่ไม่ยอมทำอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราวสักที เมื่อไหร่มึงจะตอบกูล่ะ

                ไอ้นี่...มาถามคำถามอะไรตอนหนังมันกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มวะ...ผมตัดสินใจเงียบ(แต่อันที่จริงเพราะไม่กล้าตอบต่างหาก)

                เวลาของกูกับมึง...ใกล้จะหมดลงแล้วนะ

                ผมหันขวับ เหมือนไอ้ซีจะพูดอะไรเรื่องเวลาๆ แต่ซาวน์เอฟเฟ็คหนังตอนนั้นมันดันดังกลบขึ้นมาพอดี มึงว่าไงนะ?

                ไอ้ซีเงียบ มือของมันค่อยๆละออกไป

                ...เปล่า

     

     

     

                หลังออกมาจากโรงหนังซีก็ดูจะเงียบลงไปนิดหน่อย ผมเองก็เห็นถึงความผิดปกตินั้นแต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ตอนนี้เริ่มเย็นมากแล้วผมจึงชวนมันไปหาอะไรกินกันก่อนกลับ ซีพยักหน้าเห็นด้วยและบอกให้ผมเลือกร้านได้เลยโดยมีเงื่อนไขง่ายๆข้อเดียว

                กูไม่เอาฟูจิเด็ดขาด

                ไอ้นี่ก็บ้า...ไม่รู้ทำไมมันถึงได้รังเกียจฟูจิขนาดนั้น...

                ลงท้ายเราก็มาจบประเด็นกันที่ซิสเลอร์ครับ เรานั่งทานกันไป คุยบ้างเงียบบ้าง จนกระทั่งได้ยินเสียงทัก

                เฮ้ ไอ้วา

                ผมหันหลังกลับไปมอง เป็นพี่เซมเพอร์คัสชั่นนั่นเอง เฮียแกดูจากท่าทางแล้วคงกำลังมาเดทกับแฟน ซึ่งพี่ผู้หญิงข้างๆพี่เซมในชุดนักเรียนโรงเรียนสตรีที่อยู่ใกล้ๆนี้ก็ยิ้มให้ผมนิดๆเช่นกัน

                แปลกดีที่แกโดดซ้อม เห็นวันนี้ไอ้กานต์ก็โดด พี่เลยนึกว่าพวกแกไปด้วยกันซะอีก

                เห? พี่กานต์ก็โดดเหรอครับ?ผมเลิกคิ้วกับข้อมูลใหม่ที่เพิ่งรู้ และก็หัวเราะ ผมก็เพิ่งรู้นะเนี่ย แหม แถมพี่โดดด้วยอีกคน วันนี้พี่อั๋นคงหงุดหงิดตาย

                พี่เซมยิ้ม ลีดฯเพอร์หาย ลีดฯทรัมเป็ตหาย เฟิร์สทรัมเป็ตก็หายไปคน คงจะอาละวาดจริงๆนั่นแหละ

                ผมหัวเราะรับ ก่อนจะหันไปแนะนำเพื่อน นี่เพื่อนผม มันชื่อซีครับ...ซี นี่พี่เซมเพอร์คัสชั่น เรียกภาษาบ้านๆก็พวกกลอง

                พี่เซมเขกกะโหลกผมเบาๆเมื่อถูกเรียกซะบ้านนอก ไอ้นี่นี่...เดี๋ยวก็ฟ้องไอ้กานต์ให้มันอบรมใหม่ซะหรอก

                เฮ้ย บ้าน่าพี่ ผมไม่ได้มีอะไรกับพี่กานต์สักหน่อยผมปฏิเสธอย่างรวดเร็ว หน้าร้อนวาบๆพิกลที่ถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว

                ฮ่าๆ ไอ้หนูวา ไม่ต้องเขินๆ พี่ไม่ถือเรื่องพวกนี้หรอก

                พี่เซมยังแซวไม่เลิก ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมหน้าซีที่ไหนเลย ผมขยี้หัวตัวเองแรงๆ นึกเซ็งสุดจิตที่โดนแซวทั้งปี แต่ยังไม่ทันจะตอบอะไร เสียงเบาๆจากไอ้ซีก็ทำให้ผมต้องหันไปมอง

                ...ของผม

                หือ?ทั้งผมทั้งพี่เซมและแฟนพี่เซมหันไปมองไอ้บ้าซีพร้อมกัน มันเงยหน้าขึ้นแล้วมองหน้าพี่เซมนิ่งด้วยแววตาดุๆของมัน ก่อนจะพูดอย่างชัดเจน

     

                ไอ้วา...ไอ้หมอนี่เป็นของผม

     

                ผมอ้าปากค้าง พี่เซมอ้าปากค้าง เจ๊แฟนพี่เซมก็เหมือนจะช็อคนิดๆ

                ฮ...เฮ้ย!! ไอ้บ้า!! พูดอะไรออกมาอ่ะ!!”ผมหัวเราะแห้งๆคิดจะทำกลบเกลื่อน แต่ก็คงไม่ได้ผลนักเพราะนอกจากจะไม่เล่นด้วย ไอ้ซียังทำหน้าจริงจังอีกต่างหาก

                ห่านจิก! ไอ้นี่มันจะทำให้ผมดังจัดยิ่งกว่าเดิมรึไงฟะ!

                อ่า...โทษทีนะ ฮ่าๆ เหมือนพี่จะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปนิดพี่เซมรีบพูดอย่างรวดเร็วแล้วฉุดแฟนพี่เขาให้ตามไปด้วยกัน ทำให้ผมได้แต่กรีดร้องในใจเพราะถ้าเกิดพี่เซมรู้ พรุ่งนี้คงรู้กันรอบวงแน่

                พวกม.5 อ่ะปากมากจะตาย!!!<<<แต่ยกเว้นพี่กานต์ไว้คนนะ

                ผมนั่งกุมขมับนิ่ง หมดอารมณ์รับประแด๊กอาหารต่อในพริบตา

                มึง...ไอ้เชี่ยซี...พูดอะไรของมึงอีกแล้ว!”ผมโวยวาย รู้สึกเหมือนพื้นดินถล่มต่อหน้าพิลึก

                มันไม่ตอบ แม้จะไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดเดาแต่ยังไงมันก็น่าหงุดหงิดอยู่ดี ผมเลยยิ่งรู้สึกหนักใจยกกำลังสองเข้าไปใหญ่

                ...ทำไม...จะถามก็ชักเขิน เลยได้แต่อึกๆอักๆพูดไม่ออก ทำไมถึง...พูดแบบนั้นล่ะ? 

                ไอ้ซีหรี่ตามอง ท่าทางหมั่นไส้ผมเหลือทน

                มึงไม่รู้จริงๆงั้นหรือ?มันหยั่งเชิงถามเสียงต่ำ ท่าทางเหมือนไม่พอใจ ไม่รู้..จริงๆเรอะ?

                อ่า...

                ผมเงียบใบ้ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

                กูน่ะก็แค่...ไอ้ซีว่าเสียงต่ำ เบายิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว แต่แล้วมันก็หยุด ก่อนจะพูดด้วยสายตาจริงจัง

     

                ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม...แต่รู้แค่ว่ามึงเป็นของกูคนเดียวก็พอ

               

                ไอ้บ้าซีเรียกบ๋อยมาเก็บเงินและก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ปล่อยให้ผมได้แต่ยืนโง่เหมือนไอ้บ้า แล้วซีมันก็เดินพรวดๆออกจากร้าน ทำเอาผมวิ่งตามไปแทบไม่ทัน

                เฮ้ย! รอด้วยเด้ไอ้บ้า!!”

     

     

     

                ผมล่ะข้องจิตข้องใจนัก

                ร้อยวันพันปีไอ้บ้าซีไม่เคยทำตัวประหลาดอย่างนี้มาก่อนเลย

                แล้วอยู่ๆมันเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาวะเนี่ย...?

                หมับ! ผมจับไหล่ซีให้หันกลับมา แต่ก็ถูกปัดมือออกอย่างรวดเร็ว ซี ถามจริง มึงเป็นอะไรไปน่ะ? ทำไมถึงทำตัวแปลกๆแบบนี้?

                ซีไม่ตอบ มันยังคงเอาแต่เดินต่อจนผมอดหงุดหงิด วิ่งไปดักหน้ามันไม่ได้

                ซี!!!”

                ผมยืนจ้องหน้ามัน มันจ้องตอบ คนในสยามเริ่มหันมามองเราทั้งคู่ แต่ผมก็ไม่นึกสนใจใครหรืออะไรนอกจากไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้

                ไอ้ห่าที่ไม่เคยยอมพูดอะไรออกมาเลย!

                พวกเรายืนจ้องตากันอยู่สักพัก ซีก็ลากผมออกมาด้านนอกที่ที่ไม่มีคน ตรงนี้เป็นช่องเล็กๆที่แทบจะไม่มีใครสังเกตเห็น มันเดินเข้าไปก่อนโดยที่ลากผมติดมือมาด้วย และพอเข้าไปลึกมากพอ มือของมันก็กดไหล่ผมอย่างแรงจนติดกำแพง     

    กูแค่ต้องการคำตอบในที่สุดซีก็เอ่ยขึ้น เสียงของมันแม้จะเบาแต่กลับหนักแน่นดังชัดในโสตประสาท กูอยากได้คำตอบที่แน่ชัด...ที่มึงจะให้กับกู

                ผมหลับตาแน่น ซียามนี้ดูน่ากลัวผิดไปจากเดิมเป็นคนละคน

                วา...มันเรียกผมเบาๆ ...กูใกล้จะหมดความอดทนแล้วนะ

                เฮ้ย...ไอ้ซี...มึง...อุ๊บ...

                คำพูดทั้งมวลถูกหยุดลงด้วยริมฝีปากร้อนๆที่กดประทับลงมาอย่างรุนแรง ปลายลิ้นของซีพยายามเกี่ยวเข้ามาในโพรงปากผม ผมที่กำลังตกใจจึงเผลอปล่อยให้มันรุกรานเข้ามาได้ อุณหภูมิในร่างกายเหมือนจะสูงพรวดขึ้นอย่างกะทันหัน เรี่ยวแรงที่เคยมีถูกสูบออกไปในพริบตาจนไม่มีแรงยืน ต้องเกาะเสื้อของมันเอาไว้แบบคนไร้กำลัง จูบที่รุนแรงในคราแรกอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆจนจากเดิมที่กดหนักหน่วงราวจะบดขยี้ทุกสิ่งกลายเป็นไล้เลียดอ่อนโยนทะนุถนอม

                เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้แต่กลับยาวนานยิ่งในความรู้สึก ผมผลักอกแกร่งออกเต็มแรงแล้วถอยออกห่างจนแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผนัง ความรู้สึกไม่เข้าใจ สับสน ฉายชัดในดวงตา

                ...ไอ้ซี...ผมพูดไม่ออก ไม่รู้จะบอกอะไรกับมัน

                ซีเองก็เอาแต่จ้องผมนิ่งๆ ก่อนที่จะคว้าข้อมือผมแนบชิดผนัง แล้วโน้มใบหน้าเข้าหา

                ผมรู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยไปในความฝันอีกครั้ง ร่างทั้งร่างเบาหวิวคิดอะไรไม่ออก และกว่าจะรู้สึกตัวอีกทีลมหายใจก็ปั่นป่วนกระชั้นถี่ไปหมด ไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงหอบเบาๆของตัวเองและเสียงกระซิบแผ่วเบาทว่าแสนหนักแน่นริมหู

     

                มึงเป็นของกู...จำไว้ไอ้วา...มึงเป็นของกูคนเดียวเท่านั้น

     

     ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ในที่สุดตาซีก็ได้ลวนลาม(?)หนูวาสมใจอยาก(ภาษาน่ากลัวชิบ...) พอไม่ได้อย่างใจ ทางเดียวที่ทำได้คือประกาศกันโต้งๆซะเลย หึๆ สร้างสรรค์ดีแฮะคุณชายของโนว์(รึของวา?)
    ก็วิ่งมาอัพต่อให้อย่างรวดเร็ว อย่าเพิ่งสงสัยกันนะว่าตะวันหายไปไหน รอก่อนๆ เดี๋ยวจะมีเฉลยความข้องจิตทุกประการของคุณๆเจ้าค่า ^O^
    ปล. เห็นหลายคนไม่ชอบตะวัน? โนว์แปลกหรือเปล่านะที่เห็นว่ามันก็น่ารักดี....ฮา...

    ตอบเม้นท์ๆ 

    คุณ Tip_KaRaT - อิๆ ยังจำได้ค่า ยินดีต้อนรับกลับมา ^^ เหอๆ น่าจับให้โลมาฟาด? น่ารักจัง เอิ๊กอ๊าก แหม เรื่องมันต้องค่อยเป็ฯค่อยไป เดี๋ยวก็รู้ค่าว่าอะไรเป็นอะไร ใครคู่กับใคร หึๆ

    คุณ -Cheezzz- - หนูวามันแค่หงุดหงิด....คิดว่าตัวเองแค่หงุดหงิดโดยไม่ทราบสาเหตุ ฮาๆ ยังคงไม่รู้ตัวว่าไอ้ความหงุดหงิดนั้นคืออะไร ก็ต้องรอดูต่อไปเรื่อยๆน่ะค่ะ อัพให้แล้วนะค้า ^^

    คุณ koala_march91 - อย่างบื้อเลยค่ะ โคตรของโคตร ถ้าอ่านตอนพิเศษก็คงรู้ว่ามันบื้อได้ใจขนาดไหน ฮา...เป็นหนูเคะที่อินโนเซนต์เข้าขั้น(ทำชีวิตซี)ชิบหาย เหอๆๆ

    คุณ oong fong  - ฮาๆ เชียร์วากะซีและพี่กานต์ก็เข้าตัว เป็นแนวคิดที่เข้าท่า เอิ๊กอ๊ากๆ โนว์ชอบแฮะ ส่วนที่จิ้นไป...ก็ลุ้นเอาละกันค่ะว่ามันจะได้ตามจิ้นรึเปล่า หึๆ ช่วงนี้อัพเร็ว+รีบอัพ แย่งคอมใช้กับพี่ โดนพี่แย่งซะส่วนใหญ่ คอมที่ใช้พิมพ์มันไม่มีเน็ต แต่ถ้าเสร็จก็ลงต่อ(ทำไมมาเป็นกลอน - -?) อัพไปอัพมามันเลยพุ่งพรวดอย่างที่เห็น เหอๆ

    คุณ  ~แม่หมอ~ - คิดบวกรึคะ ฮาๆ ตาซีได้แต้มโชะ ตานี่มันจอมเจ้าเล่ห์บวกหน้าด้าน โนว์ฮากระจายเลย เข้าท่าๆ พี่อั๋นกับพี่กานต์ อันที่จริงสองคนนี้ก็ซี้กันนะ แต่ออกแนวกัดๆกันหน่อยๆ ส่วนพี่กล้า....ชอบคู่นี้รึเปล่าอ่ะ โนว์มีโครงการอยากเขียนคู่นี้อยู่ ชอบนิสัยซึนๆโหดๆของพี่อั๋น น่ารักแต่สายตาฆาตกร อะไรประมาณนั้น(นังโรคจิต...) โดยส่วนตัว โนว์ชอบตอนพิเศษนะ เห็นด้านโคตรบื้อของวาและรู้เลยว่าซีมันเหนื่อยแค่ไหน ฮาๆ เวลาตาซีโกรธหนูวามักไม่ค่อยเห็นฉากง้อเพราะวามันรู้ว่าง้อไปก็ใช่ที่ สุดท้ายไปๆมาๆมันก็จะกลับมาคุยกันซะงั้น? เหอๆ เดี๋ยววาก็มีวิธีง้อ แต่คง....ง้อแบบถูกบังคับให้(จูบ)ง้อ ฮ่าๆๆๆ(หัวเราะอย่างชั่วร้ายแล้ววิ่งจากไป)
    พยายามตอบให้ครบ เม้นท์ถูกใจมากมายค่า ยาวสะจิต(?) ขอบคุณนะคะที่ชอบ ถ้าชอบก็มาอ่านกันต่อเรื่อยๆนะค้า อย่าใจหายที่กดแล้วไม่เจอ โนว์จะพยายามมาลงต่อบ่อยๆ ตอนนี้ก็อัพให้แล้วค่ะ ^O^
    ปล.สารภาพกันแบบไม่มีอาย โนว์ทำแบนเนอร์ไม่เป็นค่ะ = = อยากได้เหมือนกันแหละ ใครจะบริจาคได้บ้างเอ่ย? หุๆ

    คุณอาเบะ โนะ มาซาฮิโระ - โอ๋ๆ อย่าเพิ่งหัวรุนแรงเจ้าค่ะ ดูทิศทางเรื่องก่อน หึๆ หนูตะวันอาจจะเป็นมารน่ารักๆก็ได้? 

    คุณ AnGle-Of-Dr34m - ขำอะไรเอ่ย เล่าให้โนว์ฟังบ้างจิ? ฮาๆ อัพต่อแล้วนะคะ

    คุณ winwordz - เนอะๆ พ่วงพี่กานต์ไปเอนจอยอีกคน มันส์จะตาย เขาไม่สนเราก็ไม่เห็นต้องง้อออออ เหอๆ อย่าแปลกใจที่ตะวันมันหายๆ เพราะเดี๋ยวหนูก็กลับมา ย้ากกก อัพต่อแล้วค่ะ

    คุณ Fay - ฮาๆ นานๆทีวาก็เกิดฉลาดค่าพี่เฟย์ พี่กานต์จะเฮิร์ทรึเปล่าดูๆไปเดี๋ยวก็รู้ค่ะ ก็คงใกล้จะเลือกแล้วล่ะ...มั้ง? อย่าเพิ่งบีบคอโนว์กับตอนใหม่ที่ตัดมันห้วนๆนะคะ ฮาๆ โนว์ออกจะชอบพี่กานต์ดังนั้นคงไม่ปล่อยพี่กานต์กินแห้วอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวไร้คู่ชัวร์ เอิ๊กอ๊าก ขอบคุณพี่เฟย์เช่นกันนะคะทีคอยติดตามมาตลอด ขอให้มีความสุขสมหวังทุกประการเช่นกันค่ะ ^^

    คุณ  AnGle-Of-Dr34m - หุๆ สั้นๆแบบได้ใจความ ขอบคุณนะคะ แล้วอย่าลืมติดตามต่อนะ ^^

    คุณ frem - วามันยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านั่นเรียกหึง เหอๆ แอบแรงๆ อัพต่อแล้วนะคะ (คุณ frem หายไปแป๊บๆ..ตอนนี้กลับมาแล้ววววว โนว์ลอย ดีใจ ><)

    คุณ Casanovy - ยินดีต้อนรับค่า จะรักกันไปเรื่อยๆคอยเชียร์กันต่อรึเปล่าล่ะคะ หุๆ โนว์อัพต่อแล้วนะ มาอ่านต่อได้เลยค่ะ ^^

    คุณ k_he - น่ารักแบบจั๊กกะเดียมค่ะ ฮาๆ เรียกหนูซีแล้วมันดูเคะๆ เดี๋ยวก็จับคู่พี่กานต์เลย(เฮ้ยยยยยยย O O )

    คุณ Casanovy - สูสีแต่ตอนใหม่มันจะเริ่มเหลื่อมล้ำค่ะ เหอๆ หน้าตาพี่กานต์เหมือนจะเคยอธิบายไว้ตอนสี่หรือไม่ก็สามมั้งคะ ตอนที่พี่กานต์เอาหน้าผากมาแตะกับหนูวา เห็นหน้าแบบซูมประชิด หล่อจนหลอน ส่วนตาซี...อันนี้ไม่แน่ใจแฮะ แต่ตาซีเป็นคนฮ่องกงค่า หน้าตาซีนึกถึงมาเฟียฮ่องกงเป็นอันใช้ได้ เหอๆ โนว์เจอหลายสายมาก ฮาๆ เชียร์ 3P เหรอคะ อย่าสิ....เดี๋ยวโนว์ทำจริงหรอก!!! ฮ่าๆๆๆ
    ปกติเด็กผู้หญิงควรจะเป็นคนสารภาพ แต่ ณ ที่นี้มันคือนิยายวาย ดังนั้นก็เปลี่ยนเป็นเด็กผู้ชายน่ะดีแล้ว ฮาๆ(แถไปหน้าด้านๆ - - )
    ปล. อยู่วงโยเหรอจ๊ะ แหม ทรัมเป็ตด้วย เหมือนหนูวากับพี่กานต์เด๊ะ โนว์เองก็อยู่วงจ้ะ แต่ไม่ได้เป่าทรัมเป็ตหรอก แค่ชอบทรัมเป็ตเป็นส่วนตัว อร๊ายยยยยย ><  

    คุณ ใครวะกู  - โฮ่ๆ คนชอบพี่กานต์เพิ่มขึ้น ก็ดีค่ะ คุณพี่ชายแกน่ารักได้โล่ ดีได้โล่อีกต่างหาก เหอๆ ตาซีช่วงนี้มักเป็นฆาตกรบ่อยครั้ง ฮาๆ อัพแล้วนะคะ

    คุณ -FuJo's Girls- - ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า โนว์สู้ๆ โนว์สู้ตายยยยยยย(เริ่มบ้า) อีกหนึ่งเสียง 3P แหม...เริ่มอยากเขียน แต่จะวางตำแหน่งพี่กานต์กับตาซีไม่ถูกน่ะสิคะ ถามจริง สองคนนี้ใครเหมาะฝ่ายรับมากกว่ากัน? ฮาๆ ถามเล่นๆอย่าคิดมากนะ >< เชียร์พี่กานต์ก็ลองดูต่อไปค่ะว่าพี่กานต์จะได้คู่วารึเปล่า แต่...ก็คงจะพอเดากันได้แล้วล่ะม้าง = =

     

    คุณ bummi - เป็นน้อยครั้งที่ไอหนูวาจะฉลาดว่าควรจะทำตัวยังไง ฮาๆ แล้วก็รู้แจ้งจริงๆด้วย แจ้งกะตาเลยว่าใครเป็นใคร ใครของใคร หึๆ หวัดดีปีใหม่เช่นกันนะค้า ^^

    คุณ HuG_sUnGmIn - ค้างเหรอจ๊ะ ต่อให้แล้วน้า ขอโทษด้วย ^/\^ อ่านต่อได้เลยนะคะ

    คุณ >>>BulldoG -  แหม ใกล้แล้วล่ะค่า สักวันที่ว่าน่ะ อย่างน้อยๆตอนนี้หนูวาก็โดนจับรวบรัด(?) เผด็จศึก(??)แล้วล่ะ คงรู้กันขึ้นมาบ้างแล้วว่าตกลง....ใครกันแน่ที่เป็นของใคร หึๆ สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะค้า ^^

    คุณ kiss&hugs - อวยพรอย่างไรขอให้ได้อย่างนั้นเช่นกันค่ะ ขอบคุณมากที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ^^ เปิดตัวหนูตะวันที่...ไม่เหมือนศัตรูเท่าไหร่? เหมือนยั่วให้ต่างคนต่างตบะแตก เป็นสะพานประเภทหนึ่ง(สะพานแบบแปลกๆ?) แล้วตาซีก็ตบะแตกจริงๆ.....เหอๆๆ
    เรื่องเพลง ถ้าชอบก็ดีค่ะ เพราะอยากเขียนตอนเกี่ยวกับเพลงอยู่เหมือนกัน อย่างไรซะ ตัวเอกเรื่องนี้ก็อยู่วงโยฯนี่นะ เคี้ยกๆ(ดูมันหัวเราะ - - ) โนว์เองก็รู้จักอะไรๆในวงเยอะ ของใกล้ตัววววว แต่โนว์ไม่ได้เล่นทรัมเป็ตหรอก แค่ชอบ ^^ หุๆ ดีใจจัง จะติดตามต่อไปเรื่อยๆงั้นเหรอคะ งั้นโนว์ขอสู้ตายยยยย

    คุณ naminie -  ฮาๆ นั่นเรียกหึง แต่หนูวาไม่รู้ว่ามันคืออะไร เป็นคนที่ซื่อจนเกือบจะบื้อ(รึบื้ออยู่แล้ว?) แหม...ชอบซี-พี่กานต์เหรอจ๊ะ อย่าพูดให้โนว์อยากแต่ง เอิ๊กๆๆๆ สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะจ๊ะ ^^

    คุณ p_infinity - อร๊ายยย พี่ปู >< ฮาๆ งานอดิเรกของโนว์คือการหาเรื่องให้หนูวาปวดหัวเล่นค่ะ ไม่งั้นสงบราบเรียบเกินไปมันไม่ได้ใจ(จิตๆของไอ้สโนว์...ฮา) ถามเรื่องหนูตะวันก็จะตอบให้ค่ะ ตะวันก็ชอบซีนั่นแหละ แต่ชอบแบบไหนคิดว่าตอนหน้าเดี๋ยวได้รู้กัน ขอไม่ตอบนะ ไม่สปอยล์พี่ปู ^^ แต่ไม่ใช่อย่างที่พี่ปูกลัวแน่ๆค่ะ หึๆ สวัสดีปีใหม่ค่า ^^


    เห็นได้ชัดว่าการดองเม้นท์ไม่ใช่สิ่งดี อัพทีเกือบตาย ฮ่าๆ = = แต่ตอบไปก็สนุกดีค่ะ ดีใจที่ได้คุยกับรีดเดอร์ทุกคน โนว์ไม่เคยเรียกร้องขอเม้นท์ ไม่เคยเรียกร้องให้วิจารณ์อะไรมากมาย แต่พอเห็นทุกเม้นท์ก็ดีใจทุกครั้ง โนว์กล้าพูดนะว่าจำได้หมดว่าใครเคยเม้นท์ให้แล้วกลับมาเม้นท์อีกบ้าง ^^ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งน่ะค่ะที่รู้ว่ามีคนติดตามเรื่องของเราอยู่
    ดังนั้น....จงฮึด!! ฮา.....
    เดี๋ยวเปิดปีใหม่อาจจะยุ่งมากขึ้น ถ้าได้อัพคงเป็นช่วงเย็นๆ อาจไม่ถี่เท่าตอนนี้ก็บอกให้รู้ล่วงหน้าไว้ก่อนนะคะ โนว์รักทุกคนเลยน้า ขอบคุณนะคะที่ช่วยติดตาม ช่วยเม้นท์ หรือแม้แต่แวะมาคุยกับโนว์ ขอให้มีความสุขในปีใหม่ทุกคนค่ะ ^^ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×